Thunderbolts #17 – INFINITY : TERRIGENESIS

เรื่อง : Charles Soule
ภาพ : Jefte Paolo
วางจำหน่าย : 23 ตุลาคม 2013
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

ในขณะที่เหล่า Thunderbolts กำลังพยายามทำภารกิจของพวกเขาท่ามกลางความวุ่นวายของเหตุการณ์กองทัพของ Thanos บุกโลก แต่ในตอนนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นในเล่มหลักกำลังจะส่งผลมาถึงเล่มนี้แล้ว!!

และในขณะเดียวกัน…ในที่สุด Deadpool ก็มาถึงร้าน Pizza เสียที!!!

เปิดฉากมาในเมือง New York
Red Hulk (Gen.Thaddeus “Thunderbolts” Ross) และ Red Leader (Samuel Sterns) กำลังมุ่งหน้าไปยัง Madison Square Park

Red Hulk : เร็วเข้าสเติร์น! นี่ฉันจะต้องแบบนายวิ่งด้วยหรือไง?

Red Leader : ไม่…ผม…ไม่รู้ว่ายัยผู้หญิงตัวบึ๊กนั่นทำอะไรกับผมเมื่อตอนอยู่ในเรือดำน้ำ หล่อนทำร้ายสมองของผมครับเท็ดเดอุส ผมคิดอะไรไม่ได้เลย

Red Hulk : ถ้านายคิดไม่ได้นายก็ไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน ตั้งสติเข้าไว้สิสเติร์น

Red Hulk : เมอร์ซี่กำลังอยู่ที่ข้างหน้าโน่น เราปล่อยให้หล่อนออกมา หล่อนคือความรับผิดชอบของเรา ไม่ว่าหล่อนจะกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม…

Red Hulk : …มันก็จะเป็นหน้าที่ของเราที่จะหยุดยั้งหล่อน

ที่ภายในสวน Mercy (Abigel Wright) กำลังอาละวาดฆ่าทั้งชาวโลกและเอเลี่ยนอย่างไม่เลือกหน้า

Red Leader : เอาละครับ คุณจะ…ขึ้นไปซัดหล่อนให้ร่วงหรือ…

ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น

Red Hulk : เจ๋งซะไม่มีละ

เมื่อพวกเขาหันไปดูก็เห็นยานอวกาศขนาดใหญ่กว่าลำอื่นๆกำลังถล่มเมืองอยู่

Red Hulk : นั่นมันคือยานแม่ของพวกมันแน่ มันจะถล่มเมืองนี้จนราบ ต้องจัดการมันให้ได้

Red Leader : คุณจะ…ทำได้หรือครับ? มัน…ใหญ่มากๆเลยนะ

Red Hulk : ตัวฉันคนเดียวทำลายมันได้ไม่เร็วพอแน่ ฉันต้องการกำลังรบมากกว่านี้

Red Leader : แล้วเราจะไปหามาจากที่ไหนล่ะครับ?

Red Hulk : ก็นะ…

แล้วทั้งสองหน่อก็หันกลับไปดูทาง Mercy

Red Hulk : สเติร์น! ฉันต้องการแผนการ ฉันต้องการให้เมอร์ซี่ทำลายยานนั่นให้ฉัน และฉันก็ต้องการให้มันเกิดขึ้นเดี๋ยวนี้

Red Leader : ผมบอกคุณแล้ว…ผมคิดอะไรไม่ได้เลย! คุณไม่เห็นหรือ? ร่างกายของผมเริ่มทำงานผิดปกติแล้วด้วย! ผมจะต้องเชื่อมต่อกับสมองที่สองของผม…เพื่อรีบูธสมองหลัก ไม่งั้นผมก็ไม่สามารถจะคิดแผนอะไรออกมาได้เลย

Red Hulk : แล้วเราจะต้องทำอะไรบ้างล่ะ?

Red Leader : ผมจะต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต สมองสำรองของผมอยู่ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

Red Hulk : อินเตอร์เน็ตเรอะ ที่ๆทั้งฉลาดล้ำที่สุดและโง่เง่าที่สุดในโลก เหมาะกับนายที่สุดแล้วล่ะนะสเติร์น โอเค งั้นเรามาหาอินเตอร์เน็ตให้นายใช้กัน

ตัดมายังที่ซ่อนของพวก Paguro
The Punisher (Frank Castle), Venom (Eugene “Flash” Thompson) และ Elektra (Elektra Nachios) กำลังเตรียมตัวลงมือ

Punisher : เวน่อม นายกับฉันจะบุกนำไปก่อน ฉันจัดการทางขวา นายจัดการทางซ้าย ส่วนอิเล็กตร้าเธอคอยดูด้านหลัง พวกมันจะต้องพยายามหนี…นั่นคือสิ่งที่พวกมันทำเสมอ…แต่อย่าให้พวกมันผ่านเธอไปได้เด็ดขาด

Elektra : ได้เลย

Venom : อะไรเนี่ยแคสเซิ่ล นี่เราจะโยนแผนทิ้งไปหมดเลยงั้นหรือ?

Punisher : งานนี้จะไมง่ายไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ ถ้าเจออะไรที่ไม่เหมือนฉันกับอิเล็คตร้าก็ฆ่าได้เลย

Venom : …ง่ายๆงั้นเลย? เราไม่รู้แน่นอนด้วยซ้ำพวกนี้ทุกคนที่มีผิดสมควรตายหรือเปล่านะ

Punisher : ถ้าพวกมันมาอยู่ที่นี่ พวกมันก็มีแต่พวกที่สมควรโดนแล้วทั้งนั้นแหละ นายจะใช้วิธีไหนก็ได้ตามใจนายนะทอมป์สัน แค่จัดการทางซ้ายไปก็พอ

Punisher : พวกพาร์กูโร่มันจะต้องอยู่หลังสุดของห้อง หดหัวเป็นเต่าเหมือนกับที่พวกมันทำมาเสมอ พวกมันคือเป้าหมายหลักของเรา ถ้านายเห็นโอกาสที่จะจัดการกับพวกมัน ลงมือได้ทันที

เมื่อคุยแผนกับ Venom เสร็จ Punisher ก็ยื่นปืนให้ Elektra

Punisher : เอานี่ไป เผื่อเธอต้องใช้

แต่ Elektra หยิบกริชคู่มือขึ้นมาให้เขาดู

Elektra : ฉันถนัดพวกนี้มากกว่า

Punisher : ฉันไม่มีข้อสงสัยกับเรื่องนั้นเลยล่ะ

Punisher : เตรียมพร้อมกันให้ดี นี่คือโอกาสที่เราจะทำสิ่งที่มีความหมายอย่างยิ่ง

Punisher : เราสามารถฆ่าพวกมันให้หมดได้

แล้วทั้งสามก็ออกลุย!!

Paguro2 : พวกมันกำลังถล่มคนของเราซะเละเลยนะนั่น!

Paguro1 : นี่มันน่าผิดหวังสุดๆจริงๆ เราจัดหาอาวุธให้พวกมัน เราให้ที่หลบภัยกับพวกมัน แต่ในเวลาที่เราต้องการพวกมันกลับทำให้เราผิดหวัง

Paguro3 : มีหลายคนที่เลือกจะหลบซ่อน พวกมันไม่อยากจะไปสู้กับพันนิชเชอร์

Paguro2 : ก็แล้วนายจะโทษที่พวกนั้นเลือกทำแบบนั้นได้หรือเปล่าล่ะ?

Paguro1 : แบบนี้มันไม่ได้เรื่องแล้วล่ะ

ว่าแล้วผู้นำตระกูล Paguro ก็เอื้อมไปหยิบไมค์บนโต๊ะ

Paguro1 : ถึงสหายของเราทุกท่าน พวกคุณต่างรู้ดีว่าพวกเราตระกูลพาร์กูโร่ได้ตั้งค่าหัวของพันนิชเชอร์ไว้เป็นจำนวนมหาศาลมาหลายปีแล้ว

Paguro1 : ในตอนนี้ค่าหัวนั้นถูกเพิ่มเป็นสามเท่า และนั่นก็มีผลกับพวกที่โจมตีเราอยู่ตอนนี้ทุกคน

Paguro1 : ทั้งกับตัวเจ้าพันนิชเชอร์เอง…

Paguro1 : …สัตว์ประหลาดที่มันพามาด้วย…

Paguro1 : …และนังมือมีดที่อยู่ตรงทางออกนั่น

ในบรรดาเหล่าร้ายที่หลบอยู่นั้น มีสามพ่อลูกตระกูล Nobili รวมอยู่ด้วย

Carman : ป๋าได้ยินหรือเปล่า? บางทีเราอาจจะควรไปลุยกับเขาด้วยนะ ถ้าเราโชคดีแล้วจัดการพวกนั้นได้สักคน เงินรางวัลมันจะมหาศาลเลยนา มันจะช่วยให้เรากลับมาตั้งหลักใหม่ได้เลย

Gordo : ไม่คุ้มเสี่ยงหรอกน่าคาร์เมน แค่ไม่ถึงนาทีพันนิชเชอร์มันก็จัดการเราได้แล้ว เราจะหาทางอื่นกัน ตระกูลโนบิลิของเรานั้นหาทางออกได้เสมอ…เหมือนที่เราทำมาเสมอตั้งแต่ครั้งก่อตั้งตระกูล

Joe : ให้ตายสิ ป๋าชักเริ่มคิดว่าที่พวกนั้นเรียกเราว่าพวกตาขาวมันจะมีมูลความจริงเหมือนผมหรือเปล่าเนี่ย?

Gordo : เงียบไปเลยน่าโจ! ฉันยอมอยู่รอดอย่างคนตาขาวมากกว่าทำตัวเป็นฮีโร่แล้วตายเยอะว่ะ แถมจะว่าไป…

Gordo : …พวกแกอยากจะเข้าไปร่วมวงกับพวกนั้นจริงๆเรอะ?

Gordo : มันไม่ผิดกับเอาหัวตัวเองยัดเข้าไปในเครื่องบดเนื้อหรอกว่ะ

ตัดมาทาง Deadpool (Wade Wilson)
ในที่สุดเขาก็มาถึงร้านพิซซ่าจนได้

คนขับ : เอาละ เรามาถึงแล้ว

Deadpool : เยี่ยมมากเลยพ่อคนดีของฉัน

คนขับ : ค่าโดยสารทั้งหมดก็สามร้อยดอลล่าห์นะพวก (ประมาณ 9,000 บาท)

Deadpool : อะไรนะ?

คนขับ : นายนั่งมาจากถนนสาย 59 มาจนถึงใจกลางเมืองนา สามร้อยน่ะเหมาะแล้ว จ่ายมาเฮอะ หรือจะให้ฉันเรียกตำรวจดี?

แทนคำตอบ Deadpool ชักปืนออกมาชี้ใส่หน้านายคนขับเครางาม

คนขับ : ใจเย็นไว้ก่อน เย็นไว้!

แล้ว Deadpool ก็กดไกลั่นกระสุนไป แต่เขาไม่ได้เล็งไปที่ลุงคนขับรถ แต่เป็น Alien ที่กำลังมาจากข้างหลังเขาต่างหาก

เมื่อลุงหนวดได้เห็นว่า Deadpool ช่วยชีวิตตัวเองไว้ เลยทำให้เขาเปลี่ยนใจเรื่องค่าโดยสาร

คนขับ : อย่างว่าละ ฉันไม่คิดเงินแล้ว! ขอให้สนุกกับเที่ยวในเมืองอันแสนน่าอยู่ของเรานะ!

Deadpool : อ้อ-เรอะ

Deadpool : ในที่สุดก็ถึงซะที

ว่าแล้ว Deadpool ก็เดินไปที่เคาน์เตอร์

Deadpool : ขอสามชิ้นครับ

แต่พนักงานทั้งสองกลับมองหน้ากันด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก?

พนักงาน1 : นั่นมัน…

Deadpool : นี่พวก ฉันเจอเรียกผิดมาทั้งวันแล้วนา ฉันไม่ใช่สไปเดอร์…

พนักงาน1 : นั่นมันเดดพูลนี่หว่า!

พนักงาน1 : เผ่นเร็วพวก ไปเลย!

แล้วพนักงานทั้งสองก็เปิดแนบออกหลังร้านไป

Deadpool : เอ่อ…

สิ่งที่ Deadpool ไม่ได้สังเกตุคือ สัญลักษณ์ที่อยู่หลังเคาน์เตอร์มันคือตราประจำตระกูล Paguro! ซึ่งนั่นก็หมายความว่าร้านนี้เป็นฉากบังหน้าของธุรกิจผิดกฎหมายนั่นเอง!
(ถึงคนทั่วไปจะไม่ค่อยรู้จัก Deadpool แต่สำหรับพวกอาชญากรหรือวงการนักฆ่ารับจ้างนั้นพี่แกดังกว่า Spidey เยอะ)

แม้คนขายจะไปแล้ว แต่ Deadpool ก็สามารถบริการตัวเองได้

Deadpool : สามชิ้น…ชิ้นละ 3.25 ดอลล่าห์ ทั้งหมดก็…9.75 ดอลล่าห์

ว่าแล้วพี่แกก็เดินไปกดเปิดลิ้นชักเครื่องคิดเงิน แล้วหยิบเงินสิบดอลล่าห์ที่เพิ่งได้มาออกมา

