Superman Earth-One Ch.1

Superman Earth-One Ch.1 : Journey of Clark Kent

เรื่องโดย : J. Michael Straczynski
ภาพโดย : Shane Davis
วางจำหน่าย : October 2010
สำนักพิมพ์ : DC Comics

 

เริ่มต้นการเดินทางของ Clark Kent สู่การเป็น Superman

“แม่อยากจะรู้ว่าทำไมลูกถึงยังนั่งรถไฟอยู่อีก ทั้งที่ลูกสามารถที่จะ…”

“การบินมันเร็วเกินไปน่ะครับแม่”

“ผมอยากจะใช้มันเพื่อชะลอเวลาที่ผมต้องการ…”

“ผมต้องการเวลาที่จะคิดเรื่องต่างๆ”

“แต่ลูกมีเวลาคิดถึงเรื่องนี้กว่าปีแล้วนะ คลาร์ก”

“ผมรู้ครับแม่ แต่นี้มันแตกต่างกัน นี่มัน…”

 

“นี่มันคือโลกแห่งความเป็นจริงนะครับ”

คลาร์ก เค้นท์ เดินทางจาก สมอลล์วิลล์ เข้าสู่เมืองใหญ่ เมโทรโปลิส

 

“เอาล่ะ แล้วคุณคิดว่าคุณจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนล่ะ คุณ เค้นท์”

Clark : ผมยังไม่รู้เหมือนกัน

เจ้าของ : ฉันอาจจะลดราคาค่าที่พักให้คุณได้นะ ถ้าคุณคิดจะอยู่ที่นี่สักเดือน

Clark : นั่นผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน

เจ้าของ : แล้วนี่คุณคิดจะตอบว่าไม่แน่ใจเนี่ยนะ

Clark : นั่นผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน

เจ้าของ : แล้วนี่คุณคิดจะเข้ามหาวิทยาลัยเมโทรโปลิสหรือเปล่า

Clark : คงจะไม่ล่ะครับ เพราะผมจบจากวิทยาลัยของสมอลล์วิลล์แล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และนั่นก็ตรงตามแผนที่ผมวางไว้แล้ว

เจ้าของ : อ้อ ลูปชายของฉัน เอ็ดดี้ เขาเองก็จบจากวิทยาลัยเมโทร เมื่อ 2 ปีก่อน ฉันรู้สึกว่าเขาเองไม่อยากจะไปต่อที่ไหนเหมือนกัน เขาทำงานอยู่ที่ร้าน Arby down street

เจ้าของ : เอาเถอะ ยังไงก็ตามเธอก็ต้องตัดสินใจเลือกว่าเธอจะทำยังไงกับชีวิตของเธอเอง เพราะมันไม่มีใครที่จะทำมันให้เธอได้หรอก แล้วบอกให้ฉันรู้ด้วยล่ะว่าเธอตัดสินใจว่าไง จะอยู่ต่อหรือเปล่า

Clark : ครับ ผมจะทำตามนั้น ขอบคุณมาก

เจ้าของ : แล้วก็ระวังด้วยล่ะถ้าจะเดินในแถบนี้หลับพลบค่ำน่ะ

 

“เพราะมันดูจะมีอันตรายอยู่บ้างในบางคืน”

Clark ออกมาเดินคนเดียวเพื่อครุ่นคิดบางอย่างที่ติดคาใจเขา มองเข้าไปในกระจกของร้านอาหารเห็นผู้คนพูดคุยกันอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส สนุกสนาน ในขณะที่ตัวเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ แล้วเขาก็เดินผ่านไป จนกระทั่งถูกเรียกโดยใครบางคน

โจร : กระเป๋าตัง นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ส่งมันมา

โจรผู้โชคร้ายที่ไม่รู้ว่าเขากำลังเล่นกับคนผิดคน และตอนนี้ Clark เองก็กำลังอารมณ์ไม่ดีด้วย

Clark : ฉันคิดว่านายน่าจะเอาปืนลงนะ แล้วเดินถอยไปซะ

Clark : เดี๋ยวนี้

Clark พูดออกมาพร้อมตาของเขาที่เริ่มจะกลายเป็นสีแดงขึ้นเรื่อยๆ

โจร : โอ้ววววว ใส่คอนแท็กซ์ซะน่ากลัวเลยนะ มันทำให้ฉันกลัวมากเลยล่ะ

โจร : เอาล่ะ ยกมือขึ้นแล้ว…. อ๊ากกกกกกกกก

สิ้นเสียง ไอความร้อนก็กระจายไปทั่วจนเจ้าโจรเองก็ตั้งตัวไม่ติด

โจร : ไอบ้าเอ็ยฉันจะฆ่าแกแน่ๆ…นี่แกจะหนี…ไปไหน

ภายหลังที่มันตั้งตัวได้ Clark ก็หายไปแล้ว

“ผมต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่มาในวันนี้”

“…และต้องขอให้พวกคุณมีความอดทนสักอีกหน่อย เราจะทำการทดสอบทั่วไปให้เสร็จโดยเร็วที่สุด จากนั้นก็ทำการทดสอบศักยภาพที่ตามเรามอบหมายให้อย่างใกล้ชิด ในวันพรุ่งนี้และวันพุธ”

โค้ช : และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณควรจะจดจำไว้ นั่นก็คือแมวมองของเราประทับใจในตัวคุณถึงได้ส่งพวกคุณมายังที่นี่ และนั่นก็หมายความว่าคุณได้โอกาสอันดีที่มาอยู่ที่นี่ แล้วเราจะเริ่มจากคนแรกในรายชื่อก่อนเลย โอเคมั้ย

โค้ช : เอาล่ะ เค้นท์ คลาร์ก

Cark : อยู่ตรงนี้ครับ

โค้ช : เค้นท์ คลาร์ก นี่นายอยู่ตรงไหนกันเนี่ย

Clark : ตรงนี้ไงครับ

โค้ช : เธอคือ เค้นท์ คลาร์ก งั้นเหรอ

Clark : คลาร์ก เค้นท์ครับ และใช่ครับผมเอง

โค้ช : แน่ใจนะว่าเธอไม่มีพี่น้องน่ะ

Clark : จากที่ผมรู้ไม่มีนะครับ

โค้ช : นี่มันแปลกมากๆ เพนเดอร์ แมวมองที่ดีที่สุดของฉัน เขาบอกว่าเธอเป็นคนที่เก่งที่สุดที่เขาเคยเห็น… แต่มันคงจะเหมือนกับที่เขาเคยส่งต้นสนเข็มมาให้ฉันละมั้งเนี่ย

โค้ช : แล้วนี่เธอจะบอกว่าเธอเล่นตำแหน่งได้ทั้ง Offense ‘ Defense ‘ Receiver , Tackle , Quarterback , Halfback , Linebacker ….

โค้ช : นี่ฉันไม่เคยพาเขาไปดื่มเหล้าเลยนะเนี่ย

Clark : แต่ผมมาอยู่ตรงนี้แล้วนะ บางทีคุณอาจจะลองดูว่าเขาอาจจะพูดถูกก็ได้ ยังไงคุณก็ไม่มีอะไรต้องเสียนี่

โค้ช : นี่เธอเซ็นต์ยอมรับ การบาดเจ็บทุกกรณีใช่มั้ย

Clark : ครับ

โค้ช : งั้นก็ได้….

 

“…งั้นลุยเลย เริ่มจาก Left Tackle”

Fatman : นายรู้ใช่ม่ะ ว่าถ้านายนอนลงเสียตั้งแต่ตอนนี้ เราจะหลอกคนอื่นๆได้ว่าฉันอัดนายล่วงแล้วมันจะไม่เจ็บมากนัก

แล้วการทดสอบก็เริ่มขึ้น ซึ่งกลับกัน Clark เป็นฝ่ายพุ่งกระแทกอีกฝั่งจนตัวลอยแทน นอกจากนี้เขายังสามารถแย่งลูกจาก Quarterback ก่อนที่เขาจะทันได้ขว้างลูกหรือสังเกตเสียอีก

 

โค้ช : อืมมมม โอเค้ งั้นมาลอง Wide Receiver กันมั่ง

เริ่มเกม Calrk โดดรับลูกไว้ได้ และวิ่งไปตามทางอย่างรวดเร็วจนถึงหน้าโกลล์เป็นการจบเกมอย่างรวดเร็ว

 

โค้ช : อืมมมมมมม อืมมมมมม งั้นมาลอง Quarterback มั่ง

โค้ช : แต่ฉันจะขอให้ผ่านพวก Defense …เข้าไปรุมเขาได้เลยฉันอยากจะดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

เริ่มเกมอีกครั้ง เหล่าฝั่ง Offense กรุเข้าไปรุม Clark ตามที่โค้ชบอกไว้ แต่สิ่งที่เห็นมันเกินกว่าที่โค้ชคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ชายร่างเล็กคนนี้วิ่งฝ่าเหล่าชายร่างยักษ์ที่ดูทรงพลังกว่าเขาอย่างง่ายดาย รวมถึงกระแทกบางคนจนลอย และมุ่งหน้าวิ่งต่อไปเรื่อยๆโดยไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งเขาไวได้

 

โค้ช B : นี่คุณเห็น…

โค้ช : ผมเห็นแล้ว

โค้ช B : ใช่แต่คุณ…

โค้ช : ผมเห็นแล้ว

โค้ช : โทรไปยังแผนกประชาสัมพันธ์ แล้วให้เขาติดต่อเข้ามาที่นี่ภายในครึ่งชั่วโมง

โค้ช B : แต่มันยังมีเวลาอีกหลายวัน….

โค้ช : 29 นาทีแล้ว

โค้ช B : แล้วผมจะบอกหมายเลขเขายังไงล่ะ

โค้ช : บอกเขาไปว่าให้ว่างไว้ก่อน แล้วเราจะใส่ลงไปตามที่เขาต้องการ

โค้ช : เค้นท์ คลาร์ก เธอกับฉันเรามีอะไรต้องคุยกันหน่อย

“ผมยินจริงๆที่คุณมาพบกับพวกเราในวันนี้นะคุณเค้นท์…”

 

ประธาน : …แต่เรายังไม่มีความสนใจที่ว่าจ้างเด็กฝึกหัดหรือพนักงานฝึกงานจริงๆในช่วงเวลานี้

Clark : เอ่อ คือผมไม่ได้สมัครงานเพื่อเป็นพนักงานฝึกงานนะครับ ผมสมัครในตำแหน่งค้นคว้าและวิจัยครับ

ประธาน : เอ่อ คุณ เค้นท์ …ไม่สิคลาร์ก… คุณรู้มั้ยว่า Neodyne industry ของเรามีการว่าจ้างด็อกเตอร์ที่จบการศึกษาจากปริญญาเอกซึ่งติดลำดับ 1 ใน 5 ของมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างฮาวาร์ด , เยล หรือกระทั่งพรินซ์ตันทุกๆปี

ประธาน : และพวกเขาใช้เวลาถึง 4 ปีในห้องแล็ปของพวกเรา ก่อนที่เขาจะเลื่อนขึ้นไปสู่ตำแหน่ง R&D ในห้องข้างๆนี่

ประธาน : และคนที่ทำงานอยู่ฝั่งตรงข้ามของกระจกนี่เอง ก็เป็นนักวิจัยที่มีค่าตัวที่เรียกได้ว่าแทบจะสูงที่สุดในโลกเลยทีเดียว พวกเขาแชร์สิทธิบัตร การออกแบบ…

Clark : แล้วตอนนี้พวกเขากำลังทำงานอะไรอยู่เหรอครับ

ประธาน : 1 ในงานที่สำคัญที่สุดของเราในทศวรรษที่ผ่านมา กับการผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยตรงจากเกลือในน้ำ ซึ่งเขาบอกว่าเรายังขาดสมการอีก 2 ค่าที่จะใช้คำนวณมันให้ออกมาได้

Clark : แล้วพวกเขาตามหาเจ้า 2 สมการนั่นมานานแค่ไหนแล้วล่ะครับ

ประธาน : ก็ประมาณ 3 ปีแล้วล่ะ แล้วส่วนที่ยังว่างอยู่นั่นก็แสดงให้เห็นอยู่บนด้านหน้าจอในห้องนั้น มีอะไรงั้นเหรอ

Clark เหลือบมองสมการที่ยังขาดเหลือนั้น แล้วเขียนคำตอบที่เขาหาได้ออกมาในทันที

Clark : คุณลองเดินเข้าไปในนั้นแล้วมอบสิ่งนี้ให้กับพวกเขาดูสิครับ

ประธาน : คุณ เค้นท์ จริงๆแล้ว….

Clark : แค่เอามันให้พวกเขาแค่นั้นครับ …แล้วจากนั้นผมจะเดินจากไปอย่างมีความสุขเลย

ประธาน : ก็ได้ ก็ได้ นี่มันใช่เวลาไม่นานนักหรอก

 

ประธานเดินนำกระดาษที่ Clark เขียนไปมอบให้กับนักวิจัยสองคนด้านใน ซึ่ง Clark นั้นมองดูผลลัพธ์อยู่ด้านนอก และเมื่อพวกเขาลองนำค่าที่ Clark เขียนไว้ใส่ลงไป มันก็เป็นไปตามที่เขาเขียนไว้ทั้งหมดซึ่งนั่นคือคำตอบที่ถูกต้องซึ่งพวกเขาตามหามานานกว่า 3 ปี แต่ Clark คิดออกในเวลาไม่ถึง 5 นาที ซึ่งนักวิจัยทั้งคู่ดีใจกันสุดๆ และบุคคลิกของประธานต่อเขาก็เปลี่ยนไปด้วย

ประธาน : คุณ เค้นท์

Clark : ครับ จะให้ผมไปเลยมั้ย

ประธาน : ไม่ต้องครับ อย่าเพิ่งจากไปไหนนะครับ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามแค่อย่าขยับไปจากตรงนั้นนะครับ

“แล้วตกลงงานวิจัยเป็นยังไงบ้างล่ะ”

 

Clark : ก็ดีครับ… ผมเริ่มทำงานได้ทันทีและได้รับโปรเจ็คเจ๋งๆมาทำหลายอันเลย

“เจ๋งยังไงล่ะลูก”

Clark : ก็ แค่หนึ่งในพวกนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผมได้เงินตามที่ผมต้องการมาดูแลแม่ได้ทั้งชีวิตเลยล่ะครับ

“แม่ไม่ได้ต้องการมากขนาดนั้นนะ ลูกก็รู้นี่คลาร์ก”

Clark : นั่นมันไม่ใช่ประเด็นนะครับ

“มันต้องใช่สิลูก”

Ma.Kent : แม่มีที่นี่อยู่แล้ว สถานที่ที่ทำให้แม่ได้อยู่อย่างสันโดษ และเพียบพร้อมไปด้วยความทรงจำของแม่กับจอร์แดน…และนอกจากนี้แม่ก็ยังมีลูกอยู่อีกนะ

Ma.Kent : และนั่นแหละที่ทำให้ทั้งจักรวาลมันมาอยู่ที่นี่แล้วไงล่ะคลาร์ก แล้วนี่ลูกยังคิดว่าแม่ยังต้องการอะไรอีกงั้นเหรอ

 

Ma.Kent : เมื่อลูกได้เลี้ยงดูลูกของตัวเองจนเติบโตและสูงใหญ่ แล้วได้ยินเขาพูดว่า “นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะมอบให้พ่อครับ” ซึ่งนั่นมันเยี่ยมมาก แต่สิ่งที่ลูกอยากจะได้ยินจริงๆน่ะมันคือ “นี่คือสิ่งที่ผมต้องการเพื่อตัวของผมเอง มันคือสิ่งที่ทำให้ผมสามารถใช้ชีวิตได้ตามที่ผมวาดฝันไว้เมื่อนานมาแล้ว”

Clark : แต่นั่นมันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวเกินไปเหรอครับ

Ma.Kent : โธ่ คลาร์กนั่นมันไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวหรอก แต่นั่นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนเราสร้างอนาคตขึ้นมาได้ยังไงต่างหาก

Ma.Kent : อีกอย่างแม่ได้รับของขวัญมากมายจากญาติแล้วล่ะ ถึงแม้ส่วนใหญ่พวกเขาจะทำเพราะรู้สึกผิดก็เถอะนะ แต่มันก็ไม่มีอะไรให้ลูกต้องเป็นห่วงหรอกนะ คลาร์ก

Ma.Kent : แต่ถ้าเราจะพูดถึงสิ่งที่แม่ต้องการละก็นะ…แม่เองก็ต้องการในสิ่งเดียวกับที่พ่อของลูกต้องการนั่นแหละ

Ma.Kent : แต่นั่นมันก็ไม่ใช่การตัดสินใจของพวกเราหรอกนะคลาร์ก และสิ่งที่ลูกทำได้มันก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับลูก

Ma.Kent : และนั่นเพราะความเป็นจริงมันเป็นแบบนั้นยังไงล่ะ ถ้าลูกเลือกที่จะทำในสิ่งที่ไม่เหมาะกับตัวเองบางทีลูกอาจจะสูญเสียสิ่งต่างๆไปมากกว่าที่จะยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องและได้รับสิ่งต่างๆจากมัน

 

Ma.Kent : ดังนั้นแม่จึงอยากให้ลูกเข้าใจนะลูก และจงเชื่อมัน เพราะแม่หมายความตามนั้นทุกประการเลยล่ะ

Ma.Kent : แม่น่ะมีความสุขกับสิ่งที่ลูกตัดสินใจเลือกตราบเท่าที่ลูกเองก็มีความสุขที่ได้ทำมัน ถึงแม้ว่าลูกจะอยากเป็นนักเล่นแบนโจอันดับ 1 ของโลกก็ตาม นั่นเป็นเพราะแม่รักลูกยังไงล่ะลูกแม่

Ma.Kent : ตัวลูกน่ะเป็นเสมือนของขวัญสำหรับพวกเรามาตลอด และแม่ก็ไม่เคยลืมเลยว่ามันเป็นแบบนั้น เพราะงั้นลูกเองก็อย่าได้ลืมล่ะ

Ma.Kent : ราตรีสวัสดิ์นะคลาร์ก

Clark : ผมก็รักแม่เหมือนกัน ราตรีสวัสดิ์ครับแม่

ภายหลังการพูดคุยกับแม่ มันก็ยังคงทำให้ Clark สับสนอยู่ว่าตัวเขาควรจะทำอะไร และอะไรคือสิ่งที่เหมาะสมมกับเขา

(แบนโจ เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งคล้ายๆกีต้าร์)

แต่ยังไงก็ตามชีวิตมันก็ต้องเป็นไป Clark เริ่มเข้าทำงานในงานต่างๆที่เขาสมัครไว้

“นี่มันยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมาเลย…”

“…นี่เธอไปเรียนมาจากที่ไหนกัน…เธอจะทำมันให้ดูอีกครั้งได้มั้ย”

“จงสร้างชื่อให้ตัวเองแล้วพวกเราจะ…ส่องสว่างอนาคตไปพร้อมกับบริษัทของเรา”

“…บินไปให้ถึงสุดขอบของขีดจำกัด…”

“…เธอจะได้เงินจำนวนมหาศาลเกินกว่าที่เธอจะคิดออกว่าควรทำยังไงกับมันดี”

“มันยังมันมีอะไรอีกมั้ยที่เธออยากทำน่ะ”

 

“เธอทำได้ทุกอย่างเลยงั้นเหรอ…”

ในยามเย็นวันหนึ่งหลงการทำงาน Clark สดุดตาเข้ากับสำนักพิมพ์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่ตู้จำหน่ายอยู่ติดกับถังขยะและมีสภาพไม่ค่อยดีเท่าไรนัก มันเหมือนมีอะไรดลใจให้เขาลองซื้อมันมาอ่านดู

 

และเขาก็มาอยู่ที่นี่ Daily Planet

“เค้นท์…ใช่มั้ย…ฉันคิดว่าฉันได้รับใบประวัติย่อของนายมาแล้วนะที่ไหนสักแห่งแถวๆนี้แหละ”

Perry : เด็บบี้ นี่เธอมีใบประวัติของนายเค้นท์มั้ย

Debbie : มันก็อยู่บนโต๊ะของคุณไงเล่า

Perry : มันอยู่บนโต๊ะของฉันงั้นเหรอ ถ้างั้นทุกๆสิ่งทุกๆอย่างมันก็สูญหายไปตั้งแต่เมื่อ 100 ปีที่แล้วแล้วล่ะ

เมื่อ Perry ตะโกนออกไป Debbie ก็เดินตรงเข้ามาหยิบ Resume ของ Clark ขึ้นมาจากกองขยะบนโต๊ะของ Perry อย่างรวดเร็ว

 

Perry : “เคยทำงานอิสระเป็นผู้รายงานข่าวและผู้สื่อข่าวชั่วคราวที่ Smallville Daily Express”

Perry : ไม่ยักรู้นะว่าที่สมอลล์วิลล์ มีข่าวรายวันด้วย

Clark : พวกเขาไม่มีหรอกครับ มันตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้วนู่นแหน่ะ เพราะมันรายได้มันตกต่ำทำให้สำนักพิมพ์จำต้องเปลี่ยนเป็นรายสัปดาห์แทนแต่พวกเขาไม่อยากจะเปลี่ยนชื่อ ตัวธง หรือการติดต่อใด เพราะงั้น…

Perry : เพราะงั้นมันก็เลยกลายเป็นข่าวรายสัปดาห์งั้นสินะ

Clark : ใช่ครับ หรือจะเรียกว่า ข่าวรายวันและรายสัปดาห์

Perry : ไม่ใช่หรอกมันเป็นรูปแบบสมัยก่อนน่ะ ข่าวรายสัปดาห์ มันก็คล้ายๆกับโครงสร้างประโยคแบบใช้งานกับโครงสร้างประโยคที่ใช้ประจำนั่นแหละ และนักข่าวที่ดีมักจะดูเรื่องราวในอดีต โดยไม่ใช่เรื่องราวในภายหลัง

Perry : มันก็เหมือน “มันมีหมาถูกฆ่าเมื่อคืน” ไม่ใช่ว่า “เมื่อคืนมีหมาถูกฆ่า”

Clark : แล้วมันมีคนฆ่าสุนัขเมื่อคืนเหรอครับ

Perry : แค่ยกตัวอย่างน่ะ เค้นท์

Clark : ผมชอบหมาน่ะครับ

Perry : มันก็ทุกคนน่ะแหละ ยกเว้นพวกแมวล่ะนะ และเราก็ไม่นับพวกมัน

??? : เพอร์รี่

 

Lois : คุณตัดย่อหน้าที่ 3 ของฉันที่เกี่ยวกับศาลากลางออกไป ทำไมถึงทำแบบนั้น

Perry : เหตุผลแรกนะ มันซ้ำซากน่ะสิ

Lois : แต่มันเป็นส่วนทีฉันชอบเลยนะ

Perry : และนั่นแหละขอบใจที่ให้เหตุผลข้อที่สอง

Perry : เธอน่ะหลังรักในคำที่ใช้และมันทำให้สิ่งที่เธอเขียนน่ะห่างไกลจากเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะงั้นจงเขียนในเรื่องที่ควรจะเขียน ไม่ใช่เขียนในเรื่องที่เธออยากจะเขียน

Lois : พวกเราพูดเรื่องนั้นกันจบไปแล้วนะ

Perry : พวกเราไม่เคยจบต่างหาก

Perry : และ โลอิส เลนน์ นี่ คลาร์ก เค้นท์ ส่วน คลาร์ก เค้นท์ นี่ โลอิส เลนน์

 

Clark : ดีใจที่ได้พบ….

Lois : อ้อ งั้นคุณจะไม่คิดว่านักข่าวควรจะเขียนสิ่งที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นลงไปด้วยงั้นเหรอ

Perry : ก็นั่นแหละมันถึงต้องมีหน้าบรรณาธิการไม่ใช่หรือไง สิ่งนี้มันคือข่าวนะ ข่าวใหญ่ลงที่หน้าหนึ่ง แล้วข่าวอื่นๆลงหน้าในด้านหลัง เพราะงั้นบอกผมด้วยล่ะว่าคุณอยากจะไปอยู่หน้าไหน

Perry : แล้วก็ โอลเซ่น

Jimmy : มาในทันใด

Perry : นายควรจะอัพโหลดรูปอุบัติเหตุในการแข่งรถมอเตอร์ให้ฉันได้ตั้งแต่เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วแล้วนะ

Jimmy : ผมทำแล้ว…แต่ไอเจ้าเครื่องเซิร์ฟเวอร์น่ะมันดันสำลักไฟล์ผมซะงั้นอ่ะ ผมเลยต้องอัพโหลดใหม่อีกที

Perry : นี่นายอัพไฟล์ขนาด 20 MB กว่าๆอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย

Lois : นี่ขอโทษนะคะ แต่ฉันยังไม่คิดว่าเราคุยกันจบแล้วนะ…

Jimmy : คุณนี่น่าจะได้เห็นภาพเหงื่อที่ไหลบนใบหน้าของผู้ชายคนนั้นนะ…แถมยังภาพที่ช่วงล่างของตัวถังรถยนต์ในขณะที่มันกำลังจะระเบิดแล้วไฟลุกท่วมนั่นอีก

Perry : นี่ฉันไม่คิดว่าเราอยากได้ภาพที่มันละเอียดขนาดนั้นนะ ที่พวกเราต้องการน่ะ….

 

Perry : เฮ้ยเดี๋ยวนะ ช่วงล่างของตัวถังรถยนต์งั้นเหรอ

Perry : นี่นายจะบอกว่านายอยู่ใต้ท้องรถที่วิ่งเกยราวป้องกันเนี่ยนะ

Jimmy : ก็ถ้าจะถ่ายภาพเด็ดมันก็ต้องทำแบบนี้สิคร๊าบบ

Perry : นี่นายจะฆ่าฉันใช่มั้ยเนี่ย

Jimmy : เอ่อ คุณก็รู้สิ่งที่เขาพูดๆกันนี่ จงหาในสิ่งที่คนอ่านต้องการ

Lois : Perry

Perry : โอเค้ เอางั้นก็ได้ โอลเซ่น ไปเช็คการอัพโหลดอีกที และตรวจดูเผื่อว่านายจะไประเบิดเมนเฟรมฉันทิ้งอีก ส่วนโลอิสฉันยินดีที่จะทะเลาะกับเธอต่อนะเดี๋ยวไปที่ห้องฉันในอีก 2 นาที ส่วนคลาร์กมากับฉันนี่

Perry : เธอดูเหมือนคนที่เหมาะกับงานนี้จริงๆนะ…แล้วให้ฉันพูดกับเธอตรงๆเลยละกัน

Perry : ที่นี้น่ะไม่ใช่ที่ที่มันจะเป็นเหมือนอย่างที่มันเป็นอยู่ ลองมองไปรอบๆสิ พวกเรามีนักข่าวหนุ่มๆที่กำลังเติบโตขึ้นมา ในขณะที่นักข่าวแก่ๆเริ่มถดถอย…ซึ่งมันกลับมีไม่มากนักในทางกลับกัน

Perry : สำนักข่าวพิมพ์อื่นๆเริ่มที่จะไล่เตะพวกเราแล้ว รายได้จากโฆษณาลดน้อยลง… ยอดขายก็ลดลง… บางทีเราอาจจะไม่ได้อยู่ที่ต่อแล้วในเดือนนี้

Perry : แต่ฉันยังไม่คิดจะยอมแพ้หรอก เราจะสู้จนกว่าจะได้กลายเป็นสำนักพิมพ์ยอดเยี่ยม

Perry : ต้องขอบใจเจ้าอินเตอร์เน็ตจริงๆ ไอเจ้าพวก Yahoo กับพวกนักคีบอร์ดเหล่านั้นน่ะ นั่นเพราะพวกเขาสามารถที่จะพิมพ์หรือเขียนได้พอๆกับนายไงล่ะ…

Perry : …แล้วดูนี่สิ ฉันอ่านบทความของนายแล้ว และมันดีมาก แต่มันกลับไม่มีอะไรพิเศษเลย นักเขียนที่ดีน่ะเขาจะเขียนออกมาจากจิตวิญญาณของเขา แต่ของนายน่ะมันเขียนออกมาเหมือนมีอะไรบางอย่างเหนี่ยวรั้งตัวนายไว้อยู่

Perry : และเพราะว่าพวกนักข่าวหนุ่มๆน่ะจะไปได้เร็วหลังจากที่เขาได้รับความน่าเชื่อถือจากการพิมพ์มาสักครั้งแล้ว และนั่นอาจจะทำให้พวกเราได้ค่าประกอบการที่ดีขึ้น ทำให้เราคิดว่าอาจจะเปิดรับสมัครเพิ่มขึ้นในอนาคตล่ะนะ แต่มันคงจะจ่ายค่าจ้างไม่มากนัก

Perry : และนายคงต้องพิสูจน์ตัวเองให้ฉันเห็นแล้วล่ะนะนายเค้นท์ พิสูจน์มาว่านายเป็นคนที่มีคุณค่ามากที่สุดคนนึงในโลก ไม่ต้องมากถึงขนาดที่เธอเป็นอยู่ แต่ให้เป็นที่เธอเคยเป็นมา

Perry : แล้วเด็บบี้ ฉันต้องการใบสมัครงานให้นายเค้นท์นี่หน่อย

Debbie : มันอยู่บนเก้าอี้ของคุณไง

Clark : มันอยู่บนเก้าอี้ของคุณแหน่ะครับ

Perry : ช่างมันเหอะ ฉันเห็นแล้ว

Debbie : คุณมันอัจฉริยะมากเลยล่ะบอส

Perry : โชคดีนะ เค้นท์ บางทีฉันอาจจะได้เจอกับนายในภายหลัง

Clark : บางทีนะครับ ยินดีที่ได้พบนะครับ คุณ ไวท์

Clark รับใบสมัครมาและเดินออกมา แต่สิ่งที่เขาพบเห็นด้านในนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เขาที่เขาคิดไว้ และมันไร้แรงจุงใจต่อเขา เขาจึงเลือกที่จะทิ้งมันไป และเดินจากไปโดยไม่เหลียวกลับมามอง

และจากนั้นก็ปล่อยตัวไปตามจิตใจ ค่อยๆบินขึ้นสู่ฟ้า

ติดตามต่อในบทถัดไป

 

เพยแพร่ครั้งแรกที่ : http://bank-genesis.exteen.com/20121210/spoil-superman-earth-one-ch-1

 

คุยกันท้ายเล่ม

สำหรับเล่มนี้ผมจะขอแบ่งเป็น 4 บทย่อยนะครับ เพราะเนื้อหาทั้งเล่มมันเยอะมากจึงขอแบ่งแยกออกมาเป็นส่วนๆไปครับ

11 thoughts on “Superman Earth-One Ch.1

  1. voeten

    เกรงว่าจะเสร็จก่อน Batman Earth One ผมแน่นอน ผมยังดองไว้อยู่เลย 555

  2. NetNN

    Clark Kent เวอร์ชั่นนี้เทพดีจังแฮะ ฉลาดมากเสียด้วย

    อย่างว่าล่ะนะ ในโลกความเป็นจริง วัยรุ่นที่มีพลังกายและสมองเหนือมนุษย์ขนาดนั้นน่ะ ไม่ทำตัวคร่ำครึอย่างในจักรวาลหลักหรอก

  3. seventoon

    ชอบ แบบนี้มากกว่า ใช้พลังให้เป็นประโยชนืและไม่ผิดสังเกต

    ท่าทางสนุกดีแถมยังแปลละเอียด ทุกบรรทัดเลย

    ขอบคุณมากครับ

  4. DOL

    เป็นกำลังใจให้นะคร้าบบบ

    Kent นี่โชว์เมพตั้งแต่บทแรกเลย ฮ่าๆๆ สมแล้วที่เป็นซุปแมน

  5. RedRaven

    รู้สึกว่า ต่างกับ บรูช คนละเรื่องเลย แหะ จักรวาลนี่

  6. โยชูวาแห่งอัสซีซี

    พี่เค้นท์อยากได้เวล่คิดเหรอ มานั่งรถไฟไทยสิ ได้เวลาเกินคุ้มแน่

  7. wat

    ผมว่าจักรวาลนี้ น่าจะเป็นต้นแบบให้กับหนัง MOS น่ะ

  8. PVeZA

    ไอ้โจรที่โดน Superman เผาหัวนั้นคือ Lex Luter แน่เลยมันแค้นที่ Superman ทำหัวมันล้าน 555

  9. ez

    คล้าคเวอร์ชั่นนี้ ดูอินดี้ดีครับ มองหาสิ่งที่ตัวเองอยากทำไปเรื่อย ๆ
    อะไรไม่ชอบก็วางเลยทันทีทันใด-.-

  10. L5-T2

    สุดยอดเลยครับ ชอบมาก
    ขอบคุณมากครับ

  11. pong

    ชอบมากครั้ง มาอ่านอีกครั้ง แต่รูปหายแล้ว แต่ก็อ่านครับ ข้อคิดดีมากๆ ตอน มาดามเค้นคุยกับลูกชาย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *