DC Universe Presents: Deadman #3

DC UNIVERSE PRESENTS: DEADMAN  #3
เรื่อง : PAUL JENKINS
ภาพ : BERNARD CHANG
วางจำหน่าย: 16 พฤศจิกายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

สู่คำตอบสุดท้าย

..

ผมชื่อบอสตั้น แบรนด์และนี่ผมเอง เรื่องมันซับซ้อนน่ะ

 

ผมตายมาช่วงหนึ่งแล้ว และระหว่างนั้นผมได้ปราบมารจำนวนมากเพื่อชำระบาปที่ก่อ มารอย่างเช่นไอ้หมอนี่ มันคงเป็นผีเหมือนกับผม หรือไม่ก็อาจเป็นพวกผีดิบที่ไม่มีวันตาย

 

ตลอดช่วงเวลาชีวิตผี ๆ ผมได้ใช้เวลาร่วมกับชีวิตของผู้คนมากมายเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นถูก ผมได้เรียนรู้ว่าคนเลวมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือเมื่อคุณถีบยอดหน้าพวกมัน พวกมันจะพ่นบทสนทนาที่น่าขันหนึ่งในสามประโยคนี้ออกมา:

 

 

บรรณารักษ์: แกจะไม่มีวันหนีพ้น!

นั่นแหละประโยคที่หนึ่ง

 

บรรณารักษ์: พวกเรารู้จักเจ้า บอสตั้น แบรนด์ กองพันแห่งอเวจีจะไล่ล่าเจ้า และลากวิญญาณอันโสมมของเจ้าไปลงกระ…

เด๊ดแมน: ก็คงงั้นแหละ เอ๊ะคำนี้มันแปลว่า “น้องตูบ” หรือ “ขอบชีส” รึเปล่าหว่า?

จู่ ๆ พี่ศพที่โดนพี่เด๊ดแมนสิงเมื่อเล่มก่อนก็กำลังจะฟื้น พี่ผีของเราจึงส่งไปเฝ้าพระอินทร์อีกรอบ

บรรณารักษ์: ทำตามที่ใจเจ้าอยากเลยเด๊ดแมน เพราะจะไม่มีอะไรปกป้องเจ้าจากความมืดที่คืบคลานหามาหาเจ้าได้

เด๊ดแมน: นี่ท่านยังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกรึไงว่าใครกำลังคุมเกม เป็นผมบุกเข้ามาแล้วมัดท่านไว้ไม่ใช่เหรอขอรับ?

 

บรรณารักษ์: ลองแตะหนังสือของข้าอีกสิ! ข้าจะตามเจ้าไปสุดหล้…

เด๊ดแมน: ส่วนนั่นก็ประโยคที่สอง เอาล่ะทีนี้ถึงตาผมพูดบ้าง ช่วยหุบปากสักนาทีแล้วฟังนะ

เด๊ดแมน: ตั้งแต่ผมเข้ามาในห้องสมุดนี่ผมก็มีกายเนื้อ… ต้องขอบคุณสภาพแวดล้อมอันมหัศจรรย์ที่คุณเสกสรรค์ไว้… ผมมีน้ำโหและอยากจะถลุงคุณให้ยับจังเลย เอาล่ะทีนี้ ผมกำลังมีปัญหากับเทวดาชั้นผู้น้อยชื่อว่าราม ผมต้องการสร้างแต้มต่อเหนือกว่า… และท่านต้องบอกผม

บรรณารักษ์: ข้าคืออมรรตัย ข้าไม่ก้มหัวต่อคำขู่ของมรรตยชนดอก

เด๊ดแมน: งั้นผมเผาห้องสมุดนี่ละกันนะ

 

บรรณารักษ์: เดี๋ยวจ้าเดี๋ยว… ข้าโมโหไปหน่อยน่ะ แต่ถึงรู้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์กับเจ้าดอก คำตอบที่เจ้าต้องการนั้นอยู่ ณ ที่เดียวกับที่ที่คำตอบทั้งปวงอยู่: อยู่กับพระบุตรแห่งรุ่งอรุณ

เด๊ดแมน: ไผหว่า?

 

“ในช่วงแรกที่พระองค์ได้สร้างทุกสรรพสิ่ง เป็นช่วงเวลาที่เทวดามากมายเริ่มถามคำถามต่อการมีอยู่ของตนเอง หลายองค์ถูกเสือกไสออกมาเช่นข้า หลายองค์ก่อกบฏเพื่อท้าทาย แต่พระบุตรแห่งรุ่งอรุณนั้น… เขาเป็นองค์แรกที่เลือกจะออกมาเอง

 

“หลายศตวรรษผ่านไป เขามองดูการดิ้นรนของมวลมนุษยชาติ และเชื่อว่าเหล่าผู้ถูกสร้างมีสำนึกและคุณค่าที่สูงกว่าพระผู้สร้าง บางองค์ครหาเขาเป็นมารร้าย บ้างก็ว่าเขาไม่ต้องการจะขึ้นกับผู้ใดเช่นเดียวกับเชษฐาของเขา ลูซิเฟอร์

 

 

บรรณารักษ์: บุตรแห่งรุ่งอรุณล่วงรู้ทุกคำตอบ… สำหรับทุกคำถามที่ได้ถูกลิขิตไว้ เขาเดียดฉันท์ที่รามได้แทรกแซงคำตอบ เขาจะบอกสิ่งที่เจ้าต้องรู้ให้เจ้าได้รู้ แต่คำตอบนั้นจะเป็นโทษแก่เจ้ามากกว่าจะเป็นคุณ

เด๊ดแมน: มาถึงขั้นนี้ผมเตรียมใจเผื่อหัวจะขาดเอาไว้แล้วล่ะ

 

เด๊ดแมน: เออใช่ ผมยืมกระเป๋าหน่อยนะ

บรรณารักษ์: ทั้งรามและบุตรแห่งรุ่งอรุณ… พวกเขามีพลังมากกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้ เด๊ดแมน!

เด๊ดแมน: ขนาดประตูห้องของท่านผมก็พังมาแล้ว ประสาอะไรกับไอ้ลูกแหง่แห่งรุ่งอรุณนี่ล่ะ?

บรรณารักษ์: เขาอาศัยอยู่ในร่างมนุษย์ ณ สถานที่ที่เรียกว่า “สวนสนุกก็อทแธม” แต่เจ้าจะหาเขาไม่พบหากเขาไม่ต้องการ

 

เด๊ดแมน: บังเอิ๊ญ บังเอิญจริง ๆ วันก่อนผมเพิ่งไปที่นั่นมา ดูท่าผมต้องเอาหนังสือท่านไปอ่านเป็นวิทยาทานแล้วมั้ง

บรรณารักษ์: หนังสือของข้าไม่มีประโยชน์ดอก มันไร้ความหมายต่อเจ้า

เด๊ดแมน: ก็ไม่รู้อ่ะนะ ผมกะว่าจะศึกษาอัษรเบลล์ภาษาอาราเมอิคอยู่พอดี

บรรณารักษ์: เดี๋ยวจ้า… เดี๋ยว บุตรแห่งรุ่งอรุณจะหยั่งรู้และจะตอบคำถามมากเท่าที่เจ้าจะสมควรได้รับ แต่เขาต้องการข้อแลกเปลี่ยนเช่นกัน

 

เด๊ดแมน: หมายความว่าไง “ข้อแลกเปลี่ยน” เหรอ?

บรรณารักษ์: ข้าพูดมากเกินไปแล้ว

เด๊ดแมน: พูดมากแต่ไม่ได้มีสาระเล้ย เอาล่ะอธิบายมาซะดี ๆ

 

บรรณารักษ์: บุตรแห่งรุ่งอรุณต้องการรางวัลตอบแทน บางสิ่งที่เลอค่า… นั่นคือดวงจิตของเจ้า แต่นั่นก็ต่อเมื่อเจ้ารอดชีวิตไปพบเขา เชื่อข้าเถอะ เมื่อเจ้าออกจากประตูนี้ปิศาจนรกนับพันจะไล่ล่าเจ้า

เด๊ดแมน: ก็ดี งั้นผมเอาหนังสือไปล่ะนะ เพราะเมื่อไม่มีไอ้นี่ ท่านจะได้ตามรอยกันเหนื่อยหน่อย

บรรณารักษ์: เราจะหาเจ้าพบ เด๊ดแมน! ไม่ว่าเจ้าจะไปไหน เราจะไปลากคอเจ้า! เจ้าต้องชดใช้!

นั่นไง ประโยคที่สาม

 

กลับมาดูจอห์นนี่ที่ตอนนี้ความสัมพันธ์กำลังไปได้สวย ตอนนั้นเองบริกรท่าทางแปลก ๆ คนหนึ่งก็เดินเข้ามา

 

บริกร: คุณต้องไม่เชื่อแหงว่าวันนี้ผมเจออะไรมา

จอห์นนี่: ผมรู้จักคุณรึเปล่า?

บริกร: ทั้งใช่และไม่… ฝากกระเป๋าสักแป๊บสิ ได้มั้ย?

บริกร: อย่าห่วงไปเลยครับ ผมกับจอห์นนี่เคยอยู่ด้วยกันช่วงหนึ่ง

 

แว่บบบบบ

 

บริกรก็เลยเอ๋อไปในทันใด

จอห์นนี่: ให้ช่วยอะไรอีกมั้ย?

บริกร: เอ่อ ข้าน้อย… ไม่รู้ ข้าน้อยขออภัย

 

หญิงสาว: ประหลาดจัง เขาต้องเพี้ยนแหง ๆ เขาทำท่าอย่างกับมีสองบุคลิก

จอห์นนี่: ผมเจอคนแบบนั้นมาเยอะ… ว่าแต่เราจะไปไหนกันต่อดี?

 

เช้าวันต่อมาผมได้เรียนรู้บนเรียนใหม่จากการใช้ชีวิตร่วมร่าง นั่นคือเมื่อคุณสูญเสียขาทั้งสองข้างไปพร้อมกับน้ำหนักครึ่งหนึ่งของร่างกาย มันจะทำให้คุณกลายเป็นคนคออ่อนเหมือตาแก่หงำเหงือกอายุ 90 ปี ผมคิดว่าอย่างอื่นก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่: ดูเหมือนช่วงเวลาพักผ่อนสั้น ๆ นี้จะเสียมากกว่าได้…

 

 “… ทางกรมตำรวจก็อทแธมได้เปิดเผยว่าเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายกลุ่มใหม่…”

 

“แถลงการณ์วันนี้ได้กล่าวถึงการร่วมมือกันระหว่างกลุ่มอาชญากรก็อทแธมกับองค์กรก่อการร้ายที่รู้จักกันในนามแนวร่วมแห่งอนาธิปไตย คนกลุ่มนี้ได้ออกมายอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดดังกล่าว และกล่าวว่าจะมีเหตุระเบิดอีกระลอกในสัปดาห์หน้า…”

 

 

“โป๊ะเชะ”

 

ผมว่าผมเริ่มรู้อะไรบ้างแล้ว… อย่างน้อยก็สถานที่ที่จอห์นนี่คู่หูของผมผูกพัน มันไม่เกี่ยวกับมีขาหรือไม่มีขา แต่ปัญหาก็คือถ้าผมช่วยเขา เขาจะเชื่อมโยงกับผมต่อไป ฉะนั้นผมจะไม่ช่วย ไม่มีทาง มันมีปริศนาชิ้นใหญ่อะไรบางอย่างซุกซ่อนไว้ และผมต้องรู้คำตอบให้ได้

 

ทำไมรามถึงมัดผมไว้กับร่างที่สิงสู่? ผมทั้งนั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิด… คิดถึงคนทั้งหมดที่ผมเคยเป็น โดยเฉพาะคนหนึ่งที่แตกต่างไปจากทั้งหมดด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

คนที่ผมจำฝังใจคนนี้ชื่อแลร์รี่ ครู้ก ผมได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือเขา

 

 

 แลร์รี่คือหนึ่งในคนที่รามส่งผมไปสิงสู่ เขาคือพลเมืองดีที่ได้รับโทษตายจากความผิดที่ไม่ได้ก่อ คนอื่นก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้ทำ แลร์รี่เป็นคนที่เชื่อมั่นต่อระบบและศรัทธาในพระเจ้า

 

ทันทีที่ผมเข้าสิงร่างของเขา ผมรู้เลยว่างานนี้ต่างออกไป… ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย แลร์รี่เป็นคนดีกว่าผมอีก ดีกว่าทุกคนที่ผมรู้จัก ผมพยายามช่วยกู้อิสระภาพกลับคืนให้เขา แต่ไม่ว่าทำอย่างไรเขาก็ไม่รอด

 

 

และเมื่อวันนั้นมาถึง… เมื่อคำร้องขอให้ยืดเวลาประหารของครอบครัวผู้ตายไม่ได้รับการอนุมัติ… แลร์รี่กับผมนั่งด้วยกันและเหม่อมองดูอาหารมื้อสุดท้ายในชีวิตของเขา ในวินาทีสุดท้ายผมก็สงสัยว่าผมมาทำอะไรที่นี่?

 

ผมพาแลร์รี่เดินทอดน่องเข้าสู่ลานประหาร ตัวเขาพร้อมรับชะตากรรมแล้ว กลายเป็นผมเองต่างหากที่กำลังกลัว

 

 

เรานอนอยู่บนเตียงนั่นและรอเวลา ผมคิดทุกวินาทีว่าต้องมีใครปรากฏตัว มันไม่ควรเป็นอย่างนี้

 

 

เรารอและรอ… แต่พระองค์ก็ไม่ได้ปรากฏตัว

 

 

ผมอยู่ในร่างของเขานานที่สุดเท่าที่จะนานได้แต่ผมไม่ได้รับอนุญาต

ผมต้องปล่อยให้เขาจากไป ผมทำให้เขาผิดหวัง

 

ในท้ายที่สุด ผมก็ไร้คำตอบให้แลร์รี่ ครู้ก พร้อมกับปริศนามากมายผุดได้ขึ้นในใจของผม

 

 

บริเวณโกดังท่าเรือ พวกผู้ก่อการร้ายก็มาเจรจาธุรกิจกัน นายหนวดชื่อวิโต้ ตัวแทนจากแก๊งค้าอาวุธเถื่อนได้นำปืนมาขายให้พวกแนวร่วมอนาธิปไตย…

 

เด๊ดแมนเองก็มาแล้ว!

นายโล้น: มีหกชุดใช่มั้ย? หวังว่าพวกแกจะเอามาครบตามที่ตกลงกันไว้นะ

นายหนวด: แน่นอนเพื่อน ด้วยไอ้นี่ทีนี้ศัตรูของพวกเอ็งจะเท่งทึงทั้งที่ยังไม่รู้ตัวเลยล่ะ ว่าแต่พวกแกจะเอาไปยิงใครกันว้า?

นายโล้น: เปล่าซักหน่อย

นายหนวด: งั้นก็แล้วแต่เอ็งละกัน ขอให้ธุรกิจรุ่งเรืองนะสหาย

 

ไอ้โล้นพวกนี้คือแนวร่วมอนาธิปไตยที่ทีวีพูดถึง เจ้าพวกพ่อค้าหัวใสไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าพวกมันกำลังทำธุรกิจกับใคร… ผมมาหาไอ้พวกชั่วพวกนี้ด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่าง

 

 

เด๊ดแมนเข้าสิงร่างนายหนวดแล้วเปิดเกมด้วยเฮดบัท!

“นี่กับดัก! พวกมันตุกติกกับเงิน!”

 

โจรจึงเปิดฉากยิงกันเองเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นไม่หวั่นหน้าอินทร์หน้าพรหม!

ที่แท้พวกผู้ก่อการร้ายแอบตุกติกจริง ๆ พวกมันใช้เงินกระดาษมาซื้อของ

นายหนวดวิโต้กระโดดขึ้นรถตู้บรรทุกปืน

เขาเหยียบคันเร่งเพื่อชิ่งโดยพลัน!

เผ่นล่ะจ้า!

เมื่อเสียงไซเร็นดัง พวกผู้ก่อการร้ายก็เผ่นหนีไปอีกคัน

“ใครบอกอั๊วได้บ้างว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันขึ้น”

 

ไอ้ที่เกิดขึ้นน่ะเป็นแค่แผนขั้นแรก

ไม่มีนัยยะหรือสัจจะสากลใด ๆ … ผมแค่ก่อความปั่นป่วนวุ่นวายอย่างบ้าคลั่ง แต่ดูสิ ความบ้าคลั่งของผมยังมีทฤษฎีอยู่ ถึงบางคนจะมองว่ามันไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม แต่สำหรับผมแล้วผมเรียกมันว่าการเสี่ยงโชค

 

เด๊ดแมนในร่างของนายหนวดแอบถ่ายของเข้าโรงเช่าจอดรถเพื่อแผนการบางอย่าง…

 

ถ้าผมไขปริศนาของจอห์นนี่ได้ ผมก็จะไขปริศนาทั้งหมดได้ เรื่องระหว่างผมกับรามรวมทั้งผู้คนอีกมากมายที่จิตใจยังเชื่อมโยงอยู่กับผมต้องจบลงได้สักที

 

 

ผมต้องสู้กับเทพเจ้า และคนเดียวที่ช่วยผมได้อาจจะขอแลกเปลี่ยนด้วยวิญญาณของผม พระบุตรแห่งรุ่งอรุณผู้นั้น ผมว่าเขาต้องการเจอผม มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทำให้ผมมาที่นี่เมื่อวันก่อน

 

 

บางทีเขาอาจจะดึงผมมาที่นี่ บางทีเขาอาจอยู่ในร่างของมนุษย์เดินดินกินข้าวแกงสักคนแถว ๆ นี้

บางทีเขาอาจอยู่ในร่างผู้หญิง

 

 

มันน่าสนใจซะไม่มี

 

“บางทีคุณอาจจะมองหาผมอยู่ล่ะมั้ง? ผมเห็นร่างจริงของคุณ เด๊ดแมน”

 

“ทีนี้… สนใจไปนั่งรถเล่นด้วยกันหน่อยมั้ย?”

..

ตอนต่อไป:

Sympathy for the Carny

9 thoughts on “DC Universe Presents: Deadman #3

  1. jame

    มีจิมเป็นฉากหลังด่วยแฮะในTV จะเจอพีแบตไหมเหมือนฉบับเก่า

    ว่าแต่ทำไมเรื่องเกิดแถวๆก๊อดแฮมหลายๆหัวแล้วน่ะ

  2. NetNN

    ดูๆแล้วนี่ เดดแมนในจักรวาลใหม่นี่แสบกว่าจักรวาลดั้งเดิมตั้งเยอะนะเนี่ย

    @jame : เขาว่ากันว่า Gotham ตั้งอยู่บนปากทางสู่นรกครับ เลยทำให้เรื่องเลวร้ายทั้งปวงถูกดึงดูดมาที่นี่

  3. Tatoo

    ^
    ^
    ^ความรู้ใหม่ ๆ
    Deadman กวนตรีนมากเล่มนี้

  4. BaaMzS

    ชุด DC Universe Presents หลังจากจบเรื่องของเด๊ดแมนแล้วจะเป็นของใครหรอครับ หรือหัวนี้ของพี่แกเลย?

  5. MISTER-Y Post author

    @BaaMzS ตั้งแต่เล่มหกเป็นต้นไปจะเป็นเรื่องใหม่ครับ คือ Challengers of the Unknown ชื่ออาจไม่ค่อยคุ้นนักแต่เป็นตัวละครเก่าแก่จากปลายดินสอของเคอร์บี้ Challengers of the Unknown เป็นเรื่องออกแนววิทยาศาสตร์ครับ จะเป็นเรื่องของทีม ๆ หนึ่งที่มีสมาชิกเป็นมนุษย์ธรรมดาสี่คน และผจญภัยในอวกาศบ้าง, ข้ามมิติบ้าง, เจอมนุษย์ต่างดาวบ้าง, เจอเหตุการณ์ลึกลับบ้าง ออกแนวหนังซีรี่ย์ไซไฟน่ะครับ

  6. jame

    Challengers of the Unknown เหมือนเคยเห็นไปแจมซุปกับแบทเป็นบางครั้ง

  7. DOL

    Deadman จักรวาล นี้นี่นิสัยใช้ได้เลย ฮ่ะๆๆ

    อ๊ะจะว่าไป ถ้าพี่แกพาหนู Dove มาที่ห้องของคุณป้าบรรณาลักษณ์นี่
    ก็บะบะโอ้บะบะกันได้แล้วนี่ เหอๆๆ

    จะได้ไม่ต้องทะเลาะกันอีก

  8. seventoon

    อา เด็ดแมน พลัง ไร้เทียมทานไปอีกสุดขั้วเลยอ่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *