Superman #13 : Prelude to H’el on Earth : They will join you in the sun…
เรื่อง : Scott Lobdell
ภาพ : Kenneth Rocaforth
วางจำหน่าย : ตุลาคม 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics
บทนำสู่ H’el on Earth
Superman กำลังทำการทดสอบอะไรบางอย่างอยู่
ที่นี่คือสถานที่ค้นคว้าการทดลองต่างๆ โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางโลกมากนัก
ซึ่งเขาร่วมมือกับ Dr. Veritas เพื่อทดสอบการเพิ่มประสิทธิภาพของขีดจำกัดของพละกำลังของเขา
*Veritas แปลว่า สัจจะ ในภาษาละตินครับ
ซึ่งเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ห่างจากกพระอาทิตย์นานถึง 5 วันแล้วทำให้เขาตัดสินใจที่จะออกไปทันที โดยจะมาดูผลการทดลองภายหลังและบอกไปว่าเขาเชื่อในตัวเธอมาก และเธอเป็นแค่ไม่กี่คนทีเขาแบ่งปันเรื่องส่วนตัวเหล่านี้ด้วย
จากนั้นเขาก็บินกลับขึ้นไปด้านบน เพื่อรับพลังงานจากรพะอาทิตย์ ก่อนที่จะบินกลับไปยังเมืองที่เขาห่างออกมาถึง 5 วัน Metropolis ซึ่งเขาหวังจริงๆว่าจะสามารถทำให้อาชีพนักกู้โลกของเขานี่กลายเป็นตัวตนจริงๆของเขาได้ซะที แต่ตอนนี้เขาต้องเตรียมตัวไปจ่ายค่าโรงแรมก่อน
จากนั้นเขาก็เตรียมสิ่งต่างๆให้พร้อม และคิดว่าจะเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจ และเมื่อเปิดประตูห้องอาบน้ำเข้าไปก็พบกับ Jimmy Olsen เพื่อนร่วมห้องของเขาที่ควงสาวมาเข้าห้องอาบน้ำด้วย (ตรงๆคือเขาลืมเรื่อง Olsen ไป) และนั่นเป็นเพราะเขาลืมล็อกประตูทำให้ Clark เดินเข้ามาได้ แต่ก่อนที่ Olsen จะแก้ตัวอะไรเขาก็หายตัวไปแล้ว
เขาเดินทางมายัง Daily Planet เพื่อทำงานของเขา
ซึ่งก็โดน Perry เจ้านายของเขาต่อว่าเรื่องที่เขาไม่ได้ข่าวของ Superman มาเลยสักข่าวเดียว ทั้งๆที่เขาเป็นคนรับหน้าที่ติดตาม Superman Clark จึงแก้ตัวว่ามันไม่ใช่ว่า Superman จะทำหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน หรือเฉพาะที่เมืองนี้ แต่ก็โดย Lois สับว่านายเป็นนักข่าวก็ต้องหาข่าวมาสิ มันจะได้ไม่ใช่ “ข่าวล่าช้าในอาทิตย์นี้” ซึ่งตอนนี้ตัวเธอเองก็เป็นผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ไปแล้วด้วย Clark จึงจะเถียงต่อแต่ Lois ก็มีเมสเสจมาขัดจังหวะซะก่อน
ในระหว่างนั้น Clark ก็คุยกับ Perry เรื่องของข่าวหนังสือพิมพ์ โดย Clark นั้นทำงานมาได้ประมาณ 5 ปีแล้ว ซึ่ง Perry ก็บอกว่าให้ปล่อยวางบ้างเพราะเวลาเปลี่ยนไปเรื่อยๆสิ่งพิมพ์ก็ใกล้จะหมดยุคแล้ว และที่จริงเขาเองก็ไม่ชอบ แต่ตอนนี้ทางเดียวที่จะทำให้คนทั่วไปอ่านข่าวก็คือ ใช้สื่อทาง โทรทัศน์ , QPAD , Cell Phone จากนั้น Clark ก็รู้สึกว่า Lois นั้นดูแปลกเพราะเหมือนเธอกำลังคุยงานให้ Perry และเมื่อเขาใช้สายตาเอ็กเรย์ตรวจดูก็พบว่าเธอกำลังคุยกับแฟนใหม่ของเธอ Jonathan ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก แล้วเดินออกไปทันที
ช่วงบ่าย
Clark กำลังนั่งหาข่าวและคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเรื่อง Lois และความสัมพันธ์ของพวกเขารวมไปถึงเรื่อง “จูบ” ในคืนนั้นด้วย ( Justice League #12) แต่แล้วเจ้านายคนใหม่ของเขา Edage ก็เข้ามาหาเรื่องเพราะเห็นเขาไม่ยอมไปทำข่าวที่เขาถูกกำหนดไว้ซะที และบอกว่าเขาเป็นเจ้าของทุกๆอย่างในบริษัทนี้ ทั้ง งาน คอม อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงตัว Clark เองด้วย และถ้า Clark ยังทำไม่ได้เขาก็จะหาคนอื่นๆมาทำแทน และนั่นทำให้ Clark ของขึ้น
Clark : ความจริงก็คือ มันต้องมีที่ไหนสักแห่งแน่ๆ ที่ธุรกิจเกี่ยวกับข่าวสารกลายมาเป็นข่าว
Clark : ผมเติบโตขึ้นที่ สมอลวิลล์ และผมก็เชื่อว่าสื่อสารมวลชนนั้นเป็นงานที่เหมาะแล้ว เพราะมันเปี่ยมไปด้วยคุณค่า และความสำคัญ พอๆกับเหล่าตำรวจและนักดับเพลิง แม้กระทั่งครูหรือหมอก็ด้วย
Clark : ผมถูกสอนมาให้เชื่อมั่นว่า คำพูดคำเดียวก็สามารถเปลี่ยนการไหลของแม่น้ำได้ หรือให้พูดก็คือแม้แต่ความลับอันดำมือเองก็จะต้องเปิดเผยออกมาภายใต้แสงอันสว่างไสวของพระอาทิตย์
Clark : แต่ความเป็นจริงเหล่านั้นก็ถูกบิดเบือนไปด้วยความคิด
Clark : ข้อมูลข่าวสารก็ถูกแทนที่ด้วยความบันเทิง
Clark : ผู้รายงานข่าวก็ทำตัวเหมือนเลขางาน
Clark : ผมไม่ใช่คนคนเดียวที่ดูผิดแปลกในยุคที่การข่าวเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันหรอกนะ
Clark : และผมก็ไม่ใช่คนเดียวที่เชื่อมั่นในพลังของมัน …ความจริงก็คือพวกเราต้องยืนหยัดเพื่อความเป็นจริง เพื่อความถูกต้อง
Clark : และแน่นอน ว่าผมไม่อายเลยที่จะพูดว่า นี่แหละคือเส้นทางของคนอเมริกา
Edage : นี่นายแน่ใจจริงๆเหรอว่าไม่ได้มีแค่นายที่คิดแบบนี้คนเดียวน่ะ
Clark : ฉันไม่เชื่อหรอกว่า พวกเขาจะทำงานให้คุณเพราะความเชื่อถือที่มีต่อคุณน่ะ Edage ใช่ถึงแม้ว่า การเวลาจะผ่านไปแล้ว…และงานเองก็สำคัญ
Clark : แต่การยืนหยัดขึ้นเพื่อความคิดเพื่อส่วนรวมมากกว่าคนๆเดียว นั่นแหละที่สำคัญกว่า
Clark : เอาเลยทุกๆคน ใครจะมากับผมบ้าง
ทั้งห้องเงียบกริบ หรืออย่างน้อยๆก็มีคนนึงที่แสดงปฏิกิริยา
Edage : ฉันจะให้ยามมาพาตัวนายออกไปดีมั้ย
Clark : ไม่จำเป็น
(สรุป Clark โชว์พาวจนโดนไล่ออกนี่เอง)
Cat : ว้าว นั่นมันเป็นอะไรที่…มหัศจรรย์สุดๆตั้งแต่นายเคยทำมาเลยนะเนี่ย…
Clark : ไม่ล่ะ ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด
Cat : ไม่เอาน่า Clark นี่ฉันซีเรียสนะ
Cat : เธอให้แรงบัลดาลใจฉันเลยล่ะ หลังจากที่นายออกมา ฉันก็เดินไปบอกเขาว่า ถ้าเขาต้องการคนที่หลงใหลไปตามแฟชั่น , ไม่สามารถคิดอะไรด้วยตัวเอง แล้วละก็นะ …เขาคงต้องไปหาคนที่ทำได้ดีกว่าฉันแล้วล่ะ เพราะฉันลาออก
Clark : ฉันไม่แน่ใจว่าเธอจะหมายความแบบนั้นนะ แคท
Cat : ฉันหมายความตามนั้นสิ นายพูดถูกแล้วนะ ถ้าพวกเราเองไม่ได้มีความหมายในบางสิ่ง นั่นแสดงว่าพวกเรานั่นแหละที่ไม่มีความหมาย
Clark : ก็ใกล้เคียงละนะ
จากนั้น Cat ก็ชวน Clark ไปทำงานในบริษัทนานาชาติ ซึ่ง Calrk ก็บอกว่าตัวเขาน่ะสบาย แต่เธอต่างหากที่ต้องคิดถึงตัวเองซะหน่อย… แต่แล้วด้วยพลัง Super Hearing เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังเข้ามาในหู และจินตนาการจนกลายเป็นรูปร่างคร่าวๆในหัวของเขา
มีสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายมังกรปรากฏตัวออกมา ซึ่ง Clark ก็ไม่รอช้าพุ่งขึ้นฟ้าและทำหน้าที่ผู้ปกป้องเมืองนี้อย่าง Superman ทันที แต่นั่นก็คือเขาปล่อย Cat ให้อยู่คนเดียวซะแล้ว ซึ่งเขารู้สึกเหมือนตัวเองยังคงเหนื่อยๆอยู่ แต่ตอนนี้เขาต้องบินให้สูงขึ้นเพื่อดูรูปร่างของมันชัดๆ
“Superman เคยเห็นหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเขา”
“เช่น พระอาทิตย์พูดได้ Alktos Prime”
“7 พี่สาวน้องสาว แห่งบาปและความละโมบ”
“หมู่เกาะคอสมิค”
“แต่พวกนั้น ต่างอยู่บนอวกาศ แต่ที่นี่คือโลก”
“ไม่เคยมีอะไรที่เหมือนกับเจ้าสิ่งนี้เดินเล่นไปมาบนโลก”
สิ่งที่ Superman เห็นคือสัตว์ประหลาดที่เขาแทบไม่เคยพบมาก่อน ขนาดตัวใหญ่ที่เขาเห็นจากที่พื้นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของมันเท่านั้น (หรือเรียกได้ว่าเท้าดีล่ะ) ขนาดตัวของมันสูงใหญ่ยิ่งกว่าตึกของเมือง Metropolish มากนัก
Superman : ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายจะมาจากไหน หรือวางแผนอะไรไว้… แต่แกสร้างความเสียหายไว้ตามทางที่แกมา ต้องขอโทษด้วยแต่มันต้องจบลงโดยเร็ว
“เขาไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดไป… มันคือการต่อยที่สามารถระเบิดภูเขาลูกเล็กๆได้”
แต่มันแค่ล้มลงไป และลุกขึ้นมาใหม่ได้ในไม่ช้า และ Superman ก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร แต่แล้วเขาก็โดนมันยกส่วนหัวขนาดเล็กขึ้นมาหลอกล่อ ก่อนจะใช้หางสะบัดเข้าใส่เขาจนปลิวไปไกล
และกระเด็นมาตกชนเข้ากับคานเหล็กขนาดใหญ่ที่ Ireland ในยุโรป
และเมื่อตั้งสติได้เขาก็รับรู้ได้ว่ามันกำลังมาทางนี้ เขาจึงต้องพยายามพาคนขุดแร่พวกนี้ไปให้ห่าง จึงลงมือใช้ตาความร้อนกับลมหายหายใจน้ำแข็งพร้อมๆกัน กลายมาเป็นกระแสลมร้อนที่จะช่วยพัดพาพวกคนเหล่านี้ไปในอีก 3 ไมล์ข้างหน้า และเขาก็คิดว่าจะมีเวลาอีกประมาณ 2 นาทีก่อนที่มันจะมา ซึ่งเขาคิดว่าจะพักหายใจ แล้วคิดหาทางทำอะไรซักอย่าง… แต่มันมาเร็วกว่าที่เขาคาดไว้มาก
Superman โดนหางของมันจับตัวไว้ได้ และเขาพยายามที่จะหลุดออกจากหางของมัน แต่น่าประหลาดมากเพราะแรงของเขาไม่มากพอที่จะหลุดออกมาได้ ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแผนและยิงตาความร้อนลงไปด้านล่างแทน
“เขาใช้พลังตาความร้อนเพื่อเผลาพลาญน้ำมันให้ระเบิดขึ้นมาบนผิวโลก …ซึ่งมันเป็นไปตามที่คาดไว้แต่ผลลัพธ์อาจจะดูเลวร้ายไปสักหน่อย”
เปลวไฟพุ่งขึ้นมาเผาผลาญเจ้ามังกรจน Superman หลุดออกมาได้สำเร็จ
Superman : ถึงจะเกลียดที่มันดู แค่กๆ …ปุบปับไปหน่อย แต่คงบอกไม่ได้ว่าจะเกิดความเสียหายอีกเท่าไรถ้าฉัน แค่กๆ …ไม่หยุดมัน
แต่แล้วก็มีใครอีกคนที่เขารู้จักมาร่วมวงด้วย
Supergirl : เจ้าคนโกหก
Superman : Kara เหรอ เยี่ยมไปเลย ดูก่อนสิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีสักเท่าไรนะ ฉันไม่อยู่ในสภาพที่จะมาลุยกับเธอสักยกแล้วต่อยตีกันเพื่อพยายามที่จะหาเส้นทางของเธอเองบนโลกนี้หรอก
Supergirl : นายโกหกฉันมาพอแล้ว “ญาติของฉัน” นายสาบานว่ามันมีแค่ฉันกับนายที่เป็นผู้เหลือรอดจากดาวคริปตัน จากที่เจ้าคิดไว้ในวันที่ดาวของเราเกิดการระเบิด มันมีแค่ฉันกับนายที่เหลือรอด นายเคยพูดแบบนั้น
Superman : แล้วมันทำให้ฉันกลายเป็นคนโกหกได้ยังไงล่ะ Kara
Supergirl : ก็เพราะเจ้าตัวที่นายเพิ่งจัดการไปน่ะ “Tripedal Curosiananiun” นายคิดจะบอกว่านายไม่รู้จักสัตว์พื้นเมืองของดาวคริปตัน ที่มีชีวิตอยู่ก่อนในประวัติศาสตร์งั้นเหรอ
Supergirl : มันไม่สามารถจะมาอยู่ที่นี่…เว้นแต่ว่า ดาวคริปตันยังคงมีชีวิตอยู่ไงล่ะ
“นี่มัน เป็นไปไม่ได้ที่ Kal และญาติของเขาจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่ามันมีใครอีกคนนอกเหนือไปจากพวกเขา”
“อีกหนึ่งผู้ร่วมเดินทางของพวกเขา”
“ซึ่งกำลังรอคอย”
“เวลาอันเหมาะสมก่อนที่เขาจะทำการแนะนำตัวออกไป”
เล่มหน้า
อย่าได้พลาด Supeboy #14 และ Supergirl #14
ก่อนที่จะกลับพบกับเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นใน
H’el on Earth
เผยแพร่ครั้งแรกที่ : http://bank-genesis.exteen.com/20121126/spoil-superman-13-prelude-to-h-el-on-earth
คุยกันท้ายเล่ม
สำหรับอีเวนต์นี้ครอสโอเวอร์กัน 3 หัว กับ Superboy , Supergirl และ Superman ซึ่งเนื้อเรื่องจะไล่ลำดับอ่านตามนี้ด้วยครับ ยังไงก็ติดตามกันนะครับ
*ขอบคุณคุณ โยชูวาแห่งอัสซีซีด้วยนะครับ สำหรับความหมายของชื่อ Veritas
สัตว์ประหลาดออกแบบได้สวยดี
ชอบลายเส้นแฮะวาดสวยมากเลย
Kenneth Rocaforth นี่ชอบวาดแบ่งช่องแปลกๆแนวๆ ที่สำคัญวาดสาวๆไม่น่ากลัวเหมือนคนอื่นด้วย อิอิ
อืม พี่แกแบ่งช่อง อินดี้มากมาก – -*
แต่วาดสวยเลยดุรู้เรื่อง
เพิ่งเข้าใจจาก ซูเปอร์ บอย และซูเปอร์Girl เอง ว่าสองคนั้นเจอ H’el ยังไง
Supergirl นี้ออกแล้วติ่งนะน่าซัดให้หมอบสักทีได้รู้จักฟังคนอื่นบ้าง
เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า กางเกงลิงแดงของพี่ซุปร์ไม่ได้หายไป
แค่เอามาใส่ด้านในแล้วเท่านั้นเอง
ปล. veritasเป็นภาษาละตินแปลว่า “สัจจะ” ครับ
เป็น Event แรกของซีรีย์ซุปเปอร์แมนเลยมั๊งนี่
ปล.หนู Supergirl เมื่อตอนที่ญาติเธอถูกส่งออกจากดาวมานั่นเขายังเป็นทารกอยู่เลยนา เขาจะไปรู้จักเจ้าตัวนี้ได้ไงล่ะ?
ขอบคุณมากครับ