The New Avengers #26

[AvX – Tie in] มรดกแห่งเปลวเพลิง

เรื่อง : Brian Michael Bendis
ภาพ : Mike Deodato, Rain Beredo
วางจำหน่าย: 9 พฤษภาคม 2012
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

   

  

  

กาลหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว

Phoenix หนึ่งในคอสมิคที่ทรงพลังมากที่สุดในจักรวาล

เคยมาเยือนที่โลก โดยมี  Iron Fist หญิงคนหนึ่ง เป็นร่างอวตารให้

  

การมาเยือนโลกในครั้งนั้น ส่งผลอย่างไรกับโลก และตัวของ Iron Fist บ้าง

นี่คือเรื่องราวของ Iron Fist หญิงคนนั้น

   

 

 

---

   

ซักนิดก่อนเริ่มเรื่อง

  

ตอนที่ผมสปอยอยู่นี้ เป็นตอนที่สองนะครับ ไม่ใช่ตอนแรกนะครับ

   

เพราะเดิมทีหัวเรื่องนี้นั้นได้มีการสปอยอยู่แล้ว โดยคุณ GhostRider ครับ

แต่ผมได้ขออนุญาตคุณ GhostRider ลัดคิวชิงสปอยเล่มนี้ครบ

(ด้วยเหตุผลอะไรเดี๋ยวอ่านไปก็รู้ครับ อิอิ)

ซึ่งคุณ GhostRider ได้เมตตาอนุญาตให้ผมทำได้ครับ

ซึ่งผมต้องขอขอบคุณอีกทีนะครับ ^^

   

และผมต้องกราบขออภัยคุณ _V_ ด้วยนะครับ ที่ดันลัดงานมาแปลข้ามเล่มแบบนี้

  

ฉะนั้น ผมจึงขอรบกวนผู้อ่านทุกท่าน เข้าไปอ่านเล่มที่ 25 กันก่อนนะครับ

เพื่อให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้นครับ

   

The New Avengers #25 หงส์เหนือมังกร

………………………

………

…

   

อ่านกันเสร็จแล้วนะจ๊ะ?

<<งั้นก็มาเริ่มกันเลยครับ>>

 

---

   

หลายปีก่อน

 ชายปริศนาสองคน กำลังพูดคุยเรื่องบางอย่าง

 

“ข้ามีนามว่า เฉินกงซาง (Chan Kong-Sang)”

“ตัวข้าเดินทางข้ามโพ้นทะเลเพื่อมาพบท่าน”

 

“มีคนบอกผมแล้วล่ะ”

“ไม่ทราบว่าท่านอยากให้ผมช่วยอะไรรึ?”

 

(เฉินกงซาง นั้นเป็นชื่อจริงของ เฉินหลง หรือ Jackie Chan ด้วยครับ แปลว่า “เกิดที่ฮ่องกง” ครับ

แต่คนแปลคิดว่าเฉินหลงคงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้หรอกนะครับ ฮา)

  

เฉินกงซาง:   ข้าเป็นผู้ส่งสาร

เฉินกงซาง:   ข้ามาจากมหานครที่ตั้งอยู่ในประเทศธิเบต

 

เฉินกงซาง:   อมตะนครแห่งคุนลุ้น (The Immortal city of K’un Lun)

เฉินกงซาง:   ท่านเคยได้ยินรึไม่?

 

???????:  ไม่เคยนะ

???????:  นครลับซ่อนเล้นอีกที่สินะ

 

---

Note

ชื่อ คุนลุ้น หรือ คุณลุน หรือ คุณหลุน นอกจากจะเป็นชื่อยอดเขาแห่งหนึ่งในประเทศจีนแล้ว

คนจีนยังใช้คำว่า คุนลุ้น ในการเรียกผู้คนในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นชาวมลายู

ซึ่งนักประวัติศาสตร์หลายท่านเชื่อว่า เผ่าคุนลุ้นมีความชำนาญในการเดินเรือและสร้างเรือขนาดใหญ่ ก่อนพวกเปอร์เซีย อินเดีย และชาวจีนเสียอีก

   

   

เฉินกงซาง:   หากท่านหมายถึงซ่อนเล้นจากสังคมมนุษย์ล่ะก็ใช่ครับ

เฉินกงซาง:   อาจารย์ของพวกเรา นาม อูตี๋ (Yu Ti)

เฉินกงซาง:   ท่านเป็นผู้ที่มีนิมิตอันทรงพลังยิ่ง

 

เฉินกงซาง:   ท่านเป็นผู้ที่มีทักษะการเรียนรู้สูง

เฉินกงซาง:   ท่านเป็นผู้ที่สามารถควบคุมทั้งจิตและกายได้อย่างสมบูรณ์

 

เฉินกงซาง:   ฉะนั้นนิมิตท่านเห็นจึงเป็นอะไรที่มากกว่าแค่ความฝันครับ

เฉินกงซาง:   มันเป็นคำพยากรณ์ถึงอนาคต

 

เฉินกงซาง:   ท่านเชื่อในพลังแห่งคำพยากรณ์มั๊ยครับ

 

???????:    อันที่จริงผมเชื่อนะ

???????:     เชื่อหัวปักหัวปำเลยด้วยสิ

 

เฉินกงซาง:   ท่านอาจารย์อู๋ตี๋ได้นิมิตเห็นวิหคเพลิงบินลงมาจากฟากฟ้า

เฉินกงซาง:  จากนั้นจิตวิญญาณแห่งเพลิงจักเผาผลาญโลกและทุกสิ่งให้มอดไหม้

 

???????:    แล้วอาจารย์อู๋ตี๋ของท่านต้องการให้ผมทำอะไรรึ?

 

เฉินกงซาง:   ในนิมิตที่ท่านเห็นนั้น มีผู้หญิง เด็กสาวนางหนึ่ง

เฉินกงซาง:   ตามที่ท่านอาจารย์ได้บอกไว้ เธอสามารถที่จะทำให้เปลวไฟมีรูปร่างได้

เฉินกงซาง:   เธอสามารถสู้กับไฟนั้น และบางเธออาจจะควบคุมมันได้

 

 

???????:   แล้วพวกคุณพบเด็กผู้หญิงคนนั้นรึยัง?

 

เฉินกงซาง:   ท่านอาจารย์คิดว่าท่านได้พบแล้วครับ

เฉินกงซาง:   แต่พวกเราจำเป็นต้องตระเตรียมตัวเธอให้พร้อม

 

เฉินกงซาง:   พวกเราไม่ทราบเลยว่าพวกเรายังพอมีเวลาเหลืออีกเท่าไร

เฉินกงซาง:   พวกเราไม่ทราบเลยว่าวิหกเพลิงนั้นอยู่ที่ใดและจะมาเมื่อไร

 

เฉินกงซาง:   ไม่ทราบว่าท่านพอจะสละเวลามาที่คุนลุ้นกับผมจะได้หรือไม่ครับ?

เฉินกงซาง:   ท่านพอจะช่วยพวกเราได้หรือไม่ครับ?

 

???????:  ผมรึ?

 

   

คนที่อยู่ต่อหน้าเฉินกงซางก็คือ บุคคลผู้ที่ทั่วโลกรู้จักดี ผู้อาวุโสแห่ง S.H.I.E.L.D.  เขาก็คือ…..

 

เฉินกงซาง:   ทั่วทั้งโลกต่างก็รู้จัก ลีโอนาโด ดาวินซี (Leonardo Da Vinci) ดีครับ

  

เฉินกงซาง:   ท่านอาจารย์มั่นใจมาก ว่า ทั่วทั้งโลกนี้

เฉินกงซาง:   มีเพียงท่านผู้เดียวที่มีความรู้มากพอ

เฉินกงซาง:   ที่จะช่วยให้พวกเราเข้าใจในคำพยากรณ์ได้แจ่มแจ้งมากขึ้น

 

ลีโอนาโด:   แหม่ พูดอีกก็ถูกอีก

 

---

Note

ในโลกของ Marvel นั้น ลุงลีโอนาโดตัวจริงแกไม่ได้เป็นศิลปินเอกของโลกหรอกครับ

(ลีโอนาโด ที่พวกเรารู้จักกันนั่นน่ะ คือหุ่นยนต์ครับ!!)

ที่จริงแล้ว ลุงลีโอนาโด แกเป็นถึงผู้อาวุโสของหน่วย SHIELD และมีบทบาทสำคัญต่อการบริหารงานของหน่วย SHIELD ในยุคนั้นมากๆ

ลุงแกเป็นอัจริยะและมีความสามารถในด้านการประดิษฐ์ ในระดับที่ Tony stark เรียกเสด็จพี่เลยทีเดียว

ใครอยากอ่านเรื่องราวของลุงแกกับหน่วย SHIELD ก็เชิญอ่านได้ >>ที่นี่<< ครับ

 

อีกด้านหนึ่ง

ณ. วัดมังกรแห่งคุนลุ้น

(Temple of the Dragon of K’un Lun)

 

อาจารย์อู๋ตี้ กับ ศิษย์เอกของเขา เหล่ย คัง (Lei Kung)

กำลังพูดคุยกับเด็กสาวปริศนา ผู้มีหัวแดงนัยน์ตาสีขาวนามว่า ฟงอู่ (Fonji)

ผู้ที่เอาแต่เงียบแล้วทำหน้าบูดเป็นตูดเป็ดมาตั้งแต่ตอนที่แล้ว

 

ฟงอู่:  ……………………………………………

   

เหล่ย คัง:   ทำไมเจ้าถึงเงียบไม่พูดไม่จา?

เหล่ย คัง:   เจ้าเด็กหน้าบู้ ท่านอาจารย์อู๋ตี้กำลังพูดกับเจ้าอยู่นะ!

 

ฟงอู่:  ……………………………………………

 

แต่กระนั้นน้องนางก็ยังคงเงียบกริบ ไม่พูดไม่จา จนอาจารย์อู๋ตี้ต้องงัดไม้เด็ด

 

อู๋ตี้:   งั้นก็เข้ามาทำร้ายข้าซะสิ

 

คำพูดนั้นทำให้ฟงอู่ทำหน้าแปลกใจ ประมาณว่า ตาลุงนี่จะมาไม้ไหนเนี่ย??

  

  

อู๋ตี้:   ถ้าเจ้าไม่อยากจะพูด ก็จงลงกระทำซะ

 

อู๋ตี้:   ถ้าเจ้ากำลังโกรธก็จงระเบิดมันออกมาซะ

อู๋ตี้:   มาทำร้ายข้าซะ

 

อู๋ตี้:   ข้าจะอนุญาตให้เจ้าทำได้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ

 

แต่กระนั้นน้องหัวแดงก็ยังคงนิ่ง อาจารย์อู๋ตี้จึงงัดไม้เด็ดสุดท้าย

 

อู๋ตี้:   ยัยเด็กนรกพันธุ์ทางเอ๋ย รู้มั๊ยว่าข้าคิดอะไร?

 

อู๋ตี้:   ไอ้ความสำส่อนของแม่เจ้า

อู๋ตี้:   คงทำลายตัวเจ้าตั้งแต่เจ้ายังไม่ทันจะเกิดมาดูโลกด้วยซ้ำ

 

อู๋ตี้:   แม่เจ้าน่ะหลังจากไปคั่วหนุ่มจากโลกตะวันตกจากที่ไหนมาก็ไม่รู้

อู๋ตี้:    แล้วจากนั้นนางก็ขายเจ้าให้กับข้า แทนข้าวเย็น

  

เล่นแม่กันแบบนี้ น้องฟ่งอู่ จึงกระโดดเข้าใส่อาจารย์อู๋ตี้แบบไม่กลัวตายทันที!!!

 

  

   

 แต่อาจารย์อู๋ตี้ก็หลบได้อย่างชิลๆ

จนฟงอู่ล้มหน้าจูบพื้น!

 

!จ๊วบ!

 

  

กายกรรมคุนลุ้นของน้องฟ่งอู่นั้น

ได้สร้างความหฤหรรษ์ให้แก่เหล่าลูกศิษย์ลูกหาในวัดจนตะบะแตกหลุดหัวเราะออกมา

 

 

กร๊ากกกกก!!

ฮ่า!  ฮ่า!  ฮ่า!

 

เหล่ย คัง:   เงียบได้แล้ว!

เหล่ย คัง:   ใครก็ได้เอาเจ้าตัวน่าอนาจนี่ออกไปจากวัดอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ที!

   

แต่ยังไม่ทันจะทำไร น้องฟ่งอู่ ก็ขโมยดาบของ เหล่ย คัง

พร้อมโดดเตะคางขอบคุณเหล่ย คัง จนหน้าหงาย!

  

จากนั้นพุ่งตัวหมายมั่นจะฆ่าอาจารย์อู๋ตี้ให้ตาย!

แต่อาจารย์อู๋ตี้สะบัดผ้าหลบการโจมตีทีเดียว วืดอีกละ!

  

จากนั้น อาจารย์อู๋ตี้ ก็ใช้มือของตนจับที่แขนน้อยๆของฟงอู่

แล้ว บีบ!!

  

อู๋ตี้:   เจ้าหาได้ใช่สัตว์ร้ายที่ป่าเถื่อนไม่

อู๋ตี้:   แต่เจ้าน่ะ เป็นนักรบชั้นยอด!

 

อู๋ตี้:   เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะ การต่อสู้ อย่างนักรบ

อู๋ตี้:   เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะ ควบคุม อารมณ์ของเจ้า

อู๋ตี้:   เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะ แสดง ส่วนอื่นที่อยู่ในตัวเจ้าออกมา

 

อู๋ตี้:   และมันขึ้นอยู่ที่เข้าว่าจะเรียนด้วยมือที่เหลือข้างเดียวหรือจะอยู่ครบสองข้าง!

 

ฟงอู่โดนอาจารย์อู๋ตี้บีบแขนจนเธอหมดสภาพ ไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน!

อาจารย์อู๋ตี้ใช้แขนข้างเดียวจัดการเธออยู่หมัดจริงๆ!

(ฟังดูแหม่งๆวุ้ย)

 

อู๋ตี้:   เอาล่ะ อาจารย์เหล่ย คัง เจ้าเหมาะกับงานนี้ที่สุด

อู๋ตี้:   ขอให้เทพมังกรจงนำทางดวงจิตรของเจ้า

 

 

  

“ขอให้รวดเร็วด้วยล่ะ…”

  

“เพราะเธอคือ Iron Fist คนต่อไป”

เมื่อกล่าวจบอาจารย์อู๋ตี้ก็เดิมจากไป ทิ้งฟงอู่ ให้อยู่กับเหล่ย คัง

การฝึกที่ยากลำบากของฟงอู่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!!

  

 

ด้านนอก

ในที่สุด ลีโอนาโด พร้อมกับ เฉินกงซางและผองเพื่อนของเขา

ได้เดินทางมาถึงที่หมาย

   

ลีโอนาโด:   โห่

ลีโอนาโด:   ต้องขอบอกคุณไว้เลยนะ คุณเฉิน

ลีโอนาโด:   ทุกๆความสงสัย หรือไอ้ความระแวง

ลีโอนาโด:   ที่มันแว่บขึ้นมาให้หัวผมระหว่างที่เราเดินทางจาริกกันมาเนี่ย

 

ลีโอนาโด:   มันหายแว่บไปจากหัวหมดเลยล่ะ

 

เฉินกงซาง:   รับทราบครับ

 

  

“ขอต้อนรับท่านเข้าสู่…”

 

“อมตะนครแห่งคุนลุ้น”

  

  

 สิ่งที่อยู่ต่อหน้าลีโอนาโดนั้น คือเมืองขนาดยักษ์ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ อมตะนครใต้กรุงโรม  ที่เขาสร้างเลย

และเฉกเช่นเดียวกับ อมตะนครของ SHIELD

ที่นี่เป็นที่อยู่เหล่า Immortal Iron Fist (ชื่อเต็มของเหล่า Iron Fist ครับ) นั่นเอง

เวลาต่อมา

 

!!โครม!!

 

“อีกรอบ!!”

 

ฟงอู่ ยังคงเข้ารับการฝึกโหดกับ เหล่ย คัง จนหน้าตาสะบักสะบอม

แต่เธอก็ยังใจสู้พร้อมกระโดดเตะใส่ เหล่ย คัง!

 

“ยังเร็วไม่พอ!!”

โครม!!

(รอบสอง)

 

 เหล่ย คัง ซัดน้องฟงอู่ลงไปนอนกับพื้นอยู่นั้น อย่าง โหดซาดิส ไม่ปราณีปราศัย

  

ขณะที่เหล่ย คัง กำลัง กระทืบ ซ้อม ยำ สกำ สอนมวย ฟงอู่ อยู่นั่นเอง

ลีโอนาโด ที่เพิ่งมาถึง ก็เดินเข้าไำปคุยกับ และ อาจารย์อู๋ตี้

   

ลีโอนาโด:   นั่นรึ เด็กที่ว่า

อู๋ตี้:   นั่นแหล่ะ

 

ลีโอนาโด:   เธอชืออะไรรึ?

อู๋ตี้:   ฟงอู่

 

ลีโอนาโด:   แล้วนั่นพวกท่านกำลังทำอะไรเธออยู่ล่ะนั่น?

   

อู๋ตี้:   กำลังฝึกเธอน่ะ

 

เหล่ย คัง:   ลุกขึ้น!!

เหล่ย คัง:   ตั้งท่าหมัดพยัคฆ์ (Tiger Claw) เดี๋ยวนี้!

 

แม้น้องฟงอู่จะงอมพระรามแบบนั้น แต่พี่เหล่ย คัง ก็ยังดุเหมือนเดิม!!

 

  

เหล่ย คัง:   เอ้าลองใหม่อีกรอบ!

 

ลีโอนาโด:   ขอผมคุยกับเธอได้มั๊ย?

อู๋ตี้:   เธอไม่พูดน่ะ

ลีโอนาโด:   เธอไม่พูด? เธอเป็นใบ้รึ?

อู๋ตี้:   ข้าเองก็ไม่ทราบ

 

เหล่ย คัง:   อีกรอบเร็ว!!

ฟงอู่พยายามใช้ท่าเตะใส่ เหล่ย คัง แต่ก็ไม่เป็นผล

   

เหล่ย คัง:   ข้าบอกให้ใช้หมัดพยัคฆ์ไง!!

เหล่ย คัง:   แสดงให้ดูหน่อย!!

  

   

เหล่ย คัง:   เสียเวลาข้าจริงๆ!

 

เหล่ย คัง เริ่มรำคาญจึงจัดการกวาดขาฟงอู่จนล้มไปกองกับพื้น

ส่วนทางด้านของสองปารมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็กำลังคุยกันอย่างชิลๆ

 

อู๋ตี้:   เดินทางมาไกลหิวบ้างไหม?

 

ลีโอนาโด:   ผมขอดูการฝึกนี่ดีกว่าครับ

ลีโอนาโด:   แล้วจากนั้นผมอยากจะขอเวลามานั่งไบ้กับเธอซักหน่อย

 

ลีโอนาโด:   อ้อ แล้วก็ขอตัวอย่างเลือดกับตัวอย่างปัสสาวะของเธอซักหน่อย

(เย้ย!! ลุงลีโอนาโดแกจะเอาฉี่น้องแกไปทำอะไร๊!!)

  

   

 ฟงอู่ ยังคงใจสู้แล้วพุ่งใส่ เหล่ย คัง แต่ก็วืดลงไปจูบพื้นอีก

(พื้นสะอาดหมดแล้วน้องเอ๊ย!~ T^T)

   

  

“เจ้าต้องเร็วกว่านี้!!”

 

และแล้วบางอย่างก็เกิดขึ้นกับตัวของฟงอู่

 

 

ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!

   

  

อยู่ๆ ฟงอู่ ก็ปล่อยพลังที่มีรูปร่างคล้าย Phoenix จนร่างของเหล่ย คัง กระเด็น

ท่านกลางความตกตะลึงของทุกคน แม้แต่ตัวฟงอู่เอง

ลีโอนาโด:   แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนมั๊ย?

 

อู๋ตี้:   ไม่เคย

 

เฉินกงซาง:   น..นั่นอะไรน่ะ!? จะเป็น เจ้าสิ่งนั้นรึ?

 

เหล่าลูกศิษย์ลูกหาต่างเข้ามาช่วย เหล่ย คัง

 

ลีโอนาโด:   ผมว่ายังไม่น่าจะใช่นะ

ลีโอนาโด:   ผมว่านี่น่ะแค่คลื่นพลังที่ส่งมาเท่านั้น

 

ลีโอนาโด:   นี่เป็นคำเตือนน่ะ

 

ไม่นานฟงอู่ก็สลบล้มลงไป

  

ทุกคนรวมถึง เหล่ย คัง (ที่ยังสบายชิลๆ) เดินมาดู ฟงอู่

 

ลีโอนาโด:   คำพยากรณ์เป็นจริงแน่ๆ

ลีโอนาโด:   คน (โล้น) เหล่านี้ทำอะไรอยู่ที่นี่รึ?

 

อู๋ตี้:   พวกเขาศึกษาอยู่ที่นี่น่ะ

 

ลีโอนาโด:   ผมคงต้องขอยืมมือพวกเขาซักหน่อย

 

อู๋ตี้:   ท่านจะยืมคนพวกนี้ไปทำอะไรรึ

   

 

  

“จะพาไปสร้างของเล่นซักหนอ่ย!”

 

ด้วยมันสมองของลีโอนาโดบวกกับด้วยน้ำแรงของเหล่าพระวัดคุนลุ้น

พวกเขาได้สร้างอุปกรณ์บางอย่างโดยใช้ของในวัด

(แถมยังใช้เวลาเพียงหน้าเดียว ไวเหมือนคอมมิคจริงๆ ให้ตายสิ!)

   

ลีโอนาโด:   ผมว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเราสามารถหาที่อยู่ของเจ้านกไฟนั่น

ลีโอนาโด:   ก่อนที่มันจะโฉบลงมาหาพวกเรา

ลีโอนาโด:   บางทีอาจจะช่วยให้เราตรวจจับมันได้แล้วระบุตำแหน่งมันได้

 

ลีโอนาโด:   และด้วยเจ้าเครื่องยนตร์ที่ผมได้ออกแบบนี่

ลีโอนาโด:   ผมหวังว่าจะช่วยให้เราได้รู้ถึงการเยือนของเจ้านกนี้ก่อนเวลาจริงซักพัก

 

ลีโอนาโด:   ผมมั่นใจเต็มร้อยเลยว่ามันกำลังจะมาที่นี่แน่นอน

ลีโอนาโด:   ผมมั่นใจด้วยว่าเราจะได้ร่วมเป็นสักขีพยานกับปรากฎการณ์คอสมิค

ลีโอนาโด:   ที่สำคัญอย่างมากเหตุการณ์หนึ่งแน่นอน

 

ลีโอนาโด:   ถ้าไม่ติดที่พวกเรามีโอกาสเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์เพียงแค่พลิกฝ่ามือนะ

ลีโอนาโด:   เหตุการณ์นี้ต้องเป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจมากๆแน่ๆ

 

ลีโอนาโด:   แต่กลับรู้สึกว่านิมิตที่อาจารย์อู๋ตี้เห็นน่าจะถูกต้องมากกว่า

ลีโอนาโด:   ผมจึงเชื่อว่า ถ้าสาวน้อยคนนี้เตรียมตัวเธอได้พร้อมแล้ว

ลีโอนาโด:   เราน่าจะได้เห็นการมาเยือน…. มากกว่าจะเป็นการมาทำลายครับ

 

ลีโอนาโด:   ซึ่งนั่นน่าจะเป็นโอกาสที่สำคัญมากที่พวกเราจะได้เข้าใจ

ลีโอนาโด:   ว่าเจ้าสิ่งนี้เกิดมาจากอะไร

ลีโอนาโด:   และมีความสัมพันธุ์ทางคอสมิคอย่างไรกับพวกเรา กับที่นี่ และกับโลกใบนี้กันแน่

   

หลังจากวันนั้น อาจารย์อู๋ตี้ ได้พา ฟงอู่ มาที่แห่งหนึ่ง

 

อู๋ตี้:   ที่นี่คือ บ่อน้ำทำนายแห่งโป่หลิง (The Scrying Vessel of Bo-Ling)

อู๋ตี้:   สิ่งที่เจ้าต้องทำก็แค่นั่งอยู่เฉยๆ

 

อู๋ตี้:   ทำจิตเจ้าให้ว่าง

อู๋ตี้:   หยาดน้ำจะบอกพวกเราถึงสิ่งที่เราต้องรู้

อู๋ตี้:   ถ้าพวกเราคู่ควรพอที่จะรู้

  

---

Note

อันที่จริงแล้ว Scrying น่าจะหมายถึง การเพ่งมองครับ โดยมากมักใช้กับ การเพ่งกสิณครับ

การเพ่งกสิณคือการฝึกจิตรรูปแบบหนึ่งโดยการเพ่งมองสิ่งๆหนึ่งเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นจิตสมาธิขึ้น

การเพ่งกสิณนั้นมีหลายแบบครับ ในเรื่องนี้คือ การเพ่งกสิณน้ำ

ว่ากันว่าผู้ที่ฝึกจนชำนาญแล้วจะมีพลังซักอย่างครับ ไม่ว่าจะตาทิพย์ จิตทิพย์ และอื่นๆ

แต่ต้องแลกมาด้วยกับหลายๆอย่างครับ เช่น พฤติกรรม หรือลักษณะนิสัยที่เปลี่ยนไป บางคนอาจถึงขั้นเป็นบ้าก็มีครับ

 

ทางพุทธของเรานั้น ในอดีตเคยใช้การเพ่งกสิณศพเป็นการฝึกสมาธิ

แต่ได้เกิดโศกนาฎกรรมพระสงฆ์คลุ้มคลั่งฆ่ากันตาย

ทำให้ภายหลังพระพุทธเจ้าได้นำวิธีการกำหนดลมหายใจ (วิปัสสนากรรมฐาน)

กลายเป็นการนั่งสมาธิแบบที่เราคุ้นเคยกันมาใช้ครับ

 

ฟงอู่ เหมือนจะยังงงๆ แล้วเหลือบตาลงมองไปที่บ่อน้ำ 

  

อู๋ตี้:   ทำจิตของเจ้าให้ว่างซะ ฟงอู่

   

ฟงอู่จึงค่อยๆ ทำจิตตนเองให้ว่าง แล้วบางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้นในบ่อน้ำ

  

  

น้ำเริ่มก่อตัวเป็นลูกกลมๆ

  

ว่ากันว่าผู้ที่เพ่งกสิณจนช่ำชองแล้ว

จิตจะฝานสิ่งที่เขาเพ่งจนเป็นลูกกลมๆ ประมาณนี้

 

     

  

ในก้อนน้ำนั้นเอง สิ่งที่ ฟงอู่เห็นคือ…ภาพนิมิต….

 

จักรวาล

  

วิหคเพลิง

   

และสุดท้าย

มังกรไฟ

ในที่สุด ฟงอู่ ก็สามารถมองเห็นนิมิตแบบที่อาจารย์อู๋ตี้สามารถมองเห็นได้

 

อู๋ตี้:   เจ้าพร้อมแล้ว

อู๋ตี้:   ได้เวลาแล้ว!

   

  

 เมื่อฟงอู่สำเร็จศาสตร์แห่งกายและสมาธิแล้ว

  

อาจารย์อู๋ตี้ก็พาเธอไปยังหุบเขาแห่งหนึ่ง

เพื่อเข้ารับการทดสอบบทสุดท้าย

  

โดยมีลีโอนาโดและเหล่ย คัง มาเป็นเพื่อน

เหล่ย คัง:   เจ้าไปได้แล้ว

เหล่ย คัง:   จงเข้มแข็งไว้ล่ะ

 

ฟงอู่ มองกลับมาที่อาจารย์อู๋ตี้แล้วเดินเข้าไปยังอุโมงของถ้ำ

 

อู๋ตี้:   ข้านึกว่าท่านจะชอบใจกับเรื่องนี้ซะอีก ลีโอนาโด

 

ลีโอนาโด:   สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

อู๋ตี้:   นี่คือพิธีกรรมของการเข้าเป็น Iron Fist น่ะ

 

อู๋ตี้:   เธอจะได้พบกับ มงกรเส้าหลาว (Shao-Lao)

(คาดว่าคงเป็นมงกรตัวเดียวกับที่เธอเห็นในนิมิต)

อู๋ตี้:   เธอจะได้สู้กับมันและถ้าเธอทำสำเร็จ

อู๋ตี้:   พลังของมงกรไฟจะส่งต่อมายังที่เธอ

 

อู๋ตี้:   พลังที่เป็นเสมือนอาวุธของเหล่า Immortal Iron Fist

(นี่คงเป็นที่มาของคำว่า Immortal City ครับ เมืองของเหล่า Immortal Iron Fist

ผิดกับของฝั่งของ SHIELD ที่ทำให้คนเป็นพวกอมตะ (Immortal) ด้วยยา Infinite Formula)

   

ลีโอนาโด:   แล้วถ้าเธอทำไม่สำเร็จล่ะ?

 

อู๋ตี้:   งั้นบางที ท่าน น่าจะเข้าไปทดสอบแทนนะ

 

ลีโอนาโด:   ห๊ะ? โทษที ว่าอะไรนะ?

 

เหล่ย คัง:   ท่านอาจารย์แกเล่นมุขน่ะครับ

เหล่ย คัง:   ขืนทำแบบนั้น ท่านได้ม้วยก่อนที่จะไปเหยียบปากทางเข้าแน่นอน

 

เหล่ย คัง:   เธอต้องฝ่าฟันไปได้แน่ครับ

เหล่ย คัง:   เธอต้องทำให้ได้ เพราะมันถูกพยากรณ์ไว้แล้ว

 

ลีโอนาโด:   ขอโทษอีกรอบนะ แต่ในนั้นมีมังกรอยู่จริงๆแน่นะ?

 

อู๋ตี้:   ก็แล้วคิดว่าไอ้ตัวที่อยู่ข้างในมันของปลอมรึเปล่าล่ะ?

 

 และแล้วเวลาก็ล่วงเลยไปสองวัน

ทั้งลีโอนาโด และ เหล่ย คัง นอนหมดสภาพกันตามระเบียบ

(เอาอะไรกินกันนะ สงสัย?)

จะมีก็แต่ อาจารย์อู๋ตี้ ผู้ฝึกการควบคุมการและจิตมาอย่างดี ที่ยังยืนสบายๆ ชิลๆ อยู่ได้

และไม่นานอาจารย์อู๋ตี้ก็สัมผัสบางสิ่งได้

อู๋ตี้:   เรียบร้อยแล้ว
   

ในที่สุด ฟงอู่ ก็เดินออกมาจากถ้ำ!

   

 

เธอเิดินออกมาพร้อมชุดรัดรูปสีขาวกางเกงเขียวของเธอ

  

และเมื่อเธอพบชายทั้งสาม เธอก็กำมือ….

  

ฟู่ววววววววววว!!!

 

ในที่สุด ฟงอู่ ก็ได้รับพลังของเทพมงกรเส้าหลาว

กำปั้นของเธอเปล่งประกายเป็นสีเหลืองเพลิง

เหมือนกับสัญลักษณ์มังกรสีทองที่หน้าอกของเธอ

  

ทว่าเธอไม่เพียงแต่ได้พลังไฟมาแล้วเท่านั้น

เธอยังสามารถที่จะ…..

 

ฟงอู่:   ขอบคุณค่ะ ท่านอาจารย์

ฟงอู่:   ขอบพระคุณมากค่ะ

….พูดได้! ในที่สุด ฟงอู่ ก็พูดได้แล้ว!

    

เฉินกงซาง:   แล้วท่านก็เลยได้เห็น? ท่านได้เห็น Iron Fist แล้วรึ?

 

ลีโอนาโด:   เต็มสองตาเลย

 

เฉินกงซาง:   แล้วเธอก็พูดด้วย?

เฉินกงซาง:   ท่านได้ยินที่เธอพูดเรอะ?

 

ลีโอนาโด:   ก็แล้วมีใครห้ามไม่ให้ท่านคุยกับเธอรึเปล่าเล่า?

 

เฉินกงซาง:   อ้อ เปล่าครับ ไม่แบบนั้น ข้าก็แค่……

 

ขณะนั้นเอง ลีโอนาโด ก็เห็นบางอย่าง

 

ลีโอนาโด:   งั้นก็รีบพาตัวเธอมาเดี๋ยวนี้เลย!

ลีโอนาโด:   แล้วพาอาจารย์อู๋ตี้มาด้วย

 

เฉินกงซาง:   แต่นี่…มันดึกมากแล้วนะครับ

 

ลีโอนาโด:   งั้นก็รีบไปปลุกทั้งสองคนด่วนเลย!

   

 

 

   

มันกำลังจะมาแล้ว!

   

  

 

 

   

The New Avengers ตอนหน้า

  

“หงส์ไฟผงาดค้ำคุนลุ้น”

 

ทุกคนจะรับมืออย่างไร?