Aquaman #24

DC Comic : Aquaman 24 : ความลับแห่งเจ็ดคาบสมุทร

เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Paul Pelletier, Sean Parsons
วางจำหน่าย: 23 ตุลาคม 2013
สำนักพิมพ์ : DC Comics

ในที่สุดความลับในอดีตของ Atlantis ก็ถูกเปิดเผย และัมันจะเปลี่ยนทุกสิ่งที่ Arthur รู้เกี่ยวกับตัวของเองไปตลอดกาล!

ย้อนไปในอดีตเมื่อหลายปีก่อน ที่ Amnesty Bay

“ตอนนั้นไฟฟ้าดับ และนั่นก็ทำให้ประภาคารก็ไม่มีไฟส่องทาง”
“ในคืนนั้นทอม เคอร์รี่น่าจะตายไปแล้ว”
“…ในคืนที่เขาหลงเข้าไปในใจกลางของพายุ พยายามจะเตือนเรือที่กำลังจะเข้าไปในแก่งกินโสโครกที่จะต้องทำให้มันจมเป็นแน่”
“ทอม เคอร์รี่สามารถเตือนเรือลำนั้นได้สำเร็จ และช่วยชีวิตกลาสีเรือทุกคนเอาไว้ได้”
“แต่ในขากลับไปที่ประภาคาร เรือของเขาก็โดนคลื่นซัดจนพลิกคว่ำ”
“และด้วยน้ำหนักของเสื้อกันฝนของเขาที่กลายเป็นเหมือนสมอที่รัดรอบคอของเขาเอง เขาจึงจมลึงลงไปในทะเล”
“แต่แม่ของท่านได้ว่ายไปหาเขา”
“และนางก็พาเขาขึ้นไปบนฝั่ง”
“นั่นเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นโลกเบื้องบน…รวมทั้งเป็นครั้งแรกที่ได้พบผู้คนที่นั่น”
“ในคืนนั้นราชินีแห่งแอตแลนติสได้ตกหลุมรักชาวโลกเบื้องบนผู้ที่อาศัยอยู่ในประภาคารหลังนั้น”
“ในอีกหนึ่งปีต่อมา นางก็ให้กำเนิดท่าน อาเธอร์”

“ท่านถูกโชคชะตากำหนดให้เป็นราชาแห่งแอตแลนติส อาเธอร์ เคอร์รี่”
“ราชาแห่งเจ็ดคาบสมุทร…”
“…นั่นคือสิ่งที่ท่านคิดว่า่ท่านเป็น”
“รวมถึงชาวแอตแลนติสทุกคนก็คิดเช่นนั้น”
“แต่ข้าได้ค้นพบความจริงที่อยู่ในโบราณสถานที่ถูกฝังอยู่ลึกลงไปในหุบเหวใต้ทะเล ข้าได้รู้ถึงความลับดำมืดที่ซุกซ่อนมานานแสนนาน ข้าได้ภาวนาว่ามันจะไม่มีวันถูกเปิดเผยออกมา”
“แต่ตอนนี้มันได้ปรากฎออกมาแล้ว และมันจะทำลายทุกสิ่งที่ท่านเป็นอยู่…และทุกสิ่งที่ท่านหวังว่าจะได้เป็น”

ตัดมาที่ปัจจุบัน

Arthur : ฉันไม่สนเรื่องประวัติศาสตร์ลับของแอตแลนติสที่คุณว่ามาหรอกวัลโก้…หรือถ้าจะให้ว่ากันตามตรงแล้วรวมทั้งตัวคุณเองด้วยเลยนั่นแหละ

Arthur : ถ้าฉันหลับมาหกเดือนจริงๆล่ะก็…

Vulko : ความหนักหนาของการใช้โทรจิตควบคุมโทโปนั้นมันเกินกว่าที่จิตของท่านจะรับไหว มันจึงต้องการเวลาในการรักษาตัวเอง

Arthur : แต่ตั้งหกเดือน…

Arthur : …ไม่ นี่มันเป็นไปไม่ได้

Vulko : มันเป็นความจริง ราชาผู้สิ้นชีพนำทัพซีเบลเข้าโจมตีแอตแลนติสในขณะที่มันกำลังถูกจู่โจมโดยกองทัพของสการ์เวนเจอร์ ตอนนี้ราชาผู้สิ้นชีพเข้าควบคุมทั้งนครไปแล้ว ถ้าหากว่าข้าไม่พาท่านหนีออกมาท่านคงตายไปแล้ว…

Arthur : เมร่าอยู่ไหน?

Vulko : ข้าก็ไม่รู้! ครั้งสุดท้ายที่ข้าเห็นนางคือในแอตแลนติส ตอนที่นางกำลังเผชิญหน้ากับราชาผู้สิ้นชีพอยู่!

Arthur : แล้วนี่ฉันอยู่ที่ไหน?

ที่นอกเพิงพักนั้นคือทุ่งน้ำแข็งไกลสุดลูกหูลูกตา

Vulko : เราอยู่ในแอนตาร์กติก้า

Arthur : ทำไม?

Vulko : เพราะมันปลอดภัย

Arthur : ปลอดภัยจากอะไร?

Vulko : จากกองทัพของราชาผู้สิ้นชีพ พวกนั้นไม่มีทางคิดที่จะมามองหาท่านที่นี่แน่

Vulko : ข้ารู้ว่าท่านยังโทษข้าในเรื่องที่ข้าจุดประกายสงครามระหว่างแอตแลนติสกับโลกเบื้องบนอยู่ แต่ท่านต้องเชื่อคำพูดของข้าที่ว่าข้ายังคงเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์และที่ปรึกษาของท่านอยู่

Vulko : ข้าเพียงต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แกแอตแลนติส และเหนืออื่นใดคือเพื่อท่าน ราชาของข้า

Vulko : ก่อนหน้านี้มันเคยมีสถานีวิจัยตั้งอยู่ตรงนั้น แต่มันก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้น…จากการที่ราชาผู้สิ้นชีพเปิดประตูสุสานของเขา

Vulko : ทุกสิ่งที่ท่านจำเป็นต้องรู้ ทุกสิ่งที่ข้าหวังไว้ว่าท่านจะไม่จำเป็นต้องรู้…อยู่ที่ข้างล่างนั่น

Arthur : แล้วสิ่งที่อยู่ข้างล่างนั้นคืออะไรกันแน่ล่ะ วัลโก้?

Vulko : ท่านต้องไปเห็นด้วยตาท่านเอง ด้วยตัวท่านเองเพียงผู้เดียว

Arthur : แต่ฉันไม่ไว้ใจคุณ

Arthur : ดังนั้นคุณต้องมากับฉันด้วย

ว่าแล้ว Arthur ก็โดดลาก Vulko ลงมาในรอยแยกของน้ำแข็ง

ที่ตรงนั้นเขาพบศพของชายคนหนึ่ง

Arthur : ผู้ชายคนนี้…

Vulko : เขาเป็นหนึ่งในนักวิจัยที่อยู่ที่นี่เมื่อตอนที่ราชาผู้สิ้นชีพตื่นขึ้นมา
(เหตุการณ์ในเล่ม 18)

Vulko : มันอยู่ปลายอุโมงค์นี่ล่ะ

Arthur : อะไรล่ะ?

Vulko : ความลับของเจ็ดคาบสมุทร

ที่ในห้องโถงขนาดใหญ่นั้น มีบัลลังค์ที่ทำด้วยน้ำแข็งอยู่ตรงใจกลาง และที่ด้านหลังมีรูปปั้นขนาดใหญ่เจ็ดตัว?!

Arthur : สุสานนี่มันคืออะไรกัน? ใครสร้างมันขึ้นมา? เพื่ออะไร?

Vulko : หากท่านขึ้นนั่งบนบัลลังค์นั้น ท่านจะได้รับคำตอบของทุกคำถามที่ท่านต้องการจะทราบ

Arthur : คุณอยากให้ฉันนั่งบัลลังค์นั่นเนี่ยนะ?

Arthur : นั่นมันคือสิ่งที่คุณต้องการมาตลอด และฉันก็พยายามจะปฏิเสธเสมอมา เพียงเพราะว่ามันเป็นสิทธิโดยกำเนิดของฉัน…

Vulko : ไม่ใช่หรอกอาเธอร์…ความจริงก็คือ…

Vulko : การเป็นราชาแห่งแอตแลนติสนั้นไม่ใช่สิทธิของท่าน

Arthur : พอกันทีวัลโก้ บอกฉันมาให้หมดเดี๋ยวนี้

Vulko : เพียงท่านขึ้นนั่งบนบัลลังค์นั้น มันก็จะบอกทุกอย่างให้กับท่าน

Vulko : ได้โปรดเถิดอาเธอร์ ท่านอาจไม่เชื่อใจข้า แต่ท่านก็รู้ว่าข้าไม่คิดทำร้ายท่านแน่นอน ถ้าหากข้าต้องการทำร้ายท่านจริงๆข้าก็คงไม่ดูแลท่านมานับเดือนแบบนี้หรอก

เมื่อไม่มีอะไรจะมาโต้แย้ง Vulko ได้ Arthur จึงเดินไปที่บัลลังค์น้ำแข็ง

Arthur : อย่าเข้ามาใกล้เชียวละวัลโก้

แล้วเขาก็นั่งบนบัลลังค์ แล้วมองขึ้นไปที่รูปปั้นเบื้องบน

Arthur : คนพวกนี้เป็นใครกันแน่?

ตอนนั้นเองน้ำแข็งก็เริ่มเข้ามาปกคลุมร่างเขา?!

Arthur : ฉันนึกแล้วว่าคุณมันไว้ใจไม่ได้

Vulko : ให้น้ำแข็งคลุมร่างของท่านองค์ราชา! ถ้าหากท่านต้องการจะหยุดราชาผู้สิ้นชีพ! ถ้าท่านต้องการจะเห็นแอตแลนติสอีก…ถ้าท่านต้องการจะพบเมร่าอีก…ให้มันครอบคลุมท่าน มันจะทำให้ท่านเจ็บปวด

Vulko : มันจะเจ็บปวดอย่างเลวร้ายในหลายๆทาง

Vulko : แต่มันไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว…

แล้วน้ำแข็งก็ครอบคลุม Arthur จนหมด

มันบอกเล่าเรื่องราวของ Atlan ปฐมราชาแห่ง Atlantis และผู้ที่จะกลายเป็นผู้ทำลายล้างมัน…

ตลอดหลายปีที่เขาครองราชย์นั้น Atlantis ก็เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

เขาติดต่อกับชนเผ่าข้างเคียง และชักชวนคนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมกับชาติที่ยิ่งใหญ่นี้

แต่ทว่าก็มีคนในหลายคนที่ไม่พอใจกับการที่จะมีสายเลือดคนภายนอกมาเข้าร่วมกับชาว Atlantis

และคนสำคัญที่สุดในหมู่พวกนั้นก็คือ Orin อนุชาร่วมสายโลหิตของ Atlan ซึ่งได้ก่อรัฐประหารเพื่อชิงบัลลังค์จากพี่ชายของเขาเอง

Atlan ต่อสู้กับพวกที่ก่อรัฐประหารเพื่อยื้อเวลาให้ราชินีและลูกๆของเขาหนีไป และให้นางไปรอเขาที่จุดนัดพบ

หลังจากนั้น Atlan ที่บาดเจ็บหนักก็หนีไปรอจนพลบค่ำจึงไปพบกับภรรยาและลูกๆของเขาที่จุดนัดพบ…แต่มันสายไปแล้ว ครอบครัวของเขาถูกสังหาร…ไปพร้อมๆกับความฝันของเขา…

Atlan และเหล่าผู้ที่ยังจงรักภักดีต่อเขาถูกไล่ล่า

แต่ด้วยความรู้ที่เขาได้รับมาจากชนเผ่าแห่งทะเลทรายที่เขาเคยติดต่อในอดีต เขาได้สร้างสมบัติที่ทรงอำนาจเพิ่มขึ้นมาอีก 6 ชิ้น มาเสริมให้กับตรีศูลที่เขามีอยู่

และเมื่อเขาพร้อมแล้ว Atlan ก็กลับมาชำระแค้นและสังหารน้องชายผู้ทรยศของเขา

และด้วยอาวุธที่ทรงอำนาจที่สุดที่เขาได้สร้างขึ้นมานั้นเอง…

Atlantis ก็จมลงสู่ก้นทะเล

ประชากรกว่าเก้าสิบเปอร์เซนต์ของแอตแลนติสล้มตายไปในครั้งนั้น…แต่ก็มีผู้คนที่เหลือรอดอยู่เช่นกัน

อาณาจักรทั้งเจ็ดของแอตแลนติสแตกกระจัดกระจายไป…สี่ในนั้นสูญหายไป…เหลือเพียงสามเท่านั้น

และเพื่อความอยู่รอด อาณาจักรเหล่านั้นก็วิวัฒนาการไป…ในทิศทางที่แตกต่างกัน

Arthur : พวกสัตว์ร้ายในหุบเหวใต้ทะเลงั้นรึ?

