DC Comic : FLASHPOINT : Deadman & the Flying Graysons 02 : Death in The Family

เรื่อง : J.T. Krul
ภาพ : Fabrizio Fiorentino
วางจำหน่าย: 20 กรกฎาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

เหล่านักรบ Amazon ที่ตามหาหมวกของ Doctor Fate อยู่นั้น ตามมาจนทันกับคณะละครสัตว์แล้ว แล้วชะตากรรมของ Deadman และครอบครับ Greyson จะเป็นเช่นไร?

เปิดเรื่องมาที่ New Themyscira (หมู่เกาะอังกฤษเดิม)

ราชินี Diana กำลังปรึกษากับ Penthesilea ผู้เป็นน้าของตน

Diana : บอกข้าหน่อยสิท่านน้าเพนเตซิเลีย…ท่านเคยคิดไหมว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป? นี่เรากำลังป้องกันตัวเองจากพวกแอตแลนติสอยู่แน่งั้นรึ? นี่เรากำลังสู้เพื่อความอยู่รอดของเราเองอยู่แน่งั้นรึ?

Diana : หรือตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็กำลังมุ่งหน้าไปสู่ความหายนะกันแน่? จากการที่ต่างฝ่ายต่างก็โดนความโกรธบังตา…ไร้ซึ่งอนาคต

Penthesilea : เจ้าไม่ควรจะปล่อยให้ความอ่อนแอของจิตใจเจ้า มาทำให้เจ้าหันเหไปจากเส้นทางที่ควรจะเดินไปนะไดอาน่า พวกแอตแลนติสมันฆ่าแม่ของเจ้า ราชินีฮิปโปลิต้าผู้เป็นที่รักของเรา พวกมันคือผู้ที่ทำลายเกาะที่เป็นบ้านเกิดของเรา

แล้ว Penthesilea ก็หันไปดูรูปปั้นที่ศรีษะของมันเป็นรูป Helm of Nabu หน้ากากที่เป็นอุปกรณ์เวทย์ของ Doctor Fate

Penthesilea : อย่ากลัวไปเลยไดอาน่า สงครามครั้งนี้จะจบลงในไม่ช้าด้วยชัยชนะของพวกเรา เมื่อเราได้หมวกเกราะแห่งนาบูมา ด้วยพลังของมัน สมดุลย์แห่งอำนาจก็จะเปลี่ยนไป และพวกแอตแลนติสก็จะถูกกำจัดไปตลอดกาล…

Penthesilea : และจากนั้นทั้งโลกก็จะต้องหวาดกลัวพลังของเรา

ตัดมาที่ เมือง Kalisz ประเทศ Poland

คณะละครสัตว์กำลังแสดงมาถึงโชว์เหิญเวหาของครอบครัว Greyson

แต่ทันใดนั้นเอง ทหารของ Amzon ก็บุกเข้ามา ทำให้ทุกคนตกลงมา
ในขณะที่ Dick และ John สามารถลงพื้นได้อย่างปลอดภัย แต่ Mary ที่ขณะเกิดการโจมตีนั้นกำลังลอยอยู่กลางอากาศ ก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนทิศทางการตกได้…

และผลของมันก็คือ…โศกนาฤกรรม

“ฉันว่ามันคงสรุปได้แล้วล่ะนะว่าโชว์มันจบแล้วน่ะ”

ขณะเดียวกันที่ด้านบน พวกมันก็เข้าเล่นงาน Deadman (Boston Brand) ที่ยังอยู่ข้างบน

แต่ด้วยความพริ้ว Deadman ก็สามารถหลบเหล่าหญิงโหดได้อย่างสวยงาม

“พวกอมาซอนนั้นออกอาละวาดไปทั่วแถบนี้มานานแล้ว จะว่าไปมันก็อยู่ที่เวลาเท่านั้น ที่เราจะเข้าไปเจอกับพวกมันเข้าแบบนี้”

“แต่ฉันก็ไม่คิดจะอยู่ดูว่าทั้งหมดนี้มันจะจบลงยังไงหรอก”

พวกสมาชิกคณะละครสัตว์ต่างก็วิ่งหนีเอาตัวรอด แต่ก็มีบางคนอย่าง Rag Doll (Peter Merkel, Jr.) ที่พยายามปกป้องเพื่อนร่วมคณะ แต่เขาก็สู้แรงเหล่า Amazon ไม่ได้

และในที่สุดพวกมันก็พบตัว Doctor Fate (Kent Nelson) ผู้ครอบครอง Helm of Nabu จนได้

Doctor Fate : พาฉันไปหาผู้นำของพวกเธอซะสิ

Amazon : ท่านเพนเตซีเลียได้บอกไว้ว่าหมวกเกราะนี้เป็นสิ่งที่มีอำนาจมหาศาล ข้าเห็นแล้ว…ข้าเห็นภาพนิมิตรของอนาคต นั่นคืออสูรร้ายตัวใหม่ของพวกแอตแลนติสงั้นรึ?

ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดมาจากข้างหลังมัน

King Shark : ไม่ใช่ภาพนิมิตรอะไรหรอกคุณผู้หญิง มันก็แค่ภาพสะท้อนเท่านั้นแหละ

ว่าแล้ว King Shark (Nanaue) 1 ในสมาชิกของคณะละครสัตว์ก็งาบ Amazon คนนั้นเข้าปากทันที

ด้วยรู้ว่าคนธรรมดาอย่างพวกเขา ถึงอยู่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ พวก Greyson ก็วิ่งนำคนอื่นๆหลบออกไปทันที

Rag Doll : เราจะทิ้งชาร์คเอาไว้แบบนั้นน่ะเหรอ?

Deadman : เราช่วยอะไรเขาไม่ได้แล้วล่ะ แล้วฉันก็ไม่คิดจะให้ชื่อในการแสดงของฉันต้องกลายเป็นชื่อจริงๆของฉันไปด้วยหรอก

Dick : พ่อครับ ทำไมพวกนั้นถึงโจมตีเราล่ะครับ? พวกมันต้องการอะไรกันแน่?

John : พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน

Dick : แล้วแม่ล่ะครับ?

John : พ่อรู้ดิค พ่อรู้ แต่ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ ลูกคอยตามพ่อมาให้ดีแล้วกัน

Rag Doll : อมาซอนนั่นพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเคนท์ ว่าเขามีของที่มันต้องการอยู่

Deadman : ถ้างั้นแล้วทำไมเราถึงมาวิ่งอยู่กับหมอนี่กันล่ะ? เราควรจะออกไปให้ห่างจากเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ไม่ใช่เหรอ

Dick : หุบปากซะที่น่าแบรนด์

Deadman : เฮ้ ฉันไม่ใช่ฮีโร่อะไรเทือกนั้นนา

Dick : เชื่อเหอะน่า เรื่องนั้นเรารู้กันดีอยู่แล้วล่ะ

Rag Doll : หยุดก่อน! มีอมาซอนอยู่ข้างหน้านั่น!

John : ไม่ใช่ นั่นไม่ใช่อมาซอน นั่นมันผู้ชายนี่นา

ที่เบื้องหน้าพวกเขา มีชายใส่ชุดสีเขียวกำลังทำอะไรบางอย่าง ซึ่งมันทำให้ทุกคนรอบข้าง รวมถึงพวก Amazon ต่างก็กุมศรีษะอย่างเจ็บปวด

Count Vertigo : เจ้าพวกอมาซอน คิดว่าเราเป็นแค่แกะที่อยู่เฉยรอให้พวกแกมาเชือดงั้นเรอะ แกไม่มีทางได้ตัวเขาไปหรอก

Amazon : เราแค่ต้องการหมวกของมันเท่านั้น เราไม่ต้องการตัวมันหรอก

ทันใดนั้น Amazon ก็พุ่งหอกมาเสียบร่างของ Doctor Fate และมันยังทะลุมาโดน John ด้วย

Dick : พ่อ?!

Dick : ไม่!!!!!

Rag Doll : หอกนั่นมันเสียบทะลุตัวเขาไปเลย

Deadman : เคนท์ ผะ…แผลนายมันดูแย่มากเลย

Doctor Fate : ฉันรู้ ฉันไม่ควรจะต้องมาอยู่ที่นี่…ตั้งแต่แรกแล้ว

แล้ว Doctor Fate ก็ถอดหมวกของเขาออก

Doctor Fate : บอสตัน แบรนด์….

Deadman : อะไรงั้นหรือเคนท์?

Doctor Fate : …ฉันมองทะลุผ่านตัวนายได้นะ

พูดคำพูดที่เป็นปริศนาเสร็จ Doctor Fate ก็สิ้นใจ

Dick : นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?

ชายชุดเขียวลากเอาร่างของ Doctor Fate มานั่งพิงผนังเอาไว้แล้วเอา Helm of Nabu มา

Count Vertigo : นี่คือสงครามไง พวกนายมัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมากันล่ะ?

Dick : คุณเป็นใครกันน่ะ?

Count Vertigo : ฉันชื่อเวอร์ติโก้ ฉันอยู่กับพวกขบวนการต่อต้านที่สู้กับนังแม่มดพวกนี้อยู่

Count Vertigo : ว่าไปแล้ว ควรจะหลบไปให้พ้นก่อนดีกว่า ตอนนี้พวกมันบินวนอยู่ทั่วท้องฟ้าแล้วนี่

(Count Werner Vertigo ใน Time-Line หลักเป็นตัวร้ายที่ภายหลังหันมาทำงานให้กับรัฐบาลอเมริกา ในทีม Suicide Squad ของ Amanda Waller เขามีพลังเวทย์มนต์บินได้ และสามารถทำให้ความรับรู้ทิศทางของคนที่อยู่รอบๆตัวเขาสับสนได้)

Rag Doll : ให้เราไปกับคุณด้วยเถอะ

Count Vertigo : นายพูดยังกับฉันมีทางหนีเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วงั้นแหละ แต่โทษทีนะที่มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก

Dick : คุณไม่มีทางเลือกหรอก เพราะยังไงเราก็จะไปกับคุณอยู่ดี

Deadman : แล้วเราจะไปที่ไหนกันล่ะ?

Count Vertigo : ก็ทำอย่างที่ทหารที่ดีทุกคนจะทำเวลาที่เสียเปรียบ ไปหาที่ซ่อนไงล่ะ

ว่าแล้วพวกเขาก็หลบลงไปอยู่ในท่อระบายน้ำ

Deadman : นี่จะมีใครบอกฉันได้ไหมเนี่ยว่านี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นน่ะ?

Deadman : ทำไมพวกอมาซอนถึงได้สนใจจะเล่นงานคณะละครเร่แบบนี้น่ะ?

Count Vertigo : ก็ไม่แน่ใจหรอกนะ ฉันตามรอยพวกอมาซอนนี้มาได้พักหนึ่งแล้ว และพวกมันก็ดูจะสนใจหมวกใบนี้มากทีเดียว

Rag Doll : แล้วขบวนการต่อต้านส่งคุณมาคนเดียวเนี่ยนะ คุณจับฉลากพลาดมาหรือไงกันล่ะเนี่ย?

Count Vertigo : ฉันอาสามาเอง เมื่อก่อนฉันเคยเป็นเคาน์ มีครอบครัว มีประเทศ แต่สงครามของพวกอมาซอนกับแอตแลนติสมันพรากทุกอย่างไปจากฉัน

Count Vertigo : แต่ดูท่าพวกนายบางคนก็คงเข้าใจความรู้สึกนั้นอยู่น่ะนะ

Dick : ตอนนี้เลือดหยุดไหลแล้ว แต่เราต้องพาพ่อไปโรงพยาบาลนะครับ

John : ขะ…ขึ้นไปไม่ได้นะ มันอันตรายเกินไป

Dick : แต่พ่อกำลังจะตายนะครับ

John : พ่อไม่เป็นไรหรอกลูก ให้พ่อพักซักหน่อยก็พอ

Rag Doll : ขบวนการต่อต้านของคุณมันใหญ่สักแค่ไหนหรือ? แล้วมันจะสู้กับพวกอมาซอนได้จริงๆแน่นะ?

Count Vertigo : เรามีจำนวนน้อย แต่เราก็แข็งแกร่ง มีข่าวจากทางอเมริกาว่าขาใหญ่ของที่นั่น…ไซบอร์ค…กำลังรวบรวมกำลังพลอยู่ เราจะโจมตีพวกมันให้หนักกว่าที่เคยทำมา และบางทีเราอาจสามารถชนะสงครามบ้าๆนี่ก็เป็นได้

Count Vertigo : ซึ่งนั่นก็ยิ่งเป็นเหตุผล ให้เราต้องปกป้องหมวกใบนี้จากพวกอมาซอนมากยิ่งขึ้นด้วย

Dick : ถ้าคุณมีทางที่จะหนีไปจากที่นี่ พาเราไปกับคุณด้วยสิ

Deadman : ช่างเขาเหอะน่า ฉันว่าให้เขาเอาหมวกของเคนท์ไปซะ พวกอมาซอนก็จะตามเขาไป แล้วก็เลิกยุ่งกับเรา

เมื่อได้ยินดังนี้ Dick ก็ซัด Deadman เข้าให้ จน Rag Doll ต้องเข้ามาห้าม

Deadman : เป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย?

Dick : นายว่าให้มันเลิกยุ่งกับเรางั้นเหรอ?

Dick : แม่ฉันนอนตายอยู่ใต้ซากของเต้นท์ละครสัตว์โน่นนะ และพ่อของฉันก็เจ็บใกล้ตายอยู่ด้วย ฉันโดนดึงเข้าร่วมกับเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว พวกเราทุกคนนั่นแหละ เราแค่หลอกตัวเองมาตลอดเท่านั้นแหละว่าเราไม่เกี่ยวข้อง

Dick : ว่าไปแล้วทำไมฉันต้องมาเสียเวลาพูดกับนายด้วย? ก็ในเมื่อนายมันก็ไม่ผิดอะไรกับคนตายอยู่แล้วนี่

หลังจากนั้น

เมื่อทุกคนหลับไปแล้ว John ก็เรียกปลุก Deadman

John : บอสตัน…

Deadman : นายต้องการอะไรงั้นหรือ? อยากให้ฉันปลุกดิคให้ไหม?

John : ไม่หรอก ฉันต้องการจะพูดกับนาย

John : ฉันรู้ว่านายอยู่คนเดียวมาตลอด นายเข้มแข็งพอจะทำแบบนั้นได้ แต่ดิคไม่เหมือนนาย เขาต้องการผู้คนอยู่ข้างๆเขา

John : นายจะต้องอยู่กับเขา ต่อไปนี้เขาจะต้องการนายแล้ว นายต้องสัญญานะ

Deadman : แต่ฉัน…

John : สัญญากับฉันสิ ว่านายจะไม่ทอดทิ้งเขา

John : ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

ที่ด้านบน พวก Amazon ก็ยังคงตามหาพวก Dick อยู่

Amazon1 : ข้าเบื่อที่จะตามหาพวกมันแล้ว จากที่ท่านเพนเตซีเลียว่าไว้ หมวกใบนั้นไม่มีทางทำลายได้

Amazon2 : ถ้างั้นก็ใช้วิธีเหมือนกับการหาเข็มในกองฟางงั้นสิ…ง่ายๆอยู่แล้ว ก็แค่เผากองฟางให้หมดก็สิ้นเรื่อง

Amazon2 : เผามันให้ราบให้หมดไปเลยสตาร์ไฟร์

(Starfire (Koriand’r) ใน Time-Line หลักเป็นเจ้าหญิงจากต่างดาวที่เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของ Teen Titans ซึ่งการที่คนเขียนเลือกเธอมาใช้ในเล่มนี้ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ เพราะใน Time-Line หลักนั้น เธอกับ Dick เคยเป็นคนรักกัน แถมยังถึงขั้นจะแต่งงานกันเลยทีเดียว แต่เพราะงานแต่งดันล่มเสียก่อนเลยทำให้ต้องเลิกรากันไป)

โปรดติดตามตอนต่อไป