The Dark Knight Rises Review – Begins บรรจบ Rises ปิดฉากอัศวินรัติกาล

“ถ้าคุณทำตัวให้เหนือมนุษย์  ถ้าคุณทุ่มเทตัวเองให้กับอุดมการณ์ และถ้าพวกเขาหยุดคุณไม่ได้
คุณจะกลายเป็นอย่างอื่นโดยสิ้นเชิง”

เนื้อหาในบทความนี้เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ

ผ่านมาเป็นเวลาเจ็ดปีแล้วที่ Batman Begins ได้ออกมาสู่สายตาพวกเรา ได้พูดถึงต้นกำเนิดใหม่ของ Batman ให้เราได้รู้จัก บรูซ เวย์น(คริสเตียน เบล) ใบแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
การเดินทางของบรูซ เวย์น มาต่อใน The Dark Knight ภาพยนตร์ในตำนานพร้อมกับการแสดงที่สะกดทุกสายตาของ ฮีท เลดเจอร์ ครั้งนี่พระเอกของเราต้องถูกทดสอบทางด้านจิตใจ ว่าเขาจะยังเป็นคนยึดหลักอยู่ในอุดมการณ์หรือไม่หนังยังได้ให้ข้อคิดศีลธรรมกับเราหลายอย่าง พร้อมกับฉากจบที่ Batman ยอมเป็นได้ทุกอย่างแม้กระทั่งคนเลวในสายตาของประชาชนเมือง

และในปีนี้การเดินทางของบรูซ เวย์น มาถึงจุดสุดท้าย ตอนจบของไตรภาค The Dark Knight Rises


วันพุธที่ 18 กรกฏาคม 2555 มีการจัดรอบสื่อมวลชนในหลายๆที่ของกรุงเทพครับ
ผมได้ไปดูรอบของโนเกียที่จัดขึ้นบนโรงหนัง พารากอน ซีนีเพล็ก ไปกับกลุ่มแฟนพันธุ์แท้
และพี่ Doc Holliday พอเข้ามาในโรงก็เอาล่ะเราจะได้ดูหนังฮีโร่ในดวงใจ รอคอยมาตั้ง 4 ปี

พอเรื่องเปิดขึ้นมาก็เป็นฉากเปิดตัวเบน 6 นาทีที่เคยฉากแปะหน้า Mission Impossible ยังคงได้รับความประทับใจและเร้าใจเช่นเคย แต่เมื่อตัดมาฉากอื่นนี่สิผมรู้สึกว่าหนังมีปัญหาในการเล่าเรื่องเหมือนเร่งจังหวะเกินไป จนเรายังไม่ทันจับใจความหรือซึมฉากพวกนั้นได้ดีพอ จนรู้สึกว่ามันโดดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องปฏิกิริยา ฟิวชั่น , เรื่องการเมืองในบริษัทเวย์น หรือเรื่องของเซลีน่า ไคล์(แอน์น ฮาธาเวย์) รวมถึงฉากแอคชั่นที่บุกเข้าไปติดกับของเบน ถือว่าเป็นจุดเสียสุดๆของหนังก็ว่าได้
ภาคนี้การอธิบายที่มาที่ไปดูจะไม่ค่อยดีอย่างเช่นการที่ จอห์น เบลค (โจเซฟ กอร์ดอน เลวิท) รู้ตัวแบทแมนโดยการมองหน้า บรูซ เวย์น นี้ค่อนข้างจะไม่ค่อยมีเหตุผลที่ดีเท่าไร แถมยังพกความมั่นใจไปหาแบบไม่กลัวจะหน้าแหกคาบ้านเขาด้วยนะ ชุดของนางแมวป่ามาจากไหนและแว่นบนตาทำอะไรได้บ้างก็ไม่ได้บอก จนผมกลัวแล้วว่าหนังจะออกมาไม่ดี ใน 30 นาทีแรกคนที่โดดเด่นกว่าใครคือ แอนน์ ฮาทาเวย์ ที่เล่นบท นางแมวป่า หรือ เซลีน่า ไคลย์ ตีบทแตกมากทั้งหน้าตาและท่าทาง ที่ดูเป็นแมวขโมยที่พร้อมใช้มารยาหญิงหลอกผู้คนได้ตลอด

“คุณกลัวอะไร คุณเวย์น” – เฮนรี่ ดูคาร์ด

โทนครึ่งแรกของหนังเน้นไปที่ความกลัวของตัวละคร ทุกคนต่างกลัวความจริงที่ปิดบังเอาไว้
กอร์ดอน กลัวความจริงเรื่อง ฮารวีย์ เดนท์ จะทำลายความสงบสุขเมือง
อัลเฟรด กลัวจะบอกเรื่องจดหมายเรเชล
บรูซ เวย์น กลัวการใช้ชีวิตใหม่ที่ไร้เรเชลเพราะยังยึดมั่นว่าเขาคือคนที่เธอเลือก
เซลีน่า ไคลย์ กลัวการกระทำเก่าๆจะย้อนมาเล่นงานเธอและต้องการลบมันทิ้งเพื่อเริ่มชีวิตใหม่
ทุกอย่างดูจะหยุดอยู่กับที่ แต่อย่างที่โจ๊กเกอร์ว่าไว้ ความบ้าคลั่งเหมือนกับแรงโน้มถ่วง แค่สะกิดเบาๆมันก็หล่นใส่ใครก็ได้ความกลัวก็เช่นกัน หากมันได้ถูกผลักไปนิดเดียวความกลัวทั้งหมดมันจะหายไป และแรงผลักดันในนี้คือ นายตำรวจหนุ่มไฟแรง จอห์น เบลค

“คุณยังไม่หมดศรัทธากับผมอีกเหรอ” – บรูซ เวย์น

“ไม่มีวัน” – อัลเฟรด

หาก อัลเฟรด(ไมเคิล เคน) คือคนที่ไม่หมดศรัทธากับ บรูซ เวย์น จอห์น เบลค คงเป็นคนที่ไม่หมดศรัทธากับ แบทแมน ตัวละครจอห์น เบลค คือตัวขับเคลื่อนสำคัญทำให้ทุกอย่างก้าวไป การกระทำของเขาจุดให้เป็นลูกโซ่ จนกลไกของ แบทแมน ทำงาน ส่วน อัลเฟรด ภาคนี้ออกมาน้อยกว่าทุกภาค แต่ทุกฉากที่เขาได้ออกมา สะกดคนดูได้อยู่มัด กับคำพูดของพ่อบ้านแสนดี คนที่เปรียบเหมือนเป็นพ่อคนที่สองของบรูซ ต้องพูดความจริงเรื่องเรเชล ในใจรู้ดีว่าหากพูดไปคนที่ดูแลมาทั้งชีวิตต้องเกลียดเขา ทำผมถึงกับน้ำตาคลอเลย
เมื่อตัวหนังผ่านมาครึ่งเรื่อง โนแลน ก็ไม่ทำให้ผิดหวังความต่อเนื่องการเล่าเรื่องแบบน่าติดตามแบบฉบับของเขาก็กลับมา ทั้งการต่อสู้ของ แบทแมน กับ เบน ที่ดูครั้งแรกให้ความรู้สึกขนลุกและต้องร้องเห้ย! แบทแมน โดน หักหลังแบบในการ์ตูน ในตอนแรกผมคิดว่าเขาคงอัดกันหน้ากากเละอย่างเดียวไม่คิดจะมีฉากนี้เข้ามา ทอม ฮาร์ดี้ มีฉากโชว์พลังการแสดงถึงสองฉาก หนึ่งคือฉากประกาศตนต่อชาวก็อธแธม ที่สนาม Gotham Rogue ที่ดูจะธรรมดาไปหน่อย สองฉากประกาศความจริงเรื่อง ฮาร์วี่ย เดนท์ ตรงนี้ทำได้ดีขึ้นมานิดมีการแสดงผ่านแววตาได้ดีครับ แต่ก็ยังรู้สึกไม่ประทับใจอยู่ดีแหละนะ ตัวละครเบน เรื่องนี้ผมรู้สึกว่ามันเล่นยากคือนอกจากต้องใส่หน้ากากแล้ว การจะเล่นให้ดีกว่า โจ๊กเกอร์ จากภาคก่อนที่ทำมาตราฐานไว้สูงยิงเป็นเรื่องยากเข้าไปอีก รวมทั้งภาคนี้ตัวละครเบนไม่ค่อยมีฉากให้โชว์ของมากๆแบบ โจ๊กเกอร์ ด้วยไม่แน่ใจว่าเป็นที่บทหรือคนเล่นที่ทำให้ตอนหลังของ เบน ดูแผ่วลงมาก จนทำให้ผมนึกถึงบทบาท ราซ อัล กูล ตัวปลอมที่ เคน วาตานาเบ้ เล่นไว้ใน Batman Begins
ผมว่าสิ่งที่พลาดอย่างนึงของหนังคือผลักดัน เบน เป็นตัวร้ายหลักของเรื่องแต่กลับมาเปิดที่หลังว่าเขาเป็นแค่คนรักของธาเลีย จนทำให้สิ่งที่เขาพยายามมาตลอดเรื่องดูเปล่าประโยชน์เป็นได้แค่หมากตัวนึงเท่านั้น และมุขมันก็ดันซ้ำกับ Begins

“ทำไมเราถึงล้ม บรูซ” – โทมัส เวย์น



ช่วงที่หนังดูมีพลังสุดคือตอนที่ บรูซ เวย์น ติดอยู่ในคุกหลุม และพยายามรักษาตัวเอง พร้อมกับปีนขึ้นมาจากหลุมถึงเขาล้มเหลวถึง 2 ครั้งแต่นั้นไม่ทำให้ บรูซ ยอมแพ้เพราะคำสอนของพ่อเขาเอง “ทำไมเราถึงล้ม บรูซ เพื่อจะได้รู้จักว่าจะลุกขึ้นมาได้ยังไง” คำสอนเหล่านี้ของพ่อเขา หากตัวไม่ตายจากเขาจะไม่ยอมแพ้ ครั้งที่ 3 ในการปีนเป็นฉากที่ดูทรงพลังพร้อมกับเพลงประกอบของ ฮานส ซิมเมอร์ ทำให้อินและฟินในหนังได้อย่างดี เมื่อปีนสำเร็จทุกคนที่ส่งเสียงต่างร้องเฮ ในใจผมอยากจะลุกขึ้นมาเฮด้วย แต่ก็เกรงใจนะ 5555

“มรดกตระกูลเวย์น ไม่ได้เป็นแค่อิฐกับปูน” – อัลเฟรด


มาถึงช่วงท้ายของหนังเรียกว่า โนแลน ใส่มาไม่ยั้งแต่ละฉากที่ทำมาน่าตื่นเต้นขนลุก ทั้งการเปิดตัวการกลับมาด้วยไฟค้างคาวที่คงจะล้อไปยัง คำพูดในตอนต้นที่สมุนของ เบนถามว่า”ไฟจุดติดรึยัง” “แน่นอน ไฟติดแล้ว” เหมือนเป็นการพูดนามธรรมเฉยๆแต่ฉากนี่ แบทแมน จุดให้ดูจริงๆเป็นสัญญาณว่าฝ่ายธรรมะจะกลับมา “ผงาด”
คำพูดกินใจหลายๆอ่านได้โผล่เข้ามาอย่างเช่น
“คุณไม่ติดค้างคนพวกนี้อีกแล้ว คุณได้ให้ทุกอย่างแก่พวกเขาไปหมด” – นางแมว
“ไม่ทุกอย่าง ไม่หมด” – แบทแมน
เซลีน่าพยายามชวนให้เขาหนีออกมาแต่ บรูซ ไม่ยอม เพราะต้องการปกป้องเมืองนี้
เมืองที่พ่อแม่เขาร่วมกันสร้างขึ้นมา และมันกำลังเป็นเถ้าถ่านหากเขาไม่หยุด เบน

“คุณได้เรียนรู้ที่จะทำสิ่งที่จำเป็นหรือยัง” – ราซ อัล กูล



ช่วง 30 นาทีสุดท้ายบทเพลงของ ฮานส ซิมเมอร์ พร้อมกับการเล่าเรื่องของ คริส โนแลน ทำให้เราลุ้นเรียกว่าเหนื่อยมากๆ ทั้งความอลังการกับฉากสงครามปฏิวัติเมือง ก็อธแธม , ฉากไล่ล่าบนท้องถนนของ The Bat และ Tumbler ฉากซึ้งๆระหว่าง แบทแมน และ กอร์ดอน ทำเอาหยุดหายใจเลยทีเดียว ในตอนท้ายของหนังได้ตอบคำถามที่ ราซ อัล กูล ได้มอบหมายไว้ให้แก่เขาใน Batman Begins “ถ้าคุณทำตัวให้เหนือมนุษย์  ถ้าคุณทุ่มเทตัวเองให้กับอุดมการณ์ และถ้าพวกเขาหยุดคุณไม่ได้ คุณจะกลายเป็นอย่างอื่นโดยสิ้นเชิง” คำตอบนั้นก็คือ แบทแมนได้กลายเป็นตำนานของก็อธแธม
แบทแมน ได้สละชีวิตนำระเบิดนิวเคลียร์ไปทิ้งทะเล ท่ามกลางความดีใจของประชาชนในเมือง แต่จอห์น เบลค ผู้มองเห็นเหตุการณ์ หมดศรัทธากับระบบความยุติธรรมที่เขาเชื่อทั้งคำโกหกของ กอร์ดอน และ การฟังคำสั่งโดยไม่มองถึงชีวิตผู้คน มีการจัดงานศพบรูซ เวย์น อย่างลับๆ อัลเฟรด ขโมยซีนอีกครั้งน้ำตาผมคลออีกแล้ว เมืองก็อธแธมมีการสร้างรูปปั้นถึงวีระกรรมกล้าหาญผู้ช่วยเมืองไว้

“คุณไม่ได้รับข้อความเหรอ” – วิลเลี่ยม เอิร์ล

ตลอดทั้งเรื่องมีการย้ำเรื่องระบบควบคุมยานอัตโนมัติถึง 3 ครั้งว่ายานไม่สามารถใช้ระบบนี้ได้ จนมาหักมุมตอนจบว่าระบบถูกซ่อมเสร็จไปแล้วเมื่อ หกเดือน ก่อนแบทแมนนำยานไปทิ้งระเบิด ลูเซียส ฟ็อก ได้ยินแล้วยิ้ม “ผมได้รับข้อความคุณแล้วคุณเวย์น”

“ดูสัญญาณผมไว้” – แบทแมน

เมื่อกอร์ดอนมาถึงสถานีตรวจตราข้อมูลอาชญากรรมบนตึกตามปกติ แต่ต้องตกใจเมื่อสัญญาณค้างคาวถูกซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ เขาเอามือมาสัมผัสมันด้วยความดีใจ แบทแมน ยังไม่ไปไหนเขาคงอยู่แถวๆนี้ กำลังยุ่งอยู่

“ผู้ชายที่ฉันรัก คนที่หายไป เขาไม่เคยกลับมาเลย บางทีเมื่อก็อธแธมไม่ต้องการแบทแมน เขาอาจจะกลับมา” – เรเชล ดอล์ว


บรูซ เวย์น แบ่งมรดก ยกคฤหาส์น เวย์น ให้กับสถานเด็กกำพร้า และนำทรัพย์สินที่ขายไม่ได้ยกให้แก่ อัลเฟรด แต่มีของอยู่ชิ้นนึงที่หายไป “สร้อยไข่มุกของมาร์ธา เวย์น”  อัลเฟรด เดินทางไปที่ฟลอเรนซ์ นั่งอยู่โต๊ะประจำของตน (อาจเพราะตามรอย GPS ที่อยู่กับสร้อย) และเมื่อมองไปยังตรงข้างหน้าเขาได้เห็น บรูซ เวย์น ยังมีชีวิตและมีความสุข เขาทิ้งความเป็น บรูซ และ แบทแมน ไว้เบื้องหลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับคนรัก เซลีน่า ไคลย์

“การฝึกไม่สำคัญ ความตั้งใจคือทุกสิ่ง” – ราซ อัล กูล


จอห์น เบลค ไปฟังการประกาศพินัยกรรมของ บรูซ เวย์น และเมื่อกลับมารับกระเป๋ากลับพบของที่ฝากไว้ให้เขาโดยใช้ชื่อจริง “โรบิ้น เบลค” เบลค เปิดกระเป๋าพบตัวเลขตำแหน่ง พร้อมอุปกรณ์ต่างๆในนั้น เบลค ตามรอยตำแหน่งไปพบกับเหวลึก ที่เบื้องหน้ามีถ้ำน้ำตกขนาดใหญ่ รออยู่ เขาใช้อุปกรณ์ที่ได้มาโร่ยตัวเข้าไปยังถ้ำ มันมืดและอับชื้น มองไม่เห็นทาง เบลค นำไฟฉายส่องไปเบื้องหน้ามีฝูงค้างคาวขนาดใหญ่บินรายรอบตัว
เบลค ก้าวไปเรื่อยๆด้านในห้องโถงขนาดใหญ่ แล้วพื้นที่อยู่ใต้น้ำยกตัวเขาขึ้น เพื่อบอกว่า อัศวินรัติกาลคนใหม่ได้ลุกขึ้นมาแล้ว ตำนานของ บรูซ เวย์น จบลงแต่การเดินทางของ จอห์น เบลค เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
แล้วหนังก็จบ ถึงตรงนี้ผมลุกขึ้นมาปรบมือเลย มันซึ้งกินใจมาก อัลเฟรด ได้เห็นคนที่เหมือนเป็นลูกมีความสุข บรูซ เวย์น ได้ใช้ชีวิตก้าวต่อไปพร้อมกับ เซลีน่า คอยเดินข้างๆ ก็อธแธม ไม่ต้องการ แบทแมน อีกแล้วเพราะมันกลายเป็นสัญลักษณ์ให้กับชาวเมืองให้ลุกขึ้นสู้ แต่ถึงวันใดที่เมืองนี้ต้องการ แบทแมน เขาจะกลับมาคงต้องขึ้นกับ จอห์น เบลค แล้วล่ะครับว่าจะตัดสินใจสวมชุดออกไป หรือแค่ใช้อุปกรณ์ที่ บรูซ ทิ้งไว้ให้เฉยๆ
จอห์น เบลค ผมมองว่าเขาเหมือนเป็นตัวแทน โรบิ้น สามคนครับ
  1. กำพร้าพ่อแม่และเป็นตำรวจแบบ ดิ๊ก เกรย์สัน
  2. สืบหาตัวจริงแบทแมนตัวเองได้แบบ ทิม เดร็ก
  3. ไฟแรงหัวรั้นไม่ฟังใครแบบ เจสัน ท็อต
สรุปแล้วนี่เป็นการปิดไตรภาค แบทแมน ได้สมบูรณ์ และทรงพลังมากครับ ส่วนที่ผิดพลาดและสะดุดในช่วงแรกทำให้ลืมไปเลย กลับบ้านมาได้แต่อมยิ้ม มีความสุขมาก กับบทสรุปของไตรภาคนี้ ขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกคนจริงๆ ที่ทำให้ ค้างคาว ได้สยายปีกแบบที่ควรจะเป็น ขอบคุณจริงๆ

“ผมยังไม่ได้ขอบคุณ” – เจมส์ กอร์ดอน

“แล้วก็ไม่ต้องด้วย” – แบทแมน


33 thoughts on “The Dark Knight Rises Review – Begins บรรจบ Rises ปิดฉากอัศวินรัติกาล

  1. lucaman

    หนังไตรภาคคอมมิคเรื่องแรกที่ทำลาย อาถรรพ์หนังคอมมิคภาคที่สามลงได้

  2. BaaMzS

    พูดแบบไม่ลำเอียงหรือเข้าข้างค่ายที่ชอบนะ ผมว่ามันสนุกกว่า Avengers เป็นสิบๆเท่าเลยอ่ะ

    ชอบตอนจบมาก ซาบซึ้งกินใจสุดๆ ยอมรับว่าเป็นเรื่องแรกในชีวิตที่ดูแล้วน้ำตาคลอ 🙂

  3. hometown@hotmail.co.th

    หนังสนุกมากครับแต่เสียอย่างเดียวตอนแรกๆหนืดไปนิด แต่ชอบตอนปีนหลุมแล้วนักโทษก็เริ่มพูด”Dey-Shay Bah-Sah-Sah”แล้วขนลุกเลยครับ

  4. puuuu

    ผมดูมา 2 รอบแล้วอ่า ชอบมาก แต่ก็ยังติดใจหน้ากากเบนอ่าครับ ในการ์ตูนมันมีไว้อัดยาเพิ่มพลัง แต่ในหนังรู้สึกจะเป็นอุปกรณ์สำหรับรักษาชีวิต เลยคิดเองว่า เบนมันคงต้องหยอดยาแก้ปวดตลอดเวลาแหง ๆ (ผลจากการโลลิ ช่วยเด็กแหกคุก)

  5. Kiw

    พอมาเฉลยว่าเป็น “ทาเลีย” ก็เลยคิดเลยเถิดไปว่า อ่าว!!! “เดเมียน” ก็ต้องโผลมา 55+ (แอบเชียร์ให้เจ๊”ทาเลีย”ไม่ตายด้วย) ก๊ากกกกกกกก !!!

  6. Oat

    Review ได้ดีมากครับชอบเลย

    แต่ข้อแย้งจุดนึงครับผม หวังว่าคงไม่ว่ากัน
    คือ “ฉากไฟสัญญาณค้างคาวท้ายเรื่องที่ จิม กอร์ดอน ตกใจเมื่อสัญญาณค้างคาวถูกซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ ”
    คือ ผมเข้าใจว่า “เขาไม่ได้ตกใจนะ” แต่ผมคิดว่า จิม กอร์ดอน เป็นคนสร้างขึ้นมาใหม่เอง และดีใจที่ได้ใช้มันอีกครั้งอย่างภูมิใจ เพราะเขาเป็นคนทำลายมันเองในภาคก่อน

  7. voeten Post author

    ตอนนี้มีแย้งกันอยู่ครับว่าใครเป็นคนซ่อมสัญญาณไฟระหว่าง เบลค กับ บรูซ แต่ดูแล้วไม่น่าจะเป็น กอร์ดอน แน่นอนเพราะพอเขาเห็นแล้วมาแตะที่ ไฟคางค้าง ทำทางแบบหันหน้าหันหลังว่าใครมาแอบซ่อม สัญญาณ

  8. RedRaven

    บทความที่ ทำใจเข้าฉากต่างๆ ยิ่งขึ้น

  9. kon

    ราซอัลกูล จะทำลายก็อทแทมทำไมเหรอครับ? ไม่รู้ว่าพลาดส่วนไหนของหนังรึเปล่า มีใครช่วยบอกให้ได้รึเปล่าครับ คาใจจริงๆ

  10. voeten Post author

    องค์กรของ ราซ อัล กูล ที่ชื่อว่า พันธมิตรแห่งเงา คิดว่าตัวเองเป็นกระบวนการยุติธรรมโดยความหมายของเขาความยุติธรรมคือการทำให้สมดุล ครับ หากเมืองไหนประเทศไหนที่ความศิวิไลเกินไป หรือตกต่ำจนกู่ไม่กลับ พันธมิตรแห่งเงาจะเข้าไปนำความสมดุลกลับมา คือการทำลายทุกอย่างและเริ่มสร้างกันใหม่ กรณีของ ก็อธแธม คือความฉ้อฉลมันมีอยู่เต็มเมืองจนนำกลับคืนมาไม่ได้

  11. komsunwrite

    น้ำตาคลอกับสองฉากอัลเฟรดเช่นเดียวครับ แย่งซีนได้ดราม่าสุดๆ

  12. nalison

    ก็อตแทมมันวิปโยกเกินเยียวยาแล้วครับ ในความคิดของราซ แต่ บรู๊ซก็พูดคำเดิมว่ามก็อแทมยังไม่สายเกินเยียวยา

  13. Tatoo

    หนังเค้าเจ๋งจริง เเต่ส่วนตัวผมไม่ชอบอย่างเดียวคือ หักมุมให้ทาเลียอยู่เบื้องหลังทุกอย่างไม่ใช่เบน จากที่เป็นเบนดูฉลาดน่ากลัว มันดูทำให้เบนดูง่อย ๆ ไงไม่รู้สุดท้ายก็เเค่ทำตามผู้หญิงสั่งเเค่นั้นเอง คหสต.

  14. NetNN

    รีวิวได้สุดยอดมากๆครับ น่าเสียดายที่ช่วงนี้เงินฝืดเลยยังไม่ได้ไปดู

    แต่ได้อ่านรีวิแล้วก็ยิ่งอยากดูมากขึ้นกว่าเดิมอีก

  15. da_rythm

    ผมกับผิดหวังนะ ภาคนี้ แต่ก็เป็น ไตรภาคที่ดีที่สุด ของแบทแมนจริงๆ ส่วนตัวแล้ว ชอบ Spider-man เวอร์ใหม่มาก

  16. Ekz

    เสียดายตรงที่ เบน เมื่อโดนตัดบทง่าย ๆ กับตรงที่ จอน เบลก รู้ตัวจริงของ บรูซ เวย์ อันนี้ผมคิดเหมือนพี่เลยว่า รู้ตัวจริงได้ง่ายไป แต่ยังไงก็ยังสนุกมาก ๆ อยู่ดีภาคนี้ ดูไป 2 รอบเลย ^^

  17. EclipseWolF

    ผมว่า ภาคนี้ดัดแปลงมาจาก Batman No man land ที่บงกชเคยเอามาพิมหรือเปล่าครับ
    สนุกสุดยอด ใครไม่ไปดูเนี่ยเสียใจไปจน โรบินบวช เลยละ

  18. luna king man

    ผมว่านะ รีวิวได้ สวดยอดมากๆ และก็สำหรับคำถามหลายอย่างผมว่านะ เค้าจงใจให้เราคิดว่ามันคือความลับมากกว่า ส่วนตัวชอบภาคนี้มาก

  19. GEnGSERK

    แต่ผมว่าคงไม่ปล่อยให้จอห์น เบลค ทำคนเดียวหรอก ยังไงบรูซก็ต้องคอยเป็นback up+พี่เลี้ยงให้อยู่ดีหละ เป็น Robin ยังไงก็ต้องคู่กับแบทแมนจิ

  20. BatFan

    ในความคิดของผมจากที่ได้ดูถ้าผมไม่ได้คิดไปเองผมรู้สึกว่าจะมี Hugo Strange,Poison Ivy ที่อยู่ในคลาบของทาเรีย
    เหตุผลที่ทำไมผมถึงคิดว่าเป็น Hugo Strange เพราะว่าเป็นคนคนเดียวที่รักษาให้ Bane หายครับ
    ส่วนทำไมผมถึงคิดว่า Poison Ivy คือทาเรียนั้นเพราะว่า Poison Ivy เนี่ยเป็นพวกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่แล้วด้วยนะครับแล้วก็คอยจูงจมูกเบนแบบที่ภาค Batman & Robin ทำผมรู้สึกมันง่อยพอๆกันเลยครับ
    ส่วนตัวอื่นที่ผมโคตรจะแบบว่าคิดไปเองเลยคือ Mr. Freeze ครับ คนที่ถูกเนรเทศด้วยการตกน้ำตายนะครับผมรู้สึกติดใจกับประโยคนึงที่ว่า มีใครรอดบ้างไหม ซึ่งถ้าเอาจริงๆมีคนรอดแล้วเนี่ย คนคนนั้นคงเป็นไอหมอนี่นะครับที่น่าจะเป็น Mr.Freeze
    ซึ่งในความคิดของผมเข้าใจว่าจงใจจะทำให้มีตัวละครอยู่ในนั้นให้หมดแต่ไม่ได้แต่งตัวหรืออยู่ในคลาบของตัวละครในแบทแมนดังที่ โนแลน ได้กล่าวไว้ว่าจะมีโรบิ้นแต่ไม่ใส่ชุดโรบิ้นให้เห็นนั่นแหละครับ
    จากการที่ผมดูแบทแมนมาแล้วเนี่ยในความคิดผมมันคือการเอา Batman & Robin มารีเมคครับซึ่งเป็นการรีเมคที่ดูดีกว่าเยอะดูเท่ดูไม่เป็นการ์ตูนมันดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม
    ผมตีความไปเองแบบนี้นะครับเป็นสาวกแบทแมนมานานแล้วชอบเวอร์ชัน ทิมเบอร์ตัน เหมือนกัน

  21. dome_marvel

    ผมว่าภาคนี้ถ้าดูแบบไม่คิดไรมากก็สนุกดีครับ แต่ภาค 2 ดันทำไว้ดีเกินไปมากๆ ภาคนี้เลยดูห่วยไปเลย ฉากเบน หักหลัง แบทแมน ควรจะให้ดูสำคัญกว่านี้

    เคยลองถาม บุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับซุปเปอร์ฮีโร่ พูดง่ายๆคือว่าดูเพื่อความสนุก มีแต่คนถามว่า ใครคือ ฮาร์วี่ย์เดนท์ แล้วทำไม แบทแมน ออกมาน้อยจัง ตอนแรกๆดูแล้วง่วง
    ดู สไปเดอร์แมน ดีกว่า ไม่ต้องคิดไรมาก

    เอาเป็นว่าถ้าคนชอบแบทแมน ก็ต้องบอกว่าสนุกเป็นธรรมดาครับ เอาไป 4 กะโหลก…

  22. bank_hellboy

    จากการที่ผมดูแบทแมนมาแล้วเนี่ยในความคิดผมมันคือการเอา Batman & Robin มารีเมคครับซึ่งเป็นการรีเมคที่ดูดีกว่าเยอะดูเท่ดูไม่เป็นการ์ตูนมันดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม

    ผมก็คิดเช่นเดียวกันครับ เหมือนเป็นการคาราวะไปในตัว เอาประเด็นเก่ามายกระดับใหม่

  23. กะโหลกแดง

    ดูไป3รอบแล้วครับ ถ้าไม่เอาไปเปรียบเทียบกับ The Dark Knight ผมว่ามันก็ครบรสดีนะ

  24. jame

    เพิงไปดูมาวันพุธแล้วเข้ามาดูกระทู้ หนังครบรสมากๆเสียดายมันจบแล้วรอรีบูธเนี้ยสิ

  25. DOL

    สมกับที่รอคอยจริงๆครับ

    แรกๆยังไม่เท่าไรนะ แค่ตอนกลางๆเรื่อง ยันท้ายเรื่องนี้สุดยอดมากๆเลย
    จบบทสรุปไตรภาคได้อย่างลงตัว และอิ่มอกอ่มใจมากๆ

    สมกับชื่อ Rise จริงๆ ดูแล้ว ผงาด เลยล่ะ ฮ่า

  26. 666error

    ต้องบอกว่าเป็นหนังที่เหนื่อยกับการจับผิดมาก จนสุดท้ายต้องล้มเลิกแล้วปล่อยหัวให้ไหลไปกับเนื้อเรื่อง

    ในมุมแฟนโนแลน, เราว่าส่วนด้อยที่ทำให้หนังดูขัดๆคือความเป็นเอกภาพของสารที่ต้องการสื่อ ซึ่งภาคที่แล้วทำได้ดีมาก หนังไปในทิศทางเดียวกัน ตัวละครมากมายแต่ช่วยกันขับเคลื่อน แต่ในภาคนี้เหมือนเราเห็นตัวละครผลุบๆโผล่ๆ ประเด็น+ธีมแกว่างๆชอบกล

    แต่ในแง่ของแฟนคอมิคเดนตาย ต้องขอบอกว่านี่เป็นอภิมหาสมบูรณ์แบบ! ยิ่งใหญ่ ทรงพลัง สมศักดิ์ศรี จากการที่เห็นภาคแล้วๆแบทแมนล้มลุกคลุกคลานชีวิตดราม่าน้ำตาท่วมจอโดยตลอดจนถ้าเป็นคนอื่นคงแขวนผ้าคลุมไปได้แล้ว — เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือมีญาติโกโหติกาอยู่ในก็อธแธมซิตี้ แต่เราดีใจอย่างที่สุดที่เขากลับมาเพื่อปกป้องเมืองฟอนเฟะเกินเยียวยา
    แม้ดิฉันจะแอบข้องใจเล็กๆว่าพ่อหนุ่มเอวบางร่างเล็กอย่างเบลคจะคอนชุดเกราะไหวหรือเปล่า,แต่นั่่นไม่สำคัญเท่ากับว่าเขาได้ส่งต่อความหวังไปยังชาวเมืองให้เชื่อมั่นในความดีงาม
    แบทแมนเป็นแค่สัญลักษณ์,ใช่ และเขาก็เป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลังอย่างที่สุด

    เราว่าหลังจากนี้ห้าปี-สิบปีคงไม่มีใครกล้าหยิบแบทแมนขึ้นมาทำใหม่(นอกจากตัวโนแลนเอง หรือรีบรีบู้ทเรื่อง)
    แต่รู้ไหม,ถึงนี่จะเป็นภาคสุดท้ายแต่เราก็ไม่เสียใจเลย เพราะนี่เป็นการปิดตำนานอย่างสมบูรณ์แบบและยิ่งใหญ่มากที่สุด และทรงพลังมากพอที่จะทำให้อิ่มเอมไปหลายปี
    ( :

  27. animalmaru00

    หลังจากปีก่อนนู้น หนังฮีโร่ สองเรื่องของอีกค่ายโดน พี่แหวนเขียน ออกมาอาละวาด จนบี้แบน
    ปีนี้ หลังจากปล่อยให้ หนังรวมฮีโร่ เด็กๆ ออกมาสร้างสีสันฮือฮาได้เพียงหน่อยเดียว ก็ต้องพับกระเป๋าเจ๊ง หลีกทางให้พี่แบทของเรา
    น่าเสียดายที่ โนแลนจะตัดจบเพียงแค่ ไตรภาค ทั้งที่อุตส่าห์วาง โรบินไว้แล้ว ก็น่าจะสานต่อไปจนถึง JLA ไปเลยเพื่อตอกย้ำ หนังฮีโร่ีที่ดีที่สุด ที่มาจากค่ายที่ดีที่สุด
    แต่ถึงกระนั้น ผมก็ว่ามันสุดยอดมากๆ ในตัวของมันเองอยู่แล้ว นี่แหละ แบทแมน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาฮีโร่มากมายมารวมตัวกัน ไม่ต้องมีฉากCG ให้ตื่นตาตื่นใจเอาใจเด็กๆ และไม่ต้องใช้ ผู้กำกับมากฝีมือ แต่แบทแมน มันสุดยอดตั้งแต่เป็นคอมมิคแล้ว และตัวหนังก็เป็นการปิดไตรภาคได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว
    และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ดีซีได้ ตอกย้ำกับอีกค่ายว่า หนังฮีโร่ในแบบดีซี นี่ล่ะครับ ที่คนทั่วโลกต้องการ และดีซีก็ต้องโจทย์นั้นได้ถูกต้องเสมอมา

    ส่วนพวกชอบจับผิดอะไรนู้นนี่ ก็เข้าใจว่าผิดหวังที่ฮีโร่จากค่ายที่ตัวเองอวยมันทาบหนังเรื่องนี้ไม่ผิด เลยจ้องหาเรื่อง ก็เป็นเรื่องธรรมดา

  28. dome_marvel

    คุณ animalmaru เก็บกดอะไรรึป่าวคับ 55+ อ่อน

  29. evolakatev

    เรื่องนี้โอเคทุกอย่างแต่ผมสงสัยอย่างเดียว จอน เบลครู้ตัวจริงแบทแมนได้ยังไงหว่า คือเข้าโรงไม่ทันตอนแรก เข้ามาก็ตอนที่ มีงานสรรเสริญฮาร์วี อยู่

  30. Aekarin

    ไปดูมาแล้ว แบทแมนคนต่อไปคือตำรวจคนนั้น

  31. NooK

    ผมดูมาหลายรอบมากหลายรอบมากจริงๆ สงสัยฉากสุดท้าย ที่ บรูซ เวย์นั่งอยู่กับผู้ หญิงใช่ เซลีน่า ไตล์แน่ๆเปล่า คือผมไม่เห็นสร้อยมุกเธอแล้วเธอก็หันข้างเลยไม่แน่ใจอยากรู้ว่า ใช่เซลีน่า ไคล์แน่ๆหรือเปล่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *