Uncanny X-Men #02

Uncanny X-men #02 : Poink is The New Bamf
เรื่องโดย : Brian Michael Bendis
ภาพโดย : Chris Bachalo
วางจำหน่าย : 27 กุมภาพันธ์ 2013
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

พบกับเรื่องราวของพวก Cyclops และมิวแทนส์รุ่นใหม่ในโรงเรียนของพวกเขา โรงเรียนของชาร์ล เซเวียร์ใหม่!!

.

ที่ด้านนอกฐานของพวก Cyclops
Emma ออกมาเดินท่ามกลางด้วยสีหน้าบึ้งตึง เธอกำลังเครียดกับสิ่งที่เธอเป็น และตะโกนออกมาอย่างดังเพื่อระบายความโมโหของเธอในตอนนี้

“ความเงียบมันกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า”

“ความเงียบทั้งหมดนี่”

“กับเวลาหลายปีที่ฉันได้เฝ้าอ่านจิตใจของคนอื่นๆ”

“ไม่ว่าจะคนที่ไม่รู้จัก หรือเหล่าคนที่รู้จักกัน”

“ทั้งความคิดที่งี่เง่า ความคิดอันเล็กน้อย รวมไปถึงความลับอันโสมม พวกมันล้วนอยู่เบื้องหน้าของฉัน”

“และฉันใช้เวลาที่มีปิดมันลงไป”

Emma : แล้วตอนนี้มันก็หายไปแล้ว @#%#$+ บ้าเอ๊ย ตอนนี้ฉันกลับคิดถึงมันจริงๆ

“แล้วฉันจะสอนอะไรให้แก่เหล่านักเรียนเป็นอย่างแรกล่ะ อย่าเล่นกับไฟแล้วเธอจะได้ไม่ถูกมันเผาเอางั้นเหรอ”

“แล้วตอนนี้มาดูฉันสิ”

“พลังของฉันถูกทำลาย และทำให้ฉันเป็นมิวแทนส์เพียงครึ่งเดียวจากที่เป็น”

“ฉันเคยเป็นถึงหัวหน้าของเหล่ามิวแทนส์ ฉันเคยเป็นถึงราชินีเชียวนะ”

“ฉันเคยเป็นราชินีขาว ราชินีขาวเชียวนะ”

“ฉันอยากจะโทษ สก๊อตต์ ฉันอยากจะโทษพลังฟินิกส์ ฉันอยากจะโทษ จีน เกรย์ ที่นำพาพลังฟีนิกส์มาที่นี่ตั้งแต่แรก”

“และในส่วนลึกที่สุดของฉัน ก็ต้องการจะโทษ จีน เกรย์ สำหรับทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น แต่ฉันก็รู้ว่านั่นมันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น”

“และฉันก็เลวมาก ที่คิดจะโทษแม้แต่ โทนี่ สตาร์ก กับอุบัติเหตุที่ทำให้พลังฟีนิกส์หลุดมาอยู่ในตัวของฉัน แล้วทำลายพลังของฉัน ทำให้มันเกิดความเงียบแบบนี้ขึ้น”

“และในความเป็นจริง ฉันก็ใช้เวลาส่วนใหญ่โทษว่ามันเป็นความผิดของ โทนี่ สตาร์ก”

“แต่ฉันไม่ควรจะโทษใครเลยนอกจากตัวฉันเอง เพราะฉันนั่นแหละที่ทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้”

“และฉันก็รู้ด้วยว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นั่นเพราะฉันได้ทรยศคนๆเดียวที่ฉันรัก”

“เมื่อตอนที่ฉันได้ยินเสียงจากส่วนลึกสุด, ดำมืดที่สุด และกลัวที่สุดภายในจิตใจของมนุษย์ สิ่งที่ฉันได้ยินคือความคิดที่ว่าคนที่เขารัก นั้นจริงๆแล้วรักเขาด้วยหรือเปล่า”

“ฉันมีชีวิตอยู่ภายในหัวของ สก๊อตต์ ซัมเมอร์ และฉันรู้ดีว่า ถึงเขาจะเป็นคนที่มีความมืดในจิตใจ เป็นคนที่ซับซ้อนก็ตาม…”

“และแม้จะคิดว่า ประตูแห่งความรักของเขาต่อ จีน เกรย์ นั้นจะไม่มีวันปิดตัวลง”

“ฉันก็รู้ดีว่าเขารักฉัน สก๊อตต์ ซื่อสัตย์ฉัน แต่ฉันกลับทรยศเขา”

“จากนั้นฉันก็บอกเขาว่า ฉันทรยศเขา และฉันต้องประหลาดใจที่ว่า เขาไม่พูดอะไรกับฉันเลย? ฉันประหลาดใจที่ว่าพวกเราจะจบกันแค่นั้นเหรอ?”

“แต่มันก็สมควรกับฉันแล้วล่ะนะ”

Scott : เอ็มม่า…

Scott : ผมคิดว่าคุณคงอยากจะอยู่ที่นั่นแน่ๆ ตอนที่พวกเราจะพูดคุยกับพวกมิวแทนส์รุ่นใหม่น่ะ

Emma : นี่คุณ… นี่คุณได้ยินความคิดของฉันมาจนถึงตอนนี้เลยเหรอ

Scott : ก็คุณปล่อยมันออกมาเองนะ แต่ก็แค่นิดหน่อย มันเปิดๆปิดๆน่ะ

Emma : นี่คุณได้ยินไปมากแค่ไหนเนี่ย

Scott : ก็มากพอล่ะมั้ง นี่เอ็มม่าอย่าคิดมากเลยน่า พวกเราน่ะกำลังอยู่ในระหว่าง…

Emma : โธ่เว๊ย

Scott : นี่บางทีมันอาจจะเป็นข่าวดีก็ได้นะ บางทีพลังของคุณอาจจะกำลังได้รับการรักษาแล้วก็ได้…

Emma : มันจะเป็นข่าวดีได้ ก็ต่อเมื่อฉันควบคุมการแสดงออกของความคิดได้เท่านั้นแหล่ะ แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้เลยว่ามันจะออกไปเมื่อไหร่ แล้วถ้าความคิดของฉันที่ดันออกไปมันดันเป็นเรื่องเลวร้ายล่ะจะทำยังไง

Scott : ก็เพราะแบบนั้นแหละ พวกเราถึงต้องฝึกฝนตัวเองยังไงล่ะ พลังของคุณ, ผม และแม็กนีโต้ นั้นมันเดี๋ยวติดเดี๋ยวดับ แม้แต่ อิลิยาน่า เองก็ยังได้พลังที่เธอไม่เคยมีมาก่อน พวกเราจะต้องตรวจสอบมัน และเริ่มการเรียนรู้ใหม่

Emma : แต่พวกเราต้องการความช่วยเหลือนะ

Scott : แต่มันไม่มีใครที่จะช่วยเหลือพวกเราหรอก พวกเราจะต้องช่วยเหลือกันเองเท่านั้นแหล่ะ

Emma : จากความสัมพันธ์ตลอดมาของพวกเรา ฉันได้อ่านความคิดของคุณมาตลอด แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้จริงๆว่าคุณว่าที่คุณคิดอยู่มันจะเหมือนเก่าหรือเปล่า

Scott : แล้วคุณอยากจะรู้อะไรล่ะ

Emma : การพูดสมัยเก่าหรือไง่ล่ะนั่น

Scott : แล้วคุณต้องการจะรู้อะไรล่ะ

Emma : แล้วคุณไม่สบอารมณ์บ้างหรือเปล่า ที่เราไม่ได้คบกันอยู่แล้ว

Scott : ความรู้สึกของผมมัน…ผสมกันมั่วไปหมด

Emma : นั่นดูจะเป็นคำตอบที่ดูซื่อสัตย์ต่อตัวเองดีนะ

Scott : ก็เพราะใช่น่ะสิ

Emma : ฉันคิดว่าคุณเกลียดฉันซะอีก

Scott : ผมก็คิดว่าคุณเกลียดผมเหมือนกัน

Emma : ฉันคิดว่าคุณเกลียดตัวเองมาก จนไม่คิดถึงเลยว่าคนอื่นๆจะเกลียดคุณหรือเปล่า

Scott : แล้วคุณบอกว่าคุณอ่านใจผมไม่ได้ไง

Emma : คุณอยากจะให้พวกเรากลับมาคบกันอีกมั้ย

Scott : แต่ผมไม่เห็นทางที่เราจะทำแบบนั้นได้เลยนะ

Emma : ฉันก็เหมือนกันล่ะ แล้วเราก็จะอยู่ที่นี่กันต่อไปงั้นสินะ

Scott : ผมจะไม่ให้คุณต้องลำบากใจหรอก

Emma : แหมช่างโรแมนติกซะจริงๆนะ

Scott : นี่ผมเอาจริงนะ ถ้าคุณไม่อยากจะอยู่ที่แล้วละก็ ไปเถอะ ไปพร้อมกับคำอวยพรของผม ที่ผมพาคุณมาที่นี่เพราะผมคิดว่าคุณอยากจะมาอยู่ที่นี่

Scott : ที่ผมพาคุณมาอยู่ที่นี่ เพราะคุณเชื่อในสิ่งที่พวกเราทำ

Emma : หมายถึงไอ้การปฏิวัติของเหล่ามิวแทนส์ของคุณน่ะเหรอ

Scott : ผิดแล้ว ของพวกเราต่างหาก

Emma : เฮ้ มันกลายเป็นแบบนั้นได้ไงเนี่ย

Scott : พวกเรากำลังพยายามทุกหนทางนะ

Emma : พวกเราทำอย่างนั้นจริงๆ งั้้นเหรอ

Scott : ที่ผมอยากให้คุณมาอยู่ที่นี่เพราะคุณเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยม

Scott : ใช่แล้ว บางทีอาจจะยอดเยี่ยมที่สุดเท่าทีผมเคยเห็นเลยด้วยซ้ำ และเด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือของคุณนะ พวกเราไม่เคยรับนักเรียนใหม่แบบที่แทบจะไม่รู้อะไรเลยแบบนี้มาก่อน

Emma : นั่นก็จริงนะ

Scott : ส่วนไหนเหรอ

Emma : ทั้งหมดนั่นแหละ

Scott : และผมยังหวังนะว่าถึงแม้บางครั้งเราจะเกลียดกันและกัน แต่เราก็มุ่งมั่นที่จะก้าวข้าวอดีตพวกนั้นและช่วยเหลือเด็กๆที่ไม่รู้ความของพวกเรา

Emma : เพราะว่านั่นคือสิ่งที่ ชาล เซเวียร์ จะทำงั้นเหรอ

Scott : เปล่าเลย นั่นแหละคือสิ่งที่ ชาล เซเวียร์ ทำมาตลอด

Emma : นี่เขาไม่ใช่นักบุญขนาดนั้นนะ คุณต้องจำตัวตนของเขาที่เขาเป็นนะ

Scott : ผมรู้

Emma : นี่ฟังนะ ที่ฉันพูดถึงเขานั่นฉันไม่ได้หมายถึง…

Scott : แล้วคุณจะอยู่ต่อมั้ย

Emma : ฉันเลิกคิดที่จะไปแล้วล่ะ เพราะคุณพูดถูก ที่ว่า ฉันเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยม และสำหรับ… เรื่องทั้งหมดนี่… ก็เหมือนที่นายพูดนั่นแหละ มันช่าง “ไร้สาระ” ฉันยังคง… จดจำตัวเองก่อนที่จะพาพบกับคุณได้… และฉันเกลียดเธอคนนั้น

Emma : ฉันเกลียดเธอสุดๆไปเลยล่ะ จนฉันไม่อยากจะคิดถึงเธออีกเลย ดังนั้นถ้าอย่างน้อยๆพวกเราจะทำอะไรร่วมกันเพื่อเด็กพวกนั้นแล้วละก็… ฉันก็คิดว่าฉันคงจะอยู่แบบนั้นได้ และคงมีความสุขกับแบบนั้น

Scott : ผมก็ว่าผมชอบแบบนั้นนะ

“ขอบคุณพระเจ้า”

Scott : เอ่อ คุณแสดงความคิดออกมาอีกแล้วนะ

“บ้าเอ๊ย”

ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเริ่มสวีทกันอยู่ ก็มีสายฟ้าฟาดลงมาทำลายบรรยากาศเบื้องหน้า Emma อย่างรุนแรง

และนั่นคือพลังของ Magik

Magik : เฮ้…

Emma : อิลิยาน่า

Magik : ทุกๆคนกำลังรอพวกคุณอยู่นะ

Scott : โอเค เข้าใจแล้ว

Magik เห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เลยคิดอะไรบางอย่าง

Magik : นี่พวกคุณกลับมาคบกันหรือเปล่าเนี่ย

Scott : เปล่า

Magik : ต้องงั้นสิ ขอบคุณท่านเจ้าแห่งความมืด

แล้ว Magik ก็หายตัวไป

Emma : เธอทำฉันกลัวสุดๆไปเลยนะ

Scott : เธอเป็นพวกคิดมากน่ะ

Emma : พวกเราทุกคนก็คิดมากกันทั้งนั้นแหละ แต่ยังไงก็เถอะ เธอทำฉันกลัวจนจะบ้าตายแล้ว

แล้ว Scott ก็รีบเปลี่ยนเรื่อง

Scott : พวกเรามาเข้าสู่ตอนต่อไปกันดีกว่า

แล้วทั้งคู่ก็เดินกลับเข้าไป

Emma : ฉันคิดถึงตอนที่ฉันอยู่ในหัวของคุณนะ

“และมันไม่ใช่ว่าฉันต้องการสืบอะไรจากคุณ หรือฉันไม่เชื่อใจคุณ ฉันชอบที่จะอยู่ที่นั่นก็เพราะว่ามันปลอดภัยที่สุด”

Scott : คุณปล่อยความคิดออกมาอีกแล้วนะ

Emma : ก็ดีนี่

Scott : เอาจริงๆ ผมก็คิดถึงมันเหมือนกันนั่นแหละ และแต่คุณก็รู้ดีนี่ว่านี่มันดีที่สุดแล้ว

Emma : ใช่สิ แน่นอนล่ะ

และพวกเขาเข้ามาสู่ห้องที่มีการฉายภาพการบุกของพวก Sentinel ในเล่มที่แล้ว

Magneto : ดูแล้วระวังไว้นะ

Eva : ว้าว นั่นพวกเรานี่ แล้วเจ้าพวกนั้นมันมาจากไหนกัน

Magik : พวกนั้นคือ เซนติเนล ผู้ตามล่าเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ ไงล่ะ คุณเบลล์ พวกนั้นจะตามรอยพวกเราและจู่โจมพวกเรา นั่นคือสิ่งที่พวกมันทำ หรือจะเรียกว่าทั้งหมดที่มันทำก็ว่าได้

Banjamin : แต่มันดูมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ เหมือนมันอยู่รอบๆตัวเราเลย

Emma : นั่นแหละคำถามของเราเด็กๆ ใครเป็นคนที่ปล่อยเจ้าพวกนี้จากโซ่ที่ล่ามคอพวกมันอยู่

Scott : ใช่นั่นแหละคำถาม

แล้ว Fabio ก็บ่นเรื่องที่เขาอยู่ในงาน แล้วก็โดนจู่โจมจากพวกนั้น ก่อนจะโดนพวกเขาพาตัวมาที่นี่ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าที่ไหน และเขากลายเป็นตัวบ้าอะไรไปแล้ว จน Scott ต้องยืนยันกับเขาว่า เขาเป็นมนุษย์กลายพันธ์จริงๆ และให้ Magneto แสดงให้เขาเห็น ทุกอย่างๆ

Magneto หยิบเครื่องแสดงภาพฉายขึ้นมา และมันได้แสดงสถานะของเหล่ามิวแทนส์ทั่วโลก

Scott : มนุษย์กลายพันธ์ ตอนนี้เหล่ามนุษย์กลายพันธ์รุ่นใหม่ กำลังปรากฏตัวขึ้นมาทั่วโลก มันคือมนุษย์กลายพันธ์รุ่นใหม่ รุ่นแรกสุดในปีนี้ และพวกเธอก็อยู่ในนั้น

Scott : และมันเรียกได้ว่าเป็นข่าวดีที่สุดในรอบปีสำหรับเหล่าคนของเราเลยทีเดียว และจากที่ฉันคิด มันแทบจะเป็นข่าวดีที่สุดสำหรับพวกเรา ตั้งแต่ที่มีการค้นพบยีนของมนุษย์กลายพันธ์ และนี่ก็หมายถึงเผ่าพันธุ์ของพวกเราจะต้องลุกขึ้นสู้…

Benjamin : ของพวกเราเหรอ

Emma : พวกเธอน่ะเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าตัวของพวกเธอซะอีก จริงๆแล้วเธอเป็นมาตลอด แต่ตอนนี้ เธอรู้แล้ว

Magik : แล้วเป็นไงล่ะ รู้สึกดีล่ะสิท่า

Scott : อนาคตของเผ่าพันธุ์ของเราอยู่ในกำมือของพวกเธอนะ

Magik : ก็นะ กำมือของพวกเรา

Eva : หนูคิดว่ามนุษยก์กลายพันธ์นี่ต้องเกิดมาเป็นมนุษย์กลายพันธ์เลยซะอีก

Magneto : เธอเกิดมาเป็นมนุษย์กลายพันธ์

Eva : แต่หนูแค่ยังไม่รู้ตัวเอง

Magneto : นั่นแหละ ถูกต้องที่สุด

Eva : แล้วงั้นคนอื่นๆในครอบครัวของหนูล่ะ

Magneto : นั่นมันก็ยากจะพูดถึงนะ

Eva : หนูจะไม่ได้เห็นพวกเขาอีกแล้วเหรอ

Magneto : เธอไม่ได้ถูกลักพาตัวมาเป็นตัวประกันนะ แม่หนู

สิ่งที่ Eva คุยกับ Magneto ทำให้ Emma ต้องสบตากับ Scott แว๊บนึง (เนื่องจากคุยกันผ่านความคิดไม่ได้)

Muse : แต่ผมล่ะโคตรตื่นเต้นเลย ผะ…ผม เกลียดมหาลัยสุดๆ ผมเกลียดชีวิตตัวเอง แล้วตอนนี้ผมสามารถรักษาผู้คนได้ด้วยมือผมเอง ผมสามารถทำอะไรบางอย่างได้ ตอนนี้ผมเป็นเอ็กซ์เม็นแล้ว นี่แหละใช่เลย นี่มันแหล่มที่ซู๊ดดดดดด

Fabio : เออ แกพูดง่ายนี่หว่า… ก็นายไม่ได้มีเจ้าลูกบอลสีทองๆโผล่ออกมาจากตัวแบบฉันนี่

Scott : นั่นมันก็น่าสนใจดีนะ… ไอ้พลังที่เธอแสดงออกมาน่ะ

จากนั้นพวกเขาก็ลองให้ Fabio แสดงพลังของเขาออกมา และเมื่อเขาทำได้ มันก็พุ่งออกมาจากตัวเขามากมาย จนคนอื่นๆต้องหลบ และบางคนก็โดนเข้าไปเต็มๆ

Scott : เอาล่ะ บางทีมันอาจจะเป็นของที่เอาไว้ใช้ข้างนอกนะ

Fabio : ขอโทษครับ

Muse : แล้วว่าแต่ นี่เราอยู่ที่ไหนครับเนี่ย ที่นี่มันอยู่ใต้ดินหรือเปล่าครับ

และแล้วก็ถึงเวลาแสดงฐานทัพ เอ๊ย โรงเรียนแห่งนี้แล้ว

Magneto : พ่อมิวแทนส์หนุ่ม ที่นี่คือโรงเรียนของ ชาล เซเวียร์ สำหรับเหล่ามนุษย์กลายพันธ์

เอาล่ะมาแจกแจงโรงเรียนกัน
ด้านบนสุด – โรงเก็บเครื่องบินของพวกเขา
ด้านซ้ายสุดชั้นรองลงมา – สวนพืชพรรณ
ห้องตรงกลางที่พวกเขาอยู่ – ห้องประชุม และ Danger Room
ข้างห้องประชุม – ห้องพักอาศัย
ชั้นล่างของห้องประชุม – ห้องเครื่องยนต์กลไก สำหรับ Danger Room
ด้านซ้ายห้องเครื่องกล – ห้องเรียน
ด้านล่างห้องเครื่องกล – ห้องอาหาร
ถัดลงมาทางซ้าย – ห้องการสงคราม (น่าจะใช้วางแผน หรือจำลองอะไรต่างๆ)
และล่างสุด – ส่วนบริการต่างๆ

Eva : ว้าว มันยอดมากเลยค่ะ

Muse : และพวกเราก็อยู่กันที่นี่

Scott : แน่นอน

Benjamin : แล้วพวกเราต้องอยู่กันที่นี่จริงๆ เหรอ

Emma : ไม่ต้องหรอก เบนจามิน เธอจะเลือกที่จะกลับไปในงานนั่นแล้วเข้าหาสาวๆในห้างซักคนก็ได้….

Benjamin : เดี๋ยวสิ นั่นมันผมซะที่ไหนล่ะ นั่นมันหมอนั่นต่างหาก

Scott : ฉันก็ยังไม่เข้าใจนะ ว่าทำไมเธอถึงต่อต้านที่จะรับมัน… ทั้งๆที่มันคือพรสรรค์ที่ได้รับมา

Magik : จริงเหรอ นายคิดว่าทำไม่ได้งั้นเหรอ?

Magik : นายพูดถึงการปฏิวัติสินะ สก๊อตต์ ซัมเมอร์ แต่ในประเทศที่ฉันเกิด นั่นคือคำพูดที่น่าหวาดกลัวที่สุด และคำพูดนั่นสื่อถึงอะไรบางอย่างนะ สก๊อตต์

Scott : ฉันรู้

Magik : เจ้าพวกนี้เป็นแค่เด็ก เหมือนที่ฉันเคยเป็น…หรือแม้แต่นายก็ด้วย และฉันก็จำได้ดีว่าฉันเคยหวาดกลัวแค่ไหน

Benjamin : เอ่อ แต่ฉันว่าฉันอายุพอๆกับเธอเลยนะ

Magik : ใช่ แต่นายกลัว ทุกๆสิ่งในชีวิตของนายมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และการเปลี่ยนแปลงนั่นก็น่ากลัวเลยทีเดียว ฉันรู้นะ

Magik : ในตอนที่ฉันเป็นเด็ก ฉันมักจะพูดกับตัวเองไว้เสมอ ว่าอะไรที่ทำให้เราไม่ได้ใช้ชีวิตตามปกติ แต่จริงๆแล้วพวกเราไม่ใช่แบบนั้น… พวกเราไม่ว่าคนไหนในห้องนี้จะไม่มีวันได้ใช้ชีวิตตามปกติ แล้วนั่นเป็นเพราะพวกเราถูกลงโทษจากการที่พวกเราเป็นคนที่แปลกแยกออกไปงั้นเหรอ ผิดแล้ว

Eva : เพราะว่ามันไม่มีสิ่งไหนที่ธรรมดาหรอก

Magik : ถูกต้อง

Emma : เธอเป็นที่คนหัวไวจริงๆ

Fabio : แต่ให้ผมถามอะไรหน่อยละกันนะ…

Fabio : คุณพาตัวพวกเรามาจากบ้านอย่างไว และก็ใช่ที่ว่าผมรู้สึกขอบใจจริงๆ ผมเองก็ไม่อยากจะโดนจับหรือถูกไอ้พวกยักษ์นั่นมันกินเข้าไปอ่ะนะ

Muse : แต่นายก็อยากจะกลับบ้านใช่มั้ยล่ะ

Eva : เขาบอกว่าฉันฉลาดล่ะ

Fabio : ใช่ ฉันอยากจะเห็นหน้าครอบครัวน่ะ

Muse : แต่ฉันจะไม่ยุ่งกับพวกเขา

Fabio : ห๊ะ ไม่ยุ่งกับครอบครัวนายอ่ะนะ

Muse : มันไม่มีอะไรเลย และฉันก็หมายถึงไม่มีอะไรเลยจริงๆ สำหรับฉันที่จะกลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริงนั่น

(แล้วที่เอ็งอยู่นี่มันโลกเหนือจินตนาการหรือไง)

Fabio : ว้า นั่นมันน่าเศร้าจริงๆนะ คริสโตเฟอร์

Muse : ก็แล้วแต่อ่ะนะ เจ้าลูกบอลทอง

Fabio : ขอเหอะ อย่าเรียกฉันแบบนั้นเลย มันทุเรศอ่ะ

Eva : ฉันเองก็อยากจะบอกพวกเขานะคะ ว่าฉันสบายดี และมันเกิดอะไรขึ้นมา รวมไปถึงเก็บของของฉัน กับแปรงสีฟันด้วย

Scott : บางทีเมื่อทุกๆอย่างสงบลงละก็นะ

Eva : แล้วมันเมื่อไหร่ล่ะคะ

Scott : พวกเจ้าหน้าที่จะตามหาตัวเธอ บางทีพวกเขาอาจจะไปที่บ้านของเธอ แล้วสอบสวนครอบครัวของเธอก็ได้นะ

Eva : ไม่นะคะ

Scott : ไม่ ยังไง

Eva : ก็ถ้าแม่ของฉันต้องมีปัญหา และนั่นเป็นเพราะหนูละก็ หนูก็ต้องไปช่วยเธอ

Scott : เอ่อ…เอิ่ม…ทะ…เธอ… ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก

Eva : นี่คุณจะทำเป็นไม่เข้าใจจริงๆเหรอว่าหนูขออะไรน่ะ

Magik : สงบสติตัวเองเถอะ ฉันจะพาพวกเขาไปเอง และถ้าเราสามารถช่วยครอบครัวของเธอได้เราก็จะทำ

Emma : งั้นเราก็ไปกันให้หมดเลย

Scott : งั้นดูท่า ฉันคิดว่าพวกเราจะได้กลับไปออสเตรเลียแล้วสิ

เมื่อตกลงกันได้ Magik ก็ลงมือทันที

Magik : ทุกๆคน เข้าไปในประตูได้

Benjamin : ว้าว นี่คุณทำแบบนั้นได้ยังไงกันเนี่ย

Magik : พลังการกลายพันธ์ของฉันคือการเคลื่อนย้ายมวลสาร พวกเราจะไปจากจุดเอ ไปยังอีกจุดบี โดนผ่านทางมิติที่อยู่ของเหล่าปีศาจ หรือในชื่อเรียกว่า ลิมโบ

Benjamin : ฉันว่าฉันได้ยินคำว่า “ปีศาจ” นะ

Muse : มิติ ลิมโบ มันคืออะไร? เหมือนนรกหรือเปล่า?

Magik : ก็ประมาณนั้น

Muse : นี่เธอล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย

Emma : ฉันว่าฉันไม่เคยเห็นเธอเล่นมุกนะ

Eva : แต่มันปลอดภัยใช่มั้ยล่ะ

Scott : แล้วคุณล่ะ แม็กนีโต้

Magneto : ฉันมีเรื่องที่ต้องทำที่นี่ เที่ยวให้สนุกล่ะ

เมื่อทุกๆคนจากไป เขาก็เริ่มทำตามแผนทันที

Magneto : นี่ฉันเอง ชายฝั่งสีทอง ออสเตรเลีย เดี๋ยวนี้เลย พวกนายไม่มีเวลามากนักหรอกนะ และจำไว้ ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่ใช้พลังได้

Magneto ทรยศ Scott จริงๆอย่างงั้นหรือ

ทางด้านพวก Scott ก็มาถึงหน้าบ้านของ Eva

Benjamin : เอาล่ะ พวกเราเพิ่งจะไปยังมิติที่อยู่ของปีศาจมา

Magik : ก็แค่ชั่วเสี้ยววินาที มันเร็วมากจนนายสังเกตไม่ทันหรอก

Benjamin : งั้นมันก็แสดงว่า ฉันเพิ่งจะลงนรกไปเองไม่ใช่เหรอ

Magik : เอาน่ายังไงนายก็ไปที่นั่นอยู่แล้วนี่

Benjamin : ก็จริง แต่ตอนที่ฉันตาย…

Eva : ไม่อยากจะขัดพวกนายนะ แต่ฉันอาศัยอยู่ที่นั่น

แล้วจู่ๆ Benjamin ก็นิ่งไปเหมือนรออะไรสักอย่าง จน Magik ต้องพูดออกมา (คาดว่ารอ Magik จูบมั้ง)

Magik : ไม่ล่ะ ไอ้หนู… ฉันจะอัดนายนะ

Scott : มาจิค เคลื่อนย้ายตัวเองไปอยู่บนสิ่งก่อสร้างนั่นแล้วดูลาดราวด้วย

Magik : ได้เลย

Scott : อีวา บางทีเธออาจจะอยาก…

Eva : แม่!

แม่ : อีวา!

Eva : หนูสบายดีค่ะ แม่

แม่ : แม่คิดว่าลูกตายไปแล้วซะอีก

Eva : โถ่แม่คะ หนูขอโทษ

แม่ : พวกตำรวจบอกว่าลูกถูกลักพาตัวไป

Eva : หนูไม่ได้ถูกลักพาตัวค่ะ แต่หนูถูกช่วยไว้ พวกเขาช่วยเหลือหนู

Scott : ผมชื่อ สก๊อตต์ ซัมเมอร์ ครับ คุณแม่

แม่ : โอ้ พระเจ้าช่วย

Scott : ลูกของคุณปลอดภัยครับ

แม่ : โอ้ พระเจ้าช่วย

Scott : ผมรู้ว่ามันอาจจะมากเกินกว่าที่คุณจะรับได้ แต่ข่าวดีคือลูกของคุณเป็นมนุษย์กลายพันธ์ที่มีพรสรรค์มาก

Scott : และพวกเราสามารถช่วยเหลือเธอได้…

แต่แล้วเรื่องก็เกิดขึ้น จากสีหน้าของ Emma และคนอื่นๆ มันคงจะไม่ใช่เรื่องดีซะด้วย

“โอ $%*&=”

Muse : โว้ว

“พวกเรายังไม่พร้อมนะ”

“พวกเรายังไม่ใกล้เคียงกับคำว่าพร้อมแม้แต่น้อยเลยด้วย สำหรับเรื่องนี้”

และสิ่งที่ทำให้ Emma ต้องกังวลนั่นคือการมาของกลุ่มคนที่เธอไม่อยากพบที่สุดในตอนนี้ The Avengers

Cap : อเวนเจอร์ส ประจัญบาน

เหล่า Uncanny X-Men จะทำอย่างไร เมื่อพวกเขาต้องพบกับทีมคู่ปรับที่เวลานี้ ที่พวกเขาแทบจะไม่มีความพร้อมเลย ไม่ว่าสมาชิก หรือพลังของพวกเขา แล้วด้วยการมาของ Avengers จะทำให้แผนของ Magneto สำเร็จหรือไม่

ติดตามตอนต่อไป

เล่มหน้า

เปิดเผยแผนการที่แท้จริงของ Magneto

เล่มนี้ตัวละครเยอะมาก พวกตัวประกอบหน่อยผมเลยขอไม่ลงสีนะครับ

เผยแพร่ครั้งแรกที่ : Bank-Comics For Fun

7 thoughts on “Uncanny X-Men #02

  1. St.Valentinus

    ขอบคุณครับ

    ทำไมรู้สึกว่าหัวนี้มันเดินเรื่องเนิบๆจัง ตั้งแต่เล่มแรกละ

  2. genesis Post author

    สำหรับเนื้อเรื่องผมว่าจากที่แปลของ Bendis มา ทั้ง All-New X-Men, Uncanny X-Men และ Age of Ultron

    พี่แกจะค่อยๆเล่าลำดับเรื่องไปเรื่อยๆครับ และในเล่มจะเต็มไปด้วยบทสนทนาเต็มไปหมด
    ถ้าชอบแนวเนื้อเรื่องผมว่าโอเคเลย เพราะนานๆทีถึงจะมีฉากบู๊ใส่มา

  3. Nexusbb

    เล่มนี้ผมชอบตอน emma กับ scott คุยกันน่ารักดี

  4. The cap.

    ขอถามหน่อยครับ
    หนึ่ง แมกนีโต้หายจากการเป็นโจเซฟเมื่อไหร่ครับ
    สอง ไซครอปนี่ประมาณ35ได้ไหม

  5. seventoon

    สนุกดีนะ ครับน่าจะมันส์ขึ้นแน่แน่ ลายเส้นคุ้นเคยด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *