Brightest Day : Green Arrow #9

Brightest Day : Green Arrow Vol.9 : ป่าแห่งดวงดาวที่ถูกความมืดคุกคาม

เรื่อง : J.T. Krul
ภาพ : Diogenese Neves, Vincente Cifuentes, Oclair Albert
วางจำหน่าย: 23 กุมภาพันธ์ 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

การปรากฎตัวของปีศาจจากนรก Erigan The Demon ได้นำความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงมาสู่ป่าแห่งดวงดาวนี้ และมันก็เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง!

“เรื่องราวบางเรื่องนั้นเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้วจริงๆ อย่างเรื่องราวนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยของกษัตริย์อาเธอร์”

“คาเมลอตกำลังโดนโจมตีโดยจอมเวทย์หญิง มอแกน เล เฟยฺ ซึ่งกองทัพของเธอเข้าบดขยี้อาณาจักรนี้จนมันเกือบจะพินาศไป”

“เมื่อ เห็นว่ายุคสมัยของเขากำลังจะจบลง จอมเวทย์เมอร์ลินได้ใช้คาถาลับในหนังสือเวทย์แห่งนิรันดร์ของเขา เพื่อปลดปล่อยพลังแห่งนรกออกมาเพื่อพลิกสถานการณ์ของสงครามนี้”

“และนี่ก็คือเหตุผลที่ปีศาจร้ายเอทริกันขึ้นมาบนโลกนี้”

“มันทั้งโหดเหี้ยมและอันตรายถึงตาย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ มันทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม

“กองทัพของมอแกน เลอ เฟย์ถูกพิชิตลง กระนั้นคาเมลอตก็ยังล่มสลายอยู่ดี”

“แต่ ตอนนี้เมอร์ลินมีปัญหาใหญ่กว่านั้นให้รับมือ นั่นก็คือเอทริกันนั่นเอง ด้วยว่าเขาไม่อาจปล่อยให้เจ้าปีศาจร้ายอาละวาดตามใจชอบอยู่บนโลกได้”

“จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่จึงเรียกตัวอัศวินคนหนึ่งของอาเธอร์มา เขาก็คือเจสัน บลัด”

“เมอร์ลินรวมวิญญาณของทั้งสองเข้าด้วยกัน เจสันได้กลายมาเป็นที่คุมขังเอทริกัน แต่เอทริกันก็เป็นที่ขุมขังเจสันเช่นกัน”

“แต่นั่นมันกลายเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว เพราะตอนนี้ป่าแห่งนี้ได้แยกพวกเขาให้เป็นอิสระจากกันแล้ว”

“และเจสันกับเอทริกัน ก็รอเวลาที่จะได้จัดการกับอีกฝ่ายด้วยมือตัวเองมานานแสนนานแล้ว”

ที่ป่าใน Star City

ตอน นี้ Green Arrow (Oliver Queen), Galahad และ Jason Blood กำลังเผชิญหน้ากับ Etrigan The Demon และในฉากหลังมีคนอีกผู้หนึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ เขาก็คือผู้พเนจรจากต่างมิติผู้ลึกลับ Phantom Stranger

เมื่อสบโอกาส Galahad ก็เข้าสนับสนุน Jason และเอาดาบเสียบหลังของ Etrigan

Galahad : ตายซะ! เจ้าปีศาจร้าย! กลับไปสู่นรกที่แกจากมาซะ!

แต่ แค่นั้นย่อมไม่อาจทำให้จอมปีศาจถึงตายได้ มันหันมาพ่นไฟหมายจะเผาอัศวินแห่งป่าให้กลายเป็นเถ้า แต่เคราะห์ดีที่ Oliver ช่วยเขาไว้ทัน

แล้ว Oliver ก็หันไปหา Phantom Stranger

Oliver : แล้วนายจะเอายังไงล่ะแฟนธ่อม สเตรนเจอร์? นายจะเข้ามาร่วมสู้กับเราหรือจะยืนดูอยู่ห่างๆเหมือนเคยกันล่ะ?

เมื่อนักพเนจรไม่ตอบ Oliver นั่นก็ตอบคำถามของ Oliver ไปในตัวแล้ว

Oliver : ก็กะไว้แล้วล่ะนะ

ขณะที่ Oliver กับ Galahad เข้าสู้กับ Etrigan ต่อ Phantom Stranger ก็พูดขึ้น

Phantom Stranger : มีลางบอกเหตุปรากฎขึ้นบนดวงอาทิตย์…และดวงจันทร์…และในป่าแห่งนี้ ผืนแผ่นดินกำลังทุกข์ทรมาณอย่างแสนสาหัส มีความโกรธแค้นอันเกินจะทานทนมุ่งเป้าสู่เหล่าผู้คน”

Phantom Stranger : ความกลัวเข้าครอบงำหัวใจของผู้คน…และวันแห่งความพินาศก็คืบคลานเข้ามา

Phantom Stranger : ศึกนี้เป็นของเจ้า นี่คือความมืดที่เจ้าต้องเผชิญหน้ากับมัน

Oliver : ลองบอกอะไรที่เรายังไม่รู้บ้างก็ได้นะ

Galahad : เมื่อกี้ใครกันน่ะ?

Oliver : นั่นคือแฟนธ่อม สเตรนเจอร์ และนายก็เพิ่งจะเห็นสิ่งที่หมอนั้นถนัดที่สุด…จู่ๆก็โผล่มา พูดอะไรเป็นปริศนา แล้วก็จู่ๆก็ไป ทิ้งให้เราคิดหาความหมายของสิ่งที่หมอนั้นพูด ยังกับว่าเราว่างนักอย่างนั้นแหละ

อีกด้านหนึ่ง Jason Blood กำลังต่อสู้กับ Etrigan

Jason : ฉันไม่กลัวแกหรอกเอทริกัน แกลืมไปว่าปีศาจอย่างแกไม่มีอำนาจใดๆเหนือฉัน เมื่อตอนที่เราเชื่อมต่อกันอยู่ มือฉันก็เหมือนถูกมัด…อยู่กับแก แต่ตอนนี้ฉันสามารถจะจัดการแกได้แล้ว และจะลบล้างสัญญาปีศาจที่เมอร์ลินทำไว้กับแกเมื่อหลายร้อยปีก่อนเสียที”

Etrigan : บลัด เจ้าโง่เอ๋ย เมอร์ลินมันฆ่าแกไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว มันรู้ว่ายังไงข้าก็จะต้องหนีได้ ข้าฉลาดเกินกว่าที่มันจะรับมือไหว ข้ามีความมุ่งมั่นและข้าก็หาทางจนพบ และคราวนี้ข้าก็จะส่งแกสู่นรกไปชั่วนิรันดร์

Jason : แกลืมไปอีกอย่างนะเอทริกัน…นรกน่ะมันคือบ้านของแก

Jason : ไม่ใช่ของฉัน

Jason ยิงพลังใส่ Etrigan ซัดเจ้าปีศาจร้ายลอยละลิ่วไป และรากไม้ก็เข้ารัดตัวมันไว้อีกด้วย

Galahad : ป่าแห่งนี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าปีศาจ เห็นไหมว่ามันต่อต้านเจ้าขนาดไหน สำหรับที่นี่แล้วเจ้ามันก็แค่วัชพืช

Oliver : สู้ในถิ่นตัวเองมันดีอย่างนี้นี่เองนะ

แต่ทันใดนั้นทั้งสามก็ต้องพบกับความประหลาดใจ จู่ๆรากไม้ที่พันตัว Etrigan ไว้ก็เหี่ยวแห้งและลุกเป็นไฟ

Galahad : ดูนั่นสิ ต้นไม้เหล่านั้น กำลังตายไป

Oliver : เอทริกันมันทำอะไรลงไปน่ะ

Jason : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยเห็นมันทำอะไรแบบนี้มาก่อน

ตอนนั้นเองร่างของ Etrigan ก็เปลี่ยนไป…

Etrigan : แน่นอนอยู่แล้วล่ะบลัดเอ๋ย จงดูพลังอำนาจที่แท้จริงนี้ให้ดี

Etrigan : รากเหง้าที่ถูกลืมไปเนิ่นนานเอ๋ย…เรามาพบกันแล้ว ที่นี่ไม่มีการปลดเปลื้องบาปอยู่หรอก มีแต่ความน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น

Etrigan : มันคือจุดจบของเจ้า…

Etrigan : มันคือสิ่งที่จะทำลายเจ้า!

ร่างของ Etigan ขยายขนาดขึ้น ผิวของมันเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ไฟลุกท่วมร่างของมัน

มันกลายเป็นสิ่งที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง!

และราวกับจะตอบรับกับพลังของปีศาจร้าย มีต้นไม้สีดำสนิทจำนวนมากงอกขึ้นมาจากพื้นป่า

Oliver : นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ?

Galahad : เป็นเพราะความชั่วร้ายของเจ้าปีศาจนั่น หัวใจสีดำสนิทของมันคือพิษร้าย

Jason : มันกำลังแพร่พิษนั่นสู่ป่าทั้งป่าเลย

ที่ภายนอกป่า ต้นไม้สีดำก็งอกขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน มันเข้าเล่นงานเหล่าผู้คนที่อยู่รอบๆ

รวม ทั้งคณะนักวิจัยที่นำโดย Doctor Midnite (Pieter Cross) และ Mister Terrific (Michael Holt) สองฮีโร่นักวิจัยจาก Justice Society of America

ซึ่งมันโจมตีแม้แต่ผู้ที่มีพลังสามารถควบคุมพืชอย่าง Poison Ivy อีกด้วย

ซึ่งก็โชคดีที่ Doctor Midnite และ Mister Terrific มาช่วยไว้ทัน

Mister Terrific : เป็นอะไรไปล่ะไอวี่? ฝีมือตกแล้วหรือไง?

Poison Ivy : ป่าแห่งนี้ มันเงียบสนิท ปกติเมื่อฉันสัมผัสกับแมกไม้ฉันจะได้ยินเสียงของชีวิต รู้สึกถึงพวกมัน

Poison Ivy : แต่เมื่อกี้ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย…

Poison Ivy : …ที่ฉันรู้สึกมีเพียงความมืด

ที่ภายในป่า พวก Oliver ก็กำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะพลังของ Etrigan ที่เพิ่มขึ้นนั้น ร้ายกาจอย่างมาก

Oliver : เจ้านี่มันเป็นสัตว์เลี้ยงของนายมาก่อนนะเจสัน มีไอเดียอะไรดีๆบ้างไหม?

Jason : มีอยู่แล้ว อัดมันด้วยทุกสิ่งที่เรามีเลยไงล่ะ

Oliver : ฉันชอบวิธีตรงๆแบบนี้อยู่แล้ว

ธนูของ Oliver เสียบเข้าที่คอของเจ้าปีศาจ แต่มันกลับไม่แสดงท่าทีว่าเจ็บปวดอะไรเลย

มันเข้าเล่นงาน Galahad และเตรียมจะกินเขาเข้าไปทั้งเป็น

แต่ Jason ก็ยิงแขนของมันขาดกระเด็นไป ช่วย Galahad ไว้ได้หวุดหวิด

Oliver : ตอนนี้นายคิดยังไงบ้างล่ะกาลาแฮด? อยากจะเปลี่ยนความคิดเรื่องการจะปกป้องป่านี้ไหม? เพราะฉันชักเริ่มคิดขึ้นมาแล้วล่ะ

Galahad : อย่าปล่อยให้ความชั่วร้ายของเจ้าปีศาจนี่ ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของป่านี้ต้องแปดเปื้อนเชียวนะ

Oliver : ลองมองดูรอบๆก่อนสิ ตอนนี้ป่ากับเอทริกันกลายเป็นหนึ่งเดียวกันไปแล้ว ฉันก็ไม่ได้อยากทำลายป่านี้เหมือนกับนายนั่นแหละ แต่เราดูจะไม่มีทางเลือกเสียแล้ว

ราวกับจะสนับสนุนคำพูดของ Oliver เจ้าปีศาจก็ทำการงอกแขนที่ขาดไปขึ้นมาใหม่ในทันที

Etrigan : ที่เจ้าไม่มีน่ะไม่ใช่ทางเลือกหรอกนักธนูเอ๋ย แต่เป็นโอกาสต่างหากล่ะ

Oliver : พล่ามมากจริงนะแก

ว่าแล้ว Etrigan ก็โดนคอมโบเข้าไปเต็มๆ

Oliver ยิงธนูเข้าเสียบที่ตาของมัน

Galahad สับขาของมันทิ้ง

Jason ยิงพลังใส่มัน

Jason : แม้แต่ต้นไม้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังโค่นลงได้

Jason : เห็นไหมล่ะ

ทันใดนั้นราวกับรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง Galahad หันไปดูต้นไม้แห่งแสงที่อยู่ใจกลางป่า

Galahad : โอลลี่! ต้นไม้สีขาวกำลังอยู่ในอันตราย!

ว่าแล้วทั้งสองก็ออกวิ่งไป ส่วน Jason ก็อยู่รับมือ Etrigan

“ดูเขาสิ”

“ถึง ผมจะยังสงสัยในความมีสติของเขาอยู่ แต่ผมไม่สงสัยหัวใจของเขาเลย เขาจะเป็นอัศวินจริงๆหรือเปล่า? เขาคือกาลาแฮดคนในตำนานจริงๆหรือ?”

“ผม ไม่สามารถตอบได้ แต่ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่ง…เขานั้นถูกเลือกเพื่อปกป้องป่าแห่งนี้โดยป่านี้ เอง หากไม่มีเขา เราก็คงจะไร้จุดหมายที่จะมุ่งไป”

“ส่วนผมรึ? ผมก็แค่ติดสอยห้อยตามมาด้วยเท่านั้นแหละ”

ขณะที่ทั้งสองกำลังจะถึงต้นไม้แห่งแสง จู่ๆก็มีต้นไม้ใหญ่สีดำสนิทงอกขึ้นมาขวางทางพวกเขา

Oliver : ไอ้นี่มันเป็นลางบอกอาเพศแบบเต็มๆเลยนะเนี่ย

Galahad : เราจะให้มันมาถ่วงเราไว้ไม่ได้ ต้นไม้สีขาวต้องการให้เราไปปกป้องมัน

ทันใดนั้นจู่ๆโคนต้นไม้ก็แตกออก…และแมลงยักษ์หน้าตาแปลกประหลาดจำนวนมากก็ผุดออกมา

Oliver : ฉันว่าเป็นเรามากกว่ามั๊งที่ต้องการความช่วยเหลือจากมันน่ะ

ทั้งสองเข้าต่อสู้กับพวกแมลงปีศาจ

จัดการไปได้ตัว อีกตัวก็เข้ามาแทนที่

ในที่สุด Galahad ก็พลาดท่าโดนซัดไปชนกับต้นไม้สีดำ

ทันใดนั้นต้นไม้ก็แยกออก และดึง Galahad เข้าไปข้างใน

Galahad : ปล่อยข้านะ!

Oliver : กาลาแฮด!

“ผมดึงสุดแรง…จนไหล่ของผมแทบจะหลุด ไม่ว่าอะไรกำลังดึงกาลาแฮดอยู่ก็ตาม มันทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อเลย”

“ต้องอดทนเอาไว้ ป่าแห่งนี้ต้องการเขา”

Galahad : โอลลี่ ปล่อยข้าเถอะ ไม่งั้นมันจะเอาเราไปทั้งคู่

Oliver : ไม่มีทาง ถ้าไปเราก็ไปด้วยกัน

แม้ Oliver จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ Galahad ก็โดนดึงไปจนได้

Galahad : เข้มแข็งเข้าไว้ นักธนูเอ๋ย

Oliver : ไม่!!!

โพรงที่ต้นไม้สีดำปิดลง มันเอาตัวเพื่อนของเขาไปแล้ว

“โอเค ไอ้สารเลว”

“แกอยากเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นนรกนักใช่ไหม…”

“งั้นก็มาจุดไฟยิงสลุตเปิดงานกันเลย”

หรือนี่จะเป็นการโหมโรมก่อนการปรากฎตัวของ “อวตารแห่งความมืด” ที่ The Entity ว่าเอาไว้?!

และ หากเป็นเช่นนั้นจริง Oliver ก็คือผู้ที่ต้องรับหน้าที่ด่านหน้า เพื่อปกป้องป่าแห่งนี้เพื่อปกป้องหนทางรอดพ้นของโลก! เขาจะทำได้หรือไม่?

โปรดติดตามตอนต่อไป

10 thoughts on “Brightest Day : Green Arrow #9

  1. natzume

    โอลิเวอร์งานเข้า แม้แต่บ้านก็ไม่เหลือแล้วงานนี้

  2. Gothic

    ขนาดนี้แล้วกลับไปอยู่ Watchtower ก็ไม่เลวนะกรีนแอโร่ว

  3. seventoon

    ความมันส์ บังเกิดแล้วจ้า
    รอ ต่อไป
    ขอบคุณมากครับ ที่สปอย

  4. ghostrider

    รอการไขปริศนาของป่าแห่งนี้และ phantom stranger มาเพื่อพูดอะไรเท่ๆแล้วก็ไปนี่นะครับ

  5. DOL

    Phantom Stranger มาทำไมเนี่ย

    มาเพื่อบอกคนอ่านว่า ป๋มยังมีตัวตนอยู่ในจักรวาล DC เรอะ??? งง

  6. natzume

    ถ้าเป็นหนังไทย phantom stranger คงได้ค่าตัว 2000 (ค่าตัวประกอบสามนาที)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *