Ultimate Comics Hawkeye #01

Ultimate Comics Hawkeye #01

กรุงเทพเมืองวิวัฒน์ และเปลวเพลิงแห่งการเปลี่ยนแปลง

เรื่อง : Jonathan Hickman
ภาพ : Rafa Sandoval
วางจำหน่าย: 31 สิงหาคม 2011
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics



 

กรุงเทพ กำลังร้อนระอุ เกิดเหตุบางอย่างขึ้นที่นั่น

Nick Fury จึงได้ส่ง Hawkeye หรือ Clint Barton ไปดูแลความสงบทันที

แต่สิ่งที่ Clint พบ อาจเปลี่ยนโฉมหน่วย SHIELD และโลกไปตลอดกาล….


  

ก่อนที่เหตุการณ์ใน Ultimate เล่ม 1 จะเริ่มขึ้น

Hawkeye หรือ Clint Barton ได้ถูกส่งตัวมายัง

  

ตึก Triskelion

สาขากรุงเทพมหานคร

สาธารณรัฐเอเชียออกเฉียงใต้

หรือ SEAR (South East Asia Republic)

 

สภาวะ : ระดับส้ม


Hawkeye :   ไหนรายงานผมมาสิ คุณทหาร


แล้วนายทหารก็แพล่ม ยาวเป็นน้ำไหลไฟดับ

ซึ่งถ้าใครขี้เกียจอ่าน ก็ข้ามไปอ่าน ประโยคตัวหนาท้ายๆก็พอ!!

    

ทหาร :   การต่อสู้เพิ่งจบลงไปเมื่อราวชั่วโมงก่อนนี้เองครับ

ทหาร :   รัฐบาลของ SEAR ให้ข่าวไปว่าพวกกบฎยึดพื้นที่ส่วนน้อยของเมืองเท่านั้น

ทหาร :   แต่สายของเราจากที่หลบภัยรายงานมาอีกเรื่องเลยครับ

 

ทหาร :   พวกเรากำลังพยายามปรับจานดาวเทียดูใหม่ เผื่อให้ภาพที่ชัดขึ้น

ทหาร :   ตอนนี้ SEAR เองก็กำลังเคลื่อกำลังพลแล้วเหมือนกันครับ

 

ทหาร :   ….แต่จากที่สนธิสัญญาที่เราได้ทำกันไว้

ทหาร :   ทั้งในเรื่องการเงินเอย และในเรื่องละเอียดอ่อนอื่นๆ

ทหาร :   ..พวกนั้นอยากให้พวกเราเตรียมประสบการณ์

ทหาร :   การควบคุมประชากรที่แสนจะชำนาญของพวกเราให้พร้อม

 

Hawkeye :   โอ้ว แสดงว่าวันนี้ต้องเป็นวันที่แจ่มใสสบายจิตแน่ๆใช่มะ

 

ทหาร :   แล้วก็ยังได้ตัวนักวิทยาศาสตร์ของ SEAR สองคนที่

ทหาร :   ถูกยืนยันแล้วว่าเป็น

ทหาร :  นักพันธุศาสตร์ (Geneticist) กับ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธนิวเคลียร์ (Weaponeer)

ทหาร :   โผล่มาหาที่หลบภัยตอนที่การต่อสู้เริ่มขึ้น


 

Hawkeye :   มีอะไรเพิ่มอีกมั๊ย

 

ทหาร :   ท่านนายพล Fury ได้ขอร้องอย่างสุภาพว่า

ทหาร :   หากท่านมาถึงที่ ศูนยบัญชาการแล้ว

ทหาร :   ให้ท่านช่วยติดต่อไปมาโดยด่วนเลยครับ

 

Hawkeye :   ก็นะ ไม่รู้จะรีบกันไปไหน…


    


 

“ไม่ใช่ว่าโลกมันจะแตกมันจะไหม้ในวันพรุ่งซะเมื่อไร”



 

Clint หันหน้าไปมองเมืองกรุงเทพข้างหลังเขา ที่ตอนนี้กำลังลุกเป็นไฟ!!


  

ใช้เวลาไม่นาน Clint มาถึงศูนยบัญชาการ

ที่ตอนนี้กำลังปวดหัวกับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั่วเมืองกรุงเทพ


ทหาร :   คุณต้องทำการ log in เข้าระบบพร้อมกับ Chief (หัวหน้า)

 

Chief :   …ที่อังกฤษกับจีนยังอยู่ แต่ให้ที่ กรุงวอชิงตัน (Washington) รู้ไปว่า

Chief :   สถานเอกอัครราชทูตชาติอื่นๆ ต่างอพยพไปหมดแล้ว

 

เจ้าหน้าที่ :   ..เกิดเหตุระเบิดครั้งใหม่ที่ฝั่งหมายเลขหก หน่วยทสิบสอง

เจ้าหน้าที่ :   ตรงนั้นเป็นสถานีถ่ายทอดสัญญาณ……

 

Chief :   ระบุหมายเลขและยืนยันเสียงด้วยครับ

 

Hawkeye :   Barton, Clint หมายเลข 253519987

Hawkeye :   ID: Hawkeye

 

Hawkeye :   ติดต่อนายพล Fury


  

Hawkeye :   Chief บอกมาสิว่าทางเรามีอะไรบ้าง

 

Chief :   เรามี ฮับอัจฉริยะ (Intelligence HUB) ที่กำลังเก็บข้อมูลติดอยู่ในตัวกรุงเทพ

Chief :   มีข้อมูลดีๆอยู่ในนั้นเพียบเลย

Chief :   แต่ยิ่งเราไปขุดถลำลึกเข้าไปล้วงความลับในพื้นที่ของ SEAR มากเท่าไร

Chief :   ความเชื่อใจที่ SEAR มีให้ก็จะพังทลายลงอย่างไวมากเท่านั้น

 

Chief :   ฉะนั้นที่ผมพูดว่า พวกเราคิดว่าเรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากนอกเมืองหลวงนี้

Chief :   ผมก็ไม่ค่อยจะมั่นใจในเรื่องนี้เท่าไร พวกเรายัง…

 

เจ้าหน้าที่ :   Chief ครับ

 

เจ้าหน้าที่ :   ตอนนี้ผมจับสัญญาณของท่านนายพลได้แล้วรับ

เจ้าหน้าที่ :   ตอนนี้จะฉายไปที่หน้าจอเลยนะครับ


 

เครื่องได้ฉายภาพของ Nick Fury

ออกมาซึ่งเป็นเหตุการณ์คู่ขนานกับใน Ultimate เล่ม 1 นั่นเอง

   

Hawkeye :   บอส

 

Nick Fury :   Clint ตรูค่อนข้างแน่ใจมาก ว่าตรูส่งเอ็งไปที่นั่นก็เพื่อทำให้แน่ใจว่าไม่มีเรื่องห่าเหวแบบนี้เกิดขึ้น

 

Hawkeye :   นิค สาบานได้นะ… หล่อนท้องอยู่ก่อนแล้ว เรามีอะไรที่รายงานอย่างเป็นทางการรึยัง?

 

Nick Fury :   ทางเรามีแล้ว

Nick Fury :   รัฐบาลสหรัฐได้รับการขอร้องจากนายกรัฐมนตรี ทาง SEAR

Nick Fury :   ให้ถามทางเราให้ไปช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

 

Nick Fury :   ซึ่งได้ดำเนินไปเรียบร้อย อยู่ในขั้นการสั่งการ

 

Hawkeye :   คนพวกนี้ก็มีพื้นฐานมาจากพวกเผด็จการ… ท่านต้องล้อผมแน่

 

Nick Fury :   ถ้าหาก…คุยนอกสายกับท่านประธานาธิบดีได้นะ

 

Hawkeye :   โอเค นิค ยาน Helicarrier กำลังปล่อยตัว

Hawkeye :   ต้องขอตรวจดูสภาพอีกสักห้านาที

 

Hawkeye :   จะอยู่รอสายเลยมะ?

 

    

Nick Fury :   เออ ก็กะไว้ว่า…..



 

บรึ้ม!



 

Hawkeye :   ดวกส์อะไรฟระ..!!

 

อยู่ๆ ยาน Helicarrier ก็โดนศัตรูโจมตีใส่

 

Hawkeye :   Chief กดสัญญาณเตือนภัย

Hawkeye :   จัดรบสำรองมาด้วย


  

ไม่นานผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีหัวโมฮอกก็โผล่หน้าออกมา


โมฮอก :   อ้า ไอ้พวกมะกันแยงกี้

 

Hawkeye :   เดี๋ยวผมเดี่ยวกับไอ้เบื้อกนี่เอง

Hawkeye :   พาหน่วยจู่โจมพิเศษพบผมที่ดาดฟ้าได้เลย!

 

Chief :   พวกมันมีมามากกว่าหนึ่งนะครับ!


Hawkeye :   ว่าไงนะ….!!?


    

 

 

 บรึ้มมมมมมมมมม!

ตึก Triskelion โดนระเบิดเป็นจุล


 

 

โมฮอก :   ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกแกอีกแล้ว!!

 

โมฮอกพลังจิ๊ดโดนใจ

มาพร้อมเพื่อนของเขาอีกสองคน

ตอนนี้สถานการณ์กำลังเข้าขั้นวิกฤต!!


 

 

   

เรื่องราวทุกๆอย่างเริ่มต้นจาก

“การไอ”

ครับ

  

   

   

หนึ่งเดือนก่อน

กรุงเทพมหานคร

SEAR

ที่ห้องประจำการของนายกรัฐมนตรี

 

สภาวะ: สีเหลือง

 

นายกรัฐมนตรี :   ว่าไงนะ

 

นายกรัฐมนตรีแห่ง SEAR กำลังนั่งฟังนักวิทยาศาสตร์สองคนกำลัง

เล่าเรื่องที่ไม่น่าเชื่อบางอย่างให้ฟัง

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   การไอครับ ท่านนายก

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   การไอเป็นอาการแรกของผู้ติดเชื้อ

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   มันจะเริ่มจากการเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาทั่วไปก่อน

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   แล้วไวรัสจึงจะเติบโตครบวัฏจักรของมัน


  

นายกรัฐมนตรี :   ฟังดู……

 

นายกรัฐมนตรี :   ไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างเท่าไร

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ก็นั่นแหล่ะ ประเด็นของมัน แหล่ะครับท่าน

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ต้องขออภัยแทนเด็กมันด้วยนะครับ ท่านนายก

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ที่เพื่อนร่วมงานของผมต้องการสื่อก็คือ

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ถ้าหากอาการของมันรุนแรงเกินไป อาจจะกฎหมายควบคุมโรคเล่นเอาได้

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงเรียกผลการทดลองอันน่าตื่นตลึงนี้ว่า The Plan

  

  

เด็กเสริฟยกกาแฟมาให้ดื่ อย่างชิลๆ

ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งสองคนกำลังกลุ่ม

เพราะอนาคตของนักวิทยาศาสตร์สองคนอยู่ในการตัดสินใจครั้งนี้


นายกรัฐมนตรี :   ว่าต่อไปสิ

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   มันประกอบด้วยสองส่วนครับ

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   หมายถึง The Plan ครับ

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   The Plan ประกอบด้วยสองส่วนด้วยกันครับ

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ส่วนแรกก็คือ ไวรัส ที่ผมได้กล่าวบอกท่านไปแล้ว


  

หลังจากนั้นนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองก็พรรณาแผนการของพวกเขา

ซึ่งถ้าใครขี้เกียจอ่าน ก็สามารถอ่านสรุปข้างล่างได้เลยครับ ฮ่า

 

————————–


ไวรัสนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นฐาน: ให้ไวรัสสามารถแพร่ผ่านทางอากาศได้

อย่างที่พวกเราได้บอกไปแล้วว่า มันน่าจะก่อให้เกิดอาการที่ผิดปกติไม่มาก

และไวรัสตัวนี้มีระยะเวลาในการฟักตัวไม่มาก แต่จะมีวัฎจักรของเชื้อที่กว้างและยาวนาน


อีกทั้งไม่ว่าจะมีอะไรต่างๆเข้ามา

ไวรัสตัวนี้ก็สามารถทนทานและส่งถ่ายไปยังรุ่นสู่รุ่นได้


แผนการในการแพร่ไวรัสนี้ก็แค่ เริ่มจากแสร้งออกนโยบาย

บังคับฉีดวัคซีนให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะออกนอกประเทศ


และเพื่อให้ได้ปริมาณตามที่ต้องการ

พวกเราต้องตั้งตัวแทนบริษัทนำเที่ยวหลายแห่งอย่างลับๆ

แล้วเสแสร้งทำเป็นจัดโปรโมชั้นจัดแพคเกตเที่ยววันหยุดรับปีใหม่

แล้วแสร้งทำเป็นมอบรางวัลพิเศษคืนแก่ราชการที่รับใช้ชาติมาเป็นเวลานาน

  

  

จากนั้นประสานงานจัดตารางการท่องเที่ยว ให้เดินทางตลอดทั้งยี่สิบสี่ชั่วโมง

จ่ายเงินประมาณหนึ่งในสี่หรือหนึ่งในสามส่วนเพื่อจองที่นั่งสายการบิน

ทุกสายการบินที่บินออกจากสนามบินของเราล่วงหน้า

รวมถึงบินไปประเทศอื่นๆทั่วเอเชียและอินเดียด้วย


ต่อมาแบ่งคนของเราออกเป็นกลุ่มเล็กๆ แค่สองคน หรือคนเดียว

ส่งคนเหล่านี้ไปยังสถานที่เป้าหมาย


จากการทดลองของพวกเราแสดงให้เห็นว่า

ผู้ติดเชื้อเพียงคนเดียวสามารถแพร่เชื้อให้ติดผู้โดยทั้งลำภายในเวลาเพียงสามสิบนาที

การเครื่องจำลองของเราแสดงให้เห็นว่า

เราสามารถปล่อยเชื้อนี้ให้ระบาดไปทั่วโลกในระดับที่ร้อยละเก้าสิบหกในสิบวัน

และภายในแค่เดือนเดียววัยรัสจะบรรลุเป้าหมายของมันอย่างสมบูรณ์


เป้าหมายนั้นก็คือการเปลี่ยน ลักษณะ DNA มนุษย์ให้ปฎิเสธ

ที่จะรับ ประยุกต์ การคงอยู่ของ X-Gene (ยีนของเหล่า X-Men)

 

 

————————–


 กล่าวโดยสรุปก็คือ

นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ได้ผลิตไวรัสเพื่อขจัด X-Gene ยีนที่ทำให้เกิด Mutant ขึ้ยมานั่นเอง

คล้ายกับที่ Scarlet Witch เคยลบพลังของเหล่า Mutant ในจักรวาลหลักนั่นเอง

 

 

นายกรัฐมนตรี :   ถอนรากถอนโคนอย่างสมบูรณ์แบบ?

นายกรัฐมนตรี :   ไปตลอดกาลเลยรึ?

 

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ถูกต้องแล้วครับ ท่านนายก

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   No More Mutant

(เอ๊ะ ประโยคคุ้นๆ )

   

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   แต่แน่นอนครับว่า

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ถ้านี่เป็นผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวของ The Plan

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ทุกอย่างที่เราบากบั่นทำมาก็คงไม่ได้อะไรเท่าไร

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   เพราะคนที่ร่างกายตอบรับกับ X-Gene ยังกระจายอยู่แบบสุ่ม

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   เป็นตัวแปรที่พวกเราไม่อาจพยากรณ์ได้

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   แถมประชากรในโลกตะวันออกอย่างเรา

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างมีนัยยะแบบนี้

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ในทางสถิติแล้ว การที่เรามีจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ย่อมมีโอกาสที่จะมีคนกลายเป็น Mutant เพิ่มมากขึ้นด้วย


  

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   แต่ในแง่มุมทางทหาร

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   การส่อแววที่จะเกิดหายนะในอนาคตแบบนี้

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   จะต้องมีการคุมเชิงในระยะยาม


นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ถ้าเราอยากจะชนะ

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   พวกจะต้องไม่เพียงแค่ทำลายอาวุธของพวกมันเท่านั้น

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   แต่พวกเราจะต้องสร้างอาวุธใหม่ของพวกเราเองด้วย


นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ซึ่งนั่น นำพาเรามาสู่ ส่วนที่สอง ของ The Plan ครับ

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่มมอบกล่องบางบางอย่างแก่นักวิทยาศาสตร์เฒ่า

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ท่านนายกครับ

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   นี่คือ เซรุ่ม (Serum)


นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ไปเอาหนูทดลองมาสิ



หนูทดลอง :   ปล่อยชั้นไป!!

หนูทดลอง :   ขอร้องล่ะ ชั้นไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย!

 

นายกรัฐมนตรี :   นี่มันอะไรกัน!?

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   บางสิ่งที่ต่างออกไปครับ

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   บางสิ่งที่ดีกว่า X-Gene

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   บางสิ่งที่…ใหม่กว่า

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   โดยทั้งหมดทั้งมวลแล้ว พวกเราเรียกมันว่า

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   The People ครับ


นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   แค่ฉีดไปแค่เข็มเดียว


 

 

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!


 

 

  

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   แม่เจ้า!


นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   มันกลายเป็นอะไรซักอย่างใช่มั๊ย?


หนูทดลอง :   โอ้ววววววว

หนูทดลอง :   ข้าเห็นมันแล้ว ข้าเห็นบันไดสู่การสรรค์สร้าง การอุบัติขึ้นของกายใหม่

หนูทดลอง :   ข้าเคลื่อนที่และล่องลอยเหนือทุกสิ่ง

 

หนูทดลอง :   ข้าเห็นที่สุดขอบนั้นยังมี Tu’an (ทวน, ถวน, ต๋วน)

หนูทดลอง :   และก่อนที่ความวุ่นวายจากการที่ดวงอาทิตย์ (The Sun) ได้หนีหายไปจากค่ำคืน (The Night)

หนูทดลอง :   ก่อนที่ ความตายจะเกิดขึ้นจากเหล่าผู้ส่งมอบการเปลี่ยนแปลง…..The Dome


หนูทดลอง :   จะเกิดการทำลายกฎเก่า

หนูทดลอง :   ที่ไม่อาจจะมีใครหยุดมันได้


หนูทดลอง :   ข้าเห็นมัน

 

ดูเหมือนว่าหนูทดลองคนนี้จะมีปีกกางขึ้นมา และสมารถมองเห็นอนาคตได้!!

เพราะได้ทำนายเรื่องของ The Dome ของ Children of Tomorrow เอาไว้


นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   แค่นั้นน่าจะพอได้แล้ว!



ว่าแล้วเหล่าทหารก็จัดการกับหนูทดลอง ที่ดูน่าจะมีประโยชน์ต่อชาว….



 

ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

ปัง! ปัง!ปัง!

ปัง!ปัง! ปัง!


 

หนูทดลองดับอนาจ (T_T)

   

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   นั่นอาจจะเป็น….การหยั่งรู้ชั่วครู่

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ก็อาจเป็นได้

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   หรือไม่ก็เป็นพลังการอ่านใจอะไรซักอย่าง

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   อะไรก็ตามทีครับ ทานนายก

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   จากตัวอย่างของพวกเราทั้งหมดยี่สอบสามตัวอย่างที่ได้ลองใช้เซรุ่มนี้

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ต่างก็มีพลังที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   ดูเหมือนว่า The People ของเราจะมีความน่าเกรงขามและหลากหลายในเวลาเดียวกันครับ


  

เลขา :   การเปลี่ยนขั้วอำนาจ

 

นายกรัฐมนตรี :   แล้วพวกคุณแน่ใจรึว่าแค่พวกเรามีไอ้พวกนี้ก็พอ?

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   กาทำตัวเป็นอีลูกช่างกลัวของพวกโลกตะวันตก

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ทำให้พวกมันลังเลที่จะลงมือศึกษาศาสตร์วิศวกรรมพันธุกรรมอย่างจริงจัง

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   แต่พวกเราไม่กระจอกแบบนั้น

 

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ท่านนายกครับ

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ความเป็นเลิศในศาสตร์นี้ของพวกเราไม่มีใครเทียบได้แน่นอนครับ



นายกรัฐมนตรี :   แล้วพวกคุณจะเลือกคนที่จะรับเซรุ่มนี้ยังไง?

นายกรัฐมนตรี :   เราต้องเลือกเฉพาะคนที่พิเศษเท่านั้นนะ

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   แน่นอนครับ

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   พวกเราได้เลือกกลุ่มนำร่องไว้แล้วครับ ท่านนายก

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   แกล้งบอกไปว่าให้ทำเพื่อประเทศชาติ


นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   นอกจากนั้น พวกเราได้เริ่มทำการ

นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   เพิ่ม...ความสามารถ เพิ่มอีกหน่อยด้วยครับ


นายกรัฐมนตรี :   กลุ่มนำร่องที่ว่ามีกี่คน?

 

นักวิทยาศาสตร์เฒ่า :   มากกว่าแสนคนครับ

  


ท่านนายกยิ้มแก้ปริ ในอำนาที่เขาจะได้รับในอนาคต

 

นายกรัฐมนตรี :   ชัยชนะในเกมหมากที่ยิ่งใหญ่นี้

นายกรัฐมนตรี :   อยู่แค่ปากแก้วชาใบใหญ่….ที่ไม่มีใครจะนึกถึงสินะ


นายกรัฐมนตรี :   แต่พลังที่มากมายขนาดนี้….

นายกรัฐมนตรี :   อะไรที่พลังแบบนั้นจะคุมอยู่รึ?


นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม :   ขอให้ท่านนายก โปรดเก็บความกังวลไว้ใต้หมอนได้เลยครับ

 


 

ผมให้สัญญาว่า”

พวกเราควบคุมพวกมันได้แน่ครับ!”


 

แต่ก็เหมือนเด็กน้อยเล่นไฟ

ท้ายที่สุด ไฟที่จุดเอาไว้ ก็ไหม้บ้านตัวเอง

   

ตึก Triskelion

กรุงเทพมหานคร แห่ง SEAR


สภาวะ: สีแดง


เหล่า The People กำลังถล่มตึก Triskelion จนย่อยยับ

  

 

  

เจ้าหน้าที่:   ทุกคนหมอบลง!!


ขณะที่เจ้าหน้าที่ของหน่วย SHIELD กำลังจะยิงใส่พวกทรงผมพิศดารนั่นเอง

ปืนของพวกเขาก็โดน โมฮอก แย่งไป ดูแล้วพลังน่าจะเหมือน Magneto

จากนั้น โมฮอก ก็หันปากกระบอกปืนมาที่พวกนเขาแทน


 

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!



   

Hawkeye กระเด็นหมุนคว้าง แล้วหยิบเศษแก้วขึ้นมา


Hawkeye :   พอทีว้อย

Hawkeye :   ยิงคนที่สามารถเปลี่ยนอะไรให้กลายเป็นอาวุธได้…..พลาด!

Hawkeye :   แต่ถ้าโยนเศษแก้วใส่…

 

Hawkeye :   โคตรเมพ!!

 

Clint จึงแสดงความเมพด้วยการเขวี้ยงเศษแก้วสองอัน….

  



 

ฉึบ! ฉึบ!

ปักหัวโมฮอกจนเน่า

(ทำได้ไงวร้า!)

 

 

   

เมื่อเห็นเพื่อนโดนฆ่า มีหรือที่โล้นผู้มีพลังคล้าย Cyclops จะอยู่เฉย!



   

เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงง



   

โล้นปล่อยพลัง Optic Blast ใส่ Clint

แต่ Clint ก็พริ้วหลบทัน!

 

   

ระหว่างที่กำลังโดดหลบ ทหารนายหนึ่งได้โยนบางอย่างมาให้

 

HAWKEYE!”

“รับไอ้นี่ไป!”

     

มันคือธนูสุดโปรดของเขานั่นเอง

เมื่อ Clint รับธนูที่เพื่อนเขาส่งมาให้แล้วก็…..


 

ฉึก! ฉึก!

(Head Shot!)



 

ตายไปแล้วสอง เหลือศัตรูอีกแค่คนเดียวเท่านั้น

  

 

 

ซึ่งก็คือ พี่เกราะผู้พลังคล้าย Armor ในจักรวาลหลักนั่นเอง

   

พี่เกราะ :   ถอยไปนะว้อย!

พี่เกราะ :   ไม่งั้นไอ้เววนี่ตายแน่!!

 

Chief :   ปล่อยตัวเค้าซะ

Chief :   ไม่งั้นแกกับชั้น เราสองไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก

Chief :   ปล่อยตัวเค้าสิว้อย!!

 

Hawkeye :   เย็นไว้ Chief


  

พี่เกราะ :   ถอยไปสิว้อย!

 

คนซวย :   แม่จ๋า มันฆ่าอั๊วแน่ๆ ซี้เลี้ยวอ่า!!

 

Hawkeye :   เฮ้ คุณพี่ มองมาที่ผมนี่…

 

Hawkeye :   ผมอยากให้พี่ทำใจให้สบายนะครับ

Hawkeye :   ทุกอย่างจะดีเอง

Hawkeye :   รู้มั๊ยว่าเพราะอะไร?


คนซวย :   เพราะไรอ่ะ?




 

ฉึก!

อั๊ค!


   

ก็ผมไม่เคยยิงพลาดนิ”

  

   

   


 

การต่อสู้สิ้นสุดลง ผู้บุกรุกทั้งสามถูกกำจัดลงอย่างรวดเร็ว


Hawkeye :   Chief ไปรายงานสถานการณ์ของพวกเรา

Hawkeye :   แล้วช่วยทำยังไงก็ได้

Hawkeye :   ติดต่อกับ ท่านนายพล Fury ให้ได้ครับ

 

Chief :   ถ้าติดต่อได้เมื่อไรเดี๋ยวผมจะแจ้งคุณล่ะกัน…

 

Hawkeye :   แล้วก็กัปตันครับ

 

Captain :   ครับท่าน

 

Hawkeye :   ไปลากตัวไอ้นักวิทยาศาสตร์สองคนที่คุมตัวไว้หาที่หลบภัย อะไรนั่นมาที

Hawkeye :   ผมว่าพวกเรามีเรื่องต้องคุยกันซักหน่อย!

 

ในที่สุดการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง ผลคือ ตึก Triskelion พังยับ


    

 เวลาต่อมา

   

ที่ตึก Triskelion (ในสภาพยับเยิน)

กรุงเทพ SEAR


สภาวะ: สีแดง


Clint สามารถติดต่อกับ Nick Fury ได้ในที่สุด


Nick Fury :   ลื้อช่วยทวนที่เราพูดกันก่อนหน้านี้ให้ฟังใหม่สิ?

 

Hawkeye :   รัฐบาลของ SEAR พวกที่ทำข้อตกลงอาวุธกับพวกเรา

Hawkeye :   แล้วยังเป็นพวกที่บอกว่าเราต้องทำข้อตกลงนี้ก่อน ไม่งั้นสร้างฐานเราไม่ได้ นั้น

Hawkeye :   ได้ทำตัวเป็นอีแอบใช้ไวรัสทำลายพวก Mutant

Hawkeye :   แล้วยังแอบเริ่มโครงการพัฒนาอาวุธที่อลังการกว่าอะไรที่เราเคยเห็นซะอีก!


   

Nick Fury :   แล้วพวกเราได้ข้อมูลพวกนี้มาจากนักวิทยาศาสตร์สองคนที่ทำงานโครงการนี้สินะ?


ที่แท้ไอ้นักวิทยาศาสตร์สองคนนี้ ก็คือนักวิทยาศาสตร์เฒ่า กับ นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม ก่อนหน้านั่นเอง


Hawkeye :   ใช่ครับ

Hawkeye :   จะให้จับพวกนี้ไปยิงทิ้งเลยมะ?


Nick Fury :   แล้วมีเรื่องอะไรยืนยันมั๊ยว่าไอ้พวก The People

Nick Fury :   กำลังจะล้มรัฐบาลของ SEAR อยู่น่ะ


Hawkeye :   ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม แต่ดูเหมือนจะอย่างนั้นนะ


  

Nick Fury :   แปลว่าตอนนี้ พวกเรากำลังอยู่ท่ามกลาง

Nick Fury :   กองกำลังทหาร ที่พวกเราไม่เคยรู้มาก่อนจนวันนี้


Nick Fury :   พ่วงด้วยเรื่องเทคโนโลยีที่พวกเราไม่เข้าใจ

Nick Fury :   และพวกเราไม่ได้ครอบครอง

Nick Fury :   แล้วมาตอนนี้พวกเราก็ไม่รู้ว่าใครที่จะได้มันมาครอง


Hawkeye :   ประมาณนั้นเลย

Hawkeye :   แล้วอยากให้ผมทำอะไรต่อละ นิค?

  



“ลื้อคิดยังไงล่ะ ไอ้คุณทหาร?”

“ไปเอาไอ้เซรุ่มนั่นมาให้ตรูบัดเดี๋ยวนี้เลย!”



ปฎิบัติการล่าเซรุ่ม จึงเริ่มขึ้น!!


   

Ultimate Comics Hawkeye ตอนต่อไป

 



ได้เวลาบุกเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพ

Clint จะชิงเซรุ่มมาให้ Nick ได้จริงหรือ?


 



ในที่สุดการต่อสู้ก็สิ้นสุดลง ผลคือ ตึก Triskelion พังยับ

11 thoughts on “Ultimate Comics Hawkeye #01

  1. G

    แหม่ เป็นกรุงเทพฯ แต่ตัวอักษรที่ป้ายเป็นภาษาจีนซะนี่ แถมยังน้ำไม่ท่วมอีก อิอิ

  2. Tonn

    ผมว่าที่นี่มันเวียดนามชัดๆเลยนะคับ ดูจากสภาและชุดนายกแล้ว

  3. Justicesavor

    ตึก Triskelion เหี้ยไร กุรู้จักแต่ตึดใบหยก -0-*

  4. Justicesavor

    ไม่ชอบ นิค ฟิวรี่ Untimate เท่าไหร่ มันดูเกรียนๆ ยังไงก็ไม่รู้ ไม่มีความสุขุมนุ่มลึกเอาซะเลย – -* ทำตัวอย่างกะผู้พันรอส

  5. seventoon

    สงสัย ในจักรวาลนั้น ชาวญวน อพยพมาครอบครอง กทม มั้ง – -*
    ว่าเข้าไปนั่น …

    คงอยากด่าเวียกง แต่เอาชื่อเรามาบังหน้าล่ะมั้ง

    ฮอคอายเทพมากครับ โฮ่

  6. Mr Y

    Hawkeye มันเมพขิงๆครับ ขอบคุณครับ กรุงเทพหรือฮ่องกงฟะ

  7. tearfire

    จบภาคนี้ นิกจะได้ยาไปอัพเกรดหน่วย shield อะปล่าววหว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *