Superior Carnage Part 2

Marvel Comic : Superior Carnage Part 2
เรื่อง : Kevin Shinick
ภาพ : Stephen Segovia
วางจำหน่าย: 7 สิงหาคม 2013
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

The Wizard ได้พยายามหาวิธีที่จะควบคุม Carnage แต่ตัวเขาเองนั้นก็อาจจะกำลังดำดิ่งสู่ความบ้าคลั่งไม่แพ้เจ้าปีศาจสีเลือดที่เขากำลังพยายามจะฝึกให้เชื่องนี้ก็ได้…


.
.
.
เริ่มเรื่องมาในที่ซ่อนลับของ Wizard (Bentley Wittman)

The Wizard กำลังคุยกับ Klaw (Ulysis Klaw) เรื่องที่เขาจะดำเนินการตามแผนต่อไป ซึ่งนั่นก็คือการหาทางควบคุม Carnage Symbiote ที่ตอนนี้ควบคุมร่างที่สมองตายไปแล้วของ Cletus Kasady อยู่ เพื่อใช้งานมันเหมือนกับที่กองทัพอเมริกาเคยทำกับ Venom Symbiote มาแล้ว

แต่ตัว Wizard เองกลับมีอาการแปลกๆขึ้นมา อย่างเช่นเอารูปของ Black Tarantula ขึ้นมาแทนที่จะเป็นรูปของ Venom?

ซึ่งแม้เจ้าตัวจะเหมือนเริ่มรู้ตัวว่าสติสตังของตัวเองเริ่มจะไม่อยู่กับร่องกับรอยแต่ด้วยความอีโก้จัดจึงไม่ยอมรับและเถียงข้างๆคูๆไปว่าไม่ได้หยิบรูปผิด แค่เอารูปนั้นมาคั่นแฟ้มเฉยๆ

ตอนนั้นเองผู้ร่วมงานอีกคนหนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้น เขาคือ Dr.Karl Malus เป็นศัลยแพทย์อัจริยะผู้ที่ถูกทาบทามมาเพื่อช่วยเหลือในการ “ดัดแปลง” Carnage ให้เหมาะสมตามความต้องการของ The Wizard

และเมื่อ The Wizard คิดว่าตัวเองพร้อมที่จะลองอีกรอบหนึ่งแล้ว เขาก็สั่งให้ Klaw ปล่อยตัว Carnage ลงมา และเตรียมตัวใช้หมวกโทรจิตของเขาในการควบคุมเจ้าปรสิตต่างดาว

แต่ทว่า…เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาดคิดไว้

หมวกโทรจิตของ The Wizard กลับไม่สามารถควบคุม Carnage Symbiote ได้เลย

กระนั้นแม้จะโดนซัดจนแทบเละเป็นโจ๊กอยู่รอมร่อ The Wizard ก็ปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือ?!

The Wizard พยายามจะเอาชนะ Carnage ด้วยตัวเองเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตน

ทว่า…สิ่งที่เขาทำก็ให้ผลเพียงแค่ทำให้เจ้าสัตว์ร้ายบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิมเท่านั้น!!

จนในที่สุด Klaw ก็ต้องเข้ามาช่วยโดยใช้พลังเสียงแรงสูงที่เป็นจุดอ่อนของ Symbiote เข้าเล่นงานมัน

แต่ The Wizard กลับเอาแต่บ่นพึมพำถึงลูกชายตัวเอง แถมยังพูดกับ Klaw เหมือนเป็นลูกชายเสียอีก

Dr.Malus : นี่ผมเข้ามาร่วมกับเรื่องอะไรกันเนี่ย?

Klaw : ก็การสร้างประวัติศาสตร์ไงล่ะครับดร.มาลัส

Dr.Malus : มีบางอย่างที่คุณควรจะรู้ไว้นะคลอร์ มีข่าวลือว่าเมื่อตอนที่ที่วิซาร์ดพยายามจะชิงตัวลูกชายของเขาคืนมาครั้งล่าสุดนั้น แบล็คโบลท์ได้ลงโทษเขาด้วยการทำบางอย่างกับจิตใจของเขา ด้วยการทำให้อิเล็คตรอนในสมองของเขาปั่นป่วนจนก่อให้เกิดอาการสมองเสื่อมที่จะทำให้เขาไม่สามารถเป็นภัยกับใครได้อีก
(เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเล่ม FF Vol.7)

Dr.Malus : ปัญหาคือมันมีเส้นแบ่งระหว่าง “นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะสติเฟื่อง” กับ “คนที่กำลังจะเสียสติ” ซึ่งผมก็บอกไม่ได้ว่าเราอยู่ตรงไหนกันแน่

Dr.Malus : คุณได้เห็นเขาแสดงอาการของโรคสมองเสื่อมบ้างไหม?

แม้จะเห็นสภาพอาการของ The Wizard มากับตา แต่ Klaw กลับบอกว่า…

Klaw : ไม่ครับ

Dr.Malus : อย่าเข้าใจผมผิดนะ เพราะมีแต่คนสติเฟื่องเท่านั้นที่จะคิดแผนแบบนี้ขึ้นมาได้ และถ้ามันได้ผล เราทุกคนก็ไปได้สวยแน่

Dr.Malus : แต่ถ้าทั้งหมดนี้มันเป็นแค่ความเพ้อฝันของคนจิตป่วยเท่านั้นล่ะก็ เราก็ต้องรีบไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้…

The Wizard : อย่ากังวลไปเลยดอกเตอร์…

The Wizard : ทั้งแผนการและสติปัญญาของฉันยังอยู่ดี ขอบคุณที่เป็นห่วง

The Wizard : ขอฉันพูดให้ชัดเจนนะ คุณจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ที่คุณต้องการ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าฉันจะต้องทำสำเร็จ และมันจะเป็นผลประโยชน์ต่อคุณเองหากคุณอยู่ด้วยในตอนนั้น

The Wizard : เพราะคุณคงเคยได้ยินที่เขาพูดกันว่า “อะไรที่ไม่ฆ่าคุณ…จะกลับมาอีกจนกว่ามันจะทำจนสำเร็จ”

The Wizard : ทีนี้…มาลองกันอีกสักรอบ

ตัดไปยังอีกมุมหนึ่งของ New York City

Superior Spider-man (Otto Octavius ที่ยึดครองร่างของ Peter Parker) กำลังคุยกับตำรวจทางวิทยุ

เขารับรู้แล้วว่า The Wizard ชิงตัว Carnage ออกไปจากคุก แต่เขาเห็นว่าการตามล่า Jackal (Mile Warren) สำคัญกว่า
(อันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใน Epilogue ของบท Sibling Rivalry ที่แสดงให้เห็นว่าพวก Jackal หนีเอาตัวรอดจากไฟไหม้โรงงานไปได้)

แต่แม้ปากจะบอกตำรวจว่าไม่สน แต่ในใจแล้วนั้น Otto ก็อดคิดถึงเพื่อนเก่าของเขาคนนี้ไม่ได้

“โอ้ เบนท์ลี่ย์เอ๋ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับนายกันแน่? ครั้งหนึ่งนายเคยเป็นพรรคพวกที่น่านับถือ อัจฉริยภาพของนายนั้นอาจจะสามารถเทียบเคียงฉันได้เลยด้วยซ้ำ”
“จนกระทั่งนายสร้างเด็กนั่นขึ้นมา เจ้าโคลน “เบนท์ลีย์23″ นั่น และความหมกหมุ้นที่นายมีต่อเด็กนั่นก็แผ่ขยายเหมือนกับเนื้อร้ายที่ตอนนี้มันไปทั่วสมองของนายแล้ว”
“แบล็คโบลท์ได้บอกพวกฟิวเจอร์ฟาวเดชั่นว่านายมีเวลาเหลืออีกแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น จากการที่เขาเล่นตลกกับสมองของนาย”
“ฉันต้องยอมรับว่า ฉันนับถือวิธีการที่เขาใช้ เขาจะไม่มีวันรอดพ้นความผิดไปได้เลยหากว่าเขาอยู่ในสังคมที่เราอยู่นี้ แต่ด้วยความที่เขาเป็นเจ้าผู้ครองนครแอตธิลาน เขาได้ทำการลงทัณฑ์ที่หากเป็นที่อื่นคงต้องเรียกว่า…ผิดมนุษย์มนา (Inhuman)”
“ฉันสงสัยจริงๆ…ว่านายจะรู้ตัวหรือเปล่านะว่าสมองของนายกำลังจะตายน่ะ? ซึ่งถ้านายรู้ ก็มีคำถามเหลืออยู่อีกข้อเดียว…”
“นี่มันจะเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายในการปกป้องมรดกของนายเอาไว้?”
“หรือจะเป็นภารกิจฆ่าตัวตายเพื่อจบทุกสิ่งทุกอย่างกันแน่?”
“ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนก็ตาม ฉันอาจจะควรเป็นคนที่จัดการกับนายเสีย…”

“…แต่บางอย่างบอกฉันว่าสิ่งที่นายกำลังทำอยู่นี้อาจจะช่วยจัดการเรื่องนี้แทนฉันก็ได้”

ตัดไปที่รังลับของ The Wizard
หลังจากพยายามมา 4 ครั้งและลงเอยด้วยการโดน Carnage ซัดจนเกือบตายทุกครั้ง แถมสภาพจิตของเขาก็กำลังย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าครั้งนี้ The Wizard จะจนแต้มจริงๆแล้ว

Wizard : ทำไมสมองอัจฉริยะของฉันถึงแก้ปัญหานี้ไม่ได้? นี่ฉันทำผิดพลาดไปตรงไหน?

Dr.Malus : คุณกำลังทำสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้อยู่นะ จากที่ผมอ่านในแฟ้มข้อมูลนี่ เวน่อมซิมไบโอตไม่ได้รวมเข้ากับร่างสิงจนถึงระดับบ DNA ซึ่งนั่นหมายความว่ามันสามารถถูกใส่ให้กับใครก็ได้ที่พวกนั้นต้องการ

Dr.Malus : แต่คลีตัส คาซาดี้นั้นมีซิมไบโอตแฝงอยู่ในกระแสเลือดของเขาเลย มันเป็นหนึ่งเดียวกับเขาอย่างเต็มที่ เพราะงั้นเว้นแต่คุณจะสามารถถ่ายโอนซิมไบโอตไปยังใครสักคนที่สมองยังทำงานอยู่ คุณก็ไม่มีทางที่จะควบคุมเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ได้แน่

Wizard : คิดเข้าซี่ บ้าเอ๊ย คิดเข้า! มันต้องมีบางอย่างที่เราพลาดไป พวกมันเอาซิมไบโอตโง่ๆแล้วใส่มันเข้าไปในตัวคนธรรมดา ไม่สิ แย่กว่านั้นอีก! เจ้านั่นมันเป็นคนพิการด้วย…ซ้ำ

ตอนนั้นเองดร.Malus ก็สังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาอย่างแรง…

Dr.Malus : อะไรหรือครับ?

Wizard : ดอกเตอร์ คุณพูดถูกแล้ว! เราต้องการจิตใจของใครสักคนไว้ควบคุมจริงๆนั่นแหละ และความเสียสละเพื่อวิทยาศาสตร์ของคุณจะช่วยรักษามรดกของเบนท์ลีย์ วิทท์แมนเอาไว้ได้

แล้ว wizard ก็สั่งการ Klaw ว่า…

Wizard : เตรียมเขาให้พร้อมสำหรับการปลูกถ่าย

Dr.Malus : เดี๋ยวสิ อะไรนะ?! คลอว์ ฟังเขาพูดสิ นี่มันพิสูจน์ชัดแล้วว่าเขาเสียสติไปแล้ว! เขาสนใจแต่เรื่องครอบครัวเพี้ยนๆของเขาเท่านั้น คุณต้องเห็นมันได้ชัดๆแน่เหมือนกัน

Klaw : ผมจะไม่โกหกคุณล่ะนะดอกเตอร์ ผมสังเกตุเห็นบางอย่างจริงๆนั่นแหละ

Klaw : เขาได้เกณฑ์ผมเข้ากลุ่ม Frighyful Four หลายต่อหลายครั้งแล้ว และทุกครั้งเขาก็เริ่มเสียสติมากขึ้นเรื่อยๆ

Klaw : ไม่นานมานี้เขาได้สร้างแขนปืนคลื่นเสียงรุ่นใหม่นี้ให้ ไม่ใช่แค่เพื่อผมเท่านั้น แต่เพื่อให้ผมสามารถปฏิบัติตัวเป็นส่วนขยายของตัวเขา

Klaw : ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้โคลนผมขึ้นมาใหม่ และชุบชีวิตผมขึ้นมาจากความตายเพื่อให้ผมทำงานให้กับเขา

Klaw : เพราะงั้นมันจึงถูกต้องแล้วว่าบางอย่างมันปรากฎชัดเจนขึ้นมา

Klaw : ว่าตัวผมคือคนหนึ่งในครอบครัวของเขานั่นเอง

ว่าแล้ว Klaw ก็ซัด Dr.Malus จนตกจากเก้าอี้รถเข็นแล้วลากเขาไปหา The Wizard

จากนั้นก็จับเขาตรึงเข้ากับเตียงผ่าตัด

แล้วขั้นตอนการโอนถ่ายก็เริ่มขึ้น

ตอนนี้ Carnage Symbiote ก็ถูกย้ายมาไว้ที่ Host ใหม่แล้ว!!

แต่มันจะได้ผลหรือไม่? การที่ย้าย Symbiote มาไว้ในร่างสิงสู่ที่สมองยังสมบูรณ์อยู่จะช่วยให้ Wizard ควบคุมมันได้จริงหรือ?
โปรดติดตามตอนต่อไปเมื่อ Superior Carnage ปรากฎกาย!!

แถม ภาพ Epilogue จาก Scarlat Spider เล่ม 20

แม้จะไม่สามารถเก็บกู้ตัวอย่าง DNA ของ S.Spidey จากไฟมาได้ แต่ Jackal ก็สามารถเก็บเอาตัวอย่าง DNA ของ Kaine กลับมาได้ และมันจะใช้สิ่งนี้เป็นรากฐานของผลงานชิ้นใหม่ของมันต่อไป…

4 thoughts on “Superior Carnage Part 2

  1. seventoon

    สนุกดีครับ สรุป โฮสต์ใหม่ของคาร์นาจ คือ วิซาร์ดสินะเนี่ย- -*

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *