Green Lantern #09

DC Comic : Green Lantern 09 : Secret of The Indigo Tribe : Part 3

เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Doug Mahnke, Christian Alamy, Keith Champagne
วางจำหน่าย: 9 พฤษภาคม 2012
สำนักพิมพ์ : DC Comics

ปริศนาของ Indigo Tribe ถูกเปิดเผยแล้ว!!

.
.
.
ย้อนไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย

พิธีกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงจิตใจของ Sinestro ของพวก Indigo Tribe กำลังมาถึงขั้นตอนสำคัญ

ในห้วงความคิดของ Sinestro เขาหวลคิดถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อตอนที่เขายังทำงานร่วมกับเพื่อนรักของเขา Abin Sur และได้รู้จักกับ Arin Sur พี่สาวของ Abin

พวกเขารักและผูกพันกัน แต่ด้วยเหตุสงครามกลางเมืองภายในดวงดาว Korugar บ้านเกิดของ Sinestro ทำให้ Sinestro เปลี่ยนไป และคิดที่จะขึ้นปกครองดวงดาวเพื่อจบสงครามที่ดำเนินมายาวนานนี้

และนั่นก็ทำให้เขาต้องผิดใจกับ Arin และบอกให้เธอไปจากดาวดวงนี้เสีย และอย่ากลับมาอีกเพื่อความปลอดภัย

แต่สงครามนั้นมันทั้งรุนแรง โหดเหี้ยม และไร้ซึ่งศีลธรรมใดๆ…

ก่อนหน้าที่ Arin จะทันได้ออกจากดวงดาวไปก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น…

และ Sinestro ก็สูญเสียบุคคลที่เขารักที่สุดไป

และตอนนั้นเอง พิธีกรรมเพื่อถ่ายพลังงานแห่งแสงสีครามเข้าไปในตัวของ Sinestro ก็เสร็จสิ้น

บัดนี้ Sinestro คือสมาชิกใหม่ล่าสุดของ Indigo Tribe

Sinestro : จอร์แดน ฉันต้องขอโทษด้วยต่อทุกสิ่งที่ฉันเคยทำกับแก

Hal : พอได้ฟังแบบนี้ฉันก็มั่นใจแล้วว่านายโดนล้างสมองไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็แปลกที่มันทำให้ฉันไม่ชอบใจเอาเสียเลย

ว่าแล้ว Hal ก็ยิงพลังแสงสีเขียวใส่ Sinestro ให้ถอยห่างออกไป จากนั้นก็ถอยไปตั้งหลัก

Hal : เฮ้ ฉันนึกว่าสีเขียวกับสีครามเป็นฝ่ายเดียวกันไม่ใช่เหรอ?

Indigo-1 : ถูกแล้ว และเราก็ยินดีที่จะส่งท่านกลับบ้านอย่างปลอดภัย

Hal : ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้นถ้าไม่มี Sinestro ไปด้วย

Indigo-1 : เขาเป็นพวกพ้องของเราแล้ว ท่านจงไปเสียเถอะ

แม้จะถูกบอกแบบนั้น แต่ Hal ยังที่ยังมีเรื่องที่ต้องถาม Sinestro อีกมากก็จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้

Hal : ฉันจะไปเมื่อฉันพร้อมจะไปเองเท่านั้น

Hal สร้างระเบิดขึ้นมาถ่วงเวลาพวก Indigo Tribe แล้วก็รีบวิ่งหนีไป

Hal : ฉันต้องหาสวิทซ์เปิด-ปิดแหวนของซิเนสโตรให้ได้ แหวน ค้นหาตำแหน่งแบตเตอร์รี่ศูนย์กลางของพวกนั้นซิ

[พบตำแหน่งแบตเตอร์รี่ศูนย์กลางของแสงสีครามแล้ว]

Hal รีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่แหวนบอกเขาทันที ไปยังที่ๆพวก Indigo Tribe เรียกว่า “ป่าต้องห้าม”

ตัดไปที่ดาวเคราะห์ Ogoro ในเขตอวกาศ 1417

พวก Guardians ที่กำลังตามหา Sinestro ก็มาหา Starstorm ที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่ Sinestro ได้ The Book of The Black มา เพื่อสอบปากคำว่า Sinestro ซ่อนมันไว้ที่ไหน

(เหตุการณ์ในเล่ม 6)

แต่เมื่อ Starstorm ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ พวก Guardians จึงสังหาร Starstorm ทิ้งเสียเพื่อปิดปาก

ทางด้าน Hal เขามาถึงสถานที่ๆแหวนระบุไว้ว่าเป็นที่ตั้ง Central Power Battery ของ Indigo Tribe แล้ว

ทันใดนั้นก็มีเสียงคนพูดขึ้น

??? : อะไรกันล่ะเนี่ย?

??? : กรีนแลนเทิร์นงั้นรึ?

??? : แถมยังอัปลักษณ์เอาการเสียด้วย!

Hal : คุณพูดด้วยภาษาที่แหวนของผมสามารถแปลได้ นั่นเป็นการเริ่มต้นที่ดี ผมอยากรู้ข้อมูลและผมก็ต้องการเร็วๆด้วย

??? : “น๊อก”

Hal : นี่จะมีใครบนดาวดวงนี้ที่บอกผมได้บ้างไหมว่าไอ้ “น๊อก” นี่มันหมายความว่าอะไรน่ะ?

??? : ถ้าจะให้แปลเป็นภาษาของเจ้า “น๊อก” มีความหมายว่า “ขอความเมตตาจงอยู่กับท่าน” และ น๊อกยังเป็นชื่อของดาวเคราะห์ของเรานี้ด้วยยังไงล่ะพ่อคนขาดการศึกษา

??? : ส่วนข้านั้นชื่อว่านาโทรโม

Hal : นาโทรโมเหรอ…ผมว่าผมเคยได้ยินมาก่อนนะ

Natromo : ก็คงได้ยินจากคำปฏิญาณของพวกอินดิโกล่ะมั๊ง ข้าเคยขอไม่ให้พวกนั้นใส่ชื่อข้าไปแล้วเชียวนะ เพราะข้าไม่ชอบเท่าไหร่

(ย้อนไปอ่านในรูปหน้าแรก)

Natromo : มาสิ! เข้ามาข้างในก่อนเถอะกรีนแลนเทิร์น! ข้างนอกนี่มันเฉอะแฉะเกินไป

Hal : คุณไม่ใช่สมาชิกขององค์กรใช่ไหม? คุณไม่ได้ใส่แหวนพลังนี่นา

Natromo : ก็เพราะข้าไม่ใช่พวกอาชญากรโรคจิตน่ะสิ

Hal : คุณสร้างพวกนั้นขึ้นมางั้นหรือ?

Natromo : ร่วมกับกรีนแลนเทิร์นอีกคนหนึ่งน่ะนะ

Hal : อาบิน เซอร์งั้นรึ?

Natromo : ใช่ เมื่อกี้ข้านึกว่าเจ้าเป็นเขา ตาของข้ามันชักจะฝ้าฟางไปแล้ว ข้ายินดีที่จะได้เริ่มทำงานต่อเสียที

Hal : แล้วอาบินทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? เขาทำไปเพื่ออะไรกัน?

Natromo : นี่อาบินให้ข้าเป็นคนอธิบายเรื่องต่างๆให้เจ้าฟังงั้นรึ? ก็นะ ในฐานะผู้ดูแลพลังแห่งแสงสีคราม มันก็เป็นหน้าที่ของข้าแหละนะ

Natromo : เมื่อหลายร้อยปีก่อนพวกผู้มาเยือนจากต่างดาวได้เข้ามารุกรานดาวเคราะห์น๊อกแห่งนี้

Natromo : พวกผู้รุกรานได้เปลี่ยนน๊อกให้กลายเป็นสถานที่ค้าส่งทาส และได้สร้างที่คุมขังที่ใช้ขังเผ่าพันธ์ของข้าก่อนจะส่งไปทั่วจักรวาล โดยที่ไม่อาจรู้ชะตากรรมของพวกเขาเหล่านั้นได้

Natromo : จนกระทั่งอาบิน เซอรฺมาถึงที่ดาวดวงนี้ และเราก็ร่วมกันต่อสู้กับพวกผู้รุกราน

Natromo : และเราก็ได้ค้นพบพลังแห่งแสงสีคราม มันขึ้นมาจากบ่อน้ำใต้ดืนในถ้ำแห่งนี้ จากแหล่งพลังงานที่เราไม่รู้จักที่อยู่ลึกลงไปในดาวน๊อกแห่งนี้

Hal : พลังงานแห่งแสงที่ซ่อนอยู่ในดาวดวงนี้สินะ

Natromo : เราใช้พลังแห่งแสงนั้นสร้างอาวุธขึ้นมา และเราก็ได้พบว่าเมื่อเราใช้อาวุธนี้ฟาดฟันใส่ศัตรูของเรา พวกนั้นก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นชั่วขณะ โดยในช่วงเวลานั้นพวกที่โดนอาวุธเหล่านี้จะเกิดการสำนึกผิดต่อสิ่งที่ตนทำลงไป

Natromo : หลังจากที่ดาวนี้ได้รับการปลดปล่อย พรรคพวกของข้าก็กลับเข้าไปอยู่ในป่า ส่วนข้าตัดสินใจอยู่ที่นี่เพื่อสอนอาบิน เซอร์ให้รู้ถึงวิถีทางของพลังแห่งแสงสีคราม เราได้กลายเป็นเพื่อนและพันธมิตรกัน

Natromo : และเราก็ร่วมกันสร้างแหวนพลังสีครามขึ้นมา

Natromo : ตอนนั้นเองอาบินก็จากไป

Natromo : แล้วเขาก็กลับมาพร้อมกับผู้หญิงที่ชื่อว่า “ไอโร๊ค”

Natromo : อาบินบอกว่านางเป็นศัตรูคู่แค้นของเขา นางเป็นผู้ที่ฆ่าลูกสาวของเขา

Hal : ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าอาบินมีลูกสาวด้วย

Natromo : ไอโร๊คเป็นคนแรกที่ได้สวมแหวนพลังสีคราม มันได้เปลี่ยนแปลงนาง มันได้เติมเต็มหัวใจของนางด้วยความเมตตา

Natromo : นางร่ำไห้อยู่นับชั่วโมง โศกเศร้ากับสิ่งที่นางทำลงไป อาบินก็ร่ำไห้ร่วมกับนางด้วย

Natromo : หลังจากนั้นเขาก็ออกไปนำตัวคนอื่นๆมา ในขณะที่ข้าก็สร้างแหวนพลังเพิ่มขึ้นอีก

Hal : นี่คุณกำลังบอกผมว่าพวกอินดิโกไทร์ปทุกคนต่างก็เป็นผู้ร้ายมาก่อนงั้นรึ?

Natromo : พวกนั้นเป็นที่รวมของเหล่านักฆ่าและพวกโรคจิตที่รวบรวมมาจากทั่วทั้งจักรวาล อาบินเป็นคนที่นำพวกนั้นมาที่นี่

Hal : แสดงว่าอาบินคิดว่านี่เป็นวิธีการไถ่บาปให้กับพวกนั้นงั้นรึ?

Natromo : โอ ไม่ใช่หรอก อินดิโกไทร์ปเป็นกองทหารที่อาบินสร้างขึ้น แต่เหตุผลที่สร้างแหวนพลังสีครามขึ้นมานั้นไม่เกี่ยวกับการไถ่บาปเลยแม้แต่น้อย

Hal : แล้วมันคืออะไรกันล่ะ

Natromo : เจ้าถามได้ตรงจุดแล้วล่ะกรีนแลนเทิร์น

Natromo : อาบิน เซอร์ได้เห็นอนาคตที่จะมาถึง “คืนอันมืดมิด” เหตุการณ์ที่เหล่าคนตายจะลุกขึ้นมากลืนกินชีวิตทั้งมวล!

Hal : “คืนอันมืดมิด” นั้นเริ่มขึ้นและจบลงไปเรียบร้อยแล้ว และเราเป็นฝ่ายชนะ

Natromo : ถ้างั้น…ข้าก็ต้องรีบกลับไปทำงานของข้าแล้ว! การสร้างแหวนพลังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องใช้เวลา มากเกินกว่าที่อาบินจะต้องการให้มันเป็น

Hal : เฮ้! เดี๋ยวสิ!

Natromo : การที่เจ้ามาที่ดาวดวงนี้ย่อมหมายความว่าอาบินต้องส่งเจ้ามาที่นี่เป็นแน่

Natromo : ถ้าคืนอันมืดมิดจบลงแล้ว “ความพินาศของเหล่าองค์กรแห่งแสง” ก็ใกล้เข้ามาแล้ว อาบินบอกว่ามันจะถูกทำลายโดยความชั่วร้ายที่มองไม่เห็น! ความชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใน!

Hal : แล้วเจ้าความชั่วร้ายที่ว่านี่มันมีชื่อหรือเปล่า?

Natromo : มีสิ

Natromo : อาบินเรียกพวกมันว่า “The Guardians of The Universe”

ในห้องขนาดใหญ่ที่พวกเขามาถึงนั้น มี Central Power Battery ตั้งอยู่ และที่ผนังโดยรอบก็สลักรูปของพวก Guardians เอาไว้!!

Hal : พวกการ์เดี้ยนงั้นรึ…?

Natromo : ต่างจากพวกคนตาย อาบินรู้ว่าพวกการ์เดี้ยนนั้นไม่อาจเอาชนะได้ ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงพวกนั้น พวกอินดิโกไทร์ปเป็นเพียงการทดสอบเท่านั้น แหวนพลังสีครามคือทางเดียวที่จะหยุดความบ้าคลั่งที่จะมาถึงของพวกการ์เดี้ยนได้

Hal : คุณพระช่วย

Natromo : เราจะเข้าโจมตีพวกการ์เดี้ยนทันทีที่อาบิน เซอร์กลับมาเพื่อเป็นผู้นำของเรา!

Hal : นาโทรโม…อาบิน…อาบิน เซอร์ตายไปแล้วล่ะ

คำบอกของ Hal ดูจะทำให้ Natromo ตกใจอย่างมาก

Natromo : ไม่…โอ…ไม่นะ ถ้าหากว่าเพื่อนของข้าตายไปแล้ว ถ้างั้น…

Natromo : ทุกอย่างก็จบสิ้นแล้ว

ทันใดนั้น Natromo ก็หันไม้เท้าของเขาไปยัง Central Power Battery แล้วยิงแสงใส่มันทำให้เกิดเสียงดังกระหึ่มขึ้น!!

Hal : นี่คุณทำอะไรน่ะ?!

Natromo : เมื่อปราศจากอาบิน มันก็ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งพวกการ์เดี้ยนได้อีกแล้ว ข้าจะปิดตะเกียงพลังนี้เสีย ข้าจะกลับไปยังเผ่าของข้าเพื่อบอกลาพวกเขา

Hal : อะไรนะ?! คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้จนกว่าเราจะคุยกันให้เคลียร์เสียก่อน!

ว่าแล้ว Hal ก็เตรียมยิงพลังแสงจากแหวนของเขาเพื่อหยุดยั้ง Natromo

แต่ราวกับสวรรค์แกล้ง พวก Indigo Tribe ตามมาถึงและทำให้เขาเสียจังหวะไป

และตอนนั้นเอง Central Power Battert ก็ระเบิดกระจุย!!

เมื่อแหล่งพลังงานสูญสิ้นไป พวก Indigo Tribe ก็หลุดจากพลังของแสงสีคราม

รวมถึง Sinestro ด้วย

Hal : ซิเนสโตร

Sinestro : จอร์แดนรึ?

Hal : นายเป็นอิสระแล้ว

และทันใดนั้น Hal ก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้…

Hal : เอ่อ

Hal : พวกนั้นก็ด้วยเหมือนกัน

เมื่อไร้ซึ่ง Central Power Battery เหล่าจอมโฉดที่ถูกพลังของแสงสีครามสะกดไว้ก็เป็นอิสระอีกครั้ง! แล้วนี่ Green Lantern นอกแถวทั้งสองจะเอาตัวรอดได้หรือไม่?!

โปรดติดตามตอนจบของภาค Secret of The Indigo Tribe ได้ในฉบับหน้า!!

12 thoughts on “Green Lantern #09

  1. genesis

    ไปอีกสีแบบง่ายๆเลยแฮะ แต่ต้องเหลือไว้สักคนเพื่อเล่มเดอะการ์เดี้ยนละมั้งแบบสีเหลืองที่เหลือไว้คน

    2 คนนี้จะเป็นคู่หูที่ดูแล้วแววซวยมาเรื่อยๆ ล่าสุดดีซีอัพปกใหม่รู้สึกจะเป็นบทใหม่ของแบล็คแฮนด์ด้วยแฮะ กลับมาแบบเทพกว่าเดิม

  2. DOL

    ผมว่าเล่มนี้มีเรื่องให้อึ้งเยอะมากเลยนะครับ

    อย่างแรกคือ เรื่องราวของ Arin ทำให้เรารู้ว่า ป๋าSinestro แกรักเมียแกมากจริงๆ
    อย่าสองคือ พวก กากเดี๊ยน มันฆ่าคนด้วย!!!
    อย่างสาม เพิ่งรู้ความหมายของคำว่า Nok!!

    และพอรู้เสร็จ ก็งานเข้ากันเลยทีเดียวในตอนท้าย!!
    แบบนี้ Black Hand ได้กลับอีกครั้งแน่นอน!!!

  3. Tatoo

    อาร์บิน เชอร์ นี่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ขนาดตายไปเเล้วยังมีความสำคัญกับในซีรี่ กรีน แลนเทิร์น อย่างมาก
    การ์เดี้ยน พวกเอ็งนี่เเหละ วายร้ายระดับจักวาล ตัวจริงเสียงจริง
    ซวยจริง ๆ ฮาล เอ็งไประเบิดตะเกียงของเขาซะงั้น
    เเบล็ก เเฮนด์ มาเเน่
    เล่มนี้สนุกมากครับ

  4. BaaMzS

    มารอดูกันว่าพวกการ์เดี้ยนจะทำไงต่อ มันร้ายจริงๆ

  5. peTOUCHso

    ได้รู้อะไรเยอะมาก แต่แอบงงว่ามันจะตัดใจง่ายไปไหน

    รู้ว่าอาบินตายทีเดียว พี่ท่านเล่นปิดระบบแบบไม่กลัวผลกระทบเลยเรอะ

  6. Jarkrider

    ลุงแกหูเบามาก -*- แต่ยอมรับเลยซีรี่ย์นี้มันส์มากครับ

  7. hometown03

    Oho มันเจ๋งมากหัวนี้ หักมุมตลอด พอแสงสีครามหายนี้ พอๆกับArkhamแตกกันเลยที่เดียว

  8. seventoon

    นี่จะเป็นจุดชี้วัดของ อีเวนท์ระดับจักรวาล หรือเปล่าหว่า

    อาบินเซอร์ หลังหลัง ดูเหมือนเป็น ตัวบารมีพอพอพวกการ์เดี้ยนเลยอ่ะ

    ยังเป็นไม้เบื่อ ไม้เมากันตลอดเลยแฮะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *