Spider-Island : Amazing Spider-Man #671

Marvel Comic : Spider-Island : Amazing Spider-Man #671 : With Great power Come Great Responsibility

เรื่อง : Dan Slott
ภาพ : Hunberto Ramos, Victor Qlazaba, Edgar Delgado
วางจำหน่าย: 12 ตุลาคม 2011
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

ด้วยความร่วมมือของ Anti-Venom ทำให้ Horozon Labs สามารถสร้างยารักษาโรคไวรัสแมงมุมได้สำเร็จ แต่ The Queen ก็ไม่ยอมสูญเสียอาณาจักรที่เธอสร้างขึ้นไปง่ายๆแน่!!

อีกด้านหนึ่ง Madame Web ก็กำลังจะทำบางอย่างที่อาจทำให้สถานการณ์พลิกผันอย่างเกินจะคาดคิด!!


.
.
.
เริ่มเรื่องมาที่ Alphabet City New York

Mary Jane Watson กำลังรับมือกับเหล่ามนุษย์แมงมุมด้วยความสามารถที่เพิ่งตื่นขึ้นมาของเธอ

Mary Jane : ชีวิตฉันเคยต้องอยู่ในอันตรายมานับครั้งไม่ถ้วน…และจะมีใครบางคนมาช่วยฉันเสมอ

Mary Jane : แต่วันนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

Mary Jane : วันนี้แมรี่ เจน วัตสันสามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

แต่ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ

ที่โบสถ์ Our Lady of Saint

เหล่าผู้คนที่ได้รับการรักษาอาการเชื้อพลังแมงมุมโดย Anti-Venom กำลังตกอยู่ในอันตราย

แต่ความช่วยเหลือก็มาถึงทันท่วงที

Mary Jane : มันเป็นความรู้สึกแบบนี้เองสินะ?

Mary Jane : ถึงไม่อยากยอมรับเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว

Mary Jane : เข้าใจแจ่มแจ้งเลยเชียว

Mary Jane : ไอ้ที่เขาว่า “พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง” นั่นน่ะ

Mary Jane : อย่าห่วงไปเลยทุกคน ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย ฉันคือแมรี่ เจน วัตสัน…และวันนี้ฉันก็คือซุปเปอร์ฮีโร่ของพวกคุณ

ตัดมาที่ศุนย์บัญชาการฉุกเฉินของ New York City

Spider-man (Peter Parker) พยายามหยุดนายกเทศมนตรี Jonah J. Jameson ไม่ให้ฆ่า Alistaire Smythe ผู้ที่อาจกำกุญแจในการกู้สถานการณ์ที่ประชาชนเกือบทั้งเมืองติดเชื้อแมงมุมไปแล้วเช่นนี้

เขาดึง Jameson ออกมาได้สำเร็จและใช้ใยพันเขาเอาไว้

Spider-man : …เขาอาจจะเพิ่งฆ่าคนเดียวที่อาจช่วยเราได้ไปแล้ว…

Smythe : แกมี…สไปเดอร์สเลเยอร์เท่าที่ต้องใช้อยู่แล้ว….

Spider-man : สไมร์ท? นั่นมันหมายความว่า…? หมอนี่หมดสติไปแล้ว! ฉันหยุดเลือดไว้ไม่ได้!

Spider-man : เรียกหมอมาเร็ว!

ว่าแล้วหน่วยเสนารักษ์ก็เข้ามาทันที

Medic : ถอยไป เราจัดการต่อเอง

Glory : แล้วโจน่าห์ล่ะ! พวกคุณต้องดูอาการนายกฯด้วย!

Spider-man : ล้อเล่นหรือเปล่าน่ะ ต่อให้เอารถถังมาก็ฆ่าโจน่าห์ไม่ได้หรอก และนั่นก็เป็นก่อนที่เขาจะกลายร่างเป็นแบบนั้นด้วยซ้ำ

Medic : ห้ามเลือดให้สไมร์ทแล้ว เอาเขาออกไปจากที่นี่ ส่วนนายกฯเจมส์สันก็…

Spider-man : ไม่ หลังจากเอาสไมร์ทออกไปแล้ว ก็ปิดประตูแล้วล็อคขังนายกฯไว้เลย

Glory : อะไรนะ?! เราจะทำแบบนั้น…

Spider-man : เราช่วยอะไรเขาไม่ได้แล้วล่ะกลอรี่ หลังจากที่ผมไปแล้วก็ปิดล็อคศูนย์บัญชาการนี้ไปเสีย และถ้ามีใครที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกก็โยนเข้ามาขังในห้องนี้ด้วยไปเลย

Glory : คุณจะไปแล้วหรือ?! คุณจะไปไหนน่ะ?!

Spider-man : ไปที่ฮอไรซันแล็ป เราเสียเมืองนี้, นายกฯ และการควบคุมทุกอย่างไปแล้ว…พวกคนที่นั่นกำลังหาวิธีรักษาอยู่ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเขาคือความหวังสุดท้ายของเราแล้ว

แต่สิ่งที่ Spider-man ไม่รู้ก็คือ ทุกสิ่งที่ Jameson ได้ยิน ก็จะถูกส่งผ่านโทรจิตให้ The Queen (Adriana Soria) รับรู้ด้วย

The Queen : ฮอไรซันงั้นรึ…

The Queen : ฉันยังได้ยินเสียงของเจมส์สัน เขายังเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายของเราอยู่ ยังคงเชื่อฟังราชินีของเขาอยู่ และเขาก็บอกฉันว่าพวกฮีโร่ของเมืองนี้กำลังตั้งมั่นกับ “ความหวังสุดท้าย” อยู่

The Queen : วิธีการรักษาอยู่ที่ฮอไรซันแล็ป แจ็คกัล! คุณสาบานว่าพวกมันไม่มีทางคิดวิธีรักษาได้ ว่าชัยชนะของฉันมันแน่นอนแล้ว!

Jackal : เหรอครับ? แต่ถ้าท่านคิดเอาชนะจริงๆล่ะก็ เมื่อตอนที่ท่านควบคุมนายกฯนั่น…ท่านน่าจะควบคุมให้เขายกเลิกคำสั่งกักกันเมืองเสีย แทนที่จะเปลี่ยนเขาเป็นแมงมุมยักษ์แบบนั้น

The Queen : หุบปากซะ!

The Queen : ฉันจะต้องค้นหาในฮอไรซันแล็ปที่ว่านั่น ดูซิว่ามีประชากรของฉันอยู่ในนั้นไหม…

ในขณะนั้นเอง Reed Richard ก็กำลังจะทดลองซีรัมรักษาที่พัฒนาขึ้นจากเซลของ Anti-Venom กับเจ้าหน้าที่ของ Horizon Lab ที่ติดเชื้อ

แต่ The Queen ก็ใช้โทรจิตเข้าถึงตัวเธอแล้ว

จากคำสั่งทางโทรจิตของ The Queen ก็ทำให้เธอเริ่มกลายร่างเป็นมนุษย์แมงมุม

แต่ด้วยความช่วยเหลือของ Spider-Woman (Jessica Drew) ก็สามารถหยุดเธอเอาไว้นานพอที่ Reed จะฉีดยาแก้ให้เธอได้ และทำให้เธอกลับเป็นร่างมนุษย์

ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอถูกตัดออกจากเครือข่ายโทรจิตของ The Queen ไปด้วย

The Queen : การเชื่อมต่อของเธอกับเครือข่ายใยแมงมุมถูกตัดขาดไปแล้ว! พวกมัน…พวกมันพูดถึงแอนติ-เวน่อม แต่มันเป็นไปไม่ได้!

The Queen : ฉันส่งสไปเดอร์คิงไปจัดการมันแล้ว…สไปเดอร์คิง? โรเจอร์? การเชื่อมต่อของเขา?! ตัดขาดไปแล้วเหมือนกันหรือเนี่ย?! ทุกอย่างกำลังผิดพลาดไปหมด! และเจ้าพวกมนุษย์โสโครกนั่น พวกมันได้ทำให้วิธีรักษาของพวกมันสมบูรณ์แล้ว! เราต้องทำอะไรสักอย่าง!

ขณะที่ The Queen กำลังตระหนก The Jackal กลับยังดูท่าทางสงบอยู่ ขณะที่อ่านนิตยสารวิทยาศาสตร์อยู่

Jackal : ครับๆ ไปที่ฮอไรซันแล็ป ทำลายงานของพวกมัน ผมคิดวิธีได้แล้วครับนายหญิง

แล้ว Jackal ก็พลิกนิตยสารหน้าที่กำลังอ่านอยู่ ที่มีคอลัมน์เกี่ยวกับ Peter Parker ในฐานะนักวิจัยที่กำลังมาแรงของ Horizon Lab

Jackal : ลองดูที่หน้าถัดไปนี่สิครับ เห็นไหม?

Jackal : เรื่องดีอย่างหนึ่งของฮอไรซันแล็ปก็คือ…เรามี “คนใน” อยู่กับเราแล้ว

Jackal : เพราะทารันตูล่าของผมคนนี้…เขารู้วิธีคิดของปาร์คเกอร์ทะลุปรุโปร่ง ใช่ไหมลูกพ่อ?

Tarantula : ถูกต้อง…

ตัดมาที่ Horizon Labs

ที่ห้องแล็ปหมายเลข 6 ที่ตอนนี้ Anti-Venom (Eddie Brock) กำลังถูกใช้เพื่อผลิตยารักษาอาการโรคแมงมุมอยู่

Grady : คุณบร็อคครับ? ผมเกรดี้ สแกรป ส่วนนี่คือเบลลา ฟิชแบค เราเป็นคนของฮอไรซัน แล็ป เราอยากให้แน่ใจว่าคุณรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับคุณ…และคุณยอมรับมันได้หรือเปล่า

Grady : ตอนนี้ภูมิคุ้มกันที่สร้างเป็น “ชุด” ของคุณกำลังถูกดูดออกไปและถูกใช้เพื่อทำขั้นตอนการจำลองขึ้นมาใหม่ ถ้าเราทำแบบนี้ต่อไปอย่างถูกต้อง เราก็น่าจะมีซีรัมเพียงพอที่จะรักษาทุกคนในเมืองได้

Grady : แต่เราต้องการทุกเซลที่เราจะมีได้ และเมื่อเราทำเสร็จสิ้น…นั่นก็เป็นอันจบ คุณจะไม่สามารถเป็นแอนติ-เวน่อมได้อีกต่อไป

แม้จะได้รู้ว่าขั้นตอนนี้จะทำให้พลังที่เขามีสูญสิ้นไป แต่ Eddie ก็ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

Anti-Venom : มันคือการเสียสละที่ผมภูมิในที่จะทำมัน ใช้ร่างกายของผมให้เต็มที่เพื่อช่วยเหลือทุกคนได้เลย!

Grady : ว้าว ช่างเป็นผู้เสียสละจริงๆเลยนะเนี่ย

Bella : เกรดี้ ระวังคำพูดด้วย

ตอนนั้นเอง Number Six เจ้าของห้องแล็ปหมายเลข 6 นี้ก็เข้ามา

Number Six : อะแฮ่ม ถ้าพวกคุณเสร็จธุระแล้ว ผมอยากจะทำงานต่อตามลำพังนะครับ

Bella : เอ่อ…แน่นอนค่ะ หมายเลขหก

Grady : ช่าย ดีใจที่ได้พบคุณแบบ…ใส่ชุดกันเชื้อเต็มยศแบบนี้นะ

Anti-Venom : ทีนี้ทุกคนจะได้เห็นกันเสียที ว่าฉันคือผู้ช่วยเหลือพวกเขา เป็นผู้ที่เสียสละทุกอย่างเพื่อช่วยพวกเขา…อึก..

Number Six : ใช่แล้วบร็อค ช่างเป็น “การเสียสละที่ยิ่งใหญ่” จริงๆ…ด้วยการได้เลิกเป็นตัวประหลาดเสียทีน่ะนะ อืมม.. ไม่ทุกคนหรอกนะที่จะ…โชคดีอย่างนาย

Number Six : เอาละ งานส่วนของฉันเสร็จสิ้นไปแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของคนอื่นๆล่ะ ฉันได้เสี่ยงเปิดเผยตัวเองไปมากเกินไปแล้วด้วย

เมื่อ Number Six เอามือของเขาไปทาบที่เครื่องสแกน มันก็อ่าน DNA ของเขา และยืนยันว่าเขาคือ Dr.Michael Morbius 1 ในอดีตศัตรูเก่าของ Spider-man นั่นเอง!

ตัดมาที่ Spider-man ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ Horizon Lab

“ฉันคิดในมุมแคบเกินไป”

“อย่างการที่คิดว่าตัวฉันเองเป็นแค่คนหนึ่งในบรรดาผู้มีพลังแมงมุมนับล้าน หรือไม่ก็แค่เนิร์ดบ้าวิทยาศาสตร์ ต้องคิดใหม่เสียทีแล้ว!”

“ในเมื่อที่นี่คือเกาะแห่งแมงมุม ฉันก็คือเจ้าถิ่น ที่นี่คือเมืองของฉัน!”

“และถ้าสไมร์ทคิดวิธีแก้ได้…ฉันก็ต้องทำได้เหมือนกัน!”

“สร้างเครื่องมือใหม่ๆขึ้นมา! สร้างชุดใหม่ขึ้นมา! ฉันทำได้น่า!”

“แค่ต้องไปที่ห้องแล็ปของฉันเท่านั้นล่ะ!

แต่ทันใดนั้น เขาก็เห็น Gravity (Greg Willis) และ Firestar (Angelica Jones) กำลังปะทะกับฝูงมนุษย์แมงมุมเพื่อปกป้องเครื่องสร้างคลื่นรบกวนสัมผัสแมงมุมอยู่ จึงเข้าไปดู

Spidey ถามทั้งสองว่าต้องการความช่วยเหลือไหม แต่ทั้งสองคนก็ว่าพวกเขาจัดการกันเองได้ Spidey ก็เลยไปต่อ

แต่ตอนนั้นเอง Madame Web ก็กำลังเฝ้าดูเขาอยู่

Madame Web : เขาปล่อยให้พวกนั้นจัดการกันเอง เขาเชื่อใจพวกนั้น แต่นั่นเป็นความคิดที่ถูกหรือเปล่า? ฉัน…ฉันบอกไม่ได้ มองอนาคตไม่เห็น ฉันอ่านสิ่งที่เขียนไว้ในสายใยแห่งชีวิตไม่ได้

Madame Web : และสำหรับครั้งนี้ ฉันรู้สาเหตุว่าทำไมจึงเป็นแบบนั้น นี่เป็นเวลาที่มาดามเว็ปจะทำอะไรสักอย่างแล้ว…

ตัดกลับมาที่ Horizon Labs

Reed : นี่ผมมิสเตอร์แฟนทาสติก ติดต่อโปรเจ็ครีเบิร์ธ โปรดตอบด้วย

Gen.Dodge : ผมนายพลดอจ์ดพูดอยู่ ดอกเตอร์ริชาร์ด

Reed : ท่านนายพล ผมได้ตรวจสอบซ้ำกับสิ่งที่คนของคุณที่ชื่อแมคเคนซี่ทำไว้..คุณว่าเขาสามารถจะสังเคราะห์รีรัมของเราได้ที่ฐานทัพของคุณได้ทันทีเลยงั้นหรือ?

Reed : การจะทำแบบนั้นได้ เขาจะต้องทำการสังเคราะห์ภูมิคุ้มกัน…จากซิมไบโอตที่ยังเป็นๆอยู่ แต่นั่นมันเป็นไปได้ยังไงหรือครับ?

Gen.Dodge : เรื่องนั้นมันไม่สำคัญสำหรับตอนนี้หรอก ที่สำคัญก็คือมันได้ผลก็พอแล้ว และเราก็สามารถรักษาสไปเดอร์-คิงให้กลับมาเป็นสตีฟ โรเจอร์ได้สำเร็จแล้ว

Reed : เขาคือกัปตันอเมริกาจริงๆหรือเนี่ย ช่างน่าตกใจจริงๆ

Gen.Dodge : เห็นด้วย เราได้ส่งคนของเราไปจัดการคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แล้ว เมื่อโรเจอร์พร้อมเราก็จะส่งเขาตามไปด้วย ถ้ามันเป็นไปตามแผนล่ะก็…ตัวการของเรื่องนี้น่าจะถูกจัดการก่อนที่จะ…

ทันใดนั้นก็มีบางอย่างปรากฎขึ้นหลัง Reed

Reed : ท่านนายพล ผมจะติดต่อกลับไปที่หลังนะ เพราะมีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่แล้วล่ะ…

Madame Web : พวกคนโง่!

Max : หน่วยรักษาความปลอดภัย! เรามีคนลอบเข้ามาแล้ว!

Reed : เดี๋ยวก่อน ผมรู้จักผู้หญิงคนนี้ เธอคือจูเลีย คาร์เพนเตอร์ หรืออีกชื่อคืออารัคเน่

Madame Web : ตอนนี้ฉันคือมาดามเว็ปแล้ว เป็นผู้ทำนาย ที่สามารถมองเห็นอนาคตผ่านทางสายใยแห่งชีวิต…

Madame Web : …จนกระทั่งคนฉลาดอย่างพวกนายสร้างเสาส่งคลื่นรบกวนพวกนั้นขึ้นมา! ของแบบเดียวกับที่ทำลายสัมผัสแมงมุมของสไปเดอร์แมน…

Madame Web : …และตอนนี้มันก็มารบกวนการมองเห็นอนาคตของฉันด้วยแล้ว พวกคุณกำลังทำให้ฉันไม่สามารถมองเห็นหนทางสู่ชัยชนะของเราได้!

Madame Web : รีบแก้ไขมันซะ! เดี๋ยวนี้เลย!

Ben Grimm : ฉันคงต้องยอมรับว่าแม่คนนี้มาและไปได้เจ๋งดี

เมื่อ Madame Web ไปแล้ว Max Modell ก็ปรึกษากับ Reed

Max : นั่นมัน…ระทึกใจไปหน่อยนะ

Max : เมื่อตอนที่ปีเตอร์กับผมสร้างเครื่องต้นแบบขึ้น เรารู้ว่ามัน “อาจ” ลบล้างสัมผัสแมงมุมของสไปเดอร์แมนได้ มาตอนนี้เธอคนนั้นก็บอกว่ามันทำแบบนั้นไปแล้วจริงๆงั้นรึ?

Reed : นั่นเป็นความจริง สไปเดอร์แมนบอกผมเมื่อเร็วๆนี้เอง ผมพยายามจะหาวิธีแก้ให้เขาอยู่…แต่เรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้ทำให้เรายุ่งจนทำไม่ได้เลย

Max : อืม…คุณรู้ไหม ในเมื่อเรามีเสาส่งสัญญาณอยู่รอบเมือง และสไปดี้ก็อยู่ภายในเมืองด้วย ถ้าเราส่งสัญญาณที่ถูกต้องไปล่ะ? มันยากแต่ก็อาจจะได้ผล ผมต้องเรียกระดมพลมาช่วยผมแล้วล่ะ…

ว่าแล้ว Max ก็ประกาศออกไปทั่วทั้ง Lab

Max : โปรดทราบ พนักงานของฮอไรซันทุกคน ขอให้หยุดสิ่งที่พวกคุณกำลังทำไว้และมารวมกันที่โถงใหญ่

Max : ผมมีโปรเจ็คที่ต้องอาศัยการระดมสมองมาช่วยเยอะๆ

Max : เรามีเพื่อนอยู่ข้างนอกนั่น ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา

Max : เขาช่วยเราจากฮอปก็อปลิน เขาเสี่ยงชีวิตปกป้องกระสวยอวกาศของเรา

Max : และวันนี้เราจะตอบแทนให้เขาล่ะ

Max : ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทั้งหลาย…เราจะช่วยกันรักษาสไปเดอร์-แมนกันล่ะ

ขณะที่ทุกคนในแล็ปกำลังจะทำอะไรบางอย่าง ที่ดาดฟ้าตึก Spidey ก็มาถึงแล้ว

Spider-man : ถึงแล้ว!

Spider-man : รู้มั้ย ฉันรู้สึกดีขึ้นตั้งเยอะแล้วนะเนี่ย ถ้ามันมีทางแก้สถานการณ์ที่เป็นอยู่นี่ล่ะก็ ฉันก็ต้องหามันเจอในแล็ปของฉันแน่

Spider-man : เป็นที่ๆทุกอย่างสำเร็จขึ้นมาได้ แค่ต้องถอดถุงมือแล้วสัมผัสแป้นนี่…หืม..นั่นแปลกแฮะ

Spider-man : มันบอกว่าฉันเข้ามาในห้องไปแล้ว ไม่เข้าใจว่าเป็นไปได้ยังไง ก็ในเมื่อมันจะเปิดต่อเมื่อสแกน DNA ของฉันเท่านั้นนี่นา…

โดยที่ Spidey ไม่รู้ตัว จู่ๆ Tarantula ก็เข้าเล่นงานเขา!!

พร้อมกันนั้นก็มีเสียงที่คุ้นหูดังขึ้น

Jackal : จุ๊ๆๆ นั่นเป็นการทดสอบนะปาร์คเกอร์ แล้วแกก็สอบตกว่ะ

Spider-man : แจ็คกัล?! แกเข้ามาในนี้ได้ยังไง? แล้วแกรู้ได้ยัง…

Jackal : ยังไม่เข้าใจงั้นสินะ? พ่อกล้ามโตนี่ก็คือบัตรผ่านของฉันยังไงล่ะ…เพราะตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขาเต็มไปด้วย DNA ของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ฉันเรียกเขาว่า “ทารันตูล่า” แต่แกคงจะรู้จักเขาในฐานะของ “น้องชาย” ของแก…

Jackal : …เคนยังไงล่ะ!

Spider-man : อะไรนะ?! เคน…อึ๊ก!!!

ตัดไปที่ห้องโถงใหญ่ Max กำลังประชุมกับเหล่านักวิจัย

Max : ที่อยู่ตรงนี้คือแป้นควบคุมที่ใช้บังคับเครื่องส่งสัญญาณรบกวนโทรจิตที่เราติดตั้งไว้รอบๆแมนฮัตตั้น

Max : ผมเชื่อว่าถึงแม้เราจะปิดทั้งระบบลงไม่ได้…เราก็ยังสามารถแทรกสัญญาณที่จะช่วย “จุดประกาย” พลังสัมผัสแมงมุมของสไปเดอร์แมนขึ้นมาใหม่ได้ ที่นี้ใครจะช่วยผมบ้าง?

ขณะที่นักวิจัยทุกคนกำลังร่วมมือกัน แต่ทางด้าน Spider-man นั้นก็โดน Tarantula เล่นงานจนลงไปกองซะแล้ว

Jackal : ที่นี้รีบไปได้แล้ว! เซนเซอร์ตรวจจับสารเคมีของ “ยารักษา” นั่นได้ มันอยู่ใกล้ๆนี้เอง

Tarantula : ปาร์คเกอร์ล่ะ? จัดการมันเลยไหม?

Jackal : อะแฮ่ม ใครเป็นผู้นำภารกิจกันแน่หา? สำหรับตอนนี้น่ะเจ้าจงทำภารกิจของเจ้าให้เสร็จเสียก่อน

Jackal : แล้วค่อยมาเก็บแต้มทีหลังก็ได้

Tarantula : -ฟุดฟิด- มันอยู่ในนี้

Jackal : อยู่ในแล็ปข้างๆนี้เองเรอะ?! ฮ่า! มันจะง่ายอะไรขนาดนั้น?

ที่ในห้องแล็ปเบอร์ 6.

ตอนนี้ Symbiote ของ Eddie ถูกดึงออกไปสร้างซีรั่มรักษาจนหมดแล้ว

Jackal : นี่เองน่ะเรอะ? นี่คือที่บรรจุยาที่ใช้แก้สถานการณ์ได้? นี่คือความหวังสุดท้ายของเจ้าพวกฮีโร่สินะ?

Jackal : เอาล่ะทารันตูล่า ได้เวลาใช้ยาพิษแล้ว จงทำให้ยามันปนเปื้อนไปซะ

แต่ก่อนที่แคปซูลยาพิษจะทันตกลงไปในบ่อตัวยา Spider-man ก็ใช้ใยคว้ามันได้ทัน

แต่แม้จะสามารถแย่งเอาแคปซูลมาได้ แต่ Spider-man ก็ยังไม่มีวิธีที่จะเอาชนะ Tarantula ได้เลย

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…จะปล่อยมือจากแคปซูลไม่ได้เด็ดขาด…ไม่งั้นก็จบเกมทันที!

Tarantula : มันแย่งไปแล้ว!

Jackal : ไม่ใช่ปัญหา โยนมันลงไปด้วยก็สิ้นเรื่อง แถมจะว่าไป…

Jackal : …นั่นมันยิ่งดีขึ้นไปกว่าเดิมอีก! เพราะตัวยาจะถูกทำลายหลังจากที่มันช่วย “รักษา” เจ้าสไปเดอร์แมน มันช่างเป็นบทลงโทษที่เหมาะสมซะจริง! มันจะกลายเป็นหนึ่งในมนุษย์ธรรมดาจำนวนน้อยนิดที่เหลือในดาวเคราะห์แห่งแมงมุมของฉันนี่! ฮ่าๆ!!

“ไม่มีแรง มึนงงไปหมด มองอะไรไม่เห็น แถมยังยกมือไม่ขึ้นอีก”

“คงต้องร้องขอปาฏิหารย์เท่านั้นแล้ว”

Jackal : ชั่วโมงเรียนจบแล้วปาร์คเกอร์ แกแพ้

ในวินาทีเป็นตายนั่นเองพวก Max ก็ทำสำเร็จ

Stone : ดูนั่นสิ! เราทำได้แล้ว! นั่นแหละคือคลื่นความถี่ที่ถูกต้อง! พวกเรานี่อัจฉริยะจริงๆ!

Max : ถูกแล้วคุณสโตน แต่เราจะเอาความดีความชอบทั้งหมดไม่ได้หรอกนะ จำได้ไหม…ว่าเครื่องต้นแบบน่ะอิงตามการออกแบบของปาร์คเกอร์

Max : ถ้าหากว่านี่มันได้ผลล่ะก็ ไม่ว่าสไปเดอร์แมนจะอยู่ที่ไหนก็ตาม…เขาก็จะต้องติดหนี้บุญคุณปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ครั้งใหญ่เลย!

Tarantula : ลาก่อน พี่ชาย

“จู่ๆความกลัวก็ถาโถมเข้ามาหาฉัน”

“ความเครียด”

“ความตื่นเต้น”

“ไม่สิ มันไม่ใช่ความรู้สึกพวกนั้น มันคือ…”

“พลังสัมผัสแมงมุมของฉัน!”

“มันกลับมาแล้ว!!!”

และในพริบตานั้นเอง Spidey ก็โต้กลับ Tarantula ไปชุดใหญ่!

“ไม่สิ! มันยิ่งกว่ากลับมาเสียอีก!”

“ปัดป้อง”

“ถีบ”

“มันรวมเข้ากับวิทยายุทธที่ชาง-ชีสอนฉันได้อย่างกลมกลืนเลย!”

“ปิดฉาก”

“ใช่แล้ว ระวังให้ดีเถอะโลกทั้งโลกเอ๋ย เพราะตอนนี้ฉันมีทั้งสัมผัสแมงมุมและวิชากังฟูรวมกัน! ไม่มีอะไรหยุดฉันได้แล้ว!!”

“แต่ก่อนอื่น ถึงฉันจะสนุกกับการใช้ “พลัง” มากก็เถอะ…”

“…ก็ควรจะเอาใยพวกนี้ออกไป ก่อนที่เคนจะขึ้นมาสู้ต่อยกสอง”

Eddie : สะ…สไปเดอร์แมน…ข้าง…หลัง…อึ๊ก…”

“ขอบคุณที่ช่วยเตือนนะเอ็ดดี้…แต่บางอย่างบอกฉันว่า…”

“…ทารันตูล่าคงจะสู้ต่อได้ไม่ดีเท่าไหร่แล้วล่ะ”

“เพราะฉันซัดเขาตกลงไปใน…บ่อที่เต็มไปด้วยยารักษาอาการโรคแมงมุม!

Tarantula : ช่วยฉันขึ้นไปหน่อยได้ไหม?

เมื่อ Spider-man ได้ยินเสียงพูดของ Tarantula ก็สังเกตุได้ทันทีว่า…

Spider-man : เคน?! นี่นาย…?

Kaine : ดูเป็นแมงมุมน้อยลงงั้นหรือ? ก็ใช่

Spider-man : แต่ แล้วนายยัง…?

Kaine : มีพลังแมงมุมอยู่หรือเปล่าหรือ? รู้สึกว่าจะใช่นะ

Spider-man : ให้ฉันพูดให้จบก่อนสิ นายยังอยู่ในการควบคุมของแจ็คกัลหรือเปล่า?

Kaine : ไม่แล้ว แต่หมอนั่นไม่ใช่หัวโจกของงานนี้หรอก…

เมื่อ Spidey เห็นหน้าของ Kaine ก็พบว่าร่างของเขากลับเป็นมนุษย์แล้ว แถมยิ่งไปกว่านั้น อาการเซลเสื่อมสลายที่เขาเคยเป็นก่อนหน้านี้ก็หายไปหมดสิ้น!!

Spider-man : ว้าว! นายดูดีมากเลย! ฉันหมายความว่าดีสุดๆเลย ดีเหมือนฉันเลย

Kaine : เจ๋งเลย ดีสำหรับเราทั้งคู่เลยล่ะ แต่ให้ฉันพูดให้จบก่อนสิ แจ็คกัลไม่ใช่หัวโจกของเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว มันคือผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่า “เดอะควีน”

Spider-man : เดอะควีน กลับมาแล้วงั้นรึ?!

Kaine : ใช่ แล้วฉันก็รู้ด้วยว่าเธออยู่ที่ไหน

ในขณะเดียวกันนั้นที่ในเมือง คลื่นความถี่ที่ช่วยรักษา Spider-man ก็ส่งผลถึงคนอื่นด้วยเช่นกัน

Madame Web : อ๊า!!

Madame Web : พะ…พวกนั้นทำอะไรลงไป?! การเชื่อมต่อกับสายใยแห่งชีวิตของฉัน…มันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเลย! อนาคต! ฉันมองเห็นอนาคตอย่างชัดเจนแล้ว…โอไม่น่ะ! เดอะควีน! หล่อน…หล่อนกำลัง…

ที่ฐานลับของ The Queen

Jackal : ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น มันเกิดขึ้นเร็วมาก ผม…ผมขาดการติดต่อกับทารันตูล่าไปแล้ว

The Queen : และฉันก็จับความรู้สึกของเขาในเครือข่ายพลังจิตไม่ได้เหมือนกัน คุณทำให้ฉันต้องผิดหวังอีกครั้งแล้วนะศาสตราจารย์!

The Queen : แต่พอกันที! ได้ยินไหม?! พอกันที!!

Jackal : ฝ่าบาท เดี๋ยวก่อน! ผมสามารถ…อ๊าคคคคคค!!!!!!!!

ด้วยพลังคลื่นเสียงของ The Queen ที่ปล่อยใส่ The Jackal ก็ทำให้ร่างของเขาแหลกเป็นชิ้นๆทันที

The Queen : พลังคลื่นเสียงของฉัน มันฉีกเนื้อของเขาจนหลุดออกจากกระดูก มันไม่เคยทรงพลังขนาดนั้นมาก่อน…

แล้วตอนนั้นเองผู้หญิงทั้งสองคนก็รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้พร้อมๆกัน

The Queen : พลัง!! ใช่แล้ว! ฉันรู้สึกได้! การเชื่อมต่อกับสายใยอันยิ่งใหญ่…มันไม่เคยทรงพลังและบริสุทธิ์เช่นนี้มาก่อน พลังมหาศาลจากประชาชนของฉันพลุ่งพล่านไปทั่วร่างของฉัน! พลังมหาศาลขนาดที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน!!

Madame Web : หล่อนได้พลังเทียบเคียงเทพเจ้าไปแล้ว! มันเป็นเพราะฉัน…เพียงครั้งเดียวที่ฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยไม่คิดให้รอบคอบ แล้วตอนนี้…ฉันนำความพินาศมาสู่พวกเราทุกคนเสียแล้ว

คลื่นความถี่พลังจิตที่มอบพลังให้กับ Spider-man กลับส่งผลให้ The Queen ทรงพลังขึ้นอย่างมากมายมหาศาล!! สถานการณ์ได้ขมวดปมเข้าสู่จุดสุดท้ายแล้ว!!

โปรดติดตามตอนจบของ Spider-Island ได้ใน Amazing Spider-man ฉบับที่ 672!!!

15 thoughts on “Spider-Island : Amazing Spider-Man #671

  1. RedRaven

    สรุป Capt ตัวจริงสินะ

    นั่งกินสบายใจเลย

  2. NetNN Post author

    @ray007:

    ในสมัยที่ Jackal สร้างโคลนของ Peter ขึ้นมานั้น กว่าเขาจะทำสำเร็จก็ผิดพลาดอยู่หลายครั้ง โคลนตัวแรกๆจึงมักตายก่อนที่จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา จนกระทั่งเขาสามารถสร้างโคลนที่สามารถอยู่รอดจนเป็นร่างคนอย่างสมบูรณ์ได้ขึ้นมาจึงได้ตั้งชื่อโคลนคนนั้นว่า Kaine แต่ Jackal ก็พบว่า Kaine ก็ไม่ใช่โคลนที่สมบูรณ์เหมือนกัน เพราะเซลของเขาเกิดการเสื่อมสลายจนต้องใส่ชุดพิเศษที่จะระงับอาการนั้น ทำให้ Jackal สร้างโคลนออกมาอีกคนหนึ่ง ซึ่งคนนี้ทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์ และก็กลายมาเป็น Ben Railey (Scarlet Spider, Spider-man2) ในเวลาต่อมา

    หลังจบช่วง Clone Saga ฺBen ก็ได้เป็น Spider-man อยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะโดน Norman Osborn ฆ่าตายจน Peter ต้องกลับมาเป็น Spider-man อีกครั้ง ส่วน Kaine ก็แยกไปอยู่ตามลำพัง แต่ก็กลับมาช่วย Spider-man ต่อสู้กับตระกูล Kravinov ในช่วงบท Grim Hunt และก็ตายไปในตอนนั้น แต่ Jackal ที่รู้ข่าวนี้ก็ตามมาที่หลุมศพของ Kaine เพราะรู้ว่าถึงแม้ Kaine จะมีอาการเซลเสื่อมสลาย แต่เขาก็มี Healing Factor อยู่้ด้วย เขาจึงฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง Jackal จึงเอา Kaine ไปดัดแปลงเพิ่มเติมจนกลายเป็น Tarantula โดยส่วนหนึ่งเพื่อรักษาอาการเซลเสื่อมสลายให้กับเขา และเมื่อ Jackal ได้รับการทาบทามจาก The Queen ให้มาร่วมแผนการ Spider-Island เขาก็ให้ Kaine ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยและองค์รักษ์ของเขา

  3. seventoon

    kain ไรลี่ หรือเปล่าครับ

    ถ้าเป็น เคนไรลี่ผมเคยอ่านประวัติจากบงกช เป็นโคลนของสไปเดอร์แมน
    ที่ปรากฎออกมาแรกแรก แล้วเกือบจะได้เป็นตัวจริงด้วย
    จน มาร์เวลแก้เนื้อเรื่องใหม่ทีหลังให้ปีเตอร์เป็นตัวจริง ตามเดิม
    เขาเคยมีพลังพิเศษฝ่ามือพิษที่มือด้วย

    ประมาณนี้นะครับ ท่านอื่นมาเสริมต่อด้วย ผมตอบจากความจำแฮะ)

    สนุกมากเลยอ่ะครับผม
    เดอะ ควีนเมพขึ้นอีกแล้ว สนุกดีอ่ะครับ

  4. BaaMzS

    สไปเดอร์เซ็นต์กลับมาแว้ว! เก่งข้นเรื่อยๆแล้วนะไอ้หมอนี่ ;-P

  5. NetNN Post author

    @seventoon:

    ฺBen Railey กับ Kaine เป็นคนละคนกันครับ อย่างที่อธิบายไว้ข้างต้น Kaine เป็น Clone ที่สร้างขึ้นก่อนแต่ไม่สมบูรณ์ ส่วน Ben นั้นสร้างขึ้นทีหลังจึงสมบูรณ์กว่า

  6. RedRaven

    เพิ่งนึก ออก หลังจากใครจะกล้าเล่นไพ่ กับ Spidy อีกไหมนี่

  7. DOL

    อุบ๊ะ The Jacks เน่าไปซะแล้ว!!!!

    แต่เล่มนี้ Anti-Venom นี่พระเอกมว๊ากกกกกเลย คนดี๊คนดี ทั้งๆที่หน้าตาดูเล๊วเลว

    ทำให้ Kaine กลับมามีบทอีกครั้งด้วย โอ๊ววววว

  8. MISTER-Y

    เสียดายแอนตี้เวน่อมมาก ๆ เลย
    หวังว่าเอ็ดดี้จะผลิตเซลล์แอนตี้เวน่อมได้ใหม่

    เดอะ ควีนพอพาวเวอร์อัพแล้วน่ากลัวมาก

  9. dome_marvel

    นิดนึงนะครับ…..เจ้าหน้าที่ผู้หญิง คนที่โดน รีด ริชาร์ด ฉีดเซรุ่มนั่น ผมว่าน่าจะเป็น Alicia Master รึเปล่าครับ เพราะ รีด ริชาร์ด ขอร้องให้ Spider Woman ไปเอาตัวเธอมา ใน tie-in ของเค้าน่ะครับ…ทำให้เค้าเจอกับ Thing ด้วย…

    ในรูปที่ 12 ที่ รีด ริชาร์ด กำลังคุยกับ นายพลด็อดจ์อยู่ เหมือนว่า Thing จะขอร้องให้ Spider Woman ไปดูแล Alicia ด้วยนะครับ

    ปล.ถ้าไม่ใช่ ก็ขอโทดทีนะครับ…ถือเป็นความเข้าใจผิดของผมเอง ขอบคุณครับ

  10. NetNN

    @dome_marvel:

    คนที่ Reed ฉีดยาไม่ใช่ Alicia Master ครับ เพราะในภาพนั้น Reed เรียกเธอตรงๆเลยว่า Ms.Jeffrey

  11. dome_marvel

    อืม..จริงด้วยครับ ต้องขอโทดด้วย แล้ว อลิเซีย แกหายไปไหนแล้วนิ ??

  12. seventoon

    5555+ ขอโทษทีครับ

    คุณNetNN
    ตอนตอบ ตอบเสร็จรีบออกไปทำงาน เพิ่งกลับมาเช็ค
    สงสัยผมเพิ่งมึน มึน อาการแฮงค์

    ดันเอาตัวละครสองตัวมาจับประวัติกันมั่วเฉยเลยอ่ะครับ 55+

    เรื่องโคลน ซาก้าผมเคยอ่านในคำอธิบายไว้ในบงกช ของพี่Trex สมัยโน้นคิดว่า พี่เขาน่าจะเป็นคนใส่คำอธิบายไป
    ในสไปเดอร์ แมน บงกช เล่ม2 ไม่ก็ 3นี่ล่ะผมเคยซื้อเมื่อสมัยเกือบสิบปีที่แล้ว
    แต่อ่าน แล้ว ไม่รู้จักตัวละครใหม่ เลยเลิกอ่านไป

    มานั่งนึกย้อนดูแล้วแล้วอ่านในนี้เบน ไรลี่ เคยเป็นสไปเดอร์แมน รุ่น2 จริงจริงด้วย

    รู้สึ ในบงกชก้อธิบายเกี่ยวกับ ตัวเคน ไว้แล้วด้วย
    ขำตัวเองจังจับเอาสองคน มามิกซ์ประวัติซะงั้น 55+
    Thx ครับผม ^_^

  13. T.Rex

    เป็นไปได้ว่า Kain อาจจะเป็น Scarlet Spider-Man คนใหม่ที่มาร์เวลกำลังจะออก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *