DC Comic : FLASHPOINT : Deathstroke & The Curse of The Ravager 01 : The Men of The Sea

เรื่อง : Jimmy Palmiotti
ภาพ : Joe Bennett, John Dell
วางจำหน่าย: 8 มิถุนายน 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

โจรสลัด Slade Wilson ท่องไปทั่วเจ็ดคาบสมุทรเพื่อตามหา “สมบัติ” ที่สูญหายไปของเขา แต่ในตอนที่เขาเกือบจะได้มันกลับมา เขากลับต้องมาพบกับอุปสรรคที่ไม่มีทางผ่านไปได้มาขวางกั้น!!

เปิดเรื่องมาที่กลางทะเลแห่งหนึ่ง ที่มีศพลอยระเกะระกะ และที่ด้านหลังก็มีเรือที่กำลังลุกไหม้พร้อมๆกับค่อยๆจมลงในทะเล

ท่ามกลางซากศพที่ลอยอยู่ทั่ว มีชายคนหนึ่งที่ยังยื้อชีวิตตัวเองไว้ได้อย่างอ่อนล้าเต็มทีอยู่

“โลกนี้กำลังอยู่ในภาวะสงคราม พวกอมาซอนเข้ายึดครองสหราชอาณาจักร ส่วนพวกแอตแลนติสก็จมทวีปยุโรปลงไปใต้ทะเล และทำให้คนตายไปนับล้าน”

“ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย และความหวาดกลัวที่มีต่อสงคราม และการเปลี่ยนแปลงของเขตอำนาจที่มาจากสภาพการณ์ของโลกในตอนนี้ ได้กลับกลายเป็นโอกาสทอง ของเหล่าผู้ที่ไม่เลือกที่จะเข้ากับฝ่ายไหนเลยสักฝ่าย”

“มันคือโอกาสที่ดีเยี่ยมของเหล่าโจรสลัดสายพันธ์ใหม่ ที่มีพลังเหนือมนุษย์ ที่จะถือโอกาสใช้ประโยชน์จากสถานการณ์…ที่จะหาเศษหาเลยจากผลของสงคราม และหาประโยชน์จากความทุกข์ยากของผู้อื่น”

“มีคนเคยพูดว่าคนตายพูดไม่ได้…นั่นไม่จริงเลยสักนิด”

ย้อนไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน

โจรสลัด Deathstroke (Slade Wilson) กำลังท่องไปด้วยเรือโจรสลัด Ravager ของเขา

(Slade Wilson ใน Timeline หลักคือนักฆ่าที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของจักรวาล DC เป็นคู่ปรับตลอดกาลกับ Dick Greyson มาตั้งแต่เป็น Robin และก็คอยทำตัวเป็นศัตรูกับทีม Teen Titans มาตลอด และยังตั้งทีมนักฆ่า Titans ของตัวเองขึ้นมาด้วย แต่ที่น่าสนใจคือ ลูกสาวของเขา Rose Wilson (Ravager) กลับเป็น 1 ในสมาชิกปัจจุบันของ Teen Titans)

Slade : เห็นอะไรบ้างล่ะบริกก์?

Briggs : ที่ด้านหน้า…ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือของวอร์ลอร์ด…เป็นเรือสกาทาริส เรืออันดับสองของกองเรือของเขาครับกัปตัน

Slade : แล้วอะไรอีก…

Briggs : แล้วก็ดูเหมือนว่าตัววอร์ลอร์ดจะเป็นคนสั่งการอยู่บนเรือด้วยตัวเอง

Slade : นั่นหมายความว่ามีของมีค่ามากอยู่ข้างในนั้น สั่งทุกคนให้เตรียมพร้อมเดี๋ยวนี้!

ที่บนเรือฝ่ายตรงข้าม Warlord ผู้เป็นหัวหน้ากองเรือก็สั่งลูกเรือของตัวเองเตรียมพร้อมเช่นกัน

“พวกเราเคยสู้กันมาแล้ว และฉันก็นับถือศัตรูคนนี้อยู่ ฉันศึกษาวิธีการต่อสู้ของเขามาเป็นอย่างดี และฉันก็สอนสิ่งที่รู้มาให้ลูกเรือของฉันรู้ด้วย เพราะว่ามันจะเป็นข้อได้เปรียบของฝ่ายเรา”

“นั่นคือเขาจะไม่เป็นฝ่ายยิงก่อนแน่นอน ซึ่งฉันก็ยินดีที่จะทำตามแบบที่เขาต้องการ”

Slade : เอาเลยทุกคน! ให้มันได้รับรู้ความกลัวให้เต็มที่เลย! แล้วก็ลงมือได้เลยบริกก์!

Briggs : ครับกัปตัน

“บริกก์เป็น 1 ในลูกเรือไม่กี่คนของฉันที่เป็นพวกมีพลังเหนือมนุษย์”

“เขาแชร์ร่างของเขากับน้องสาวฝาแฝด ผู้ซึ่งสามารถทำสิ่งที่น่าทึ่งได้หลายอย่าง แต่มันก็มีข้อเสีย ตรงที่มันทำให้บริกก์ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลยขณะใช้พลัง”

“แต่ที่ฉันต้องการก็แค่ให้น้องสาวเขาทำเรื่องง่ายๆ อย่างการยืนยันบางอย่างให้ฉัน”

Briggs : กัปตันครับ ในนั้นมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในถังจำศีลแช่แข็งอยู่ครับ!

Slade : นั่นต้องเป็นเธอแน่! งั้นก็เลิกเล่นกันได้แล้ว! ขึ้นไปบนเรือของมันกันเลย!

ว่าแล้วกลุ่มโจรสลัด Deathstroke ก็กระโดดข้ามมาที่เรือของ Warlord

Slade : อย่าให้มันรอดไปได้แม้แต่คนเดียว

Warlord : ขอต้อนรับขึ้นเรือของฉันว่ะกัปตัน!

Slade : แกมีของที่ฉันต้องการอยู่ วอร์ลอร์ด!

Warlord : และแกก็มีของที่ฉันต้องการอยู่เหมือนกัน…ชีวิตแกไง!

ขณะที่กัปตันทั้งสองดวลดาบกันตัวต่อตัว Briggs ก็นำทีมบุกลงใต้ท้องเรือ

Warlord : แกไม่รู้ตัวเลยสินะว่าแกน่ะแพ้ไปแล้ว!

Slade โดนไปแผลหนึ่ง แต่ก็เอาคืนได้ทันที

Slade : จริงง่ะ? ฉันไม่ยักกะรู้ว่ะ

ด้วยความพริ้วที่เหนือกว่า Slade เอาดาบเสียบแขนของ Warlord จนร้องลั่น แต่เมื่อ Warlord จะโต้กลับ Slade ก็ใช้ความพริ้วหลบไปอีกครั้ง ทำให้ Warlord พลาดไปโดนตัวประกอบโชคร้ายคนหนึ่งแทน

Briggs : กัปตันครับ เราได้ของมาแล้ว!

Slade : แล้วจับเชลยมาด้วยหรือยัง?

Briggs : เรียบร้อยครับ!

Slade : ดี! ทุกคนกลับไปที่เรือของเราได้แล้ว!

ว่าแล้ว Slade ก็ถีบ Warlord กระเด็นไป แล้วข้ามกลับไปที่เรือตัวเอง

Slade : ไว้เจอกันใหม่นะ ศัตรูที่เคารพของฉัน

เมื่อกลับไปถึงเรือ Slade ก็สั่งให้ Icicle ลูกน้องที่มีพลังน้ำแข็งของเขาแช่แข็งเรือของ Warlord ทันที

แต่ตัว Warlord นั้นสามารถหนีไปได้ ซึ่ง Slade ก็พอใจที่เป็นเช่นนั้น เพราะเขาอยากชนะ Warlord ขณะที่อยู่บนเรือหลักของเขามากกว่า

“ฉันปล่อยให้พวกลูกเรือได้ฉลองชัย ชัยชนะเล็กๆแบบนี้มันดีต่อขวัญกำลังใจของพวกนั้น…แต่ฉันมีธุระสำคัญกว่ารออยู่ที่ใต้ท้องเรือ”

เขาเข้าไปในห้องกัปตัน ซึ่งลูกน้องเขาเอาแค็ปซูลจำศีลแช่แข็งมารอไว้แล้ว

“รหัสเปิดมันไม่ยากจนเกินไปนัก ขอให้เป็นเธอเถอะ…”

แต่เมื่อเขาเห็นหน้าของเด็กสาวที่อยู่ในแค็ปซูล…

Slade : อะไรเนี่ย?

Slade : นี่มันใครกัน?

Slade : นี่ไม่ใช่โรสลูกสาวฉัน!

(หมายถึง Rose Wilson ลูกสาวของ Slade ใน Timeline หลักเธอไม่ถูกกับพ่อเธอ และไปเป็นสมาชิกของ Teens Titan เธอมีพลังที่สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าไปหลายวินาทีได้)

“ข้อมูลบอกว่าเด็กคนนี้ชื่อเจนนี่ บลิธซ์ เป็นพวกมีพลังเหนือมนุษย์ที่สามารถทำให้ของต่างๆระเบิดได้ น่าคิดว่าเธอเกี่ยวข้องอะไรกับฮิวแมนบอมม์หรือเปล่า”

“แต่ยังไงซะ นี่ก็ไม่ใช่โรสของฉัน”

ขณะที่ Slade กำลังนั่งคิดอยู่ Briggs ก็เอาเชลยเข้ามาคนหนึ่ง

Slade : แกเคยมีเด็กสาวที่ชื่อโรส วิลสันอยู่บนเรือของแก ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?

เชลย : ฉันไม่กลัวแก และฉันก็ไม่กลัวตายด้วย…ดังนั้นแกอย่ามาเปลืองน้ำลายเลย

Slade : ก็แล้วใครบอกว่าฉันจะฆ่าแกกันล่ะ?

Slade : แกจะบอกทุกอย่างที่ฉันอยากรู้ และในตอนที่ฉันเสร็จธุระกับแก แกนั่นแหละจะเป็นฝ่ายขอให้ฉันฆ่าแกซะ

Slade : พวกแกสองคนออกไปได้แล้ว แล้วก็อย่าลืมปิดประตูด้วยล่ะ

เมื่อสิ้นคำสั่งของกัปตัน ลูกเรือทั้งสองก็รีบออกไปทันที

Briggs : ฉันเกือบจะรู้สึกแย่กับเจ้าโง่ที่น่าสงสารนั่นนะ

Icicle : แค่เกือบๆนะ

เมื่อทั้งสองคนคล้อยหลังไป ก็มีเสียงร้องโหยหวลดังออกมาจากห้องของ Slade พร้อมกับที่เลือดกระเซ็นไปเปื้อนประตู

ภายหลังจากนั้น พวกลูกเรือก็เตรียมทำพิธีศพให้กับพรรคพวกที่ตาย ซึ่งสำหรับพิธีกรรมที่สำคัญแบบนี้กัปตันอย่าง Slade ก็ขึ้นมาร่วมด้วย

(โดยไม่ลืมลากเชลยผู้ซึ่งตอนนี้ไม่เหลือนิ้วเลยสักนิ้วมาด้วย)

Briggs : ว่าแต่ได้เรื่องที่ต้องการหรือเปล่าล่ะครับกัปตัน

Slade : เจ้านั่นบอกทุกเรื่องที่มันรู้ออกมาจนหมดเลยล่ะ

Slade : ตั้งเข็มไปที่เซนต์เฮเลน่า เราจะไปหาลูกเรือใหม่พร้อมกับไปปล่อยตัวโรส ลูกสาวของฉัน และซ่อมบำรุงเรือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรือลำนี้มันโทรมเต็มทีแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็ไปเรียกฉันที่ห้องแล้วกัน

“เมื่อคิดถึงสงครามระหว่างพวกอมาซอนกับแอตแลนติส ใครจะนึกว่าพวกนั้นสามารถจมยุโรปตะวันตกลงไปในทะเลได้? จะว่าไปก็คงเหมือนกับที่คงไม่มีใครคิดว่าฉันกับวอร์ลอร์ดจะกลายมาเป็นโจรสลัดที่โด่งดังและน่าสะพรึงกลัวที่สุดในทะเลนี้นั่นแหละ”

“โรส…ลูกพ่อ…”

“พ่อจะหาลูกให้พบ…”

Slade : …และเมื่อพ่อหาลูกพบ ก็ขอให้พระเจ้าทรงเมตตาต่อวิญญาณของเจ้าพวกที่มันบังอาจมาพรากลูกไปจากพ่อด้วยแล้วกัน

เมื่อมาถึงที่หมาย Slade ก็พาลูกน้องลอบเข้าไป

เขามาถึงห้องเจ้าหน้าที่ และถามสิ่งที่ต้องการรู้ทันที

Slade : บอกฉันมาว่านักโทษหญิงที่ชื่อโรส วิลสันถูกขังเอาไว้ที่ไหน?

Guard : ธะ…เธอถูกขังอยู่ในบล็อค 7 ร่วมกับพวกมีพลังเหนือมนุษย์คนอื่นๆ แต่เธอ…เพิ่งถูกย้ายไปเมื่อวานซืนนี้เอง…

Slade : ไปที่ไหน?

Guard : หะ…ห้องทดลองผู้มีพลังเหนือมนุษย์ในนะ..นอร์เวย์…นั่นคือทั้งหมดที่ผมรู้แล้ว ผมสาบานได้

Slade : เออ ฉันเชื่อแก บ้าเอ๊ย!

ว่าแล้ว Slade ก็โยนผู้คุมทิ้งอย่างไม่ปราณีปราศัย

Briggs : กัปตันครับ ผมได้พิกัดตำแหน่งมาแล้ว แต่ว่า เอ่อ ก่อนหน้านี้คุณพูดถึงการหาลูกเรือใหม่มาเพิ่มใช่ไหมครับ?

Slade : ใช่แล้ว

Slade : จัดการเจ้าพวกนี้ให้เรียบร้อยแล้วตามฉันมาที่บล็อค 7 ฉันจะให้ข้อเสนอที่ไม่มีทางปฏิเสธได้กับพวกมัน

Slade : พวกแกส่วนใหญ่คงรู้ว่าฉันเป็นใคร และต้องเคยได้ยินชื่อของเดอะราเวเจอร์ เรือของฉันด้วย วันนี้ฉันมาเพื่อมอบข้อเสนอครั้งหนึ่งในชีวิตให้กับพวกแก ฉันกำลังมองหาคนที่ไว้ใจได้สักจำนวนหนึ่ง เพื่อมาเป็นลูกเรือกลุ่มใหม่ของฉัน และฉันขอบอกตามตรงว่างานหนักแน่ และมันไม่เหมาะกับคนที่ร่างกายหรือจิตใจอ่อนแอ

Slade : จงสาบานตนว่าจะซื่อสัตย์กับฉัน และฉันจะให้พวกแกได้กินอาหารจนอิ่ม มีห้องส่วนตัวให้นอน และฉันจะแบ่งทุกสิ่งที่เราหามาได้ในการผจญภัยร่วมกัน เราจะใช้ประโยชน์จากสงครามที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรป เพื่อปล้นเรือ และกู้ของมีค่าจากเมืองที่จมอยู่ใต้น้ำให้มากที่สุดที่จะมากได้

เมื่อ Slade พูดจบ เขาก็ไปขอคำตอบจากพวกนักโทษ ซึ่งพวกนั้นก็ตอบมาแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย

แล้ว Slade ก็ได้ลูกเรือใหม่มากลุ่มใหญ่

“ช่าย ก็คงไม่มีใครโง่พอจะปฏิเสธข้อเสนอของฉันหรอก”

“เรือลำนี้คือบ้านของฉัน”

“ฉันรู้ว่าคนส่วนใหญ่ในเรือลำนี้คิดจะเชือดคอฉันทันทีที่มีโอกาส ซึ่งฉันก็ไม่สนใจเท่าไหร่นัก เพราะฉันเข้าใจว่านั่นก็คือวิถีทางของโจรสลัดอยู่แล้ว
“พวกมันเป็นเหล่าวิญญาณหลงทางที่ต้องการจะหาจุดหมายในชีวิต ซึ่งฉันก็ยินดีที่จะมอบเป้าหมายเล็กๆสำหรับตอนนี้ให้กับพวกมัน”

“ตอนนี้ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อเป้าหมายเดียว…และมันก็ไม่เกี่ยวกับเงินตรา,อัญมณี หรืออำนาจ”

“ลูกสาวของฉันคือชีวิตของฉัน ฉันจะตามหาโรสลูกฉันให้พบและเราก็จะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง…แต่ฉันกลับรู้สึกว่าเวลามันเหลือน้อยเหลือเกิน”

ขณะที่ Slade กำลังนั่งคิดอยู่ Briggs ก็มาเคาะประตูเรียก

Briggs : กัปตันครับ ขอเข้าไปได้ไหมครับ?

Slade : มีอะไรงั้นรึ?

Briggs : จากทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป เราจะเข้าไปในเขตน่านน้ำอันตรายในตอนรุ่งสางครับ

Slade : ถ้างั้นฉันก็ขอแนะนำให้นายไปหาอาหารกินให้อิ่ม และไปนอนพักผ่อนให้เต็มที่ซะ

เช้ามืดวันนั้น ที่อดีตนคร Paris เมืองหลวงของฝรั่งเศส

ใครบางคนมองเห็นการมาถึงของเรือ Ravager

เป็นจักรพรรดิแห่งท้องทะเล Aquaman (Arthur Curry) กับ Ocean Master (Orm Marius)

Aquaman : เจ้าเห็นเหมือนที่ข้าเห็นไหม? นั่นไง…ตรงเส้นขอบฟ้านั่น

Ocean Master : ใช่แล้วท่านพี่ มีเรือมาอีกลำ ที่กราบเรือเขียนไว้ว่า “ราเวเจอร์”

Ocean Master : เรือของเดธสโตร์คกับกลุ่มโจรกระจอกของมัน

Ocean Master : ท่าทางพวกมันจะยังไม่เห็นเรือของเจ้าวอร์ลอดนะ

ว่าแล้ว Aquaman กับ Ocean Master ก็กระโจนลงน้ำไป

และขึ้นไปบนเรือของ Slade

“ทำไมถึงต้องมาเจอเจ้านี่ด้วย…ทั้งที่ฉันเกือบจะถึงจุดหมายแล้วแท้ๆ…”

Aquaman : เห็นได้ชัดว่าแกไม่ใช่พวกเดียวกับวันเดอร์วูแมนกับพวกอมาซอนของมัน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าแกไม่ใช่ศัตรูของเรา ว่างั้นไหมโอเชี่ยนมาสเตอร์

Ocean Master : ถูกแล้ว ท่านพี่

Aquaman : ข้าจะไม่ให้พวกแกรอดไปได้แม้แต่คนเดียว

ทั้งที่อีกนิดเดียว Slade ก็จะไปถึงที่ๆลูกสาวเขาอยู่แล้วแท้ๆ แต่เขากลับต้องมาโดนจู่โจมโดยจักรพรรดิทรราชแห่งท้องทะเล!

ชะตากรรมของ Slade จะเป็นเช่นไร? : โปรดติดตามตอนต่อไป