Superior Spider-Man 23 : Darkest Hour Part 2

Marvel Comic : Superior Spider-man 23 : Darkest Hour Part 2 : Venom no more?!
เรื่อง : Dan Slott
ภาพ : Humberto Ramos
วางจำหน่าย: 4 ธันวาคม 2013
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

ชีวิตการเป็นฮีโร่ของ Flash Thompson มาถึงทางตันแล้วหรือ? เมื่อ Venom Symbiote ถูกชิงไปเสียแล้ว!!

อีกด้านหนึ่ง เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังฉากกำลังทับถมกันเหมือนภูเขาไฟที่เตรียมพร้อมจะระเบิดขึ้นมาใส่ Superior Spider-man ในอีกไม่ช้า!


.
.
.
เปิดฉากมาที่ด้านหน้าของท่าเรือ
กองกำลังตำรวจที่รอดูสถานการณ์อยู่ก็เห็นใครคนหนึ่งวิ่งมาทางพวกเขา

ตำรวจA : สารวัตรแพรตเช็ตครับ นี่ผมเพี้ยนไปแล้วหรือว่าไอ้ที่วิ่งมานั้นคือไคร์มมาสเตอร์จริงๆกันแน่ครับเนี่ย?

Pratchett : ทุกคนอย่าเพิ่งยิงนะ!

Fake Crime Master : ได้โปรดเถอะ! ผมยอมแพ้แล้ว! ผมขอสารภาพทุกอย่าง! ผมขายปืนเถื่อน! ผมจะบอกชื่อผู้ค้าทุกคนให้พวกคุณได้รู้หมดเลย! ช่วยผมทีเหอะ!

Fake Crime Master : ข้างในนั้นมันสนามรบชัดๆเลย! สไปเดอร์แมนกับเวน่อมมันสติหลุดกันไปหมดแล้ว!

ที่ภายในตึก Venom (Eugene “Flash” Thompson) กำลังตกอยู่ในวงล้อมของ Superior Spider-man (Otto Octavius) และสมุน Spider Patrol ของเขา

“อืม บางที่เจ้า “ไคร์มมาสเตอร์เก๊” นั่นมันอาจจะคิดถูกก็ได้นะ”

Venom : คุณจับผมได้แล้ว คุณชนะแล้วล่ะ

S.Spider-man : อะไรนะ?

Venom : คุณบอกว่าคุณไม่รู้จักผมใช่ไหม? เอางั้นก็ได้ แต่ผมรู้จักคุณ

Venom : และสไปดี้ที่ผมรู้จักก็ไม่ฆ่าผู้ร้ายที่ยอมจำนนแล้วใช่ไหมล่ะ?

S.Spider-man : ไม่…แหงอยู่แล้ว

S.Spider-man : ที่จริงแล้ว ฉันแน่ใจว่านี่มันจะสามารถจบลงได้อย่างง่ายๆเลย

“ด้วยความตายของแกไง แค่แกให้ข้อแก้ตัวดีๆกับฉันก็พอแล้ว”

S.Spider-man : ฉันต้องการข้อพิสูจน์ว่านายเป็นฝ่ายควบคุมซิมไบโอตอยู่ ลองสั่งให้มันทำอะไรสักอย่างดูซิ

“ซึ่งฉันจะถือว่านั่นเป็นการกระทำที่เป็นอันตรายและจัดการแกซะเลย”
“ฉันไม่สามารถเสี่ยงให้แกมาเปิดโปงฉันทีหลังได้…และแน่นอนว่าเวน่อมก็เป็นภัยต่อชีวิตคนที่ควรจะถูกจัดการไปตั้งนานแล้ว”

Venom : ผมจะพยายามดู แต่คุณทำร้ายซิมไบโอตด้วยไฟกับคลื่นเสียงไปหนักพอดู

แต่สิ่งที่ S.Spidey ไม่รู้ก็คือ Flash มีความสามารถในการควบคุมใช้งาน Symbiote เหนือกว่า Host คนก่อนๆของมันมากนัก!
ในขณะที่เขาชวน S.Spidey คุย Flash ก็แอบยืดรยางค์ของ Symbiote ไปค้นหาของที่จะช่วยให้เขาหนีไปจากสถานการณ์นี้ไปเรียบร้อยแล้ว

“นี่มันคือส่วนหนึ่งของสินค้าของไคร์มมาสเตอร์”
“ระเบิดควัน”

Venom : …ขอผมตั้งสติสักหน่อย…

ตอนนั้นเอง Venom ก็ขว้างกระป๋องระเบิดควันออกไปซึ่งมันก็ทำงานได้อย่างรวดเร็วและปล่อยควันออกมาฟุ้งเต็มห้อง!

S.Spider-man : แค่ก! นี่มันลูกไม้อะไรกัน?!

“นั่นน่าจะใช้การได้!”

S.Spider-man : ยิงได้…! อุ๊บ!

ก่อนที่ S.Spidey จะทันได้ออกคำสั่งจบ Venom ก็ใช้เท้ายันตูมเข้าเต็มท้องจนเขาปลิวถอยหลังไป!

Venom : โทษทีนะ…

Venom : …แต่ท่าทางพวกลูกน้องคุณดูเหมือนว่าจะอยากจะยิงผมเต็มแกแล้วนี่

เขาซัด Spider Patrol ที่เกะกะขวางทางแล้วเปิดกล่องเก็บอาวุธปืนของ Crime Master และพบอาวุธปืนลำแสงอยู่ในนั้น

Venom : พูดตามตรง คุณก็เหมือนกันน่ะนะ

Venom : แต่ในเมื่อคุณควรจะเป็นฝ่ายคนดี ดังนั้นผมจะตั้งเอาไว้ให้เป็นแบบไม่ถึงตายแล้วกัน

ว่าแล้ว Venom ก็รัวปืนลำแสงใส่พวก Spider-Patrol ทันที!

S.Spider-man : จัดการมันสิเจ้าพวกโง่! ซิมไบโอตของมันกำลังอ่อนแรงอยู่! มันก็แค่คนๆเดียวเท่านั้นเอง!

S.Spidey คิดจะใช้ใยคลื่นเสียงอีก แต่ครั้งนี้ Venom รู้แล้วจึงใช้เท้าถีบแขนของ S.Spidey จนพลาดเป้าไป

Venom : คนๆเดียวที่ได้รับเหรียญกล้าหาญจากการออกรบในสงครามจริงด้วย

Venom : ดูเหมือนว่าคุณจะไม่รู้จักผมเลยสักนิดจริงๆนั่นแหละ

แล้ว Venom ก็หวดปืนเข้าเต็มหน้าของ S.Spidey!!

(Spider-Sense ใช้ตรวจจับการโจมตีของ Symbiote ไม่ได้ ดังนั้นเมื่อไม่สามารถรับรู้การโจมตีล่วงหน้าได้ S.Spidey จึงยากจะหลบหลีกการโจมตีของคู่ต่อสู้ที่เร็วไม่แพ้กันแบบนี้ได้)
(แถมอีกอย่าง ถ้าสู้ตัวต่อตัวแบบเงื่อนไขพลังเท่าเทียมกัน Flash ที่ฝึกการต่อสู้แบบอาชีพมาย่อมเหนือกว่า Peter หรือ Otto อยู่แล้ว)

เมื่อโดนซัดลงไปกอง S.Spidey ก็ชักของขึ้นจนขาดสติขึ้นมาแล้ว

S.Spider-man : ฉันรู้ทุกอย่างที่ฉันจำเป็นต้องรู้! ฉันรู้วิธีที่จะทำร้ายแก!

ว่าแล้ว S.Spidey ก็ยิงไฟกับคลื่นเสียงออกไป แต่ Venom หลบทันจนมันไปโดนกองลังใส่อาวุธแทน!

Spider Patrol : บอส ไม่ได้นะครับ! ลังนั่นมันยังเต็มไปด้วย…ระเบิด

พริบตาต่อมากองลังอาวุธก็ระเบิดตูมจนส่งทุกคนในห้องปลิวไปคนละทิศละทาง

“ซิมไบโอตมันสติแตกไปแล้ว ต้องคุยกับมันเข้าไว้…ให้มันตั้งสติให้ได้”
“ใจเย็นๆนะคู่หู ฉันรู้ว่าไฟกับเสียงมันเจ็บ ให้ฉันเป็นคนจัดการเรื่องสู้เถอะ”
“ฉันจะพาเราออกไปจากที่นี่ ที่ฉันขอให้แกทำคือให้คงสภาพขาของฉันเอาไว้…”
“กับอีกอย่างนึง”

เมื่อควันจางลง Venom ก็หายไปแล้ว

S.Spider-man : เจ้านั่นมันไปไหนแล้ว?

Spider Patrol : เราตามรอยมันได้แน่ครับบอส เจ้าคนท่าทางสะดุดตาแบบนั้นมันซ่อนไม่ได้ง่ายๆหรอก

S.Spider-man : งี่เง่า! ซิมไบโอตของมันสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้! มันสามารถซ่อนในฝูงชนได้! ค้นให้ทั่วบริเวณ สอบสวนให้หมดทุกคน ไปเอาหัวของเจ้าแฟลช ทอมป์สันนั่นมาให้ได้!

(ไม่ต้องเครียดเกินไปหรอก S.Spidey ขนาดสมัย Peter เป็น Spider-man ก็เสียท่า Symbiote อยู่เรื่อยๆเหมือนกันนั่นแหละ)

Pratchett : ไอ้การจะมาหาเรื่องคนของผมนี่มันอะไรกัน? อย่ามาพยายามโทษเราเรื่องที่คุณปล่อยเป้าหมายรอดมือคุณไปได้หน่อยเลย!

S.Spider-man : คนของผมจะรักษามารยาทอย่างดี และจะสอบสวนพวกเขากันเองอย่างละเอียดพอๆกันด้วย

“บ้าเอ๊ย เจ้าซิมไบโอตนั้นมันคงจะทำลายเครื่องติดตามแบบนาโนของฉันไปหมดแล้วแน่ และถ้าไม่มีสัญญาณจากพวกมัน…”
“…ฉันก็ไม่รู้ว่าเวน่อมมันไปอยู่ที่ไหน”

โดย S.Spidey ไม่รู้ Flash ได้ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่รถพยาบาลและทำเนียนหนีไปจากที่เกิดเหตุไปได้

S.Spider-man : ผมขอแนะนำให้คุณหยุดบ่นได้แล้วนะแพรตเช็ต และเริ่มให้ความร่วมมือได้แล้ว

Pratchett : และผมก็ขอแนะนำให้คุณจำไว้ว่าตำรวจไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของสไปเดอร์แมนด้วย

S.Spider-man : งี่เง่า ฮัลโหล? นี่ใครพูดเนี่ย? ไปได้เบอร์ลับของฉันมาจากไหน…?

Anna Maria : ปีเตอร์? ในที่สุดก็ติดซะที!

S.Spider-man : อ้า แอนนามาเรีย ผมขอโทษนะ ผม…

Anna Maria : ขอโทษที่รีบแล่นออกไปเหรอ? ในตอนที่เรากำลัง…

S.Spider-man : แต่ผมจำเป็นต้อง…

Anna Maria : ไปช่วยสไปเดอร์แมน ฉันเข้าใจ แต่คุณติดหนี้ฉันแล้วนะพ่อหนุ่ม ก้อนใหญ่ด้วย!

S.Spider-man : เอ่อ เอาเป็นไปกินอาหารเที่ยงกับครอบครัวผมเป็นไง? พรุ่งนี้เลย พวกเขาต้องยินดีที่ได้พบคุณแน่ ผมเลี้ยงเอง

Anna Maria : โอ ไม่มีทางเลย อาหารเป็นความถนัดของฉัน นี่คือโอกาสที่ฉันจะสร้างความประทับใจให้ครอบครัวของคุณ ฉันควรจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า ไปนะ จุ๊บๆ

S.Spider-man : ผม…เอ่อ…จุ๊บๆ?

Spider Patrol : ไม่ได้เรื่องครับบอส แต่เราจะหามันให้พบให้ได้ จะให้ผมดึงคนจากงานตามหาฮอปก็อปลินไหมครับ?

S.Spider-man : ไม่! พวกแกต้องทำทั้งสองงานพร้อมๆกันไปเลย ไม่งั้นแกได้รับรู้ความโกรธของฉันกับตัวแน่!

S.Spider-man : ไอ้การตามหาคนที่แต่งตัวเป็นก็อปลินมันจะยากได้สักขนาดไหนกัน?

ตัดมาที่รังลับใต้ดินของกลุ่ม Goblin
(พวกนี้ปฏิบัติงานอยู่ใต้จมูกของ S.Spidey และแจมสัญญาณของหุ่น Spider-Bot ไม่ให้จับภาพของใครก็ตามที่สวมหน้ากาก Goblin อยู่ได้)

Green Goblin : เมนาซ ที่รัก ฉันบอกเธอว่าฉันชอบของขวัญที่เธอนำมาให้ไปแล้วใช่ไหม?

Menace : หลายครั้งแล้วค่ะนายท่าน ฉันยินดีที่ท่านชอบหล่อน

Goblin Knight : ทนๆไปเฮอะ

Green Goblin : แย่หน่อยที่เจ้าหล่อนไม่ใช่ของขวัญแบบที่ให้ประโยชน์เราได้เรื่อยๆนี่สิ…

Green Goblin : …ใช่ไหมล่ะจนท.คูเปอร์? ฉันอ่านสมุดบันทึกของเธอแล้ว ก็ชอบตอนจบที่หักมุมนั่นอยู่ไม่น้อยน่ะนะ แต่มันดูเหมือนว่าบทสำคัญมันหายไปบทนึงเนี่ยสิ

Carley : ฉัน…ฉันไม่เข้าใจว่าคุณหมายความว่ายังไง

Green Goblin : โอ้ จริงง่ะ? สมุดบันทึกของเธอมันบอกมาค่อนข้างจะชัดเจนเลยละว่าจิตใจของใครที่ใช้ร่างของสไปเดอร์แมนอยู่…

Green Goblin : …แต่มันดันไม่ได้บอกว่าใบหน้าที่อยู่ใต้หน้ากากนั่นมันเป็นของใคร! มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะรู้เรื่องหนึ่งโดยไม่รู้อีกเรื่องน่ะ? บอกมาซิ

Carley : ฉัน-ไม่-รู้

Green Goblin : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นไปได้ยังไง และนั่นก็…ทำให้ฉันรำคาญใจเอาเรื่อง และฉันก็รู้สึกว่าฉันควรจะได้รู้ด้วย…

Green Goblin : …มันเหมือนเป็นอาการคันเล็กๆที่หลังหัวของฉันที่ฉันไม่สามารถเกาได้ยังไงยังงั้นเลย

Menace : ให้ฉันลองดูนะคะนายท่าน บางทีฉันอาจจะเกามันออกมาจากเจ้าหล่อนให้ท่านได้

Menace : คาร์ลี่กับฉันก็เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน บางทีเราอาจจะ “พูดจาประสาพี่น้อง” กันได้นะ?

Carley : ไม่มีทาง

Green Goblin : เป็นไอเดียที่ดี เธอดูแลแม่สัตว์เลี้ยงนั่น ดูซิว่าจะรู้อะไรได้บ้าง ในระหว่างที่ฉันออกไปทำงานข้างนอก

Green Goblin : พวกเธอสนุกกับเวลาของครอบครัวได้เต็มที่เลย…ในระหว่างที่ฉันจะไปสอนบทเรียนให้เจ้าแกะดำของครอบครัวก็อปลินเสียหน่อย

ที่ Green Goblin ถือติดมือไปด้วยก็คือหน้ากากของ Hobgoblin?! นี่เขาคิดจะทำอะไรกับมันกันแน่?

ตัดมาที่ Apartment ของ Peter Parker ใน Tribecca
Peter พา Anna Maria มาที่ห้องพักของเขาเพื่อเตรียมงานเลี้ยงอาหารกลางวันกับป้า May และ Jay ในวันพรุ่งนี้

แต่จากสภาพที่รกรุงรังที่มีแต่อุปกรณ์และหุ่นยนต์ Spider-Bot วางระเกะระกะไปหมดก็ทำให้สาวร่างเล็กไม่ปลื้มอย่างแรงและชักชวนให้ Peter ช่วยเธอเก็บกวาดให้เรียบร้อย

แม้ Peter จะไม่พอใจนักที่ต้องเก็บของที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินงาน แต่เมื่อโดนลูกอ้อนเข้าก็ต้องใจอ่อนและยอมทำตาม

ตัดมาที่โรงพยาบาล Presbyterian
ที่ห้องเก็บยา Flash Thompson กำลังค้นตู้ยาเพื่อหายาที่จะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเขาและ Symbiote

“ฉันรู้ว่าแกกำลังเจ็บปวด แค่อดทนเอาไว้อีกเดี๋ยวเดียวก็พอ”
“ถึงจะอยู่ร่วมกันมาพักใหญ่แล้ว แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าร่างกายของแกมันทำงานยังไง เพราะงั้นแกลองบอกฉันมาแล้วกันว่ามันมีอะไรที่อยู่ที่นี่ที่พอจะช่วยให้แกดีขึ้นได้บ้าง…”
“นั่นไงล่ะ และเราก็ไม่จำเป็นต้องไปมองหาของในตู้เก็บยาอันตรายด้วยซ้ำ”
“มีเก้าอี้รถเข็นด้วย! ข่าวดีแล้วล่ะคู่หู…เราสามารถไปไหนมาไหนได้แล้ว แล้วยังสามารถพักเหนื่อยไปพร้อมๆกันด้วย
“แกไม่ต้องเป็นขาให้ฉันแล้ว แค่ทำชุดให้ฉันใส่ก็พอ เพราะถึงฉันจะเป็นฮีโร่แต่การไปไหนมาไหนทั้งเปลือยๆมันก็ไม่ดีแน่ๆ”
“สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับต่อไป : ไปหาที่จะหลบซ่อนตัว จะเสี่ยงไปยังที่ๆมีคนอยู่หนาแน่นไม่ได้ และเบ็ตตี้ก็พาแม่ของฉันออกไปจากเมืองแล้วด้วย จากการที่ฉันนึกว่าไคร์มมาสเตอร์จะไปตามล่าพวกหล่อน”

ขณะที่ Flash เข็นเก้าอี้รถเข็นไปยังทางออกของโรงพยาบาล เขาก็ได้ยินพวกตำรวจกับจนท.พยาบาลคุยกัน

ตำรวจB : จะไปที่ร้าน MJ เหรอ? คิดใหม่ดีกว่ามั๊ง ที่นั่นมันเป็นคลับที่ฮอตที่สุดในนิวยอร์คเลยนะ มันแบบว่า…เป็นคลับเฉพาะกลุ่มนี่

บุรุษพยาบาล : ใช่…สำหรับพวกเราไง! ตำรวจ, ดับเพลิง, แล้วก็จนท.รถพยาบาลจะได้เข้าฟรี แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของเจ้าของได้เป็นอย่างดีเลย

“แมรี่ เจน! ดูเหมือนว่าฉันจะยังมีเพื่อนๆเหลืออยู่ในเมืองนี้อยู่แฮะ แต่ก็แน่ล่ะ ในฐานะคนที่ทางการกำลังมองหาอยู่ ฉันจะไปในที่ๆเต็มไปด้วยตำรวจแบบนั้นไม่ได้แหงๆ”
“แต่เมื่อได้ยินชื่อของ MJ มันก็ทำให้ฉันนึกถึงเพื่อนอีกคนที่ฉันสามารถไปหาได้”

(เฮ่ย…อย่าบอกนะว่า)

ตัดมาที่ไนท์คลับ MJ
Mary Jane Watson เจ้าของคลับกำลังต้อนรับลูกค้าอยู่ตอนที่มีใครคนหนึ่งเดินมาหา

Yuri : คุณแมรี่ เจน วัตสันใช่ไหมคะ?

Yuri : ฉันคือสารวัตรยูริ วาตานาเบ้ แห่งกรมตำรวจนิวยอร์ค คุณได้พบกับคาร์ลี่ คูเปอร์บ้างไหมคะ?

Mary Jane : คาร์ลี่ยังไม่มาเลยค่ะ ฉันก็ไม่อยากจะเสียมารยาทนะคะ แต่เรากำลังจะลงไปที่ฟลอร์กันอยู่เลย…จะให้ฉันเลี้ยงคุณสักแก้วระหว่างที่คุณรอไหมคะ?

Yuri : ฉันไม่ได้มาเที่ยวค่ะ เรื่องของเรื่องคือคาร์ลี่หายตัวไป และการโทรออกครั้งสุดท้ายออกจากมือถือของเธอคือสายหาคุณค่ะคุณวัตสัน

Mary Jane : โอตายจริง ฉันรับข้อความจากผู้รับเหมา, ช่างทาสี, พนักงานจนนับไม่ถ้วนเลย…ฉันคงจะพลาดไม่ได้รับสายจากเธอไป ขอฉันดูนิดนะคะ…

Yuri : ถ้าเธอทิ้งข้อความไว้ฉันก็อยากจะฟังด้วยนะคะ

Mary Jane : เอ่อ ตกลงค่ะ แต่เข้าไปฟังในออฟฟิศของฉันดีกว่าเพื่อ…ความเป็นส่วนตัว

เมื่อทั้งสองอยู่ในห้อง MJ ก็เปิดข้อความที่ Carlie ฝากไว้

[…ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของเธอเอง…อยู่ให้ห่างจากปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เอาไว้]

Yuri : เธอหมายความว่ายังไงหรือคะ?

Mary Jane : ฉัน…ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ

Mary Jane : ฉันหมายถึง…เราทั้งคู่ต่างก็เคยคบกับปาร์คเกอร์มาก่อน แต่นั่นมันก็จบไปแล้ว…ทั้งคู่เลย ตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกันเฉยๆเท่านั้น

Mary Jane : ฉัน…ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ

Yuri : น้ำเสียงเธอฟังดูเหมือนว่าเธอกลัวเขา มีอะไรเกี่ยวกับปีเตอร์ ปาร์คเกอร์คนนี้ที่อาจเป็นอันตรายไหมคะ? หรือแม้แต่แค่ความลับ…บางอย่างที่มีความหมายกับทั้งคุณและคาร์ลี่เลยน่ะค่ะ?

Mary Jane : ฉัน…ฉัน…ฉันนึกไม่ออกเลยค่ะ ขอโทษนะคะ ฉันจะลองโทรหาปีเตอร์แล้ว…

Yuri : ไม่ค่ะ ฉันอยากให้คุณไม่พูดถึงเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น ฉันก็ไม่อยากให้คุณต้องเป็นกังวล แต่เรื่องนี้อาจเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของคาร์ลี่ก็ได้

Yuri : และตอนนี้ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ก็เพิ่งจะเป็นบุคคลที่ต้องจับตามองเข้าแล้ว

(ทั้ง MJ และ Carlie ต่างก็รู้ว่า Peter เป็น Spider-man)

ตัดมาที่ Apartment ของ Peter
ในขณะที่ Peter และ Anna Maria กำลังจัดห้องอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูห้องและเมื่อ Peter เปิดประตูออกก็พบกับ

Peter : สวรรค์ช่วย

Peter : แฟลช ทอมป์สัน?

Flash : ฉันรู้…ว่าล่าสุดที่นายได้ยินข่าวจากฉันนั้นฉันย้ายไปอยู่ฟิลลี่แล้ว ฉันกลับมาเรื่องงานน่ะนะแล้วก็มีเวลาว่างนิดหน่อย…ก็อยากจะโทรมาบอกก่อนอยู่หรอกแต่มือถือฉันเจ๊งน่ะ

Flash : เฮ้ จะเป็นไรไหมถ้าฉันจะขออยู่ด้วยซักแป๊บนึงน่ะ? แบบว่ามาคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกันหน่อยน่ะ?

Anna Maria : อ้าว สวัสดีค่ะ นี่ใครหรือปีเตอร์?

Peter : นี่…นี่คือ…แฟลช ทอมป์สัน เขาคือ…แฟลช ทอมป์สันตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ เอ่อ แฟลช ฉันขอแนะนำให้รู้จักแอนนา มาเรีย มาร์โคนี่

Flash : ยินดีที่ได้รู้จักครับ ขอโทษที่มาโดยไม่บอกกล่าวนะครับ ผมกับพีทรู้จักกันมานานมากเลยล่ะครับ

Peter : ใช่ เราเป็น…เพื่อนกันมานานมาก

Flash : เขาพยายามรักษาหน้าผมน่ะครับ สมัยอยู่มัธยมผมเคย…เล่นเขาเสียหนักเลย แต่เราต่างก็เปลี่ยนไปจากสมัยนั้นมากเลย ใช่ไหมเพื่อน?

Anna Maria : ฉันก็อยากจะฟังเรื่องของปีเตอร์สมัยเด็กๆมากเลยนะคะ แต่จริงๆแล้วเรากำลังจะออกไปข้างนอกกัน…ป้าของเขากำลังจะเข้ารับการผ่าตัดน่ะค่ะ

Peter : ว่าไปแล้ว มันเป็นแค่การผ่าตัดเล็กๆเท่านั้นเอง และเธอก็อยู่ในการดูแลของมือดีอย่างดร.เวิร์ธแฮมด้วย เพราะงั้นนายอยู่ที่นี่เถอะแฟลช

Flash : แน่นอนที่สุด เรามี…เรื่องต้องคุยกันเพียบเลยล่ะ

(จะปล่อยให้เหยื่อที่อุตส่าห์มาหาถึงที่หลุดมือไปได้ไงล่ะ?)

ที่ Parker Industries
Dr.Wirtham เพิ่งจะเสร็จสิ้นการผ่าตัดขาของป้า May

ซึ่งผลที่ได้นั้นน่าประทับใจอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงเธอจะไม่มีอาการเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย แต่ป้า May สามารถเดินได้อย่างเป็นปกติโดยที่ไม่ทันนึกถึงไม้เท้าเลยด้วยซ้ำ!

ตัดไปที่สำนักงานใหญ่ บ.Alchemax Corporate
(แต่เดิมเป็นตึกของ Oscorps บริษัทของ Norman Osborn)

นายกเทศมนตรี Jonah J. Jameson กำลังมาติดต่อให้ Liz Allan ผู้บริหารของที่นี่ปรับปรุงชุดรบ Anti-Spider Patrol ของเขาให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นโดยเอาเทคโนโลยีของหุ่นรบ Spider-Slayers มาผสมรวมด้วย
(Liz Allan เป็นเพื่อนร่วมรุ่นชั้นมัธยมของ Peter และ Flash รวมถึงเป็นอดีตภรรยาของ Harry Osborn)

Liz : ท่านนายกฯเจมส์สันคะ…สไปเดอร์สเลเยอร์คือคนที่ฆ่าภรรยาของท่านนะคะ ท่านแน่ใจว่าจะ…

Jameson : ที่ผมต้องการคือให้ผลงานของเจ้าสัตว์ร้ายนั่นถูกใช้ในทางที่ถูกต้อง!

Jameson : ฟังผมให้ดีนะ ผม…รู้บางอย่างเกี่ยวกับสไปเดอร์แมน เจ้านั่นไม่ใช่อย่างที่เห็นภายนอก…ไม่ใช่ฮีโร่อย่างที่เจ้านั่นอยากให้ผู้คนคิดกันว่ามันเป็น

Jameson : เราจะต้องเตรียมพร้อม และถ้าคุณไม่ต้องการทำสัญญาจ้างวานนี้กับผมล่ะก็นะคุณอัลลัน ผมจะไปหาคนที่เขาอยากทำที่อื่น

Liz : นั่นไม่จำเป็นหรอกค่ะ ถ้าคุณโอเคกับมันฉันก็ไม่มีปัญหา ที่จริงแล้วฉันได้เตรียมคนฝีมือเยี่ยมที่สุดเอาไว้แล้ว คุณแบงค์ให้พวกเขาเข้ามาได้เลย

ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกและมีชายหนุ่มสองคนเดินเข้ามา

Liz : ท่านนายกฯเจมส์สันคะ นี่คือหัวหน้าทีมวิจัยของเรา คุณไทบีเรียส สโตน ซึ่งท่านคงเคยได้ผ่านตาผลงานอันยอดเยี่ยมของเขาสมัยอยู่ฮอไรซันแล็ปมาแล้ว…และผู้ช่วยของเขา ไมเคิ่ล โอ’ฮาร่า

Jameson : นี่สโตน อย่าหาว่าดูถูกผู้ช่วยของนายเลยนะ แต่โปรเจ็คนี้สำคัญมาก มันอาจเป็นการดีกว่าที่จะให้จนท.ที่เป็นผู้ใหญ่กว่านี้มารับผิดชอบนะ

Stone : โอ้ อย่าดูถูกไมค์เชียวนะครับ เขาอาจจะยังหนุ่มอยู่ แต่หัวคิดของเขาก้าวไกลมากทีเดียว เรียกว่าล้ำหน้ายุคสมัยอย่างแท้จริงเลย

Michael : ผมไม่เถียงเรื่องนั้นแน่ครับ

(เพราะ Michael O’hara คนนี้จริงๆแล้วก็คือ Miguel O’hara หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Spider-man แห่งยุคปี 2099 ที่โดนส่งข้ามยุคมาติดแหง่กอยู่ในยุคปัจจุบันนั่นเอง)

ตัดกลับมาที่อพาร์ตเมนท์ของ Peter
ทุกคนกำลังทานอาหารกลางวันกันอยู่ ซึ่งทุกอย่างก็ดูจะไปได้ดี แต่ป้า May ดูจะมีอะไรในใจที่เป็นกังวลอยู่

ซึ่ง Anna Maria ก็พอจะเดาได้ว่ามันมาจากที่ว่าเธอเป็นคนตัวเล็ก ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น เพราะ ป้า May เริ่มเป็นกังวลถึงว่าหากทั้งสองคนมีลูกขึ้นมาลูกจะได้รับอาการแบบเดียวกันนี้มาหรือเปล่า?

(คนแคระ (Dwarfism) เป็นอาการทางร่างกายที่ทำให้คนที่เป็นมีการผิดปกติในการเจริญเติบโตจนร่างกายเตี้ยเล็กกว่าคนทั่วไป ซึ่งสาเหตุก็มีอยู่หลายกรณี โดยบางกรณีอาการก็สืบทอดไปยังลูกหลานได้ แต่บางกรณีก็ไม่)

เมื่อสถานการณ์ชักจะเริ่มร้อนขึ้นมา ทางนาย Flash ซึ่งเป็นคนนอกก็คิดว่าแจวก่อนท่าจะดีกว่า

Flash : ฉันน่าจะไปก่อนดีกว่านะ…

Peter : อย่าเชียวนะ!

Anna Maria : ใจเย็นๆสิ มันไม่เป็นไร…

Peter : เอ่อ…ที่ฉันพูดนั่นมันหมายถึง…ฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับนายน่ะนะแฟลช

Peter : มันเป็นเหตุบังเอิญที่น่ายินดีมากที่นายมาเยี่ยมน่ะนะ เพราะหลังจากการผ่าตัดของป้าเมย์เป็นไปอย่างราบรื่น ฉันก็รู้สึกว่าฉันสามารถเร่งกระบวนการขึ้นไปถึงขั้นที่สองได้เลย…

Peter : …นั่นคือการใช้อวัยวะเทียมเต็มรูปแบบ

Flash : โอ เอ่อ…พีท ฉันไม่รู้จะว่ายังไงดี มันน่าซาบซึ้งใจมาก แต่ฉันมีเรื่องที่ต้องกลับไปทำที่ฟิลลี่อยู่อีกมากนะ

Peter : แฟลชเพื่อนรัก ฉันสามารถทำให้นายกลับมาเดินได้อีกครั้งในวันนี้ได้เลยเชียวนะ

Flash : พูดตามตรงว่าจังหวะเวลามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่น่ะนะ

Peter : แฟลช ถ้านี่มันไปได้สวยล่ะก็ ฉันสามารถเริ่มใช้มันเพื่อช่วยเหลือคนพิการอื่นๆได้ในทันทีเลยนะ

Peter : เหล่าทหารผ่านศึกที่จะยินดียอมสละทุกอย่างเพื่อให้ได้อุ้มลูกๆของเขาอีกครั้ง…ได้เต้นรำกับเหล่าคนที่เขารักอีกครั้ง…กลับไปทำงานเดิมได้อีกครั้ง

Peter : ถ้าหากว่านายไม่ต้องการจะทำเพื่อตัวเองล่ะก็…นายจะยอมทำเพื่อพวกเขาไหม?

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ที่ Parker Industries

Peter : พร้อมไหมแฟลช?

Flash : เท่าที่ฉันจะพร้อมได้นั่นแหละ

Dr.Wirtham : ผมสังเกตุว่าคุณเพิ่มอุปกรณ์เข้าไป มันคืออะไรหรือครับ…

Peter : ก็แค่ติดนั่นเพิ่มนี่นิดหน่อย เป็นการปรับปรุงในตอนสุดท้าย ผมจะบอกคุณอย่างละเอียดเลยหลังจากที่เราเสร็จเรื่องแล้ว

Peter : เดินเครื่องได้เลยนะดอกเตอร์ เดี๋ยวผมกลับมา

แล้วเขาก็เดินไปหา Flash

Flash : ฉันนึกอะไรขึ้นมาได้น่ะ ฉันมี…ของฝังอยู่ในตัวนิดหน่อน มันจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาได้หรือเปล่า?

Peter : นายหมายถึงพวกแผ่นเหล็กดามกระดูกหรือพวกเข็มอะไรพวกนั้นหรือ? ไม่หรอก ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน

Flash : เยี่ยมเลย

Peter : ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวเลย แค่คิดถึงพวกคนที่นายจะได้ช่วยเหลือเอาไว้ก็พอแล้ว

Flash : เชื่อเฮอะ นั่นน่ะคือทั้งหมดที่ฉันคิดอยู่เลยล่ะ

Dr.Wirtham : ปีเตอร์? คุณจะไปไหนหรือ?

Peter : อย่างห่วงเลยเวิร์ธแฮม ผมเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยปรับตั้งขั้นสุดท้าย เขาน่าจะมาถึงที่นี่…

Peter : …ในไม่กี่นาทีนี้แล้วล่ะ

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น S.Spidey ก็เดินเข้าประตูมา

Dr.Wirtham : สไปเดอร์แมน? คุณคือผู้เชี่ยวชาญที่ปีเตอร์เรียกมางั้นหรือ?

S.Spider-man : ฉันเคยใช้อุปกรณ์นี้ในงานภาคสนามมาแล้ว ฉันรู้จักการควบคุมมันเป็นอย่างดี

Dr.Wirtham : ก็นะ ผมได้เคยเห็นความสามารถทางการแพทย์ของคุณกับตาตัวเองมาแล้ว แต่นั่นมันในคลีนิคนอกกฎหมายของผม แต่ในกรณีนี้ความเกี่ยวข้องกับพวกฮีโร่สวมหน้ากากมันจะทำให้เรามีปัญหากับการได้รับการรับรองจาก F.D.A. ได้นะครับ
(F.D.A. = Food and Drug Administration = กระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา)

S.Spider-man : ใจเย็นๆไว้ดอกเตอร์ เรื่องของการแพทย์น่ะฉันจะให้คุณรับผิดชอบไปเต็มๆเลย

S.Spider-man : นี่มันเป็นแค่การตรวจสอบเท่านั้น เพื่อตรวจร่างกายของสิบโททอมป์สันว่ามี…สิ่งผิดปกติอะไรบ้าง ที่จริงแล้วมันก็แค่รูปแบบที่เริ่ดขึ้นของอัลตร้าซาวด์ปกติเท่านั้นเอง

S.Spider-man : ฉันก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าการสร้างภาพด้วยคลื่นเสียงมันจะก่อปัญหาอะไรได้

แต่ปัญหาคือในร่างของ Flash มีสิ่งที่ไม่ถูกกับคลื่นเสียงอย่างยิ่งอยู่ด้วยนี่สิ!!

เพียงชั่วอึดใจ Symbiote ที่โดนขับออกมาด้วยคลื่นเสียงก็ถูกดูดไปเก็บไว้ในหลอดแก้วขนาดใหญ่!

S.Spider-man : มันได้ผล! ซิมไบโอตถูกดึงออกมาและเก็บกักเอาไว้แล้ว!

Dr.Wirtham : นั่นมันเพิ่งจะเกิดอะไรขึ้นน่ะ?

เมื่อเห็น S.Spidey เดินมาหา Flash ก็รีบลุกขึ้นไปโวยใส่ทันที

Flash : น…นี่คุณ…ทำอะไรลงไปกัน?

S.Spider-man : ช่วยนายไง ฉันได้ดึงเอาปรสิตต่างดาวอันตรายออกจากร่างกายของนาย…และมอบของขวัญแก่นายโดยทำให้นายกลับมาเดินได้อีกครั้ง

S.Spider-man : หรือนายยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้นายกำลังยืนอยู่น่ะ?

Dr.Wirtham : เจ้าสิ่งนั้นมันมีชีวิตหรือ? มันมีอันตรายไหมน่ะ?

S.Spider-man : เราปลอดภัยน่า ฉันสร้างเจ้าเครื่องกักกันนั่นโดยอิงจากอุปกรณ์ที่รีด ริชาร์ดเคยใช้ขังมันมาแล้ว

Flash : คุณคุยกับพีท แล้วจัดฉากเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมาเรอะ

S.Spider-man : แน่นอน ฉันขอโทษที่ต้องปิดบัง แต่สิ่งที่นายรู้ซิมไบโอตมันก็จะรู้ไปด้วย

Flash : คุณไม่เข้าใจ! ผมควบคุมซิมไบโอตไว้ได้อยู่! แต่ตอนนี้มันเจ็บปวด, หวาดกลัว, โดดเดี่ยว…และมันก็ทรงพลังกว่าที่คุณจำได้มากมายนัก!

ทันใดนั้นเอง Symbiote ก็กระแทกกระจกของเครื่องกักกันจนแตกกระจายและพุ่งเข้าหาคนในห้อง

Dr.Wirtham : โอคุณพระช่วย นั่นมันอะไรกัน?

Flash รีบแท็ค Dr.Wirtham ออกจากเส้นทางโจมตี และนั่นก็ทำให้ Symbiote พุ่งเข้าใส่ S.Spidey เต็มๆ!!

และการรวมตัวครั้งใหม่ก็เกิดขึ้น…

S.Venom : เรา…คือ…The Superior Venom!!

โปรดติดตามตอนต่อไป

แถมท้าย
Miguel O’Hara เป็น Spider-man แห่งยุคอนาคตปี 2099 ซึ่งเขาไม่มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับ Peter Parker แต่อย่างใด เขาเ้ป็นนักวิจัยของบ.Alchemax (ก็อันที่เขากำลังทำงานอยู่ตอนนี้นั่นแหละ) และไปล่วงรู้ความลับสกปรกของ Tyler Stone ผู้บริหารของบริษัทเข้า (เป็นหลานของนาย Stone คนที่เขาทำงานด้วยตอนนี้) จนโดนวางยาซึ่งมันจะทำให้เขาเสพติดมันและต้องทำงานกับ Alchemax ต่อไปเรื่อยๆเพราะที่นี่เท่านั้นที่มียาที่ว่าขาย เขาจึงต้องทำงานไต่เ้ต้าในบริษัทวายร้ายไปเรื่อยๆ แต่ด้วยโชคชะตาำพลิกผัน เพื่อนร่วมงานที่อิจฉาเขาได้่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในที่ทำงานจนเขาโดนสารเคมีสารพัดอย่างหกใส่ตัว และเมื่อสารเคมีไปรวมกับสารพิษที่อยู่ในตัวของเขาอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เขาเกิดมีความสามารถแบบเดียวกับ Spider-man ต้นแบบขึ้นมา ซึ่ง Miguel ก็เลือกใช้พลังนี้เพื่อพิทักษ์ความถูกต้องและคอยขัดขวางแผนงานผิดกฎหมายของ Alchemax ด้วย แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ต้องพบกับเรื่องช็อคอีกรอบเมื่อกลายเป็นว่า Tyler Stone คนที่ทำให้เขากลายเป็นทาสยากลับเป็นพ่อของเขาเอง! (ตัว Stone ไม่รู้เรื่องนี้เพราะเขาเลิกกับแม่ของ Miguel ก่อนจะรู้ว่าเธอคลอดลูกชายออกมา)

เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์ปั่นป่วนของกระแสเวลาที่ทำให้ประัวัติศาสตร์เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ทำให้ Miguel ต้ิองร่วมมือกับ Tyler Stone ในการส่งเขากลับมาในอดีตเพื่อหยุดยั้งต้นตอของมันที่ Horizon Lab ในยุคปัจจุบัน แต่เมื่อเขาและ S.Spidey หยุดเหตุร้ายได้แล้ว Stone กลับหักหลังเขาและทำลายทางกลับห้วงเวลาเดิมของเขาไป ทำให้เขาติดอยู่ในยุคปัจจุบัน ซึ่ง Miguel ก็ตัดสินใจไปทำงานกับ Alchemax ในยุคนี้ที่เพิ่งจะเริ่มก่อตั้งเพื่อจับตาดูไปพลางๆก่อน (ปัจจุบันอาการเสพติดสารพิษของเขาหายแล้ว)

11 thoughts on “Superior Spider-Man 23 : Darkest Hour Part 2

  1. tearfire

    จบเรื่องนี้ otto จะอยู่หรือจะไปหน่ออออ

  2. Tatoo

    ได้ขากลับมาเเต่เสียซิมไบโอต ซวยเเท้
    นับวันเรื่มเบื่อด็อก อ๊อค

  3. เริงร่า

    ตอนนี้ symbiote ก็รู้ตัวจริงดอกเพื่มอีกเเล้ว อาจจะได้เห็น peter เร็วๆนี้

  4. Codetitan

    แฟลช ไม่ต้องไปสนวีน่อมแล้วๆ ไปหาeddie ให้เขาแบ่งท็อกซินให้เลย

  5. Jochoranger

    ข่าวดีนะผมว่า เพราะคาร์นาดยัช่วยฟื้นสมองของเดอะวิซาร์ดกับคาซาดีได้เลย แบบนี้เป็นไปได้ว่าจะช่วยดึงความทรงจำสมัยปีเตอร์รวมกับเวนอมและนำเอาปีเตอร์กลับมาได้นะ

  6. ผีสิง

    มีระยางค์ 4 เส้น เพิ่มขั้นมาแบบนั้นยิ่งย้ำความเป็น Doc Ott เข้าไปใหญ่

  7. genesis

    @Robin น่าจะเพราะคุณ NetNN เขาฝากรูปไว้ที่ pantip แล้วตอนนี้ที่ Pantip เขาปิด Maintenance อยู่น่ะครับ ภาพมันเลยหายไป คิดว่าพรุ่งนี้ก็น่าจะกลับมาแล้วนะครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *