Blackest Night : Green Lantern Vol.45-48

เนื่องจากเนื้อเรื่องส่วนนี้ออกมาครบแล้ว ผมจึงขอเอามารวมกันครับ
เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Doug Mahnke, Christian Alamy, Tom Nguyen
วางจำหน่าย: Vol.45 26 สิงหาคม 2009, Vol.46 30 กันยายน 2009, Vol.47 28 ตุลาคม 2009, Vol.48 25 พฤศจิกายน 2009
สำนักพิมพ์ : DC Comics

Blackest Night เป็น อีเว้นที่มีสเกลใหญ่ระดับจักรวาล มาดูกันซิว่า นอกเหนือจากสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลก มีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง

John Stewart Green Lantern จากดาวโลกได้พบเห็นปรากฎการณ์ประหลาดต่อหน้าต่อตา แหวนดำจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าไปในซากดาว Xanshi ที่พินาศไปในอดีตและเริ่มเชื่อมมันเข้าด้วยกัน

ก่อเป็นดาวดวงใหม่สีดำทมึนที่มีสัญลักษณ์ของ Black Lantern

ณ Zamaron ดาวหลักของ Star Zapphire
กลุ่ม Sinestro Corp. ได้บุกจู่โจมเพื่อปลดปล่อยพวกสมาชิกที่ถูกกักตัวไว้ เพื่อ “เปลี่ยนแปลงจิตใจ” ให้กลายเป็นสมาชิกของ Star Zapphire ซึ่งเหล่า Star Zapphireก็เข้าต่อกรกับผู้รุกราน โดย 1 ในแนวหน้าคือ Star Zapphire ที่เก่งที่สุด Carol Ferris คนรักของ Hal Jordan
(ปล.แต่ความสัมพันธ์ของคู่นี้ลุ่มๆดอนๆสุดๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวเลิกแต่ก็ตัดกันไม่ขาดเสียที)

ที่ห้องที่กักตัวสมาชิกของ Sinestro Corp. Carol ก็ต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายตัวหลักของซีรีย์ Green Lantern เขาคือ Sinestro ผู้นำของ Sinestro Corps. ผู้ใช้พลังแห่งความหวาดกลัว

ตัดมาที่ Ysmalt ดาวหลักของ Red Lantern เหล่า Green Lantern ก็เข้าปะทะกับ Red Lantern โดยส่วนใหญ่มาเพื่อเอาศพของอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง Lyra กลับไป แต่ Alpha Lantern ที่เป็นนักรบไซบอร์กไร้จิตใจกลับไม่ยอมเลิกสู้ จนพวกเขากะจะใช้กำลังลากเธอกลับ

แต่ก็ถูกขัดขวางโดย Atrocitus ผู้นำของ Red Lantern ซึ่งตั้งใจจะเอาเลือดของพวกเขามาเพิ่มพลังให้แหวนสีแดงของมัน แต่ทันใดนั้นแหวนสีดำก็กรูเข้ามาและเข้าสิงสู่ศพของคนตายเพื่อเปลี่ยนให้เป็น Black Lantern

กลับมาที่ Zamaron Carol กับ Sinestro กำลังสู้กันขณะเดียวกันก็ถกเถียงกันเรื่องอุดมการณ์ของแต่ละฝ่าย รวมไปถึงเรื่องของ Hal ด้วย
(Sinestro เคยเป็นอาจารย์ของ Hal มาก่อน จึงรู้จัก Carol ดี)
ทันใดนั้น Sinestro ก็ถูก Carol จับขังในผลึกเปลี่ยนแปลงจิตใจ

ภายในนั้นเขาถูกทำให้เห็นอดีตของเขาสมัยยังเป็น Green Lantern อยู่ การพบกันและพรากจากของเขากับภรรยาของเขา Arin Sur)

Sinestro หลุดออกมาได้ก็โมโหหนัก พร้อมตะโกนว่าเขาไม่มีเวลาจะมาเสียให้ Carol อีกแล้ว ยิ่งตอนนี้เขามีเรื่องสำคัญกว่าต้องไปทำ
(กลุ่ม Sinestro Corp กำลังอยู่ในช่วงแตกเป็นสองฝ่าย โดยในช่วงที่ Sinestro โดน Green Lantern จับกุม Mongul(1 ในศัตรูของซุปเปอร์แมน) ก็ทำการยึดอำนาจ และมีสมาชิกจำนวนมากไปร่วมกับฝ่ายนั้น เมื่อ Sinestro พ้นจากการถูกจับขังมาได้ก็ต้องการจะยึดอำนาจคืนจาก Mongul ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่มาบุก Zamaron เพราะต้องการเอาสมาชิกที่ช่วยกลับมาได้ไปสู้กับกลุ่มของ Mongul นั่นเอง)

Carol เสียท่าแต่ขณะที่ลิ่วล้อของ Sinestro กำลังจะจับกุม Carol หัวใจของมันก็ถูกมือสีดำควักออกมา

มือสีดำนั้นเป็นของ Amon Sur อดีตลูกน้องของ Sinestro นั่นเอง (และยังเป็นลูกของ Abin Sur ผู้มอบแหวนพลังให้ Hal Jordan ด้วย) แถมยังพา Black Lantern ของอดีตสมาชิก Sinestro Corps มาด้วยเป็นโขยง

ยิ่งไปกว่านั้นที่ Qwad ดาวหลักของ Sinestro Corp ก็กำลังโดน Black Lantern โจมตีด้วยเช่นกัน

ณ. Odym ดาวหลักของ Blue Lantern กำลังโดนโจมตีโดนกลุ่ม Orange Lantern โจมตีโดยวัตถุประสงค์ของพวกมันคือต้องการชิง Main Battery ของ Blue Lantern กลับไปให้เจ้านายของพวกมัน Lafleeze ซึ่ง Ganthet Guardien ของ Blue Lantern ก็รับรู้ถึงการมาของแหวนดำที่กำลังวนเวียนอยู่เหนือดวงดาวเพื่อรอให้มีคนตายให้พวกมันเอามาเป็นสมาชิก และกล่าวว่า Blackest Night มาถึงแล้ว

ที่ Okaara ดาวหลักของ Orange Lantern Larfleeze ก็ต้องแปลกใจที่จู่ๆแหวนดำก็บุกเข้ามาในถ้ำของมันเข้าไปหาซากศพคนที่ถูกมันฆ่า

(Orange Lantern จะต่างกับกลุ่มอื่นๆเพราะทั้งกลุ่มจะมี Larfleeze คนเดียว โดยเมื่อ Larfleeze ฆ่าคน แหวนพลังสีส้มจะก๊อปปี้ลักษณะของคนๆนั้นและสร้างเป็นร่างพลังงานรูปร่างของคนๆนั้นขึ้นมาเป็นสมุนของ Larfleeze และเมื่อร่างพลังงานนี้ฆ่าคนมากขึ้น แหวนพลังสีส้มก็จะก๊อปปี้ลักษณะของผู้คนที่โดนฆ่ามาเป็นสมุนของ Larfleeze มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็เข้ากับลักษณะของแสงสีส้มที่สื่อถึง “ความโลภ” ที่ต้องการครอบครองทุกสิ่งไว้คนเดียว เพราะ Larfleeze ก็ไม่ได้ให้แหวนสีส้มกับใครเลยจริงๆ ทุกวงทำงานให้มันหมด)

บัดนี้เหล่าซากศพนับร้อยนับพันลุกขึ้นมาเป็น Black Lantern หมดสิ้น ผู้แย่งชิงทุกสิ่งบัดนี้กำลังจะถูกแย่งบ้างแล้ว

ที่ Oa ดาวหลักของ Green Lantern เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นปรากฎขึ้นบน The Book of Black โดย Lyssa Draxx สมาชิกของ Sinestro Corp ที่โดนจับขังอยู่ในหนังสือก็ได้แต่ดู ในขณะที่ Scar Guardien ผู้ทรยศไปเข้ากับ Black Lantern กำลังรายงานความคืบหน้าในการบุกดาวหลักของ Lantern กลุ่มต่างๆ ให้ “นายใหญ่” ฟัง (ตอนนี้รู้กันแล้วว่านายใหญ่ที่ว่าคือ Nekron) และตอนนี้เหลือเพียงรอให้ Indigo Lantern ปรากฎตัว พวกมันก็จะเข้าจู่โจมทันที

ณ Zamaron ดาวหลักของ Star Zapphire ตอนนี้ Sinestro Corp และ Star Zapphire ที่เพิ่งจะฆ่ากันอยู่จนถึงเมื่อสักครู่นี้ต้องมาร่วมมือกันรับมือศัตรูร่วมที่โผล่มาแบบไม่มีการเตือน เหล่าศพคืนชีพที่สวมแหวนพลังสีดำ Black Lantern

ทันใดนั้น Hal Jordan Green Lantern แห่งดาวโลกที่โดนบังคับพาตัวมาโดย Indigo Tribe ก็มาโผล่ที่ Zamaron (เหตุการณ์ใน Blackest Night เล่มหลัก Vol. 3 คราวนี้ทุกท่านก็จะรู้ว่า Hal ไปทำอะไรมาในช่วงที่หายไปนั่น)

เมื่อมาถึงก็เริ่มลุยทันที พวกเขาจัดการ Black Lantern ที่อยู่ใกล้ๆไป 1 ตัว อย่างรวดเร็ว

ขณะที่ Indigo-1 ก็ส่งผู้ช่วยของเธอไปบอกวิธีจัดการ Black Lantern ให้กับ Green Lantern อื่นๆรับทราบ ซึ่ง Carol เมื่อได้ยินที่คุยกันก็ถามวิธีทันที

วิธีปราบ Black Lantern คือใช้แสงจากแหวนของ Green Lantern และแสงจาก Lantern สีไหนก็ได้ไปห่อหุ้มแหวนดำไว้ จะทำให้แหวนดำหมดสมรถภาพไปชั่วขณะ และตอนนั้นก็จะสามารถทำลายแหวนซึ่งจะทำลาย Black Lantern ไปพร้อมๆกัน ซึ่ง Carol ก็สมกับที่คบกับ Hal มานาน จึงตามน้ำได้ทันทีและทำลาย Black Lantern ไปได้หลายตัว

Indigo-1 เข้าไปหา Sinestro เพื่อให้ไปด้วยกัน แต่ขณะที่ยังคุยกันไม่ทันรู้เรื่อง แหวนดำสองวงก็พุ่งเข้าไปใน Main Battery ของ Star Zapphire และสวมลงบนศพที่แข็งเป็นผลึกของ Eternal Lover ที่ทำหน้าที่เป็นแกนกลาง

ศพทั้งสองถูกปลุกขึ้นมาเป็น Black Lantern และผลจากการสูญเสียแกนกลาง Main Battey จึงระเบิดอย่างรุนแรง แรงระเบิดก่อความเสียหายไปทั่ว Indigo-1 พาพวก Hal ไปด้วยกัน ในขณะที่ Scar Guardien ผู้ทรยศก็รับรู้ถึงการปรากฎของแสงสีคราม และสั่งให้ Black Lantern ติดตามไป

พวกเขามาโผล่ที่ Korugar ดาวบ้านเกิดของ Sinestro และเมื่อ Sinestro ถามว่าทำไมจึงพาเขามาที่นี่ Indigo-1 จึงว่าเธอพามาเพื่อให้ Sinestro มาสู้กับศัตรูของเขา

Mongul ลูกชายของอดีตจ้าวผู้ครองโลกสงคราม(War World) 1 ในศัตรูของ Superman ผู้ได้เข้ายึดอำนาจภายใน Sinestro Corp ในช่วงที่ Sinestro โดนจับกุม และตอนนี้ได้ยกพวกมารุกราน Korugar เพราะมันรู้ว่าในที่สุด Sinestro ก็ต้องกลับมาที่นี่เพื่อมันจะได้ฆ่า Sinestro เพื่อแสดงให้คนในขบวนการเห็นว่าใครคือผู้นำที่แท้จริง

Sinestro ก็แค้น Mongul ไม่แพ้กัน เพราะ Mongul ได้รุกราน Korugar ดาวบ้านเกิดที่เขารัก และMongul ต้องชดใช้

แต่ Mongul ก็แกร่งสมกับที่เคยเล่นงาน Superman ได้มาแล้ว Sinestro ตกเป็นรอง พวก Hal เห็นดังนั้นก็จะเข้าช่วย แต่ Sinestro ไม่ต้องการความช่วยเหลือ

เขาผลักพวก Hal ออกไปโดยใช้พลังงานของแหวนสร้างเป็นรูปร่างของเพื่อนรักของเขา Abin Sur ส่วน Mongul เมื่อเห็นดังนั้นก็อัด Sinestro ต่อพร้อมเยอะเย้ยถากถาง Sinstro ไปด้วย

Mongul ว่าหลังจากฆ่า Sinestro แล้วมันจะตั้งชื่อขบวนการใหม่ว่า Mongul Corp และเตรียมจะบี้หัว Sinestro ให้แหลกคามือ

แต่ Sinestro ก็แสดงความเหนือชั้นกว่าของความเป็นตัวโกง โดยว่าเขาเป็นคนออกแบบสร้างแหวนพลังสีเหลืองขึ้นมา และคิดหรือว่าเขาจะสร้างอะไรที่มันสามารถถูกเอามาใช้แว้งกัดเขาได้ขึ้นมา (Sinestro วางกับดักไว้ในแหวนพลังสีเหลืองทุกวงเอาไว้ตั้งแต่ต้น เมื่อ Sinestro สัมผัสแหวนวงใด Sinesro ก็จะมีอำนาจสั่งการเหนือแหวนเหล่านั้นไม่ว่ามันจะมีเจ้าของอยู่แล้วหรือไม่ก็ตาม)

Mongul ถูกเสียบทั่วร่างโดยหอกพลังงานที่สร้างจากพลังของแหวนของ Mongul เอง

Mongul ล้มลงในสภาพแทบหลุดเป็นชิ้นๆ ทันใดนั้นบางอย่างที่ใหญ่มากๆก็หล่นใส่ Mongul สิ่งนั้นก็คือ Main Battery ของ Sinestro Corp ที่ Sinestro สั่งให้ย้ายมาจาก Qwad เมื่อรู้ว่าที่นั่นถูก Black Lantern จู่โจมนั้นเอง

เมื่อการต่อสู้รู้ผล เหล่าสมาชิกในกลุ่มก็กลับมาซูฮก Sinestro ตามเดิม รวมทั้งได้ใจของผู้คนใน Korugar ไปเต็มๆ ส่วน Mongul นั้น Sinestro จะยังไม่ฆ่าแต่จะขังไว้ใน Main Battery ก่อนเพื่อกันไม่ให้ Mongul กลายเป็น Black Lantern แล้วก็หันมาบอกพวก Hal ว่าตั้งแต่นี้ไปเขาขอแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้นำในศึกกับ Black Lantern แต่ทันใดนั้นก็มียานอวกาศร่วงลงมาต่อหน้า

ที่ออกมาจากยานคือ เพื่อนรักของ Sinestro Abin Sur และภรรยาของ Sinestro Arin Sur ในสภาพของ Black Lantern

ณ.Ysmalt ดาวหลักของ Red Lantern เหล่า Green Lantern ที่กำลังอยู่ในระหว่างภารกิจชิงศพของพวกพ้องกลับก็ต้องเผชิญกับเรื่องที่ไม่คาดคิดเมื่อแหวนดำเข้าสวมที่ศพและเปลี่ยนเธอเป็น Black Lantern เข้าโจมตีพวกเขา ส่วน Atrocitus ผู้นำของ Red Lantern ที่กำลังพันตูกับ Green Lantern มือเก๋า Hannu ก็ต้องหยุดกลางคันเมื่อพบกับผู้ที่ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้

สมาชิกอีก 4 คนของ Five Inversions เหล่าผู้ที่รอดชีวิตมาจากการสังหารหมู่บนดาวเคราะห์ Ryut (Atrocitus ก็เคยเป็น 1 ในพวกนี้ และพวกนี้ก็เป็นพวกแรกที่กล่าวถึงคำทำนายเรื่อง Blackest Night ด้วย)

Atrocitus ฆ่าพรรคพวกทั้ง 4 และเอาเลือดของพวกนั้นมาใช้สร้าง Power Battery แล้วตั้งกลุ่ม Red Lantern ขึ้นมาเพื่อทำลายล้าง Green Lantern และ เหล่า Guardien รวมไปถึง Sinestro Corp ด้วย

พูดกันมาพอสมควร Black Lantern Qull ไม่รอช้าทำการควักหัวใจของ Atrocitus ทันที

Atrocitus แน่นิ่งไป ขณะนั้นเองแหวนดำก็เข้ามา

“อโตรซิตัส แห่ง ไรอัท”
“จงล…”

เสียงของแหวนดำหยุดกลางคันขณะที่แหวนพลังสีแดงลุกโชน Atrocitus ยังไม่ตาย!?

Atrocitus : พวกแกอาจเข่นฆ่าพวกกลุ่มอื่นๆได้ แต่ Red Lantern ไม่เสร็จพวกแกง่ายๆหรอก!!

แหวนพลังสีแดงจะทำหน้าที่เป็นหัวใจดวงที่ 2 ซึ่งจะสูบฉีดเลือดที่เป็นพลาสม่าร้อนระอุเข้าไปแทนที่เลือดในร่างของผู้ครอบครอง ซึ่งนั่นหมายความว่าต่อให้ควักหัวใจไป Red Lantern ก็ไม่ตายเพราะแหวนพลังสีแดงยังคงสูบฉีดโลหิตแทนให้อยู่

ตัดมาที่ Korugar พวก Hal Jordan กำลังโดน Black Lantern Abin Sur ผู้มอบแหวนให้ Hal และเพื่อนรักของ Sinestro เล่นงาน โดยมี Black Lantern Arin Sur ภรรยาของ Sinestro ร่วมวงด้วย

Hal ที่รู้แล้วว่า Black Lantern เป็นแค่ศพที่โดนแหวนดำเชิดอยู่ ไม่หวั่นไหวต่อคำพูดของมันแล้วตอบโต้กลับ

ทางด้าน Sinestro ที่สู้กับ Black Lantern Arin Sur แม้แต่จอมวายร้ายระดับจักรวาลที่อาบไปด้วยออร่าสีเหลืองแห่งความน่าสะพรึงกลัวก็ยังอดหวั่นไหวจนเกิดออร่าสีอื่นขึ้นมาไม่ได้เมื่อมาเผชิญหน้ากับคนที่ตนรักที่สุด

Indigo-1 เข้าช่วย Sinestro โดยใช้พลังแสงสีเขียวที่ยืมมาจาก Hal แต่ขณะที่กำลังจะจัดการมัน Black Lantern Arin ก็ใช้ภาพมายาจน Sinestro ดูจะชะงักไปชั่วขณะ

ทันใดนั้น Hal, Carol และ Black Lantern Abin Sur ก็ร่วงทะลุเพดานลงมา เมื่อเป็นดังนี้ Sinestro ก็ตามน้ำ และร่วมกันใช้พลังแสงจากแหวนห่อหุ้มแหวนดำทำให้มันหมดสมรรถภาพไปชั่วขณะ

และทำลาย Black Lantern ทั้ง 2 ลงได้ ซึ่ง Sinestro ก็ไปดูซากที่สลายเป็นผงของ Arin แต่เมื่อ Hal ถามว่าเธอเกี่ยวอะไรกับเขา Sinestro ก็บอกปัดไปว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกันทั้งนั้น

พวกเขาปรึกษาว่าจะเอาอย่างไรกันต่อ Sinestro เสนอว่าด้วยพลังของแหวนที่สามารถแทนที่หัวใจของผู้สวมได้ Red Lantern น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการต่อกรกับ Black Lantern แต่ Hal แย้งว่า Red Lantern นั้นเป็นพวกบ้าคลั่งที่ควบคุมไม่ได้ จึงควรไปหา Blue Lantern ที่เป็นพวกเดียวที่สามารถสยบพลังของแหวนสีแดงได้ก่อนจะดีกว่า

ณ.Odym ดาวหลักของ Blue Lantern พวกเขากำลังโดน Orange Lantern รุกราน เพื่อแย่งชิง Main Battery และแหวนพลังของพวกเขา ซึ่งตอนนี้แหวนดำจำนวนมหาศาลก็กำลังลอยต่ำลงมาทุกทีเหมือนจะสัมผัสได้ว่ากำลังจะมีการตายเกิดขึ้น แต่ทันใดนั้นแหวนในมือของ Saint Walker หัวหน้ากลุ่ม Blue Lantern ก็สว่างขึ้น

แหวนพลังสีฟ้าที่แสดงถึงพลังแห่งความหวังนั้นจัดว่าทรงพลังที่สุดในหมู่ Lantern ทั้งหมด แต่ในขณะเดียวกันก็มีจุดด้อยสำคัญคือจะต้องมีแหวนพลังสีเขียวของ Green Lantern มาอยู่ใกล้ๆจึงจะใช้พลังได้เต็มประสิทธิภาพ (ตามแนวคิดว่าความหวังอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เกิดผลได้ จำต้องมีความมุ่งมั่นประกอบด้วยจึงจะเกิดผลได้)

(Blue Lantern นั้นก่อตั้งโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะร่วมมือกับ Green Lantern มาตั้งแต่ต้น ซึ่งแหวนพลังสีเขียวและสีฟ้าจะมีความสามารถส่งเสริมกัน โดยแหวนสีฟ้าก็มีความสามารถชาร์จพลังให้กับแหวนสีเขียวได้)

ที่แหวนสีฟ้ากลับมาใช้งานเต็มพลังได้ก็เพราะ Indigo-1 ใช้พลังพาพวก Hal มาถึงนั่นเอง แต่ทันใดนั้นเองพวก Orange Lantern ก็หายตัวไปหมด ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน

สาเหตุที่หายไปก็เพราะว่า Orange Lantern ที่ไปบุก Odym นั้นเป็นหุ่นเชิดที่สร้างขึ้นจากพลังของ Lafleeze สมาชิกคนเดียวของ Orange Lantern ซึ่งตอนนี้กำลังตกที่นั่งลำบาก โดน Black Lantern ของพวกคนที่โดนมันฆ่าไล่ล่าจนคับขันเต็มที่แล้ว แต่ทันใดนั้นความช่วยเหลือ(?)ก็มาถึง

อืม…สงสัยไม่ใช่ความช่วยเหลือแฮะ

Atrocitus : ข้าต้องการแบตเตอรี่ของแกไอ้ตัวตะกละ เอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้!!

ณ.ดาวเคราะห์ Okaara ดาวหลักของ Orange Lantern
Atrocitus ผู้นำของ Red Lantern ได้เดินทางมาถึงเพื่อแย่งเอาตะเกียงพลังงานสีส้มจาก Larfleeze สมาชิกคนเดียวของ Orange Lantern เพื่อที่จะเอาไปเสริมกับแหวนสีแดงของตนในการต่อสู้กับ Black Lantern

สองจอมวายร้ายแย่งตะเกียงกันอย่างดุเดือดจนแม้แต่ Black Lantern ที่ล้อมกรอบอยู่ก็ยังถูกลืมไปชั่วขณะ

เมื่อพวกผีดิบชักยุ่งมาก Atrocitus จึงต้องหันไปเล่นงานพวกมันก่อน แต่ก็เปิดโอกาสให้ Larfleeze แย่งตะเกียงพลังคืนมาและฟาดใส่หน้า Atrocitus (มีการทิ้งท้ายว่าจะเอาแหวนพลังสีแดงของ Atrocitus ด้วย)

เมื่อได้ตะเกียงคืนมา Larfleeze ผู้โลภไม่รู้จักหมดสิ้นก็ต้องการแหวนดำของ Black Lantern มาเป็นสมบัติของตัว จึงส่งสมุนร่างพลังงานของตนเข้าสู้กับ Black Lantern

แต่ทว่าร่างพลังงานที่สร้างจากการก๊อปปี้ลักษณะของคนที่มันฆ่ากลับไร้พลังเมื่อมาเจอกับ Black Lantern ของร่างต้นแบบของพวกมัน พวกมันกลับถูกดูดกลืนเข้าไปจนหมดสิ้น

เจองี้เข้า Larfleeze ก็ซ่าไม่ออกและต้องมาสะกิดปลุก Atrocitus ขึ้นมาช่วยกันก่อน

แต่ทันใดนั้นความช่วยเหลือจริงๆก็มาถึง พวก Hal Jordan มาถึงและเริ่มทำลาย Black Lantern ทันที

หลังจัดการ Black Lantern แล้วทั้งหมดก็ได้รับรู้จาก Larfleeze ว่าเหตุที่ Orange Lantern ไปบุก Odym ก็เพราะว่าพวก Guardian บอก Larfleeze ว่าจะไปหาแหวนพลังสีฟ้าได้ที่ไหน

พวก Guardian (ซึ่งโดน Scar ปั่นหัวโดยไม่รู้ตัว) คิดจะให้ Blue Lantern และ Orange Lantern สู้กันเองให้พินาศไปสักฝ่าย เพื่อให้กลุ่ม Lantern มีไม่ครบตามคำทำนาย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าทำให้ War of Light ของ Lantern กลุ่มต่างๆเกิดเร็วยิ่งขึ้น และการต่อสู้ขนานใหญ่ของแสงสีต่างๆก็เร่งให้ Blackest Night มาถึงเร็วยิ่งขึ้นตามแผนของ Scar

แล้ว Sinestro ก็เริ่มหาเรื่อง Hal ด้วยข้อหาที่เขาไปยุ่งเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของการต่อสู้กันของ Lantern กลุ่มต่างๆแทบทุกครั้งและหาว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี่

ขณะที่ยังหาเรื่องกันไม่ทันเสร็จ Atrocitus ก็ฟื้นขึ้นมาและเล่นงานทั้งคู่เลย

พวกเขาพยายามหยุด Atrocitus และ Larfleeze ไว้ได้ โดย Sinestro พยายามล่อให้ Atrocitus เข้าร่วมมือโดยรับปากว่าจะร่วมกันทำลาย Green Lantern เมื่อเรื่องทั้งหมดนี้จบลง (พูดกันต่อหน้า Hal เลยเนี่ยนะ)

แต่ Atrocitus ไม่สนคำชวน และ Larfleeze ที่หลุดออกมาจากการจับกุมก็เริ่มอยากได้ไปหมดเข้าไปอีก โดยครั้งนี้มันอยากได้ Guardian เป็นของตัวเอง

ทันใดนั้น ภาพนิมิตอันหนึ่งก็ปรากฎขึ้นทำให้ทุกคนต้องหยุด เป็นภาพที่ Damage ถูกควักหัวใจและทำให้พลังงานของแหวนดำเต็ม 100%

“พลังงานเต็ม 100%”
“ฮาล จอร์แดน แห่งโลก”

Indigo-1 รับรู้ว่า Black Lantern เริ่มเข้าสู่ขั้นต่อไปของแผนการของพวกมันแล้ว เธอจึงสัมผัสกับแหวนดำวงหนึ่งที่แตกหักและใช้พลังของเธอพาพวกเขาไปยังจุดกำเนิดของมัน

ณ.ดาวเคราะห์ Ryat อดีตดาวหลักของ Black Lantern และบ้านเกิดของ Atrocitus

ดาวดวงนี้และดวงอื่นๆในเขตอวกาศ 666 ถูก Manhunter (แอนดรอยด์ที่ Guardian ใช้รักษาความสงบในจักรวาลก่อนหน้าที่จะมี Green Lantern) ที่เกิดบ้าคลั่งสังหารสิ่งมีชีวิตทุกอย่างจนหมดสิ้น เหลือเพียง Atrocitus และพรรคพวกอีก 4 เท่านั้น

Atrocitus โกรธจนคลั่งไปชั่วแว่บ ก่อนจะสะเทือนใจจนสิ้นเรี่ยวแรง

Atrocitus ตกลงที่จะร่วมมือด้วยในการต่อสู้กับ Black Lantern เพื่อปกป้องชีวิตในจักรวาลแต่เมื่อเสร็จเรื่องนี้แล้วเขาจะฆ่าเหล่า Guardian ทั้งหมด

Larfleeze ก็บอกว่าอย่าฆ่า Guardian จนหมดทุกคนเพราะมันต้องการไว้เป็นของมันสักคนหนึ่ง ซึ่ง Sayd ก็ตกลงจะเป็น Guardian ให้กับ Larfleeze เพราะเห็นว่าเรื่องทั้งหมดนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการกระทำของ Guardian และยินดีเสียสละ

ทางฝ่าย Indigo-1 ก็ไปดูที่ๆตะเกียงดำเคยตั้งอยู่และพบว่ามันหายไปแล้ว

พวกเขาจะตามมันไปและยินดีใช้ทุกสิ่งที่มีเพื่อหยุดพวกมัน
เหตุการณ์หลังจากนี้จะไปต่อใน Blackest Night เล่มหลักเล่ม 5