Batman : War on Crime

แล้วก็มาถึงเล่มที่สองของเรื่องชุดพิเศษฉลอง 60 ปีของคาแร็คเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่ของดีซี
ที่ พอล ดินี่ กับ อเล็กซ์ รอสส์ สร้างสรรค์
คราวนี้ถึงคราวของแบทแมน ฮีโร่ผู้โด่งดังเคียงคู่กันมากับซูเปอร์แมน
หนังสือยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้เพื่อให้เข้าชุดกัน คือพิมพ์เป็นไซส์ใหญ่ที่เรียกว่า แท็บลอยด์
และใช้การเล่าเรื่องโดยการบรรยายไม่มีบทสนทนา เช่นเดียวกับเล่มที่แล้ว

ในตอนที่แล้วผมเล่าเรื่องของพอล ดินี่ไปแล้ว ตอนนี้ผมจะเล่าประวัติของอเล็กซ์ รอสส์ให้ฟังกันบ้างพอสังเขป

อเล็กซ์ รอสส์ มีชื่อเต็มๆ ว่า เนลสัน อเล็กซานเดอร์ รอสส์ เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1970
เป็นลูกชายคนสุดท้องของพี่น้องสี่คนที่มีพ่อเป็นศาสนจารย์ และมีแม่เป็นอดีตนักวาดภาพประกอบ
เขาเกิดที่พอร์ทแลนด์ โอเรก้อน ก่อนจะย้ายตามครอบครัวไปอยู่ที่เท็กซัส เพราะพ่อไปได้งานที่นั่น
เขามีความสนใจในการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ตั้งแต่ยังเด็ก เพราะโลกของซูเปอร์ฮีโร่ดูเหมือนจะเป็นโลกแห่งอุดมคติ
ของระเบียบที่ถาวรและไม่เปลี่ยนแปลง เขาได้รับการศึกษาทางด้านศิลปะจาก American Academy of Arts ในชิคาโก

ที่นี่เองที่เขาพบว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์ภาพวาดเหมือนจริงจากภาพถ่าย
ซึ่งจะเป็นวิถีทางในการสร้างสรรค์งานของเขาต่อไปในอนาคต
หลังเรียนจบรอสส์ได้งานเป็นคนวาดภาพโฆษณา, สตอรี่บอร์ดให้กับบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่อย่างลีโอ เบอร์เน็ทท์สาขาชิคาโก
แต่ลึกๆ แล้วใจของรอสส์ก็อยากทำงานการ์ตูนอยู่  แล้วโอกาสก็เปิดให้เขา
เมื่อเพื่อนร่วมงานของเขาได้งานวาดการ์ตูนเรื่อง Terminator : The Burning Earth
ของสำนักพิมพ์เล็กๆ อย่าง Now Comics ที่สร้างจากหนังเรื่องดังของท่านผู้ว่า อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ในปี 1989
ตอนนั้นรอสส์อายุ 19 เองเพราะเมื่อเพื่อนปฏิเสธไม่รับงาน รอสส์ก็หอบพอร์ทโฟลิโอของตนไปเสนอตัวเพื่อรับงานนี้
และทางสำนักพิมพ์ก็ตอบตกลงให้เขารับงานนี้ไปทำ

หนังสือไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ แต่มันก็ไปเตะตาของทางมาร์เวลคอมมิค
จนทางมาร์เวลให้งานเขาเขียนการ์ตูนเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์มาเรื่องหนึ่ง
งานนี้ทำให้รอสส์อยู่ในสายตาของทีมงานมาร์เวลคอมมิคคนหนึ่งที่คิดว่าเขามีโปรเจคท์ที่เหมาะกับแนวทางการทำงานของรอสส์

ในขณะนั้น เคิร์ท บิวเซียก เป็นหนึ่งในสตาฟฟ์นักเขียนของมาร์เวล แต่เขายังไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร
ไม่มีเรื่องประจำให้ทำ แต่เขามีไอเดียหนึ่งอยู่ในหัว เขาอยากจะนำเสนอจักรวาลมาร์เวลผ่านมุมมองของมนุษย์ธรรมดา
เขาพยายามนำเสนอโครงการนี้จนได้รับการอนุมัติ เขาเลือกนักวาดหน้าใหม่อย่างอเล็กซ์ รอสส์มาทำงานนี้
ซึ่งรอสส์ก็ทุ่มเททำงานนี้อย่างเต็มที่ การ์ตูนชุดนี้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์จักรวาลของมาร์เวล
สรุปเหตุการณ์สำคัญๆ ผ่านมุมมองของช่างภาพของหนังสือพิมพ์เดลี่ บิวเกิ้ลนาม ฟิล เชลดอน
เป็นเรื่องชุดสั้นความยาว 4 เล่มจบในชื่อที่เรียบง่ายว่า “Marvels”

หลังหนังสือวางตลาด หนังสือประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และเป็นการเปิดแนวทางใหม่ให้กับวงการการ์ตูน
ผู้สร้างสรรค์ทั้งคนวาดและคนเขียนเรื่องกลายเป็นคนดังไปในชั่วข้ามคืน ตำนานเริ่มขึ้นแล้ว
และอเล็กซ์ รอสส์ก็สร้างสรรค์ผลงานเยี่ยมๆออกมาอีกหลายชิ้นทั้งงานภาพปก และการ์ตูนดังๆ อย่าง Kingdom Come
จนในที่สุด เขาก็ได้งานเป็นผู้วาดหนังสือพิเศษชุดนี้ ที่จัดทำขึ้นเพื่อฉลองอายุครบ 60 ปีของเหล่าตัวละครดังๆ ของดีซีหลายๆ ตัว
โดยเริ่มจากซูเปอร์แมนไล่เรียงมาถึงแบทแมน, กัปตันมาร์เวล และวันเดอร์ วูแมน ก่อนจะเพิ่มงานอย่าง JLA มาอีก 2 เล่มในที่สุด

Batman : War on Crime
เรื่อง: Paul Dini
ภาพ: Alex Ross
ตีพิมพ์: 1 ธันวาคม 1999

เรื่องเปิดด้วยการเล่ากำเนิดของแบทแมนอีกครั้งก่อนจะเข้าเรื่อง โดยเปิดฉากที่สุสานของพ่อแม่ของบรู๊ซ
ให้แบทแมนมาไคร่ครวญถึงการตายของทั้งคู่อันเป็นจุดกำเนิดของแบทแมน
และทำให้เขาสงสัยเสมอมาว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าพวกท่านไม่ตาย เขาจะเป็นยังไง
และลึกๆ แล้วเขายินดีหรือไม่ที่พวกท่านตายและทำให้เขาเป็นอยู่อย่างนี้ใช่ไหม

ตามมาด้วยภาระกิจประจำวันของแบทแมนการท่องไปปราบปรามเหล่าร้ายในค่ำคืนของก็อธแฮม


และภาระกิจประจำของบรู๊ซ เวย์น ที่เขาแสนเกลียดชัง แต่ต้องจำใจทำเพื่อรักษาสถานะทางสังคม
รวมทั้งการพบปะทางธุระกิจ อันเป็นภาระที่บรู๊ซ เวย์นต้องทำ


งานนี้เขาและกรรมการของบริษัทได้รับฟังคำเชิญชวนให้ร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาแหล่งเสื่อมโทรมที่เรียกว่าเบย์ไซด์
ในฐานะแบทแมน บรู๊ซ รู้จักที่นั่นดี ที่นั่นเคยเป็นแหล่งอุตสาหกรรม ก่อนที่กิจการจะเสื่อมโทรมลง
และพวกวายร้ายก็ก้าวเข้ามาครอบครองแถบนั้นแทน

แต่ในฐานะบรู๊ซ เวย์น มันไม่น่าใช่แถบที่เขาน่าจะรู้จัก คนที่เสนอโครงการนี้คือแรนดัลล์ วินเทอร์
คนที่เขารู้สึกว่าคือคนที่เขาอาจจะเป็น ถ้าหากไม่เกิดเรื่องกับพ่อแม่ของเขา
และเขาก็ไม่คิดว่าเขาจะชอบสิ่งที่เขาเห็นอยู่นี้ด้วย เขาขอเวลาพิจารณาเรื่องนี้ดูก่อน

คืนนั้นบรู๊ซในฐานะแบทแมนออกสำรวจย่านเบย์ไซด์เพื่อพิจารณาว่าควรจะทำยังไง
แล้วเขาก็พบกับเหตุการณ์ปล้นร้านค้าเจ้าของร้านถูกยิงเสียชีวิตเหลือแต่ลูกชาย
เขามองเห็นเด็กชายคนนั้นเป็นเหมือนเขา เขารู้ว่าเด็กคนนั้นรู้สึกยังไง


และจดจำเด็กชายคนนั้น มาร์คัส ได้อย่างแม่นยำ และสงสัยว่าสิ่งนี้จะทำให้ชีวิตของมาร์คัสเป็นยังไงต่อไป

บรู๊ซออกสำรวจแถบนั้นต่อไปในยามกลางวันโดยการปลอมตัว
และพบว่าที่เบย์ไซด์เป็นที่อยู่ของผู้คนที่หมดหนทางไปในชีวิตแต่ชีวิตของพวกนี้ยังมีความหวังหรือไม่
คืนนั้นแบทแมนออกสำรวจเบย์ไซด์ต่อ เขาพบการปล้นร้านค้าอีกเขาเข้าขัดขวาง


เพื่อที่จะพบว่าหนึ่งในนั้นคือมาร์คัส เด็กชายที่เสียพ่อไปเพราะอาชญากรรมเหมือนเขา

เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของเขา บรู๊ซตัดสินใจจะทำสงครามครั้งใหญ่
เขาจะเปลี่ยนแปลงเบย์ไซด์ให้โอกาสเพื่อคนในแถบนั้น เพื่อมาร์คัส
เขาออกรวบรวมข้อมูล เขาคุยกับแรนดัลล์ วินเทอร์ อีกครั้งเรื่องงานปรับปรุงย่านเบย์ไซด์
ซึ่งแผนการของแรนดัลล์นั้นไม่ได้สนใจผู้คนที่อยู่ที่นั่นในขณะนี้เลย แต่เขาทำเพื่อเงิน
เขายืนยันว่าบรู๊ซไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของที่นั่น ขอให้มีเงินมา
เขามีตำรวจที่พร้อมจะรับงานจัดการขับไล่พวกดื้อแพ่งให้ออกไปจากที่นั่นเอง


บรู๊ซต้องหักห้ามใจตนเองไม่ให้ทำร้ายแรนดัลล์

แล้วบรู๊ซก็เริ่มทำสงครามเพื่อเบย์ไซด์ เขาออกหาว่าใครเป็นคนคุมย่านเบย์ไซด์
และที่ไหนคือจุดศูนย์กลางของอาชญากรรมของที่นั่น แล้วแบทแมนก็เข้าจู่โจมศูนย์กลางของอาชญากรรมแห่งเบย์ไซด์


เพื่อขับไล่พวกนั้นออกไป ที่นั่นเขาได้พบมาร์คัสที่หนีรอดจากการจับกุมคนร้ายที่โจรกรรมเมื่อคราวก่อนของเขาได้
มาร์คัสเอาปืนขู่เขา แบทแมนเผชิญหน้ากับหนูน้อยและรู้ว่าเจ้าหนูรู้สึกยังไง
หนูน้อยหลั่งน้ำตาก่อนที่จะเข้ากอดเขา เขารู้ว่าชีวิตในที่นี่ยังมีความหวัง

บรู๊ซทุ่มเททรัพย์สินเพื่อเปลี่ยนแปลงเบย์ไซด์ให้ดีขึ้น ที่แห่งนี้ยังมีความหวัง เมื่ออาชญากรรมหมดไป
งานก็น่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง

คืนนั้นบรู๊ซไปเยี่ยมแรนดัลล์ วินเทอร์ และได้รู้ว่าแรนดัลล์กำลังจะถูกตำรวจเล่นงาน
เพราะการติดสินบนให้ตำรวจทำงานให้เขา คืนนั้นแบทแมนออกสำรวจเบย์ไซด์อีกครั้ง
สิ่งที่เขาเห็นนั้นเขารับรู้ว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี้คือสงคราม สงครามที่อาจจะไม่มีวันชนะ
แต่เขาก็จะต่อสู้ ครั้งนี้เขาช่วยเด็กน้อยไว้ได้คนหนึ่ง และเมื่อมีหนึ่งก็ต้องมีสอง
และสักวันเขาอาจจะชดใช้ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจเขาไปได้

โดย: 

2 thoughts on “Batman : War on Crime

  1. Mr Y

    งานเขียนของ ross นั้นสุดยอด พี่ T-Rex ก็แปลออกมาได้สุดยอดครับ ขอบคุณครับ

  2. ชายผู้หลงยุค

    สำนวนยังงงๆอยู่ แต่ก็พยายามอ่านถึง4รอบเพื่อให้เข้าใจบทสนทนาแค่คำๆเดียว สู้ๆฮะ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *