DC Comic : Doomsday Clock 04

DC Comic : Doomsday Clock 04 : ความจริงเบื้องหลังหน้ากาก
เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Gary Frank
วางจำหน่าย : 28 มีนาคม 2018
สำนักพิมพ์ : DC Comics

ในที่สุดประวัติของ Rorschach คนใหม่ก็จะถูกเปิดเผย


.
.
.

เปิดฉากมาที่ Arkham Asylum
Rorschah ที่โดน Batman หลอกมาส่งไว้ที่นี่ก็ต้องเริ่มใช้ชีวิตในฐานะคนไข้/นักโทษ

ซึ่งในเมื่อที่นี่คือที่ซึ่งพวกอาชญากรถูกเอามารวมกัน จึงมีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันอยู่มาก และเมื่อมีคนใหม่เข้ามาก็จะมีการมาเกณฑ์ไปเข้าร่วมกลุ่ม…

แน่นอนว่าเมื่อคนที่อยู่ที่นี่ล้วนมีปัญหาทางจิตกันทั้งนั้น โอกาสสำเร็จจึงไม่แน่นอนนัก…

เขานึกย้อนไปในอดีต
ชื่อจริงของเขาคือ Reggie Long ลูกชายของจิตแพทย์ Malcolm Long ผู้รับหน้าที่ทำการประเมินสภาพจิตใจของ Walter Kovac (Rorschah คนแรก)

พ่อของเขาคิดว่าจะสามารถสร้างชื่อจากการศึกษาสภาพจิตของ Kovacs จะทำให้เขาสามารถสร้างชื่อเสียงและฐานะให้กับครอบครัวได้

แต่สถานการณ์ของโลกที่เขาอยู่นั้นเลวร้ายลงเรื่อยๆ

แล้ววันนั้นก็มาถึง…

จะเป็นโชคดีหรือเคราะห์ร้ายก็ยากจะบอกได้ที่ทำให้ Reggie รอดชีวิตมาได้

แต่ประสบการณ์ครั้งนั้นสร้างบาดแผลลึกที่ยากจะเยียวยาต่อจิตใจของเขา…

วันหนึ่งเขาหนีออกจากห้องของเขาในโรงพยาบาลโรคจิต แล้ววิ่งเตลิดขึ้นมาบนยอดตึก

เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะอยู่หรือตายดี…จนกระทั่งเขารู้ตัวว่ามีอีกคนอยู่บนยอดตึกกับเขาด้วย…

??? : สวัสดี คืนนี้เป็นคืนที่เหมาะดีน่ะนะ

??? : มันอุ่นไปหน่อยสำหรับเดือนธันวาคมแบบนี้ มีคนบอกว่าช่องว่างของมิติที่ถูกเปิดออกได้ทำให้ฤดูกาลแปรปรวน เขาว่ามันจะมีหิมะตกในเดือนมิถุนายนด้วย ตลกดีไหมล่ะ? ฉันชอบที่จะอยู่ที่ฟิดเจราร์ดนี่ แต่ฉันเบื่อไข่ห่วยๆกับชีสผสมยาของพวกนั้นแล้ว
Reggie : คุณคิดจะโดดลงไปงั้นสินะ…
??? : โดดรึ? โอ้ไม่หรอก…
??? : ฉันเหาะได้
??? : พวกนั้นบอกว่าฉันทำไม่ได้…แต่ฉันฝึกมามาก…และฉันก็ค้นพบความลับของการบินจนได้ คืองี้แน่ะ…
??? : ฉันใช้จินตนาการ ฉันวาดภาพขึ้นมาในหัวฉันนี้
??? : ฉันเห็นสิ่งที่ฉันอยากจะเห็น และสิ่งที่ฉันเห็นก็คือสิ่งที่มันเป็นจริงๆ
??? : เอาละ…
??? : ฉันไปล่ะ!
ว่าแล้วชายคนนั้นก็เดินออกไปสู่อากาศว่างเปล่า?!

แล้วเขาก็กางปีกที่ตัดเย็บขึ้นมาจากผ้าแล้วออกบินไป?!?!

หลังจากนั้น Reggie ก็เริ่มมีความเปลี่ยนแปลง เขารับเอาคำพูดของชายคนนั้นมาใช้ และเขาก็ “เห็นสิ่งที่เขาอยากจะเห็น” และสามารถสงบจิตใจของเขาได้

ปรากฎว่าชายคนนั้นชื่อ Byron เขาเป็นอดีต Hero ที่ใช้ฉายาว่า “The Mothman” และเมื่อคืนนั้นเขาก็แค่บินออกไปที่ร้านอาหารใกล้ๆเพื่อสั่งขนมปังหน้าไข่…โดยใส่แต่ปีกเท่านั้น…ก่อนจะโดนกลับมาส่งที่โรงพยาบาลตามเดิม…

ตัดมาที่ปัจจุบัน
จิตแพทย์ของ Arkham พยายามถามคำถามต่อ Reggie แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย
“อ้วนและหยิ่งจองหอง”
“ไม่เหมือนกับพ่อเลยสักนิด”
“ไม่บอกอะไรมันหรอก”
“ไม่จำเป็นต้องออกไป”
“ต้องตามหาแมนฮัตตัน”

“อาจจะเป็นใครก็ได้”
“หรืออาจจะไม่ใช่เลยสักคน”
“บางทีอาจจะมองฉันอยู่ก็ได้”
“จิตใจอ่อนล้า เชื่อถือไม่ได้”
“อยู่ที่นี่ได้ยินเสียงแปลกๆอยู่เรื่อย”
“พอปิดตาก็เห็นสมองที่เดือดพล่านจนไหลออกมาทางหู ซากศพที่กองบนถนนที่ชุ่มด้วยเลือดยื่นมือมาหาฉัน”
“มันเคยเป็นปัญหา”
“แต่ฉันเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงมัน…”
“…เห็นเฉพาะสิ่งที่ฉันอยากจะเห็น”
“พ่อกับแม่ ชีวิตที่มีความสุข”

“ชีวิตดีๆที่ไม่มีอีกแล้ว”

ตัดไปในอดีต
Reggie สร้างความสนิทสนมกับ Byron และเขาก็ช่วยเหลือ Byron ให้บินออกไปจากโรงพยาบาลเรื่อยๆ แล้วเขาก็จะนำเอาของต่างๆจากภายนอกกลับมาให้ รวมถึงของที่ระลึกจากโต๊ะทำงานของพ่อที่ล่วงลับของเขา…และรายงานเกี่ยวกับ Rorschah

นอกจากนี้ Byron ยังสอนวิธีการต่อสู้ให้กับ Reggie

จิตใจของเขายังคงไม่มั่นคง แต่เขามั่นใจยิ่งขึ้น แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ดุร้ายยิ่งขึ้น

จนกระทั่งวันนั้นมาถึง 11 ตุลาคม 1992
ความผิดของ Adrian Veidt ถูกเปิดโปง ว่าการโจมตีของมนุษย์ต่างดาวปลอมที่ทำให้คนตายไปสามล้านคนและอีกมากมายต้องได้รับความเสียหายทางจิตใจนั้นเป็นฝีมือของเขา

Reggie ต้องการที่จะแก้แค้น
“ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว”
“ฉันมีคนที่จะกล่าวโทษแล้ว”

Byron : ทำไมล่ะ…
Reggie : ถ้าผมอยู่ที่นี่ผมก็คงถูกย้ายไปโรงพยาบาลโรคจิตของรัฐบาล ในขณะที่คนอื่นๆทั้งโลกจะได้จัดการเอเดรี้ยน เวดท์
Byron : เรจจี้?
Byron : ถ้าหากว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำล่ะ?
Reggie : หมอนั่นแหละที่ทำ ทุกคนก็เห็นกันอยู่

คืนนั้นพวกเขาจุดไฟเผาโรงพยาบาลและอาศัยความชุลมุนหลบหนี
แต่ Byron กลับหันกลับไปดูเปลวไฟ…

“ความร้อนจากการที่ขุมนรกนั่นไหม้ทำให้พื้นดินร้อนผ่าว”
“กลิ่นของความบ้าคลั่งเต็มปอด”
“แสงมันเจิดจ้ามาก”

Reggie : ไบรอน?
Byron : มันเรียกฉัน
Byron : ฉันเห็นมัน
Reggie : เห็นอะไร? ไบรอน?
Reggie : คุณเห็นอะไร?!

แล้ว Byron ก็เดินเข้าไปในเปลวเพลิง…
(Moth = ผีเสื้อกลางคืน / แมลงเม่า)
“ฉันไม่เข้าใจเลย”

“จนกระทั่งหลังจากนั้น”

Reggie พบจดหมายของ Byron อยู่ในกระเป๋าของเขา

[i]ถึงเรจจี้
ฉันหวังว่าเธอจะยกโทษให้ฉันที่ไม่มีความมุ่งมั่นพอที่จะร่วมเดินทางไปกับเธอ เพราะการเดินทางของฉันนั้นมันอยู่อีกที่หนึ่ง
เมื่อเธอนึกถึงฉัน ขอให้นึกถึงตอนที่เราพบกันครั้งแรก นึกถึงตาแก่พิลึกๆที่เปลือยกายออกบินไปในความมืดของยามรุ่งสาง อย่างน้อยก็เพื่อไว้ขำๆน่ะนะ
ถึงแม้ว่าฉันจะอธิบายให้เธอฟังไปแล้วว่าเพราะเสื้อผ้ามันมีน้ำหนักมากเกินสำหรับปีกที่ฉันเย็บขึ้นมาเองพวกนั้นก็เถอะนะ
ฉันก็ไม่รู้ว่าตั๋วพวกนี้มันยังใช้ได้หรือเปล่า แต่ฉันก็เคยถูกเชิญไปที่นั่นมาก่อนและฉันก็รู้ว่ามันจะต้องเป็นการเดินทางที่ยากลำบากแน่
เธอตามหาจุดหมายของชีวิตมานานเท่าที่ฉันรู้จักกับเธอมา
ฉันขอภาวนาให้เธอไปถึงจุดหมายปลายทางและพบกับความจริงที่เธอมองหา แต่ฉันขอเตือนเธอไว้เพราะฉันเป็นห่วงเธอ
ทุกอย่างที่นำเรามาพบกันนั้นอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญหลายๆอย่างรวมกันหรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งของอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นก็ได้
แต่ความจริงมันไม่สำคัญนักหรอก
สิ่งที่เธอเห็นต่างหากที่สำคัญที่สุด
จากเพื่อนของเธอ ทั้งจากนี้และตลอดไป

ไบรอน[/i]

“นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันถือหน้ากากไว้ในมือ

“มันยิ้มให้กับฉัน”

Reggie โดยสารเรือตัดน้ำแข็งไปยังเขตขั้วโลกเหนือ และต่อจากนั้นเขาก็ต้องเดินเท้าไปยังจุดหมายปลายทาง

ในที่สุดเขาก็มาถึงฐานลับของ Adrian Veidt หรือที่รู้จักในชื่อ Ozymandias

เขาเข้าไปในข้างใน โดยไม่พบการป้องกันหรือต่อต้านใดๆเลย?

เขาพบกับ Veidt โดยไม่ยากเย็นนัก แต่เมื่อเขากำลังจะลงมือนั้นเอง…

Veidt : ถ้านายจะฆ่าฉันล่ะก็…ฉันจะขอบคุณมากถ้านายทำให้มันรวดเร็วเข้าไว้…ไม่ว่านายจะเป็นใครก็ตาม
Veidt : เห็นได้ชัดว่านายไม่ใช่วอลเธอร์ โคแว็ค และฉันก็ไม่คิดว่านายจะเป็นเพื่อนของเขาด้วยเหมือนกัน…
Reggie : ฉันคือรอชชาร์ต
Veidt : เสื้อผ้าของนายเปียกโชกไปหมด นายกำลังมีอาการของโรคปอดบวม ฉันยังเดาได้ว่านายคงไม่ได้กินอะไรเลยมาหลายวันแล้ว
Veidt : เราต่างก็มีปัญหากันทั้งคู่
Veidt : ฉันมีมะเร็งไกลโอบลาสโตมาที่กลีบสมองส่วนหน้า
Veidt : และโชคร้ายที่คนเดียวที่ฉันจะสามารถเชื่อใจให้ทำการผ่าตัดระดับนี้ได้…ก็มีแต่ตัวฉันเองเท่านั้น

เกร็ดน่ารู้ มะเร็งไกลโอบลาสโตมา มัลติฟอร์เม (Glioblastoma multiforme) หรือ Glioblastoma หรือเรียกย่อว่า จีบีเอม/จีบีเอ็ม (GBM) เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์เกลีย (Glia cell) ของระบบประสาทพบเกิดได้ทุกตำแหน่งในสมองและในไขสันหลัง แต่มักพบเกิดที่สมองในส่วนของสมองใหญ่

Veidt : ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ว่านายชื่ออะไร ถึงฉันจะแปลกใจที่มีคนแต่งตัวเหมือนหมอนั่นก็ตาม ฉันก็รู้ดีว่านายมาที่นี่ทำไม นายมาเพราะสิ่งที่ฉันทำลงไป ความผิดพลาดของฉัน…
Reggie : ความผิดพลาดงั้นรึ? แก…ฆ่าคนไปมากมาย
Reggie : เสียงของสัตว์ประหลาดนั่นมันทำให้แก้วหูแตก ร่างของเด็กระเบิดเหมือนลูกโป่งที่เต็มไปด้วยซอสมะเขือเทศ…
Reggie : อ๊า!! พวกที่ติดเชื้อส่วนใหญ่เชือดคอตัวเอง หรือไม่ก็เอาปืนยิงหัวตัวเองตายไปซะ นั่นน่ะคือพวกที่โชคดี
Reggie : แต่ฉันยังอยู่ ต่อสู้ดิ้นรน รอดชีวิตมาได้ เพื่อสิ่งนี้
Veidt : ถ้างั้นก็เอาเลย ทำให้ทั้งโลกโห่ร้องยินดีเลยสิ “รอชชาร์ต”
Veidt : ฉันอยากจะให้คนทั้งโลกได้เห็นสัตว์ร้าย
Veidt : แต่ว่า ฉันเองที่เป็นสัตว์ร้าย…พระเจ้า
Veidt : นี่ฉันทำอะไรลงไป? ฉันทำ…?
Veidt : ฉันขอโทษ ฉัน…
Veidt : ฉันเห็นแสงสว่างสายเกินไป
Reggie : แสงงั้นรึ?

“ร่างกายสั่นเทา มองไปในตาของเขาแล้วเห็น…”
“ความเสียใจ สำนึกผิด ความเจ็บปวด”

เมื่อถึงตรงนี้ Reggie ก็ไม่สามารถตัดใจลงมือฆ่า Veidt ได้อีกต่อไป

ตัดมาที่ปัจจุบัน
ใครบางคนเรียก Reggie อยู่?

??? : เรจจี้?
??? : เรจจี้?
??? : บางทีเธออาจจะอยากให้ฉันเรียกเธอว่า “จอห์น โดว์” (ชายนิรนาม) มากกว่าสินะ

คนที่เรียกเขาคือหญิงสาวที่สวมชุดคนไข้/นักโทษเช่นเดียวกับเขา

Jane : ฉันคือ เจน โดว์ (สตรีนิรนาม) ฉันดูในหัวของเธอมาหลายวันแล้ว ซึ่งโอ้โห มันเป็นที่ๆยุ่งเหยิงสุดๆไปเลย
Jane : เราต้องไปจากที่นี่ก่อนที่มันจะสายเกินไป ฉันจะไม่อยู่ที่นี่ต่อไปอีกนานนักหรอก
Reggie : เธอเป็นใคร?
Jane : เพื่อนของเธอน่ะ

“พ่อเคยบอกว่าเราทุกคนต่างก็มองหาแสงสว่าง”
“เราถูกดึงดูดไปหามัน”
“เหมือนแมงเม่าเข้าหาแสงไฟ”

“พ่อเป็นคนดี ช่วยเหลือพวกคนที่มีปัญหา”
“เหมือนโคแว็ค”
“เหมือนฉัน”
“ดึงพวกเขาออกจากความมืด”
“นำพวกเขาไปสู่แสงสว่าง”

หลังจากนั้นสัญญาณเตือนคนหลบหนีก็ดังขึ้นใน Arkham Asylum
และที่สัญญาณนั้นก็ดังขึ้นที่ Batcave เช่นกัน

Batman : ดูเหมือนว่าฉันจะดูถูกนายบุรุษนิรนามมากเกินไปนะ
Alfred : ใช่ครับ คุณดูถูกเขามาเกินไปครับคุณท่านเวย์น อย่างที่ผมเคยเตือนว่าผมคงไม่ปล่อยคนอย่างเขาไว้ตามลำพังที่อาร์คแฮม เขารู้มากเกินไป และเราก็ไม่รู้เรื่องของเขามากพอ

“แต่แสงสว่างมันคืออะไรกันล่ะ?”

“แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน”
“แต่ทุกคนต่างก็มองหามัน”
“มองเห็นสิ่งที่เราต้องการจะเห็น”
“ไม่ว่าเราจะเล็กจ้อยหรือยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม”

3 thoughts on “DC Comic : Doomsday Clock 04

  1. Seventoon

    ถ้าจำไม่ผิด มอธแมน เหมือนเคยโผล่มานิครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *