Brightest Day : The Flash 04 : อนาคตอันน่าพรั่นพรึงที่สะท้อนในกระจก

เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Francis Manapul
วางจำหน่าย: 30 กรกฎาคม 2010
สำนักพิมพ์ : DC Comics

มาต่อกันกับการผจญภัยของ The Flash คราวนี้เขาจะสามารถเอาตัวรอดจาก Captain Boomerang และเหล่า Renegade ได้หรือไม่

เปิดฉากมาณ.ที่ซ่อนของเหล่า The Rogues

เหล่า สมาชิก The Rogues กำลังดูข่าวการแหกคุกของ Captain Boomerang ซึ่งพวกเขาก็ค่อนข้างแปลกใจที่ Captain Boomerang (Digger Harkness) แหกคุกออกมาได้เร็วกว่าที่คิดไว้มาก แต่ Captain Cold (Len Snart) หัวหน้าของ The Rogues กลับสนใจว่า Captain Boomerang จะทำอะไรเป็นอย่างต่อไปหลังออกจากคุกมามากกว่า

(อ้อ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม Trickster ที่โดนจับในเล่ม 1 ถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย พวก The Rogues มีธรรมเนียมว่าถ้าคนในทีมถูกจับก็จะต้องไปช่วยออกมา แต่ในกรณีของ Captain Boomerang นั้น Captain Cold ต้องการให้เขาพิสูจน์ตัวเองว่ายังคู่ควรจะเป็นสมาชิกของ The Rogues อยู่หรือเปล่าจึงให้แหกคุกออกมาเอง)

ตัดมาที่ในเมือง Central City

Captain Boomerang กำลังเผชิญหน้ากับ The Flash (Barry Allen) หลังจากที่เข้ามาขวางการจับกุม The Flash ของพวก Renegade หน่วยตำรวจจากศตวรรตที่ 25

Captain Boomerang : ไหนบอกฉันมาซิแฟลช เจ้าพวกแต่งตัวเลียนแบบเดอะโร๊คที่มีตราตำรวจนี่เป็นใคร? แล้วทำไมพวกนี้ถึงจับนายมัดเหมือนอาชญากร? พวกนี้ไม่ใช่พรรคพวกเก่าของฉันนี่นา

The Flash : กัปตันบูมเมอร์แรงก็ยังคงเหมือนเดิมเลยสินะ

The Flash : พูดจ้อไม่ยอมหยุดเหมือนเดิม

Captain Boomerang : ไม่หรอกพวก ไอ้แก่ดิคเกอร์มีลูกเล่นใหม่ๆมาให้แกดูด้วย

Captain Boomerang : คืองี้ว่ะ ฉันต้องการกู้ชื่อเสียงฉันกลับมาน่ะแฟลช ฉันต้องการตำแหน่งในกลุ่มเดอะโร๊คกลับมา ฉันต้องการชีวิตเดิมๆของฉันกลับมา!!

Captain Boomerang : และเพื่อการนั้นฉันก็ต้องให้แกวิ่งสักหน่อยแล้ว

ว่า แล้ว Captain Boomerang ก็โชว์พลังในการสร้าง “สิ่งก่อสร้าง” เป็นบูมเมอร์แรงสีดำให้ The Flash ดู และขว้างมันใส่เฮลิคอปเตอร์ที่มาบินทำข่าว และตอนนี้มันกำลังจะตก!!

แต่ The Flash ก็จะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นโดยไม่ทำอะไรเลย

The Flash : มีเรื่องนึงที่แกควรจะจำไว้เกี่ยวกับฉันนะดิคเกอร์

ด้วยความเร็วแสง เขาวิ่งไปรอบๆพร้อมกับเคลื่อนย้ายผู้คนออกไปให้พ้นจากจุดที่เฮลิคอปเตอร์จะตก จากนั้นก็วิ่งไต่กำแพงขึ้นไป

The Flash : ฉันไม่คิดมากที่จะต้องวิ่งหรอก

คอปเตอร์กำลังจะตกลงไปที่พื้นเบื้องล่าง

แม้ใบพัดของมันจะยังคงหมุนอย่างรวดเร็วก็ไม่สามารถยกตัวมันให้ลอยอยู่ได้

แต่สำหรับ The Flash ที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง ทั้งเฮลิคอปเตอร์และใบพัดของมันก็เหมือนกำลังลอยอยู่นิ่งๆ

เขากระโดดไปเหยียบที่ใบพัดคอปเตอร์

และวิ่งไต่ใบพัดไปยังประตูคอปเตอร์ด้านที่ใกล้กับยอดตึก

โหนตัวไปถีบประตูจนพัง

และลากคนในเครื่องออกมาแล้วโดดไปยังยอดตึกข้างเคียง

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่ววินาทีเท่านั้น

เฮลิคอปเตอร์ตกลงไประเบิดที่เบื้องล่างโดยไม่มีใครได้รับอันตราย เพราะ The Flash ช่วยกันคนที่อาจหนีไม่ทันออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว

ขณะนั้นเองพวก Renegade ได้สติขึ้นมาและเผชิญหน้ากับ Captain Boomerang

Commander Cold : นายกำลังขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นะ

Captain Boomerang : ตำรวจเหรอ? จากไหนกันล่ะ?

Commander Cold : จากศตวรรตที่ 25

Captain Boomerang : ยุคของโปรเฟสเซอร์ซูมงั้นเหรอ? ให้ตายสิพวกจากอนาคตแบบพวกนายนี่ไม่รู้จักหาบุคลิกภาพของตัวเองบ้างหรือไง?

(หมายถึง Professor Eobard “Zoom” Thawn หรือ Reverse Flash คู่ปรับของ The Flash)

Captain Boomerang : ทั้งรีเวอร์สแฟลช คราวนี้มารีเวอร์สโร๊ค อย่าบอกนะว่ามีรีเวอร์สกัปตันบูมเมอร์แรงอยู่ในหน่วยของพวกนายด้วยน่ะ

Captain Boomerang ขว้างบูมเมอร์แรงใส่ Commander Cold หัวหน้าของ Renegade แต่เขาก็หลบทัน

Commander Cold : บูมเมอร์แรงมันค่อนข้างจะล้าสมัยน่ะนะ ทีนี้พอได้แล้ว เราไม่ต้องการให้ใครต้องเจ็บตัว ไม่ว่าจะเป็นคนในยุคไหนก็ตาม

Captain Boomerang : ขนาดมีความรู้ของยุคอนาคต แต่นายก็ยังลืมเรื่องง่ายๆเกี่ยวกับบูมเมอร์แรงไปซะงั้น

สิ่งที่ Commander Cold ลืมไปก็คือ บูมเมอร์แรงมันย้อนกลับมาได้!

แต่เคราะห์ดีที่ The Flash กลับมาทันและใช้ความเร็วเก็บบูมเมอร์แรงทั้งหมดที่ถูกขว้างออกมา และวิ่งไปยังท่าน้ำที่ห่างไกลจากผู้คน

และโยนมันทิ้งไปทันก่อนที่มันจะระเบิด

ขณะที่พวก Renegade กำลังไล่ตาม Captain Boomerang

The Top 1 ในสมาชิกของ Renegade ก็พูดกับ Heatstroke เพื่อนร่วมทีมของเขา

Top : นี่มันไม่ถูกต้อง

Heatstroke : บันทึกประวัติศาสตร์มันไม่ถูกต้องเต็มที่หรอกท็อป เราไม่รู้ว่ากัปตันบูมเมอร์แรงจะโผล่มาที่นี่

Top : ฉันพูดถึงกฎหมายกาลเวลานะฮีทสโตรค เรื่องที่เราไม่สามารถมอบความยุติธรรมให้คนอื่น นอกจากคนในยุคของเราเองได้

Heatstroke : เรามีขอบเขตในการปฏิบัติงานของเรา และเราต้องปฏิบัติตามนั้น

Top : เดอะแฟลชเพิ่งช่วยคอมแมนเดอร์โคลด์นะฮีทสโตรค! เขาช่วยเรา! เขาช่วยคนในเฮลิคอปเตอร์นั่น รวมถึงผู้คนบนถนนด้วย แต่เรากลับพยายามจับกุมเขา

Top : นี่มันไม่ถูกต้อง

Heatstroke : เดอะแฟลชจะฆ่า 1 ในเจ้าหน้าที่ของเรานะท็อป เขาจะตามล่ามิลเลอร์มาสเตอร์อย่างรีบเร่งและสิ้นหวัง และก็ได้ฆ่ามิลเลอร์โมนาชด้วยความเข้าใจผิด นั่นคือประวัติศาสตร์และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น

Top : แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น

Heatstroke : ท็อป……

Top : ที่เราต้องทำก็แค่เตือนเดอะแฟลชเรื่องอนาคตที่จะเกิดกับเขา

Heatstroke : การบอกเรื่องราวในอนาคตให้คนในอดีตรู้มีโทษถึงประหารนะ นายก็รู้นี่

Top : ฉันรู้

Top : แต่ฉันก็รู้ว่าฉันไม่สามารถยืนดูชีวิตของแบรี่ อัลเลนถูกทำลายได้หรอก แม้ว่ามันจะหมายความว่าต้องสละชีวิตของฉันก็ตาม

Top สลัด Heatstroke ออกไปและมุ่งหน้าไปหา The Flash

Top ไปถึงที่ๆ Flash อยู่ แต่ Flash ที่เพิ่งโดนพวก Renegade เล่นงานมาก็ขอปลอดภัยไว้ก่อนและล็อคคอ Top ไว้

Top : ชุดของฉันสามารถป้องกันการเสียดสีกับอากาศได้ ถ้าฉันต้องการฉันสามารถหมุนตัวหลุดออกจากล็อคของนายได้ แต่ที่ฉันไม่ทำเพราะฉันอยากคุยกับนาย

The Flash : ฉันก็ยินดีที่จะพูดกับพวกนายแต่พวกนายไม่ยอมเอง

Top : นั่นก็เพราะว่าคอมแมนเดอร์โคลด์จะไม่ยอมแหกกฎหมายเกี่ยวกับเวลา ฉันเลยต้องเป็นคนทำเอง

Top : ฉันรู้ว่าเรื่องที่นายจะฆ่าคนตายอย่างเลือดเย็นนั้นเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก แต่นายต้องเชื่อฉันว่านายทำมันจริง

The Flash : นั่นไม่มีทางเป็นไปได้

Top : ฉันกำลังจะบอกเรื่องอนาคตของนายให้ฟัง ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อให้นายหยุดมันได้ก่อนที่จะมันจะเริ่มขึ้น นายจะได้ไม่ต้องตัดสินใจกระทำเรื่องนั้น

The Flash : นายพูดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย?

Top : ฉันกำลังพูดถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นกับภรรยาของนาย

The Flash : นายรู้อะไรเกี่ยวกับภรรยาของฉัน?

Top : จากที่ตอนนี้นายกลับมาที่เซ็นทรัลซิตี้แล้ว พวกเดอะโร๊คก็เตรียมการที่จะโจมตีนายขนานใหญ่

Top : และมิลเลอร์มาสเตอร์ก็จะได้ครอบครองอาวุธที่เขาไม่มีทางที่จะควบคุมได้ มันคือประตูที่จะเชื่อมต่อไปยังโลกแห่งกระจก ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมิลเลอร์มาสเตอร์คนแรก แซม สกัดเดอร์

Top : เมื่อพวกเดอะโร๊คทำลายประตูนั่น เหล่าจ้าวแห่งโลกกระจกจะถูกปลดปล่อยออกมาที่โลกนี้ และหนึ่งในนั้นก็จะเข้าสิงสู่ไอริส ภรรยาของนาย เปลี่ยนเธอให้กลายเป็น 1 ในศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของนาย นามว่า “มิลเลอร์มิสเทรส” มีเพียงวิธีเดียวที่จะปลดปล่อยเธอก่อนที่จะสูญเสียจิตใจของเธอไปตลอดกาล คือต้องปิดประตูเชื่อมระหว่างโลกนี้และโลกแห่งกระจก และวิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องฆ่าผู้ที่เปิดประตูนั่นซะ

(โหวว…. จะเรียกว่าสปอยได้ไหมเนี่ย เอาเรื่องที่น่าจะเป็น Event ใหญ่ของซีรีย์แฟลชมาพูดให้ฟังจนหมดเปลือกก่อนที่มันจะทันได้เริ่มเนี่ยนะ..)

The Flash : ฉันจะหาวิธีอื่น…

Top : ใช่ นายทำแบบนั้นจริงๆ นายจะค้นหาทุกวิถีทางที่จะทำได้ แต่เวลาก็หมดลง แม้แต่กับสำหรับนายก็ตาม และเมื่อเหลือเวลาเพียงไม่กี่วินาที นายก็เหลือเพียงตัวเลือกเดียว ระหว่างชีวิตของภรรยานายกับชีวิตของมิลเลอร์มาสเตอร์ แต่นายก็ไปฆ่ามิลเลอร์โมนาชด้วยความเข้าใจผิด

Top : และทุกๆคนก็แพ้กันหมด มิลเลอร์โมนาชตาย ไอริสกลายเป็นศัตรูของนายไปตลอดชีวิต และนายก็กลายเป็นฆาตกร แต่ทั้งหมดนั่นสามารถเปลี่ยนแปลงได้นะแฟลช

Top : ที่นายต้องทำคือต้องเล่นงานพวกเดอะโร๊คก่อนที่พวกนั้นจะเล่นงานนาย

ขณะเดียวกันนั้น สมาชิก Renegade คนอื่นๆก็ต้อน Captain Boomerang จนมุม และ Heatstroke ก็เข้าไปหา Commander Cold

Heatstroke : ผู้การ! หมอนั่นกำลังไปบอกเดอะแฟลช!

Commander Cold : อะไรนะ?

Heatstroke : ท๊อป..เขาบอกว่าจะบอกเดอะแฟลชเรื่องอนาคตที่จะเกิด ว่าทำไมเขาถึงฆ่ามิลเลอร์โมนาช แล้วก็…

Commander Cold : บ้าเอ๊ย!

Commander Cold หันไปสั่งลูกทีมอีกสองคน

Commander Cold : ทริกสเตอร์! เวธเตอร์วอร์ล็อค! เรามีกรณีฝ่าฝืนข้อบังคับแล้ว! เราจะต้อง

แต่ก่อนจะพูดจบ จู่ๆน้ำแข็งก็ขยายตัวขึ้นทั้งๆที่ Commander Cold ยังไม่ทันได้ทำอะไร

ที่เบื้องหน้าของ Captain Boomerang ภาพของ Captain Cold ก็ปรากฏขึ้นบนน้ำแข็ง

Captain Cold : ดิคเกอร์

Captain Boomerang : หือ? มาเพื่อต้อนรับฉันกลับเข้าก๊วนหรือไง โคลด์?

Captain Cold : ยังไม่ใช่หรอก? แต่เรามาเพื่อปกป้องตัวตนของเราจากเจ้าพวกเลียนแบบนั่น

Captain Cold : และเพื่อจัดการเดอะแฟลชให้มันเรียบร้อยไปเลย.

น้ำแข็งแตกออก พร้อมการปรากฏตัวของพวก The Rogues และที่เบื้องหลังของพวกเขา คือกระจกบานยักษ์ที่เป็นประตูสู่โลกแห่งกระจก

บัดนี้สถานการณ์ยากจะคาดเดาได้ว่าจะดำเนินไปเช่นไร

เรื่องแถม : เรื่องน่ารู้ : กระจกเงาทำงานอย่างไร?

“เรื่องการคิดค้นกระจกเงานั้นย้อนไปจนถึงยุคที่ใครสักคนมองลงไปทึ่สระน้ำที่มีน้ำนิ่งแล้วดูเงาสะท้อนในน้ำ”

“มัน เป็นช่วงปลายศตวรรตที่ 12 ที่มีการพัฒนาแก้วที่ถูกเคลือบด้วยโลหะที่สะท้อนแสงบนพื้นผิวด้านหนึ่งขึ้น มา ส่วนใหญ่จะเป็นอลูมิเนียมหรือเงิน”

“เพื่อให้กระจกเงาจะสะท้อนภาพ ได้อย่างสมบูรณ์ พื้นผิวจะต้องเรียบโดยไม่มีตำหนิ เพราะแสงเดินทางเป็นเส้นตรงและมันก็จะสะท้อนเป็นเส้นตรงเช่นกัน”

“มี หลายวัฒนธรรมที่เชื่อว่ากระจกสามารถขโมยวิญญาณบางส่วนของผู้ครอบครองได้ และนั่นเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่าถ้าทำกระจกแตกจะโชคร้ายไป 7 ปี”

“เพราะมีความเชื่อว่าถ้ากระจกแตกมันจะทำให้วิญญาณส่วนที่อยู่ในกระจกนั้นเสียหายและจะทำให้มีผลต่อสุขภาพของเจ้าของกระจกนั่นเอง”

เรื่องแถม : เรื่องน่ารู้ : Mirror Master มีที่มาอย่างไร?

“นัก ฆ่าชาวสก๊อตแลนด์ชื่อว่า อีวาน แมคคัลล็อค ถูกรัฐบาลอเมริกาเกณฑ์เข้าร่วมโครงการลับอันหนึ่ง และได้รับอาวุธพิเศษของสมาชิกของเดอะโร๊คที่ตายไปแล้วนามว่า มิลเลอร์มาสเตอร์”

“แซม สกัดเดอร์ มิลเลอร์มาสเตอร์คนแรกได้สร้างกระจกด้วยโลหะลึกลับที่สามารถเชื่อมต่อไปยังมิติอื่นได้”

“ด้วยความสามารถที่จะเดินทางผ่านเงาสะท้อนบนกระจกและไปยังมิติอื่น แซม สกัดเดอร์ได้กลายมาเป็นวายร้ายชื่อมิลเลอร์มาสเตอร์”

“หลัง จากที่สกัดเดอร์ตาย อาวุธของเขาตกอยู่ในมือของรัฐบาลอเมริกา ซึ่งก็พบว่ามันอันตรายเกินไปที่จะค้นคว้าต่อไป (หลังจากที่ต้องสูญเสียนักวิทยาศาสตร์และนักพัฒนาอาวุธไปหลายคนเพราะไม่ สามารถกลับมาจากภายในกระจกได้ในการทดสอบเครื่องมือเหล่านั้น)”

“แต่อีวาน แมคคัลล็อคจะยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อที่จะค้นหาความลับของอาวุธกระจก รวมถึงทุกสิ่งที่มันเชื่อมไปถึง”

“เขาเพียงต้องระวังสิ่งที่เขาจะปลดปล่อยออกมา…”

ตอนหน้า The Rogues Vs The Renegades