Deadpool : ขอบใจนะแม่หนูใจดีที่เจอกันบนรถไฟใต้ดิน

เขาเอาเงินเข้าไปใส่ไว้ในช่อง แล้วหยิบเงินทอนออกมา

Deadpool : ทีนี้ก็รับเงินทอนมา 25เซ็นต์

Deadpool : ในที่สุด

พี่โม่งยืนดูพิซซ่าหอมกรุ่นเบื้องหน้าที่ต้องฝ่าฟันมาอย่างยากลำบากด้วยความปลาบปลื้ม

ตัดมาทาง Red Leader ซึ่งกำลังอยู่ในสภาพย่ำแย่เต็มที

ตอนนั้นเอง Red Hulk ก็ยื่น Smart Phone ให้เขาเครื่องหนึ่ง

Red Hulk : เอ้า นี่ใช้ได้ไหม?

Red Leader : คิดว่าได้นะครับ เจ้านี่ใช้ออนไลน์ได้ แต่ผมต้องการคลื่นที่ดีพอจะดึงข้อมูลจากสมองที่สองของผมมาได้มากพอที่จะรีบูธตัวผมเองได้ ขอผมลองดูว่าผมจะสามารถใช้เจ้านี่ดึงมาได้ขนาดไหน…

Red Leader : มีคลื่นแค่ขีดเดียวเอง? ไม่เอาน่า

Red Leader : แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลยล่ะนะ

Red Leader : 11010010010101001010101001001

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังกระหึ่มขึ้นอีก?!

Red Hulk : อะไรอีกล่ะ?

ที่ท้องฟ้าเบื้องบนมีแสงสีทองวาบขึ้น ก่อนจะดับวูบลง แล้วก็มีหมอกควันสีเขียวเข้าปกคลุมไปทั่ว?!

Red Hulk : นี่มันอะไรกัน?

ขณะที่หมอกควันสีเขียวยังแผ่ไปทั่วบริเวณ Red Leader ก็ลุกขึ้นมายืนได้

Red Hulk : นายเป็นยังไงบ้าง?

Red Leader : ตอนนี้ผมโอเคแล้ว ถึงผมจะดึงมาได้ไม่มากพอจะรีบูธได้เต็มที่ แต่ผมก็สามารถหยุดการสมองเสื่อมไปได้สักพัก

Red Leader : แล้วนี่มันอะไรเนี่ย?

Red Hulk : หมอกพวกนี้มันลงมาในช่วงที่นายกำลังง่วนอยู่กับโทรศัพท์ บางทีอาจจะเป็นการโจมตีด้วยก๊าซก็ได้ ซึ่งถ้าใช่ล่ะก็ฉันก็ไม่รู้ว่าเราควรจะทำยังไง…

Red Leader : ไม่ใช่หรอกครับ

แล้ว Red Leader ก็สูดหมอกควันเข้าไปเฮือกใหญ่

Red Leader : นี่มันหมอกเทอร์ริแกน เป็นสารเปลี่ยนสภาพร่างกาย ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เพราะมันเป็นของหายากสุดๆเลย

Red Hulk : เราจำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรือเปล่าล่ะ?

Red Leader : ไม่ครับ มันมีผลเฉพาะกับผู้ที่มีสายเลือดของอินฮิวแมนเท่านั้น ซึ่งทั้งคุณและผมก็ไม่ใช่แน่นอน เว้นแต่จะมีอะไรผิดปกติมากๆเกิดขึ้นอยู่หมอกนี้จะไม่มีผลใดๆกับคนบนดาวดวงนี้ทั้งสิ้น

Red Hulk : งั้นก็ดีแล้ว กลับไปเข้าเรื่องของเรากัน ฉันหาอินเตอร์เน็ตมาให้นายใช้ได้แล้ว นายคิดซิว่าเราจะจัดการกับเมอร์ซี่ยังไง?

(หมอกนี้เกิดขึ้นจากการที่ Blackbolt ราชาแห่งเผ่าพันธ์ Inhuman เข้าต่อสู้กับ Thanos และทำให้ Terrigan Bomb ทำงานจนปล่อย Terrigan Mist ออกมายังพื้นโลก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเล่มหลักเล่ม 4)
(คาดว่าเหตุการณ์นี้จะต่อเนื่องไปจนถึง Event ใหญ่ต่อไปของ Marvel ในปี 2014 ที่มีชื่อว่า “Inhumanity” ด้วย)

Red Leader : คุณอยากให้เมอร์ซี่โจมตียานลำนั้นใช่ไหมครับ? งั้นจงทำให้มันกลายเป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความสิ้นหวังยิ่งกว่าที่ไหนๆในละแวกนี้ ทำให้ทุกชีวิตบนนั้นปราถนาความตายขึ้นมา

Red Hulk : อันนั้นฉันจัดให้ได้

ว่าแล้ว Red Hulk ก็กระโดดเด้งตัวจากยอดตึกไปที่ยานอวกาศ แล้วใช้มือฉีกเปิดผนังยานออก!

Red Hulk : สวัสดีทุกท่าน

ทางด้าน Mercy ที่กำลังอาละวาดอยู่ ก็รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวและความตายจำนวนมากมาจากยานที่อยู่ห่างออกไป เธอจึงมุ่งหน้าไปที่นั่นทันที

ตัดมาทางพวก Punisher
พวกเขาเริ่มเสียท่าจากการโดยคนหลายสิบรุมเข้าไปอย่างไม่ขาดสาย

Elektra ที่เห็นว่าชักไม่เข้าที จึงตัดสินใจขว้างกริชไปเสียบคอวายร้ายคนหนึ่ง…แล้วหยิบปืนของมันขึ้นมา?

แล้วซือเจ๊ชุดแดงก็ยิงออกไปสี่นัด…เข้าเป้ากลางหน้าผากร่วงไปสี่คน

Punisher : ฉันนึกว่าเธอถนัดมีดมากกว่าเสียอีก

Elektra : ฉันสุดยอดที่สุดเรื่องมีด ส่วนอย่างอื่นๆนั้นฉันแค่ยอดเยี่ยมเท่านั้น ว่าแต่เวน่อมล่ะ?

Punisher : เขากำลังไปได้สวยเลยละ

การรุมเข้าไปหา Venom และทำให้เขาไม่มีเวลาหาวิธีรับมือนั้นกลับเป็นการตัดสินใจผิดอย่างแรงของพวกเหล่าร้าย เพราะมันทำให้ Venom เลิกออมมือและหันมาใช้เขี้ยวเล็บมาฉีกกระชากพวกมันเป็นชิ้นๆแทน!!

แล้ว Punisher กับ Elektra ก็สังเกตุว่ามีหมอกสีเขียวลอยเข้ามาในห้อง

Elektra : หมอกพวกนี้มันอะไรน่ะ?

Punisher : ไม่รู้สิ แต่มันก็ยังไม่ได้ฆ่าเรานี่นะ

Elektra : งั้นก็กลับไปทำงานต่อสินะ?

Punisher : กลับไปทำงานต่อกันได้เลย

Paguro2 : ควันพวกนี้มันอะไรน่ะ? พวกมันรมแก๊สเราหรือยังไง?

Paguro1 : ไม่ต้องสนใจ นี่เป็นโอกาสของเราแล้ว รีบไปในตอนที่ยังมีโอกาสเถอะ

ทว่าโดยที่ไม่มีใครรู้…หมอกควันเหล่านี้ได้ส่งผลกับบางคนในห้องนี้…

Joe : กลิ่นหอมจังเลย…ยังกับขนมปังอบใหม่ๆเลย…

Gordo : ยังกับกลิ่นอบเชยหรืออะไรสักอย่าง…ไม่แน่ใจเหมือนกัน…แต่ว่า…

Carman : ผมรู้สึก…แปลกๆนะป๋า แปลกมากๆเลย…

แล้วสามพ่อลูกก็ล้มลงกับพื้น ตาเหลือกลาน น้ำลายฟูมปาก (?!)

ขณะเดียวกัน ในขณะที่พวก Paguro พยายามจะหนี Venom ก็หันไปเห็นเข้าและยิงใยไปติดที่ตัวพวกมันไว้

ตัดกลับไปที่สามพ่อลูก
ที่ๆพวกเขานอนอยู่กลับมีสิ่งประหลาดคล้ายรังไหมสามอัน และตอนนั้นเองก็มีอะไรบางอย่างออกมาจากข้างใน!!

Joe : เอ่ออออ…ป๋า?

Gordo : ใช่ ป๋าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะไอ้ลูกชาย แต่ป๋าก็ชอบแฮะ

สามพ่อลูกตระกูล Nobili มีสายเลือดของ Inhuman อยู่ในตัว?! แล้วนี่สถานการณ์มันจะกลายเป็นอย่างไรต่อไป?!
โปรดติดตามตอนต่อไป

แถมท้าย

ในปี 2014 ทีม Thunderbolts จะมีสมาชิกใหม่เข้ามาร่วมทีม

ชื่อของเขาคือ Johnny Blaze…หรือที่แฟนๆ Marvel ต่างรู้จักกันดีในนามของ Ghost Rider!!!!