Arthur : นั่นมันเป็นไปไม่ได้…เจ้าพวกสัตว์ร้ายพวกนั้น…วัลโก้?

Arthur : วัลโก้?!

เมื่อเรื่องราวสิ้นสุดลง Arthur ก็ได้สติแล้วพังน้ำแข็งออกมา

Arthur : ฉันไม่…ไม่เข้าใจ

Arthur : นี่ฉันเห็นอะไร?

Vulko : ความจริง

Arthur : ถ้าสิ่งที่ฉันเห็นเป็นความจริง…คุณก็โกหกฉันมาตั้งแต่วันที่เราพบกัน…และตอนนี้…คุณก็โกหกเหมือนกัน…

Vulko : ข้าไม่อาจปกป้องท่านจากคำลวงได้อีกต่อไปแล้วอาเธอร์ แอตลานได้กลับมาแล้ว…เขาได้ตื่นขึ้นจากสุสานนี้…และเขาก็ต้องการจะแก้แค้นแอตแลนติส

Vulko : ท่านได้เห็นแล้วว่าทำไมเรื่องนี้ถึงต้องถูกปิดบังจากท่าน…ท่านไม่ใช่ทายาทของราชาผู้สิ้นชีพ…ของแอตลาน บิดาผู้ก่อตั้งแอตแลนติส…

Vulko : …ท่านเป็นทายาทของโอริน น้องชายผู้ชั่วร้าย ผู้ที่ชิงแอตแลนติสไปจากเขา

Vulko : แอตลานนั้นเคยเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่…

Vulko : …และบรรพบุรุษของท่านก็คือวายร้าย

โปรดติดตามตอนต่อไป

แถมท้าย
เหตุการณ์ในช่วง Forever Evil (ตาม Time Line แล้วจะเกิดขึ้นหลังเรื่องวุ่นวายใน Atlantis)

Orm อดีตราชาของ Atlantis ถูกคุมขังในเรือนจำ Belle Reve เพื่อรอการพิพากษา ซึ่งโทษของเขาก็คงไม่พ้นประหารชีวิตเป็นแน่

แต่อยู่มาวันหนึ่ง เรือนจำก็ถูกบุกโดยพวก Crime Syndicate และเหล่านักโทษก็ถูกปลดปล่อยออกมาอาละวาด

ซึ่งเมื่อ Orm ออกมาได้ สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของเขาคือ “กลับไป Atlantis”

ระหว่างทางเขาแวะถามทางกับพวกนักโทษที่หลุดออกมาเช่นเดียวกับเขา ซึ่งพวกมันกำลังออกอาละวาดอยู่ในร้านอาหาร

และพวกมันก็แสดงความไร้มารยาทออกมาอย่างชัดเจน

อนิจจา…พวกมันคงจะไม่มีวันได้ไปแสดงความไร้มารยาทให้ใครเห็นได้อีก…

เมื่อเก็บกวาดพวกไร้มารยาทเรียบร้อยแล้ว Orm ก็ถือโอกาสเปลี่ยนชุดนักโทษไปเป็นชุดเกราะของเขาแทน พร้อมถามทางจากพนักงานร้านที่ยังรอดอยู่ไปด้วย

ในขณะที่บรรดานักโทษกำลังออกอาละวาดไปทั่วเมือง Orm ที่เห็นชายทะเลอยู่เบื้องหน้าก็ไม่คิดที่จะข้องเกี่ยวกับเรื่องของพวกชาวเบื้องบนอีก โดยไม่นำพากับคำขอร้องของพนักงานเสริฟสาวที่ขอร้องให้เขาช่วยเหลือลูกชายของเธอที่อายุเพียงแปดขวบเท่านั้น

แม่ผู้สิ้นหวังพยายามจะช่วยเหลือลูก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้…

ทางด้าน Orm ก็ไม่สนใจและกระโจนลงทะเลไป…

ก่อนจะแพ้ใจตัวเองและมุ่งหน้ากลับไปยังชายฝั่งอีกครั้ง!

Not The End!

8 thoughts on “Aquaman #24

  1. Zhion

    …จริงๆ Orin หยิบอาวุธมาผิดนะ ถ้าหยิบ Mjolnir มาก็จบแล้ว…. =w=

    คดีพลิกอีกแล้ว…. อควอแมนเนี่ยจะซวยไปถึงไหนคนรักก็น้อย ทั้งในเรื่องและคนอ่าน แถมบรรพบุรุษยังเป็นทรราชย์โดยสมมบูรณ์อีกตะหาก =w=” ความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ต้องมารับอีก…เอ้อ…

    สี่เผ่าพันธุ์อาจจะมีบทอีกก็ได้นะ น่าสนใจดี แต่ละเผ่ามีความสามารถอะไรกันบ้างนะ หรือที่มีอยู่เนี่ยเฉพาะพวกเก่งๆจริงๆ ไม่ได้เป็นความสามารถของเผ่าพันธุ์โดยรวม ราชาใช้น้ำแข็งได้คนเดียว อาเธอร์ก็ใช้โทรจิตได้คนเดียว แต่ซีเบลทั้งหมดรู้สึกจะใช้น้ำได้หมดเลย ส่วนชาวแอตแลนติสของอาเธอร์แลจะมีแค่เทคโนโลยีอย่างเดียว

    คดียังจะพลิกที่ความเป็นคนดีของ Orm อีก…. ก่อนรีบู๊ทนี่เลวเต็มขั้น แต่ตอนนี้แต่ละเหตุการณ์ทำตัวสมเหตุผล วางตัวเหมาะดี

  2. genesis

    @Zhion สำหรับ Orm เนี่ย ตั้งแต่เข้าบท Throne of Atlantis มานี่ GJ ก็บอกไว้เลยครับ ว่า Orm ไม่ใช่วายร้าย สิ่งที่เขาทำนั้นมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น ละจากที่เราอ่านก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ

    ซึ่งจริงๆแล้วต้องถือว่า Orm ซวยที่สุดใน Throne of Atlantis ด้วย เพราะเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย เขาคือราชาที่ต้องการปกป้องคนของเขาเอง แต่สุดท้ายกลับโดนพี่แย่งบัลลังก์ไป และกลายเป็นนักโทษไปในที่สุด น่าเสียดายจริงๆ

  3. phongpisit

    ตั้งแต่รีบูทมา วายร้ายเดิม ดูเป็นคนดีขึ้นหลายคนเลย…Ocean Master น่าซื้อฟิกเกอร์เก็บจัง

  4. NetNN

    @Kiw
    ถุงใส่มงกุฎ(หน้ากาก)ที่โดน Arthur ชกแตกไปเมื่อตอน Event Throne of Atlantis ครับ

  5. Aone

    รูปสุดท้ายนี่ทั้งซึ้งทั้งฮาเลยนะครับ “แปดขวบบบบบ… แปดขวบมันยังเด็กอยู่เลยนะว๊อยยยยยยย!!!” 555555

  6. Tatoo

    โคตรมันส์ เพิ่งรู้ว่าเเต่ก่อน Atlantis อยู่บนดิน เเล้วค่อยหล่นไปอยู่ในน้ำ เเต่.. ทำไมผู้คนถึงอยู่ในน้ำได้หว่า
    จบบทนี้ Geoff Johns เเกจะไม่เขียน Aquaman ต่อเเล้วอ่ะ จะเปลี่ยนเป็นทีมใหม่เลย เซ็งสุดๆ
    กลัว Aquaman จะกลับไปเเบบเก่ามาก เคยเอามาอ่านอยู่ บอกได้เลยว่าไม่สนุกเลยจริงๆ

  7. Dotto

    ซึ้งใจน้ำใจ orm มาก T T แหม.. ทำเป็นไม่สน สุดท้ายก็ช่วยอยู่ดีนี่นะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *