FLASHPOINT #5

DC Comic : FLASHPOINT : Vol.05 : สู่โลกใหม่

เรื่อง : Geoff Johns
ภาพ : Andy Kubert, Sandra Hope, Jesse Delperdang
วางจำหน่าย: 31 สิงหาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

หลังจากผ่านความยากลำบากในการดึงเอาพลังกลับมาและการพยายามหยุดยั้งสงครามที่จะทำลายล้างโลก ในที่สุด The Flash (Barry Allen) ก็พบตัว The Reverse-Flash (Prof.Eobard Thawn) จนได้

แต่ The Flash จะสามารถแก้ไขโลกที่บิดเบี้ยวนี้ได้หรือไม่? เมื่อผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็คือ…ตัวเขาเอง!!

The Reverse-Flash : แกใช้เวลาในการดึงเอาความพร้อมกลับคืนมานานกว่าที่ฉันคิดนะ ทั้งทางร่างกายและจิตใจเลย

The Flash : ธอว์นงั้นรึ?

The Reverse-Flash : ใช่แล้วแบรี่ ฉันอยู่ที่นี่แล้ว ในโลกที่กลายสภาพเป็นนรกนี้ไงล่ะ

The Reverse-Flash : โลกที่ถูกทำลายจนย่อยยับด้วยฝีมือเพื่อนๆของแกเอง

The Flash : แกทำอะไรกับโลกนี้กันแน่?!

The Reverse-Flash : แกถามว่าฉันทำอะไรงั้นรึ? โอแบรี่ ผู้ที่ฉันชื่นชม ผู้ที่ให้แรงบันดาลใจกับฉันเอ๋ย เรื่องนั้นน่ะมันคือจุดสำคัญที่สวยงามที่สุดของความบ้าคลั่งทั้งหมดนี้เลยล่ะ

The Reverse-Flash : ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเดียว คืองี้แน่ะ มันกลับกลายเป็นว่า…

The Reverse-Flash : ครั้งนี้น่ะตัวร้ายของเรื่องก็คือตัวแกเองนั่นแหละ

The Reverse-Flash : แกน่ะเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของตัวแกเอง มากกว่าที่ตัวฉันจะเทียบได้มากมายนักเลยล่ะ

The Reverse-Flash : แต่แกลืมเรื่องที่แกทำลงไปหมดแล้วล่ะสิ ใช่ไหมล่ะ?

The Reverse-Flash : ฉันน่ะอยากให้แกจำได้มากๆเลยล่ะแบรี่ ฉันอยากให้แกได้รู้ความจริง และฉันก็สามารถทำได้ด้วยการรีเซ็ตการสั่นสะเทือนของอนุภาคภายในตัวแก…เพียงแต่มันจะเจ็บปวดสุดๆไปเลยทีเดียว

ทันใดนั้น The Reverse-Flash ก็เสียบนิ้วของมันที่อยู่ในสภาพสั่นไหวอนุภาคเข้าไปในหัวของ The Flash

The Reverse-Flash : ซึ่งฉันก็ยินดีมากๆเลย

The Flash : อ๊าค!!!

The Reverse-Flash : แกจำได้หรือยังล่ะแบรี่?

The Reverse-Flash : ตอนนั้นแกอยู่ที่หลุมศพของแม่แกในวันเกิดของเธอ วันเกิดของเธอครั้งแรกนับตั้งแต่แกได้รับรู้ว่าฉันเป็นคนที่ฆ่าเธอ

The Reverse-Flash : และชีวิตที่ต้องทนอยู่กับความว่างเปล่าที่กัดกินอยู่ภายในใจของแก ก็ได้ผลักดันแกจนถึงขีดสุด ทำให้แกตัดสินใจไปยังที่ๆแกสาบานว่าจะไม่มีวันไป

The Reverse-Flash : อดีตยังไงล่ะ

The Reverse-Flash : ในวันที่แม่ของแกตาย

The Reverse-Flash : แกจำได้หรือยังล่ะ? แกไปพบกับฉันตอนที่กำลังจะฆ่าเธอ และในตอนนั้นเอง แกก็ดูดเอาสปีดฟอร์ซทั้งหมดเข้าไปใว้ในร่างกายของแกเพื่อที่จะหยุดฉัน เพื่อหยุดไม่ให้ฉันฆ่าแม่ของแก

The Reverse-Flash : แกเป็นเหมือนกับลูกกระสุนที่พุ่งทะลุกระจกหน้ารถ แกทำให้ประวัติศาสตร์ได้รับความเสียหาย และชีวิตของเหล่าคนใกล้ชิดแกก็ถูกทำให้มุ่งสู่เส้นทางที่บิดเบือนไป แกน่ะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ด้วยวิธีการที่อ่อนหัดสิ้นดี! ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของแก แบรี่ นรกแห่งนี้คือสิ่งที่แกสร้างขึ้นมา แกแลกชีวิตของแม่ของแกด้วยชีวิตของคนทั้งโลก

The Reverse-Flash : แกจำได้หรือยัง?!

วยความจริงทั้งหมดที่ถูกดึงกลับมาในหัวเขา ทำให้ The Flash สุดจะทานทนอีกต่อไป และระเบิดพลังออกมา!!

The Flash : ฉันจำได้แล้ว!!!

เมื่อเขาได้รู้ความจริงทั้งหมดว่าเพราะความหลงผิดชั่ววูบของเขาทำให้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องประสบกับความหายนะ ความเจ็บปวดในใจของเขามันเหนือเกินกว่าความเจ็บปวดทางกายที่เขาเพิ่งได้รับมากมายนัก!!!

The Flash : ธอว์น ไอ้บัดซบเอ๊ย….

The Flash : บัดซบที่สุด….

The Flash : ฉันจำได้แล้ว!!!

The Flash ที่กำลังมึนงงจากความเจ็บปวดทั้งกายและใจ ก็ต่อยสะเปะสะปะ ซึ่ง The Reverse-Flash ก็หลบได้อย่างง่ายดายและเป็นฝ่ายอัดเขาอย่างหนักหน่วง!

The Reverse-Flash : ดีแล้ว

The Reverse-Flash : ถ้างั้นมันก็ถึงเวลาจบเรื่องกันเสียที

ทันใดนั้น ก็มีระเบิดขึ้นทำให้ทั้งสองต้องแยกกันชั่วขณะ

แล้ว Batman (Thomas Wayne) ก็เข้ามาหา The Flash

Batman : นายคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี่งั้นรึ?

The Flash : ผม…ใช่แล้วล่ะ

Batman : ถ้างั้นนายก็ยังสามารถที่จะแก้ไขมันได้ เราเพียงแค่ต้องจัดการธอว์นไม่ให้มาขัดขวางเราได้…

(ตรงนี้แสดงถึงความมากประสบการณ์ของ Thomas ได้เป็นอย่างดี เขาเป็นเหมือนทหารมากประสบการณ์ที่สามารถมองข้ามเรื่องที่ผ่านไปแล้ว และตั้งมั่นกับสิ่งที่ยังสามารถทำได้มากกว่า)

แต่ทันใดนั้น The Reverse-Flash ก็เข้ามาซัด Batman ด้วยคอมโบชุดใหญ่!

The Reverse-Flash : ดอกเตอร์เวย์น ที่คุณพูดมาน่ะมันกลับกันแล้วล่ะ…

The Reverse-Flash : ดอกเตอร์โธมัส เวย์น…ตาแก่ที่น่าเศร้าเอ๋ย

The Reverse-Flash : เจ้าเดอะแฟลชต่างหากที่ถูกขจัดออกจากเส้นทางของฉันไปเรียบร้อยแล้ว

The Reverse-Flash : เจ้าเดอะแฟลชน่ะมันไม่มีความหมายกับฉันอีกต่อไปแล้ว

The Reverse-Flash : และนั่นก็คือผลพลอยได้ของเรื่องทั้งหมดนี่ยังไงล่ะ

The Flash : นี่แกพูดเรื่องอะไรของแกอยู่?

The Reverse-Flash : ที่ฉันไม่ได้ฆ่าแกตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เพราะฉันต้องการแก ฉันต้องให้แบรี่ อัลเลนกลายเป็นเดอะแฟลช และมีชีวิตที่ยืนยาว

The Reverse-Flash : นานพอที่จะทำให้มีสปีดฟอร์ซไปถึงยังยุคศตวรรตที่ 25 ยุคสมัยของฉัน!

The Reverse-Flash : เมื่อตอนที่แกเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์นั้น ฉันได้วิ่งเข้าไปหลบอยู่ในกระแสเวลา และด้วยเหตุนั้น แกได้ทำให้ฉันกลายเป็น “สิ่งที่ไม่สอดคล้อง”ของประวัติศาสตร์ แกได้ช่วยปลดปล่อยฉันจากการผูกมัดกับประวัติศาสตร์ไหนๆก็ตามไปแล้วไงล่ะ

ราวกับจะระบายสิ่งที่เก็บกดมานานแสนนานออกมาทั้งหมด The Reverse-Flash ไล่ทุบ The Flash อย่างเมามัน!!

The Reverse-Flash : นั่นหมายความว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแบรี่ อัลเลน ไม่ว่าจะเป็นในอดีต, ปัจจุบัน หรืออนาคต ฉันก็จะยังมีตัวตนอยู่!

The Reverse-Flash : ฉันนั้นไม่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ไหนๆอีกแล้ว

The Reverse-Flash : ฉันมีตัวตนอยู่นอกเหนือจากมันไปแล้ว

The Reverse-Flash : แกมันไม่มีความจำเป็นใดๆต่อฉันอีกแล้ว!

The Reverse-Flash : ฉันสามารถย้อนไปฆ่าแกตอนอยู่ในท้องแม่ หรือจะฆ่าแกในตอนนี้เลยก็ได้ทั้งนั้น!

The Reverse-Flash : ฉันทำร้ายแกได้ แต่แกทำร้ายฉันไม่ได้อีกแล้วแบรี่!

The Reverse-Flash : เดอะแฟลชผู้เป็นตำนานไม่สามารถทำร้ายเอโอบาร์ด ธอว์นได้อีกต่อไปแล้ว!!

ขณะที่ The Reverse-Flash กำลังพล่ามด้วยความลิงโลดใจสุดชีวิตอยู่นั่นเอง…ก็มีดาบเล่มหนึ่งเสียบทะลุร่างของมันออกมา!!

เป็นฝีมือของ Batman นั่นเอง

Batman : แล้วฉันล่ะทำร้ายแกได้ไหม?

Thomas Wayne ไม่ได้ตั้งกฎว่าจะไม่ฆ่าคนแบบ Bruce ลูกชายของเขา ดังนั้นเขาจึงเสียบตรงเข้าทะลุหัวใจของ The Reverse-Flash อย่างแม่นยำและไม่มีการลังเลแม้แต่นิดเดียว!!

(Speedster มีพลังหลากหลายอย่างก็จริง แต่ร่างกายก็เหมือนมนุษย์ธรรมดา ถ้าโดนเสียบหรือโดนยิงก็ตายได้)

Batman : ขอแนะนำในฐานะนายแพทย์ว่ะ : เวลาที่แกกำลังอยู่ในสนามรบน่ะ…อย่ามัวแต่ยืนพล่ามอยู่กับที่แบบนี้

แล้วดังนี้เอง The Reverse-Flash ผู้ที่เป็นศัตรูคู่แค้นของ The Flash มานานแสนนาน…ก็ตายไปอีกครั้ง

ถึงแม้ The Reverse-Flash จะตายไปแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น

สงครามระหว่าง Amazon กับ Atlantis กำลังดุเดือดถึงขีดสุด และตอนนี้พวกเขาก็ยังต้องปกป้องพวกเด็กๆทีม SHAZAM ที่สูญเสียหัวหน้ากลุ่มอย่าง Billy Batson จากการหักหลังของ Enchantress ไปเมื่อเล่มที่แล้วด้วย

แต่ตอนนั้นเองกำลังเสริมก็มาถึง…

Grifter (Cole Cash) นำทีมกองกำลังต่อต้านแห่งประเทศอังกฤษ พร้อมทั้งเหล่าผู้มีพลังเหนือมนุษย์คนอื่นๆมาช่วยแล้ว!!

แต่นังคนทรยศ Enchantress ก็เข้าก่อกวนขัดขวาง และโจมตีทุกคนอย่างไม่เลือกหน้า

และตอนนั้นเอง Batman ก็โดนเวทย์มนต์ของมันเข้าเต็มๆจนบาดเจ็บสาหัส

ขณะที่ Enchantress กำลังอาละวาดอย่างเมามัน ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากท้องฟ้า

มันเป็นเสียงของอะไรบางอย่างที่กำลังพุ่งมาด้วยความเร็วสูง ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเสียงมากมายนัก จนเกิดคลื่น Sonic Boom ขึ้น!!

สำหรับ The Flash นั้น มันเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยมานานแล้ว

The Flash : นึกอยู่แล้วไงล่ะ

ส่วน Enchantress นั้น…ก็ได้เห็น “สิ่งนั้น” ตรงดิ่งมาที่ตัวมันอย่างชัดเจน

Superman (Kal-El) มาแล้ว!!!

เขาลงจอดบนร่างของ Enchantress และทำให้ร่างของมันถูกบี้จนแหลกเป็นชิ้นๆทันที!!

(โปรดสังเกตุรอบๆตัวของ Superman แสงที่เห็นนั่นก็คือพลังเวทย์มนต์ของ Enchantress ซึ่งตาม Time-Line หลักนั้น Superman จะแพ้ทางพลังเวทย์มนต์และไม่สามารถป้องกันอะไรที่เป็นพลังเวทย์มนต์ได้เลย แต่มันกลับทำอะไร Superman คนนี้ไม่ได้เลย! ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะความสามารถเในการควบคุมพลังงานที่เขาเรียนรู้ขึ้นมาเองเฉพาะใน Time-Line นี้ และนั่นก็ทำให้ Superman คนนี้มีข้อที่เหนือกว่าของ Time-Line หลักขึ้นมาอีกอย่างแล้ว…น่าเสียดายจริงๆ เพราะถ้าให้เวลาเขาอีกสักหน่อยล่ะก็ เขาอาจพัฒนาจนไมว่าใครก็ชนะเขาไม่ได้อีกแล้วก็เป็นได้)

ทางด้าน Aquaman (Arthur Curry) และ Wonder Woman (Diana Prince) ที่กำลังสู้กันอยู่ก็ถึงกับหยุดสู้ไปชั่วขณะ ด้วยว่าสัมผัสถึงความร้ายกาจของบุรุษลึกลับที่มาใหม่นี้ได้

Superman : พอกันที

ว่าแล้ว Superman ก็เข้าโจมตีทั้ง Aquaman และ Wonder Woman จนกระเด็นไป

The Flash : ฉันนึกอยู่แล้วซุปเปอร์แมนจะต้องมา…อัคร์!!

ในขณะนั้นเอง สถานการณ์ก็เลวร้ายลงสุดๆพร้อมกัน

ทั้งการที่ The Flash เริ่มที่จะสูญเสียความทรงจำของ Time-Line เดิมอีกครั้ง!!

ทั้งการที่มีกองกำลังของ Gorilla Grodd ลิงวายร้ายที่ต้องการเพียงจะอาละวาดเท่านั้นมาเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย!

ทั้งการที่ตอนนี้ทั้ง Aquaman กับ Wonder Woman หันมาช่วยกันรุม Superman แล้ว

และที่แย่ที่สุดก็คือ…ตอนนี้หัวรบคลื่นสั่นสะเทือนแรงดึงดูดของฝ่าย Atlantis กำลังจะฉีกโลกเป็นเสี่ยงๆ!!

(เหตุการณ์ตรงนี้จะไปต่อที่เล่ม Tie-In ของ Abin Sur ที่เขามาพบ Cyborg และเข้าไปในรอยแยกของเปลือกโลกเพื่อหยุดหัวรบ และทำให้เขาได้พลังของ The Entity ร่างอวตารแห่งแสงสีขาว ที่มอบพลังให้เขาจนสามารถหยุดการแตกสลายของดวงดาวเอาไว้ได้)

The Flash : ไม่นะ…ฉันกำลังจะลืมว่าฉันมาที่นี่เพื่อทำอะไร…

ตอนนั้นเอง Batman ที่บาดเจ็บใกล้ตายก็พูดกับ The Flash

Batman : นายจะต้องวิ่งหนีไปจากที่นี่ก่อนที่ความทรงจำของนายจะหายไปหมด

The Flash : หนีงั้นรึ? ดอกเตอร์เวย์น…

Batman : นายสามารถจะช่วยเหลือพวกที่กำลังจะตายอยู่ตอนนี้ได้นะแบรี่ นายสามารถช่วยคนนับล้านที่ตายไปแล้วได้ด้วย และนายก็สามารถที่จะรักษาสัญญาของนายได้ด้วย

แล้ว Batman ก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่งยื่นให้ The Flash

Batman : นายสามารถที่จะช่วยลูกชายของฉันได้

The Flash : ผม…จะหนีจากเรื่องที่ผมก่อนี้ได้ลงคอได้ยังไง?

Batman : ก็ด้วยเหตุผลเดียวกับที่ฉันจะจากโลกนี้ไปได้อย่างหมดห่วง เพราะฉันรู้ว่าโลกที่ดีกว่านี้…จะมาแทนที่มัน แต่…ฉันก็ต้องขอ…แสดงความเสียใจกับนายด้วย…

Batman : ฉันเสียใจด้วยเรื่องแม่ของนาย…

ท่ามกลางเสียงคำรามของพื้นดินที่กำลังจะแตกสลาย Thomas Wayne ก็สิ้นใจ

The Flash : พวกเขา…ตายไปหมดแล้ว ฉันจะต้อง…

The Flash : วิ่ง

แล้ว The Flash ก็เริ่มออกวิ่ง

เขาวิ่งไปจนเข้าไปสู่ภายใน Speed Force และเขาก็นึกถึงแม่ของเขา

The Flash : แม่ครับ

แล้วทันใดนั้น Speed Force ก็ราวกับจะตอบรับกับสิ่งที่อยู่ในใจของเขา และมันก็ได้ส่งเขาไปที่…

??? : แบรี่?

ที่ๆมันส่งเขาไปก็คือที่หน้าบ้านของ Nora Allen แม่ของเขานั่นเอง

Barry : แม่ครับ?

Nora : นั่นลูกใส่ชุดอะไรอยู่น่ะ? แล้วลูกมาทำอะไรที่นี่น่ะ? ลูกได้ยินข่าวทางทีวีไหม? พวกนั้นบอกว่านี่คือจุดจบของโลกด้วย

Barry : มันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับแม่ และมันเป็นเพราะผมด้วย

แล้ว Barry ก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ของเขาฟัง

Nora : ทั้งหมดนั่นมันยากที่จะเชื่อจริงๆนะแบรี่

Barry : ผมรู้ครับแม่ ผมเปลี่ยนแปลงโลกจนมันกลายเป็นที่ๆเลวร้ายอย่างที่สุด

Barry : แต่มันจะต้องมีวิธีที่ผมจะช่วยเหลือทุกคนรวมทั้งแม่ด้วยได้นะครับ

Nora : แบรี่ ถ้าลูกไปหยุดตัวลูกเองได้ล่ะก็…

Barry : ถึงผมจะอยากย้อนเวลากลับไปเพื่อหยุดตัวผมเองก็ตาม…

Barry : ผมก็ไม่สามารถจะเดินทางย้อนกลับไปในอดีตให้ตรงตามช่วงเวลาที่ต้องการอย่างถูกต้องได้โดยไม่มีเครื่องจักรที่เรียกว่า “ลู่วิ่งคอสมิค” ได้

(Cosmic Treadmill (ลู่วิ่งคอสมิค) เป็นเครื่องมือที่จะสามารถช่วยคำนวณช่วงเวลาที่ต้องการจะไป และจะช่วยให้ Speedster ที่ใช้เครื่องมือนี้สามารถเดินทางไปยังจุดช่วงเวลาและสถานที่ๆถูกต้องแม่นยำได้ ซึ่ง Speedster ที่สามารถท่องเวลาอย่างแม่นยำโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือนี้ก็มีเพียง The Reverse-Flash คนเดียวเท่านั้น)

Nora : แต่ลูกก็ถูกดึงดูดมาหาแม่ในตอนที่ลูกเริ่มจะฝ่ากำแพงของเวลา เหมือนสายฟ้าที่ถูกดึงดูดด้วยสายล่อฟ้า

Nora : ถ้าลูกตั้งมั่นถึงตัวลูกเอง มันก็น่าจะทำให้ลูกมุ่งไปสู่เวลาที่ถูกต้องได้ไม่ใช่หรือ?

Barry : และถ้าผมหยุดตัวผมเองได้…ผมก็ช่วยทุกๆคนได้ แต่ผมจะไม่สามารถช่วยแม่ได้…มันจะต้องมีวิธีอื่น

แม้ Nora จะตื้นตันใจที่ลูกชายพยายามมากขนาดไหนเพื่อช่วยเธอ แต่ก็มีความจริงอย่างหนึ่งที่เธอต้องการจะรู้…

Nora : มีคนตายไปเพราะเรื่องนี้มากมายแค่ไหนแล้ว?

Nora : กี่คนกันหรือแบรี่?

Barry : มีคนตายไปนับล้านเลยครับ แต่ผมไม่ยอมให้แม่ต้องตาย! ผมไม่ยอมให้ชีวิตที่เรามีร่วมกันต้องถูกลบไปหรอก

Nora : มันจะไม่ถูกลบไปหรอก

Barry : แม่ครับ…

Nora : มันเกิดขึ้นจริงๆนะ แบรี่ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ชีวิตที่เราใช้มาร่วมกันมันก็เกิดขึ้นจริงๆ

Nora : และแม่ก็คงจะไม่มีทางภาคภูมิใจและมีความสุขมากกว่านี้อีกแล้ว ที่ได้มีลูกชายที่ดีอย่างลูก

สองแม่ลูกกอดกันอย่างแนบแน่น…ลึกๆในใจของทั้งสองต่างรู้ดีว่า…นี่จะเป็นการลาจากกันชั่วนิรันดร์

Nora : ลูกจะต้องยอมปล่อยวางเรื่องของแม่นะแบรี่

Barry : แต่ผมไม่อยากจะทำแบบนั้นเลยนี่ครับ

Nora : แม่ก็ไม่อยากเหมือนกันจ๊ะ…

Nora : แต่แม่ก็จะไปอยู่ร่วมกับพ่อของลูก

Nora : แม่จะไม่เป็นไรแน่จ้ะ

แล้ว Barry ก็ออกวิ่งไปเพื่อตามหาตัวเขาเองที่กำลังจะไปทำสิ่งที่ผิดพลาดร้ายแรงที่สุดในชีวิตของเขา

(ในความเป็นจริงแล้วนั้น เพียงแค่ตัว Barry เองนั้นไม่เพียงพอที่จะตามไปหาตัวเขาเองในอดีตอย่างแม่นยำได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือของ Kid Flash (Bart Allen) หลานของเขา ที่ไปรวบรวมพลังงานและข้อมูลของกระแสเวลา Flashpoint ทั้งหมดมามอบให้กับเขา เขาจึงสามารถตามมาหาตัวเขาเองจนได้! เรื่องราวส่วนนี้อยู่ใน Tie-In ของ Kid Flash)

The Flash (อดีต) : นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?

The Flash (ปัจจุบัน) : ฉันรู้ดีว่านายรู้สึกยังไง

The Flash (ปัจจุบัน) : และเพราะอย่างนั้นฉันจึงต้องขอโทษนายด้วย ฉันเสียใจจริงๆที่ต้องทำแบบนี้

แล้วเขาก็ดึงตัวเขาเองในอดีตออกจากเครื่อง Cosmic Treadmill

The Flash (อดีต) : นี่นายจะทำอะไรน่ะ? ปล่อยฉันนะ! ฉันจะต้องไปช่วยแม่!

The Flash (อดีต) : ไม่!!!

The Flash (อดีต) : ไม่!!!!!!!!

แล้วตอนนั้นเอง ท่ามกลางประกายสายฟ้าที่เจิดจ้า โลกก็เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง

เมื่อ The Flash หยุดยั้งตัวเขาเองได้แล้ว เขาก็พยายามจะกลับไปห้วงเวลาของเขา แต่มันก็เกิดเหตุประหลาดขึ้น

The Flash : ฉัน…ฉันจะต้องวิ่งกลับเข้าไปในกระแสเวลา แต่…ฉันเห็นห้วงเวลาถึงสามอันพร้อมกัน ทำไมกันล่ะ?

(Time Line ทั้งสามประกอบด้วย จักรวาลหลัก DC (ซ้ายล่าง), Vertigo (ซ้ายบน 1) และ Wildstorm (ซ้ายบน 2))

แล้วทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงลึกลับพูดกับเขา

??? : เป็นเพราะว่าประวัติศาสตร์ของเหล่าฮีโร่ถูกทำให้แตกแยกเป็นสามเมื่อนานมาแล้ว ถูกทำให้แตกแยกเพื่อให้โลกของเจ้าอ่อนแอลง เพื่อเตรียมพร้อมให้กับการมาของ “พวกมัน”

??? : พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องร่วมกันสู้ กระแสเวลาจะต้องรวมเป็นหนึ่งอีกครั้ง เจ้าสามารถช่วยข้าแก้ไขมันได้ แบรี่ อัลเลน แต่มันก็ต้องแลกกับอะไรบางอย่างด้วย

แล้วทันใดนั้นกระแสเวลาทั้งสามก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อเกิดเป็นจักรวาล DC ใหม่ขึ้นมา!!! (ขวา)

(Vertigo เป็นค่ายลูกของ DC Comic ที่ดึงตัวละครที่เคยเป็นของ DC อย่างเช่น Swamp Thing หรือ John Constantine ไปเป็นตัวชูโรง ซึ่งแนวเรื่องจะเป็นแนวค่อนข้างโหดและเนื้อหารุนแรงกว่า DC)

(ส่วน Wildstorm นั้นแต่เดิมเป็นค่ายอิสระที่โดน DC ซื้อกิจการมาเป็นค่ายลูก ซึ่งตัวละครชูโรงของค่ายนี้ก็เช่น Grifter และทีม WildC.A.T.S. จนกระทั่งบริษัทถูกยุบไปเมื่อปี 2010 ซึ่งทาง DC ก็ประกาศว่าจะมีการนำเอาตัวละครของค่ายนี้มาใช้ในจักรวาล DC ในภายหลัง ดังนั้นจุดมุ่งหมายของ Event Flashpoint จึงเป็นทั้งการรีบูทจักรวาล DC ใหม่ และยังเป็นการหลอมรวมจักรวาล Vertigo และ Wildstorm เข้ามารวมเป็นหนึ่งเดียวกันด้วย)

แล้วเมื่อ Barry รู้สึกตัวขึ้น เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องแลปอาชญากรรมที่เขาทำงานอยู่

เขารีบไปที่ Batcave แล้วเขาก็พบ Batman อยู่ที่นั่น

(โปรดสังเกตุว่าชุดของทั้ง The Flash และ Batman เป็นของจักรวาลใหม่แล้ว)

Batman : แฟลช?

The Flash : บรูซ นายคือบรูซใช่ไหม?

Batman : ก็แหงล่ะสิ มีอะไรงั้นหรือแบรี่? มันเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?

แล้ว The Flash ก็เล่าทุกอย่างให้ Batman ฟัง

Batman : โลกทั้งโลกเปลี่ยนแปลงไปเพราะนายพยายามจะหยุดยั้งไม่ให้แม่ของนายถูกฆ่างั้นรึ?

The Flash : และมันก็เกือบจะพินาศไปแล้ว ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนมันกลับได้

Batman : แล้วตอนนี้ทุกอย่างกลับเป็น “ปกติ” แล้วงั้นรึ?

The Flash : เท่าที่ฉันพอจะบอกได้น่ะนะ

The Flash : ไอ้การพยายามจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์นี่…ฉันน่าจะรู้อยู่นะว่ามันไม่ควรจะทำเลย ธอว์นมันพูดถูก ฉันมันเห็นแก่ตัวจริงๆ

Batman : อย่าโทษตัวเองเลยแบรี่

Batman : ถ้าฉันมีพลังแบบเดียวกับนาย ฉันก็คงจะพยายามทำแบบเดียวกันนั่นแหละ และอย่าได้คิดว่าฉันไม่เคยคิดที่จะทำแบบนั้นจริงๆเชียวล่ะ

The Flash : แต่มันก็ยังมีเรื่องที่ฉันหาคำอธิบายไม่ได้อยู่น่ะนะ…

The Flash : ความทรงจำของฉันใน “โลกนี้” มันค่อยๆหายไปตลอดเวลาที่ฉันอยู่ในห้วงเวลาใหม่นั่น แต่ตอนนี้ แม้จะผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม ฉันก็ยังจำงานวันเกิดครบสิบสามปีได้อยู่ จำได้ว่าตอนนั้นแม่ของฉันทำเค๊กวันเกิดรูปรถสปอร์ตให้ฉัน รวมทั้งที่ฉันไปสอบใบขับขี่กับแม่เมื่อตอนอายุสิบหก แล้วก็ที่ฉันไปกินอาหารค่ำที่บ้านเธอเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วนี้เองด้วย

The Flash : ฉันไม่รู้ว่าทำไมหรือเป็นไปได้ยังไง แต่ฉันยังจำวันเวลาที่ฉันใช้ชีวิตอยู่กับแม่ในห้วงเวลานั้น ฉันคิดว่ามันอาจเป็นผลกระทบชั่วคราวหรือไม่ก็เพราะผลจากกระแสเวลายังคงอยู่ในตัวฉันก็ได้

Batman : บางทีมันอาจเป็นของขวัญสำหรับนายก็ได้นะแบรี่

Batman : เป็นของขวัญที่มีไว้เพื่อให้สามารถทำใจรับกับสิ่งที่เกิดได้ง่ายขึ้น

The Flash : บรูซ…

The Flash : ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ได้บอกนาย คือฉันได้พบกับคนๆหนึ่งที่นั่น ซึ่งถ้าไม่ได้เขาช่วยเหลือ ฉันก็คงจะช่วยโลกไว้ไม่สำเร็จแน่

The Flash : เขาได้ให้สิ่งนี้กับฉันมา

มันคือจดหมายที่ Thomas มอบให้ The Flash มานั่นเอง

ซึ่งเมื่อ Batman เห็นชื่อของเขาที่จ่าหน้าไว้ด้วยลายมือที่คุ้นตาอย่างประหลาดก็รู้สึกสะกิดใจอย่างแรงขึ้นมาทันที

Batman : นั่นมันอะไรน่ะ?

เมื่อ Batman เปิดจดหมายออกดู เขาก็พบว่ามันเป็นจดหมายจากพ่อของเขานั่นเอง!!

“ลูกรักของพ่อ”

“มีเรื่องหนึ่งที่พ่อรู้เกี่ยวกับชีวิตคนเราก็คือ พ่อรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างมันก็เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ”

Batman อ่านเนื้อหาในจดหมาย และเขาก็รู้ได้โดยไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมารองรับ ว่านั่นเป็นจดหมายจากพ่อของเขาที่ตายไปตั้งแต่เขายังเด็กจริงๆ และมันทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวจนยืนไม่อยู่ จนต้องนั่งลงบนเก้าอี้

เขาถอดหน้ากากออก แล้วอ่านข้อความในจดหมายซ้ำหลายต่อหลายครั้ง

และเมื่อเขาอ่านคำทิ้งท้ายของจดหมาย

“รักลูกเสมอ”

“จากพ่อของลูก”

“โธมัส”

เมื่ออ่านจดหมายจบแล้ว Bruce ก็ต้องหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจกับความรักของพ่อที่ส่งข้ามห้วงเวลามาถึงเขา

Bruce : นายมันเป็นสุดยอดคนนำสารจริงๆ ขอบใจมากนะแบรี่

The Flash : ไม่เป็นไรหรอกบรูซ

Flashpoint : จบบริบูรณ์

จักรวาล DC จะเข้าสู่ยุคใหม่ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป!!!

43 thoughts on “FLASHPOINT #5

  1. BoatmasterZZZ

    นี่มันนนนนนน สุดยอดดด

    จบได้แบบน้ำตาไหลพรากๆจริงๆ

    แม้ว่าจะดูปาหมอนไปหน่อยก็เถอะ ว่าจะเอาอีกสองค่ายมาีรวมกัน จนถึงขั้นต้องเริ่มต้นใหม่เลย

    แต่ฉากแบทแมนนี่ ดูแล้วมันซึ้งจริงๆเลย ให้ตายเถอะ โรบิน

    ว่าแต่ การที่เอา จม.มาให้อ่าน (หรืออื่นๆ)มันไม่ได้เป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์อะไรเหรอ เพราะ คนที่ท่องเวลาได้ ตามปกติ ไม่น่าจะยุ่งกับเรื่องคนล่ะโลกนะ แต่ที่ DC ทำกันจนสนุกแล้ว ยังไงก็มั่วอยู่ดี 55+(Butterfly effect)

  2. Orion

    คนเข้มแข็งแค่ไหน ก็ต้องมีเรื่องอ่อนไหวกันบ้าง
    เฮ้อ น้ำตาผมไหลแล้วนี่สิ T_T

  3. thini

    ตอนมาถึงถ้ำค้างคาวเหมือนป๋าแบทกำลังถักผ้าพันคออยู่ 😀

    แล้วแบรี่ก็จะอยู่ในจักรวาลใหม่แบบมีความทรงจำเก่าด้วยเหรอเนี่ย o_O

  4. seventoon

    น้ำตาคลอ ครับ

    สรุปแล้ว เหตุการ์ณในจักรวาลทั้งหมด มารีเซ็ทใหม่ ให้เรียบง่ายและเพิ่มค่ายลูกทั้งสองให้เป้ฯอย่างทางการ

    เพราะแฟลช พอย ใช่ไหมครับ

    นี่คือเหตุผลที่มารองรับจักรวาลใหม่ใช่ไหมครับผม

    สุดยอดเลย

    “พวกมัน” จักรวาลใหม่มา พร้อมสู้กับพวกมันเลย

    สุดยอดครับผม ขอบคุณมากที่ปสอย

    อีเวนท์นี้จบไวดีแฮะ ไม่ถึงปีเลย 55+

  5. Tan Talae

    ตอนนี้แบรี่รู้ใช้ไหมครับ ว่าตัวเองอยู่ในจักรวาลใหม่ และรู้ว่ามีอะไรแตกต่างจากจักรวาลเดิมบ้าง
    หรือยังเข้าใจผิดว่าตัวเองกลับมาอยุ่ในจักรวาลเดิม ??

  6. yuan

    ผมคิดว่า พวกมัน น่าจะเป็น Brainiac ที่ Kid Flash ไปเจอในโลกอนาคตที่อยู่ในช่วง Flashpoint หรือเปล่าเพราะดูต้อองการ speedforce น่าดู

  7. _V_

    สาวในผ้าคลุมนี่ใครหว่า ใช่ ที่โผล่มาใน JL ป่าวครับ

  8. Gothic

    สักเกตุดีๆ ช่องของหญิงผ้าคลุม ชุดของแบรี่ค่อยๆเปลี่ยนจากชุดเก่าไปเป็นชุดใหม่ด้วยแหละ

  9. เข้ม

    น้ำตาไหลเลย

    “ลูกรักของพ่อ”

    “มีเรื่องหนึ่งที่พ่อรู้เกี่ยวกับชีวิตคนเราก็คือ พ่อรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างมันก็เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ”

    แงแง

  10. phongpisit

    ว่าจะไม่ซื้อซีรีย์นี้แต่ชอบตอนจบ คงจะโดยไปอีกหลายชัวร์ๆ

  11. lucaman

    เสียดายประวัติศาสตร์เก่าโดนโละทิ้งหมดเลย ต้องมานั่ง Revamp ใหม่อีกรอบ

  12. wat

    Vertigo จะเน้นไปที่เรื่องเหนือธรรมชาติมากกว่าน่ะครับ ส่วน Wildstrom จะเน้นแอคชั่น ซึ่งผมก็วง่าดีน่ะ จะได้มีตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์มาบ้าง ไม่ให้เว่อเกินไป

    แบทแมนจักรวาลใหม่ รู้สึกจะหนุ่มขึ้นน่ะครับ ส่วน flash เห็นแดน ดนัยบอกว่า ได้ต้นแบบมาจาก เทพเฮอมีส ที่ทำหน้าที่เป็นคนส่งสารและสัญลักษณ์ปีก

  13. tatoot

    ขอถามครับ ยังงี้ก็มีเเบรี่ เเค่คนเดียวใช่มั้ยที่ยังจำเรื่องของ Time line เดิม เหตุการณ์เดิม ก่อนที่ จะรวมจักวาลได้

  14. lucaman

    @tatoot

    ที่เค้าบอกคือจำไทมไลน์ใน Flashpoint ได้ ส่วนไทม์ไลม์ดั้งเดิมจะค่อยๆลืม และโป๊ะด้วยไทม์ไลน์ใหม่

  15. doc holliday

    จบซึ้งดีจริงๆ ครับ
    ชอบมุกคำแนะนำจากแพทย์จัง 😀
    แอบฮา ตอนอ่านครั้งแรกเห็นแว๊บๆ ในถ้ำค้างคาว เหมือนบรูซกำลังถักนิตติ้งอยู่เลย

    เรื่องสาวผ้าคลุมปริศนา ลองตามไปดูในบอร์ดนะครับ เผื่อใครยังไม่เห็น ^_^
    คุณ Lucaman รวบรวมมาให้ดูนิดหน่อยแล้ว http://www.comics66.com/?page_id=5113&vasthtmlaction=viewtopic&t=4.0

  16. wat

    แล้วเรื่อง batman ตอนจบที่ต้องไปเจอกับโจ๊กเกอร์ แปลให้จบสักทีสิครับ เห็นว่าเป็นเมียของ Thomas เป็นโจ๊กเกอร์ มันเป็นยังไงครับ

  17. seventoon

    @wat ใจเย็นครับผม -_-

    แปลแต่ละตอนนี่ มันไม่ใช่ชั่วโมง-สองชั่วโมงเสร็จนะครับผม
    ยิ่งถ้าเป็นเวอร์ชั่น ตัดต่อภาพแบบนั้นด้วย ถ้าจะเอาเนี้ยบ เนี้ยบ
    ยาวเกินวัน แน่ครับผม

    นักสปอยเลอร์ในนี้ ทุกคนมีงานมากจริงจริง ถ้าว่างเขาก็อยากจะสปอยให้หมดนั่นแล

    ขนาดผมเองว่าง ว่าง ยังเสียเวลาอ่านตอนหนึงนานเลย
    ต้องข้าใจAuthor หน่อยนะคัรบผม

    ขอบคุณครับ

  18. AlexXx

    ไม่คิดว่า DC จะจบแบบซึ้งได้ครับ
    ผมน้ำตาคลอ ตอนที่ The Flash จากแม่
    และ Batman อ่าน จมครับ

  19. WallyBoy

    เปนตอนที่ผมชอบมากที่สุดเลยครับ จบแบบนี้มันเยี่ยมจริงๆ

  20. gunner

    เป็นอะัไรที่ซึ้งโดนใจมากๆ ทำน้ำตาไหลเลย จบได้ ดีมากๆ TwT

  21. CrazyBlue

    เล่มนี้ซึ้ง คูณ 2 ไปเลยแฮะทั้ง แบรี่ลาแม่ และจดหมายจากโทมัส ผมว่าจบได้ดีทีเดียวเชียว

  22. NOpower

    ประทับใจมากๆครับ เข้าสู่ จักรวาลใหม่ได้ดีจริงๆ อ่านแล้วประทับใจมากครับ
    ขอบคุณมากๆครับที่ spoil ต่อไปก็ถึงคราวซื้อสะสมแล้วสิ 55

  23. oatslomo

    จบได้ประทับใจดีจัง ถึงจะเสียดายเรื่องราวเก่าๆ แต่ในจักรวาลใหม่คงต้องมีอะไรดีๆรออยู่แน่ๆ

    ซึ้งตอนบรูซได้จดหมายจากพ่อ น้ำตาเเทบไหล

    ปล.แล้วเล่มนี้เป็น5ปีหลังจากJLAเล่มแรกรึปล่าวครับ

  24. voeten

    @oatslomo เป็นเวลาปัจจุบันที่ JL รวมตัวกันเรียบร้อยแล้วครับ เล่มย้อมอดีตมีแค่ 2 เล่ม
    Justice League กับ Action Comics

  25. 13Hatesong

    ตามความรู้สึกถึงแม้ว่าจะดู ห้วนๆสำหรับผม แต่ ก็จบ สรุปได้ดีมากๆจริงๆ ประทับใจ ครบรสมากๆ

    โธมัส เวย์น คุณเท่โคตรๆ

  26. seacat

    ถึงคราว DC กลับมายิ่งใหญ่แล้ว จากแฟน marvel ฮือๆๆๆๆๆ

  27. GHOSTRIDER

    ตอนอ่านจบ ผมร้องไห้จริงๆ และ คิดถึง วอลลี่ เวสต์ ด้วย ไม่มีบทอีกต่อไป
    สงสารโทมัส เวย์นด้วย
    ืทุกคนต่างมีคนที่รักและอยากให้รอดชีวิต แม้กระืัทั่งตัวเองต้องตายเสมอ
    มันอัด schism ของผมกลิ้งเลยเนี่ย

  28. comic4u

    แอบซึ่งอยุ่ในใจ เล่นจบนี้ สุดยอดไปเลย

  29. SRAD

    ต้องอย่างนี้ซิDC จบได้ใจชาวโลกไปเต็มๆ

  30. Zodiac

    งงตามจริงแม่แบรี่ตายไปแล้วใช่มั้ยครับ แล้วแบร์รี่กลับไปช่วยแม่ตอนไหนหรอครับ

  31. Zodiac

    หรือว่า Time-line นี้เกิดขึ้นไปพร้อมกันกับ Time-line อื่นๆอยู่แล้ว แต่ตัวแบรรี่จากใน Time-line หลักถูกดึงเข้ามาอยู่ใน Time-line นี้แทนใช่มั้ยครับ

  32. Zodiac

    ส่วนความทรงจำที่ว่าไปช่วยแม่ก็คือความทรงจำที่เกิดขึ้นของ Time-line นี้ ที่ถูก Reverse Flash กระตุ้นให้จำได้เร็วขึ้นประมาณนี้รึเปล่าครับขอโทษทีครับอาจจะสงสัยเยอะไปหน่อย พอเรื่องเกี่ยวกับเวลานี่ผมงงทุกทีเลย

  33. NetNN Post author

    @Zodica
    อันนี้คงต้องท้าวความก่อนว่า Time-Line ของ Barry นั้นเคยถูกเปลี่ยนมาแล้วด้วยฝีมือของ Reverse-Flash

    โดยอันดั้งเดิมสุดคือ อันที่แม่ของ Barry มีชีวิิตอยู่จนแก่เฒ่า แต่อันนี้ถูกลบไปด้วยการที่ Reverse-Flash ย้อนเวลาไปฆ่าแม่ของ Barry จึงทำให้ประวัติของ Barry เปลี่ยนไปเป็นว่าแม่ของเขาโดนฆาตกรรมไปในตอนที่เขายังเด็กแทน

    และในภายหลังเขาก็ได้รับรู้จากปากของ Reverse-Flash เองว่ามันเป็นคนที่ฆ่าแม่ของเขา นั่นจึงทำให้เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะเขาเองก็มีความสามารถแบบเดียวกับมัน ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาก็สามารถจะย้อนกลับไปเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้เหมือนกัน แต่เขาก็รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่งเพราะถ้าผิดพลาดอาจทำให้ประวัติศาสตร์ทั้งหมดพังครืนลงมาได้

    แต่สุดท้ายแล้ว Barry ก็ไม่อาจจะทนกับความรู้สึกที่ต้องมารับรู้ว่าเขาสามารถช่วยชีวิตแม่ได้แต่กลับไม่ยอมทำได้อีก เขาได้ย้อนเวลากลับไปช่วยเหลือแม่ของเขาจาก Reverse-Flash ได้สำเร็จ แต่ทว่าการกระทำของเขานั้นกลับทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจนกระทั่งโลกทั้งโลกถูกเปลี่ยนเป็นโลกแบบของ Flashpoint ไปเสีย

    ที่ Barry มีความทรงจำของ Time-Line เดิมอยู่นั้นเป็นเพราะตัวเขาเองคือคนที่ไปจุดประกายการเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้น แต่ความทรงจำเหล่านั้นก็จะถูกแทนที่ด้วยความทรงจำใหม่ของ Time-Line นี้ จนสุดท้านถ้าปล่อยไว้ก็จะถูกแทนที่จนหมด

    เมื่อประวัติศา่สตร์ถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว นั่นทำให้ประวัติศาสตร์ทั้งหมดของจักรวาลหลักนั้นกลายเป็น “ไม่เคยเกิดขึ้น” และถือว่าไม่เคยมีตัวตนอีกต่อไป จนกระทั่งถูก Barry เปลี่ยนแปลงซ้ำอีกครั้ง แต่ก็ไม่กลับเป็นเหมือนเดิมเสียทีเดียว เพราะมันกลายเป็นจักรวาลใหม่ไปเลย

  34. Dotto

    ซึ้ง… เป็นการจบได้ประทับใจมาก ไม่ได้อ่านการ์ตูนแล้วน้ำตาไหลพรากอย่างงี้มาก่อน T-T
    เคยอ่านแต่มังงะ เพิ่งมาอ่านคอมิกมาไม่นาน รู้สึกว่าคอมิกเนื้อเรื่องกระชับดี เคยอ่าน Age of Ultron ที่เกี่ยวกับ Butterfly Effect เหมือนๆ กัน กลัวมาอ่านเรื่องนี้ไม่เข้าใจ เพราะมึนมาก ไหนจะ Timeline ไม่รู้จะอันไหนเป็นยังไง แล้วยังเรื่องรีบู๊ทจักรวาลอีก ขนาด AOU มี 10 ตอนยังอ่านไม่เข้าใจ Flashpoint มีแค่ 5 ตอนเองแล้วจะรู้เรื่องไหมเนี่ย ฮ่าาา

    แต่พออ่านแล้ว เข้าใจและรู้เรื่องมากกว่าอีก(รึเริ่มชินอ่านคอมิคแล้วก็ไม่รู้) จะงงก็แค่ตัวละคร เพราะไม่เคยอ่านคอมิคมาก่อนเลยไม่รู้ว่าใครเป็นใคร (ขอบคุณคนสปอยด์มากค่ะ ที่อธิบายให้เข้าใจละเอียด ไม่งั้นคงงงเหมือนเขียดเลย T-T)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *