Original Sin : Hulk vs. Iron Man #1

Original Sin : Hulk vs. Iron Man #1

เรื่อง : Mark Waid, Kieron Gillen

ภาพ : Mark Bagley, Andrew Hannessey, Jason Keith, Cory Petit

วางจำหน่าย : 25 มิถุนายน 2014

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

 

รอยร้าวระหว่าง Hulk (Bruce Banner) และ Iron Man (Tony Stark) กำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง

เมื่อความจริงของระเบิดแกมม่าที่ทำให้แบนเนอร์ต้องกลายเป็นฮัลค์กำลังจะถูกเปิดเผย!!

 

ณ เมือง Troy บริเวณใกล้ๆตะเข็บชายแดนจีน

 

“ยกโทษให้ชั้นเถอะบรูซ”

 

“ชั้นไม่เคยคิดจะให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เลย”

 

เริ่มต้นก็เปิดศึกฮีโร่ทั้งสองทันที

 

 

โทนี่เหมือนจะถือไพ่เหนือกว่า เขาต้อนฮัลค์ด้วยการยิงพลังคลื่นเสียงระดับสูงที่สั่นสะเทือนได้ทั้งทวีป

แต่เครื่องยิงคลื่นเสียงก็ต้องระเบิดตู้มทันที เมื่อฮัลค์ตบมือปล่อยคลื่นเสียงกลับไปบ้าง

 

 

“โอ้ไม่นะ ชิบหายเลี้ยว”

 

ผัวะ!!!!!!!!!!!

 

ฮัลค์ไม่ปล่อยโอกาส จัดฮุคซ้ายเข้าให้หนึ่งป๊าบทันที

ไม่รุนแรงอะไรเท่าไหร่ แค่โทนี่กระเด็นทะลุตึกไป 2-3 ตึกเอ๊ง

 

 

ในที่สุดโทนี่ก็แลนดิ้งจนได้ แต่สภาพดูไม่ค่อยได้เลย

 

“อย่าพึ่งหมดสตินะเว้ย ไว้ค่อยเหนื่อยทีหลัง ไว้ค่อยหายใจทีหลัง”

 

“ถ้าเอ็งยังอยากมีชีวิตอยู่ รีบลุกเดี๋ยวนี้”

 

“เตรียมปล่อยกับดัก Gamma Blades”

 

โทนี่เตรียมกับดักไว้เรียบร้อย ซึ่งพี่แกโม้ว่าลำแสงมีดแกมม่านั้นมีความคมสูงมากถึงขนาดเฉือนผิวหนังของฮัลค์ได้เสียด้วย

แต่แล้วโทนีก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติ เมื่อรอบนี้ฮัลค์กลับไม่รีบไล่ล่าเป้าหมายเหมือนทุกๆครั้ง

 

 

และเมื่อโทนี่หันหลังกลับ เขาก็พบว่าฮัลค์ไม่ได้มาทางที่เขาวางกับดักเอาไว้

 

“ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกที เพราะ…”

 

Hulk : ชั้นไม่ตกหลุมดักควายของแกหรอกว่ะ โทนี่

 

“ครั้งนี้ฮัลค์มาพร้อมกับมันสมอง”

 

“หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ไม่ว่าเขาจะต้มยำทำแกงอะไรชั้น”

.

“ชั้นก็สมควรจะได้รับมันแล้วล่ะ”

.

 

 

ย้อนกลับไปในอดีต หลายปีก่อนที่ทั้งแบนเนอร์และโทนี่จะกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่

ทั้งสองรู้จักกันมาก่อน พวกเขาสนิทกันด้วยเรื่องความรู้ งานวิจัยต่างๆ บางทีอาจเป็นเพราะไอคิวของพวกเขาที่สูงปรี๊ดทั้งคู่ก็เป็นได้

แต่สิ่งที่ต่างกันคือแบนเนอร์จะหมกตัวอยู่กับงานวิจัยรังสีเท่านั้น ส่วนโทนี่จะอยู่กับธุรกิจค้าขายยุทโธปกรณ์และเสพสุขกับการใช้เงินและสาวๆเสียมากกว่า

จนกระทั่งเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน แบนเนอร์ถูกศัตรูยิงปืนใส่สมอง ทำให้ระดับสมองของเขาเหลือความรู้เท่าเด็กทารก แต่ด้วยความช่วยเหลือจาก Arno Stark แบนเนอร์จึงหายจากอาการนี้ด้วยการผ่าตัดฝังเซรุ่ม Extremis ลงไปในสมอง

(Arno Stark เป็นตัวละครใหม่ที่พึ่งได้เปิดตัวเมื่อต้นปีในอีเวนท์ Secret Origin of Tony Stark โดยอาร์โนนั้นคือพี่ชายของโทนี่ที่ Howard และ Maria Stark ฝากหุ่น 451 ชุบเลี้ยงมา อาร์โนนั้นมีมันสมองที่ฉลาดไม่แพ้โทนี่เลยทีเดียว เขากำลังวิจัยเรื่องไวรัสเอ็กทรีมมิสอยู่ เขาไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ ต้องมีเครื่องช่วยหายใจติดตัวอยู่ตลอดเวลา

เครดิต : BG Comics News FB )

 

 

ซึ่งผลที่ได้นั้นมันดีเกินกว่าที่คาด แบนเนอร์กลับมาฉลาดดังเดิม เผลอๆจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เขาวิจัยและประดิษฐ์เครื่องมือหลายอย่างที่แม้แต่คนหยิ่งยะโสอย่างโทนี่ยังอดชื่นชมไม่ได้

นอกจากนี้แบนเนอร์ยังมีท่าทีแปลกไปจากเดิม โทนี่สังเกตุได้หลังจากการผ่าตัด แบนเนอร์ดูสงบมาก เขาไม่ได้แปลงร่างเป็นฮัลค์เลย แถมเขายังไม่มีท่าทีใดๆหลังจากที่ทราบข่าวการตายของ The Watcher ด้วย

สิ่งเหล่านี้ทำให้โทนี่คอยจับตาดูแบนเนอร์อยู่ห่างๆ ด้วยเหตุที่ไม่รู้เป็นห่วงเขาในฐานะเพื่อน หรือกลัวว่าเขาจะฉลาดมากกว่าตัวเองกันแน่

จนกระทั่งเกิดเรื่องเมื่อวาน…

 

 

เหล่าฮีโร่ไล่ต้อน The Orb ผู้ต้องสงสัยในคดีสังหารวอทเชอร์จนจนมุม แต่แล้วออร์ปก็งัดไม้ตายของตัวเองออกมา นั่นคือดวงตาของวอทเชอร์

และดวงตานั้นก็ปลดปล่อย “ระเบิดสัจจะ” ใส่ฮีโร่ทุกคน

(ฮัลค์โดนอันนี้ไป ท่าทางจะฟินนนนนนนน)

 

 

และมันก็มีผลกับโทนี่ มันทำความทรงจำของแบนเนอร์เข้ามาปะปนกับความทรงจำของเขา

และความทรงจำที่แทรกเข้ามานั้นคือความทรงจำของแบนเนอร์ในช่วงวินาทีที่กลายเป็นฮัลค์ครั้งแรกนั่นเอง

แต่มันมีความลับซ่อนอยู่มากกว่านั้น เมื่อโทนี่เห็นความทรงจำอันนี้ มันก็ทำให้เขานึกถึงตัวเองในช่วงเวลานั้นๆเช่นกัน

 

 

หลายปีก่อน

กองทัพกำลังเข้าประชุมเพื่อฟังผลความคืบหน้าระเบิดแกมม่าจากแบนเนอร์ แต่ดันได้ฟังเลคเชอร์เรื่องประโยชน์ของรังสีแกมม่าแทน

และหนึ่งในคนที่ไม่พอใจสุดๆจนต้องออกมาโวยวายก็คือนายพล Thaddeus Ross พ่อตาของแบนเนอร์นั่นเอง

แต่แล้วก็มีคนมาห้ามศึกพอดี

 

 

คนๆนั้นคือโทนี่นั่นเอง

(คาดว่าเป็นเพราะกองทัพเป็นหนึ่งในผู้ค้ายุทโธปกรณ์ของ Stark Industry ทำให้โทนี่มีอภิสิทธิ์เข้ามาในนี้ได้ครับ)

 

 

ทว่า เมื่อโทนี่เห็นแบบแปลนระเบิดแกมม่า เขากลับทำให้เรื่องมันแย่ลงทันที

Ross : นายคิดยังไงกับผลงานของแบนเนอร์

Tony : ผมเฉยๆนะ เขาเป็นอัจฉริยะ ดังนั้นผลงานของเขายังไงก็ต้องยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ที่ผมตกใจน่ะ คือไอ้สิ่งนี้มันไม่ใช่ระเบิด ตามที่มันควรจะเป็นนี่สิ

Ross : ว่าไงนะ แบนเนอร์ ที่เขาพูดมันหมายความว่าไง

Banner : ท่านนายพลครับ ด้วยวิธีนี้ เราจะชนะทั้งสองฝ่ายนะ

และเมื่อกองทัพได้ยินเช่นนั้นก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกเขาเข้ามาล้อมกดดันแบนเนอร์ทันที

 

 

แต่เจอแบบนี้เข้าไป พี่แบนเนอร์ของเราก็ปรี๊ดแตกเหมือนกันครับ

Banner : เงียบๆหน่อยสิวะ!!

จากนั้นพี่ท่านก็เงียบสักพักนึง ก่อนที่จะสงบสติอารมณ์เก๊กหล่ออธิบายผลงานวิจัยของตัวเอง

(แบนเนอร์มีปมด้อยเป็นคนเก็บกดครับ เพราะถูกพ่อแท้ๆทุบตีมาตั้งแต่เด็ก ระเบิดแกมม่าจึงดึงความโกรธที่สะสมมาตั้งแต่เด็กออกมาจนกลายเป็นฮัลค์ได้นั่นเอง)

Banner : ผมบอกพวกคุณแต่แรกแล้ว แต่ไม่มีใครฟังผมเลย ระเบิดมันหมายถึงจุดจบ ซึ่งนั่นไม่ใช่เป้าหมายของผม ผมเข้าโครงการนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพของรังสีแกมม่า เพื่อใช้มันในการรักษ ช่วยเหลือผู้คนอดอยาก ยากไร้ รวมไปถึงมันอาจจะสามารถรักษามะเร็งได้ด้วย นี่ล่ะความฝันของผม

 

 

Ross : นี่มันไม่เกี่ยวกับเอ็งโว๊ย อย่าบอกนะว่าเอ็งลดประสิทธิภาพระเบิดลง

Banner : มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วนี่ มันไม่จำเป็นต้องให้มีคนตายยกทวีปเลยนี่ โลกนี้ยังมีระเบิดไม่พออีกรึไง

กองทัพก็เป็นลูกค้าหลักๆของสตาร์คอินดัสทรีเช่นกัน และถ้าหากกองทัพเปลี่ยนมาใช้วิธีของแบนเนอน์แทน เขาจะเสียรายได้มหาศาล ดังนั้นเมื่อเห็นท่าไม่ดี เขาจึงต้องทำอะไรสักอย่าง

Tony : ขอชั้นพูดอะไรหน่อยนะ

Banner : โอ๊ะ เอาเลย ไอ้คุณเจ้าพ่อคลังแสง ชั้นมั่นใจว่าทางคณะกรรมการจะได้ความเห็นที่เป็นกลางเกี่ยวกับเรื่องปันผลกำไรจากสงครามนะ

ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็โดนด่าจนปรี๊ดแตกซะแล้ว

Tony : เออ เอาเลย ไอ้พวกโลกสวย อยากทำอะไรดีๆให้โลกนัก เอาเลย นี่มันโครงการของพวกเราทั้งหมด แล้วดูสิว่าเราได้อะไรมา

Tony : พวกเขาก็ไม่ต้องการให้มีสงคราม มีคนตายหรอก แต่พวกเขาต้องแสดงพลังอำนาจ เพื่อสยบทุกคน เพื่อให้เกิดความสงบสุขเฟ้ย

 

 

Banner : ไสหัวไปซะ

Tony : เออ ชั้นไปอยู่แล้ว ชั้นไม่อยากเสวนากับพวกเด็กอมมือชวนตีหรอก

Banner : นายก็รู้ว่านายเริ่มก่อน

Tony : ว่าไงนะ

Banner : ชั้นพูดว่านายก็รู้ว่านายเริ่มก่อนไงล่ะ

Tony : เชิญเหนียมต่อไปเหอะ ชั้นว่ามันเหมาะกับนายดีนะ ลาก่อน ขอให้สนุกกับวันพรุ่งนี้ล่ะ หวังว่าผลที่ได้มันจะเป็นที่น่าพอใจนะ

 

 

กลับมาปัจจุบัน ช่วงที่โทนี่เริ่มได้สติหลังจากเจอระเบิดสัจจะเข้าไป

 

“จากนั้นชั้นก็ตื่นขึ้นมา”

.

Tony : Rick!

Hill : เขาฟื้นแล้ว แต่ว่ายังดูไม่ฟื้นเต็มที่แฮะ โทนี่ นายจำที่นี่ได้ไหม จำพวกเราได้ไหม มาเรียกับสตีฟไง

Cap : ขอบคุณพระเจ้า ให้เขาพักก่อนดีกว่าไหม ชั้นว่าแรงระเบิดมันหนักพอดู…

แต่จู่ๆโทนี่ก็เห็นภาพคนอื่นขึ้นมาซ้อนฮิลล์และแคปแทน

Rick : นายจะทำอะไรกันเนี่ย จะให้พวกเขาคิดว่าชั้นมันดูกระจอกงอกง่อยรึไง

Ross : ปัญหาน่ะมันคือตัวนายนี่ล่ะ นายมันไอ้ลูกแหง่ นายมันไม่มีความกล้า

Tony : ท่านนายพล ผมแค่ต้องการให้แน่ใจว่าระบบเตือนภัยล่วงหน้าเตรียมไว้…

Cap : โทนี่ นายฝอยอะไรของนาย ใครกันนายพล

 

“นายพลรอสและ Rick Jones”

.

“ชั้นพูดคำพูดของแบนเนอร์ จากความทรงจำของเขาที่ติดอยู่ในหัวชั้น”

.

 

 

“รู้สึกแย่แฮะ ชักจะสับสนแล้วสิ ว่าความทรงจำของใครกันแน่ ที่เป็นตัวชั้นเอง”

 

Tony : ไม่ต้องเป็นห่วง ชั้นกลับมาแล้ว มีใครเห็นฮัลค์บ้างไหม

Cap : พวกเราเห็นเขาหายตัวไปหลังจากเจอระเบิดสัจจะน่ะ

Tony : ชั้นเข้าใจ ว่านายตามเขาไปไม่ได้ แต่ชั้นต้องตามหาเขาเดี๋ยวนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าแบนเนอร์จะเข้าใจ…

จู่ๆภาพมือของแบนเนอร์ก็ออกมาซ้อนทับมือของโทนี่เอง

Banner : เรากำลังเล่นกับไฟอยู่นะครับ ท่านนายพล

Tony : อั่ก

Cap : โทนี่ นายเจ็บเหรอ

แล้วโทนี่ก็บินออกจาก Stark Tower เพื่อไปตามหาฮัลค์ทันที

 

“ชั้นกำลังสับสนเกี่ยวกับการรู้สึกตัวของเรื่องนี้”

.

 

 

“ถ้าความทรงจำของแบนเนอร์ไหลเข้ามาในหัวชั้น ชั้นพึ่งรู้สึกตัวว่าถ้ามองในมุมกลับ ซึ่งนั่นเป็นกรณีที่แย่สุดๆ”

.

“ชั้นไม่ต้องการให้บรูซแบกรับมันเอาไว้ เพราะว่ามันไม่… ชั้นหมายถึง”

.

“ไม่มีทางหรอกน่า”

 

ตัดมาทางฝั่งแบนเนอร์ เขากลับไปยังสถานที่แห่งความทรงจำของเขา เพื่อตามหาความลับบางอย่าง

 

“ชั้นเคยคิดว่าชั้นจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก”

.

“ที่ๆให้กำเนิดฮัลค์ ที่ๆเปลี่ยนตัวชั้นไปตลอดกาล”

 

“แต่ชั้นถูกดึงให้กลับมาที่นี่ราวกับมีสัญชาติญาณกลับบ้านเกิด เหมือนพวกสัตว์ที่จะต้องกลับมาตายที่รัง”

 

“และก็เพราะความทรงจำที่ไม่คุ้นเคย ที่ชั้นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันจะไม่ใช่เรื่องจริง”

.

 

ภาพมือของใครบางคนปรากฏขึ้นมาซ้อนทัพมือของแบนเนอร์ และกำลังแก้ไขระบบอะไรบางอย่างอยู่ จากนั้นก็ยื่นมือไปหยิบว็อดก้าที่อยู่ข้างๆ

 

“ชั้นเห็นมันชัดเจน แต่ชั้นรู้ ชั้นไม่เคยคิดจะสร้างระเบิดแกมม่า และชั้นก็ไม่ดื่มด้วย”

 

“ภาพนี้ไม่ใช่มือของชั้น มันไม่ใช่ความทรงจำของชั้น มันเป็นของคนอื่น”

 

“โทนี สตาร์คไงล่ะ สหายของชั้นเอง”

 

“นายเป็นคนทำให้ระเบิดแกมม่าปะทุ โทนี”

.

“แกทำให้ชั้นกลายเป็นเดอะฮัลค์!!”

 

=====================================

คุยกันท้ายเล่ม

หัวนี้เป็นหัวที่แยกออกมาอีเวนท์ Original Sin ครับ ถ้านับตามเหตุการณ์จะถือว่าเป็น Original Sin #3.1 แต่คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก Original Sin ครับ

ส่วนตัว เห็นว่าค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว กับการให้โทนีมีส่วนเกี่ยวข้องกับจุดกำเนิดฮัลค์

ซึ่งสองคนนี้แม้จะเป็นเพื่อนกัน ร่วมทีมเดียวกัน แต่ก็มีบ่อยครั้งที่ผิดใจกัน ซึ่งในเล่มนี้ก็ได้บอกเราแล้วว่าสองคนนี้ก็มีทะเลาะกันมาตั้งแต่สมัยก่อนเป็นซุปเปอร์ฮีโร่กันเสียอีก

ที่หนักสุดก็คงตอน WWH นั่นล่ะครับ ซัดกันแบบกะให้ตายกันไปข้างเลยจริงๆ

สุดท้ายความจริงจะเป็นเช่นไร โทนี่จงใจจุดระเบิดแกมม่าจริงหมือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไปล่ะครับ

แต่ผมขอฮัลค์ซัดโทนีให้เละก่อนได้มะ ตามสไตล์มาร์เวล ต่อยก่อน พูดทีหลังเหอๆ

5 thoughts on “Original Sin : Hulk vs. Iron Man #1

  1. NetNN

    Marvel นี่ก็ช่างสรรหาเหตุผลใหม่ๆ(เก่าๆ?) มาเป็นเหตุให้พวกฮีโร่ตีกันเองเหลือเกินน้า

  2. GodZee

    Marvel เก่งมากในการให้ตีกันเองครับ ชอบ

  3. doc holliday

    อาร์โน สตาร์ค ที่จริงก็ไม่เชิงเป็นตัวละครใหม่ซะทีเดียวครับ
    เพราะมาร์เวลเคยมีตัวละครชื่อนี้มาแล้วคือมนุษย์เกราะเหล็กแห่งยุคอนาคต Iron Man 2020
    เป็น Iron Man ของ Earth-8410 ที่ชุดเกราะตรงไหล่สองข้างเป็นเฟืองใหญ่ๆ น่ะครับ
    ยังมาโผล่ใน Uncanny Avengers อยู่เลย
    ซึ่งในเอิร์ธนั้นโทนี่ จะเป็นลุงของอาร์โน่

    ส่วนในจักรวาลหลัก 616 นี้ก็เพิ่งมาเปิดตัวใหม่สดๆ ซิงๆ
    โดยให้เป็นพี่น้องที่พลัดพรากกันแต่เล็ก (ไม่รู้ต่อไปมาร์เวลจะพลิกอะไรอีกมั้ย)
    แหม่…พล็อตอมตะของละครไทยโบราณจริงเชียว ฮ่าๆๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *