Red Lantern #11

DC Comic : Red Lantern 11 : Love & Hate

เรื่อง : Peter Milligan
ภาพ : Miguel Sepulveda
วางจำหน่าย: 6 มิถุนายน 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics

Bleez Vs. Fatality!! ไม่ว่าผลของศึกนี้จะเป็นอย่างไร พวกเธอทั้งสองก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป?!

อีกด้านหนึ่งในที่สุด Atrocitus ก็พบตัว Abysmus แล้ว!!

.
.
.
เริ่มเรื่องมาที่ Ysmault ดาวหลักของ Red Lanterns Corps

Green Lantern กลุ่มหนึ่งที่นำโดย Guy Gardner กำลังลงไปที่พื้นดาว

Guy : ตัวที่ชื่อว่า “แรนคอร์” เคยเป็นมนุษย์โลกเหมือนกับฉันมาก่อน เขาชื่อว่าแจ็ค มัวร์

Guy : เขาเคยช่วยชีวิตฉัน และยังเคยขอให้ฉันช่วยเขาด้วย ดังนั้นฉันก็จะต้องช่วยเขาให้ได้

Hawkes : ฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่านายจะเป็นคนใจดีแบบนี้นะเนี่ยการ์ดเนอร์

Guy : อย่ามาแซวกันน่าพ่อรูปหล่อ ฉันก็เคยเป็นเรดแลนเทิร์นมาก่อนเหมือนกัน ดังนั้นฉันเลยรู้ว่าหมอนั่นกำลังต้องเผชิญกับอะไรอยู่

Hawkes : เมฆหมอกในชั้นบรรยากาศของดาวดวงนี้มีกรดซัลฟูริคเข้มข้นสูงและยังมีสารพิษอื่นๆอยู่มากแบบที่ฉันไม่เคยพบมาก่อนเลย

Guy : ขอบใจที่สอนวิทยาศาสตร์ให้ฟังนะฮอว์ค ก็แล้วนายคิดว่าดาวที่เรดแลนเทิร์นเรียกว่าบ้านมันจะเป็น…บ้าอะไรวะเนี่ย!!

เมื่อผ่านชั้นเมฆพิษลงมา สภาพของพื้นผิวดาว Ysmault นั้นดูราวกับขุมนรกไม่มีผิด!!

Guy : ฉัน…ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจุดจบของจักรวาลจะเป็นยังไง แต่ฉันมีความรู้สึกว่ามันจะต้องเป็นอะไรแบบนี้แน่เลย

Hawkes : แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางกำลังค่อยๆผุพังไปอยู่

Guy : ใช่แล้ว และถ้ามันดับแสงไป พวกเพื่อนตัวแดงของเราก็เหมือนกัน
ทันใดนั้นก็มีเงาจางๆของ Red Lantern คนหนึ่งเดินเขาหา Hawks

เงานั้นเดินทะลุผ่านร่างของ Hawks ไป แต่กลับมีรอยกรีดอยู่บนหน้าอกของเขา?!

Guy : นายโอเคไหม ฮอว์ค?

Hawkes : มันเป็นเหมือนเสียงสะท้อนของพลังจิตที่หลงเหลืออยู่…มันทิ้งรอยของมันเอาไว้บนตัวฉัน

Guy : ฉันเห็นพอแล้ว ถ้าจะมีเรดแลนเทิร์นหลงเหลืออยู่ล่ะก็ พวกนั้นก็คงจะไปจากยาซมาลต์นานแล้วล่ะ

ตัดมาที่ Zamaron ดาวหลักของ Star Sapphires Corps

Bleez และลูกน้อง Red Lantern ที่เหลืออยู่บางส่วนกำลังโดนคุมขังโดยพวก Star Sapphires โดยผู้ที่กำลังสอบสวนเธออยู่คือ Fatality พวกพ้องร่วมกลุ่ม New Guardians กับเธอนั่นเอง

Bleez : เจ้าจะอาบร่างของข้าด้วยแสงสีม่วงของเจ้าเท่าไหร่ก็ได้ฟาธาลิตี้ แต่ข้าก็จะยีงเกลียดเจ้าและพวกสตาร์แซฟไฟร์ของเจ้าอยู่ดีนั่นแหละ พวกเจ้าพูดถึงความรัก แต่พวกเจ้าก็มาโจมตีเราก่อนโดยไม่มีแม้แต่การเตือนเลยสักนิด

Fatality : การโจมตีก่อนที่จะโดนโจมตีมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แถมมันยังเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจะโจมตีเราอยู่แล้วด้วย…ทั้งที่เมื่อไม่นานมานี้ฉันกับเธอก็เพิ่งจะร่วมกันสู้กับอินวิคตัสอยู่เลย

Fatality : แล้วทำไมเธอถึงทำแบบนี้กันบลีซ

Bleez : พวกเรามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว…เราต้องหาตัวผู้ที่ทำให้แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางของเราแปดเปื้อนพิษ…และฆ่าพวกมันก่อนที่เราจะตาย มันเป็นเจ้าเองใช่ไหมล่ะฟาธาลิตี้? พวกเจ้ารักเรา…แต่เจ้ากับองค์การของเจ้าก็เกลียดและกลัวเราเหมือนกัน

Fatality : ความโกรธแค้นมันทำให้สมองของเธอเสื่อมไปหมดแล้วนะบลีซ พวกเราจะไปเล่นงานแบตเตอร์รี่ของพวกเธอไปทำไมกัน แต่นี่ก็เป็นข่าวที่น่าหนักใจ…

Fatality : ไม่นานมานี้ฉันได้เห็นพวกบลูแลนเทิร์นผู้ใช้พลังแห่งความหวังเกือบจะต้องพินาศไป พวกเยลโลว์แลนเทิร์นก็ถูกทำลายไปก่อนหน้านั้น ส่วนพวกอินดิโกก็…ทำตัวลึกลับ

ทันใดนั้นเอง Red Lantern คนหนึ่งก็ตายไปต่อหน้าต่อตาของ Fatality! ร่างของเขาน่าเปื่อยผุพังจนเหลือเพียงซากในพริบตา!!

Fatality คิดจะช่วยเหลือ Red Lantern ที่เป็นผู้หญิงโดยฝังพวกเธอลงในคริสตัล เพื่อเปลี่ยนแปลงพวกเธอให้เป็น Star Sapphires ก่อนที่จะโดนพิษจนตาย

(Star Sapphires จะรับสมาชิกเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น)

ซึ่งนั่นก็เล่นเอา Zillius Zox ถึงกับโวยขึ้นมาเลยว่า ไหงช่วยแต่ผู้หญิงฟะ? เป็นผู้ชายมันมีปัญหาอะไรหรือไง?

แต่อย่าง Bleez มีหรือจะยอมง่ายๆ

ทั้งสองจึงซัดกันอย่างดุเดือด

Bleez กรีดข้อมือของตัวเอง และคว้าข้อมือของ Fataity มาทาบเข้ากับแผลของเธอ ให้เลือดเพลิงของ Red Lantern เข้าไปในตัวของ Fatality!!!

ตัดมาที่ เขตอวกาศ 1416

“นี่ฉันหมดสติไปนานขนาดไหนแล้วนี่?”
“มันเกิดอะไรขึ้น?”
“เจ้าพวกนั้นมันเล่นงานพวกเรดแลนเทิร์น”
“พวกนั้นช่างสวยงามเหลือเกิน แถมยังสวมแหวนด้วย แหวนสีม่วง”
“มันมีแหวนอยู่กี่ชนิดกันนะ?
“แล้วจู่ๆความเจ็บปวดก็วาบขึ้นมา”
“แล้วทุกอย่างก็มืดลง”
“ใช่ ฉันจำได้แล้ว ฉันคือแรนคอร์ ฉันเป็นเรดแลนเทิร์น”
“ฉันจะต้องตามหาพวกคนอื่นๆ ความหวังเดียวที่จะอยู่รอดก็คือต้องอยู่กับพวกเดียวกับฉัน”

“และตอนนั้นเองฉันก็เห็นความว่างเปล่าอันน่าสะพรึงกลัว แม้แต่ดาวที่ใกล้ที่สุดก็ยังห่างไปหลายปีแสง”
“ฉันมันไม่มีค่า ยิ่งกว่าไร้ค่าเสียอีก เป็นแค่เม็ดฝุ่นผงของขยะอวกาศ และฉันก็คิดขึ้นมา…”
“พระเจ้า…ฉันคิดขึ้นมาจริงๆ”
“มันจะมีโอกาสสักแค่ไหน….ที่ฉันจะได้เจอกับใครก็ตาม…อีกกันน่ะ?”

ตัดมาที่ Atrocitus

เขาค้นหาไปหลายเขตอวกาศ แต่ก็ไม่พบร่องรอยของ Abysmus เลย แม้แต่ Skallox กับ DexStarr ที่แยกไปค้นหาก็ไม่พบเช่นกัน

เมื่อจนตรอกถึงที่สุด Atrocitus จึงเลือกใช้วิธีที่อันตรายอย่างยิ่ง

เขาใช้เลือดของคนชั่วเป็นเครื่องสังเวยในพิธีกรรม “ทำนายโลหิต” เพื่อค้นหาที่อยู่ของ Abyssmus

ซึ่งหากเป็นตามปกตินั้น การประกอบพิธีกรรมนี้ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด…แต่ในสภาพที่อ่อนกำลังลงอย่างมากนี้…มันนอาจทำให้เขาถึงตายทีเดียว!

ตัดกลับมาที่ Zamaron

Bleez : ตอนนี้เจ้าอ่อนแรงลงไปแล้วฟาธาลิตี้ ข้าจะไปปลดปล่อยพวกเรดแลนเทิร์นที่เหลือของข้า และเค้นความจากพวกเจ้าซะ

Fatality : ความรักน่ะ…พิชิตได้ทุกสิ่งนั่นแหละ

ทันใดนั้นก็มีโดมสีม่วงครอบคลุมทั้งคู่ไว้

Bleez : ฟาธาลิตี้? นี่…เราอยู่ที่ไหนกัน?

Fatality : ยังอยู่บนซามารอนนั่นแหละ อยู่ในคริสตัลไงล่ะ ที่ซึ่งเธอจะได้รักษาความโกรธแค้นของเธอ

Bleez : ไปรักษาตัวเจ้าเองเถอะ! ความโกรธของข้านี้คือความจริงของข้า ชีวิตของข้าที่ผ่านการถูกใช้ประโยชน์และการถูกกดขี่!!

Fatality : ฉันเข้าใจดี

Bleez : เจ้าจะไปเข้าใจอะไร? ในเมื่อเจ้าเอาแต่อยู่ในเปลือกหลอกลวงที่หุ้มเจ้าอยู่ ความรักมันคือสิ่งลวง ความโกรธและความเกลียดชังต่างหากที่เป็นความจริงแท้!!

Fatality : ฉันเข้าใจ…เพราะว่าเมื่อตอนเป็นเด็กฉันก็ถูกกดขี่ ถูกพวกบ้าสงครามเอาไปหาประโยชน์ โดยพวกผู้ชายบ้าอำนาจ ถูกฝึกให้กลายเป็นอาวุธสงคราม

Bleez : พ่อแม่ของข้า…ฝึกสอนข้าอย่างเข้มงวด ทั้งการเข้าสังคม ให้เข้ารับการผ่าตัดเสริมความงาม เพียงเพื่อให้ข้าได้แต่งงานกับผู้ชายที่รวยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

Fatality : ดาวของฉันถูกทำลาย โดยฝีมือของผู้ชายอีกเหมือนกัน

Bleez : ลูกน้องของซิเนสโตรฉีกปีกของข้าออก

Fatality : พวกสารเลว!

Bleez : พวกมันทำสิ่งเลวร้ายต่างๆนาๆมากมายกับข้า

Fatality : ฉันน่าจะช่วยดาวของฉันได้ ต…แต่มันก็ถูกทำลาย ฉันขอบอกความลับของฉันให้เธอฟังนะบลีซ ในส่วนลึกที่สุดในใจของฉัน มันยังมีความรู้สึกที่ยังหลงเหลือ…ความฝันถึงการได้ชำระ…ความแค้น

Bleez : ไม่หรอก ฟาธาลิตี้ มันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก

Fatality : แต่ว่า…

Bleez : ข้า…ถ้าเป็นที่นี่ ในสถานที่อันสงบนี้ ข้าสามารถพูดออกมาได้ …ไม่ว่าจะโกรธแค้นสักแค่ไหน…ไม่ว่าจะหลั่งเลือดไปมากเท่าไหร่…มันก็ไม่ทำให้ความเจ็บปวดหายไป

Zillius Zox : มีเรื่องแปลกๆกำลังเกิดขึ้นอยู่ข้างในนั้น แล้วคนไหนคือบลีซ แล้วคนไหนคือสตาร์แซฟไฟร์นั่นกันล่ะเนี่ย?

ตัดมาที่เขตอวกาศ 1418

ในที่สุด Rankorr ก็พบกับสิ่งอื่นในอวกาศอันเวิ้งว้างนี้แล้ว แต่ในขณะที่จิตใจของเขากำลังลิงโลดด้วยความยินดีนั้นเอง เขาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่พบ!!

“เรดแลนเทิร์นเหล่านี้ตายหมดแล้ว มันเป็นราวกับเป็นสายธารของความตาย มันทำให้ฉันตื่นตกใจอย่างมาก”
“แต่เพียงไม่นาน ความตกใจก็กลายเป็นความโกรธ เป็นความเกลียดชัง”
“ความโกรธจากการที่ว่าฉันก็อาจจะต้องตายด้วยเหมือนกัน”
“และด้วยความโกรธนี้ ฉันก็รู้สึกว่าพลกำลังกลับมาอีกครั้ง”
“และความคิดที่บ้าคลั่งก็เริ่มก่อตัวขึ้น”
“อบิสมัสมันคือผู้ที่ก่อให้เกิดความตายทั้งหมดนี้ขึ้น”
“บางที…อาจบางที…ความตายเหล่านี้จะนำฉันไปหาอบิสมัสได้…”

ตัดมาที่ Atrocitus

Atrocitus : อบิสมัส…จงปรากฎ…ออกมาเดี๋ยวนี้…

เมื่อการทำนายยังไม่ได้ผล Atrocitus จึงสังเวยมากขึ้นอีก!

Atrocitus : จักรวาลเอ๋ย! อโตรซิตัสผู้นี้ขอถวายเลือดของข้าเองให้กับท่าน

Skallox : ท่านอโตรซิตัส เลือดของเรดแลนเทิร์นมันมีแต่พิษร้าย มันอาจส่งผลต่อคำทำนายได้นะครับ

แต่ Atrocitus ก็ยังทำพิธีกรรมต่อไป

Atrocitus : ปรากฎขึ้นมาสิ เจ้าภาพเลือนลางเอ๋ย จงเปิดเผยตัวเองออกมา เดี๋ยวก่อน! ข้าเริ่มจะ…เห็นบางอย่าง…

แล้วในที่สุดก็เกิดภาพนิมิตรปรากฎขึ้นในกองเลือด

Atrocitus : ข้า…ข้าไม่เข้าใจ คำทำนายได้แสดงภาพข้า…พ่ายแพ้…ถูกทำลาย…

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

??? : ท่านได้เห็นอนาคตจริงๆนั่นแหละอโตรซิตัส…

??? : และตอนนี้อนาคตได้มาถึงแล้ว

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของ Atrocitus นั้นคือสัตว์ร้ายรูปร่างใหญ่โตที่ไม่คุ้นตา ซึ่งมันได้จัดการทั้ง Skallox และ Dex Starr ไปแล้ว แต่เสียงของมันนั้นกลับคุ้นเคยอย่างประหลาด…และในที่สุด Atrocitus ก็รู้ว่ามันเป็นใคร

Atrocitus : อบิสมัสงั้นรึ?

Abysmus : ใช่แล้วท่านพ่อ เจ้านายของข้าได้ให้รางวัลข้าจากที่ข้าได้ทำลายแบตเตอร์รี่ศูนย์กลางของท่าน

Abysmus : ท่านเคยกลบฝังข้า เพราะข้ามีความรู้สึกเห็นใจผู้อื่น เพราะข้าปฏิเสธที่จะทำตามความต้องการการแก้แค้นที่ไร้สติของท่าน…

Abysmus : ท่านเคยกลบฝังข้า ครั้งนี้ข้าจะเป็นฝ่ายกลบฝังท่านบ้างล่ะ

Atrocitus : อ้อ คราวนี้เจ้าจะมาเป็นฝ่ายล้างแค้นบ้างงั้นสินะ? ตาต่อตาฟันต่อฟัน นี่เรอะที่เจ้าเรียกว่าความเห็นใจน่ะ

Abysmus : ผิดแล้วท่านพ่อ ถ้าท่านคิดว่านี่หมายความว่าข้าได้เดินทางเดียวกับท่านแล้วล่ะก็…

Abysmus : ท่านก็คิดผิดไปถนัดแล้ว

ตอนนั้นเองก็ปรากฎรยางค์จำนวนมากผุดออกจากร่างของ Abysmus เข้าเสียบร่างของ Atrocitus!!

Atrocitus : อ๊าคคค!!

Abysmus : จริงอยู่ที่ข้าจะฆ่าท่าน แต่นี่ไม่ใช่เพื่อการแก้แค้น เพราะข้าไม่เชื่อเรื่องการเอาคืนหรอก มันเป็นเพราะข้ารักท่านมากต่างหาก

Abysmus : และข้าก็ต้องการที่จะทำให้ท่านหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาณเสียที

ในที่สุด Atrocitus ก็พบตัว Abysmus จนได้! แต่เขาจะสามารถเอาชนะมันและช่วยชีวิตตัวเขาเองและ Red Lanterns ที่เหลืออยู่ได้หรือไม่?

โปรดติดตามตอนต่อไปในตอน : Red Lantern Corps Rebirth!!!

8 thoughts on “Red Lantern #11

  1. Tatoo

    อยากเห็น Bleez เปลี่ยนสีอ่ะ เครื่องเเบบน่าจะดูม ๆ เเน่เลย หุ่นเธอ x อยู่เเล้ว 555
    เล่มนี้มันส์จริง ๆๆ

  2. Bernkastel

    ม่ายยยย Dex Starr ไปสะแล้วเสียใจสงสารนุ้งแมว T^T

  3. St.Valentinus

    สิ้นหวังแล้วกันทั้งสามฝ่ายเลยแฮะ สำหรับสีแดง

    รอดูแรนคอร์กับกาย ว่าจะมาช่วยพลิกเกมได้ไหม

  4. DOL

    โอยยยย ยิ่งอ่านยิ่งปวดตับ

    สีนี้มันจะเหลือรอดกันกี่หยิบมือกันหนอ!!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *