Red Lantern #09

DC Comic : Red Lantern 09 : EXODUS

เรื่อง : Peter Milligan
ภาพ : Tomas Giorello
วางจำหน่าย: 9 พฤษภาคม 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics

เมื่อเผชิญหน้ากับความตายและความพินาศที่หนีไม่พ้น เหล่า Red Lantern จะทำอย่างไร?

.
.
.
เปิดเรื่องมาที่ดาวเคราะห์ Sarff Minor ในเขตอวกาศ 876

Red Lanterns ที่นำโดย Bleez กำลังเข่นฆ่า “คนชั่ว” อย่างเมามัน!

Bleez : พวกมันสมควรโดนเช่นนี้แล้ว

Bleez : …พวกมันจับคนมาเป็นทาส ทรมาณ อีกทั้งยังกินเหล่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของพวกมันด้วย

Bleez : อาจเป็นเพราะว่าเหยื่อของพวกมันต่างก็หวาดกลัวและถูกทำร้ายอย่างหนัก ถึงขนาดที่ว่าไม่อาจจะรู้สึกถึงความโกรธอันบริสุทธิ์ได้ ไม่อย่างนั้น…ใครสักคนในพวกนั้นอาจได้รับแหวนพลังของเราก็ได้

Bleez : …แหวนสีแดงอันสวยงาม ที่สร้างขึ้นจากสิ่งที่เป็นหัวใจหลักขององค์กรเรดแลนเทิร์น…แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางของพวกเรา

ตอนนั้นเองก็มี Red Lantern คนหนึ่งเดินมาหา Bleez

Red Lanterns : ออ..เรีย….ร้อย…

Bleez : ช่วยพยายามอย่าพ่นเลือดใส่หน้าข้าด้วยล่ะ ข้ารู้ว่าเราเสร็จเรื่องกับที่นี่แล้ว แต่ข้ายังมีจุดประสงค์อื่นสำหรับงานครั้งนี้ด้วย

Bleez : อโตรซิตัสจะต้องได้ข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ และเขาจะต้องเรียกข้าเป็นขบถ ผู้มาแย่งเกียรติ์ยศที่เป็นของเขาไป

Bleez : เพื่อให้เขาออกจากยาซมาลต์มาหาข้า เราจะได้ตัดสินความบาดหมางของเราให้จบไปเสียที ตอนนี้คือเวลาที่เหมาะสมแล้ว ตอนนี้แหละคือเวลาที่บลีซแห่งฮาวาเนียผู้นี้จะขึ้นเป็นผู้นำของเรดแลนเทิร์นอย่างแท้จริง!!

ตัดมาที่ Ysmault ดาวหลักของ Red Lantern Corps

Rankorr (Jack Moore) Red Lantern ชาวโลกกำลังเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ที่ควรจะเป็น “พวกพ้อง” ของเขา

“ฉันชื่อแจ็ค มัวร์ ตั้งแต่ตอนที่แหวนประหลาดวงนี้มันเข้าสวมกับนิ้วของฉัน ชีวิตของฉันมันก็เหมือนตกอยู่ในฝันร้าย”
“ฉันมีทางรอดอยู่ทางเดียวเท่านั้น”
“นั่นคือใช้แหวนที่ทำให้ฉันต้องมาอยู่ที่นี่วงนี้”
“ฉันจะต้องเลิกเป็นแจ็ค มัวร์…และต้องเป็น “แรนคอร์””

แต่ตอนนั้นเองก็มีคนมาห้ามทัพ

Atrocitus : พอได้แล้ว! พวกเจ้าเป็นกองทหารอันน่าสะพรึงกลัวแห่งความโกรธและความอาฆาตแค้นที่ข้าสร้างขึ้นมาแท้ๆ แต่พวกเจ้ากลับมาเอาแต่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆแบบนี้

Zilius Zox : น…นายท่านอโตรซิตัส…ท่านดู…เปลี่ยนแปลงไป มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

Atrocitus : เจ้าถามว่าเกิดอะไรขึ้นงั้นเรอะซิลิอัส ซ๊อก? ข้าจะบอกเจ้าให้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

Atrocitus : ข้าได้เห็นวันสิ้นโลก มีใครบางคนกำลังฆ่าพวกเราเรดแลนเทิร์น

Zilius Zox : มันต้องเป็นเจ้าตัวแปลกหน้านี่แน่ มันนำโรคภัยมาสู่เรา! มันต้องถูกขจัดออกไป

“ฉันเริ่มจะรู้สึกเหม็นหน้าเจ้าหัวโตอัปลักษณ์นั่นขึ้นมาจริงๆแล้วสิ”

Atrocitus : เจ้ามันโง่จริงๆซิลิอัส ไม่ว่าจะกระตุ้นสติปัญญายังไงก็เปลี่ยนมันไม่ได้จริงๆ มันมีสิ่งที่แย่กว่านั้นมากกำลังเกิดขึ้น แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางของเราถูกโจมตี แม้แต่ในขณะนี้มันก็กำลังค่อยๆผุพังไปเหมือนซากศพ

“แบตเตอร์รี่ที่ว่านั่นมันคืออะไรกัน? แล้วทำไมมันถึงมีความสำคัญนัก?”

Atrocitus : ข้าเชื่อว่าข้ารู้ว่าใครเป็นคนทำ เจ้าอบิสมัส…ไม่ว่ามันจะไปมุดหัวอยู่ที่…หือ?

ตอนนั้นเอง Atrocitus ก็รู้สึกถึงของเหลวบางอย่างที่หยดมาโดนตัวเขา

Atrocitus : เลือดเพลิง? เลือดเพลิงที่สีออกแดงชมพู?

แล้ว Atrocitus ก็มองขึ้นไปด้านบน

Atrocitus : เจ้าเองเรอะบลีซ?

Bleez : ข้าเบื่อที่จะเป็นฝ่ายรอให้ท่านมาหาแล้วล่ะนะอโตรซิตัส และข้าก็ยินดีรับใครก็ตามที่ไม่อยากติดตามเจ้าแก่ตกยุคนี่มาร่วมกับข้าด้วย

Zilius Zox : นังตัวดียังคิดว่ามันยังเป็นเจ้าหญิงของดาวฮาวาเนียอยู่งั้นสิ

Atrocitus : ไม่ต้องปราณีพวกคนทรยศ

ว่าแล้วทั้งสองฝ่ายก็ตรงเข้าฟัดกันอย่างอุตลุต

ขณะที่กองกำลังฝ่ายของ Atrocitus และ Bleez กำลังสู้กัน Rankorr ก็ยืนดูการต่อสู้อย่างตื่นตะลึง

Bleez : อโตรซิตัส ท่านแรงตกลงไปมากเลยนะ แถมข้ายังได้กลิ่นความตายโชยมาจากตัวท่านด้วย

Atrocitus : ความตายน่ะไม่ได้มาเยือนข้าคนเดียวหรอก

Bleez : อ้า แถมยังรู้จักพูดเป็นปริศนาเสียด้วย!

แต่ในตอนที่ทั้งสองฝ่ายกำลังซัดกันอย่างเมามันนั้นเอง พิ้นดินก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น อีกทั้งยังมีน้ำพิษเหมืนคลุ้งผุดขึ้นมา?!

Rankorr จึงเข้าห้ามทัพทั้งสอง โดยบอกว่าในขณะที่ Central Power Battery ถูกทำให้แปดเปื้อนพิษ แถมพื้นดินก็กำลังเริ่มเน่าเฟาะ แถม Red Lantern ก็ล้มตายไปทีละคนสองคน นี่ย่อมไม่ใช่เวลาที่จะมาฆ่ากันเองแบบนี้!

ซึ่ง Bleez ที่ได้ยินคำพูดเกี่ยวกับ Central Power Battery ก็รู้สึกสนใจขึ้นมา

พวกเขาไปดูที่ Central Power Battery ที่บัดนี้ดับแสงลงไปแล้ว อีกทั้งยังค่อยผุพังลงไป

Atrocitus : มันเป็นฝีมือของอบิสมัส

Atrocitus : เจ้าเรดแลนเทิร์นต้นแบบที่ข้าสร้างขึ้น มันเป็นผลงานที่มีข้อผิดพลาด ข้าจึงฝังมันลงในพื้นดิน

Atrocitus : แต่มันก็กลับมาได้ และตอนนี้มันก็ทำแบบนี้กับพวกเรา

Atrocitus : แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางคือสิ่งที่ดึงเอาพลังแห่งแสงสีแดงแห่งความโกรธมาให้เรา หากปราศจากมันเราก็ไร้พลัง หากไม่มีมัน…เราก็ตาย

ขณะที่พวก Atrocitus กับ Bleez กำลังสนใจกับ Central Power Battery ทางด้าน Rankorr ก็หลบออกมาและพยายามจะถอดแหวนพลังออก

แต่เขาก็ต้องรับรู้ด้วยความเจ็บปวดสุดจะบรรยาย ว่าแหวนวงนี้ไม่อาจถอดออกได้ เพราะตอนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งของเขาไปแล้ว และหากถอดแหวนออกเขาก็จะต้องตายอย่างแน่นอน

เขามองดูร่างของ Red Lantern ที่ติดเชื้อจนตาย และรู้ว่าเมื่อเขาไม่อาจไม่มีทางที่จะถอดแหวนพลังออกได้ ชะตากรรมของเขาสุดท้ายก็จะต้องเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

ที่หน้า Central Power Battery Atrocitus ก็มีเรื่องจะประกาศให้ Red Lantern ทุกคนได้รับทราบ

ว่าเมื่อตอนนี้พิษร้ายที่แปดเปื้อน Central Power Battery ได้ซึมลงในพื้นดินของดาวเคราะห์ Ysmault แล้ว และมันทำให้ดาวดวงนี้ไม่อาจใช้อยู่อาศัยได้อีกต่อไป ดังนั้น Atrocitus จึงตัดสินใจว่า Red Lantern Corps จะต้องไปจาก Ysmault!

Bleez : เจ้าอบิสมัสที่ว่านั่น…มันทำทั้งหมดนี้ด้วยตัวมันเองคนเดียว หรือว่า…

Atrocitus : ข้าไปตรวจดูหลุมศพของมันที่ซึ่งข้าฝังร่างมันไว้เมื่อหลายปีก่อน ข้าพบว่ามันชัดเจน…ว่ามีใครบางคนช่วยเอามันออกมา

Atrocitus : จะต้องมีศัตรูตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังอบิสมัสเป็นแน่

Zilius Zox : ข้ามีความคิดอยู่อย่าง ถ้าแหวนมันทำให้เราโดนพิษ แล้วทำไมเราไม่สร้างแหวนใหม่ขึ้นมาซะล่ะ

Bleez : เจ้าหัวลูกโป่งเอ๊ย ดูที่แบตเตอร์รี่ให้ดีสิ มันไม่มีทางใช้สร้างแหวนขึ้นมาได้อีกแล้วล่ะ ที่มันให้ได้มีแต่ความตายเท่านั้น

Atrocitus : แต่ถ้าเรารู้ว่าแบตเตอร์รี่ถูกทำให้แปดเปื้อนพิษได้ยังไง…เราก็อาจจะสามารถรักษามัน และช่วยชีวิตพวกเราเองไว้ได้ ความหวังเดียวของเรา…คือต้องเปิดเผยตัวของเจ้าศัตรูที่แท้จริงนี้ให้ได้

Ratchet : ถ้าพูดถึงศัตรูของเรา มันก็ต้องเป็นซิเนสโตรน่ะสิ

Atrocitus : ไม่หรอก ซิเนสโตรมันไม่ใช้วิธีอ้อมค้อมแบบนี้แน่ มันชอบการใช้กองทัพเข้าโจมตีโดยตรงมากกว่า แถมตอนนี้มันก็กำลังยุ่งอยู่กับการทำลายองค์กรของมันเองอยู่ด้วย

(เหตุการณ์ในเล่ม Green Lantern)

Ratchet : ข้าเคยได้ยินเรื่องของเจ้าคนที่ชื่อว่า “อินวิคตัส” ฑูตสวรรค์ผู้อาศัยอยู่ในดวงอาทิตย์ที่เกลียดชังผู้ครอบครองแหวนพลังทั้งหมด

(เหตุการณ์ในเล่ม New Guardians)

Bleez : ถ้าอินวิคตัสมาจริงล่ะก็เราต้องรู้ได้ทันทีแน่นอน เพราะเราจะต้องได้เห็นรูปปั้นของมันตั้งอยู่บนยาซมาลต์นี่ แต่ข้าคิดว่ามันมีพวกหนึ่งที่น่าจะเกลียดชังเรา เจ้าพวกที่บูชาพลังแห่งความรัก

Bleez : จากประสบการณ์ที่ข้าเคยผ่านมาสมัยที่ข้ายังเป็นเจ้าหญิงอยู่ ข้าเรียนรู้ว่าในความรัก…ในพลังแห่งแสงสีม่วงนั้นซุกซ่อนความเกลียดชังไว้อยู่ พวกสตาร์แซฟไฟร์มีเหตุผลที่จะต้องการจะทำลายเราที่เป็นด้านตรงข้ามของพวกมัน ข้าว่าเราควรจะไปที่ดาวหลักของพวกมันเพื่อเค้นความจริงจากพวกมันเดี๋ยวนี้เลย

Atrocitus : ถ้าเจ้าอยากจะไปหาเรื่องพวกสตาร์แซฟไฟร์ก็ตามใจเจ้า ข้าจะไปตามล่าเจ้าอบิสมัสตามลำพังเอง

Bleez : นี่มันเป็นสิ่งที่ท่านนำมาสู่พวกเรา อโตรซิตัสผู้ยิ่งใหญ่ เพราะความผิดพลาดของท่าน จากนี้ไปเราจึงต้องกลายมาเป็นพวกเร่ร่อน และเราอาจต้องตายกันหมด

trocitus : ตายรึ? ความตายมันมีความหมายอะไรกับเรดแลนเทิร์นกัน? เมื่อเจ้าเป็นเรดแลนเทิร์นเจ้าก็ต้องผ่านความตายมาแล้ว

Atrocitus : …เมื่อเรากลายมาเป็นเรดแลนเทิร์น หัวใจของเราก็หยุดเต้นและพลังของแหวนก็เข้ามาแทนที่

Atrocitus : เส้นเลือดทุกเส้นของเราถูกเติมเต็มด้วยเลือดเพลิงที่เกิดจากพลังของแสงสีแดง

Atrocitus : มันแทนที่ชีวิตของเราด้วยความโกรธแค้น และตอนนี้เราก็จะใช้…สิ่งที่ยังเหลืออยู่ของความโกรธแค้นนี้…เพื่อค้นหาว่าใครคือศัตรูที่ต้องการทำลายเรา

Atrocitus : เราจะไม่มีวันพอใจจนกว่าเลือดอของพวกมันจะนองอยู่ใต้เท้าของเรา หากจำเป็นเราจะทำลายทุกทวีปในทุกดวงดาว ให้ทุกชีวิตบนจักรวาลอันกว้างใหญ่และโหดร้ายนี้…หวาดกลัวจนตัวสั่นด้วยความน่าสะพรึงกลัวสุดบรรยาย

Atrocitus : เพราะความโกรธแค้นคือทุกสิ่งทุกอย่างของเรดแลนเทิร์น และเราจะไม่หยุด…จนกว่าเราจะได้ทำในสิ่งที่เรดแลนเทิร์นทำมาตลอด…

Atrocitus : ความแค้นของเราจะต้องได้รับการชำระ!!

แม้เผชิญหน้ากับความตายและความพินาศที่ยากจะหลีกเลี่ยง แต่เหล่า Red Lantern ก็จะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว!! บัดนี้คลื่นแห่งความโกรธแค้นและความพินาศกำลังจะถูกปลดปล่อยสู่จักรวาลแล้ว!!

โปรดติดตามตอนต่อไป

17 thoughts on “Red Lantern #09

  1. St.Valentinus

    กลายเป็นร่วมมือเฉพาะกิจซะงั้น

    แต่รู้สึกไม่ค่อยน่าไว้ใจ Bleez เลยแฮะ

  2. RedRaven

    RL คงไม่เอียวกับ เรื่องของGL สักระยะ แล้วละ

  3. 13Hatesong

    ยังไง อโตรซิตัส ก็ดูพระเอกขึ้นทุกวันๆ 55+

  4. L5-T2

    อโตรซิตัสโคดเท่ พลังผู้นำแห่งความโกรธแค้นเหลือล้นจริงๆ

    ขอบคุณมากครับ

  5. animalmaru00

    มันส์มากกกก….
    สุดท้ายจะตายกันหมดมั้ยเนี่ย
    เพราะแต่ละตัวเท่มากๆ อ่ะ ชอบเลย

  6. DOL

    ลุงอาโตรนี่มันพระเอกชัดๆ

    กำลังสังหรใจว่าเหล่า Latern ทั้งหลายท่าทางจะโดนถล่มจนไม่เหลือซักสีแน่ๆ

  7. seventoon

    สังหรณ์ว่า เหตุการ์ณ อีเวนท์ใหญ่รอบหน้า อโตรซิตัสจะตาย แน่เลยอ่ะ

    แล้ว บลีซขึ้นมาเป็นผู้นำแทนเปล่าหว่า ?

  8. khunjuice

    มาแล้วสินะ การล้มสลายแห่งแสงที่กล่าวถึงในGL#9

  9. CraZySpirit

    ชื่อตอนต่อไป Stormwatch
    มันจะไปเกี่ยวอะไรกับทีม stormwatch ล่ะเนี่ย?

  10. Tatoo

    พวกแก๊งตะเกียงเเดง ถ้ามันรู้จักสามัคคีกัน จะเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ๆ
    ปล. เล่มนี้อะโครซิตัสมันเท่จริง ๆให้ตายเถอะ

  11. DarkSoul

    ถ้าจำไม่ผิด มนุษย์โลกคนแรกที่สวมแหวนแดง คือ กาย การ์ดเนอร์ ใช่มั้ยครับ แต่ขานั้นสวมแหวนเพราะความจำเป็น ไม่ใช่เพราะแหวนเป็นตัวเลือกกาย เขาเลยไม่ต้องสวมแหวนไปตลอดเหมือน Jack

  12. KakMan

    ตอนนี้ แลนเทิร์น พังพินาศไปทีละสี เหลืองทำลายตัวเอง แดงถูกพิษ ส้มกำลังจะถูกฑูตสวรรค์ถล่ม ครามตะเกียงระเบิด คิวต่อไปคงเป็น ม่วง ฟ้า เขียวเป็นแน่แท้ สุดท้ายเหลือสีละไม่กี่ตัว เลยรวมตัวกันกลายเป็นขบวนการหลากสี เรียกหุ่นยนต์ยักษ์ปราบเหล่าอธรรม ว๊ากกก

    ป.ล. ในโลกอนาคต องค์กร กรีนแลนเทิร์น ไม่มีแล้วรึป่าวครับ (จากเนื้อเรื่อง super man ในอนาคต)

    ขอบคุณครับ

  13. UNKNOWN

    กลัวว่า เหลือสีล่ะคน มันจะตีกันเองก่อนน่ะซิ

  14. RedRaven

    สงสัยอย่างนึง Jack มันบอกว่าถอดแหวนไม่ได้ใช่ไหมครับ

    แต่ที่ Razer จากภาค อนิเมชั่น ก็ถอดได้นี่ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แปลกแหะ

  15. NetNN

    @DarkSoul

    เมื่อสวมแหวนพลังสีแดง เลือดในร่างจะถูกแทนที่ด้วยเลือดเพลิงที่สร้างด้วยพลังของแหวน ดังนั้นการที่ Red Lantern ถอดแหวนก็เหมือนกับควักหัวใจตัวเองออก แต่การที่ Guy ถอดแหวนสีแดงได้เป็นเพราะว่าเขาได้รับการช่วยเหลือ โดยครั้งแรกเขาได้ Mogo ช่วยชำระล้างเลือดเพลิงและรักษาสภาพของร่างกายให้ ส่วนในครั้งที่สองเขาได้ Kyle ที่ตอนนั้นสวมแหวนพลังสีฟ้าช่วยรักษาให้

    @RedReven
    ในภาคอนิเมชั่นกับคอมมิคถือว่าเป็นคนละจักรวาลกัน ดังนั้นกฎเกณฑ์ต่างๆจึงอาจมีความแตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

  16. GEnGSERK

    เป็นสีที่รู้สึกจะมีจุดยืนชัดเจนมาก แค้นต้องชำระ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *