Avengers & X-Men : AXIS #3

เรื่องโดย : Rick Remender | ภาพโดย : Leinil Francis Yu

วางจำหน่าย : 22 ตุลาคม 2014

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

บทสรุปของบทแรกใน AXIS มาถึงแล้ว!

ข่าวดีสำหรับเหล่าคนชั่ว

Avengers & X-Men : AXIS

The Red Supremacy : Chapter 3

บท จอมวายร้ายสีแดงผู้ทรงพลัง ตอนที่ 3

ตัวละครในเล่ม

“ชื่อของฉันคือ สิบตรี เวด วิลสัน”

“ฉันคือ ชายที่มาจากดินแดนที่อยู่ห่างออกไป และเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายัง เจโนชา แห่งนี้ เพื่ออัดเจ้าบ้านาซีนี่”

“เพื่อสู้ในศึกที่คู่ควร”

“และบางที… ก็แค่บางทีล่ะนะ… ก็เพื่อหาเพื่อนสนิทคนใหม่”

Deadpool : นายรู้มั้ยบางครั้งเวลาที่นายโผล่หัวมางานเลี้ยงพร้อมกับคนที่เลวร้าย นายมักจะคิดว่าคนอื่นจะคิดว่านายมากับพวกเขา?

Deadpool : มันอาจจะดูหยาบคาบไปหน่อย แต่ก็ต้องมาบอกกับเจ้าของงาน ว่านายไม่ใช่พวกนั้นถูกมั้ย? ทีนี้นายน่าจะเข้าใจแล้วนะ ว่าฉันอาจจะดูเป็นพวกเดียวกับพวกนั้นนะไออ้อนแมน แต่ที่จริงแล้ว ฉันไม่ใช่เลยสักนิด

Tony : นี่แกจะพาฉันไปไหน เด็ดพลู?

Deadpool : ฉันพลาดรถเที่ยวของพวกคนดี ก็เลยต้องเกาะรถของวายร้ายมาแทน แต่ฉันไม่ใช่สุดยอดวายร้ายหรอกนะ

Tony : ฉันถามว่าแกจะพาฉันไปไหน?

Deadpool ที่ลาก Tony มาก็ไม่ยอมตอบคำถาม และสาธยายตามที่เขาต้องการต่อไป

Deadpool : เอ้อ เหมือนหมอนั่นไง นั่นแหละสุดยอดวายร้ายที่ว่า… ฮ็อบก็อบลิน! เขาน่ะดูเหมือนกรีนก็อบลิน เว้นแต่ว่า… อย่างที่นายรู้ เขามีคำว่า “ฮ็อบ” อยู่ในชื่อด้วย

“ส่วนคนที่อยู่ข้างหลังนั่นคือ คาร์เนจ เขาคือฆาตกรต่อเนื่องจอมโฉด ที่ถูกปกคลุมด้วยซิมไบโอตเอเลี่ยนจากต่างดาว”

“ซึ่งฉันว่าที่หมอนั่นเรียกตัวเองว่า “คาร์เนจ” เพราะมันฟังดูเท่กว่า “เรด วีน่อม””

Carnage : ดูฉันสิ… ตอนนี้ฉันกำลังทำตัวเป็นฮีโร่อยู่!

อย่างที่ Carnage ว่า นี่อาจจะเป็นภาพที่เห็นได้ไม่ค่อยบ่อยนัก เมื่อวายร้ายกลุ่มหนึ่งต้องมาต่อสู้เพื่อปกป้องโลกใบนี้จากวายร้ายคนอื่น Carnage และ Hobgoblin ร่วมมือกันเล่นงาน Stark Sentinel ที่ไม่ได้ถูกตั้งโปรแกรมให้แช่แข็งและกักขังพวกเขา ก่อนที่ Carnage จะใช้พลังของมันดึงลูกตาข้างหนึ่งของ Stark Sentinel ออกมา

Loki : ดูสิ เจ้านั่นดึงเอาลูกตาของเบฮีมอธออกมาแล้ว เจ้าโง่นั่นทำตามที่แกบอกจริงๆ

Doom : พวกโง่ทำตามที่ดูมบอกเสมอนั่นแหละ

Loki : ข้าคิดว่าคำนี้น่าจะเอาไปใช้ทำเสื้อเชิร์ตได้นะเนี่ย

Doom : มันกำลังตรงมาทางนี้แล้ว แกควรจะเคลื่อนไหวบ้างได้แล้ว

Loki : ถามจริง จากประโยคล่าสุดที่แกพูดออกมา ถ้าข้าทำตามที่แกบอก มันจะไม่กลายเป็นว่าข้าเป็นคนโง่หรืออย่างไร?

Doom : มันก็เป็นแค่ความแตกต่างของชนชั้นเท่านั้นเอง โลกิ

Loki : เอาเถอะ ข้าขอทำตามที่แกพูดและถูกคิดว่าเป็นคนโง่เง่า ดีกว่าต้องมาทำตามที่เจ้านั่นพูดแล้วสูญเสีย…

ก่อนที่จะพูดจบ Stark Sentinel ก็เหยียบ Loki เข้าเต็มๆ แต่แน่นอนว่า Loki ไม่เสร็จง่ายๆ เพราะยังไงเขาก็เป็นถึงเทพที่มีกลเม็ดแพรวพราว เขาไปปรากฎตัวอีกครั้งบนหัวของ Sentinel

พร้อมเอาดาบจิ้มใส่ตาข้างที่หลุดออกไปของ Sentinel ตัวนั้น จนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง

Loki : ข้านี่แหละเทพเจ้าแห่งการหลอกลวง ทั้งผ่านดวงตา, ร่างกาย และจิตใจ…

Loki : นั่นจะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยที่ทำให้แกต้องบันทึกไว้ในไฟล์ข้อมูลของแกในครั้งหน้า เจ้าหุ่นกระป๋อง

Doom : เจ้าหุ่นตัวนี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องบันทึกอะไรไว้สำหรับการต่อสู้ครั้งแรกกับดูม

Doom : เพราะครั้งแรกของมันจะกลายเป็นครั้งสุดท้าย

Magneto : แม้กระทั่งแกเองก็คงจะเห็นถึงความหยิ่งจองหองโดยธรรมชาติของแกนะ ดูม และฉันก็ดูจะเหมาะสมที่สุดทำลายเจ้าหุ่นตัวนี้ในยามที่มันอ่อนแอลงมากที่สุด

และก็เป็นไปตามนั้นเมื่อโครงสร้างของ Sentinel เริ่มเสียหาย Magneto ก็สามารถฉีกกระชากหัวของมันได้อย่างง่ายดาย

Loki : มิตรภาพ, การวางแผน และการร่วมมือกัน…ผู้ใดจะคาดคิดได้ล่ะ… ถูกมั้ย?

Magneto : พูดพอแล้ว มันไม่มีอะไรที่แกจะได้จากการเล่นเกมบ้าๆของแกที่นี่หรอกนะ เทพแห่งการโป้ปด…

Loki : เกม? นี่ข้าว่าข้าจริงจังกับเรื่องนี้มากนะ แม็กนีโต้… ข้าเป็นคนดี ที่ตัวตนออกจะสว่างไสว ข้ามีสวนสำหรับทานน้ำชา และยังนั่งสมาธิบ่อยๆด้วย…

Loki : ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะจับจ้องสายตาแห่งความสงสัยไปที่ทางนั้น เพราะข้าบอกได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าดูมจะต้องหาทางเก็บโกยผลประโยชน์จากเรื่องนี้อยู่เป็นแน่

Loki : ข้าไม่ได้กล่าวหาเจ้านะ

Doom : ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว

Magneto : มาเถอะ… พลังโทรจิตของเรดสกัลล์ ยังถูกปิดกั้นอยู่…ในตอนนี้

Magneto : แต่ฉันเกรงว่า… ผู้มีพลังโทรจิตของเราอาจจะไม่สามารถปิดกั้นมันไปได้นานมากกว่านี้

และตามที่ Magneto ว่าไว้ Quentin เริ่มจะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ Evan (Genesis) ก็บอกให้เขาพยายามยื้อไว้ให้ตันรักษาตัวให้หายเพื่อที่จะได้มาช่วยเขาอีกแรง

Red Onslaught : พวกโง่เง่าที่น่าสงสารอย่างพวกแกคิดยังไงถึงได้ไปอยู่ข้างเดียวกับเจ้าคนไร้ค่านั่น? พวกแกคงจะไม่มีสายตาที่มองเห็นผลที่จะออกมาของศึกนี้เลยสินะ?

Cap : มันยังเหลือคนไร้ค่าอีกคนนะ สกัลล์

Red Onslaught : โอ้ คุณโรเจอร์ ฉันก็หวังเหลือเกินให้เรื่องที่แกกลายเป็นคนชรานั้นเป็นเพียงแค่ข่าวลือ เพราะการทรมานคนอ่อนแอที่ไร้ทางสู้มันจะไปสนุกอะไรล่ะ…

Cap : และฉันก็คือหนึ่งเดียวที่จะโค่นแก

Red Onslaught : แต่โซล่าได้แสดงภาพที่ไออ้อนเนลเล่นงานแกให้ฉันดูแล้ว แล้วแกรักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ได้ยังไงกัน?

Cap : ก็ด้วย ข้าวโอ๊ต, การซิตอัพ, ผักขม และความศรัทธาในอเมริกายังไงล่ะ

Red Onslaught : นี่แกคิดว่าตัวเองกำลังเล่นเกมอยู่หรือไง? ฉันคือร่างทรงแห่งความโกรธเกรี้ยวที่แท้จริงของมนุษย์ชาติทั้งมวล!

Red Onslaught : ความเกลียดชังของมนุษย์ของมันล้าสมัยไป ตั้งแต่ที่พระเจ้าเข้ามาจุ้นจ้านกับโลกของพวกเขา และสร้างยีนของมิวแทนส์ที่สกปรกออกมา

Mystique : แล้วไง? แล้วฉันก็ไม่ใช่ สตีฟ โรเจอร์ อีกด้วย แต่การที่แกเห็นเขาอีกครั้งก็พิสูจน์แล้วเขารบกวนแกได้ และที่ฉันทำก็แค่หลอกล่อแก… ส่วนเธอคนนั้นต่างหากล่ะที่จะมาจัดหนักแก

และที่ Mystique พูดถึงก็คือ Enchantress

Red Onslaught : แก! มันไม่มีมนต์เสน่ห์ใดจะมาเล่นงานตัวตนที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ได้หรอก นังสุนัขของแอสการ์ด!

Enchantress : พิษร้าย, พลังโทรจิตแห่งความเกลียดชัง ที่ทำให้ปราศจากอารมณ์ความรู้สึกอื่นๆ ข้าชื่นชอบความท้าทายแบบนี้เสียจริงๆ

Red Onslaught : ฉันจะทำลายแก!

Enchantress : ไม่… เจ้าจะตกหลุมรักข้า

Enchantress : มันเจ็บปวดงั้นหรือ? มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะสำหรับใครก็ตามที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังเมื่อรู้สึกถึงความรักที่ไม่อาจจะควบคุมไว้ได้ต่อใครสักคน… มันก็จะเป็นอารมณ์ขั้วตรงข้ามที่ขัดแย้งกันเอง

Enchantress : จงอย่าได้ขัดขืนเลย สิ่งมีชีวิตทุกตนสมควรที่จะมีความรักสักครั้ง…

Enchantress : ถึงมันจะเป็นการฉีกทำลายดวงวิญญาณของเจ้าก็ตามที

ทาง Sentinel อีกตัวก็โดน Jack O’Lantern, Sabretooth และ Absorbing Man รุมเล่นงาน โดย Absorbing Man ได้ดูดกลืนพลังของเหล็ก Adamantium มาใช้ผนวกเข้ากับลูกตุ้มของเขา ทุบเข้าใส่ Sentinel ตรงหน้าจนคอของมันถึงกับพลิกออกมา เปิดช่องให้เขาโดดลงไปถล่มมันจากภายในต่อ

ส่วน Red Onslaught ตอนนี้ก็ตกอยู่ภายใต้มนต์สเน่ห์ของ Enchantress เรียบร้อยแล้ว

Enchantress : การแพร่กระจายความคิดอันป่าเถื่อนของเจ้าเป็นการกระทำที่หยาบคายมาก สัตว์เลี้ยงของข้า มันทำลายความสุขในช่วงยามเย็มจนสิ้น

Red Onslaught : ผมต้องขออภัยจริงๆ…

Enchantress : เจ้าจะรับใช้ข้าหรือไม่?

Red Onslaught : แน่นอน

Enchantress : เจ้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ข้ามีความสุขหรือไม่? เจ้ายอมเป็นสุนัขรับใช้ข้าใช่หรือไม่?

Red Onslaught : ให้ผมทำอะไรก็ได้เพื่อที่จะอยู่ข้างคุณ

Enchantress : ถ้างั้นข้าก็อาจจะเก็บเจ้าไว้เป็นของเล่น เจ้าจะเป็นสัตว์ร้ายที่ทำให้ ธอร์ ต้องมาอยู่ในอุ้งมือของข้า… พวกเราจะเปลี่ยนโลกใบนี้ด้วยกัน ให้มันกลายเป็นโลกที่ข้าปราถนา

แต่ด้วยความไม่ระวังตัว Sentinel ที่คอเกือบหลุดจากการโจมตีของ Absorbing Man ได้ตรงเข้ามาเล่นงานเธอแล้ว

Red Onslaught : เซ็นติเนลมัน… อยู่ข้างหลังของคุณแล้ว ที่รัก

แต่ก่อนที่มันจะได้ยิงออกมา Absorbing Man กลับพุ่งทะลุตัวของมันออกมาเสียก่อน แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะ Enchantress ได้เสียสมาธิไปทำให้มนตราของเสื่อมพลังลงเปิดฉากให้ Red Onslaught โต้กลับได้อีกครั้ง และมันก็เริ่มไล่เก็บวายร้ายคนอื่นๆ

Red Onslaught : มันไม่มีที่สำหรับพวกแก ในจักรวรรดิ์ไรช์นิรันดร์ของฉัน! พวกลูกผสมอย่างพวกแกจะต้องตายไปจนสิ้น.. แต่ก่อนหน้านั้นพวกแกจะต้องพบกับความทุกข์ทรมาน!

ในขณะที่คนอื่นๆโดนเล่นงาน Magneto ก็ช่วยเหลือ Scarlet Witch กับ Dr.Strange ออกมาเพื่อดำเนินแผนการใหม่

Magneto : แวนด้, สเตรนจ์ เร็วเข้า!

Magneto : ฉันเปิดทางช่วยพวกเธออกมาได้ แต่ไม่มีเวลาพอที่จะช่วยคนอื่นๆออกมา

Magneto : พวกลูกยังสามารถใช้เวทพลิกผันได้อีกใช่มั้ย?

Dr.Strange : ได้… พวกเรายังทำได้ แต่มันจะทำให้พวกเราไร้การป้องกันอีกครั้ง

Scarlet Witch : พวกเราต้องการคนที่จะคุ้มกันพวกเราได้ตลอดเวลา

Dr.Strange : แล้วพวกฆาตกรกับอาชญากรมาทำอะไรกันอยู่ที่นี่? นี่แกทำอะไรลงไป แม็กนีโต้?

Magneto : ฉันก็ทำในทางเลือกสุดท้ายที่เหลืออยู่… ทำในสิ่งที่อันตรายที่สุด

Quentin : ฉันทำต่อไปไม่ได้แล้วอีวาน… ฉันหยุดพลังโทรจิตของเจ้านาซีนั่นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

Genesis : อีกแค่ไม่กี่นาทีเอง นายทำได้

Genesis : ผู้คนคิดว่านายกับฉันเป็นคนเลว เพราะสิ่งที่อยู่ภายในตัวของเรา และมันเป็นสิ่งที่พวกเราเลือกไม่ได้… แต่นายพิสูจน์ว่าพวกนั้นคิดผิดได้

Genesis : และเมื่อเรื่องนี้จบลง ทุกๆคนจะรู้ถึงสิ่งที่นายทำลงไปที่นี่

Genesis : พวกนั้นจะรู้ว่า เควนติน ไควร์ เป็นคนช่วยโลกไว้

Quentin : “เควนติน ไควร์ เอ็กเม็นซ์ผู้ช่วยเหลือโลกจาก เรด สกัลล์…” มันฟังดู…

Red Onslaught : หลงผิดโดยสิ้นเชิง มันป้องกันอะไรไม่ได้หรอก เด็กน้อย ที่มันทำได้ก็เพียงแค่ชะลอเวลาของสิ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้… และอนาคตเพียงหนึ่งเดียวนั้นก็คือความตายของพวกเจ้า

Deadpool : ฟังนะ ฉันมีอะไรที่อยากจะถามนายสักหน่อย ถึงเวลานี้มันดูจะไม่เหมาะสักเท่าไรก็เถอะ…

Tony : ขอล่ะ หุบปากสักที

Deadpool : แต่มันดูเหมือนว่า ตอนนี้นายต้องการมิตรสหายผู้มีทรงพลังเพิ่มขึ้นอีกสักคนก็ยังดีนะ

Deadpool : นายคิดว่าไง ถ้าฉันจะขอเข้าร่วม อเวนเจอร์ กับเขาด้วย?

Tony : แกมันเป็นไอ้บ้าทหารรับจ้างซอบบี้ที่แต่งงานกับแวมไพร์… ถึงแม้ว่าพวกเราจะต้องโดนเล่นงานหมดไม่เหลือใครแม้แต่คนเดียว… ถึงแม้มันจะมีทีมอเวนเจอร์ที่นายสามารถเข้าร่วมได้…

Tony : คำตอบก็จะยังเป็น “ไม่มีทาง” นายจะไม่มีวันได้เป็น อเวนเจอร์ ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่

Tony : ทีนี้ฉันขอถามอีกครั้ง บางทีมันอาจจะเป็นครั้งที่ร้อยแล้วนะ เจ้าตัวตลก…

Tony : …บอกฉันมาได้หรือยัง ว่าแกจะพาฉันไปไหน?!

Deadpool : ฉัน… ฉันก็แค่คิดว่าจะเติมพลังงานให้เกราะของนายอ่ะ… มันเป็นการร่วมทีมกันแบบมีผลพลอยได้ที่สุดจะคลาสสิก ถึงแม้ว่า… นายก็น่าจะรู้

Deadpool : …ว่านายมันเป็นคนอวดดีแบบนี้ก็เถอะ

งานนี้ Tony เข้าขั้นเงิบ เพราะ Deadpool อุตส่าห์ลากมาช่วย แต่ตัวเองดันด่าไปเต็มๆ แต่อีกด้านก็ใช่ว่าจะสถานการณ์สู้ดีนัก

Red Onslaught : ในที่สุดฉันก็เป็นอิสระจากปิดกั้นพลังโทรจิตของเจ้าเด็กบัดซบนั่น! และหลุดจากการจัดการของเจ้าสตาร์ก!

Red Onslaught : ตอนนี้พวกแกจะได้ลิ้มรสความพิโรธของเรดออนสลอจ!

“พวกแกที่หมายจะเล่นงานฉัน ตอนนี้จงหันมารับใช้ฉัน”

Sabretooth, Absorbing Man, Carnage, Mystique : พวกเราน้อมรับใช้ท่าน.. พวกเราจะจัดการศัตรูที่หมายจะขัดขวางท่าน

Dr.Strange : ตอนนี้เกลียวนอกเสถียรแล้ว

Scarlet Witch : ฉันได้ยินเสียงของมันก้องอยู่ในหัว สกัลล์ เป็นอิสระแล้ว!

Carnage : เจ้ากระโหลกแดงไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องกังวลหรอกแม่คนงาม… เพราะตอนนี้ เคลตัส กำลังอยากจะเห็นว่าเลือดของแม่มดคนสวยมันเป็นสีอะไร

ก่อนที่พวกเขาจะโดนเล่นงาน Genesis ที่ฟื้นตัวก็รุดมาช่วยพวกเขาไว้

Genesis : ผมจะคุ้มกันพวกคุณเอง… รีบร่ายคาถาเร็วเข้า

Scarlet Witch : ขอบคุณมากอีวาน พวกเราใกล้จะทำสำเร็จแล้ว!

Red Onslaught : ใกล้แล้ว มันก็แค่ใกล้ แต่ยังไม่สำเร็จ

Red Onslaught : แผนการของพวกจะไม่มีทางสำเร็จ แกเป็นของข้าในที่สุดนังแม่มด

“ส่วนเจ้าสเตนจ์ เจ้าไม่คู่ควรให้ข้าใช้งาน”

Dr.Strange : ผมจะออกไปจากสายตาของท่านเดี๋ยวนี้ ท่านเจ้า!

แล้ว Dr.Strange ก็วาร์ปตัวเองออกไปซะงั้น… ฉายาท่าดีทีเหลวไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ หมอแปลก ของเราคนนี้

Sabretooth : งั้นผมจะจัดการกับเจ้าเด็กโง่นี่เอง

แต่ก่อนที่มันจะทำได้เสียงของใครบางคนที่เราคุ้นๆก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

Deadpool : ก่อนหน้านี้ฉันยังอยู่ตรงหน้าเธอ… แต่ตอนนี้ฉันเป็นอเวนเจอร์แล้ว!

สุดท้าย Tony ก็ยอม Deadpool ให้เขาเข้าร่วมกับ Avengers ได้…

Tony : บ้าเอ๊ย ตอนนี้เพลงบ้าๆนั่นเลยติดหูฉันเลย

Tony : ว่าไงคู่หู คิดถึงฉันมั้ย? แต่ที่แน่ๆแกน่าจะคิดถึงเครื่องต่อต้านพลังโทรจิตของฉันแน่ๆ

พูดจบ Tony ก็ลงมือทันที ด้วยการมาของเขาทำให้การแพร่กระจายคลื่นความเกลียดชังและการใช้พลังโทรจิตของ Red Onslaught หยุดลงอีกครั้ง

Genesis : เทพพิทักษ์ของผม

Deadpool : ฉันสัญญาไว้แล้วนี่ ว่าจะปกป้องเธอเสมอ และเมื่อฉันมา… นั่นย่อมแสดงว่าเธอต้องดวงขึ้นแน่ๆ

Doom : และก็เป็นอีกครั้ง ที่ ดูม จะต้องช่วยโลก ร่ายคาถาของเธออีกครั้ง แม่มด แล้วฉันจะร่าย พลังแห่งกฎระเบียบ เพื่อเข้าคู่กับ พลังแห่งความวุ่นวาย ของเธอ

Scarlet Witch : แม้กระทั่งเวลาแบบนี้ก็ยังมีสายตาที่ชั่วร้ายอย่เลยนะ ดูม และอย่าได้คิดเชียวล่ะ ว่าเรื่องนี้จะไถ่ถอนบาปที่นายเคยทำไว้กับฉันได้

Doom : การให้อภัยของเธอมันไม่มีค่าอะไรสำหรับฉัน เพราะ ดูม ไม่เคยร้องขออะไรจากหนอนแมลงที่เขาเคยเหยียบย่ำ

และบัดนี้เวทมนต์ก็สำเร็จ พลังแห่งความวุ่นวายได้ถูกเสริมด้วยพลังแห่งกฎระเบียบ มันได้แผ่ออกมาเล่นงานใส่ Red Onslaught

และระเบิดออกมาปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะ Genosha ก่อนที่จะสลายไปในที่สุด

Tony : มันเกิดอะไรขึ้น? ดูม หายไปไหนแล้ว?!

ภายหลังจากที่หมอกควันจางลงเหล่าฮีโร่ที่ถูกขังก็ทยอยออกมาจากตัวของ Sentinel

Cap.Sam : ฉันไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าหมอนั่นมีเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

Havok : นี่พวกเราหลุดไปนานแค่ไหน?

Cyclops : ดูม มาที่นี่ด้วยเหรอ?

Scarlet Witch : พวกวายร้ายหายไปไหนแล้ว?

Tony : ฉันสลบไปได้ประมาณ 5 นาที แล้วหลังจากที่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าพวกนั้นหายไปหมดแล้ว… เว้นแต่เจ้า เด็ดพลู จอมหนวกหูนั่นคนเดียว

Deadpoo : นี่ฉันยืนอยู่ข้างหลังพวกนายนะ

Thor : สิ่งแรกที่เราต้องทำคือการหาตัว เรด สกัลล์ เพราะหากว่า ดูม ได้ตัวมันไป เจ้าอสูรนั่นก็อาจจะ…

Havok : สกัลล์ ยังอยู่ตรงนี้ และมันยังมีชีวิตอยู่

Tony : ทำเอาฉันบอกไม่ถูกเลยว่าจะนี่มันเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย

Cap.Sam : แน่อยู่แล้วว่า “ร้าย”

Nightcrawler : พระเจ้าช่วย…

Storm : ชาร์ล ยังอยู่ในนั้นหรือเปล่า?

Rogue : ต้องปลุกเขา บางทีเขาอาจจะ…

Cap_Sam : ปลุกหมอนี่? นี่พวกนายบ้าหรือเปล่าเนี่ย?!

Tony : มันมีความเป็นไปได้ที่ เซเวียร์ จะอยู่ในนั้น แต่จนกว่าพวกเราจะแน่ใจได้จริงๆ ให้หมอนี่หมดสติไว้น่าจะปลอดภัยกว่า

Thor : เราจะเอามันไปขังไว้ที่ อเวนเจอร์ ทาวเวอร์

Cyclops : นี่พวกเราต้องกลับมาที่จุดนี้อีกงั้นแล้วเหรอ? หลังจากเรื่องทั้งหมดที่พวกเราผ่านมา.. ถ้า ชาร์ล ยังอยู่ในนั้นจริงๆพวกเราต้องหาทางช่วยเขา!

Cyclops : ฉันต้องช่วยเขาให้ได้! พวกนายรู้มั้ยว่าเรื่องนี้มันความหมายกับฉันมากแค่ไหน?

Storm : พวกนั้นไม่มีทางที่จะเข้าใจพวกเราอยู่แล้ว

Cap.Sam : ฉันจะไม่ปล่อยให้นายได้ตัวเขาไปแน่ ไซคลอปส์ จบการโต้เถียงกันแค่นี้

Havok : มีเหตุผลหน่อยสิ แซม

Cyclops : ถ้ามันมีโอกาสที่จะสามารถช่วย เซเวียร์ ได้มันก็เป็นสิทธิของพวกเราที่จะทำมัน!

Cyclops : พวกเราจะพาเขากลับไปยังโรงเรียน เควนติน กับ เอ็มม่า จะตรวจสอบว่า…

Cap.Sam : ไม่ เรด สกัลล์ เป็นแค่ฆาตกรที่บ้าคลั่งซึ่งพยายามที่จะทำลายล้างโลก มันจะถูกขังอยู่ในอเวนเจอร์ทาวเวอร์ ก่อนที่จะถูกส่งไปตัวรับผิดต่ออาชญากรรมที่มันก่อขึ้นกับมนุษย์ชาติ นั่นแหละคือทั้งหมด

Havok : หยุดพูดว่ามันจะเป็นยังไงสักทีเถอะ “ฟาลค่อน” นายไม่ได้เป็นคนสั่งการที่นี่ ไม่ว่านายหรือโทนี่ก็รับคำสั่งจากฉัน

Havok : นายอาจจะไม่รู้ แต่ฉันเป็นหัวหน้าทีมร่วมของอเวนเจอร์ที่ถูกก่อตั้งโดย เซอร์ สตีฟ โรเจอร์ นักบุญองค์อุปถัมภ์ผู้มีอำนาจ

Cap_Sam : พูดถึงก็มาแล้วนั่นไง มาฟังกันดู ว่า “ เซอร์ สตีฟ โรเจอร์ นักบุญองค์อุปถัมภ์ผู้มีอำนาจ” จะพูดว่ายังไง คุณ “ผู้นำร่วม”

Havok : สตีฟ พวกเรากำลังมีปัญหากันนิดหน่อย

Steve : ฉันก็ว่างั้น

Steve : แต่จากที่เห็น อเวนเจอร์และเอ็กซ์เม็นได้ร่วมมือกันหยุดยั้งมันไว้ได้ ฉันภูมิใจในตัวพวกนายทุกคนจริงๆ

Havok : ถ้าคาถาพลิกผันของแวนด้าใช้การได้จริงๆ มันย่อมแสดงว่าเซเวียร์น่าจะกลับเป็นคนควบคุมร่างนี้แล้ว หลังจากสิ่งที่พวกเราได้ผ่านมา การสูญเสียชาร์ล, การสูญเสียโลแกน… รวมไปถึงการแตกแยกของเอ็กซ์เม็น…

Havok : เราต้องการเขากลับมานะ สตีฟ ถ้าหากว่าเขาอยู่ในนั้น…

Steve : ถ้าเขาอยู่ในนั้น เราจะหาทางเอาเขาออกมา อเล็กซ์

Steve : นายได้รับคำมั่นจากฉัน แต่ตอนนี้ ที่พวกเรารู้ก็คือชายคนนี้เป็นชายที่อันตรายที่สุดในโลก

Steve : ได้โปรด ให้พวกเราได้พาเขากลับไปที่อเวนเจอร์ทาวเวอร์เถอะ ขอร้องล่ะ ยอมถอยลงหน่อยเถอะ

Havok : ถอย? หลังจากทุกอย่างที่พวกเราผ่านมา…

??? : มันไม่มีค่าอะไรแล้ว อเล็กซ์

Genesis ได้ปรากฎตัวออกมาในรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เขากลายเป็น Apocalypse ไปแล้ว

Genesis : อะไรก็ตามที่อยู่ในนั้นไม่ใช่อาจารย์ของนาย มันเป็นเพียงแค่เศษซากที่ตกค้างเท่านั้น

Deadpool : อีวาน? พ่อตัวเล็ก? ตอนนี้นายดูยังกะเป็นกะลาสีเรือแหน่ะ! นี่ไปเพิ่มกล้ามจากไหนมา? แล้วถ้าฉันกอดนายแบบนี้มันจะดูแปลกมั้ย?

Genesis : ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก

Deadpool : ว้า ก็ได้ อารมณ์เปลี่ยนเร็วนะเนี่ย กำลังแตกหน่อวัยรุ่นล่ะสิท่า?

Genesis : ศาสตราจารย์ เซเวียร์ ตายไปแล้ว ปล่อยให้พวกนั้นเอาตัวเจ้านาซีไป มันไม่ใช่คนที่จะแก้ปัญหาอะไรของพวกเราได้

Havok : งั้นฉันคิดว่านายคงจะรู้ใช่มั้ยว่าใครทำได้?

Genesis : ฉันพอจะมีความคิดแล้ว

Havok : งั้นได้เลย พวกเราจะยอมถอย แต่ด้วยเงื่อนไขเดียว

Steve : ว่ามาเลย

Havok : ยอมรับการลาออกของฉันในฐานะอเวนเจอร์ และลืมไปซะว่าฉันเคยเป็นหุ่นเชิดของนาย

Havok : เพราะดูเหมือนคำว่า “เป็นหนึ่งเดียวกัน” มันหมายความว่า พวกเราต้องเดินตามนาย และทำตามที่นายสั่ง

Havok : ฉันขอบอกเลยว่า นั่นมันไม่ใช่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน สตีฟ… มันคือ เผด็จการ

Havok : ทีแรกฉันคิดว่านายน่าจะเป็นคนเดียวที่รู้ถึงความแตกต่างในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ฉันเห็นแล้ว…

Havok : …ว่า สก๊อตต์ พูดถูกเกี่ยวกับนายมาตลอด

Janet : อเล็กซ์… นี่คุณกำลังทำอะไร?! คุณจะทิ้งทุกอย่างไปแบบนี้ไม่ได้ อย่าทำงี่เง่าแบบนี้!

Havok : ผมกำลังจะกลับบ้านต่างหากล่ะ เจเน็ต…

Havok : …เพราะคนงี่เง่าคนนี้เห็นชัดแล้วว่า เข้าทำผิดไปที่เชื่อใจพวกคุณ

Havok : เหมือนกับทุกครั้งที่เอ็กซ์เม็นเชื่อใจอเวนเจอร์

ภายหลังจากศึกใหญ่ที่พวกเขาร่วมมือกัน มันกลับจบลงด้วยความแตกที่ไม่อาจจะกลับมารวมกันได้อีกโดยง่าย…

ตอนต่อไป

บทที่ 2 : การพลิกผัน

คุยกันท้ายเล่ม

ก็เป็นอันจบบทแรกไปแล้ว ถือว่าโอเคมากจริงๆที่เอา Leinil Yu มาวาดเล่มนี้ เพราะมันทำให้ช่วงสุดท้ายของบทแรกนี้อลังการขึ้นเป็นกอง และตอนท้ายก็แตกคอกันอีกแล้วสำหรับ Avengers และ X-Men อ่านมาสักพักผมเริ่มไม่ค่อยชอบ Cap.Falcon เท่าไร ดูอีโก้จัดๆยังไงไม่รู้หลังจากมาเป็น Captain America 

ส่วนประเด็นวายร้ายนี่… ผมคิดว่าที่มาๆกันนี่บางคนก็กะจะช่วยโลกจริงๆ ในขณะที่บางคนนี่มาหาผลประโยชน์พ่วงด้วยล้วนๆเลยนะเนี่ย

และบทต่อไปก็ตามชื่อบท การพลิกผัน ด้วยพลังของ Doom และ Scarlet Witch มันจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับเหล่าฮีโร่ เพราะพวกเขาคิดว่ามันจะเป็นการกลับเอาจิตใจด้านในของ Xavier ออกมาแทนที่ Red Skull แต่แท้จริงแล้วที่พวกเขาทำ มันคือการสลับขั้วของ หยิน หยาง ความดีและความชั่ว ซึ่งด้วยการที่พลังของมันปกคลุมไปแทบจะทั่วทั้งเกาะ มันจึงส่งผลให้ วายร้ายเริ่มมีแนวคิดของฮีโร่ และฮีโร่เริ่มทำตัวเป็นวายร้ายแทนนั่นเอง และนี่จะเป็นธีมหลักของบทต่อไป แต่ผมคิดว่ามันอาจจะส่งผลแค่คนในเกาะเท่านั้น

เพิ่มเติม

ซึ่งตอนนี้ที่อธิบายชัดๆก็มี เล่ม Deadpool #36 ที่เป็น Tie-In ของอีเวนต์นี้ (มีคนทำสปอยไว้แล้ว ตามไปจากลิ้งค์ได้เลยครับ)

ตั้งแต่ฉากที่ Deadpool เพิ่มพลังงานให้ Tony และเขาก็ยอมรับให้เข้าร่วม Avengers ได้ (แต่แค่วันนี้วันเดียว) รวมไปถึงฉากจูบช่วยชีวิตของ Sabretooth…

ซึ่งในเล่มนี้จะแสดงให้เห็นว่า หลังจากที่ Doom กับ Scarlet Witch ใช้พลังของพวกเขาออกไป Deadpool ก็ได้ตื่นขึ้นมาและพบว่าบางสิ่งในตัวเปลี่ยนแปลงไป แม้มันจะไม่ทั้งหมดแต่ก็เขารู้ว่ารอบด้านเปลี่ยนไปเช่นกัน Carnage ที่กัดกันมาก่อนหน้านี้ก็ทักทายด้วยความชื่นมื่นเสมือนเพื่อนสนิทมิตรสหาย ในขณะที่พวก Kurt อดีตเพื่อนรักกลับพูดกับเขาแบบคนห่างเหินที่เกลียดขี้หน้ากัน

จนในภายหลังเขาก็ได้กลายเป็น Zen Pool ผู้รักสงบและเลิกแล้วซึ่งการเข่นฆ่า

อีกเล่มคือ AXIS : Carnage #1 ที่ Carnage เริ่มมีความนึกคิดที่อยากจะเป็นฮีโร่ขึ้นมาซะเฉยๆ เขาจึงออกตระเวนช่วยเหลือคน (แบบโหดเหมือนเดิม) อย่างในฉากนี้ผมให้ฮาที่สุดในเรื่องเล่มเลย

Carnage : ฉันคือ เพื่อนบ้านที่แสนดี Carnage-Man!

Carnage : คาร์เนจแมน! คาร์เนจแมน! ทำทุกอย่างเท่าที่คาร์เนจจะทำได้!