ในอาทิตย์นี้มีหนังสือการ์ตูนแบทแมนออกมาสามเล่มได้แก่
- Batman : The Dark Knight v2 #14
- Batman Incorporated v2 #5
- Talon v1 #2 (ไม่ขอพูดถึง)
Batman : The Dark Knight v2 #14
เรื่อง Gregg Hurwitz ภาพ David Finch
เนื้อเรื่อง :
จากหลายๆเล่มก่อน สแกโครว จับเด็กไป แบทแมน สืบเรื่องไปเจอบ้านลับของมัน แล้วโดนลูกซองยิงโดนจับไปอีกคน แบทแมน โดนจับทดลองยา โดนจับแก้ผ้า บลาๆๆ
ในเล่มนี้ แบทแมนตื่นขึ้นมาเจอ สแกโครวที่ยืนจังก้าถือเคียวเหมือนกับ ยมทูต อย่างไงอย่างงั้น ทั้งสองสู้กัน แบทแมน โดนฟันไปหลายที แต่ที่โหดสุดก็คือ แบทแมน เอาแกรปเปอร์กัน (ปืนยิงฉมวก) ยิงใส่ปาก สแกโครวจนปากห้อย o_O!
แบทแมนหนีออกมาได้สำเร็จ โดยไม่ได้คิดช่วยเหลือตัวประกันเลย(ดาฟัก) ส่วนสแกโครว เผลอทำไฟฟ้าลัดวงจรในบ้าน บ้านไฟไหม้ แต่ยังเป็นคนดีช่วยเด็กออกมาได้ก่อนบ้านจะระเบิด
มนุษย์ค้างคาว ทำท่าร่อแร่เดินเมาๆ บนถนนและจะโดนพวกโจรข้างทางรุมแทง ขอบคุณ เดเมี่ยน ที่มาช่วยไว้ทัน พอกลับมาที่บ้านมีฉากซึ้งๆ เรียกน้ำตาเดเมี่ยนหนึ่งฉาก
มาที่ สแกโครว ไปจ้างเพนกวิน สร้างยานบอลลูนยักษ์ ไปบินปล่อยแกสพิษในเมือง แบบในหนัง Batman 1989 ของ ทิมเบอร์ตัน
Review :
ผมไม่ได้ตามอ่านเล่มนี้มาตั้งแต่แรก แต่เพิ่งมาอ่านเอาเมื่อเล่มก่อน รู้สึกว่าไม่ชอบอะไรหลายๆอย่างในเล่มนี้เอาซะเลย แบทแมน ถูกจับอย่างง่ายดาย และโดนทรมาน จับไปลองยา สารพัด ทำให้ผมนึกถึงหนังสั้นที่ชื่อ The Death of Batman ที่ แบทแมน ของเราโดนเด็กมีปัญหาจับไป เพราะโดนช็อตไข่ = =” จากนั้นมันก็เริ่มเล่าปัญหาของมันให้แบทแมนฟัง จับแบทแมน ฉีดยา และ….อัดถั่วดำแบทแมน นานร่วมเดือน (แม่งเอ้ยย T_T)
หนังสั้น The Death of Batman
คือความรู้สึกขยะแขยงคลื่นไส้ แบบนั้นมันกลับมาก็ตอนอ่านเล่มนี้แหละครับ เล่มนี้เหมือนโชว์ความอ่อนแอปวกเปียกของแบทแมน แบบที่นานๆจะได้เห็นที ข้อดีอย่างเดียวของเล่มนี้คือลายเส้นของ David Finch
เหตุการณ์สำคัญ :
- Scarecrow โดนยิงปากทะลุ กลายเป็นหุ่นไล่กาปากห้อย
ประเด็นที่น่าสนใจ :
- Scarecrow ไม่ยอมไปหาหมอรักษาทำให้ปากห้อยๆของแก เพิ่มความน่ากลัวขึ้นไปอีก ไม่รู้จะปล่อยเลยตามเลยแบบการลอกหน้าของ Joker มั้ย
คำพูดโดนใจ :
- Glad you’re here, Damian
Batman Incorperated v2 #5
เรื่อง Grant Morrison ภาพ Chris Burnham
เนื้อเรื่อง :
เล่มที่แล้วบรูซไล่เดเมี่ยนออกจากเป็นโรบิ้น เพราะอนาคตที่เขาไปเห็นมาจาก จุดสิ้นสุดของเวลา(Vanishing Point ) ในเล่ม The Return of Bruce Wayne เมื่อเดเมี่ยนขึ้นเป็น แบทแมน ทุกอย่างจะดิ่งลงเหว
ตัดมาที่โลกอนาคตจากเล่ม Batman #666 ที่เดเมี่ยนเป็นแบทแมน ก็อตแฮมลุกเป็นไฟ ประชาชนเมือง ติดไวรัส โจ๊กเกอร์ กันหมด เดเมี่ยนบุกเข้าไปช่วย เด็กทารก ที่ไม่ติดเชื้อไวรัสนี้ แต่ทั้งคู่โดนซอมบี้โจ๊กเกอร์ ไล่ตาม เดเมี่ยน สามารถพาเด็กมายังป้อมปราการ อาร์คแฮม โรงบาลบ้าที่ตอนนี้กลายเป็นที่อพยพของคนในเมือง
ขณะเดียวกันที่ทำเนียบขาว ประธานาธิบดี กำลังตัดสินใจว่าจะเอาไงดีกับก็อธแธม จะจัดการขั้นเด็ดขาดเลยมั้ย
เดเมี่ยน มอบเด็กให้เป็นการเลี้ยงดูของ บาร์บาร่า กอร์ดอน เขาแวะไปหา กอลิร่า แจ็คคานเอพ หนึ่งในลูกน้องของ ไมเคิล เลน (Batman คลั่งศาสนาใน Batman #666) ที่ถูกจับมาขังไว้ใน อาร์คแฮม เอาตัวอย่างเลือดเด็กมาให้ดูว่าสามารถผลิตเป็นยาแก้พิษได้มั้ย แต่ แจ็คคานเอพ บอกว่าเด็กไม่มีภูมิต้านทานหรอก เด็กเป็นพาหะต่างหาก และเดเมี่ยนก็เชื้อโรคเข้ามาใน อาร์คแฮมแล้ว! เดเมี่ยน รีบวิ่งกลับไปหาบาร์บาร่า พร้อมนึกถึงเรื่องในอดีต ทุกอย่างเป็นความผิดของเขา ตั้งแต่เรื่องพ่อตาย และปล่อยให้ปีศาจเข้าถึงเขาได้ ด้วยการทำสัญญากับ ด็อกเตอร์ ไซม่อน เฮิร์ท
เมื่อมาถึงพบศพหมอสองคนหน้าเปื้อนยิ้มโดนยิงตาย ในนั้นเจอ บาร์บาร่า จับหักคอเด็กไปเรียบร้อยแล้ว เธอหันปืนมาหาเดเมี่ยนและยิงใส่เขาอย่างจัง
ที่ทำเนียบขาว ประธานาธิบดี ตัดสินใจส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลงก็อธแธม โดยมีคนให้กำลังใจอยู่ข้างๆนั้นก็คือ ด็อกเตอร์ เฮิร์ท นี่เอง
บาร์บาร่าเปิดประตู อาร์คแฮม ให้พวกติดเชื้อเข้ามา เดเมี่ยน ปล่อยตัวลูกน้อง ไมเคิล เลน ให้ออกมาช่วยต้านพวกติดเชื้อ แต่สายไปแล้ว นิวเคลียร์ถูกปล่อยและระเบิด ก็อธแธม กลายเป็นผุยผง
ปัจจุบัน บรูซ อธิบายกับเดเมี่ยน ว่าสิ่งที่เขาเห็นเขาไม่แน่ใจรายละเอียดนักว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่รู้ว่ามันจบยังไง แบทแมน โลกอนาคตยอมขายวิญญาณให้กับปีศาจ และปีศาจได้เข้ามาทำลายก็อธแธม เขาพยายามสร้างองค์กรนี้ขึ้นมาก็เหมือนมันจะไม่ช่วยแก้ปัญหา และทางเดียวคือต้องให้ เดเมี่ยน เลิกเป็นโรบิ้น และส่งตัวกลับไปหาทาเลีย แน่นอนว่าเดเมี่ยน ไม่อยากไป และบอกว่าอนาคตเราเลือกเปลี่ยนเองได้
จากนั้นมีการติดต่อมาจาก ไนท์ ว่าเจอที่ซ่อนตัวของ ลีเวียธาน ในก็อธแธม แถวโรงหนัง โมนาช แต่แบทแมน ถามว่ารู้ได้ไงว่ามันอยู่ตรงนั้น เขาไม่ได้ส่งใครไปสำรวจ และสั่งให้ทุกคนถอยออกมา แต่ ไนท์ และพรรคพวกโดนกับดักระเบิดไปเต็มๆ
Review :
พออ่านจบไม่รู้จะพูดอะไรนอกจาก สุดยอดดดด การเล่าเรื่องในเล่มนี้ทำให้ผมคิดถึงช่วง Batman & Robin มากเริ่มเอาเรื่อง ทำสัญญากับปีศาจ ถ้ายังจำกันได้ในเล่ม Batman #666 เดเมี่ยน ได้พลัง healing factor มาด้วยเพราะไปทำสัญญาบางอย่างกับปีศาจ แต่ก็ไม่เฉลยซะทีว่าตอนไหน แถมเล่มนี้ Dr. Hurt กลับมาอีกแสดงว่ากลุ่ม Leviathan นี้คงไม่พ้นเป็นส่วนนึงแผนของ Dr. Hurt อีกแน่ๆ
ภาพวาดของ Chris Burnham ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยชอบครับมันออกดูเป็นการ์ตูนแก๊กตลกๆ มากกว่า แต่พอมาเล่มนี้ สไตล์ภาพเริ่มเหมือน Frank Quitley นักวาดคู่บุญของ Morrison
และถ้าใครได้ติดตามเนื้อเรื่อง Batman ของ Morrison มาตลอดผมคิดว่าจะสนุกไปกับเล่มนี้มากครับ
เหตุการณ์สำคัญ :
- อนาคตที่ Bruce เห็นคือ Gotham โดนทำลายหลังจาก Damian กลายเป็น Batman
- Dr. Hurt กลับมา
- Damian ถูกไล่กลับไปหาแม่
- Knight , Squire , Batwing , The Outsider ถูกกับดักระเบิด ชะตากรรมไม่รู้ รอตอนหน้า
ประเด็นที่น่าสนใจ :
- Damian ทำสัญญาอะไรกับ Dr. Hurt?
- สรุปการจัดตั้ง Batman Inc ไม่สามารถแก้ไขอนาคตได้เหรอ?
คำพูดโดนใจ :
- I want to stay with you.
ไอเดียบรรเจิดมาก คิดว่า Dr.Hurt ไม่หมดสภาพเพราะโดนโจ๊กเกอร์ฝังแน่นอน น่าจะมีบทบาทในเร็วๆนี้ ก็อนาคตที่เป็นไปได้เล่นเป่าหูท่านประธานาธิบดีทิ้งนิวเครียล์ลงก็อตแธมได้นี่เหนือร้ายจริงๆ
ยิ่งอ่านไปหัวของแกรนซ์มอริสันยังไงก็สนุกมากๆจริงๆค่ะ ทิ้งปมปริศนาไว้ให้ตั้งประเด็นต่อไป แต่ก็สงสารเด็กนรกจริงๆค่ะ ;-; ที่ทำไปทั้งหมดก็แค่อยากจะอยู่ข้างๆพ่อเท่านั้นเอง. แต่ก็ต้องขอบคุณสำหรับสรุปสปอยย์มากๆนะคะ ^^
จากรูปรองสุดท้ายนั่น มันบอกใบ้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังอนาคตทีเลวร้ายนั่นคือทาเลีย แม่ของเดเมี่ยนหรือเปล่านะ
หัว Talon ผมจะเอามาสปอยหลังจากนี้นะครับ
อ่านสปอยละสงสัยครับ Batman inc. นี่เกี่ยวกับหัวหลักอย่าง Batman, Detective Comics, Dark Knight, Batman & Robin (ของ new 52) รึเปล่าครับ เพราะหัวหลักยังเห็นเดเมี่ยนเป็นโรบินอย่างสบายใจเฉิบเลย ดูมันไม่เกี่ยวกันเลยครับ รึมันคนละ timeline
@MuGetsU เกี่ยวกันสิครับ อยู่ในโลกเดียวกันนี่แหละ แต่ช่วงเวลามันคาบเกี่ยวกันอยู่ ที่เห็นหัวอื่นเดเมี่ยนยังเป็นโรบิ้นก็เพราะมันเป็นเหตุการณ์คนละวันกัน ประมาณนี้ 😉
ผมเริ่มงงกับtimelineของbatmanแบบจริงๆจังๆซะแล้วT-T
ผมกลับชอบสแคร์โครว มากขึ้น โดยเฉพาะตอนช่วยเด็กทำไมเค้าเขียนมาให้แบทแมนหนีโดยไม่ช่วยเด็กหว่า หรือเพราะยา
แต่เล่มหลังนี่ วางเนื้อเรื่องได้ดีจริงๆ แกรน มอริสัน ยังสนุกกับการทำให้พวกเราต้องติดตามงานของเค้า 55+
เนื้อเรื่องของ โมริสัน สนุกจริง จริงอ่ะครับ
สิ่งที่ชอบมากในแบทแมนช่วงหลังๆมานี่คือความรักระหว่าง พ่อลูก คู่หู เพื่อนร่วมงาน แบทแมนและโรบิน เป็นสิ่งที่อธิบายได่น่ารักมากครับ มุมมองในแบบพ่อ มุมมองในแบบลูก แม้จะคนละทาง แต่เป็นการทำเพื่อนคนที่รักๆ แสดงออกชัดบ้างไม่ชัดบ้างแตกต่างกันไป ประทับใจดีครับ