[Marvel comic] Thunderbolts #15 – INFINITY

เรื่อง : Charles Soule
ภาพ : Jefte Paolo
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics
วางจำหน่าย : 18 กันยายน 2013

พวก Thunderbolts กำลังทำภารกิจที่ The Punisher เป็นผู้นำอยู่ใน New York City

ทว่าเมื่อกองทัพยานอวกาศของ Thanos บุกมาถึงโลกแบบนี้ พวกเขาจะทำอย่างไร?

คำตอบมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว…

เปิดฉากมาที่สะพาน Brooklyn เมือง New York

Deadpool : ฉันไม่รู้ว่าทำไมเราไม่ไปทางรถไฟใต้ดินกันน้า

Punisher : หุบปาก

Deadpool : …

Deadpool : พวกนายเคยดูหนังที่อัล ปาชิโน่แสดงเป็นปีศาจไหม? ที่มีคีอานู รีฟด้วยน่ะ

Punisher : หุบปาก

Venom : “The Devil’s Own” สินะ

Deadpool : ใช่เลยเวน่อม เรื่องนั้นแหละ อัล ปาชิโน่เขาขึ้นรถไฟใต้ดินไปทุกที่เลย เขาบอกคีอานูว่ามันเป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะไปทุกที่ในนิวยอร์คเลย

Punisher : หุบปาก

Deadpool : ฉันแค่อยากบอกว่าถ้ามันดีพอสำหรับปีศาจล่ะก็…

=เปรี้ยง=

กระสุนปืนของ The Punisher เฉี่ยวหัว Deadpool ไปนิดเดียว
(แต่จริงๆแล้วถึงโดนเต็มๆก็ไม่ตายหรอก)

Deadpool : …มันก็น่าจะ…ดีพอ…สำหรับเรา?

Punisher : หุบปาก

Venom : เราไปทางรถไฟใต้ดินไม่ได้หรอกน่าเดดพูล เว้นแต่ว่านายมีวิธีที่จะเอาของนี่ไปกับเราด้วยน่ะ

Venom : ว่าแต่นายไปหาของแบบนี้มาจากไหนกันน่ะแคสเซิ่ล? ที่ถูกคือ ทำไมนายถึงต้องมีของแบบนี้อยู่ในครอบครองด้วย?

Punisher : เพราะฉันเลือกที่จะเตรียมพร้อมมากกว่าจะพึ่งพาโชคน่ะสิ

ตอนนั้นเอง Deadpool ก็ทนไม่ไหวแล้ว…

Deadpool : ว๊อยยยย!

Venom : นายจะไปไหนน่ะ?

Deadpool : ฉันทนการจราจรติดขัดไม่ไหวจริงๆ ไอ้การต้องนั่งอยู่เฉย ทำอะไรไม่ได้ ไปไหนไม่ได้ ติดกับ มันแย่สุดๆแล้ว แล้วฉันก็หิวด้วย

Deadpool : พวกนายไปกันก่อนได้เลย ฉันจะแวะไปร้านพิซซ่าอร่อยๆที่ฉันรู้จักซะหน่อย เพื่อชาร์จแบตเตอร์รี่แล้วฉันจะตามไปช่วยพวกนายฆ่าเจ้าพวกนักเลงที่นายมองหานั่น

Elektra : นายคิดจะเดินไปเดินมาในนิวยอร์คทั้งที่แต่งตัวแบบนั้นน่ะนะ?

Deadpool : ไม่มีปัญหา ส่วนใหญ่คนเขามักจะคิดว่าฉันเป็นสไปเดอร์แมน แล้วก็สองในสิบครั้งฉันจะต้องไปฟัดกับไฮโดรแมนด้วย เจ้านั่นมันจำฉันสับกับตัวจริงอยู่เรื่อยเลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก

ว่าแล้ว Deadpool ก็ออกเดินไป…

Elektra : นายอยากให้ฉันตามไปเรียกเขาไหม? ถ้าฉันขอเขาก็ยอมกลับมาด้วยแน่

Punisher : ไม่ต้องหรอก อย่างนี้ล่ะดีแล้ว

ตัดมาที่เรือดำน้ำของ Thunderbolts

Ross : ฉันไม่ชอบอยู่แนวหลังตอนทำภารกิจเลย มันให้ความรู้สึกไม่ถูกต้อง

Red Leader : การควบคุมบังคับบัญชาเป็นส่วนสำคัญในทุกปฏิบัติการนะครับคุณเธดเดอุส พวกคนในทีมที่เหลือต้องการคนที่จะช่วยมองมุมกว้างให้ด้วย

Ross : นี่สเติร์น ถ้ามันจะมีวันที่ฉันอยากได้คำแนะนำเรื่องยุทธวิธีจากนายล่ะก็ มันก็คงเป็นวันที่ฉันยิงหัวตัวเองนั่นแหละ
(ถ้าเป็นลุงในตอนนี้ล่ะก็ต่อให้ยิงหัวตัวเองก็อาจจะไม่ตายก็ได้นิ)

Red Leader : อย่างน้อยเราก็ปลอดภัยอยู่ข้างล่างนี้ล่ะ

Ross : ให้ตายสิ นายนี่มันขี้ขลาดจริงๆ นายเห็นอะไรที่ควรจะต้องเป็นกังวลบ้างไหมล่ะ?

Red Leader : ไม่มีครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี

แม้จะพูดแบบนั้น แต่หน้าจอตรงหน้า Red Leader ได้แสดงออกมาว่ามีกองทัพยานบินจำนวนนับหมื่นกำลังเข้ามาที่ New York
(อัยย่ะ ท่าทางเฮียแกจะเบื่อการโดนคนในทีมโขกสับเต็มทีแล้วเลยกะจะใช้งานนี้จัดการคนในทีมให้หมดในรวดเดียวซะละมั๊ง)

ตัดมาที่ Deadpool
พี่โม่งของเรากำลังนั่งอยู่ในรถไฟใต้ดิน

แล้วก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาทัก

เด็ก : ทำไมคุณถึงมานั่งรถไฟใต้ดินล่ะคะสไปเดอร์แมน?

Deadpool : เอ่อ เครื่องยิงใยของฉันมันน้ำยาหมดน่ะ ฉันไม่มีเงินพอจะขึ้นแท็กซี่ด้วย แล้วก็รถไฟใต้ดินก็เป็นวิธีที่เร็วที่สุดแล้วที่จะเดินทางในเมืองนี้ มีหนังที่บอกเรื่องนี้ด้วย…

เด็ก : อ๋อ

แม่หนูน้อยเดินไปหาแม่แล้วก็กลับมาพร้อมธนบัตรใบละสิบดอลล่าห์ (ประมาณ 300 บาท)

เด็ก : นี่สำหรับครั้งหน้าแล้วกันนะคะ
(แม่หนูแกให้เงิน “สไปดี้” ไปซื้อน้ำยาเครื่องยิงใย…)

Deadpool : เอ่อ…ขอบใจนะแม่หนู

เด็ก : ยินดีค่ะ!

ตัดมาที่สามคนในรถตู้
พวกเขาต้องหาข่าวสารเกี่ยวกับฐานที่ตั้งของพวก Paguros และวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่จะคิดได้คือ…ต้องถามจากพวกเหล่าร้ายนั่นเอง

แล้วพวกเขาก็เริ่มด้วยการใช้นกต่อล่อ…

ไปพบกับเซอร์ไพรส์ที่ไม่คาดฝัน…

หลังจากนั้น

Venom : นี่มันมันเวิร์คแล้วล่ะแฟรงค์ พวกนี้มันสารภาพทุกความผิดเท่าที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ออกมา แต่พวกมันไม่ยอมแม้แต่จะพูดถึงพวกพาร์กูโร่เลยซักคำเดียว ฉันไม่รู้ว่าพวกนั้นใช้วิธีไหนถึงมีอิทธิพลเหนือเจ้าพวกนี้ขนาดนั้น แต่ว่า…

Punisher : เราต้องใช้วิธีที่มันรุนแรงกว่านี้ สวะพวกนี้มันใช้คำพูดด้วยไม่ได้ผลหรอก พวกมันต้องใช้ความเจ็บปวดถึงจะได้เรื่อง

Venom : ฉันบอกไปแล้วนี่ว่าฉันไม่ยอมให้ทำแบบนั้นน่ะ

Punisher : …

Punisher : ใช่ ฉันได้ยินนายพูดแบบนั้นจริง

Venom : ฉันแน่ใจว่าพวกนี้เป็นคนเลว แต่เราก็ไม่เห็นพวกนี้ทำความผิดต่อหน้าต่อตาเรา

Punisher : ไม่

Venom : ใยของฉันจะสลายตัวเองในอีกหลายชั่วโมงให้หลัง เราไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว…พวกนี้จะหลุดออกมาได้เองนั่นแหละ

Punisher : เหรอ

แล้ว Punisher ก็ส่งสายตามีความหมายไปให้ Elektra ซึ่งเจ้าหล่อนที่อยู่ในวงการเดียวกันก็รู้ดีว่าเขากะจะทำอะไร และรู้ด้วยว่าถึงห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์ เลยตกลงใจตามน้ำไปเสียเพื่อไม่ให้เสียงานใหญ่

Elektra : มาเถอะแฟลช มาคิดหาวิธีอื่นกัน

Venom : ได้เลย

ขณะที่ทั้งสองคนเดินขึ้นรถไป Punisher ก็เดินไปที่เจ้าพวกกุ๊ยที่โดนมัดอยู่ แล้วหยิบอะไรบางอย่างที่มีหน้าปัทม์แสดงเวลาออกมา

เขาตั้งเวลาไว้ 5 นาที แล้ววางมันทิ้งไว้หน้าเหล่าตัวประกอบผู้น่าสงสารที่ต่างตาเหลือกกันถ้วนหน้าเมื่อดูออกว่ามันคืออะไร…

แล้วเขาก็เดินจากไป…ทิ้งให้พวกนั้นหาทางรอดกันเอาเองในเวลา 5 นาทีนั้น

(วิธีเดียวที่พอจะลุ้นเอาตัวรอดคือต้องกลิ้งกันไปทั้งหมดพร้อมกันเป็นกลุ่ม แต่ใยมันเหนียวเหนอะ แล้วคนก็เยอะด้วย…)

ห่างออกไปไม่มากนัก มีสามพ่อลูกตระกูล Nobili ที่แต่ละคนต่างก็หน้าตาปูดโปนกันถ้วนหน้ากำลังคุยเรื่องน่าสนใจกันอยู่…

Pops : ไอ้เจ้าพวกพาร์กูโร่บ้า ไม่ให้เกียรติ์กันบ้างเลย ครั้งหนึ่งพวกเราตระกูลโนบิลิเคยยิ่งใหญ่มากนะ พวกแกรู้ไหม?

Joe : รู้ครับ ป๋าบอกเราเอง

Carman : บอกมาเป็นล้านครั้งแล้วล่ะมั๊งครับ

Joe : แต่ผมต้องขอบอกว่าทุกวันนี้พวกเราคนตระกูลโนบิลิมันไม่มีค่าอะไรเลย คาร์แมนกับผมไปหางานกับพวกแก๊งอื่น พวกนั้นหัวเราะเยาะใส่หน้าเราเลย ใช่ไหมล่ะคาร์แมน?

Carman : ใช่ครับ โจพูดถูกแล้ว มันแย่มากๆเลย แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะครับป๋า?

Pops : พูดตรงๆนะลูก พ่อไม่รู้จริงๆว่ะ เจ้าพวกพาร์กูโร่มันไม่แม้แต่จะให้โอกาสเราเลย ฉันขอมันแค่ให้ลองพิจารณาดู แล้วเราจะได้กลับมายืนบนขาตัวเองได้ …เจ้าพวกพาร์กูโร่สารเลวเอ๊ย

ทั้งสามพ่อลูกไม่รู้เลยว่ามีใครแอบมองดูพวกเขาอยู่…

Punisher : นั่นไง

Punisher : ฉันรู้จักเจ้าสามคนนั้น พวกมันเป็นแค่พวกงี่เง่าเท่านั้น และพวกมันก็อาจจะไม่รู้อะไรเลย แต่พวกมันก็กากสุดๆ

Punisher : พวกกากๆอาจจะเป็นสิ่งที่เราำกำลังมองหาก็ได้

แล้วพวกเขาก็ใช้แผนเดิม…

ตัดมาทาง Deadpool
จู่ๆรถไฟใต้ดินก็หยุดกะทันหัน และมีประกาศให้ทุกคนรีบออกไปหาที่หลบภัยเนื่องจากมีบางอย่างเกิดขึ้นที่บนพื้นดิน

Deadpool จึงต้องออกไปดูบ้าง

ตัดมาที่ในรถตู้

Pops : พระเจ้าทรงโปรด! เราจะบอกทุกอย่าง! นายอยากรู้อะไรบ้างล่ะ? บอกมาได้เลย!

Carman : พันนิชเชอร์ แล้วยังมีตัวประหลาดมาด้วยอีกหรือเนี่ย? ใช่เลยป๋า บอกเขาไปเลย!

Punisher : บอกทุกอย่างที่แกรู้เกี่ยวกับเรื่องของพวกพาร์กูโร่มาซะ เริ่มจากว่าพวกมันมุดหัวอยู่ที่ไหน

เมื่อได้ยินคำถามสามพ่อลูกก็มองหน้ากันแล้วหน้าบานกันขึ้นมาทันตา

Pops : ให้ตายสิพรรคพวก นายน่าจะแค่ถามกันดีๆตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาใช้มุขลากขึ้นรถตู้กันแบบนี้เลย พวกฉันกับลูกๆน่ะไม่ชอบใจพวกพาร์กูโร่อยู่เหมือนกัน

Pops : พวกมันมีออฟฟิศอยู่ที่ถนนบร็อกซ์เดล ในเขตฮันท์พอยน์ เลขที่ 1620 ฉันคิดว่าพวกนายน่าจะหาเจ้าพวกจองหองนั่นได้ที่นั่น เราเพิ่งไปที่นั่นมานี่แหละ

ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น…

Carman : นั่นมันเสียงอะไรน่ะ?

Venom : ฟังดูเหมือนเสียงระเบิดนะ

Punisher : ฉันไม่เห็นได้ยินอะไรเลย

Venom : ฉันจะออกไปดูสักหน่อย

แล้วเมื่อ Venom เปิดประตูออกไปแล้วมองขึ้นข้างบน…

Venom : เอ่อ…นี่พวกนาย…

ที่บนท้องฟ้า คือภาพของยานรบขนาดมหึมานับร้อยนับพัน!!
(โปรดสังเหตุว่าสามพ่อลูกฉวยโอกาสเผ่นแนบไปแล้ว)

Venom : เราต้องกลับไปในเมืองแล้ว มีผู้คนต้องการความช่วยเหลือจากเรา

Punisher : นั่นไม่เกียวกับภารกิจของเรา

Venom : เลิกคิดถึงภารกิจได้แล้วน่าแคสเซิ่ล!

Punisher : ฟังให้ดีนะเจ้าตัวประหลาดอ่อนหัด ไม่ช้าก็เร็วงานที่แกต้องการจะให้พวกเราทำก็จะต้องมาถึง แกจะเดินออกไปตอนนี้เลยก็ได้ ไปเล่นเป็นฮีโร่ซะ แต่ถ้าแกทำแบบนั้นเมื่อถึงคราวของแกขึ้นมาล่ะก็ฉันจะไม่ทำอะไรแม้แต่อย่างเดียว แกตัดสินใจได้เลยว่าจะมากับเราไหม แต่เราจะไปแน่

หลังจากคิดอยู่ชั่วอึดใจ Flash ก็ตัดสินใจ

Venom : ก็ได้ แต่ถ้าเราพบคนที่ตกอยู่ในอันตรายล่ะก็เราจะต้องหยุดช่วยนะ นั่นเป็นมโนธรรมพื้นฐานของมนุษย์แล้วนี่

Elektra : มโนธรรมเหรอ นายรู้ใช่ไหมว่านายกำลังพูดกับแฟรงค์ แคสเซิ่ลอยู่น่ะ?

แล้ว Flash ก็หันไปเห็นกลุ่มควันลอยขึ้นจากทิศทางหนึ่ง

Venom : ดูโน่นสิ นั่นมันที่ๆเราทิ้งพวกกุ๊ยเอาไว้ไม่ใช่หรือ? เราน่าจะไปเช็คดูนะ

Punisher : พวกเอเลี่ยนมันคงเล่นงานพวกนั้นไปแล้วล่ะ เราช่วยอะไรพวกเขาไมได้หรอก

(น่าคิดดีเหมือนกันว่าไอ้การโดนกองทัพยานต่างดาวบุกเนี่ยมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาของโลกมาร์เวลไปแล้วใช่ไหมเนี่ย? เพราะดู Punisher กับ Elektra ไม่เห็นจะมองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย ขนาด Flash เองยังไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่ด้วย แค่เป็นห่วงคนในเมืองเท่านั้น…)

ตัดมาที่ย่าน Time Square
Deadpool กำลังอยู่ท่ามกลางการยิงถล่มของฝูงยานบินต่างดาว

แต่สิ่งที่นายโม่งกำลังคิดอยู่คือ…

Deadpool : เดี๋ยวเด่ะ

Deadpool : หนังมันชื่อ “Devil’s Advocate” ต่างหากล่ะ “Devil’s Own” มันหนังของแบร็ด พิทท์โน่น เวน่อมมันงี่เง่าจริงๆ

ตอนนั้นเองก็มีเสียงขอความช่วยเหลือดังขึ้น

เมื่อ Deadpool หันไปดูเขาก็เห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งกำลังโดนมนุษย์ต่างดาวโจมตี และเสียงขอความช่วยเหลือก็มาจากผู้โดยสารที่เป็นแม่ที่พาลูกมาด้วยในรถคันนั้นนั่นเอง

แม่ : ดูนั่นสิ! โอขอบคุณพระเจ้า เราปลอดภัยแล้ว

แม่ : ช่วยเราด้วยสไปเดอร์แมน!

แม้จะโดนเรียกผิด แต่ Deadpool ก็ไม่ใจร้ายพอจะทิ้งเหตุการณ์ข้างหน้าไว้เฉยๆได้

Deadpool : =เฮ้อ= พี่กำลังจะไปนะร้านพิซซ่าจ๋า รอพี่อีกสักหน่อย

ว่าแล้ว Deadpool ก็ชักดาบกับปืนออกมา

Deadpool : เดี๋ยวเดียวเท่านั้นแหละ!

ตัดมาที่ในเรือดำน้ำ
Mercy หมากซ่อนของ Thunderbolts รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก

Mercy : โอ้ว นั่นมันอะไรน่ะ?

Mercy : จู่ๆคนนับล้านก็คิดถึงเรื่องความตายพร้อมๆกัน และยังใกล้ๆนี้ด้วย ใกล้มาก

ขณะเดียวกันนั้น Red Leader ก็แอบมองดูเธอจากหน้าต่างของห้องนั้น

เขาเดินกลับมาที่สะพานเดินเรือ

Ross : นี่นายหายหัวไปไหนมา? นายรู้ไหมว่ามีอะไรกำลังเกิดขึ้นอยู่ในเมืองน่ะ?

Red Leader : อะไรหรือครับ?

Ross : พวกต่างดาวบุกน่ะสิ มียานมาเป็นพันๆเลย

Red Leader : โอไม่นะ จริงหรือนี่? แล้วยังเป็นตอนที่พวกอเวนเจอร์ไม่อยู่ด้วย…

ตอนนั้นเอง Red Leader ก็ทำเนียนแอบกดปุ่มๆหนึ่ง…
แล้วคอมพิวเตอร์ของเรือดำน้ำก็ประกาศออกมาว่า

[ลอยลำขึ้น]
[ลอยลำขึ้น]
[ลอยลำขึ้น]

Ross : อะไรเนี่ย? ไม่นะ! แบบนี้เราจะกลายเป็นเป้า เจ้าพวกนั้นแห่มาหาเราแน่!

Red Leader : คิดอย่างนั้นหรือครับ?

Red Leader : ผมพนันว่าพวกนั้นจะไม่สังเกตุเห็นเราด้วยซ้ำ

แล้วเรือดำน้ำของ Thunderbolts ก็ลอยลำขึ้นมาตรงที่ Supergiant 1 ในขุนพลของ Thanos อยู่พอดี…

โปรดติดตามตอนต่อไป

เกร็ดแถมท้าย

Mercy (Abigail Wright) เป็นศัตรูเก่าของ The Hulk โดยที่มาของเธอนั้นไม่แน่ชัด มีแต่ลือกันไปหลายอย่างว่าเธออาจเป็นมนุษย์ต่างดาว, เทพ, หรือได้พลังจากรังสีฯลฯ แต่ที่แน่ๆคือเธอคือผู้ที่ทรงอำนาจมหาศาลและมีพลังพิเศษหลายอย่าง โดยเธอจะมีเป้าหมายในการ “มอบความเมตตา” ให้กับเหล่าผู้ที่สิ้นหวังในชีวิตแต่ไม่มีความกล้าที่จะฆ่าตัวตายโดยเธอจะมอบความตายให้กับคนเหล่านั้น โดยวิธีการของเธอก็มีตั้งแต่โยนเตารีดลงไปในอ่างอาบน้ำ ไปจนถึงดึงวิญญาณจากร่างของคนที่นอนสมองตายแล้วส่งไปยังโลกหน้าเลยทีเดียว

โดยก่อนหน้านี้เธอเคยฆ่าลูกน้องของ Ross ที่กำลังจิตตกจากการที่หย่ากับภรรยามาเลยมีความคิดอยากตายอยู่ในสมอง ซึ่งเมื่อ Ross ได้กลายเป็น Red Hulk เขาก็ตามหาเธอจนพบและเข้าต่อสู้กัน ผลออกมาคือ Red Hulk ไม่สามารถเอาชนะ Mercy ได้ แต่ Mercy ก็ฆ่า Red Hulk ไม่ได้เช่นกัน ทำให้ Red Hulk ตัดสินใจว่าควรจะเก็บตัวอันตรายอย่าง Mercy อยู่ใกล้ตัวดีกว่าจะปล่อยให้เจ้าหล่อนเที่ยวฆ่าคนไปอย่างไม่มีการควบคุม โดย Red Hulk รับปาก Mercy ว่าหากเธอมาร่วมกับทีมของเขาเธอก็จะได้มีโอกาสได้พบกับความตายอย่างไม่ขาดสายแน่นอน เพราะนั่นเป็นงานหลักของทีมนี้อยู่แล้วซึ่ง Mercy ก็ตกลง