British Invasion – 3 นักเขียนผู้เปลี่ยนแนวคอมมิคฮีโร่

brithisinvasion.001

Alan Moore , Neil Gaiman , Grant Morrison ที่กล่าวถึงนักเขียนมาข้างต้นล้วนเป็นนักเขียนจากเกาะอังกฤษครับ พวกเขาเป็นส่วนสำคัญในช่วงยุค 80 ซึ่งนักเขียนจากที่นี่เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการคอมมิคอเมริกา เราเรียกช่วงนี้ว่า ชาวอังกฤษบุก (British Invasion)

brithisinvasion.002

Alan Moore คือคนที่ได้เข้ามาเจิดจรัสในวงการนี้เป็นคนแรกเขาเริ่มต้นมีชื่อด้วยการเขียนเรื่อง Future Shocks ให้กับหัว 2000AD จากค่าย Rebellion ซึ่งโด่งดังที่สุดในเกาะอังกฤษ จากนั้นมาเขียน Marvelman ให้กับ Eclipse Comics

Len Wein บรรณาธิการ DC ไปจ้างเขามาทำ Swamp Thing หลังจากที่ลุงแกไปเขียน Marvelman จนได้ดิบได้ดี เดิมที DC ต้องการล้างไพ่ Swamp Thing ใหม่หมดแต่ Wein ไม่อยากให้ทำแบบนั้นเขาต้องการประวัติศาสตร์ Swamp Thing ยังอยู่ Moore ก็เห็นด้วย จึงลองเล่าเรื่องในทิศทางใหม่ที่ไม่ใช่แค่ผู้มีพลังแล้วต้องไปปราบเหล่าร้าย ซึ่งเป็นพล็อตพื้นฐานของซุปเปอร์ฮีโร่ในยุคนั้น

SWAMPTHINGFNL.DJ.QX.r6

การเล่าเรื่องแบบใหม่ทำให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมาก Swamp Thing กลายเป็นตัวละครแนวหน้าของ DC ผลงานหลังๆก็โดดเด่นกว่านักเขียนอเมริกันทั่วไปเรียกได้ว่าตอนนั้นเขียนอะไรก็เป็นดังทั้ง Batman : The Killing Joker , Watchmen ซึ่งเรื่องหลังเป็นหนึ่งในการยกระดับวงการคอมมิคควบคู่กับ The Dark Knight Returns ของ Frank Miller

ตอนนั้นเอง Alan Moore ไปรู้จักรุ่นน้องนักเขียนคู่มือนาม Neil Gaiman ซึ่งไปเห็นงานลุงแกจนเกิดแรงบันดาลใจให้เริ่มหันมาเขียนงานแนวนี้ แล้วต่อมาก็มาช่วยงานลุงเป็นครั้งคราว Gaiman ลองเขียนบท Swamp Thing ขึ้นมาหนึ่งตอนแล้วเอาไปให้ Moore ดูซึ่งลุงแกดูจะชอบบทนี้มาก

brithisinvasion.003

Neil Gaiman เป็นคนที่สองที่เข้ามาในวงการนี้แต่จริงๆผมก็ไม่แน่ใจระหว่างแกกับ Grant Morrison ใครเป็นคนเข้ามาก่อนแต่เอาเป็นว่าเพราะ อาจจะด้วยเคยช่วยงาน Alan Moore มาก่อน Gaiman จึงเข้ามามีบทบาทได้เร็ว เขายื่นบท Swamp Thing ให้ Karen Berger ดูซึ่งตอนนั้นเธอก็เป็นบรรณาธิการ DC Comics ในงานที่ลอนดอน เธอเห็นแววในตัว Gaiman จึงชวนให้มาทำ Black Orchid ฮีโร่สาวยุคเก่าให้กลับมาใหม่ ซึ่งได้ Dave McKean มาช่วยวาดรูปให้ จากนั้นก็มาทำ Sandman ตัวละครเก่าอีกคนซึ่งงานนี้แหละที่ทำให้ Neil Gaiman มีชื่อเสียงอย่างสุดๆ เขาตีความฮีโร่ตัวนี้มาใหม่จาก ฮีโร่ธรรมดา ให้เข้ากับตำนานเทพพระเจ้า และความเชื่อ ได้อย่างลงตัว จนให้ Sandman ยุคเก่าอย่าง Wesley Dogde ได้กลับมามีหนังสือของตัวเอง

gibbons-sequence

 

จำฉากความฝันของ Nite Owl II กับ Silk Spectre II ฉากนี้เป็นไอเดียของ Neil Gaiman ที่คิดให้ Alan Moore

brithisinvasion.004

Grant Morrison คนสุดท้ายที่จะพูดถึง เริ่มต้นเขียนการ์ตูนตั้งแต่อายุ 17 เป็นวัยรุ่นที่พุ่งแรงอีกคน ได้เข้ามาเขียน Future Shocks ให้ Rebellion เหมือน Alan Moore และสร้างตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ที่ชื่อ Zenith ครั้งนึงเขาเคยถูกทาบให้ไปเขียน Marvelman ต่อจาก Moore แต่ด้วยความที่เขายังไม่มีชื่อเสียงมาก และปลื้มกับงาน Marvelman เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงเขียนจดหมายหา Moore เหมือนกับขออนุญาตเขียนเรื่องนี้จะโอเคมั้ย เพราะกลัวเขียนไม่ดี แต่ Moore เขียนจดหมายตอบกลับมาว่า “ไปให้พ้น” แกจึงปฏิเสธงานนี้ไป ทำให้ Neil Gaiman ได้มาเขียนเรื่องแทน เขาเคยเขียนจดหมายเสนอตัวกับ DC เพื่อไปทำ Detective Comics แต่ก็โดนปฏิเสธมาอีก แต่เพราะงาน Zenith ทำให้ DC ต้องกลับมาสนใจในตัว Morrison และชวนไปเขียน Animal Man ตัวละครฮีโร่โนเนม ชื่อเสียงเริ่มมากขึ้นเขาได้เขียน Doom Patrol นำสไตล์ถนัดของตัวเองไปดัดแปลงฮีโร่ที่เริ่มจะขายไม่ออกให้กลับมาดังอีกรอบ แต่เขามาดังเปรี้ยงปร้างก็ตอนเขียน Batman Arkham Asylum: A Serious House on Serious Earth

สิ่งที่ 3 คนนี้มีเหมือนกันคือความโด่งดังมาจากการ ตีความฮีโร่ใหม่ ทำให้สิ่งที่ไม่น่าสนใจกลับมาสนใจมากขึ้น โดยทั้ง 3 ก็มีสไตล์การเขียนที่แตกต่างกันออกไป Alan Moore ชอบเขียนถึงสภาพสังคม Neil Gaiman เน้นไปที่การเขียนความแฟนตาซีและตำนานเทพ Grant Morrison ชอบเขียนเกี่ยวกับมิติความจริง และภาพลวงตา ทั้งสาม ท้าทายต่อกฏคอมมิค และฉีกมันออกไป เล่าเรื่องในมุมมองของตัวเอง ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์มาถึงทุกวันนี้

ศักยภาพของทั้ง 3 ทำให้เกิดคลื่นที่ทำให้ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายในอเมริกาต้องหันมามอง บุคลากรจากฝั่งอังกฤษมากขึ้น Karen Beager เริ่มชวนหลายๆคนมาทำงานอย่างเช่น Peter Milligan, Garth Ennis, Mark Millar, Warren Ellis, James Robinson ฯลฯ ในปี 1993 จึงเกิดค่ายการ์ตูนที่เนื้อหาเอาใจผู้ใหญ่ในชื่อ Vertigo

brithisinvasion.005

6 thoughts on “British Invasion – 3 นักเขียนผู้เปลี่ยนแนวคอมมิคฮีโร่

  1. 13Hatesong

    เพื่อนผมคนนึง(เรียนปรัชญา)คลั่ง นิล ไกแมนมากกับเรื่อง แซนแมนจนซื้อไว้ครบ แล้วแปลและเล่าตีความให้ผมฟัง ซึ่งสนุกจริงๆ จนน่าจะมีคนทำสปอย
    ยังไงขอบคุณบทความนี้ด้วยนะครับ

  2. voeten

    @13Hetesong เคยคิดจะทำ Sandman เหมือนกันครับ แต่มันแฝงปรัชญาเยอะจนผมคิดว่าคงบรรยายออกมาไม่ดีแน่ๆ เพราะไม่ใช้ที่ตัวเองถนัดเลย

  3. 13Hatesong

    @voeten เพื่อนผมเค้าเรียนปรัชญามาโดยตรงอ่ะครับ เค้าก็เลยเอาที่เค้าเรียนเค้าศึกษามาช่วยทำให้เข้าใจบางอย่างได้ลึกซึ้งขึ้น แต่พอผมบอกไม่ลองทำสปอย เค้าบอกอ่านเอง หรือเล่าให้เพื่อนฟังอ่ะได้ แต่แปลให้คนอื่นอ่านนี่ยาก 555+

  4. seventoon

    ผมมไ่ด้เข้ามาอ่าน เกือบปีแล้วแฮะ ที่นี่มีบทความดีดี เสมอเลยครับ
    คนเก่า เก่ายังอยู่พอสมควรแฮะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *