RED HOOD AND THE OUTLAWS  #1
เรื่อง : SCOTT LOBDELL
ภาพ : GREG CAPULLO
วางจำหน่าย: 21 กันยายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

ต๊อดหมวกแดง และเหล่าเพื่อนๆ บ้านแตก

ทหารรับจ้างสองคนกำลังแบกร่างนักโทษ Roy Harper ที่ถูกคุมขังออกมาด้านนอก เพราะวันนี้เขามีแขกมาเยี่ยม

ชื่อของมันคือ รอย ฮาร์เปอร์ หมอนี่มันโง่ ชายที่แสนดีแต่โง่

Roy : โอ้วแสงแดดสาดส่อง อยากจะเห็นมันทุกวัน

“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม แต่มีคนมาหาแกด้วย”

ไอ้บ้านี่เดินทางมาประเทศ คูแรค ตั้งอยู่แถวๆ ตะวันออกกลาง เพื่อมาช่วยผู้คนที่โดนทำร้าย ไปๆ มาๆ ไอ้คนที่มันไปช่วยดันเลวพอๆ กับอีกฝ่าย ซวยของมันแท้ พวกมันเลยจ้างทหารรับจ้างมาเล่นงานรอย

 

 

คนที่มาเยี่ยมคือหลวงพ่อตัวอ้วนผมขาวใส่แว่นหนาเตอะ ดูๆ แล้วเหมือน หมึกแดง ทำกับข้าว

“จะสารภาพบาปอะไรก็ว่าไป มีเวลาห้านาที”

Roy : อยากจะจับมือท่านนะแต่เราต้องถือลูกตุ้มไปด้วย ผมเคยเจอท่านไหมเนี่ย

Pastor : พ่อขอเวลาส่วนตัวเพื่อสวดมนตร์จะได้ไหม

“ถ้าพรที่พอให้กระเด็นมาโดนข้าบ้าง ข้าก็ไม่ว่าหรอก”

Pastor : หน้าไม่อายเลยเจ้านี่

Roy : หลวงพ่อผมไม่ได้อยากจะก้าวร้าวนะแต่..

นักโทษ Roy พูดยังไม่จบ หลวงพ่อก็ชิงโอกาสเปิดหนังสือออกมา พอ Roy เห็นเท่านั้นแหละ

Roy : แม่เจ้าโว้ย

Pastor : ใช่แล้วลูกพ่อ จงเปิดใจ และเอาใจเปิดหนังสือ มันจะให้อิสระกับเจ้า

ในหนังสือมี ธนู สีแดง อาวุธคู่ใจของเขาอยู่

Roy : นั่นธนูผมใช่ปะ

Pastor : ถูกต้องนะครับ

Roy : แล้วหลวงพ่อคิดว่าสิ่งที่จะทำต่อไปนี้มันเหลวไหลไหม

Pastor : ในวรรคสุดท้ายของหนังสือมหาอุดของพ่อกล่าวไว้ว่า “ลุยซิฟะ ไม่ลุยก็กลับบ้านไป เอเมน!”

 ร่างของบาทหลวงแตกออกอย่างช้าๆ เผยคนที่อยู่ข้างในอีกทีนั้นคือ Jason Todd หรือ Red Hood พี่ต๊อดหมวกแดงแรงสามเท่า ควงปืนคู่ยิงเปรี้ยงๆ

เจ้านี่ชื่อ เจสัน ท๊อดด หลายคนบอกว่าเขาบ้า หลายคนที่พูดคือพวกพนักงานในโรงพยาบาลบ้า อาร์คแฮม พวกนั้นอาจพูดถูก แต่ผมก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะบอกได้ว่าพวกนั้นพูดถูกหรือป่าว แต่กับสิ่งที่เขาทำวันนี้  โผล่มาด้วยชุดหมวกแดง ยิงโซ่ตรวนที่ขังผมอยู่

 แถมเอาธนูผมมาให้ด้วย บอกได้เลยว่าหมอนี่บ้าถูกใจผมมาก!

ชายทั้งสองฝ่าดงกระสุน (และบาทา) ออกมาจากคุกได้ Red Hood มุ่งหน้าไปเอารถที่เตรียมการมาช่วยเหลือ Roy

Roy : บอกฉันหน่อยว่านายขโมย แบทโมบิล มาเพื่อช่วยฉัน

Red Hood : ก็ประมาณนั้นแหละ เอาล่ะ ขึ้นไป

แต่สภาพรถนี่คงเป็น Batmobile รุ่นเปิดประทุน หรือ รถดัมมี่

Roy : ….(ไม่พูดอะไรเครียด)

Red Hood : รอย ฮาร์เปอร์ ผู้นี้ถึงกับอึ้งเลยเหรอ

Roy เห็นสภาพรถ จะรอดไหมเนี่ย

Roy : ช้าไปไหมที่จะกลับไปโดนขังต่อ

Red Hood : อยากอยู่ต่อก็อยู่ไปเลย

Roy : ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นห๊ะ เรด นายบอกว่าถ้าฉันรับงานนี้ ถ้าฉันได้เป็นทหารรับจ้าง ฉันจะได้เป็นตัวของตัวเอง ยอมรับเถอะเป็นแค่คู่หู ฮาร์เปอร์ และ ท๊อด มันดีอยู่แล้ว

Red Hood : เหตุผลเดียวที่ฉันมาที่นี่เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนาย มันจะทำให้ฉันกลายเป็นอดีตคู่หูที่แย่ที่สุด

 

Roy : เฮ้ย รถถัง

Red Hood : อย่าพูดเป็นลางดิ

ลางอะไรกันอยู่ตรงหน้าตั้ง 3 คัน

Roy : ไม่ได้พูดเฉยๆ ของจริงเลยเนี่ย เล็งมาที่เราแล้ว หวังว่านายมีแผนสำรองดีๆ นะ

แน่นอนอย่าง Red Hood มีแผนสำรองเสมอ รถถังสามคันระเบิดในคราวเดียว ผู้ที่จัดการรถถังไม่ใช่ใคร Starfire สุดเซ็กซี่

เธอชื่อ สตาร์ไฟร์ ไม่ใช่คนแถวนี้หรอก จริงๆ แล้วเธอมาจากดาวทามาราน  เกิดเป็นเจ้าหญิง แต่โดนเลี้ยงแบบทาส โดนพี่สาวตัวเองส่งไปเป็นทาสเพื่อแลกความสงบจากการรุนรานของดาวอื่น เธอเลยไม่ค่อยปลื้มกับทหารเท่าไรไม่ว่าจะดาวดวงไหน รู้สึกว่าวันนี้ผมเลือกใช้คนได้ดี

 Roy : เธอมากับนายเหรอ

Red Hood : ใช่มากับเรา หรือจะบอกว่ามากับฉันก็ได้นะ

Roy : ไม่มีทางที่คนมีระดับอย่างนั้นจะลดตัวมาคบกันนายหรอก

Red Hood : ก็หล่อนมาหาฉันเองนี่ ทำไงได้

Kori : มีอะไรที่ฉันทำอีกไหม เจสัน

Red Hood : ถ้าเธอไม่ว่าอะไร โคริ ช่วยบินไปข้างหน้าแล้วจัดการพวกคนเลวหรือรถถัง ที่ขวางหน้าหน่อยสิ

 

Kori : ได้เลย แล้วเจอกันนะ

Jason : แทบรอไม่ไหวเลยล่ะ

Roy : เซ็งเป็ด ไม่ทักกันเลย

Jason : แหมก็เธอมีเรื่องให้คิดเยอะแยะ… โดยเฉพาะเรื่องของฉันน่ะ

สามอาทิตย์ต่อมาที่เกาะ Martinique
Kori กำลังเล่นน้ำอาบแดดอย่างสนุกสนาน หารู้ไม่ว่ามีเด็กเกรียน กำลังแอบถ่ายรูปลงอินเตอร์เน็ท

 ฉันรู้ว่าไม่ควรมาอยู่ที่นี่ บนโลกใบนี้ ที่นี่ไม่ต้องการฉัน แต่ฉันมีทางเลือกด้วยเหรอ อีกอย่างมนุษย์โลกสองคนนั้นทำให้ฉันหัวเราะได้

“แม่จ้าววว อัพโหลดส่งขึ้นไปจัดให้หนักเลย”

ชายฝั่งสองสหาย Todd และ Roy นั่งมองบั้นท้ายกันอย่างเพลิน

Roy : นายไม่ห่วงบ้างเหรอถ้าเธอรู้เรื่องที่นายไปเล่นงานกับแฟนเก่าเธอน่ะ

Jason : เรื่องที่ฉันจะฆ่า ดิ๊ก ใช่ไหม แล้วทีตอน มันเล่นงานฉันล่ะ เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาหรอก

Jason : เพราะเอาเข้าจริงชาว ทามาราเนี่ยน มองมนุษย์แค่ภายนอก แถมพออยู่บนโลกพวกนี้ดันสมาธิสั้นด้วย ลองถามเธอดูเกี่ยวกับคนที่เธอเคยคบด้วยสิ

Roy : อืม น่าสนดี

จู่ๆ มีเงาดำลึกลับโผล่มาเรียก Jason

“เจสัน ขอเวลาหน่อย”

Jason : เดี๋ยวมานะรอย

Jason เดินแยกออกมาจาก Roy มานั่งคุยกับหญิงปริศนาชุดดำที่ชื่อ Essence

Jason : เธอคือคนสุดท้ายที่ฉันอยากจะเจอเลยนะ มีอะไร เอสเซนส์

Essence : มีการฆ่ากันตายในลัทธิ และเหยื่อที่ตายจะมีอวัยวะบางส่วนหายไปทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

Jason : โม้ป่าวเนี่ย เธอมาหาฉันเพื่อจะบอกเรื่องเล่าในตำนานของลัทธิหรือไงกัน

Essence : มันมีมากกว่านั้นเจสัน

Jason : กับเธอมันมีมากกว่านั้นตลอดแหละ  เอสเซนส์ กลับบ้านไปอย่าลืมของไว้แถวนี้ด้วย

Essence : อวัยวะที่หายไปจากเหยื่อ มันถูกดึงออกมาหนึ่งปีก่อนที่เหยื่อจะตาย และไม่มีร่องรอยการผ่าตัดด้วย

Jason : งั้นก็แปลว่า…

Essence : ใช่เป็นฝีมือพวก อันไตเติ้ล

Roy ถือโอกาสที่ Jason ไม่อยู่ลองแหย่ Kori เล่นๆถึงชื่อแฟนเก่าและเพื่อนเก่า ว่าจำได้หรือป่าวจะสมาธิสั้นเหมือนที่ Jason ว่าไว้ไหม

Roy : โคริ เธอจำคนชื่อดิ๊กได้ไหม

Kori : ไม่

Roy : แล้วเพื่อนเธอ การ์ธ ดัสติน วิก ล่ะ

Kori : จำไม่ได้

Roy : ลิลิธ? การ์?

Kori : นายนี่น่าเบื่อจัง

Roy : ก็ เจสัน อยู่ตรงนู้น คุยกับตัวเองอยู่

Kori : แล้วเราก็อยู่กันตรงนี้ นายอยากมีเซ็กส์กับฉันไหมล่ะ

Roy : พรวดดดดด เอ่มมมม แต่ เอ่ออ เธอไม่ได้เอ่อ คบกันเจสันอยู่เหรอ

Kori : ฉันเป็นอิสระจะทำอะไรก็ได้ตอนไหนอยากทำอะไรก็ทำอันนั้น ถ้าเธอไม่สนใจล่ะก็ ฉันไป…

Roy : อ้อ ไม่ ไม่เลย ยินดีซะอีก แล้วฉันต้องเตรียมตัวยังไงก่อนที่จะกินตับกับชาว ทามาราเนี่ยน

Kori : ก็ทำไปโดยไม่ต้องเอาความรักมาเกี่ยว ก็พอแล้ว

มาที่ Jason อีกรอบยังคุยกับหญิงชุดดำอยู่ ไม่รู้เลยว่ากำลังโดนตีท้ายครัว

Jason : ถึงเรื่องที่เธอพูดจะจริง แต่มันไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันหรือเธอเลย ก็เพราะพวก อันไตเติ้ลนั้นแหละเป็นเหตุผลให้ชนชั้น ออล คาสท รวมตัวเมื่อหลายร้อยปีก่อน

Essence : ในเมื่อกฎของลัทธิไม่มีผลกับฉันแล้ว เธอจงดูเอาเองละกัน

Essence ร่ายเวทย์หยดน้ำลงไปบนโต๊ะมีภาพปรากฏขึ้นมาเป็นพวกผู้หญิงในลัทธิที่นอนตายอยู่

Jason : นั่นพวกเธอเหรอ

Essence : นายดูก็รู้

Jason : เป็นไปไม่ได้พวก ออล คาสท ไม่มีทางโดนปราบง่ายแบบนี้ ยกเว้นจะมีเอเลี่ยนมาบุกโลกถึงจะทำได้

Jason : แล้วทำไมเธอถึงมาขอให้ฉันช่วย ทำไมไม่จัดการซะเอง

Essence : นายรู้คำตอบดีกว่าใคร นายก็อยู่นี่ตอนที่ฉันโดนพวกนั้นไล่ออกมาจาก  ออล คาสท ขอร้องล่ะเจสัน ฉันรู้ว่านายไม่มีทางกลับคำสาบาน แต่ครั้งนี้เพื่อฉันนะ

Jason : ก็ได้ แต่เธอต้องบอกฉันก่อนว่าทำไมเธอ…

ให้ตาย ฉันต้องไปฝึกหายตัวแบบนั้นบ้างแล้ว

ที่ Chicago
ชายผิวสีกำลังตรวจสอบข้อมูลอย่างขะมักเขม้น จนไปเจอรูปของ Kori เข้า ดูเหมือนเขากำลังตามหาชาว ทามาราเนี่ยน อยู่ด้วย

ที่ห้องนอนของ Jason เขาเดินเข้ามาเห็น Roy กับ Kori ที่เหนื่อยจากการกินตับเผด็จศึกกันเรียบร้อย ดูท่าทั้งคู่จะทำกันรุนแรงพอสมควรดูจาก รอยไหม้ที่หัวเตียงและรูปในห้องที่เอียงไปหมด เอาล่ะเข้าเรื่องดีกว่า Jason เดินมาหยิบชุดในห้องและเดินจากไป

 12 ชั่วโมงต่อมาในหุบเขาหิมาลัย ที่ซ่อนตัวของกลุ่มลัทธิ All Caste  เจสันได้พบกับศพของชนเผ่านี้นอนตายเกลื่อนแถมตรงกลางก็พบกับ Ducra ยายแก่ที่มีพระคุณต่อ Jason

Jason : ดูครา ผมขอโทษท่านด้วยที่ไม่ได้อยู่ดูแลท่าน ขอโทษด้วยที่ปล่อยให้คุณตาย

แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นในห้องพอ Jason หันกลับไปมองก็พบว่า ศพที่นอนตายอยู่รอบๆ กลับลุกขึ้นมาพร้อมที่จะเล่นงานเขา

 

ในที่สุดก็มีอะไรให้ยิงทิ้งซะที

…..ตอนต่อไป รวมตัว The Outlaws …..

เกร็ดน่ารู้

ในตอนนี้อาจจะมีงงบ้างซักเล็กน้อยนะครับ (อ่านตอนแรกผมก็งง) เพราะเรื่องลัทธิ All Caste พวกกลุ่มนักฆ่า Untitled กับหญิงที่ชื่อ Essence ไม่เคยปรากฏตัวที่ไหนมาก่อนเพิ่งจะมาโผล่ครั้งแรก แต่จากที่อ่านบทสัมภาษณ์ของผู้เขียน  Scott Lobdell ที่บอกว่าในตอนแรกของ Red Hood and The Outlaws เขาจะย้อนไปสู่เรื่องราวหลังจากการฝึกเข้าสู่ด้านมืดของ Jason หลังจากฟื้นมีชีวิตกลับมา โดยเขาน่าจะได้ไปฝึกกับลัทธิ All Caste ครับซึ่งเป็นกลุ่มที่เก่งและจัดการได้ยากตามที่ Jason บอกไว้ในเล่มนี้และกลุ่มนี้จะมีศัตรูที่ชื่อว่า Untitled ส่วน Essence น่าจะเป็นสมาชิกเก่าของ All Caste ที่โดนขับไล่ออกมา

มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงกิริยาของ Starfire ในเล่มว่ากลายเป็นคนใจง่ายไปซะแล้วนอนกับใครก็ได้ แต่ผมคิดว่าเดียวคงจะมีการอธิบายเพิ่มเติมถึงบุคคลิกที่เปลี่ยนไปของเธอครับ