Scarlet Spider : 20

Scarlet Spider #20

Sibling Rivalry : Part2

เรื่องโดย : Christ Yost | ภาพโดย : Erik Burnham

วางจำหน่ายวันที่ : 14 สิงหาคม 2013

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

นี่เป็นงานสปอยที่ผมร่วมกันทำกับคุณ Genesis โดยเล่มนี้เป็นเล่มที่ 2 และเป็นเล่มจบของ Cross-Over ระหว่าง Superior Spider-man Team-Up และ Scarlet Spider


หลังจากการที่ต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆอยู่หลายปี ในที่สุด Kaine ก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่พร้อมทั้งได้มีเพื่อนใหม่ที่เมือง Houston รัฐ Texas
อย่างเช่น Aracely เด็กสาวที่เคนช่วยจากแก๊งค้ามนุษย์…ผู้ที่ความสามารถโทรจิต

…และมีอดีตที่ดำมืดยิ่งกว่า Kaine เสียอีก

เมื่อไม่นานมานี้ Kaine กับ Aracely ได้เดินทางมาที่ New York เพื่อร่วมกับ Wolverine กับพวก X-Men ต่อสู้กับ Assasins Guild ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้จากกันด้วยดีนัก

(จริงๆแล้ว Kain โดน Assasin Guild ข่มขู่ให้รับงานฆ่า Wolverine แต่สุดท้ายก็จับพลัดจับผลูไปร่วมมือกันสู้กับ Assasin Guild ซะงั้น ซึ่งสุดท้ายเรื่องก็จบลงโดย Kaine เจรจากับ Kingpin ให้เทคโอเวอร์ Assasin Guild ทำให้พวกนั้นไม่มีเหตุผลที่จะตามล่า Kaine อีก เพราะตอนนี้ Kaine ถือว่าเป็นหนี้บุญคุณกับ Kingpin ที่ต้องใช้คืนในภายหลังแทน)

และเมื่อ Kaine ได้ไปเยี่ยม “พี่ชาย” ของเขา Peter Parker ซึ่งมันก็ไม่ราบรื่นนักเช่นกัน

ซึ่งก็แน่ละ Kaine ไม่รู้ว่า Otto Octavius (Doctor Octopus) ศัตรูของ Spider-man ได้สลับความคิดความทรงจำกับ Peter และ “สังหาร” เขาไปแล้ว

แต่ทั้งสองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาถูกจับตามองโดย Jackal หรือที่เคยรู้จักในนาม Mile Warren นักวิทยาศาสตร์ผู้ที่หมกหมุ้นกับ Spider-man จนกระทั่งสร้างโคลนของเขาขึ้นมา…รวมถึงตัว Kaine เองด้วย

นักรบแมงมุมทั้งสองต่อสู้กันจนตกลงสู่อุ้งมือของ Jackal

รวมถึงใบหน้าที่คุ้นเคยที่ทั้งสองได้เห็นก่อนที่จะถูกจับตัวไป…

“ฉันชื่อเคน”
“และฉันก็ภาวนาให้นี่มันเป็นแค่ฝันร้าย”
“ผู้หญิงคนนั้น ฉันรู้จักเธอ ได้ยังไง…”
“ทำไมฉันถึง…”

แล้ว Kaine ก็รู้สึกตัวขึ้นมา

“เดี๋ยวสิ นี่ฉันยังฝันอยู่รึ? ไม่น่าเป็นไปได้

ที่อยู่เบื้องหน้าของเขาคือโคลนของ Gwen Stacy หญิงผู้เป็นรักแรกของทั้ง Peter Parker และ Jackal
(ส่วนใหญ่ Jackal มักจะทำโคลนของ Peter กับ Gwen เป็นหลัก)

Gwen : ฉันจำคุณได้…คุณอยู่ด้วยเมื่อตอนที่ฉันเกิดขึ้นมา…ประมาณนั้นน่ะนะ…

“ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นของแสงไฟบนหน้าฉัน แต่ผู้หญิงคนนี้…

Gwen : เราทุกคนต่างก็ดีใจเมื่อตอนที่คุณหนีไปได้นะเคน เราดีใจมากจริงๆ ฉันถึงต้องขอโทษที่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับคุณในตอนนี้…กับพวกคุณทั้งคู่

ตอนนั้นเองก็มีอีกเสียงพูดขึ้น

S.Spider-man : ขอทีเหอะน่า…

S.Spider-man : ขอร้องเหอะ อย่าให้ฉันต้องมาฟังคำพูดชวนคลื่นไส้นั่นเลย อย่างน้อย “ผู้หญิงจริง” ก็ต้องรู้จักเลือกเวลาจะจีบกันบ้างล่ะ

S.Spider-man : และสำหรับแกนะเคน…

S.Spider-man : …ฉันขอแนะนำให้แกเลิกคิดถึงวันที่แกคลานออกมาจากหลอดทดลองแล้วคิดถึงวันที่แกจะตายเอาไว้ดีกว่า…ซึ่งมันก็ท่าทางจะเป็นวันนี้ล่ะ

ที่รอบข้างพวกเขาทีโดนมัดด้วยโซ่อยู่คืออมนุษย์แมงมุมหลายตัว และตอนนั้นเองเจ้าคนตัวต้นเรื่องก็ออกมา

มันคือ Jackal กับผู้ช่วยของมันอีก 2 คน นั่นคือ Carrion และ Miles โคลนของมันที่มาจากเซลสมัยมันเป็นคนธรรมดานั่นเอง
(มีคนใช้ชื่อว่า Carrion อยู่กลายคน แต่ตัวนี้น่าจะเป็นตัวแรกที่เป็นโคลนของ Jackal ที่ถูกทำให้มีพลังพิเศษด้วยไวรัสพันธุกรรม)

Jackal : หนุ่มๆ…

Jackal : อย่าเถียงกันสิ…มันทำให้ป๊ะป๋าเศร้าใจนะ

Jackal : ยกเว้นแต่ตอนที่มันไม่เป็นอย่างนั้นไงล่ะ

Jackal : โอ้ แต่ฉันว่าฉันคงให้อภัยพวกแกได้ล่ะนะ ก็พวกแกเพิ่งเจอกับวันหนักๆมานี่นา และแกก็น่าจะเลิกพยายามจะฉีกโซ่พวกนั้นได้แล้วนะ ฉันน่ะรู้จักแกไปจนถึงระดับอะตอมเชียวนะปีเตอร์ และวัสดุที่ใช้นั่นมันก็เกินระดับที่พลังของแกจะทำลายได้ไปไกลเลยละ แกไม่มีทางหนีไปได้หรอก พวกแกทั้งคู่เลย

Kaine : ไม่หรอกว่ะ และเมื่อฉันหลุดไปได้ฉันสาบานว่าฉันฆ่าแกแน่

Jackal : ฮ่าๆๆ! โอ้ เคน…นี่ฉันนึกว่าอารมณ์ขันของปีเตอร์ไม่ได้ถ่ายทอดไปยังแกเสียอีกนะ

S.Spider-man : แกมีเป้าหมายใหญ่อะไรล่ะแจ็คกัล?

Jackal : “เป้าหมายใหญ่” ของฉันงั้นรึปีเตอร์? แกหมายถึงอะไรกันเรอะ?

S.Spider-man : อย่ามาดูถูกฉันนะ ที่ผ่านมาแกเป็นแค่ตัวน่ารำคาญจิ๊บจ้อยเท่านั้น แต่นี่…ฐานทัพนี่…ผลงานใหม่ของแกพวกนี้…มันใหญ่โตกว่าความยึดติดปกติของแก แกต้องการจะทำอะไรกันแน่?

Jackal : ฉันต้องการอะไรงั้นรึ? ฉันอยากได้วิญญาณของแกไงปีเตอร์ ฉันอยากได้ทุกโครโมโซมของแกเลย ฉันอยากจะใส่ชิ้นส่วนเล็กของแกในทุกสิ่งที่ฉันอนุญาติให้มันมีชีวิตขึ้นมา นั่นแหละที่ฉันต้องการ

Jackal : แกวางแผนจะเก็บ DNA ของฉันงั้นรึ…?

S.Spider-man : ไม่มีทาง! นั่นมันรับไม่ได้! DNA ของฉันเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น! ฉันไม่ยอมถูกก็อปปี้แน่!

Jackal : แหม อย่าพูดจาซะดราม่าแบบนั้นสิปีเตอร์ แกก็รู้ว่ามันต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้างแน่ๆอยู่แล้ว บางทีฉันอาจจะสร้างแกที่มีแขนเยอะขึ้นกว่าเดิมขึ้นมาก็ได้

Jackal : หรือฉันอาจจะไม่ทำก็ได้นะ ถ้าแกปฏิเสธเสียขนาดนั้น แต่อย่างไรเสีย DNA ของแกก็ยังเป็นกุญแจสำคัญอยู่ดีนั่นแหละนะปีเตอร์

Jackal : ว่าไปแล้วมันก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ต้น…และฉันก็ต้องการตัวอย่างสดใหม่จากต้นแบบเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานชุดต่อไปของฉันจะออกมาถูกต้อง

Jackal : เพราะเราต่างก็รู้ดีว่ามันจะเป็นยังไงเมื่อการโคลนนิ่งมันผิดพลาดขึ้นมา จริงไหมล่ะเคน?

Jackal : พวกมันจะทำให้เราผิดหวัง และความผิดพลาดมันก็ไม่มีค่าอะไรนอกจากส่งไปที่ทิ้งขยะ

Jackal : ยังไงเสียเราก็ไม่สามารถเป็นเบ็น ไรลีย์กันได้ทุกคนว่าไหมล่ะหือ? หมอนั่นนะเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบเลย

Kaine : ฮึ่ม…

(Ben Reilly : คือโคลนของ Peter ที่ถูกสร้างขึ้นหลังจาก Kaine ซึ่งเขาเป็นโคลนสมบูรณ์แบบที่ก็อปปี้ทั้งรูปร่างหน้าตา, ความสามารถและความทรงจำของ Peter มาได้ทั้งหมด และยังเป็น Scarlet Spider คนแรกด้วย แต่สุดท้ายเขาก็โดน Green Goblin ฆ่าตาย)

Jackal : แต่วิทยาศาสตร์มันก็เป็นอย่างนั้นล่ะนะ มันอยู่ที่การเสาะหาความสมบูรณ์แบบ นี่ถ้าแกได้สมองของปีเตอร์อยู่ล่ะก็นะเคน แกก็คงจะเห็นด้วยกับฉัน ว่าความสมบูรณ์แบบคือจุดหมายที่แท้จริงของทุกสิ่งทุกอย่าง

Jackal : ตัวอย่างเช่น ดูพวกโคลน-แมงมุมที่มีพลังมิวแตนท์พวกนี้สิ เมื่อมีพวกนี้อยู่ จะมีพวกคนธรรมดาไปทำไมกัน? ส่งพวกโคลนเข้ามาเลย! ให้พวกนั้นรับสืบทอดโลกนี้ไป! ก็นะ เฉพาะพวกที่ดีๆนั่นแหละ โอ้ ลองคิดถึงเรียลลิตี้ทีวีดูก็ได้!!

Jackal : แกไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ แกมันคนเสียสติต่างหาก

S.Spider-man : ยิ่งกว่านั้นอีก แกมันน่าสมเพชต่างหาก เพราะหลังจากที่แกทำสิ่งที่ฉันต้องยอมรับว่าโชคดีสุดๆอย่างการจับตัวฉันมาไว้ได้…แต่แทนที่แกจะใช้มันในการทำให้แผนของแกเดินหน้าไป แกกลับมาเสียเวลาไปกับการพล่ามเรื่องไร้สาระ!

S.Spider-man : และนั่นคือสาเหตุที่แกล้มเหลวล่ะ ทันทีที่แกแม้แต่พยายามที่จะ…

Jackal : “ทันทีที่ฉันแม้แต่พยายาม…” งั้นเหรอ? เอาจริงดิปีเตอร์ ฉันไม่ใช่ผู้ร้ายในหนังเจมส์ บอนด์นะ ฉันทำไอ้ที่ฉันอยากทำกับแกไปเรียบร้อยแล้วหมดแล้ว

S.Spider-man : แกทำอะไรนะ?!

Jackal : ตัวอย่างเลือดยี่สิบเจ็ดหลอด, ไขกระดูกอีกนิด, น้ำลายอีกหน่อย แล้วก็ตัดผมกับเล็บให้แกด้วย…

Jackal : อ้อ แล้วก็ตัวอย่าง…อื่นๆอีกนิดหน่อย เผื่อว่าสักวันหนึ่งฉันจะอยากทำอะไรที่มันเป็นแบบดั้งเดิมดูบ้าง แบบว่าเพื่อความสนุกไงล่ะ

(คาดว่ามันหมายถึง “น้ำเชื้อ” หรือเรียกอีกอย่างว่า “อสุจิ” น่ะครับ…ด็อกเอ๊ย…มันหมายความว่าเอ็งโดนปู้ยี่ปู้ยำชนิดทะลุทะลวงไปเรียบร้อยแล้วไงล่ะ)

S.Spider-man : อะไรนะ? ฉัน…แก…!!!

ขณะที่ Jackal กำลังคุยกับ S.Spidey อยู่ Kaine ก็เบ่งกำลังสุดฤทธิ์เพื่อทำลายโซ่ที่มัดเขาอยู่

Jackal : แกจะพอซะทีได้ไหมหาเคน? โซ่พวกนั้นน่ะทำพิเศษเพื่อที่จะ…

=แคร้ง=

Jackal : โอ๊ยโหย…

Kaine : แจ็คกัล…ฉันอาจจะไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่ก็จริง…

Kaine : …แต่พระเจ้ายังรู้เลยว่าแกมันสมควรตาย

Jackal : เห็นไหม? มุขที่แกพูดนั่นมันไม่สร้างสรรค์เอาเสียเลยนะเคน แกจะทำให้ฉันผิดหวังได้อีกขนาดไหนกันเนี่ย?

Jackal : แต่อย่าห่วงเลย แกจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังมากกว่านี้แล้วล่ะ…

ทันใดนั้น Kaine ก็โดนโจมตีด้วยลำแสงพลังงานจนล้มลงไป บาดเจ็บ แต่ยังไม่ตาย…

Kaine : แหม ดูซินั่น เคน…แกยังไม่ตายแฮะ! วันนี้แกทำให้ฉันแปลกใจหลายต่อหลายครั้งเลยนะเนี่ย

Jackal : ฉันว่าฉันตัดสินใจได้แล้วว่าจะผ่าพิสูจน์แกก่อนแล้วค่อยทิ้งแกลงไปยังที่ทิ้งขยะละกันนะ!

Jackal : ได้ยินแล้วใช่ไหมเด็กๆทั้งหลาย? เหลือซากไว้พอให้ป๊ะป๋าผ่าด้วยล่ะ!

สิ้นเสียงสั่งของ Jackal เหล่าอมนุษย์แมงมุมก็พุ่งใส่ Kaine ทันที
(พวกนี้เป็นโคลนดัดแปลงที่ใช้ตัวอย่างเซลของ Mutant ที่ Jackal ไปขโมยมาจาก Mr.Sinister ผู้ร้ายของซีรีย์ X-Men ที่คลั่งการโคลนนิ่งพอๆกับมัน ทำให้พวกนี้มีพลังของ Mutant ผสมอยู่ด้วย อย่างที่ Kaine โดนไปนั้นก็เป็นพลัง Optic Blast ของ Cyclop)

“เจ้าตัวที่มีพลังเทเลพอร์ตจะโผล่มาข้างหลังฉันแน่นอน”
“…แล้วเจ้าแจ็คกัลดันมาว่าฉันว่าไม่สร้างสรรค์”
“แต่พวกมันไม่จำเป็นต้องฉลาด พวกมันแค่ต้องบุกเข้ามาเรื่อยๆ…และในที่สุด”
“…พวกมันก็จะโชคดีเข้าจนได้”
“ฉันต้องการตัวช่วย”

ว่าแล้ว Kaine ก็ขึ้นไปขี่คอเจ้าตัวที่มีพลัง Optic Blast แล้วให้มันยิงแสงไปยังทิศทางหนึ่ง

ซึ่งนั่นก็คือโซ่ที่มัด S.Spidey อยู่นั่นเอง

S.Spider-man : หลุดล่ะ!

S.Spider-man : เดี๋ยวฉันจะไปจัดการกับแกให้สาสมเลยล่ะแจ็คกัล แต่ก่อนอื่น…

S.Spider-man : ฉันต้องจัดการสัตว์เลี้ยงของพวกแกก่อน

แต่ Jackal ก็ไม่ได้มีแต่อมนุษย์แมงมุมเท่านั้น

Jackal : มัวรออะไรอยู่ล่ะแคร์ริออน? ไปฆ่าใครสักคนได้แล้ว!

ตอนนั้นเอง Carrion ก็สร้างหมอกสีเหลืองขึ้นมาจากมือทั้งสองข้างของมัน

Carrion : เคน…ให้ฉันเข้าไปสิ

Kaine : อะไรนะ…แค็กๆ…

“แคร์ริออน…”

(Carrion มีความสามารถโทรจิตโดยใช้หมอกสีเหลืองนี้เป็นสื่อในการเข้าไปในจิตของฝ่ายตรงข้าม)

“ฉันรู้สึกได้ว่ามันพยายามจะเข้าไปในหัวฉัน…ซึ่งนั่นก็เป็นข่าวร้ายสำหรับมันล่ะนะ…”
“…เพราะในหัวฉันมีปีศาจร้ายอาศัยอยู่แล้ว และมันก็ไม่ชอบที่จะถูกรุกล้ำอาณาเขตด้วย”

ในขณะที่ Carrion ส่งจิตเข้าไปในหัว Kaine มันก็ต้องชะงักเมื่อตัวตนด้านบ้าคลั่งของเขาเข้าโจมตีมัน และนั่นก็ทำให้ร่างจริงของมันหยุดชะงักไป

ซึ่ง Kaine ก็ไปปล่อยโอกาสให้หลุดลอยแล้วซัดมันจนน็อคไปทันที

Kaine : เตรียมตัวเป็นเหมือนชื่อแกได้แล้ว

(Carrion = ซากสัตว์ที่ส่งกลิ่นเน่า)

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไรต่อ เขาก็โดน Mile ยิงใส่จนล้มลง

ทว่ามันก็โดน S.Spidey โยนอมนุษย์แมงมุมมากระแทกใส่จนน็อคไปเช่นกัน

แล้ว S.Spidey ก็หันไปหา Clone Gwen

Gwen : ไม่นะ…คุณไม่น่า

S.Spider-man : แกไม่รู้หรอกว่าฉันจะทำอะไร

หญิงผมทองพยายามจะป้องกันตัว แต่ S.Spidey ก็ใช้ Spider-Sense หลบหลีกได้อย่างว่องไว

Gwen : ไม่…!

S.Spider-man : เชอะ แกคิดจริงๆหรือว่าจะจัดการฉันได้ด้วยการต่อต้านที่ไร้ประโยชน์แบบนั้น?

Gwen : ฉัน…ฉัน…

ตอนนั้นเอง S.Spidey ก็โจมตีใส่ Clone Gwen แต่ Kaine ก็เข้ามาขวางไว้ทัน!

Kaine : หยุดนะ!

Kaine : เธอไม่ควรต้องโดนแบบนั้น มันไม่ใช่ความผิดของเธอ เธอก็แค่…

S.Spider-man : …ตัวประหลาด เป็นของเลียนแบบไร้ค่าที่ลบหลู่มนุษย์ชาติไงเล่า

S.Spider-man : เหมือนกับพวกโคลนทุกตัวนั่นแหละ

“บางทีเขาอาจพูดถูก บางทีโคลนอาจเป็นตัวประหลาดจริงๆ”
“ดูท่าว่าฉันต้องทำให้แน่ใจว่าแจ็คกัลมันจะสร้างเพิ่มขึ้นอีกไม่ได้”

ทางด้าน S.Spidey ก็วางแผนว่าจะจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้ยังไง

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจที่จะช่วยเหลือชีวิตของใครในที่นี้แม้แต่คนเดียว แต่เขาก็จะยอมให้ Jackal รอดไปพร้อมกับตัวอย่างที่มันเก็บจากเขาไม่ได้เหมือนกัน

เมื่อมองไปเห็นถังแก๊สไฮโดรเจนที่เป็นก๊าซไวไฟสูง เขาก็ลงมือทันที!

ทันทีที่แสงจากการระเบิดวาบขึ้น S.Spidey ก็โหนใยหนีออกทางหน้าต่างเพดานไปแล้ว

“การระเบิดมันเกิดขึ้นโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันคิดว่าปีเตอร์จะทำ แต่เขาน่าจะมีแผนอยู่แน่”
“ส่วนแผนของฉันก็ยังเหมือนเดิม”

แต่ตอนนั้นเอง Jackal ก็หันไปเห็นว่าไฟกำลังจะลามไปที่ไหน…

Jackal : อะไร? ไม่นะ!!

Jackal : พวก DNA ของฉัน! เด็กๆของฉัน!!

Jackal : ฉันจะต้องไปช่วยพวกมัน!

Kaine : แจ็คกัล…

แล้ว Jackal ก็เหมือนลืมแล้วซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างแล้วพุ่งเข้าไปหากองไฟที่กำลังลุกโชน

“ช่างหัวมัน ถ้ามันอยากจะตายในกองไฟแทนที่จะตายด้วยมือฉันก็ให้มันเป็นไปตามที่มันต้องการ…”

“ฉันไม่มีแผนที่จะตายที่นี่วันนี้”

แต่ก่อนที่ Kaine จะทันได้ออกไป เขาก็เหลือบไปเห็น Clone Gwen นั่งนิ่งอยู่กับพื้นโดยไม่มีท่าทีจะไปไหน

Kaine : เฮ้! เธอต้องออกไปเดี๋ยวนี้นะ!

Gwen : ไม่…

Kaine : นี่ ขอเหอะ…จับมือฉันไว้! ฉันจะพาเธอออกไปจากที่นี่เอง! ฉันสัญญา! จับมือฉันเร็วเข้า!!

Gwen : ฉันขอโทษ…

ตอนนั้นเองไฟก็ลามมาขวางทางระหว่างทั้งสองคน! ตัดหนทางที่ Kaine จะช่วยเหลือเธอได้อย่างสิ้นเชิง…

ที่ด้านนอก S.Spidey ยืนมองผลงานของเขาที่สามารถยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวพร้อมๆกัน
ทั้ง Jackal, พวกลูกสมุน, DNA ของเขาที่มันขโมยไป รวมถึง…

ทันใดนั้นเขาก็ต้องผิดหวังที่เห็น Kaine กระโจนหนีออกมาจากเปลวไฟได้

v

Kaine : นี่แกทำอะไรลงไปกัน?!

S.Spider-man : ฉันใช้วิธีการที่ได้ผลที่สุด คนร้ายกับผลการทดลองของมันถูกทำลาย เครื่องมือของมันก็ไม่มีประโยชน์ใดๆอีกต่อให้มีใครมาเก็บกู้มาได้ และที่ดีที่สุดคือ

S.Spider-man : เราไม่จำเป็นต้องพะวงกับเรื่องโคลน…

พริบตานั้นเอง Kaine ก็สุดจะทนและทำสิ่งที่แฟนๆหลายคนอยากทำอย่างมากมาย เขาซัด S.Spidey เข้าเต็มคางจนล้มลงไปกองกับพื้น!

Kaine : แกเกือบจะฆ่าฉันไปด้วยแล้วนะ!

S.Spider-man : มันเป็นความเสี่ยงที่คำนวณเอาไว้แล้ว
(ตอแหลเห็นๆ เอ็งกะจะให้เขาตายไปด้วยตั้งแต่ต้นแล้วต่างหาก)

Kaine : ฉันรู้ว่าฉันทำอะไรกับนายไปบ้าง แต่นายมันเป็นอะไรไปแล้วกัน?

S.Spider-man : ฉันเป็นอะไรไปแล้วงั้นหรือ? แกคิดว่าการทำตัวเป็นฮีโร่จะเปลี่ยนอะไรระหว่างเราได้หรือไง? หลังจากทุกสิ่งที่แกทำไปน่ะ?!

Kaine : ตัวฉันน่ะรู้ดีว่าฉันไม่ใช่ฮีโร่แน่นอน…แต่นาย…นายน่ะคือฮีโร่นะ

Kaine : ทำตัวให้สมเป็นฮีโร่หน่อย

แล้ว Kaine ก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง “พี่ชาย” ของเขาอีก

ส่วน S.Spidey ที่โดนพูดแทงใจโดยไม่คาดคิดก็อึ้งไปหลายวินาทีก่อนจะพูดออกมาได้ว่า

S.Spider-man : มันยังไม่จบแค่นี้หรอกนะ

จบตอน

4 thoughts on “Scarlet Spider : 20

  1. มาม่าใส่ไข่

    ภาพสวยมาก อยากให้คนวาดคนนี้วาดต่ออีกนาน ๆ จังเลยครับ 555

  2. mr robot

    โดน Kaine ต่อยเกรียนแตกไปหนึ่งหมัด ต่อไปเดี๋ยวก็เจอ Spider-Man 2099 แวะมาเยี่ยมอีก งานเข้าหลายงวดเลย Spider-Ock เอ๋ย….

  3. asakuraong

    ผมว่าสไปเดอร์แมนทำเกินไปน่ะงานนี้ ผลังๆต้องบอกเลยว่าชอบสไปเดอร์-อ๊อค จริงๆ แต่งานนนี้รุนแรงเกินไปน่ะ โคลนก็คนน่ะเฟ้ย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *