Original Sin #3

Original Sin #3

เรื่องโดย : Jason Aaron | ภาพโดย : Mike Deodato

วางจำหน่าย : 4 มิถุนายน 2014

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

ความลับในดวงตาของ Watcher ได้ถูกปลดปล่อยออกมา และมันได้นำพาความเปลี่ยนแปลงมาสู่ฮีโร่หลายๆคน

และทาง Nick Fury ก็กำลังจะพบกับบางสิ่งที่น่าตกตะลึง

Original Sin Part 3 : จงอย่าได้เชื่อถือใคร แม้กระทั่งตัวเอง

ตัวละครในเล่ม

เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน

The Orb ได้ฝันว่าตัวเองไปอยู่บนดวงจันทร์ ที่นั่นเขาพบว่ามันมีสถานที่แห่งหนึ่งตั้งอยู่บนนั้น และมองเห็นใครบางคนที่จ้องมองดูเขาอยู่ และเขาไม่ชอบที่เห็นตนมองเห็นตัวเองอีกด้วย ซึ่ง The Orb ได้บอกว่าเขาสามารถมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นได้ อย่างที่ว่าเขาเห็นคนที่กำลังคุยอยู่ด้วยสามารถฆ่าเขาได้ด้วย 7 รูปแบบด้วยกัน ส่วนคนบนดวงจันทร์ที่เขาจำได้ คือชายหัวล้านที่กุมความลับไว้มากมาย และ The Orb ก็คิดว่าชายที่กำลังคุยกับเขาในตอนนี้ก็ต้องการไปที่นั่นเช่นเดียวกัน ซึ่งเขาคือคนเดียวที่จะพาไปที่นั่นได้

และคนที่คุยกับ The Orb ก็คือ Dr.Midas พ่อของ Exterminatrix และเขารู้ว่าที่ The Orb พูดถึงก็คือ Watcher นั่นเอง แต่ก่อนที่ Dr.Midas จะตกลง เขาก็ต้องถามก่อน ว่า The Orb รู้สถานที่เก็บความลับนั้นอย่างงั้นหรือ? The Orb จึงตอบว่า…

เขารู้ ว่า Watcher เก็บมันในสถานที่ที่เขาจะมองเห็นมัน…

และปัจจุบัน ดวงตาของ Watcher ได้ระเบิดพลังงานของมันออกมา เข้าสู่ผู้คนในบริเวณนั้น รวมไปถึงเหล่าฮีโร่ด้วย พวกเขาได้รับรู้ความลับที่ไม่เคยรู้มาก่อนเข้าแล้ว

Spider-Man : มันเกิดอะไรขึ้น? นี่ฉันเป็นคนเดียวหรือเปล่านี่เห็น… โอ ไม่นะ…

Cage : นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมมันถึง…

Hulk : ฮัลค์ สแมช สตาร์ก!!!

Thor : ด้วยนามของแอสการ์ด…ข้า…มีน้องสาว!

และมันก็สร้างความโกลาหลให้กับคนทั่วไปเช่นกัน พวกเขามองเห็นความลับของคนรู้จักแต่ละคนของพวกเขา

และนั่นก็สร้างโอกาสให้พวก Exterminatrix

Exterminatrix : ออร์บ ฉันไม่รู้ว่าแกทำอะไรลงไป แต่นี่คือโอกาสของพวกเรา ไปเร็วเข้า!

แต่ก่อนที่เขาจะขยับตัวก็สายไปแล้ว

Fury : วางมันลง

Fury : วางลูกตาลง แล้วเอามือของแกไว้บนหัว… แกถูกจับในข้อหาฆาตกรรม

Orb : ไม่จำเป็นหรอก เพราะฉันไม่ใช่คนที่พวกแกไล่ตามอยู่ ฉันก็แค่อยากจะรู้ความลับอันยิ่งใหญ่เหมือนกับพวกนายนั่นแหละ

Orb : ฉันอยากจะรู้ว่าใครกันที่เป็นคนฆ่าวอชเชอร์ นั่นเพราะ มันไม่ใช่ฉันแน่ๆไงล่ะ

ในขณะเดียวกันที่ใต้พื้นผิวโลก

พวก Black Panther เก็บปลอกกระสุนอาบรังสีได้เป็นถึง

Ant-Man : ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะไม่มีคำถามแล้วนะ ที่ว่าเจ้าพวกนี้ถูกฆ่าโดยฆาตกรคนเดียวกัน

Ant-Man : ด้วยกระสุนอาบรังสีแกรมมาที่แปลกประหลาดอีกด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่ฉันบอกได้คือ ศพที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ที่นี่มานานกว่า 10 ปี แล้ว ที่ใหม่ที่สุดก็คือไม่กี่ปีก่อน

Black Panther : พวกมันคือสัตว์ประหลาดจากใต้โลก บางตัวฉันเคยเห็น, บางตัวก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งนั่นย่อมหมายความว่าไม่มีใครเคยเห็นพวกมันเช่นกัน

Emma : กลุ่มสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่มารวมกันตายอยู่ที่ใจกลางโลก… แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการตายของวอชเชอร์ที่ดวงจันทร์ล่ะ?

Black Panther : ฆาตกรมันทำเรื่องนี้มาอย่างยาวนานใต้พื้นดินที่เราเหยียบอยู่ เหมือนกับว่ามันกำลังฝึกฝนทักษะของตัวเองและหลบซ่อนตัวไว้ บางทีที่วอชเชอร์ตาย อาจจะเป็นเพราะเขามองเห็นบางสิ่งที่ไม่สมควรจะเห็นก็เป็นได้

Emma : เขาเห็นฆาตกรงั้นสิ?

Black Panther : เขาคือวอชเชอร์ เขามองเห็นทุกๆอย่างนั่นแหละ แม้แต่สิ่งที่มองไม่เห็นก็ตาม

ในมิติอื่นที่อยู่นอกเหนือจากมิติของเรา

Punisher : เจ้าสิ่งนี้ถูกยิงจากที่ไหนสักแห่ง… ตามแนวกระสุนนี้

Punisher : ซึ่งสถานที่แห่งนี้มันทำให้บอกได้ยากว่าตรงไหน แต่ฉันคิดว่าห่างออกไปประมาณ 4000 หลาได้ ไม่เกี่ยวกับว่ามันใช้ปืนอะไร แต่เจ้านี่โดนยิงตายในนัดเดียว

Punisher : มันมีอยู่ไม่กี่คนหรอกที่ยิงได้แบบนี้ บนโลกนี้ที่ฉันพอจะคิดออกน่ามีไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ และนั่นรวมฉันเข้าไปด้วย

Strange : ขอเถอะน่า นี่นายจะบอกว่าเจ้าฆาตกรนั่นกำลังเดินอยู่ในสถานที่น่ากลัวแบบนี้เนี่ยนะ

Punisher : ตลกดีนี่ นั่นนายหมายถึงเจ้าฆาตกรนั่น… หรือฉันกันแน่?

Strange : แล้วมันต่างกันตรงไหน?

Punisher : ต่างสิวะ ตอนที่ฉันฆ่าคน ฉันไม่เคยหลบซ่อนตัว

Strange : ไม่เลย นายไม่จำเป็นที่จะต้องทำต่างหาก

Punisher : นายจะพาฉันกลับไปยัง แอลเอ เมื่อไหร่ก็ได้ที่นายต้องการ แล้วจากนั้นค่อยมาอธิบายว่า…

Strange : ที่นี่มันทำให้นายรู้สึกไม่สบายใจงั้นสิ งั้นก็ดีเลย เพราะฉันชอบแบบนั้นอยู่พอดี บอกฉันมาสิ แคสเซิล ว่า 10 คนที่นายพูดถึงมีใครบ้าง…

Strange : บอกฉันมาทุกรายชื่อที่นายมีอยู่

ที่อวกาศด้านนอก

ทีมของ Winter Soldier กำลังถกเถียงกันเพราะพวกเขาหาสถานที่ที่ต้องไปไม่เจอซักที และ Gamora ก็บอกให้พวกเขากลับไปที่โลกเพื่อตามหาฆาตกรที่ฆ่าวอชเชอร์ แต่แล้วพวกเขาก็พบกับปลอกกระสุนปืนจำนวนมากลอยอยู่กลางอวกาศ และ Moon Knight ก็พบกับสถานที่ที่พวกเขากำลังตามหาอยู่เสียที

??? 1 : อีกไม่นานแล้ว

??? 1 : พวกเราจะมีแขกมาหาในไม่ช้า ทำให้แน่ใจว่าทุกๆอย่างเรียบร้อยดี และเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดด้วยล่ะ

และคนที่เขาคุยด้วยก็แต่งตัวเหมือนสมาชิก Shield

??? 2 : เข้าใจแล้วครับท่าน และไม่ต้องห่วงครับ พวกเราทำแบบนั้นมาตลอด

??? 1 : และฉันเกรงว่า พวกเราจะต้องการเจ้าสิ่งนี้เพิ่มอีกเยอะ

สิ่งที่ชายปริศนาพูดถึงก็คือ กระสุนอาบรังสีที่เหล่าฮีโร่ตามหากันเจอเองนั่นเอง จากนั้นชายอีกคนก็หายตัวไป เหลือเพียงชายปริศนานั่งอยู่หน้าคอมเพียงคนเดียว

Avengers Tower

The Orb ถูกจับมาที่นี่ และเข้าห้องสอบปากคำโดย… Wolverine กับ The Hulk แต่เขาก็ยังคงไม่พูดอะไรมาก และบอกว่าถ้าอยากรู้อะไรจริงๆให้พาหัวหน้าของพวกเขามาที่นี่

Orb : พา นิค ฟิวรี่ มาที่นี่ แล้วฉันจะบอกพวกแกทุกอย่าง

Cap : แคปถึงตึก

Fury : นี่คือ ฟิวรี่ ว่ามาเลย แคป

Cap : เงื่อนงำแทบไม่เหลืออยู่แล้ว ไม่เห็นร่องรอยของไมดาสหรือสมาชิกอื่นๆของหมอนั่นเลย

Cap : สตาร์กยังบอกอีกว่า รูปแบบสัญญาณที่เราเคยใช้แกะรอยพวก ไมนด์เลสวัน ก็หายไปแล้วอีกด้วย ท่าทางไมดาสน่าจะรับรู้เรื่องนี้และหาทางป้องกันมันไว้ได้แล้ว พวกเรากำลังไปรวมตัวกับกลุ่มแรก

Cap : และนี่หมายความว่าพวกเราเจอทางตันแล้วล่ะ นิค ถ้านายอยากจะให้พวกเราตามหาไปทั่วทุกมุมโลก ฉันคิดว่าคงจะต้องใช้คนมากกว่านี้

Cap : แล้วนี่ทุกๆคนไปอยู่ที่ไหนกัน?

Fury : สิ่งที่ ออร์บ ปลดปล่อยออกมาใส่พวกเราก็คือระเบิดที่เต็มไปด้วยความลับนะ สตีฟ

Fury : และจากค่าที่อ่านได้… มันคือดวงตาของวอชเชอร์จริงๆ ซึ่งจากทฤษฎีของ รีด ริชาร์ด ก็คือมันทำหน้าที่เหมือนกับเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีชีวิต มันรวมเอาสิ่งต่างๆที่วอชเชอร์เคยเห็นเอาไว้

Fury : ซึ่ง เจ้าออร์บ น่าจะสามารถหาทางเข้าถึงมันและ… โยนความลับต่างๆเข้าใส่พวกเราเหมือนกับระเบิด

Fury : ข่าวดีก็คือ มีแค่คนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ข่าวร้ายก็คือ สมาชิกทีมครึ่งนึงของเราไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ในตอนนี้

Fury : ธอร์, แดร์เดวิล และสไปดี้ หายตัวไปเลยหลังจากตอนนั้น และที่ฉันทำได้ในตอนนี้ ก็คือแยกตัว ฮัลค์ ออกมาไม่ให้ฉีก สตาร์ก เป็นชิ้นๆด้วยเหตุบางอย่าง

Fury : ฉันไม่รู้นะว่าพวกเขาเห็นความลับอะไร แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร… มันทำให้พวกเราเกิดความวุ่นวาย ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ฉันแน่ใจว่า เจ้าออร์บ หวังให้มันเป็นแบบนั้น

Cap : แล้ว ออร์บ พูดอะไรออกมาบ้างหรือยัง?

Fury : บอกฉันมา สตีฟ ว่านายเห็นอะไรจากดวงตานี่

Cap : … มันไม่เกี่ยวกับภารกิจในตอนนี้นะ นิค

Cap : ติดต่อมาหาฉันถ้านายได้อะไรเพิ่มเติมแล้วกัน

Fury : เห็นมั้ย ว่าแม้แต่กัปตันอเมริกายังมองเห็นความลับบางอย่าง ทั้งๆที่เขาไม่เคยมีความลับอะไร แต่ฉันนี่สิมีความลับที่แทบจะนับได้ไม่หมด

Fury : แล้วทำไมฉันถึงมองไม่เห็นอะไรเลย

Moon Knight : เมื่อพวกนายไล่ตามเบาะแสของปลอกกระสุนจำนวนมาก ที่ลอยอยู่กลางอวกาศ พวกนายคงคิดว่าจะเจอกับ… อะไรบางอย่างที่มันบ้าโคตรๆ

Moon Knight : ประมาณอะไรที่มันดูยิ่งใหญ่ อย่างเทพในอวกาศที่นอนตายพร้อมรูกระสุนจำนวนมาก บางทีอาจจะเป็น กาแล็คตัส ที่นอนอยู่ใกล้ๆปืนกล แต่ที่พวกเราเจอ… กลับไม่มีอะไรเลย เบาะแสของปลอกกระสุนพวกนั้นมาจบลงที่นี่ และยานของฉันก็แสกนไม่เจออะไรเลย ไม่มีแม้แต่ซากสิ่งมีชีวิตซักตัว

Moon Knight : แต่ปริมาณรังสีในอวกาศนั้นสูงมาก นี่ฆาตกรมันจัดการประชากรทั้งหมดบนดาวดวงนี้เลยหรือไงเนี่ย? แล้วมันใช่สิ่งที่พวกเรากำลังตามหาอยู่ที่นี่ใช่มั้ย?

Gamora : จากที่ข้าคิด มันน่าจะหลงเหลือบางสิ่งที่พังทลาย หรือซากปรักหักพังอยู่บ้าง แต่มันกลับไม่มีสิ่งใดเลย เว้นแต่โลกที่ตายซากนี่

Winter Soldier : โลกที่ตายซาก…

และที่ Winter Soldier พบจากรูที่พื้นของดาวดวงนี้ก็คือ กระสุนอาบรังสีที่เราคุ้นตา

Winter : ลองมองไปรอบๆสิ พวกนี้มันคือรูกระสุน และมันมากจนฉันนับได้ไม่หมด… แต่ทุกนัดกลับถูกยิงลงพื้น นั่นหมายความว่าฆาตกรของเรานั้นมีทักษะการยิงที่เลวร้าย… หรือไม่ก็…

และจากนั้น Winter Soldier ก็คิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น

Winter Soldier : เวรเอ๊ย… มันเป็นคนที่มีทักษะการยิงสูงมาก

Winter Soldier : พวกเราบินมาจากด้านหลังของดาวดวงนี้ใช่มั้ย?

Moon Knight : ใช่ แล้วมันเกี่ยว…

Winter Soldier : ส่งกล้องมาให้ฉัน

Gamora : ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดว่าตัวเองเจออะไรนะ เพราะพวกเราลองตรวจสอบดาวดวงนี้ดูแล้ว มันไม่มีอะไรเลย

Winter Soldier : ใช่ มันไม่มีอะไรเลย เว้นแต่โลกที่ตายซาก อย่างที่เธอพูด

Winter Soldier : แต่มันก็เป็นโลกที่เต็มไปด้วยรูกระสุน ดาวที่ถูกยิงจนพรุน และฆาตกรของเราไม่ได้ยิงพลาด… แม้แต่นัดเดียว

Winter Soldier : ที่มันถูกยิงเข้าใส่พื้น เพราะมันเล็งยิงลงมาตรงๆ

Winter Soldier : แล้วศพที่พวกเราตามหาอยู่น่ะเหรอ?

Winter Soldier : พวกเราก็กำลังยืนเหยียบมันอยู่นี่ไงล่ะ

และจากกล้องที่ Winter Soldier โยนขึ้นไป ดาวที่พวกเขาอยู่คือสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่จบชีวิตลงเพราะกระสุนจำนวนมากตามที่ Winter Soldier คาดการณ์

Moon Knight : ดาวที่มีชีวิต ใครบางคนคนยิงลงมา… และฆ่าดาวดวงนี้ ฉันคงต้องขอเวลาสักพักในการประมวลผลเรื่องนี้

Gamora : ข้าเคยเห็นดวงดาวแบบนี้มาก่อน มันคือระบบนิเวศที่มีชีวิตของตัวเอง เหมือนกับ อีโก้ ดวงดาวที่มีชีวิต แต่พลังที่ใช้ในการสังหารมันซักตนนั้น… ข้าวาดภาพไม่ออกจริงๆ

Moon Knight : แต่มันชัดเจนว่ามีใครบางคนที่วาดภาพออกมาได้ แต่มันก็คงมีไม่กี่คนในจักรวาลหรอกที่ทำแบบนี้ได้ ฉันพูดถูกใช่มั้ย? ฉันแน่ใจว่าสิ่งนี้ต้องทำให้เราพอจะระบุผู้ต้องสงสัยได้แน่นอน

Winter Soldier : ใช่ มันทำได้

และ Winter Soldier ที่มองกระสุนอยู่นาน ก็ลงมือทำอะไรบางอย่าง ซึ่งเมื่อเขากด ก็มีบางอย่างกระพริบที่ตัวยาน

Moon Knight : พวกเราต้องติดต่อไปหา แบล็ค แพนเธอร์ เพื่อบอกว่าเราพบอะไรเข้า และมันดูเหมือนการฆ่าสังหารสิ่งมีชีวิตระดับคอสมิค พวกเราควรจะติดต่อไปหาทุกๆคน

Gamora : บอกข้าอีกทีซิ วินเทอร์โซลเจอร์ ว่าพวกเราถูกส่งมาที่นี่ด้วยสาเหตุใด และโดยใคร ใครกันที่รู้เรื่องการฆาตกรรมนี้?

Gamora : และ วิทเทอร์โซลเจอร์ บางทีเจ้าควรจะสอนพวกเราเรื่อง… วิทเทอร์โซลเจอร์?

Moon Knight : บั๊คกี้! นี่เขาหายหัวไปไหน? เขาเพิ่งจะ…

และสัญญาณที่ Winter Soldier กดไว้ก็ทำปฏิกิริยา จนยานระเบิดทั้งลำ

Moon Knight : มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? นี่พวกเราโดนโจมตีเหรอ? พวกเราต้องหาบั๊คกี้ แล้ว…

Moon Knight : โอ๊ะ ไม่นะ… เธอคงจะไม่คิดว่าเขา…

Gamora : ข้าคิดว่าพวกเราพบผู้ต้องสงสัยหลักแล้ว และตลอดมาเขา…

Gamora : …ก็อยู่ต่อหน้าต่อตาของพวกเรามาโดยตลอด

และทาง Fury ก็ได้รับการติดต่อมาจาก Wolverine ให้เขาเข้าไปหา The Orb เพราะมันเริ่มอยากจะพูดแล้ว

Fury : และนั่นแหละสิ่งที่ฉันกังวล

Fury : นี่คือดวงตาที่เต็มไปด้วยความลับ และล่าสุดที่ฉันเห็น วอชเชอร์มีตา 2 ดวง แล้วงั้น…

Fury : …อีกดวงมันอยู่กับใคร?

ที่ด้านหลัง ประตูมิติถูกเปิดออก

และเป็น Winter Soldier ที่ออกมาจากประตูนั้น

Fury : อะไรวะนั่น…?

Fury : บั๊คกี้? นี่นายมาจาก…

Winter Soldier ยิงเข้าใส่ Fury โดยไม่พูดอะไรก่อนแม้แต่น้อย

Fury : อั๊กกกกก… บั๊คกี้… ทำไมกัน…

Winter Soldier : การเล่นซ่อนแอบจบลงแล้ว นิค

Winter Soldier : รวมไปถึงการหลบหนีจากบาปของพวกเราเองด้วย

Winter Soldier : มันหมดเวลาที่จะทำเป็นตามืดบอดแล้ว

Winter Soldier ยิงเข้าใส่ Fury ที่พยายามเอื้อมมือไปหยิบปืน และชักเอามีดข้างกายออกมา

Fury : บั๊คกี้ ฉันไม่เคยชอบแกเลยจริงๆ ไอ้บัด….

Winter Soldier : มันจะไม่มีอีกแล้ว นิค…

และเมื่อจบคำพูด Winter Soldier ก็สะบัดมือเต็มแรงฟันเข้าใส่ Fury

Winter Soldier : มันจะไม่มีความลับอีกต่อไปแล้ว

Nick Fury นอนจบกองเลือด โดยที่มีหัวของเขาและดวงตาของ Watcher อยู่ในมือของ… Winter Soldier…

โปรดติดตามตอนต่อไป

และหลังจากที่ความลับได้ถูกปลดปล่อยออกไป Origin Sin Tie-In ได้เกิดขึ้นแล้ว

เล่มหน้า

อย่าได้เชื่อถือใคร…

5 thoughts on “Original Sin #3

  1. Hometown03

    มันตองมีเบื้องหลังแน่ๆ แต่ถ้าอย่างนี้โดนตัดหัวขนาดนี้ จะชุบชีวิตลุงแก กันยังไงล่ะครับ(หรือจะเป็นแนวโคลนตาย แต่ตัวจริงหลบอยู่)

  2. RedRaven

    ลางสังหรณ์ ว่า ที่แคปเห็น มันเกียวกับ พวกแกงค์ อิลูมิตี้ แหงเลย (ฉากที่ หมอแปลก ลบความทรงจำ)

  3. NetNN

    อีเวนท์นี้เลือดสาดกระจายเลยว๊อย!

    ที่น่าสนใจอีกอย่างคือตัวร้ายปลายแถวอย่าง The Orb ดูจะกลายเป็นคนที่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องพอดูนี่สิ

  4. Tonmochi

    สไปดี้ได้ความทรงจำกลับมาแล้ว ไปหา MJ อ่ะเปล่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *