Avengers #10

Avengers #10

Valiator ผู้พลิกโฉมระบบ

เรื่อง : Jonathan Hickman

ภาพ : Mike Deodato

วางจำหน่าย : 24 เมษายน 2013

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

   

   

เมืองเรจินา

“การพัฒนา”

และ Omega Flight

 



ก่อนที่เราจะเริ่มเรื่องกันนะครับ ผมขอเกริ่นถึงทีม Omega Flight ซักหน่อยนะครับ

Omega Flight คืออะไร?

   

ทีม Omega Flight นั้นเดิม กำเนิดขึ้นครั้งแรกใน Alpha Flight Vol.1 #110

ในฐานะของทีมตัวร้ายที่เกิดมาเพื่อสู้กับเหล่า Alpha Flight

ทีมนี้ก่อตั้งโดย Jerome Jaxon หนึ่งในตัวร้ายของ Alpha Flight ในยุคนั้น

สมาชิกของทีมประกอบด้วย (ซ้ายไปขวา)

  

Diamond Lil สาวถึกหนึ่งเดียวในทีม

Jerome Jaxon (บังคับหุ่น Box อยู่)

Wild Child ยืนอยู่หน้า Box,

Smart Alec คนที่ใส่หมวกแปลกๆ นั่นแหล่ะ เขาอ้างว่าเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลก (ถ้าใส่หมวกนะ)

และ Flashback  (มีความสามารถเรียกตัวเองจากนาคตมาสู้ได้)

  

และนอกจอยังมี หุ่นยนต์ยอมแปลงโฉมชื่อ Delphine Courtney ผู้ช่วยของ Jaxon เป็นผู้รวมพล

     

  

แต่ทว่า Jaxon นั้น ดันชิบดับอนาจตายไปตั้งแต่ตอนแรกๆ

เพราะหุ่น Box ระเบิดทำให้กระแสเกิดไฟฟ้าไหม้หัวของ Jaxon ตาย โถ่ถัง

  

ส่วน Delphine Courtney ผู้ร่วมก่อตั้งอีกคน

โดน Madison Jeffries นักสร้างหุ่นแห่ง X-Men ใช้พลังของตนทำลายทิ้ง

ทำให้ Omega Flight ชุดแรกวงแตกในที่สุด

   

    

  

  

ในเวลาต่อมาใน Alpha Flight Vol. 1 #110 กลุ่ม Omega Fligh กลุ่มใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น

คราวนี้ผู้ก่อตั้งคือ The Master  โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ต่อสู้กับ Alpha Flight เหมือนกัน

สมาชิกของทีมประกอบด้วย  (ตามรูป)

Bile, Brain Drain, Tech-Noir, Miss Mass, Sinew และ Strongarm

   

 

  

  

บทสรุปของทีมก็อนาจไม่แพ้กันกับทีมก่อน ใน Alpha Flight Vol.1 #130

The Master ตัดสินใจนำทีม Omega Flight ของเขาเข้าปะทะกับทีม Alpha Flight ในเหตุการณ์ที่ชื่อว่า No future

แต่บทสรุปกลับกลายเป็นทีม Omega Flight กลายเป็นฝ่ายไร้อนาคตซะเอง

เพราะพ่ายแพ้หมดรูป แล้วไม่พอยังโดน The Master หัวหน้าตัวเองฆ่าทิ้งอีก (?)

(แต่ที่ผมอ่านคร่าวๆ เห็นแต่ Sinew นะ ที่ตายจะๆ แต่สมาชิกคนอื่นก็หายจากสารระบบ Marvel ไปเลย)

   

ส่วน The Master ก็โดนกระทืบกลับในตอนหลัง

   

   

  

   

ทีม Omega Flight กลับมาอีกครั้งในช่วง Civil War

ผลจากกฎหมายขึ้นทะเบียนฮีโร่

ทำให้ฮีโร่และตัวร้ายหลายคนต่างอพยพหนีมาอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านก็คือ ประเทศแคนาดา นั่นเอง

  

ประจวบเหมาะกับ ใน New Avengers #16 เหล่า Alpha Flight เหล่าฮีโร่สายพันธุ์แคนาดา

ถูก the Collective ฆ่าตายเกือบยกทีม เหลือรอดแค่เพียง Sasquatch  (แต่ก็ฟื้นมาเกือบหมดในช่วง Chaos War)

  

  

  

ร้อนถึงรัฐบาลอเมริกาต้องขอร้องให้ Tony Stark ช่วย

ทาง Tony ร่วมมือกับทางรัฐบาลแคนาดาจัดตั้งทีมเหล่าฮีโร่ที่จดทะเบียน โดยอ้างอิงแบบมาจาก ทีม Alpha Flight

โดยให้พ่อขนปุย Sasquatch (สมาชิก Alpha Flight ที่รอดตาย) มาช่วยจัดตั้งทีม Omega Flight ขึ้น

โดยสมาชิกในทีมมีดังต่อไปนี้ (ซ้ายไปขวา)

    

Beta Ray Bill, Talisman, Guardian, U.S.Agent, Sasquatch และ  Arachne

  

มาคราวนี้ Marvel กะดันเต็มที่ครับ มีหนังสือหัวเรื่องของตัวเองด้วย

แต่น่าเสียดาย ความนิยมกลับไม่ฟู่ฟ่าอย่างที่คิด

ทำให้เนื้อเรื่องแปลงสภาพจากเรื่องยาวเป้นเรื่องสั้นห้าเล่มจบแทน

  

  

ชีวิตของเหล่าสมาชิกหลังจากสิ้นสุดเหตุการณ์ Civil War จนถึงเหตุการณ์ในตอนนี้

มีดังต่อไปนี้ครับ

  

Beta Ray Bill ธอร์หน้าม้าคนนี้เรียกว่าพันธมิตรดีกว่า เดิม Marvel มีแผนจะรวมพี่แกไว้ในทีมครับ

แต่เรื่อง Omega Flight ดันโดนตัดจบซะก่อน

  

Talisman ลูกสาวของ Shaman แห่ง Alpha Flight เธอช่วยรวม Omega Flight ขึ้นมาก็เพื่อสานภารกิจของพ่อเธอ

แต่พอเหล่า Alpha Flight ฟื้นขึ้น น้องแกก็ย้ายทีมไปช่วยพ่อทำงานทันที

  

Guardian (Michael Pointer) เขาคืออดีต The Collectiveผู้ที่ฆ่าเหล่า Alpha Flight โดยไม่ตั้งใจ

เพราะตัวเขามีความสามารถในการดูดซับพลังคนอื่น (แล้วดันไปดูดพลัง Xorn เข้า ทำให้คุมตัวเองไม่อยู่)

ปัจจุบัน Pointer กลายมาเป็น Omega และได้ขอให้ Mimic เพื่อนรักคนเดียวของเขา

ช่วยทำให้เขานอนจำศีลเพื่อป้องกันการดูดซับพลังจนมากเกินไปโดยเหล่า X-Men สัญญาว่าจะรักษาเขาให้ได้

  

U.S.Agent พี่แกเป็นคู่กัดกับ Captain  America ครับ เคยรับตำแหน่งเป็น Captain America หนนึง

ปัจจุบันพี่แกอยู่ในทีม Dark Avengers ครับ

  

Sasquatch (Walter Langkowski) หลังจาก เหล่า Alpha Flight ฟื้นขึ้นมา พี่แกก็ย้ายไปอยู่ทีม Alpha Flight ล่ะ

  

Arachne (Julia Carpenter) ปัจจุบันเธอเป็น Madame Web และโผล่ในเรื่อง Spider-Man อยู่เนืองๆ


จะเห็นได้ว่าเหล่าสมาชิกรุ่น 3 นี้ต่างทะยอยแยกย้ายกันไปตามทางของตนเองหมดแล้วนะครับ

แอบสงสารรัฐบาลแคนาดา เสียเงินไปกับทีมนี้เท่าไรเนี่ย ฮ่า

(ก็อย่างว่าการ์ตูนมันไม่ได้รับควมนิยมนิ)

แต่กระนั้นดูเหมือนว่า คราวนี้ ทีม Omega Flight จะกลับมาอีกแล้ว

สมาชิกในทีมรุ่นที่ 4 คราวนี้ จะมีใครบ้าง เก่งขนาดไหน

ติดตามชมกันได้เลยครับ

   

   

  

Avengers ตอนที่แล้ว

   

Captain Marvel:   จานดาวเทียมสื่อสารจับบางสิ่งที่กำลังพุ่งเข้ามาได้

Captain Marvel:   ….วิธีของมันส่งมาจากดาวอังคาร!

 

Bruce:   ระเบิดสองลูกแรกตกลงไปที่ เมืองเพิร์ธ ของออสเตรเลีย

Bruce:   กับ เมืองเรจีนา ของแคนาดา มันเปลี่ยนชีวมณฑล (Biosphere) บริเวณนั้นทั้งหมดเลย

 

Ex Nihilo:   พวกเราได้รับพรสวรรค์นี้มา พวกเราได้รับโอกาส

Ex Nihilo:   ชั้นถึงได้ปล่อย ระเบิดแห่งชีวิต

Ex Nihilo:   ไปที่โลกไง ไม่ใช่จุดไฟเผาโลก

 

Ex Nihilo:   ผมไม่ได้อยากจะเป็นผู้ทำลายโลกนะ

Ex Nihilo:   ผมอยากเป็นผู้สร้างโลกต่างหาก

   

 

ว่ากันว่า พวกเขาคือกลุ่มฮีโร่ที่เกรียนที่สุดในโลก

 

 

  

DOL

ภูมิใจเสนอ

 

 

Avengers

Earth’s Mightiest Heroes




“พิมพ์” เสียงภาษาไทยสำเนียงแคมโบเดียโดย DOL เจ้าเก่าเด้อ

   

 

เมืองเรจีนา

มณฑลซัสคาเซวาน (Saskatchewan)

ประเทศแคนาดา

   


ชายคนหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนโขดหิน พร้อมเจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D. สองคน

 

จนท. A:  พวกย้ายร่างเขาขึ้นยานขนส่งเลยมั๊ยครับ

จนท.B:  ชั้นกลัวแต่ศพจะเสื่อมสภาพไปก่อนนี่สิ

 

 

จนท.B:  เราต้องเดินเครื่องเดี๋ยวนี้เลย ถ้าทำได้นะ

จนท. A:  ไม่มีปัญหาครับ

   

จนท. A นำเครื่องบางอย่างเชื่อมต่อเข้ากับสมองของศพที่นอนตายอยู่

ส่วน จนท. B ก็เปิดเผยหน้าของเธอออกมา เธอคือ Maria Hill หัวหน้ารักษาการแห่ง S.H.I.E.L.D. นั่นเอง

 

Maria Hill:  ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ เจ้าหน้าที่ Michaud?

 

 

“คุณไปเห็นอะไร ในนั้น!?”

    

   

 

 

แปดชั่วโมงก่อนหน้านี้




“ขอโทษด้วยที่ต้องเรียกมาด่วนนะ Captain”

“…..มันช่วยไม่ได้จริง งานนี้ชั้นทำอะไรไม่ได้เลย


“ชั้นหมายถึง พวกเราเพิ่งจะมาตระหนักว่างานนี้”

“มันใหญ่เกินกว่าที่พวกเราคิด”


  

“Avengers เองก็เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยกักกัน”

“ช่วยจัดการกับระเบิดของพวก Garden ที่ตกลงมาบนโลกใช่มั๊ยคะ”

“เพราะฉะนั้นพวกคุณเองก็รู้ว่าทั้งโกเบ ฉัตราปุระ สปริทแล้วก็The Fallen Heights”

“ทั้งหมดยังคงปลอดภัยไม่มีปฎิกริยาเกิดขึ้น”

 

ยังคงถูกกักกัน

 

 

“ส่วนอื่นอย่างเพิร์ธและเรจีนามีเจ้าหน้าของประเทศนั้นเข้ามาดูแลเอง”

 “ข้อมูลต่างๆ ก่อนหน้านี้บอกมาว่าพวกนั้นยังควบคุมสถานการณ์ได้..”

 

 

สามารถจัดการได้


   

 

Maria Hill:  จนกระทั่งตอนนี้

 

Cap:  เกิดอะไรขึ้นกันแน่ Maria?

 

??????:  อะแฮ่ม!

 

เจ้าหน้าระดับสูงหนึ่งในสองราย กระแอมขึ้น

 

??????:  ก่อนเราจะไปไหนต่อไหนกันต่ออ่ะนะ

??????:  ผมอยากจะย้ำให้พวกคุณจำไว้ขึ้นใจว่าทุกๆ อย่าง

??????:  ที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ ทาง Department H ยังเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

 

??????:  ถึงพวกเราจะทำงานร่วม S.H.I.E.L.D. ก็จริง

??????:  แถมยังยินยอมให้เรียกพวกคุณงานเราในเรื่องนี้

 

??????:  แต่นั้นไม่ได้แปลว่าพวกเรายอมให้กร่างวางอำนาจที่นี่

??????:  และที่จริง พวกเราขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกภารกิจได้ทุกเวลาด้วย

 

??????:  อยากให้พวกเราทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงนี้กันให้ตรงกันด้วย

 

??????:  เราเข้าใจตรงกันแล้วใช่มั๊ย?

Cap:  นี่คุณ Liaison Porter…

Cap:  ….Porter ใช่มั๊ย?

Falcon:   สำคัญด้วยเรอะ?

 

Cap:  คุณ Liaison Porter พวกคุณเรียกพวกเรามาเองนะเฮ้ย!

 

Michaud ใช่พวกเราเรียกเอง

Michaud:  แล้วก็ต้องขอบคุณมากที่มานะ Captain

 

Michaud:  เจ้าหน้าที่ เปิดวิดีโอให้พวกเขาดูสิ

   

 

  

Department H

ภารกิจหมายเลข 044399-978

   

สถานที่เกิดเหตุ: เรจินา

ละติจูด: 50 องศา, 24 นาที

ลองติจูด: 140 องศา, 37 นาที

   

เป้าหมายของภารกิจ: ควบคุมสถานที่เกิดเหตุ

   

 

 

 

เจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติการ:

Wendigo หมายเลข 83-02-801225

Validator หมายเลข 91-07-237811

Kingdom หมายเลข 86-03-400901

Boxx หมายเลข BOXX05.018

   

 

ระดับภัยคุกคาม: สีดำ

 

มอบอำนาจปฎิบัติการเต็มที่

อนุมัติทีมสังหารเต็มกำลัง

   

  

ทีม Omega Flight ออกปฎิบัติการ



 

  

เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:00:00:01

เวลาเริ่มภารกิจ: 08:24 ตามเวลาสากล

   ความคืบหน้าของภารกิจ: เข้าบุกพื้นที่เรจินา

   


เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:00:03:38

    ความคืบหน้าของภารกิจ: เริ่มระบบตัวกรองชีวภาพ (Biofilter)

พบสัญญาณความร้อนและชีวภาพอยู่เต็มพื้นที่

จากทั้งหมดที่พบ……ไม่สัญญาณชีวิตใดที่เรารู้จักเลย

   

ก่อนเกิดเหตุการณ์เมืองเรจินามีประชากรอยู่ในพื้นที่ 203,974 คน

   

  

เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:00:23:50

ความคืบหน้าของภารกิจ: โครงสร้างที่แปลกประหลาดผุดขึ้นรอบเมือง

มีการเคลื่อนไหวอยู่ทุกที่ เราพยายามอยู่ให้ห่างจากสิ่งมีชีวิตประหลาดขนาดใหญ่บนฟ้า

มีอวัยวะเรืองแสงอยู่มากมายเต็มไปหมด

     

เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:00:42:17

ความคืบหน้าของภารกิจ: หุ่น Boxx สามารถระบุอวัยวะนั้นได้

ว่าคือรังไหมที่กำลังฟักตัวเป็นดักแด้

พวกเราเชื่อว่า

พวกเรารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับประชากรในเมืองนี้

พวกเราจะลองสื่อสารกับมันดู

 

   

 

 

เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:01:32:06

ความคืบหน้าของภารกิจ: เราสูญเสียหุ่น Boxx ไปแล้ว

   

ยังคงดำเดินภารกิจต่อไป


  

เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:02:17:22

ความคืบหน้าของภารกิจ: Wendigo ติดเชื้อ (ไส้ไหล)

หลังจากที่เขาพยายามจะสื่อสารกับอวัยวะนั้นอีกครั้ง

   

ภารกิจล้มเหลว

พวกเราจะพยายามเก็บตัวอย่างให้ได้ซักหนึ่งตัวอย่าง

แล้วพวกเราจะหนีไปจากที่นี่

   

  

เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:02:22:17

ความคืบหน้าของภารกิจ: โดมถูกปิดตาย

   

 

พวกเราถูกขังอยู่ข้างใน


     

 

 

  

เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:04:09:01

ความคืบหน้าของภารกิจ: อยู่ๆ สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

มีบางอย่างเกิดขึ้นตรงบริเวณใจกลางเมือง

   

อวัยวะต่างๆ กลับเป็นอันตรายมากขึ้น

    

พวกเรากำลังถูกตามล่า

   


เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:04:11:23

ความคืบหน้าของภารกิจ: Kingdom Prime ถูกกำจัด



 

 

เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:04:12:51


  

Validator:  ฟังชั้นให้ดี

Validator:  ที่นี่….

Validator:  พวกคุณต้องทำลายมันซะ!!

   

  

เวลาในการปฎิบัติภารกิจ: 0:04:13:18


 

Validator:  ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม

Validator:  อยู่ให้ห่างจากที่นี่!

Validator:  อยู่ให้ไกลเลย!

Validator:  ที่นี่มันตายไปแล้ว!


  

การสท่อสารทุกอย่างจากหน่วย Omega Flight หายไป

การส่งข้อมูลสิ้นสุดลง



   

หน่วย Omega Flight ล่มสลาย

อะรั๊ยฟระ!!! เอาเวลาบรรยายหลายตัวอักษรคืนมาเลย!!! แง้

   

Michaud:  ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนทื่แล้ว

 

Falcon:   แล้วพวกคุณมัวรออะไรจนปล่อยให้เวลามันล่วงเลยถึงขนาดนี้!?

 

Michaud:  พวกเราได้ลองพยายามทุกวิธีที่เป็นไปได้เพื่อจะเข้าไปข้างในนั้นให้ได้ Falcon

 

Cap:  ทำไมไม่ลองขยายความคำว่า “ทุกวิธีที่เป็นไปได้” ให้ฟังหน่อยล่ะ?

 

Michaud:  พวกเราลองตัดมันด้วยอุกรณ์ทุกอย่างที่มนุษย์ปุถุชนพึงนึกออก

Michaud:  จากนั้นพวกเราก็ได้ลองวิธีที่นอกเหนือมนุษย์ปุถุชนสามัญดูบ้าง….

 

Michaud:  ไม่ว่าจะเครื่องย้ายมวลสารระยะใกล้, ใช้พลังของพวกเหนือมนุษย์ ใช้พลังเวทย์มนตร์

Michaud:  เราลองแม้กระทั่งยิงระเบิดอะตอมรัศมีย์ใกล้ใส่ด้วยซ้ำ

 

Bruce:  ขอโทษที่แทรกนะครับ แต่ว่าเรื่องสุดท้ายนั้นมันแป็นไปไม่ได้แน่นอน

Bruce:  ถ้าคุณใช้ระเบิดนิวเคลียจริง ต้องมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นทั่วโลกแน่นอน

 

Bruce:  อีกอย่างคือประเทศแคนาดา ไม่มีอาวุธนิวเคลียซักหน่อย

   

  

Wolverine:  ก็ไม่เชิงว่ะ Banner จริงอยู่ที่ประเทศแคนาดาไม่มีอาวุธนิวเคลีย

Wolverine:  แต่ เจ้าหน้าที่ Michaud คนนี้มีแหล่งอาวุธลับๆ ที่แม้แต่รัฐบาลของพี่แกเองยังไม่รู้เลย

 

Wolverine:  เห็นมั๊ยว่า Robert เป็น เจ้าหน้าที่ของ Department H รุ่นแรก

Wolverine:  เป็นหน่วยลับสุดยอด

 

Wolverine:  มุขคลาสสิค

 

Michaud:  ว่าไง Logan

(โอ้ว แสดงว่าอีตา Wolve นี่เคยร่วมงานในหน่วยนี้มาก่อนรึเปล่าเนี่ย)

 

Bruce:  ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็ต้องมีสัญญาณอะไรเตือนบ้าง

Bruce:  ไม่ก็มีรังสีตกค้าง หรืออะไรอื่นๆ บ้าง…

 

Wolverine:  นายใช้วิธีขุดหลุมลงไป ใช่มั๊ย เจ้าหน้าที่ Michaud

Wolverine:  พยายามจะระเบิดเจ้าโดมนั่นจากด้านล่าง

 

Bruce:  ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนที่ผิดปกติของแผ่นดินไหวขึ้น……

Bruce:  อ่า ….นั่นสินะ แรงสั่นที่ผิดปกติ….โอเค

 

Bruce:  ใครมันจะไปนึก

Bruce:  ว่าแรงสั่นนั่นจะเกิดจาก คนแคนาดากับระเบิดนิวเคลีย

   

  

Michaud:  ใช่ผมทำเช่นนั้นจริง

Michaud:  และมันก็ไม่ได้ผล…

  

Michaud:  มีกำแพงคลุมพื้นบริเวณข้างใต้โดมเอาไว้

Michaud:  สร้างกำแพงทรงขนาดยักษ์ที่คลุมทุกสิ่งได้อย่างสมบูรณ์

Michaud:  และมันก็ไม่มีรอยร้าวอะไรเลยแม้แต่น้อยเลย

 

Michaud:  และนั่นก็ทำให้พวกคุณมายืนอยู่ที่นี่ตอนนี้

 

Michaud:  พวกเราต้องการ…

Michaud:  ไม่สิ ผมต้องการให้พวกคุณช่วย

 

Michaud:  ผมต้องเข้าไปข้างในโดมนั้น

 

Michaud:  พวกคุณพอจะช่วยได้มั๊ย?

     

 

Cap:  อ่านะ….พี่เขาถามคำถามกับ นาย น่ะ Eden

 

Manifold:   ไม่มีปัญหาครับ

Manifold:   ผมสามารถพาพวกเราเข้าไปในโดมได้

 

Cap:   ได้ไม่มีปัญหาเลยครับ เจ้าหน้าที่ Michaud

Cap:   ที่พวกเราต้องทำตอนนี้ก็เหลือแค่งานเก็บกวาดเท่านั้น

 

Michaud:  ยังมีเงื่อนไขอีกข้อนึง



“ผมจะต้องไปกับพวกคุณด้วย”



 

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา


  

Maria Hill:  เราเคลียห้องเก็บเครื่องให้แล้ว

Maria Hill:  คุณไปได้เลย Cap

 

Cap:  โอเค Eden พาพวกเราเข้าไปที

 

Manifold เริ่มใช้พลังของตนเอง จากนั้น ไม่ถึงนาที

  

  

ทั้งหมดก็โผล่มาอยู่ใน……ป่า!?


 

   

Michaud:  นี่มันดูไม่ใช่เลยนะ

Michaud:  คุณแน่ใจนะว่าพวกเรา…

 

Manifold:  แน่ใจครับ ที่นี่คือจุดที่ระบุในแผนที่ว่ามีห้างอยู่

Manifold:  พวกเราอยู่ในจุดที่เราอยากจะมา เป๊ะเลย

 

Michaud:  แต่ดูแล้วมันน่าจะอยู่นอกเมืองมาก…..

 

Smasher:  ดูนั่นสิ!!


 

สิ่งที่ทุกคนเห็ฯ ทำให้ทุกคนมั่นใจว่า Manifold ไม่ได้พามาผิดจุด

แต่เป็นตัวเมืองเองต่างหากที่เปลี่ยนไป กลายเป็นป่าดงดิบ!!

 

Smasher:  โอ้ว! ว้าว!!



 

Falcon:   งั้นเดี๋ยวชั้นไปยานมาก่อนนะ Steve

Falcon:   จะได้พอมีเส้นทางที่จะไปในหัวบ้าง

 

Bruce:  ไม่ต้องหรอก ชั้นว่าเราน่าไปทางนั่นดีกว่า

 

Cap:  อะไรดลใจให้นายคิดอย่างนั้นวะ Bruce?

(เอิ่ม ว่าจะพูดนานล่ะ แต่ผมรู้สึกว่า Bruce เล่มนี้ดูหล่อเกาลีมากๆ อ่ะ ฮ่าๆๆ)

 

Bruce:  ก็พี่แกชี้ให้เราไปทางนั้นอ่ะ

 

อยู่ๆ ก็มีลิง? ก๊อปบลิน? ตัวประหลาด!? นี่มนุษย์วิวัฒนาการมาได้แค่นี้เองเรอะ!?

เอาเป็นว่า พี่หลืองอ๋อยชีเปลือยสีเหลือง แกโผล่มาชี้นิ้วเหมือนจะบอกให้ทุกคนไปทางนั้น

 

เหลืองอ๋อย:  עקוב אחריי

   

  

Cap:  นายคิดว่าไง?

 

Falcon:   ชั้นอยากให้นายรู้ไว้นะว่า

Falcon:   ชั้นคงรู้สึกแย่มากๆ ถ้าต้องบินเผ่นไปจากที่นี่

Falcon:   แล้วปล่อยให้พี่ตัวเหลืองอัปลักษณ์พวกนั้นจับนายไปเข้าหม้อต้มสุกี้

Falcon:   แถมคงโซ้ยเนื้อกับซอสพันท้ายอร่อยเหาะสนุกปากไปเลยด้วยมั้ง

 

Cap:  เอาเป็นว่า…..ตอนไปงานศพชั้นอย่าไปพูดอะไรอุบาทๆ ก็แล้วกัน

 

Cap:  ไปกันเถอะ

   

ทุกคนเดินตามน้องเหลืองอ๋อยไป พร้อมมีน้องเหลืองอ๋อยคนอื่นๆ ตามหลังมาอีก

 

เหลืองอ๋อย1:  בואו נלך

เหลืองอ๋อย2:  אמא תעלה בואו לראות אותה  

 

เหลืองอ๋อย3:  בואו תזדרזו מהלך על

 

   

เหลืองอ๋อยพูดอะไรก็มะรู้ไม่หยุด พร้อมพาทั้งหมดไปยังบ่อน้ำเรืองแสงบ่อหนึ่ง

 

Manifold:  นี่มันอะ…..เฮ้ย!

Manifold:  ผมว่าผมเห็นอะไรขยับในนั้นนะ!

 

Smasher:  จริงด้วย ดูนั่นสิ!

 

Michaud:  คุณพระช่วย….

   

  

 

אמא של ברדאמא של ברדאמא של ברדאמא של ברד

    

“นั่นมัน Validator นี่!”

   

 אמא של ברדאמא של ברדאמא של ברדאמא של ברד


 

 

    

   

  

Validator ที่ดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

หน้าตาของเธอเต็มไปด้วยสีดำจนไม่เห็นหน้าตาที่แท้จริง

มีเพียงเสื้อผ้าที่เธอใส่เท่านั้นที่เห็นได้ชัด

จากนั้นเธอได้ชูมือขึ้น

   

   

  

    


   

   

“पिता नमस्कार”

(HELLO FATHER)

   

เหมือนเกิดบางอย่างขึัน แล้ว Validator ก็เดินไปกระซิบข้างหู Michaud

   

จากนั้นก็เกิดบางสิ่งขึ้นอีก!!

   

  

  

ในเวลาต่อมาทุกคนต่างโผล่มาอยู่ที่สถานที่หนึ่ง ที่มีลัษณะเป็นเหมือนทะเลทรายแห้งแล้ง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! แล้วเมืองเรจินาหายไปไหน!?

   


Michaud:  คุณเห็นเหมือนผมใช่มั๊ย?


 

 

Michaud:  คุณจำได้รึเปล่า?

 

Cap:  จำได้ชัดเลยล่ะ

Michaud:  คุณจะทุกคนกับสิ่งที่คุณเห็ฯนี่มั๊ย?

Michaud:  จะมีใครบังคับให้คุณบอกได้รึเปล่า?

 

Cap:  เรื่องนั้นผมไม่มีปัญหา….

   

 

Michaud:  ผมมีเครื่องอัดหกชนิดฝังอยู่ในร่างกาย

Michaud:  ไม่มีเสียง มีแต่ภาพ แต่กระนั้นก็เถอะ

Michaud:  Department H คงจะดูมันอยู่ดี…

 

Michaud:  แล้วพวกนั้นก็จะเริ่มถามคำถาม

 

ยานบินช่วยเหลือของ Department H ก็ลงมาถึงพอดี

 

เจ้าหน้าที่:  พวกเขาอยู่นั่นครับ หัวหน้า Hill

   

  

Porter:  ตั้งสัญญาณเตือนลอบบริเวณเลยรึ?

 

Maria Hill:  กันไว้ดีกว่าแก้น่ะ

 

Porter:  เริ่มการเคลื่อนย้ายเต็มกำลังเลย ร้อยโท

ร้อยโท:  รับทราบครับ

 

Wolverine:  นี่ Robert

 

Michaud:  ว่าไง?

 

Wolverine:  เธอพูดอะไรกับนายวะ?

   

 

 

Michaud:  นายไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก


  

จากนั้น Michaud ก็หยิบปืนจากกระเป๋าเขาขึ้นมา

แล้วเขาก็ทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด

   


เปรี้ยง!



Michaud ยิงตัวเองตาย ต่อหน้าเหล่า Avengers และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

   

   


ปัจจุบัน

  

Porter เปิดภาพที่เขาดึงออกมาจากร่างของ Michaud ให้ Maria ดู

       

Porter:  ก็ตามที่พวกเราได้ตกลงกันไว้

 

Porter:  ภาพที่คุณเห็นไปทั้งหมดเมื่อครู่คือข้อมูลภารกิจที่ได้บันทึกไว้

Porter:  ตั้งแต่เริ่มต้นภารกิจจนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ Michaud ยิงตัวเองตาย

 

Porter:  ระบะเวลาที่เกิดขึ้นคือ สี่สิบนาทีพอดี

Porter:  ภาพที่เห็นคือภาพที่มาจากชิฟที่ฝังในตัวเขา

 

Porter:  แล้วคุณได้อะไรจากพวก Avengers บ้าง?

 

Maria Hill:  ไม่ได้อะไรเลย

Maria Hill:  ทุกคนต่างพูดเหมือนกันว่าจำอะไรไม่ได้นัก

Maria Hill:  พวกนั้นกระโดดวาร์ปไปยังที่ๆ น่าจะเป็นเมือง

Maria Hill:  แต่กลับเจอแต่ป่าไม้ จากนั้นป่าทั้งผืนก็…….หายไป

 

Maria Hill:  แค่นั้น

   

 

Porter:  แล้วคุณเชื่อพวกนั้นรึเปล่า?

 

Maria Hill:  ไม่เลยแม้แต่น้อย

Maria Hill:  พวกนั้นปิดบังอะไรบางอย่างเอาไว้

 

Maria Hill:  แต่พวกนั้นก็กลับไปกันหมดแล้ว

Maria Hill:  แล้วชั้นก็ไม่ชอบไล่จับอากาศซะด้วยสิ

 

Porter:  แล้วคุณรับเรื่องนี้ได้เหรอ หัวหน้า Hill?

 

Maria Hill:  เรื่องไหนล่ะ เรื่องที่พวกนั้นหนีไปเฉยๆ หรือว่าไม่บอกความจริง

 

Porter:  หนีไปเฉยๆ

Maria Hill:  ก็นะ นั่น Hulk เลยนะ

 

Porter:  แล้วก็เรื่องไม่บอกความจริงด้วย!

   

 

Maria Hill:  พวกนั้นไม่ได้เชื่อใจพวกเราเต็มร้อยหรอก

Maria Hill:  แล้วพวกเราเองก็แสดงพฤติกรรมหลายอย่างที่ทำให้พวกนั้นไม่ไว้ใจเราด้วย

 

Maria Hill:  พวกเราหลอกพวกนั้น พวกนั้นก็เลยไม่บอกความจริงพวกเรา ตรงไปตรงมา

Maria Hill:  มันเลยทำให้ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ไม่ค่อยจะดีเท่าไร

 

Maria Hill:  แต่ไหนๆ คุณก็แสดงตัวเป็นพ่อคนรักและผดุงความซื่อสัตย์ จริงใจแล้ว

Maria Hill:  ทำไมคุณไม่บอกชั้นมาล่ะ ว่าคุณกำลังปิดบังอะไรไว้?

 

Porter:  อะไรนะ?

 

Maria Hill:  คุณกำลังลับลวงหลอกกับชั้นอยู่

Maria Hill:  ฉะนั้นพูดความจริงออกมาดีกว่า เจ้าหน้าที Porter

 

Porter:  …………

Porter:  โหลดข้อมูลที่เหลือเข้ามา

   

เจ้าหน้าที่ Porter ยอมเปิดเผยข้อมูลที่เหลือที่เขาปิดบังไม่ได้แสดงให้ Maria ดูในตอนแรก

 

   

 

  

หนึ่งในชางเทคนิคของฝ่ายเราได้นึกอีกวิธีหนึ่ง

ในการรวมข้อมูลจากเครื่องอัดหกชนิดในตัวของเจ้าหน้า Michaud ขึ้นมาได้

รวมถึงการตรวจสอบเครื่องก่อนภารกิจจะเริ่มด้วย

   

พวกเราได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เราได้จากศพของเขา

ทำให้ข้อมูลที่ได้มันน่าจะอยู่ราวๆ สี่สิบเก้านาที จากเดิมสี่สิบนาที

   

 

แต่พวกเรากลับเจอมากกว่านั้น

   


“มากกว่าเท่าไร?”


   

 

  

Smasher:  นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?



 

สามร้อยกับอีกยี่สิบเจ็ดชั่วโมง!

   


Bruce:  กำลังพัฒนา…..อ๊ากกกกกก ปรับตัว อ๊ากกกกก

   

    

เวลาที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลที่เพิ่มขึ้น มันเกิดขึ้นที่ส่วนไหน?”


มันเกิดขึ้นทุกที่

บางส่วนมีระยะเวลาย้อนหลังไปสามสิบปี

บางส่วนกระโดดไปอนาคตอีกสิบปี



 

 

ผลที่ได้ดูเหมือนจะไม่เหมือนกัน


แต่คนจะมีผลที่แตกต่างเฉพาะตัว



ที่พวกเราสนใจคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้


 

 

 

Michaud:  ขอร้องล่ะ หยุดซักที!

Michaud:  อ๊ากกกกกกกกกกกก!



เครื่องอัดหกชนิดได้รวบรวมข้อมูลจากตาทั้งสองข้าง

ฉะนั้นพวกเราจึงสามารถระบุสภาพแวดล้อม

แล้วกอกล้องให้ช้าและหมุนดูพื้นที่รอบๆ ตัวของเจ้าหน้าที่ Michaud

เพื่อให้ได้มุมมองที่ดีเพื่อช่วยให้เราเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่


    

นี่ไง คุณเห็นมั๊ย?


เธอดึงตัวเขาเข้ามา

เธอดึงตัวเขาใกล้ๆ

จากนั้น……….ก็ไม่มีอะไร



ไม่เกิดอะไรขึ้น


 

    

   

 

Maria Hill:  อย่าตลกไปหน่อยเลย เจ้าหน้าที่ Porter

Maria Hill:  นี่ยังไม่ชัดอีกเหรอ…?

   

เธอกำลังบอกอะไรบางอย่างกับเขาน่ะสิ”


  

   

 

กลับมาที่ด้านของเหล่า Avengers

   

Manifold:  ผมว่าพวกเราน่าจะถกเรื่องนี้กันหน่อยมั๊ย?

Manifold:  คิดว่าคุยได้มั๊ยครับ?

 

Wolverine:  ไม่ ไม่เชิงว่ะ

 

Manifold:  สาระนะ ผมมีคำถามอยากจะถาม

Manifold:  มีเป็ฯร้อยข้อเลยด้วย

 

Smasher:  อย่างเช่น เมื่อกี้มันเกิดบร้าอะไรขึ้น?

 

Manifold:  ใช่เลย แล้วทำไมเราต้องโกหกพวก S.H.I.E.L.D. ด้วย

Manifold:  นี่เราไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกันหรอกเหรอ?

 

Smasher:  แล้วที่ประเด็นสำคัญที่สุดคือ

Smasher:  ทำไมคุณเจ้าหน้าที่คนนั้นต้องยิงตัวเองด้วย?

 

Manifold:  ใช่เลย ข้อนั้นสำคัญสุดๆ!

   

  

Wolverine:  เขาทำไปก็เพราะคิดว่ามันจำเป็นจะต้องทำน่ะสิ

 

Wolverine:  เขาทำในสิ่งที่หลายๆ คน

Wolverine:  ที่คิดว่าความลับสำคัญกว่าชีวิตตนเอง พึงทำ

 

Smasher:  ชั้นไม่เข้าใจเลย

Smasher:  ทำไมเขาต้องลงทุนทำถึงขนาดนั้น?

 

Wolverine:  มันก็เพราะ ไม่ว่า Validator จะกลายเป็นตัวอะไร….

Wolverine:  เธอก็เคยเป็นลูกสาวของเขา



 

   

     

ขอร้องล่ะ หยุดซักที!”

“อ๊ากกกกกกกกกกกก!”

 

    

“แล้วไม่ว่าความลับของเธอคืออะไร”

“เขาคิดว่ามันสำคัญ”

“และคุ้มค่าที่จะปกป้องแม้ต้องแลกชีวิตของเขาก็ตาม”

 

 

คุณพ่อคะ…

บางอย่างที่น่าอัศจรรย์มาก กำลังเกิดขึ้นที่นี่

  

กำลังเกิดขึ้นกับตัวหนู

 

พวกเราได้สร้างบางสิ่งขึ้นมา

 

แล้วหนูคิดว่า หนูต้องปกป้องมันเอาไว้

 

 

 

 

มันยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเราคนไหนจะนึกจะฝันมากค่ะ คุณพ่อ

 

 

This System is now online

(ระบบนี้กำลังเริ่มทำงานแล้วค่ะ)

 

 

 

  

Avengers #11

    


  

ได้เวลาเหล่าตัวประกอบผู้ถูกลืม

แปลงเป็นนินจาพร้อมบุกฮ่องกง

   

และจบด้วยการปะทะกับพวก A.I.M !

  

      

     

  

จบแล้วคร้าบบบบ

  

งงกันมั๊ยครับ ผมก็งง!!

แต่จากที่ผมเข้าใจนะครับ คือ เมืองเรจินา นี้ มีความสามรถในการ วิวัฒนา
จะเห็นว่าคนที่ถูกเปลี่ยนร่างกลาย พื้นที่ต่างๆ เปลี่ยนเป็นป่าไม้ ระบบนิเวศน์เกิดขึ้นที่เรจินา
มนุษย์เหลืองอ๋อยอาจจะเหมือนมนุษย์ในยุคแรกๆ ที่เป็นป่า มีการนับถือเทวดา

ใช่ครับ Valiator เป็นตัวแทนของเทวดา เธอเป็นเหมือนผู้ควบคุมระบบของ เมืองเรจินา
ผมคิดว่าเธอคงได้รับความสามารถในการพัฒนาสิ่งมีชีวิตด้วย จากการที่เธอปล่อยพลังแล้ว
ทำให้เหล่า Avengers กลายร่าง เปลี่ยนเสื้อกันไปเป็นแถบ

และเธอจำเป็นต้องปกป้อง ระบบใหม่ของพื้นที่ของเธอ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง
ฉะนั้นเธอจึงวาร์ปเมืองทั้งเมืองหายไป

ส่วน Michaud คงไม่อยากให้รัฐบาลรู้ว่า ลูกสาวเขา ผู้กุมความสามารถในการ พัฒนา เอาไว้
เขาจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะเขาไม่เหมือน Avengers เขาทำงานอยู่ในองค์กรของเขา Department H
ถ้าเขาไม่ตาย ทาง Department H คงหาทางล้วงความลับของเขาได้ซักวัน

   

สุดท้ายนี้ Omega Flight ไปง่ายยยเกินไปแล้ววว

ชั้นจะเสียเวลาเกริ่นนำไปทำไมตั้งนานฟระะะะะะ

 

7 thoughts on “Avengers #10

  1. BXS

    นั่น spider woman ใช่มั้ยน่ะ นึกว่า sailor mars
    มีทั้งโบว์ มีทั้งกระโปรง โอ้ววว

  2. Arun

    หลังจากอ่านจบบอกได้เลยว่า งอ งู สองตัวกระแทกเข้าที่หน้าผาก งง!!!

    เข้าไปสู่พื้นที่ระบบวิวัฒนาการ?! เด้งกลับออกมา ตีหน้ามึนแล้วชิ่งหนี

    มิน่าล่ะถึงได้ “ว่ากันว่า พวกเขาคือกลุ่มฮีโร่ที่เกรียนที่สุดในโลก”

  3. Natch me

    ไหนพี่เค้าบอกว่าถ้ามีร่างกายระดับเมพแล้วจะเอาอาวุธไปทำไม

    มารูปหลังถือกระบองเฉยเลย

  4. Akira

    พอจะได้ไปญี่ปุ่นกันหน่อยดูดี๊ด๊าแต่ง CosPlay กันใหญ่เลยนะครับ
    ทั้ง Sailor Moon, Specterman, มีชุดนักสู้, ซามูไร, นินจา ว้าาาว

  5. seventoon

    กลุ่มฮีโร่ส์ที่ งงที่สุดในโลก – -*

    แถมโอเมก้า ไฟลท์มาไวไปไวเหมือนเดิมอีกต่างหาก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *