Earth-2 World’s End #26

Earth-2 World’s End #26

วางจำหน่าย : 1 เมษายน 2015

สำนักพิมพ์ : DC Comics

บทสรุปของ Earth-2 วันสิ้นโลกได้มาถึงแล้ว เหล่าฮีโร่คนใดบ้างที่จะรอดชีวิตไปจากดาวดวงนี้

Earth-2 World’s End #26 : เวลาที่หมดลง

Alan ที่มาถึงช้าไปต้องเข้าต่อสู้กับ Darkseid ด้วยตัวคนเดียว

และแน่นอนว่าเพียงคนเดียวถึงจะได้รับมาจาก The Green ของมิติอื่นมันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาต่อกรกับ Darkseid ได้ จนเขาโดน Omega Beam เล่นงานจนเสียหลัก (ตาหายแล้วเหรอ)

และเขาก็ทำให้ Darkseid ต้องผิดหวัง ที่นึกว่าจะได้รับการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม

หลังจากนั้น Alan ก็พบว่านอกจากพลังที่เขาได้รับมาจากมิติอื่นแล้วเขายังได้รับความเจ็บปวดจากพวกมันมาด้วย ซึ่งมันเกินกว่าที่เขาจะรับไหว เขาจึงได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายปลุกเหล่าฮีโร่ที่ล้มอยู่ให้ลึกขึ้นมาอีกครั้ง

ฮีโร่ทุกคนเริ่มได้สติกันขึ้นมา Helena ได้ตรวจสอบดูและพบว่า Codex ปลอดภัยดี แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะหาทางหนีออกไปได้ยังไง Val ได้บอกให้พวกเขาร่วมมือกันหยุดยั้ง Darkseid (สัญลักษณ์บนเสื้อเอ็งมาจากไหน…) และช่วยเหลือยานที่กำลังตกลงมา เมื่อพูดถึงยานตก Jay ก็วิ่งออกไปทันทีด้วยความเป็นห่วงแม่ของเขา

หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มหาหนทางต่อไป พวก Helena จะปกป้อง Codex ออกไปจากที่นี่ เพราะมันคือสิ่งเดียวที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ ทาง Val จะเข้าช่วยเหลือยานที่กำลังตกลงมา และให้ Red Tornedo กับ Kara พยายามหาทางหยุดยั้ง Darkseid ให้ได้

ที่บริเวญยานที่ตกลงมา Darkseid ได้เดินมาถึงพร้อมกับจะลงมือเข่นฆ่าผู้คนในบริเวณนี้ แต่โชคดีที่ Kara และ Red Tornedo มาทัน

แต่ก็เหมือนเคย ขนาด Val กับ Kara ร่วมมือกันยังเอาไม่อยู่มากับ Red Tornedo ไหนเลยจะสู้ได้ Darkseid อัดทั้งคู่ให้หงายและเข้าโจมตี Kara ด้วย Omega Beam จนเธอต้องบินหนี

และคราวนี้เธอสามารถหลบหนีมันได้สำเร็จ สร้างความสะใจให้แก่ Red Tornedo เป็นอย่างมาก จนเธอกลายเป็นคนโดนแทน

หลังจากนั้นมันก็ตรงมายังเขตการรบและร่วมมือกับ Kalibak รวมไปถึงสภาของอโพโคลิปส์คนอื่นเข่นฆ่าผู้คนในบริเวณนี้ไม่ให้เหลือ

นอกโลก The oracle ตัวตนที่อย่เหนือมิติและกาลเวลาได้ปรากฎตัวขึ้นมา เพื่อเฝ้ามองดูจุดจบของโลกใบนี้ ในขณะที่ Mister Miracle ได้บอกกับ Mister Terrific ว่าพวกเขาไม่มีเวลา พวกเขาต้องหลบหนีไปพร้อมกับผู้คนที่พวกเขาช่วยเหลือได้ให้มากที่สุดกลุ่มนี้

ภายในหลุมหลบภัยของอะตอม Jimmy พยายามควบคุมยานลำสุดท้ายให้ออกไปจากที่นี่ แต่ทว่า Sonia กับ Captain Steel ที่มองเห็นภาพจากภายนอกก็ต้องสิ้นหวังว่ามันหมดหนทางที่จะออกไปจากที่นี่แล้ว

ท่ามกลางความสิ้นหวัง Sam ได้มาหา Alan อีกครั้งเพื่อช่วยเหลือเขาให้ลุกขึ้นมา Sam พยายามบอกให้ Alan อย่ายอมแพ้ ควบคุมพลังของ parliament ภายในตัวของเขา

แต่ Alan กลัวว่าถ้าทำแบบนั้นแล้วเขาจะต้องสูญเสียความเป็นตัวเองและความทรงจำเกี่ยวกับ Sam ไป ซึ่ง Sam ก็ยืนยันว่ามันจะเป็นแบบนั้น แต่นี่คือหนทางสุดท้าย Alan จึงต้องจำยอมและทุ่มเทความมุ่งมั่นออกมา

Sam : นายถามฉันว่าทำไมสภาโลกถึงเลือกฉันเป็นตัวแทนของสีขาวใช่มั้ย? นั่นเพราะการคงอยู่ของฉันคือบททดสอบ… ว่านายพร้อมแล้ว…

Alan : พร้อมสำหรับอะไร? พร้อมสำหรับอะไรกัน?

Sam : พร้อมที่จะเข้าสู่ความสงบ, เอาชนะความกลัว เพื่อพูดคำพูดสุดท้าย…

Sam : และช่วยเหลือโลกใบนี้ กลายเป็นจิตวิญญาณของมัน…

Sam : นายแค่ต้องพูดออกมาคำเดียวเท่านั้น

Sam : ได้โปรดพูดมันออกมาเถอะ

Alan ได้สบัดความเจ็บปวดแห่งความตายที่กัดกินเขาอยู่ออกไป และดูดกลืนพลังของ Sam ที่อยู่ตรงเข้ามาไปในแหวน และพูดคำพูดสุดท้ายที่ว่าออกมา

Alan : อา แซม…

Alan : ลาก่อน

“ตอนนี้ผู้ถูกเลือกได้ยืนหยัดขึ้นมาแล้ว”

“สีเขียว… สีเทา…สีฟ้า…สีแดง…และสีขาวล้วนไหลเวียนอยู่ภายในตัวของเขา”

“บัดนี้ตะเกียงเขียวนี้จะลุกไหม้อีกครั้ง!”

ภายในหลุมหลบภัย ผู้คนที่รอดจากเหตุยานตกได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง และ Jay ก็ตรงมาที่นี่เพื่อมาหาแม่ของเขา แต่แม่ของเขาได้ปลงแล้วว่าเธอคงจะไม่รอดออกไปจากที่นี่ แต่มันก็ยังดีที่เธอกับลูกจะได้ตายไปด้วยกัน

Jay ที่ฟังดังนั้นก็คิดอยู่ครู่นึง ก่อนที่เขาจะตอบว่าเขาอยู่กับแม่ตอนนี้ไม่ได้

Jay : ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้ามันมีโอกาสแม้เพียงเล็กน้อยที่จะช่วยแม่ได้…

Jay : ผมก็จะทำ

Jay’s Mother : ไม่นะ เจย์! อย่าไปเลย อย่าทิ้งแม่ไว้…คนเดียว

ฝั่ง Yolanda ที่บัดนี้หมดพลังไปแล้วก็ได้พยายามช่วยเหลือผู้คนรอบข้างให้ได้มากที่สุด แต่ทว่าความตายก็ได้มาเยือนตรงหน้าของเธอ

แต่แล้วแสงสีเขียวก็พุ่งเข้ามากระชากตัวมันออกไป Alan ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมเข้าต่อสู้กับ Darkseid ด้วยตัวคนเดียว

“พลังที่แท้จริง… คือพลังแห่งความมุ่งมั่น…ที่หลั่งไหลออกมาจากความเป็นไปได้ในตัวของเรา”

“พวกเราแต่ละคนนั้นมีความหวังซ่อนอยู่ในตัว ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ คนเราย่อมสามารถเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องออกมาได้อย่างแน่นอน”

“การต่อสู้ที่ควรค่า, การถือกำเนิดของสังคมใหม่ๆ”

“เหล่าสีเขียวไม่ได้ต่อสู้เพื่อโลกที่ประกอบด้วยผืนดินและผืนน้ำ…”

“แต่เพื่อชีวิตที่ทำให้โลกใบนี้มีความหมาย”

“เหล่าสีเขียวต่อสู้…”

“เพื่อความทรงจำของคนที่เราได้สูญเสียไป และเหล่าคนที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้น”

และด้วยความมุ่งมั่นที่ล้นเหลือ Alan ได้ใช้พลังทั้งหมดที่เขามีชก Dakrseid เต็มๆหมัดจนกระเด็นไปไกล

Alan : ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่…

Alan : ฉันอยากจะให้แกจดจำความรู้สึกนี้ไว้ เจ้าสัตว์ประหลาด

Alan : ว่าแกโดนเล่นงานเข้าเสียเอง และรู้สึกถึงความเจ็บปวดเดียวกันกับความเจ็บปวดที่แกมอบให้อีกหลายๆชีวิต…

Alan : ความเจ็บปวดที่ว่าตัวตนของแกมันเล็กจ้อยแค่ไหน

ภาพของ Darkseid โดน Alan ซัดปลิวจนสลบไปทำเอา Kalibak และคนอื่นๆถึงกับอึ้ง แต่มันก็ทำให้ Kalibak โมโหยิ่งกว่าเดิมพร้อมเข้าไปเล่นงานผู้คนที่เหลือ Jay ที่เห็นเข้าจึงขอโทษว่าเขาอยู่กับแม่ไม่ได้จริงๆ เนื่องจากตอนนี้มันยังมีสิ่งที่เขาพอจะทำได้อยู่ พูดจบ Jay ก็ผละตัวออกไปและวิ่งเข้าหา Kalibak

หลังจากนั้นทุกๆคนก็เอาทุกอย่างเข้าแลก เพื่อปกป้องเหล่าผู้คนที่เหลือบนโลกไว้

ฝั่ง Dick ก็ช่วยเหลือ Thomas ซ่อมแซมปืนเพื่อต่อกรกับพวกมันเป็นยกสุดท้าย เพราะตอนนี้ยานของพวกเขาได้ไปหมดแล้ว สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ Thomas ก็มองเห็นว่า Alan กำลังนั่งสมาธิคล้ายคิดที่จะทำบางอย่าง

Alan ได้ใช้พลังของเขาสร้างแผ่นดิสต์ซึ่งได้ความรู้มาจาก Mister Terrific นำพาความหวังสุดท้ายของพวกเขาออกไปจากดาวดวงนี้

Darkseid ที่ลุกกลับขึ้นมาได้พยายามที่จะเข้ามาขวาง Alan แต่เหล่าฮีโร่ก็หยุดยั้งมันเพื่อให้ Alan สามารถส่งผู้คนออกไปได้อย่างปลอดภัย

และจากนั้นฮีโร่กลุ่มสุดท้ายของโลกก็เข้าต่อสู้กับมันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหายไปในประกายแสงแห่งการทำลายล้างของ Darkseid

และโลกก็ถูกกลืนกินในที่สุด

ที่ยานอพยพ

Sloan ได้บอกพวก Mister Terrific ว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีจุดหมายปลายทาง พวกเขาจะต้องหาโลกใบใหม่ให้ได้ก่อนที่จะเสบียงและพลังงานจะหมดลง Sonia ได้บอกว่ามันอาจจะมีอันตรายรอพวกเธออยู่ข้างหน้า แต่ตอนนี้อย่างน้อยพวกเธอก็หนีออกมาได้แล้ว และเครื่องยนต์ก็กำลังจะทำการจุดระเบิดเพื่อออกเดินทาง

ฝั่ง Darkseid ก็ยินดีกับชัยชนะ แต่มันก็ยังคงต้องเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

ในช่วงเวลาสุดท้ายของการจุดระเบิดเครื่องยนต์

Marella กับ Sonia ได้พูดถึงการช่วยเหลือกันตามหาโลกใบใหม่ร่วมกัน แม้เธอและคนของเธอจะมาจากเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน

Fury ได้บอก Mister Miracle ว่ามนุษย์นั้นแข็งแกร่งพวกเขาจะสามารถสร้างโลกที่น่าอยู่กว่าเดิมขึ้นได้แน่ๆ แต่ Mister Miracle กลับบอกว่าเวลาของเขาที่นี่ได้หมดลงแล้ว เขาสัมผัสได้ถึงแขกไม่ได้รับเชิญบางคนซึ่งเขาคิดว่าไม่ควรจะได้อยู่ที่นี่เช่นกัน

Helena ได้ให้กำลังใจ Kara ว่า Val กับ Thomas จะต้องยังไม่ตายและเขาจะกลับมาหาพวกเธออย่างแน่นอน

Hawkgirl ได้คอยดูแลแม่ของ Jay และบอกให้เธอภูมิใจ เพราะเขาคือวีบุรุษของโลกใบนี้

พบกับเรื่องราวชะตากรรมของเหล่าฮีโร่จาก Earth-2 ได้ใน

Convergence #1

คุยกันท้ายเล่ม

ก็เป็นอันจบไปสำหรับ Earth-2 World’s Ens นะครับ ซึ่งเรื่องราวต่อจากนีบางส่วนน่าจะไปเชื่อมกับ Future End #21 ที่พูดถึงการอพยพจาก Earth-2 ไปยังโลกในจักรวาลหลักนั่นเอง

5 thoughts on “Earth-2 World’s End #26

  1. KaPoo

    Sam : นายแค่ต้องพูดออกมาคำเดียวเท่านั้น

    Sam : ได้โปรดพูดมันออกมาเถอะ

    Alan : … SHAZAM!!!…

  2. Sstrongest

    ชอบมากครับ ขอให้ลงการ์ตูน DC อีกเยอะๆเลยนะครับ

  3. dotto

    อ่านหัวนี้มีแต่เครียดกับเครียดลงกระเพาะ ;__; (ว่าแต่ดิ๊กกับโธมัสจะรอดรึเปล่านะ ได้แต่หวังว่าจะเจอ 2 คนนี้อยู่)

  4. seventoon

    โอ้วว แต่ละคน น่าสงสารมากมาก
    สุดท้ายไปอยุ่โลกหลักสินะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *