ซีรี่ส์ฮีโร่แท้ ๆ ของค่ายมาร์เวลเรื่องแรกอย่าง Daredevil กำลังจะเข้าฉาย เราก็เลยอยากเขียนถึงซักหน่อย จะทำสปอยล์เราก็ขี้เกียจ จะเขียนประวัติก็น่าจะมีใครทำแล้ว ก็เลยลองเขียนถึงประวัติศาสตร์โดยย่อของตัวละครนี้ ที่ผ่านยุคสมัยต่าง ๆ มา ตั้งแต่ยุค 60 ถึงปี 2015

Daredevil หรือ Matt Murdock ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1964 โดยฝีมือ Stan Lee และ Bill Everett ส่วนดีไซน์ขั้นต้นเป็นฝีมือของ Jack Kirby (ต่อมาออกแบบให้ไม้เท้านำทางกลายเป็นกระบองแยกส่วนได้ด้วย) โดยจุดกำเนิดของตัวละครนี้ ก็เหมือนตัวละครอีกหลายตัวในยุคนั้นคือกัมมันตภาพรังสี (ไม่แน่ใจว่านี่สะท้อนความหวาดกลัวนิวเคลียร์ของคนยุคนั้นออกมารึเปล่า) แต่เขาไม่ได้โดนแมงมุมกัด หรือทดลองทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ในวัยเด็ก Matt มีดวงตาปกติ จนกระทั่งเขาเข้าไปช่วยคนแก่ไม่ให้ถูกรถชน กากกัมมันตภาพรังสีจากรถคนนั้นกระเด็นเข้าตาเขาทำให้เขาตาบอดสนิท แต่ขณะเดียวกันมันกลับเพิ่มสัมผัสด้านอื่นของเขาให้ดีมากยิ่งขึ้น เขาใช้การเสียงสะท้อนกลับของไม้เท้านำทางต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สร้างโครงร่างภาพขึ้นมาในหัว ทำให้เขาไม่ใช่คนตาบอดเงอะงะ เขาสามารถเดินเหินไม่ชนอะไรแบบคนปกติ (บางทีมากกว่าด้วยซ้ำเพราะคนปกติมองได้แค่ด้านหน้า แต่เขาใช้เสียงสะท้อนทำให้เห็นทุกอย่างรอบด้าน)

หลังจากตาบอด Matt ไม่ได้หันไปเป็นฮีโร่ปราบอธรรม เขากลับไปตั้งใจเรียน ตามที่พ่อผู้เป็นนักมวยของเขา Jack Murdock ต้องการ  แต่ก็แอบฝึกฝนร่างกายเพื่อวันหนึ่งเขาอาจจะได้เป็นนักมวยตามรอยพ่อของเขา Matt เลือกจะเรียนกฎหมายในมหาวิทยาลัย วันหนึ่งเขาซื้อตั๋วเข้าชมการชกของพ่อ พ่อของเขาเอาชนะคู่แข่งได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ในคืนนั้นเอง มีคนพบศพ Jack นอนแน่นิ่งระหว่างทางจากสังเวียนสู่บ้าน

หลังจากเรียยนจบ Matt และรูมเมทมหาลัย ตกลงใจกันเปิดบริษัททนายความที่ชื่อว่า “Nelson and Murdock” และในยามค่ำคืนเขาก็ออกตามล่าวายร้ายที่ฆ่าพ่อเขาในนาม Daredevil ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พบกับผู้บงการฆ่าพ่อเขา มาเฟียที่ชื่อว่า Fixer บอกความจริง Matt ว่าที่ฆ่าพ่อของเขาก็เพราะต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ที่ Jack ไม่ยอมล้มมวยตามที่ตกลงกันไว้ นั่นเพราะพ่อเขาไม่อยากให้ลูกชายเห็นเขาพ่ายแพ้ แล้ว Fixer ก็หัวใจวายตาย (มันมาจากยุค 60 อย่าคาดหวังอะไรสมเหตุสมผลนักเลยครับ 5555)

ในช่วงแรก Daredevil ไม่ได้สวมชุดแดง แต่มาในชุดเหลืองสลับแดง จนถึงเล่ม  7 เขาถึงได้เป็นอย่างอย่างที่เราเห็นกันจนชินตาทุกวันนี้

แน่นอนว่าในโลกของคอมมิคย่อมมีการพบปะของฮีโร่ข้ามเล่ม สำหรับ Daredevil แล้ว คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนบ้านผู้แสนดีอย่าง Spider-Man ซึ่งสร้างปัญหามากกว่าแก้ไข เพราะเผลอบอกชื่อจริงของ Daredevil ลงทางจดหมาย จนทำให้เขาต้องอ้างว่ามีพี่น้องฝาแฝดชื่อ Mike และทำให้ชีวิตของ Matt ยากขึ้นไปอีก เพราะเขาต้องเล่นเป็น 2 บุคลิก ทั้ง Mike ที่ต้องเป็นคนตลก สนุกสนาน กับ Matt ที่เป็นทนายผู่เงียบขรึม แต่เรื่องราวนี้ดำเนินไปได้ไม่นานเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 1970

มีการเปลี่ยนแปลงทีมสร้างสรรค์ให้กับตัวละครนี้ ทำให้เรื่องราวของ Matt ดูไซไฟมากยิ่งขึ้น ทั้งการจับเขาย้ายจากย่านสลัม Hell’s Kitchen ใน New York ไปอยู่ San Francisco และเริ่มมีศัตรูเว่อร์ ๆ อย่างหุ่นยนต์จากอวกาศ  และมีการใส่ตัวละคร Black Widow เข้ามามีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวเลิกอยู่สักพัก สุดท้ายทางทีมก็คิดว่า Matt น่าจะดีที่สุดเมื่อเขาอยู่คนเดียว จึงย้ายเขากลับมา Hell’s Kitchen และเริ่มผลักให้เรื่องราวมืดหม่นมากขึ้นซึ่งเป็นเค้าลางของจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในยุค 80

ยอดขาย Daredevil ตกต่ำมากจนมีการคิดที่จะยกเลิกหัวนี้ขึ้นมา แต่ก็มีนักเขียนคนหนึ่งอยากจะลองเล่นกับกับตัวละครนี้ดู ทางมาร์เวลเห็นว่าไม่มีอะไรจะเสีย จึงปล่อยให้นักเขียนคนนั้นได้เขียน และชื่อของนักเขียนคนนี้คือ Frank Miller

ภายใต้ฝีมือของ Frank Miller เรื่องราวของ Matt นั้นมืดหม่นมากกว่าครั้งไหน ๆ  เปลี่ยนแปลงจุดกำเนิดที่ Jack ไม่ใช่พ่อที่แสนดี แต่เป็นเป็นไอ้ขี้เมาชอบทุบตีลูกตาบอดของตัวเอง (จนเป็นแรงผลักดันให้เขาอยากเป็นทนาย) เรื่องราวตลก การต่อสู้เพี้ยน ๆ ถูกลบทิ้ง และสร้างหัวหน้ามาเฟียที่ชื่อ Kingpin ขึ้นมาเป็นวายร้ายหลัก เมื่อไม่มีพ่อให้เป็นต้นแบบ  Miller จึงสร้างตัวละครตาบอดที่ชื่อว่า Stick ที่สอนทักษะการต่อสู้ให้ Matt (และเป็นครั้งแรกที่สไตล์การต่อสู้ของ Daredevil คล้ายนินจา มากกว่ายิมนาสติกผสมมวยอย่างที่เคยเป็นมา) รวมถึงกลุ่มนินจา The Hand และแม่สาวนักฆ่า Elektra ก็ถูกสร้างขึ้นมาในยุคนี้

เพื่อสะท้อนจุดกำเนิดที่มืดหม่นมากขึ้น การปราบอธรรมของ Daredevil ก็มืดหม่นมากยิ่งขึ้น เขาไม่ได้แค่เพียงจับวายร้าย เขาอัดพวกมันจนบาดเจ็บเจียนอยู่เจียนไป หลายต่อหลายครั้ง โดยครั้งที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้นที่เขาเหวี่ยงคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Bullseye ออกจากตึกสูง จนทำให้เป็นอัมพาต

การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความวิตกให้กับแฟนเดนตายของ Daredevil ที่รู้สึกว่าตัวละครกำลังเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคนกับที่พวกเขารู้จัก แต่สำหรับมาร์เวลแล้วมีแต่ความยินดี เพราะเพียงแค่ 3 ฉบับ Daredevil ของ Frank Miller ก็กลายเป็นคอมมิคที่ขายดีที่สุดของค่ายในยุคนั้น

แม้ Miler จะเขียน Daredevil ต่อเนื่องอยู่แค่ 3 ปี แต่ผลกระทบที่เขาสร้างกับตัวละครนี้ยังคงส่งอิทธิพลไปอีก 30 ปี

Miler กลับมาเขียนซีรี่ส์สั้น ๆ ให้กับ Daredevil ในยุค 90 ชื่อ Born Again ซึ่งนำปัญหาจากโลกจริง ๆ ทั้งยาเสพติด การล้มละลาย จนถึงการเป็นคนไร้บ้าน ถือได้ว่าเป็นการพาตัวละครนี้ไปสู่จุดต่ำสุด และกำเนิดใหม่อีกครั้งด้วยศาสนาคริสต์ ซึ่งการเป็นหนึ่งในแรงขับสำคัญของตัวละครนี้ในภายหลัง

 

The Man Without Fear ที่เล่ากำเนิดใหม่ของตัวละครอีกครั้ง โดยเป็นส่วนผสมระหว่างแบบของเขากับของคลาสสิค เล่ากำเนิด Kingpin ความสัมพันธ์อันแสนซับซ้อนและยากเข้าใจระหว่าง Matt และ Elektra (ชุดดำในซีรี่ส์ก็มาจากตอนนี้นี่แหละ)

เมื่อเข้าสู่ต้นยุค 2000 ชายผู้ไร้ความกลัวที่เหมือนจะหายไปในเงามืดได้กลับมาโดดเด่นอีกครั้งโดยคู่หูทีมสร้างสรรค์ที่โฟกัสเรื่องไปทางอาชญากรรมมากกว่าฮีโร่นำโดย Brian Michael Bendis และภาพที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังฟิล์มนัวของ Alex Maleev นั้นพาให้ตัวละครมีชีวิตและโลดแล่นอย่างสมจริง เราได้เห็นแง่มุมต่าง ๆ ของตัวละครนี้ รวมถึง Hell’s Kitchen ก็กลายเป็นเมืองที่มีชีวิตเป็นของตัวเอง

 

หลังปลุกปั้น Daredevil อยู่นาน 4 ปี ทั้ง Bendis และ Maleev ต่างก็แยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง  แต่เรื่องราวของ Daredevil ก็ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง  จนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในเหตุการณ์ Shadowland ที่บอกว่าพฤติกรรมแปลกประหลาดช่วงหลังของ Matt เกิดจากการโดนปีศาจเข้าสิง (WTF!!!!)

 

ล่าสุด Matt ย้ายจาก NY ไป San Francisco อีกครั้ง แต่คราวนี้ชีวิตเขาไม่ได้อมทุกข์ เขาเลือกจะมีความสุขกับทุก ๆ วัน แนวเรื่องก็ดูเบาสมองลง ไม่เชื่อดูเสื้อผ้าแกสิ  (- -“)

 

เท่านี้แหละครับคือประวัติศาสตร์แบบย่อ ๆ ของฮีโร่คนนี้ เราก็ต้องรอดูซีรี่ส์แหละครับว่าจะเป็น Daredevil ที่จริงจังอย่างที่คาดหวัง หรือเป็นพี่สูทแดงที่บอกว่าตัวเองเป็น Daredevil อย่างภาพข้างบน