Brightest Day : Birds of Prey 02 : ผจญศึกทุกทิศทาง

เรื่อง : GAIL SIMONE
ภาพ : ED BENES
วางจำหน่าย: 16 มิถุนายน 2010
สำนักพิมพ์ : DC Comics

มาต่อกันกับเรื่องราวของเหล่าลูกทีม Birds of Prey ที่ต้องต่อสู้กับศัตรูในเงามืดที่ดูจะโจมตีพวกเธอจากทุกๆด้าน พวกเธอจะเอาตัวรอดได้หรือไม่

ในตรอกของเมือง Gotham

Black Canary (Dinah Lance) กับ Huntress (Helena Bertinelli) กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูลึกลับผู้ร้ายกาจ

หญิงลึกลับผู้นี้ใช้ชื่อว่า White Canary

ไม่ มีใครรู้ว่าเธอเป็นใคร นอกจากว่าเธอต้องเกี่ยวข้องกับผู้ที่ทำการข่มขู่อดีตสมาชิกทีม Birds of Prey ให้มารวมตัวกันมิฉะนั้นความลับเรื่องตัวตนจริงของพวกเธอจะถูกเปิดเผยและจะก่ออันตรายใหญ่หลวงต่อเหล่าคนที่พวกเธอรัก พวกเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมุ่งเข้าไปสู่สิ่งที่น่าจะเป็นกับดักที่ หมายเอาชีวิตพวกเธอ

แม้พวกเธอจะผ่านศึกมาอย่างโชกโชน แต่สัญชาติญาณก็ร้องเตือนว่าศัตรูที่อยู่เบื้องหน้านี้นั้นร้ายกาจอย่างน่ากลัว และนั่นหมายความว่าจะไม่มีการประมาทอย่างเด็ดขาด

แม้ทั้งสองจะโจมตีพร้อมกัน แต่ White Canary ก็รับมือได้อย่างง่ายดาย

แม้จะหันหลังให้ แต่ก็ไม่มีช่องว่างให้ฉกฉวยได้เลย หากพลาดแม้แต่นิดเดียว พวกเธอคงกลายเป็นศพก่อนจะได้ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ

“แม่นี่ไม่ใช่ชีวาแน่นอน ชีวาจะไม่มีทางแสดงอารมณ์ออกมาให้เห็นขณะที่ต่อสู้”

(พูดถึง Shiva Woosan หรือ Lady Shiva ศิษย์พี่ร่วมอาจารย์ของ Black Canary)

“แต่ผู้หญิงคนนี้ดูจะเกลียดชังฉันมากเลย”

“แล้วทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยล่ะว่ามีนักสู้ฝีมือร้ายกาจขนาดนี้อยู่ด้วย”

Black Canary : เอาละคราวนี้มาลองกันใหม่ตั้งแต่ต้นหน่อยซิ ยายชุดขาว

ในชั่วจังหวะที่ Black Canary ช่วยหันเหความสนใจ Huntress ที่จ้องรอโอกาสอยู่ก็เข้ารวบตัว White Canary ทันที

“แกพลาดแล้วน้องสาว”

“แกคำนวนผิดเรื่องคู่หูของฉัน”

“แกดูถูกฮันเตรสมากไป”

“แต่อย่าคิดมากเลย”

“ใครๆก็คิดแบบนั้นทั้งนั้นในตอนแรกน่ะนะ”

เมื่อสบโอกาส Black Canary ก็ส่งหมัดเข้าเต็มหน้า White Canary ทันที

เธอซัดใส่อย่างหนัก แต่เธอก็ต้องชะงัก เมื่อตาของเธอประสานกับคู่ต่อสู้ของเธอ

“ความเกลียดชังในดวงตานั่น”

“มันหมายความว่ายังไงกันแน่?”

ทันใดนั้นกำลังเสริมก็มาถึง

Lady Blackhawk (Zinda Blake) นำสมาชิกใหม่ของทีมมาเสริม พวกเขาคือ Hawk (Hank Hall) และ Dove (Dawn Granger)

ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง Hawk พุ่งเข้าใส่ White Canary ที่สลัดหลุดจาก Huntress ทันที

แต่ White Canary ก็พริ้วตัวหลบไปได้ ทำให้ Hawk พุ่งไปชนกำแพงแทน

Hawk โดนไปแผลขณะที่พุ่งผ่านกัน ซึ่งนับว่าแปลกมาก เพราะผิวของ Hawk แกร่งจนกระสุนปืนยังยิงไม่เข้าทีเดียว

แต่ ทางฝ่าย Hawk ก็ใช่ว่าจะพลาดเสียทีเดียว เพราะเขาก็กระชากผมของ White Canary ออกมาทั้งกระจุก เล่นเอาหนังหัวเปิดเลือดทะลักเลยทีเดียว

ขณะที่สถานการณ์ดูจะเป็นต่อ Black Canary กลับสังเกตุว่าศัตรูของเธอนั้นกำลังยิ้มอยู่?!

ที่ Batcave Oracle (Barbara Gordon) พบว่ามีข่าวออกทาง TV เป็นข่าวที่ Black Canary ถูกใส่ความว่าฆ่าผู้ก่อการร้ายที่เธอจัดการไปในงานก่อนหน้านี้ที่ Iceland

และในข่าวยังบอกชื่อจริงของเธอออกมาอีกด้วย และที่แย่กว่านั้นคือ คอปเตอร์รายงานสดของนักข่าวก็กำลังทำข่าวอยู่ตรงสถานที่ที่พวก Birds of Prey กำลังอยู่

Oracle : แบล็คคานารี่! เลิกสู้เดี๋ยวนี้! รีบออกมาจากที่นั่น!

Oracle : มันเป็นการจัดฉากล่อเรามา! ฉันตรวจพบรถตำรวจ 12 คันและคอปเตอร์ตำรวจกำลังไปทางนั้น!

Huntress หันไปมอง Penguin ที่โดน White Canary เสียบคอร่วงไปตั้งแต่เล่มที่แล้ว

Huntress : เฮอะ ฉันว่านี่ต้องดูไม่ดีในภาพข่าวแหงเลย

Black Canary : เป็นฝีมือแกสินะ แกวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น

White Canary : หนึ่งในพวกของเธอจะตายในทุกชั่วโมง ตลอดหกชั่วโมงนับจากนี้ เลือกซะว่าจะให้ใครตายก่อน

White Canary : ไม่งั้นฉันจะเลือกเอง

White Canary หนีไป ทิ้งให้เหล่า Birds of Prey เผชิญหน้ากับตำรวจ

ขณะที่กำลังชั่งใจว่าจะทำอย่างไรดี Penguin ก็พูดขึ้น

Penguin : ไปที่คลับของฉัน…ที่นั่นปลอดภัย

เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็มาลงความเห็นกัน

Dove เสนอให้มอบตัว
Huntress ให้หัวหน้าทีมตัดสินใจ
Lady Blackhawk สนใจแค่ว่า Hawk ทำรถเธอพัง
ส่วน Hawk ก็ว่าใครจะเอายังไงก็ได้ แต่เขาจะไม่ยอมโดนจับแน่
และเมื่อ Oracle ถาม Black Canary ว่าจะเอายังไง

Black Canary : สู้…เราจะสู้

Oracle : โอเค แค่อย่าให้ใครต้องบาดเจ็บแล้วกันนะ

Black Canary : คงรับปากไม่ได้หรอกออราเคิ่ล

และดังนี้เหล่าตำรวจผู้โชคร้ายก็ต้องรับเคราะห์ไป…

ขณะที่พวก Black Canary กำลังหนีตำรวจอยู่ Oracle ก็ดูข่าวที่กำลังออกข่าวใส่ร้าย Black Canary อย่างต่อเนื่อง

ทันใดนั้นก็มีคนติดต่อมาหาเธอ

เขาคือ Creote อดีตหน่วยรบพิเศษของรัสเซีย เขากับคู่หู Savant (Brian Durian) เป็นอดีตอาชญากรที่กลับใจมาเป็นแหล่งข่าวให้ Oracle

พวกเขาโดน “ผู้หญิงชุดขาว” เล่นงาน

Savant ถูกฆ่าตาย และ Creote ก็ยิงตัวตายหลังจากส่งข่าวให้กับ Oracle

ตัดกลับมาที่พวก Black Canary

Huntress : ก่อนหน้านี้เธอยังเป็นฝ่ายคนดีอยู่เลย แต่แป๊บเดียวเธอก็โดนทำเหมือนอาชญากรไปซะแล้ว สำหรับตัวฉันเองก็พอเข้าใจได้ เพราะฉันก่อเรื่องไว้เยอะ แต่พวกเธอล่ะ?

Black Canary : เสียงไซเรนใกล้เข้ามาแล้ว เร็วเข้าเถอะ

Black Canary : แล้วก็ไว้เธอลองบอกเลิกสามีตอนที่เขานั่งอยู่ในคุกดูก่อนแล้วค่อยมาพูดกับฉันเรื่องการทำความผิดแล้วกัน

(เอ่อ…อดีตสามีคนที่ว่าของเจ๊เพิ่งจะโดนธนูส่องหัวตายไปหมาดๆนี่แหละ)

ทันใดนั้นพวกเขาก็พบ TV ตั้งอยู่กลางถนน มีใครบางคนกำลังต้อนให้พวกเขาเดินไปตามทางที่กำหนดไว้

ใน ข่าวบอกทั้งชื่อจริงของ Black Canary ทั้งเรื่องที่เคยแต่งงานกับ Oliver Queen ทั้งเรื่องที่เธอเคยรับเลี้ยงเด็กสาวชาวเอเชียคนหนึ่งเป็นลูก แต่ภายหลังก็ต้องล้มเลิก โดยถูกหาว่าทอดทิ้งเด็กคนนั้นไป

(ในอดีต Black Canary เคยพบเด็กสาวชาวเอเชียชื่อ “สิน” ในตอนที่ฝึกวิชา ซึ่งสินนั้นเป็นคนที่ถูกฝึกสอนมาเพื่อเป็นนักฆ่ามือ 1 แทน Lady Shiva แต่ด้วยความผูกพันที่มีต่อเด็กสาว Black Canary ได้พาเธอมาที่อเมริกาด้วย และเลี้ยงดูเธอเหมือนลูก แต่เนื่องจากมีหลายองค์กรต้องการพรสวรรค์ในการต่อสู้ของเด็กสาว โดยเฉพาะ League of Assasins ของ Ra’s Al Ghul ทำให้มีการพยายามลักพาตัวสินหลายครั้ง จนในที่สุด Oliver Queen (Green Arrow) จึงต้องจัดฉากให้เหมือนว่าสินตายไปแล้วขึ้นมา และส่งเธอไปอยู่กับพ่อแม่เลี้ยงคนอื่น ซึ่ง Black Canary ก็ยอมรับ แม้จะเศร้าใจแต่เพื่ออนาคตของเด็กสาวเธอจึงยอมตามแผนนี้)

ในขณะเดียวกัน Oracle ก็ตั้งสติกลับมาได้

“โอเค ฉันเข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

“พวกมันกำลังใช้เครื่องมือของเรามาเล่นงานเราเอง”

“หมัดของคานารี่….สมองของฉัน”

“พวกมันใช้เครือข่ายเล่นงานเรา”

“ห้าปีก่อนฉันนำหน้าเทคโนโลยีธรรมดาไปไกลลิบ ไม่มีใครถึงตัวฉันได้”

“ฉันลำพองเกินไป”

“ฉันปล่อยให้เครื่องจักรทำงานแทนฉัน”

“ตอนนี้คนที่รู้วิธีสามารถใช้โทรศัพท์มือถือสักเครื่องทำได้มากกว่าที่ฉันใช้ทั้งเมนเฟรมทำในตอนที่ฉันเริ่มงานนี้ซะอีก”

“ไม่มีการมาเสียน้ำตาอีกแล้ว จนกว่าฉันจะหาตัวคนที่มันทำกับเราให้พบ”

“แต่ไม่ว่าพวกมันจะใช้อาวุธหรือเทคโนโลยีอะไร แต่พวกมันยังไม่เข้าใจ”

“ฉันนี่แหละคือเครือข่าย”

“มันมีตัวตนอยู่ได้เพราะฉันอนุญาตให้มันมีอยู่”

“และคืนนี้…”

“เครือข่ายจะสู้กลับบ้างล่ะ”