FLASHPOINT #1 : โลกที่เปลี่ยนไป

DC Comic : FLASHPOINT : Vol.01 : โลกที่เปลี่ยนไป

เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Andy Kubert, Sandra Hope
วางจำหน่าย: 11 พฤษภาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

Event ใหญ่ประจำปี 2011 ของ DC Comic เริ่มขึ้นแล้ว Barry Allen จะทำอย่างไรเมื่อเขาตื่นขึ้นมาในวันหนึ่ง และพบว่าอยู่ในโลกที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง!?

“มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับชีวิต”

“ผมรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างนั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญ”

ในคืนวันหนึ่ง

ชายคนหนึ่งผู้สูญเสียมารดาอันเป็นที่รักไปเมื่อเขายังเด็ก กำลังทำงานล่วงเวลาอยู่ในห้องแลป ตอนนั้นเองสายฟ้าก็ฟาดเข้ามาในห้อง

มันผ่าโดนตัวเขา พร้อมกันนั้นก็ทำให้สารเคมีสารพัดชนิดผสมปนเปกันและหกลงมารดตัวเขา

เหตุบังเอิญนี้คือสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล

“และบางสิ่งนั้นเกิดขึ้นเพราะเราทำให้มันเกิดขึ้น”

Barry Allen ได้กลายมาเป็น The Flash ชายผู้รวดเร็วยิ่งกว่าแสง

ผู้พิทักษ์แห่งเมือง Central City

“แบรี่ อัลเลนเคยถูกถูกหลอกหลอนโดยอดีตอันเลวร้าย”

“แต่เมื่อเขากลายมาเป็น The Flash เขาได้ทิ้งเรื่องร้ายๆเหล่านั้นไว้เบื้องหลัง”

“เขาได้พบความรัก”

เขาแต่งงานกับ Iris West ผู้กลายมาเป็นที่พึ่งทางใจที่สำคัญของเขา ที่ทำให้เขาผ่านปัญหาเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวมากมาย

“และได้มีครอบครัว”

จากซ้าย Impulse (Irey West : ลูกสาวของ Wally West), The Flash (Wally West), Jessie Quick (Jessie Chamber : เป็นสมาชิกของ Justice Society of America), Max Mercury (Max Crandall), The Flash (Jay Garrick) และ XS (Jenni Ognats : ลูกหลานของ Barry ในยุคศตรวรรตที่ 31 เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ Bart Allen และตอนนี้อยู่ในทีม Legion of Super-Heroes)

(ไม่ยักมี Kid Flash (Bart Allen) แฮะ อาจเป็นเพราะเขาจะเป็นคนเดียวที่จะมีเล่ม Tie-In เป็นของตัวเองใน Event นี้ คนเขียนเลยเห็นว่ายังไม่ต้องใส่รูปในนี้ก็ได้มัง)

“และเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา…”

“ที่เขาได้มีเพื่อน”

“แบรี่คิดว่าในที่สุดเขาก็หลุดพ้นจากอดีตไปได้…”

“…แต่มีใครบางคนที่ไม่ยอมให้เขาหนีจากมันไปได้”

“ในตอนที่แบรี่มาขอความช่วยเหลือจากผม ผมบอกปฏิเสธไป”

“ผมนั้นไม่ใช่ตัวเอกของเรื่องราวนี้หรอก”

“ผมมันก็แค่ชายที่จ่อมจมอยู่กับความเจ็บปวดของตัวเอง ผมคือชายผู้ซึ่งสองมือแปดเปื้อนไปด้วยเลือดมากมาย จนไม่อาจเรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายธรรมะได้”

“ผมคือชายที่ไม่มีจุดหมายใดๆในชีวิต…”

“…จนกระทั่งผมได้พบกับเดอะแฟลช”

วันนั้น Barry Allen ตื่นขึ้นมาในแลป เขาทำงานล่วงเวลาเมื่อคืนก่อนหน้านี้ และนอนค้างที่แลป

เขาค่อนข้างสับสนเล็กน้อย ที่เพื่อนร่วมงานของเขาพูดถึงชื่อที่คุ้นหู แต่ก็แตกต่างอย่าง Citizen Cold, Miss Alchemy หรือ Pied Piper

และเมื่อเกิดคดี Barry Allen ก็ทำสิ่งที่กลายมาเป็นสัญชาติญาณของเขา…

เขารีบออกวิ่งไป แต่เมื่อเขามองไปที่มือของเขาก็ต้องพบว่าแหวนที่เขาใช้เก็บเครื่องแบบ The Flash นั้นหายไปแล้ว?! รวมทั้งเขาก็ไม่ได้กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงด้วย?!

ด้วยความตกใจ Barry ก็สะดุดกลิ้งตกบันไดลงมาที่พื้นชั้นล่าง

ขณะที่เขายังมึนงงอยู่ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

??? : แบรี่?

Nora : ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า?

Barry : แม่ครับ?

ที่อยู่เบื้องหน้าเขา คือหญิงชราที่เขาทั้งคุ้นตาแต่ก็แปลกตาไปพร้อมๆกัน แต่เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคือใคร เธอก็คือ Nora Allen แม่ของเขาผู้ที่ตายไปตั้งแต่ตอนเขายังเด็กนั่นเอง?

Barry : แม่ครับ? ผม…แม่? แม่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…?

Nora : ลูกสัญญากับแม่ว่าจะพาแม่ไปเลี้ยงอาหารเย็น เพื่อฉลองวันเกิดให้แม่ไงล่ะ

Nora : วันนี้คือวันเกิดของแม่ไง จำได้ไหม?

Barry : นี่แม่อยู่ตรงนี้จริงๆหรือครับเนี่ย?

Nora : แน่นอนสิจ๊ะ

Nora : ตรงเวลาเป๊ะ เหมือนเคยไงล่ะลูก

แม้เขาจะไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เขาก็เข้าสวมกอดแม่ของเขาอย่างดีใจสุดชีวิต

Barry : ผมดีใจจริงๆที่ได้เจอแม่อีกครับ

Nora : แหม แม่ก็ดีใจที่เจอลูกเหมือนกันจ้ะแบรี่

เมื่อหายจากการตื่นเต้นแล้ว Barry ก็รู้ทันทีว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าเป็นไปได้เช่นนี้ขึ้น มันก็แสดงว่าต้องมีเหตุผิดปกติบางอย่างขึ้นแน่

Barry : แม่ครับ ถ้าแม่มาอยู่ที่นี่ แล้วพ่อล่ะครับ?

Nora : นี่ลูกแน่ใจนะว่าลูกสบายดีอยู่น่ะ? โดนอะไรกระแทกเข้าที่หัวหรือเปล่าน่ะลูก?

Barry : พ่ออยู่ที่ไหนหรือครับ?

Nora : แบรี่ พ่อของลูกตายเพราะหัวใจวายเมื่อสามปีที่แล้วไงล่ะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือ? ทำไมเมื่อกี้ลูกถึงได้วิ่งลงบันไดล่ะ?

Barry : แม่ครับ ผม…

แล้วเขาก็ตัดสินใจเล่าความจริงให้แม่ของเขาฟัง

Barry : ผมคือเดอะแฟลชครับ และมันก็มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ใครบางคนจะต้องทำอะไร…

Nora : ใครคือเดอะแฟลชกันหรือ? ลูกกำลังพูดถึงอะไรกัน?

เจองี้เข้า เล่นเอาแบรี่อึ้งไปเลย…

Barry : เดอะแฟลชคือ…เป็นคนที่วิ่งได้เร็วมากๆ ที่อยู่ในทีมจัสติสลีกส์ไงครับ

Nora : แล้วอะไรคือจัสติสลีกส์กันล่ะ?

Barry : แม่ถามว่าใครคือจัสติสลีกส์งั้นหรือครับ? แล้วซุปเปอร์แมนล่ะครับ? แม่เคยได้ยินชื่อเขาไหม?

Nora : ซุปเปอร์แมนงั้นหรือ? แบรี่ ลูกพูดอะไรไม่มีเหตุผลเลยนะ ช้าลงหน่อยสิลูก

Barry : งั้นแล้วแบทแมนล่ะครับ?

Nora : แบทแมนหรือ? แหม แน่นอนสิจ๊ะว่าแม่ต้องรู้จักแบทแมนน่ะ

Nora : ใครบ้างที่จะไม่รู้จักเขากันล่ะ?

ที่เมือง Gotham City

“Batman” กำลังออกปฏิบัติงาน

ที่พื้นหลัง ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยโรงแรมและบ่อนคาสิโนที่ติดยี่ห้อ Wayne

เขากำลังไล่ตามวายร้ายหญิงนาม Yo-Yo

Yo-Yo : โอไม่! ไม่ๆนะ..

Batman เข้าแท็ค Yo-Yo จนล้มลง

Batman : บอกฉันมาซิโยโย่?

Batman : โจ๊กเกอร์มันอยู่ที่ไหน?

Yo-Yo : โจ๊กเกอร์อยู่ไหนงั้นเหรอ? โจ๊กเกอร์ก็อยู่ในตัวเราทุกคนนั่นแหละแบทแมน เขาอยูในตัวนาย ในตัวฉัน ในตัวทุกคนในเมืองกอธแฮมนี่ เราทุกคนต่างก็มีความบ้าอยู่ในตัวทั้งนั้นแหละ

Batman : ฉันไม่ได้บ้า

Yo-Yo : ไม่มีคนสติดีคนไหนอาศัยอยู่ในกอธแฮมหรอก ใช่ไหมล่ะ?

Batman : บอกฉันมาว่าที่ซ่อนในตอนนี้ของโจ๊กเกอร์อยู่ที่ไหน บอกมาในขณะที่เธอยังพูดได้อยู่

Yo-Yo : มันค้างอยู่ปลายลิ้นฉันน่ะนะ

เมื่อเจอเล่นมุข Batman ก็เลยรับมุขซะ

Batman : ถ้างั้นเราก็มาเอามันออกกัน

เขาเอาคมของ Bat-tarang กรีดแว่นตาของ Yo-Yo

Batman : ลูกฝาแฝดของผู้พิพากษาเดนท์ถูกลักพาตัวไปเมื่อคืนนี้ ฉันรู้ว่าโจ๊กเกอร์เป็นคนทำ พวกนั้นอยู่ที่ไหน?

(อื้อหือ Harvey Dent (Two-Face) ที่ใน Timeline หลักเป็นอัยการ ในTimeline นี้เป็นผู้พิพากษาเลยเรอะ)

Yo-Yo : ถึงต่อให้ฉันจะรู้ก็เถอะนะ แต่มันก็ไม่ช่วยอะไรนายหรอกแบทแมน มันอาจจะช้าไปแล้ว พวกนั้นอาจจะตายไปแล้วก็ได้

Batman : ถ้างั้นแกก็จงตายตามไปซะ

Yo-Yo : เดี๋ยว..!

ว่าแล้ว Batman ก็จัดการโยน Yo-Yo ลงจากยอดตึกไป โดยไม่มีทีท่าว่าจะทำอะไรเพื่อช่วยชีวิตเธอเลยแม้แต่น้อย?

แต่วายร้ายสาวยังไม่ถึงคราวตาย เพราะ Cyborg (Victor Stone) มารับไว้ทัน

Yo-Yo : นายคือไซบอร์คหรือเนี่ย? ฉันยอมแพ้แล้ว

Cyborg : ฉลาดแล้วล่ะ

เมื่อจบเรื่องของ Yo-Yo แล้ว Cyborg ก็หันไปสนใจธุระของเขาต่อ

Cyborg : แบทแมน!

Batman : นายน่าจะปล่อยให้ยายนั่นกระแทกพื้นตายไปซะ

Cyborg : จะไม่ถามหน่อยหรือว่าฉันหานายเจอได้ยังไง?

Batman : จากคลื่นความร้อน, ตรวจจับด้วยคลื่นเสียง หรือไม่ก็ใช้ดาวเทียมค้นหาของนายตรวจดูทั้งกอธแฮมหรือไง

Cyborg : มันง่ายกว่านั้นอีกนะ เพราะเมื่อกอธแฮมเข้าสู่ช่วงเวลากลางคืน ก็คือเวลาที่นายออกล่า และนายก็ต้อนพวกนั้นมาที่ยอดตึกแถวตรอกนี้เสมอๆ

Cyborg : มันสูงเอาการใช่ไหมล่ะ

Batman : ยายนั่นลื่นตกลงไปเอง

Cyborg : คงมีลื่นตกไปหลายคนแล้วสินะ แต่ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเอาผิดอะไรกับนายหรอกแบทแมน

Batman : นายคงเป็นคนแรกที่ไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้น

Cyborg : เราต้องการความช่วยเหลือของนาย

Batman : “เรา” งั้นรึ?

Cyborg : ใช่

แล้ว Cyborg ก็กดปุ่มที่แขนของเขา แล้วภาพของกลุ่มคนที่มีทั้งที่คุ้นหน้าและไม่คุ้นหน้าก็ปรากฎขึ้น

Cyborg : พวกเราทุกคนนี่แหละ เอาล่ะ ทุกคนมารวมกันได้แล้ว ถึงเวลาต้องโหวตกันแล้ว

ตัดมาทางด้าน Barry เขามาที่สถานีข่าว Central City Citizen ที่ทำงานของ Iris

ซึ่งเขาก็พบเธออย่างรวดเร็ว…แต่ทว่า…

…เธอกลับไม่รู้จักเขา แถมยังมีแฟนแล้ว ซึ่งแน่นอน…ไม่ใช่เขา…

Barry ก็เลยช็อคอย่างแรง แล้วก็หลบออกมาโดยไม่ต้องการให้เธอเห็น

ที่ข้างนอก ขณะที่ Nora กำลังรอลูกชายอยู่ข้างนอก ก็มีเสียงพูดกับเธอ พร้อมกับที่มีเงาร่างจางๆพุ่งผ่านด้านหลังของเธอ

The Reverse-Flash : มันช่างดีจริงๆที่ได้เห็นคุณมีชิวิตอยู่อย่างสุขสบายดีแบบนี้น่ะ คุณนายอัลเลน

Nora : ใครน่ะ?

Barry : แม่ครับ!

เมื่อลูกชายของเธอกลับออกมา Nora ก็ต้องพบว่าสีหน้าของเขาเจ็บปวดสับสนอย่างยิ่ง

Barry : ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่เราคงต้องทานอาหารค่ำกันทีหลังแล้วล่ะ นี่ผมมีรถหรือเปล่าครับ?

Nora : ไม่มีนี่จ๊ะ

Barry : งั้นผมขอยืมรถของแม่ได้ไหมครับ?

Barry : ผมต้องไปพบใครบางคน

ตัดกลับมาทางด้าน Batman

Batman : นี่มันภาพโฮโลแกรมนี่

Cyborg : พวกเขาบางคนอยู่ในระหว่างหลบซ่อนตัวอยู่ บางคนก็ไม่ต้องการจะเปิดเผยโฉมหน้า

Pedro : นั่นแบทแมนนี่ เขามีอยู่จริงๆด้วย

Billy : เขาแก่กว่าที่ฉันคิดเสียอีกนะเนี่ย

Freddy : เขาทำงานนี้มานานว่าเรามากนี่นะ

แล้ว Cyborg ก็กดปุ่มฉายภาพข่าวทางโทรทัศน์

Cyborg : นายรู้ว่าเรามาที่นี่ทำไมนะแบทแมน มีคนมากกว่าร้อยล้านคนเสียชีวิต ในตอนที่พวกแอตแลนติสจมยุโรปตะวันตกลงไปในทะเล

Cyborg : แล้วก่อนหน้านั้น สามสิบสองล้านคนถูกสังหารโหดเมื่อพวกอมาซอนเข้ายึดสหราชอาณาจักร(อังกฤษ+สก๊อตแลน) เป็นเธมิสไคร่าแห่งใหม่ของพวกนั้น

Cyborg : พวกมันต่างก็ต้องการจะยึดครองโลก เราจะต้องจัดการอควอแมนกับวันเดอร์วูแมน ก่อนที่โลกทั้งโลกจะพินาศจากการต่อสู้กันเองของพวกมัน นายก็รู้ว่าพวกมันต่างก็ทรงพลังขนาดไหน และนายก็รู้ด้วยว่าพวกมันมีพันธมิตรที่ร้ายกาจขนาดไหน ฉันต้องการรู้ และฉันต้องรู้เดี๋ยวนี้ด้วย…

เขาหันไปถามเหล่าคนที่ร่วมประชุมอยู่

Cyborg : …ว่าใครจะสู้ร่วมกับฉันบ้าง?

Element Woman : ฉันจ้า!

Element Woman : ฉันไม่เคยถูกชวนให้ร่วมทำอะไรเลยมานานแล้ว มันท่าทางน่าสนุกดี…

(คนนี้น่าจะเป็น Element Girl (Urania Blackwell) ของ Timeline หลัก เป็นคนที่มีความสามารถเปลี่ยนร่างเป็นธาตุอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่คนนี้ชื่อ Emily Sung)

Citizen Cold : สนุกงั้นเรอะ? สำหรับเธอก็อาจใช่นะเอเลเมนธ์วูแมน แต่สำหรับผู้ชายแบบฉัน ไม่สิ กับผู้ชายทุกคนที่เหยียบแผ่นดินอดีตสหราชอาณาจักรฯ…ได้ยินมาว่าจะโดนจับ…*อนกันหมด

(ใน Timeline หลัก เขาคือ Captain Cold ผู้นำกลุ่ม The Rogues แต่ใน Timeline นี้เขาเป็น Hero อันดับหนึ่งของ Central City แต่การทำงานของเขาดูจะไม่โปร่งใสนัก เพราะทางแลปของตำรวจกำลังหาหลักฐานว่าเขาทำงานแบบผิดกฎหมาย และมีการตามปิดปากคนที่รู้ความลับของเขาด้วย)

Pied Piper : ฉันขอร่วมกับนายด้วยนะไซบอร์ค เรามีแบทแมนอยู่ฝ่ายเรา แล้วฉันก็ติดหนี้บุญคุณนายที่ช่วยรักษาให้ฉันกลับมามีเสียงอีกครั้ง แต่ฉันไม่ชอบการรวมทีมแบบนี้เลย ยกตัวอย่างเช่นเจ้าซิติเซนโคลด์นี่

(ใน Timeline หลัก Pied Piper (Hartley Rathaway) เป็นอดีตสมาชิกของ The Rogues แต่ภายหลังเขากลับตัวไปเป็นฝ่ายเดียวกับ The Flash และพยายามตามจับพรรคพวกเดิมของเขา แต่ลงท้ายเขาจับพลัดจับผลูไปช่วยพวก The Rogues ฆ่า Inertia วายร้ายเด็กที่หลอกใช้พวก The Rogues ฆ่า Bart Allen (Bart คืนชีพขึ้นมาในภายหลังในช่วง Final Crisis : Legion of Three World) ซึ่งเขาก็ไปมอบตัวหลังจากนั้น)

Citizen Cold : เฮ้ แค่เพราะแกหลงรักฉันแล้วฉันไม่รักตอบ ก็อย่ามาพูดพล่ามไอ้เรื่องที่แกระแวงไปเองแบบนั้นสิ

Pied Piper : แกเคยพยายามจะปิดปากฉันมาแล้วนะโคลด์ แกทำลายเส้นเสียงของฉัน

Pied Piper : ทุกคนต่างก็รู้กันทั้งนั้นแหละ ว่าไอ้ที่แกทำตัวเป็นคนดีนั่นมันเป็นแค่การเสแสร้งเท่านั้นแหละ

Citizen Cold : งั้นก็ลองพิสูจน์ดูสิไปเปอร์ แล้วก็ลดอาวุธแกลงจะดีกว่า มันไม่ได้อะไรขึ้นมาอยู่แล้ว ในเมื่อเราต่างก็ไม่ได้อยู่ที่นี่กันจริงๆนี่

ตานี้ถึงคราวคนหน้าใหม่กันบ้าง (จริงๆ เพราะผมไม่รู้จักพวกนี้เลย)

Blackout : ฉันค่อนข้างจะเห็นด้วยกับไพด์ไปเปอร์นะ ฉันรู้ว่าพวกเราต่างอยู่ในสถานการณ์เดียวดัน แต่นายกำลังจะขอให้ฉันทำงานร่วมกับพวกเอาท์ไซเดอร์เนี่ยนะ? เจ้าพวกบริษัทโรคจิตนี่ตามล่าฉันมาเป็นเดือนแล้ว! ฉันต้องลาออกจากโรงเรียน! ฉันต้องเสียแฟนฉันไปด้วย!

Blackout : เจ้าพวกเอาท์ไซเดอร์นี่มันทำลายชีวิตฉัน!

??? : แกเพิ่งอายุ 15 เท่านั้นเองนะฟารุค แกไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชีวิตหรอก และแกก็จะไม่มีโอกาสได้รู้ด้วย ถ้าพวกอควอแมนกับวันเดอร์วูแมนยังไม่ถูกจัดการ

??? : และที่แกมากล่าวหาฉันว่าฉันตามล่าเนี่ยนะ? แกสามารถให้พลังงานแก่ประเทศของฉันได้เป็นปี…หรือกับประเทศไหนๆในโลกก็ตาม แกเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดและทรงพลังที่สุดบนโลกนะ แบล็คเอาท์ นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันยอมรับว่าทำตามทื่แกกล่าวหาหรอกนะ แต่อินเดียจะได้รับประโยชน์อย่างมากทีเดียว ถ้าเสียบปลั๊กเข้ากับตัวแก…แต่ทุกประเทศก็คิดเหมือนกันหมดน่ะนะ

Cyborg : พวกเราไม่ใช่เพื่อนกัน เราต่างก็รู้ดีกันทั้งนั้น แต่ตอนนี้เรื่องที่มันผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป

Cyborg : เพราะวันพรุ่งนี้ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ

??? : สงครามนั้นมันไม่ดีต่อธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจของฉัน ถึงฉันจะขยะแขยงสุดๆที่จะต้องมาร่วมมือกับทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ ยกเว้นนายน่ะนะไซบอร์ค…พวกเราเอาท์ไซเดอร์ขอร่วมด้วย แต่อย่าได้คิดว่าฉันจะยอมลงมือลุยให้สูทฉันเปื้อนก็แล้วกัน

(Outsider นั้นใน Timeline หลักเป็นทีมที่ Batman ก่อตั้งขึ้นเพื่อทำงานในที่ลับซึ่ง JLA ไม่สามารถปฏิบัติการได้ ซึ่งก็มีกำหนดการว่าจะให้พวกเขาเข้าร่วม Batman Inc. ด้วย แต่สำหรับตาเหม่งหน้าแตกคนนี้นั้น ผมไม่รู้จริงๆว่าเขาเป็นใคร)

Citizen Cold : ช่าย ฉันก็เอาด้วยเหมือนกัน

Sandman : ฉันเคยฝันถึงเรื่องนี้เมื่อตอนปี 1937 หรือไม่ก็ 1938 ฉันน่าจะจดมันลงสมุดไว้นะ แต่ฝันที่บันทึกลงกระดาษมันไม่ดีเท่าของจริงอยู่แล้ว ถ้ามีแบทแมนอยู่ด้วย…ฉันก็เข้าร่วมด้วยเหมือนกัน

(อันนี้ผมไม่แน่ใจ 100% แต่ถ้าพูดถึงคนในเสื้อโค๊ทกับหน้ากากกันแก๊สในจักรวาล DC ก็เห็นจะมีแต่ Sandman เท่านั้น แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นคนไหนเพราะมีกัน 2 รุ่น แต่ถ้าอยู่มาตั้งแต่ปี 1937 เขาก็น่าจะเป็นคนแรกที่ชื่ิอ Wesley Dodds)

แล้ว Cyborg ก็หันไปถามเจ้าหน้าที่ Green Lantern ประจำเขตอวกาศ 2814

Cyborg : แล้วคุณล่ะอาบิน?

Abin : หากเหล่าการ์เดี้ยนอนุญาต ผมก็จะช่วยคุณปกป้องดินแดนของคุณ

(Abin Sur เป็นเจ้าหน้าที่ GL ที่ดูแลเขตอวกาศ 2814 แต่ใน Timeline หลัก จากการที่ยานอวกาศของเขาตกบนโลกทำให้เขาต้องเสียชีวิตไป และแหวนพลังก็เลือก Hal Jordan มาเป็นผู้สืบทอด แต่ใน Timeline นี้เขาไม่ตาย ดาวโลกจึงไม่เคยมีคนเป็น Green Lantern)

แล้วก็มาถึงพวกนักเวทย์

Element Woman : คุณได้ฉันเข้าร่วมด้วย ใช่ไหมล่ะไซบอร์ค ฉันบอก “ตกลง” ไปแล้วนี่ แบบว่ามันไม่บ่อยนักหรอกที่ฉันได้เข้าร่วมอะไรกับเขาบ้างน่ะ!

Enchantress : ยายนั่นกำลังสมัครเข้าร่วมทัวร์ลงสู่นรก

Shade : ปล่อยเอเลเมนธ์วูแมนไปเถอะ เอนชานธ์เตรส เธอหยุดตัวเองไม่ได้หรอก

Shade : เสื้อคลุมเมตา-เวสต์ของฉันสามารถสัมผัสมันได้ในตัวเธอ เอมิลี่ ซุงค์ หรือเอเลเมนธ์วูแมนนั้นสติไม่ค่อยดี

(Shade The Changing man (Rac Shade) เป็นตัวละครจากค่าย Vertigo ค่ายลูกของ DC Comic เขาเป็นเพื่อนสนิทกับ John Constantine เสื้อคลุมที่เขาใส่นั้นสามารถทำให้เขาบิดเบือน “ความเป็นจริง” ได้)

(The Enchantress (June Moone) ใน Timeline หลักเธอเป็นจอมเวทย์หญิงที่เดี๋ยวก็อยู่ฝ่ายดี เดี๋ยวก็ฝ่ายร้าย ล่าสุดอยู่ในทีม Shadowpact)

Cyborg : แล้วพวกซีเครตเซเว่นจะเอายังไงล่ะเชดจ์

Enchantress : คำตอบคือไม่

Shade : เราจะต้องโหวตกันนะเอนชานธ์เตรส พวกสมาชิกคนอื่นๆของเรายังไม่ต้องการเปิดเผยตัว แต่พวกเขาก็มีสิทธิ์ออกความเห็นด้วย ถ้าฉันจะขอถามพวกเขาก่อนน่ะนะ?

แล้ว Shade ก็หันไปถามทางมุมที่ไม่มีใครยืนอยู่

Shade : เราจะสู้ไหม?

S71 : ฉันคงจะต้องขอตอบว่าสู้น่ะนะแรค

S72 : ไม่สู้

S73 : สู้

S74 : ไม่สู้

S75 : สู้

Enchantress : ไม่สู้

Shade : ฉันว่าจะสู้ งั้นก็เป็นสี่ต่อสาม เพราะงั้นเราจะร่วมสู้ด้วย

(ใน Timeline หลักจะมีทีม Secret Six ซึ่งเป็นการรวมกันของพวกวายร้ายระดับ A- ถึง B+ จำนวน 6 คนตามชื่อทีม โดยสมาชิกประกอบด้วย Bane, Rag Doll, Catman, Deadshot, Scandal Savage และ Jeannette แต่ก็คงไม่เกี่ยวกับ Secret Seven ใน Timeline นี้

Enchantress : เธอมันชอบขัดฉันอยู่เรื่อยเลยนะแม่เจ้าหญิง

เหล่าพวกที่ไม่ใช่จอมเวทย์ ต่างเพ่งตามองจุดที่มีเสียงพูดออกมาแต่ก็ไม่เห็นใครเลย

แล้วก็มาถึงตาเหล่าฮีโร่เด็ก

Pedro : เราก็ต้องโหวตเหมือนกัน! ทอว์นนี่กับฉันขอบอกว่า “ไม่สู้”

Billy : นี่เปโดร ทอว์นนี่พูดไม่ได้เสียหน่อย

Pedro : บิลลี่ ตอนนี้ปารีสจมอยู่ใต้น้ำลึกสองไมล์นะ! แล้วจะให้ทอว์นนี่ไปทำอะไรล่ะ หือ? เสือน่ะหายใจในน้ำไม่ได้นะ และฉันก็เหมือนกันด้วย!

Freddy : ฉันต้องขอพูดนะบิลลี่ ฉันรู้ว่านายมีความกล้าของอคิลลิสอยู่ แต่จากการที่ฉันมีอำนาจแห่งซูสอยู่มันทำให้ฉันคิดได้จะแจ้งกว่า เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับพวกหุ่นยนต์ที่เราตามหาอยู่นะ

Marry : นี่เป็นเรื่องที่ต้องทำกันเป็นทีมนะเฟรดดี้ และครอบครัวของเราก็มีอยู่เพื่อการนั้น

Freddy : เธอกับบิลลี่อาจจะเป็นครอบครัวเดียวกันก็จริงอยู่นะแมรี่ แต่พวกเราคนอื่นๆไม่ใช่นะ

Freddy : เราก็แค่เด็กกลุ่มหนึ่งที่บังเอิญติดอยู่ในรถไฟใต้ดิน ที่โดนจี้ให้ไปยังฮอควอร์ดเท่านั้นเอง

Darla : เธอมีความรอบรู้แห่งโซโลมอนนี่ ยูจีน เธอคิดว่าไงล่ะ?

Eugene : ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่แก้ได้ง่ายมากเลยล่ะดาร์ล่าที่รัก เราควรจะถามกัปตันธันเดอร์ไงล่ะ

Freddy : จริงด้วย ถามกัปตันธันเดอร์กันดีกว่า!

Pedro : ต้องเรียกเขาอีกแล้วเหรอ!

Billy : งั้นเอาเลย

เมื่อเด็กทั้ง 6 คนพูดคำศักด์สิทธิ์ “S.H.A.Z.A.M.” สายฟ้าก็ฟาดลงมา พร้อมกับที่ร่างของพวกเขารวมกันเป็นฮีโร่ร่างใหญ่ทรงพลัง “Captain Thunder” รวมทั้งเสือของ Pedro ก็กลายเป็นสัตว์อสูรสวมเกราะร่างยักษ์

Captain Thunder จ้องมองไปยังเหล่าผู้ร่วมประชุม ที่ต่างก็เห็นรอยแผลเป็นบนหน้าของเขาอย่างชัดเจน

Captain Thunder : วันเดอร์วูแมนได้เคยฝากรอยประทับไว้บนตัวของฉัน

Captain Thunder : คราวนี้ฉันจะฝากรอยประทับไว้ให้มันบ้าง เราจะไปกันเมื่อไหร่ล่ะ?

(ในTimeline หลัก Billy Batson คือผู้ได้รับพลังจากพ่อมด Shazam ให้สามารถใช้คำศักดิ์สิทธิ์ในการแปลงร่างเป็น Captain Marvel โดยมีน้องสาวฝาแฝดของเขา Mary Batson และเพื่อนของเขา Freddy Freeman ร่วมด้วยในฐานะ Mary Marvel และ Captain Marvel jr. (พวกเขาอายุเท่า Billy แต่ในร่างแปลงพวกเขาจะดูเด็กกว่า) เข้าพิทักษ์ความถูกต้อง แต่ในภายหลัง Billy และ Mary ถูกพ่อมดริบพลังคืน และ Freedy ก็กลายมาเป็น Captain Marvel แทน แต่ในช่วง Brightest Day เขาโดน Osiris (Amon Tomaz) แย่งเอาพลังไปมอบให้กับ Isis พี่สาวของเขาเพื่อปลดปล่อยเธอจากการโดนสาบเป็นหิน ซึ่งก็เป็นภารกิจที่เขาได้รับจากแสงสีขาวที่ชุบชีวิตเขาขึ้นมา)

(ส่วนอีกสามคนนั้น ไม่รู้จักครับ)

เกร็ดเล็กน้อย : คำศักด์สิทธิ์ “S.H.A.Z.A.M.”นั้นแบ่งเป็น
S = ปัญญาแห่งโซโลมอน
H = พละกำลังแห่งเฮอร์คิวลิส
A = ความทนทานแห่งแอตลาส
Z = อำนาจแห่งซุส
A = ความกล้าหาญแห่งอคิลลิส
M = ความเร็วแห่งเมอร์คิวรี่

Cyborg : เราจะไปเมื่อเราวางแผนกันเรียบร้อยแล้ว และนั่นคือหน้าที่ของนายล่ะแบทแมน ไม่มีนักวางกลยุทธคนไหนบนโลกที่เก่งกว่านายอีกแล้ว…

Batman : ลืมไปได้เลย

Cyborg : แบทแมน…

Batman : นายไม่มีโอกาสชนะหรอกไซบอร์ค

Cyborg : อควอแมนกับวันเดอร์วูแมนไม่ได้ไร้เทียมทานหรอกน่า

Batman : ฉันไม่ได้พูดถึง “ราชา” กับ “ราชินี” ฉันพูดถึงก๊วนคู่กัดที่นายพยายามจะรวมทีมกันอยู่นี่

Batman : ในทันทีที่นายสามารถเอาพวกงี่เง่านี้มารวมกันในห้องเดียวกันได้…พวกนี้ก็จะฆ่ากันเองจนตายแล้วพวกมันก็จะฆ่านายต่อ

Cyborg : โลกนี้กำลังจะเข้าสู่สงครามนะแบทแมน! และถ้ามันเกิดขึ้นล่ะก็จะไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่อีก! รวมทั้งกอธแฮม! รวมทั้งตัวนายด้วย!

Batman : เราก็ได้แต่หวังไว้ล่ะนะ

เมื่อ Batman จากไป พวกที่เหลือก็เปลี่ยนท่าทีทันที

??? : ฉันนึกว่านายจะเกลี้ยกล่อมแบทแมนได้ แต่ถ้าเขาไม่ร่วมด้วยเอาท์ไซเดอร์ก็ไม่เอาด้วยเหมือนกัน

Citizen Cold : ขอโทษทีนะวิค

Enchantress : …ซีเครตเซเว่นก็ต้องขอคิดดูใหม่เหมือนกัน…

Blackout : …มันอันตรายเกินไป…

Blackout : …มันเป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ

ทุกคนต่างจากไป เหลือแต่เพียง Cyborg ที่ยืนปวดใจกับสถานการณ์ที่โลกกำลังจะพินาศ แต่คนที่สามารถทำอะไรได้กลับไม่ยอมทำอะไรเลย…

กลับมาทางด้าน Barry Allen เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังเมือง Gotham ซึ่งระหว่างทางเขาก็ไม่อาจระงับความรู้สึกสับสนและเจ็บปวดเอาไว้ได้

ระหว่างสิ่งที่เขาได้คืนมา…กับสิ่งที่เขาต้องสูญเสียไป…

เขาไปถึงคฤหาสถ์ Wayne ก็พบว่ามันร้างผู้คน

เขาจึงตัดสินใจไปตรวจดูทางเข้าลับที่จะต่อลงไปยัง Batcave และพบว่ามันยังอยู่ดี

ภายใน Batcave เขาพบว่ามันดูแตกต่างจากที่เขารู้จักมาก ไม่มีโรงเก็บอุปกรณ์ไฮเท็ค ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีโรงเก็บ Batmobile

เขามองไปบนโต๊ะ ก็พบอุปกรณ์พื้นฐานอย่างตะขอเชือก,เข็มขัดอุปกรณ์, Bat-tarang และปืนยิงลูกดอก

ใกล้ๆกันนั้น เขาเห็นปืนกระบอกหนึ่ง เก็บไว้ในโหลแก้ว

และสุดท้ายเขาก็หันไปเห็นรูปภาพของครอบครัว Wayne ที่ประกอบด้วย Thomas Wayne, Martha Wayne และลูกชายของเขา Bruce Wayne

แล้วทันใดนั้นก็มีมือมาจับที่ไหล่เขา

“ตอนที่ผมพบกับแบรี่ อัลเลนเป็นครั้งแรกนั้น ผมเกือบจะฆ่าเขาตายเลยทีเดียว”

“ก็อย่างที่ผมว่าไว้ ผมนั้นไม่ใช่ตัวเอกของเรื่องราวนี้หรอก”

Batman : แกเป็นใคร?

Batman ทุ่ม Barry ลงกับโต๊ะจนแตกกระจุย แล้วก็เหวี่ยงเขาติดผนัง

Batman : บอกมาว่าแกเป็นใคร?

เขารีบเรียกชื่อของคนที่เขารู้จักออกไป

Barry : บรูซ หยุดก่อน!

เมื่อได้ยินชื่อนั้น Batman ก็ถึงกับชะงักไป

Barry : นายต้องจำให้ได้สิ นี่ฉันเอง แบรี่ อัลเลนไงบรูซ

Batman : บรูซงั้นรึ?

Barry : ฉันรู้ชื่อจริงของนาย ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

Batman : บรูซ…

Batman : บรูซตายไปแล้ว…

Batman : ฉันเห็นเขาตายไปกับตา…

เมื่อได้ยินที่ชายตรงหน้าพูด Barry ก็ต้องตกตะลึงกับความจริงที่เขาได้ค้นพบ

Barry : นี่มัน…คุณพระช่วย…คุณ…

Barry : คุณคือโธมัส เวย์นหรือเนี่ย?!

ใน Timeline นี้ ในคืนแห่งชะตากรรมที่ให้กำเนิด Batman นั้น ผู้ที่รอดจากวันนั้นและกลายมาเป็น Batman อัศวินแห่งความแค้นก็คือ Thomas Wayne ส่วนคนที่ตายในคืนนั้นก็คือ Bruce Wayne ??!!??!!

Barry Allen จะทำอย่างไรกับโลกที่ผิดเพี้ยน และกำลังจะเกิดสงครามใหญ่ระหว่างสองขั้วอำนาจ ที่อาจทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง?! โดยที่มิตรที่เคยมีต่างกลายเป็นคนที่ไม่เคยรู้จัก หรือไม่ก็กลายเป็นคนที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง!?

โปรดติดตามตอนต่อไป ใน Flashpoint Vol.2 : สายฟ้าจะฟาดลงมาที่เดิมซ้ำสองหรือไม่?

42 thoughts on “FLASHPOINT #1 : โลกที่เปลี่ยนไป

  1. Pocky-cat

    เป็นเล่มที่เราร้อง OMG! ตั้งกะหน้าแรกยันหน้าสุดท้าย สุดยอด!!
    นักเขียนใส่ไอเดียเข้ามาเต็มที่เลย
    – สงสารแบร์รี่ชะมัด ตอนจูบหน้าผากแม่ น่ารีากอ่ะ
    – แบทแมนนี่….ความรุนแรง มันอยู่ใน DNA สินะ ^^”
    โทมัสน่ะ เป็นหมอนะเฟ้ย มันจะจิตหลุดกันไปได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ
    มันมีเรื่องเลวร้ายอะไรเกิดขึ้นมากกว่าที่เราคิดรึเปล่า
    – ไซบอร์กเจ๋งมาก พยามรวบรวมกำลังพลเท่าที่หาได้ จะร้ายหรือดีช่างมัน
    น่าจะเป็นผู้นำที่ดีได้ ในสถานะการณ์เลวร้ายแบบนี้อ่ะนะ
    – เสือน่ารักง่า แต่บิลลี่กลายเป็นเด็กอ้วนได้ไงฟะ
    – ชอบยูจีน เนิร์ดดี

    อยากอ่านเล่มสองแล้ววววว

    ขอบคุณสำหรับสปอยนะค้า

  2. comic

    ถ้าไม่ได้คนแปลอธิบายงงเป็นไก่ตาเเตกเลย….จัยจ้า
    เเล้วมิตินี้เป็นตัวหลักหรือปล่าวทำไมเดอะเเฟชเป็นของมิติหลัก

  3. NetNN Post author

    @ Pocky-cat:

    เด็กคนอ้วนๆนั่นชื่อ Pedro ครับ Billy คือคนที่ใส่เสื้อยืดสีแดง

  4. enigmazombie

    ขอบคุณครับสนุกมากเลย อยากเห็นบทเฮียซุปโผล่เร็วๆ

  5. T.Rex

    ผมอาจจะอ่านคอมิคมานานเกินไปหรือเปล่าหนอ
    เพราะเรื่องชุดนี้กลับทำให้ผมนึกถึง Ages of Apocalypse หรือ House of M
    เรื่องแบบนี้ ที่เขาเรียกกันว่า Imgination Story มีปัญหาใหญ่อยู่ข้อหนึ่ง
    คือเมื่อเรื่องจบมันก็มักจะไม่ค่อยมีผลกระทบแท้จริงต่อภาพรวมสักเท่าไหร่ (เพราะยังไงมันก็ต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิมอยู่แล้ว)
    แต่มักจะได้คาแร็คเตอร์ใหม่ๆทีคนอ่านนิบมมาเขียนต่อ
    และมีผลกระทบต่อแฟนๆในแง่สร้างความน่าสนใจ และขายดี
    นักเขียนรุ่นหลังๆรู้ดีก็เลยมักจะพยายามสร้างผลกระทบของเหตุการณ์ต่อจักรวาลหลัก อย่าง No More Mutant ใน HoM แต่เอาเข้าจริงๆมันก็แค่ชั่วคราว
    ผมเชื่อว่าจอห์นคงมีอะไรดีเตรียมไว้
    แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าดีซีออกจะใช้งานเขาหนักไปหน่อยแล้ว ไอเดียของเขาน่าจะเป็นแกนของดีซียิ่งกว่ามอร์ริสัน(ที่ยังไงก็คงจะยึดครองแบทแมนต่อไป)

  6. NetNN

    @Voetenwith

    เล่นเอาอึ้งไปเลยครับ…แบบว่าเหมือนเด๊ะ!

  7. thini

    เอ…แล้วทำไมแบรี่ถึงยังจำเหตุการณ์ก่อน flashpoint ได้ล่ะเนี่ย

    “ก็อย่างที่ผมว่าไว้ ผมนั้นไม่ใช่ตัวเอกของเรื่องราวนี้หรอก”<<<< ประโยคนี้ใครพูดเหรอครับ แบทแมนรึเปล่า

  8. Tao-man

    ไม่ว่าจะเป็นโลกไหนJokerก็ยังบ้าไม่เสื่อมคลาย

  9. AlexXx

    โอววววว สุดยอดจิงๆครับ
    เหลือแต่ Superman จะผิดเพื้ยนหรือป่าวนี่

  10. GHOSTRIDER

    สงสัยว่าทำไมเอาไซบอร์กมาเป็นตัวหลักแทนซุปเปอร์แมน
    DC สนับสนุน โอบาม่า หรือเปล่านี่

    กลัวว่าทุกอย่างจะลงเอยเหมือนเดิมเหมือนกัน
    และกลัวว่าจะเป็นเหตุการณ์กำจัดตัวละครหรือทีมบางทีมออกไปอีกครับ

    แต่รอแบรี่แก้ไขสถานการณ์ โลกใบนี้ไม่มีเดอะแฟลช
    คงต้องรอบาร์ธ อัลเลน ข้ามโลกมาช่วยแล้ว

  11. Pocky-cat

    สำหรับซุปเปอร์แมน…

    คงต้องรอคุณพ่อไปช่วยลูกเขยออกมาก่อนนะคะ

    ———-
    Grant Morrison เหมือนมากกกกกก!!

  12. NetNN Post author

    @thini:

    ที่ Barry ยังจำเรื่องราวได้ เป็นเพราะตัวต้นเหตุของเรื่องซึ่งก็คือ the Reverse-Flash กำนดให้เป็นแบบนั้นครับ เพราะเจ้านั่นตั้งการให้ Barry ทุกข์ทรมาณ ดังนั้นถ้าเขาจำไม่ได้ก็ไม่มีความหมาย

    แล้วก็ใช่ครับ ประโยคบรรยายนั้นเป็นของ Batman

  13. kiki

    สงสารไซบอร์คมากครับ เหมือนจะมีความหวัง แต่พอแบทแมนไม่เอาทุกอย่างก็จบ

  14. ZeKung

    พอยอ้ยกลับไปดูปกเก่าๆ ที่เคยปรกกาศไว้ ยิ้งน่าลุ้นเข้าไปอีก

  15. seventoon

    เห็นด้วยกับคุณ T.rex ครับ
    แต่เงีือนไข แฟลช พอท มันได้อารมร่วมจริงจริงนะ ตอนนี้ อาจะมีจุดหลงเหลือและปริศนามากมายให้ขบกันตามสไตล์DC
    แต่ผมว่า มันก็มันส์ดีนะ อ่านแล้ว ลุ้นทุกหน้าเลย เพราะผมชอบแนวรวมตัวหลาย หลายคนและปริศนาก็ต้อง ค่อย ค่อยคลาย
    ก็ อาจะเหมือน What If-Elssword ฉบับ มหากาพย์ก็ได้ แต่ผมชอบนะ เพราะไม่เคยอ่านเต็มเต็มซักที ได้ลุ้นทุกตอน
    ขำ บูสเตอร์โกลด์ ที่ถามว่าฝีมือใครนี่ที่กำลังโจมตีโคส์ทซิตี้ บรินิแอคหรือมองกูล
    ขอบคุณมากครับที่สปอย
    เนื้อเรื่อง ยอดเยี่ยมดีครับ (แต่อาจะไม่เหมาะกับคนเพิ่งอ่านนะ) แต่ผมชอบ แซนด์แมน ได้เห็นอีกครั้ง

  16. JB

    ผมคาดว่าคนใส่สูทอ่ะ น่าจะเป็น Metamorpho นะครับ เพราะถ้าใน Animation เรื่อง Batman : The Brave and the bold Metamorphoก็อยู่ในOutsiderด้วย อีกอย่าง คนใส่สูทมือมันสีม่วง แล้วหัวสีขาวด้วย ผมเลยคิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นน่ะครับ

  17. voeten

    Geoff John บอกว่าหัวหน้า Outsiders คือตัวละครใหม่ครับ
    แต่แฟนๆหลายคนคาดว่าน่าจะเป็น Alfred เวอร์ชั่นตัวร้ายที่เคยโผล่มาแล้วใน Detective #356
    Alfred Gone Bad

  18. Pocky-cat

    มีอัลเฟรดเวอร์ชั่นร้ายด้วยเหรอคะ ทำไมเป็นปุ่มๆยังกะท้าวแสนปม

    ขอถามนอกเรื่องหน่อย
    เราหา Batman : The Return of Bruce Wayne #6
    ในเว็บ 66 นี่ไม่เจออ่ะ เอ…คุณ Voe ได้โพสไว้รึเปล่าน้า จำไม่ได้
    เมื่อกี้ไปอ่านเว็บที่เค้าวิเคราะห์มา เล่นเอาซะเหนื่อย
    แบบว่า…มันจะโยงอะไรกันนักหนา ทั้งเล่มเก่า เล่มใหม่ เล่มของคนอื่น
    ตำนานเทพ ไพ่ทารอต สุดๆไปเลยคุณGrant Morrison

  19. GENgSERK

    “ผมคือชายที่ไม่มีจุดหมายใดๆในชีวิต…”

    “…จนกระทั่งผมได้พบกับเดอะแฟลช”

    หรือจะมีเดอะแฟลชคนอื่นที่ไม่ใช่ แบรรี่

  20. Ome_kung

    กัปตันธันเดอร์ สุดยอดดดดดดด
    เมื่อพลังของพวกเธอมารวมกัน… 555

  21. Pocky-cat

    เอ๋…ไม่ได้ลงเหรอคะ ทำไมเรารู้สึกยังกะอ่านสปอยของใครซักคนไปแล้วล่ะ งงตัวเอง ^^”

    เดจาวู

  22. Boatmaster

    เป็นตอนที่สุดยอดมากครับ แต่มันซับซ้อนได้โล่จริงๆ ใครเป็นใครก็ไม่รู้ ขนาดมีคนแปลให้ขนาดนี้ยังงงว่าใครเป็นใคร

    ถ้าใครไม่ได้ติดตาม DC มานานคงจะงงเป็นไก่ตาแตก 55

    แต่เนื้อเรื่องหักมุมสุดยอด อะไรใหม่ๆ อัดเข้ามาเต็มไปหมด เหอๆ

    แล้วแฟรชแปลงร่างไม่ได้ แล้วทำไงเนี่ย?

  23. yogi

    มันใหม่ยังไงหว่า……มันก็คล้ายๆกับ House of M ของ Marvel เพียงแต่ว่าตัวละครของ DC เก่ากว่ามากทำให้ดูแปลกสุดๆเพราะเรื่องราวของตัวละครมีมากมายกว่า Marvel ยิ่งนัก ยิ่งเปลี่ยนไปขนาดนี้คงไม่น่าแปลกใจที่แฟนๆ DC จะตกอกตกใจกัน

  24. Pocky-cat

    อยากรู้ว่ามันเหมือน House of M ยังไงเลยลองไปอ่านเรื่องย่อดูแล้ว
    สองเหตุการณ์นี้ ถึงโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในพริบตาเดียวเหมือนกัน
    แต่มันต่างกันตรงที่ House of M เปลี่ยนจากพลังบิดผันความจริง
    น่าจะไม่ต่างอะไรกับพลังของคนในมิติที่ 5 อย่าง Mxyzptlk และ แบทไมท์ ของ DC
    แบบว่า ดีดนิ้วครั้งเดียว เปลี่ยนได้ทั้งหมด
    ถ้าเปรียบฝั่ง DC คงเหมือนตอน emperor joker ซึ่งไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร (แต่โหด)

    แต่ Flashpoint ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด
    ปัจจุบันเปลี่ยน เพราะอดีตเปลี่ยน
    ดังนั้นมันต้องมี “สาเหตุ” และ “ผลกระทบที่ตามมา” จนกลายเป็นแบบนี้
    ที่อ่านแล้วสนุกตื่นเต้นนี่…ไม่ใช่เพราะมันเปลี่ยนไปอย่างมาก
    แต่เพราะมันน่าสนใจมาก ว่าอะไรทำให้มันเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้

    อย่าง ควาแมน อาณาจักรใต้น้ำกว้างใหญ่กว่าบนบกมาก จะบุกขึ้นมาทำไม?
    ชาวเอมาซอนปกติรักสงบ อุตสาห์แยกไปอยู่บนเกาะ จะมาบุกยุโรปทำไมหว่า
    แถมยังทำสงครามกับแอ็ตแลนติสอีก

    ที่บรูซตาย โทมัสรอด แค่บังเอิญหรือเป็นความตั้งใจของริเวร์สแฟลชกันแน่?
    อะไรทำให้คุณพ่ออาการจิตตก หนักกว่าลูกชาย

    แล้วยังดราม่าจัดหนักเพื่อแบร์รี่โดยเฉพาะ
    ก็โลกมันเลวร้ายซะขนาดนี้ แบร์รี่คงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากพยายามทำให้มันกลับไปเหมือนเดิม
    ซึ่งนั่นไม่เท่ากับว่า เขาตัดสินใจ ฆ่าแม่ ด้วยตัวเองเลยเหรอ รอบนี้
    DC เอ้ย..รีเวร์ชแฟลช โหดมาก

    แค่เล่มแรกก็เปิดมาซะหลายประเด็น มันมี tie-in กี่หัวกันนี่ จะเคลียร์ได้หมดรึเปล่า
    หวังว่าจะเชื่อมือ Geoff Johns ได้นะ

    อ้อ เกือบลืมเฮียซุป กร๊ากกกก รอดูชะตากรรมซุปเปอร์แมนด้วย
    พระเอกมาตอนจบสินะ

  25. MMMMAN

    ว่าไปนี่เป็นจำนวนคอมเม้นที่เยอะที่สุดครั้งนึงของเว็ปเลยเปล่า
    แต่ก็นะมันเปิดเรื่องได้น่าลุ้นจริงๆ

  26. doc holliday

    ถ้าเอาเฉพาะสปอยล์ ตอนนี้เป็นหัวข้อที่คุยคอมเมนท์กันยาวที่สุดแล้วครับ สนุกจริงๆ

    พูดถึง house of M เคยเห็นมีสปอยล์อยู่ (แต่ไม่จบ มีแค่ 2 ตอน จากทั้งหมด 8 ตอน) ที่
    http://spoilcomics.blogspot.com/2008/11/spoiler-house-of-m18-m-change-world.html
    ใครสนใจลองไปอ่านได้ (แถมมาร์เวลเพิ่งใช้มุกคล้ายๆ เดิมอีกแล้วใน Age of X)
    จากลิงก์ข้างบน ด้านล่างจะเห็นมีสปอยล์เรื่อง hulk vs. superman ด้วย เป็นอีกตอนที่ผมว่าอ่านสนุกเลยเชียว
    ขอชวนให้คลิกไปอ่านกัน 😀

    flashpoint ผมว่าน่าสนใจตรงที่มีการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ณ จุดใดจุดหนึ่ง
    เลยมีผลกระทบต่อเนื่องยาวเป็นลูกโซ่
    ไม่ใช้การสร้างโลกปลอมหรือฝังความทรงจำปลอมแบบของ x-men น่ะครับ
    แหม คิดแล้วก็นึกถึงหนัง star trek เวอร์ชั่นล่าสุดเลย ที่เกิดไทม์ไลน์ใหม่ตรงจุดที่มีการบิดเบือนผลอะไรซักอย่าง

    รอการเปิดตัวของ superman เหมือนกัน จากทีเซอร์ที่เป็นห้องขัง subject 1 น่าสนุกมาก 🙂

  27. mysterious

    คาดว่าพี่ซุปตอนนี้คงโดนทดลองอย่างสนุกสนาน

  28. Gothic

    อยากรู้จังว่า Reverse Flash ลบ Flash ออกไปให้ Barry เป็นคนธรรมดาได้ยังไง เพราะเห็นบอกว่าถ้าทำอะไรกับ Flash ตัวเองก็จะหายไปด้วย หรือว่าจะมาเผยทีหลังว่า Flash กลายเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ Barry

    Cyborg นี่ผมว่าเหมาะนะกับการกลายมาเป็นผู้นำกลุ่ม เพราะปกติก็เล่นบทผู้นำของ Titans มาอยู่แล้ว

    และเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นเลยว่า ไม่ว่าโลกจะเป็นยังไง Batman คือคนที่สำคัญที่สุดเสมอ และเพื่อนฮีโร่คนแรกที ่Barry ไปหากลับไม่ใช่ Wally, Jay หรือ Hal แต่เป็น Batman

  29. voeten

    @Gothic

    ก็โดยการไม่ให้ Barry เคยโดนฟ้าผ่าครับ ในตอนต่อไปเลยจั๋วหัวว่า ฟ้าจะผ่าซ้ำที่เดิมครั้งที่สองหรือป่าว
    แปลว่าตอนหน้าพ่อพระเอกของเราคงหาทางให้โดนฟ้าผ่าอีกรอบเพื่อเอาพลังกลับมา

  30. Pocky-cat

    ไอ้ hulk vs. superman นั่นใครเป็นคนทำซับนรกคะ อยากรู้ ฮาดี

  31. thini

    hulk vs. superman นั่นเล่นเอาไม่ได้อ่านเนื้อเรื่องจริงเลย 5555

  32. natzume

    ตรงส่วนของ captain Thunder เหมือนเอาสองเรื่องนี้มายำรวมกันครับ

    ฮีแมน

    และ captain planet

  33. gman

    @voeten ที่ผมสงสัยคือถ้า Reverse Flash ลบ Flash Barry แบบนั้น
    Reverse Flash มันก็น่าจะหายไปนี่ครับ? เพราะ Reverse Flash มันได้พลังจากชุดของ Flash Barry
    เป็นต้นทางถึงมีตัวตนของ Reverse Flash เกิดขึ้น

  34. Pocky-cat

    อืม…นั่นสิ เขาเคยบอกว่าเขาอยากฆ่าแฟลชก็ทำไม่ได้ เพราะจะทำให้ตัวเขาหายไป
    การทำให้แบร์รี่ไม่กลายเป็นแฟลช มันก็น่าจะให้ผลเหมือนกันนิ

    เป็นปริศนาที่ต้องติดตามต่อไป ว่ารีเวิร์สเฟลชทำได้ยังไง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *