Aquaman #04

DC Comic : Aquaman 04 : อวสานหุบเหวใต้ทะเล

เรื่อง : Geoff John
ภาพ : Ivan Reis, Joe Prado
วางจำหน่าย: 28 ธันวาคม 2011
สำนักพิมพ์ : DC Comics

Aquaman และ Mera ดำดิ่งลงสู่หุบเหวใต้ทะเลและได้ค้นพบสาเหตุที่พวกสัตว์ประหลาดจากห้วงลึกขึ้นไปหาเหยื่อจนถึงบนพื้นดิน แต่มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป!


.
.
.
เปิดฉากมาที่ใต้ทะเลลึก

Aquaman (Arthur Curry) และ Mera ภรรยาของเขา มุ่งหน้าสู่หุบเหวใต้ทะเลโดยมีเหล่าปลาเรืองแสงน้ำลึกนำทาง

Arthur : ปกติแล้วผมจะสามารถมองเห็นได้แม้อยู่ก้นทะเล แต่ที่นี่มัน…

Mera : ตาของฉันก็มีปัญหาในการมองผ่านสารพิษที่อยู่ในน้ำที่นี่เหมือนกัน

Mera : แล้วมันก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆด้วย เราน่าจะอยู่ใกล้กับปากปล่องภูเขาไฟใต้ทะเล แล้วนี่สิ่งมีชีวิตสามารถมีชีวิตอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้ยังไงกันน่ะ?

Arthur : คงต้องลองถามพวกปลาที่ช่วยนำทางเราพวกนี้ หรือไม่ก็พวกตัวประหลาดที่ลักตัวชาวเมืองมาพวกนั้นแล้วล่ะ

Mera : ฉันว่าคุณคิดผิดเรื่องของพวกมันนะ พวกมันไม่เหมือนกับพวกเรา พวกมันเป็นแค่สัตว์ร้ายที่ไร้ซึ่งสติปัญญา

Arthur : แล้วใครเป็นคนที่สร้าง “สิ่งนั้น” กันล่ะ

ที่เบื้องหน้าของทั้งสอง มีสิ่งที่แปลกแยกจากโขดหินภูเขาไฟที่อยู่โดยรอบ มันดูไม่เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติเอาเสียเลย?!

ทั้งสองคนว่ายเข้าไปดูใกล้วัตถุขนาดใหญ่นั้น

Arthur : มันดูเหมือนกับเป็นป้อมปราการบางอย่าง หรือไม่ก็…เดี๋ยวนะ คุณเห็นมุมที่มันเหมือนปักเข้าไปในปากปล่องภูเขาไฟไหม?

Mera : เหมือนกับว่ามันกระแทกเข้าไปในปากปล่องภูเขาไฟ พวกสัตว์ประหลาดนั้นไม่ได้สร้างสิ่งนี้นะอาเธอร์ มันดูเหมือนเป็นยานพาหนะใต้น้ำบางอย่าง มันจะเป็นยานจากต่างดาวหรือเปล่าน่ะ?

Arthur : ไม่หรอก ผมจำภาษาที่สลักอยู่นี่ได้ ถึงผมจะอ่านไม่ออก แต่…สัญลักษณ์นี่เป็นส่วนหนึ่งของภาษาโบราณ มันเป็นภาษาของแอตแลนติส…ตั้งแต่สมัยก่อนที่มันจะจมลงใต้ทะเล

Arthur : ยานลำนี้จมอยู่ที่นี่มานับศตวรรษแล้ว

Arthur : มันมีรอยแตกอยู่ที่ตัวยานด้วย พวกสัตว์ประหลาดนั่นคง…

Mera : กัดกินพวกคนที่อยู่ข้างในไปตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว

Arthur : แต่ชาวแอตแลนติสมาทำอะไรอยู่ใต้ทะเลตอนที่มันยังไม่จมลงกันล่ะ? และพวกนั้นมาทำอะไรในที่ลึกขนาดนี้?

พวกเขาว่ายเข้าไปในรอยแตกบนตัวยาน แต่ทว่า…

Mera : พวกปลาไม่ยอมตามเรามานะอาเธอร์

Arthur : ดูท่าสัญชาติญาณเอาชีวิตรอดของพวกมันจะเหนือกว่าพลังโทรจิตของผมนะ

Mera : มันเคยเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาหรือเปล่าน่ะ?

Arthur : ไม่เคยเลย

Arthur : แต่นั่นก็หมายความว่าเรามาถูกทางแล้ว

Mera : แต่นั่นก็หมายความว่าเราต้องคลำทางกันเองแล้วสิเนี่ย

Arthur : เรารับมือกับความมืดได้น่า

Mera : ฉันเข้าใจว่าคุณหวังไว้ว่าคนที่โดนจับมาพวกนั้นจะยังมีชีวิตอยู่ และหวังว่าจะสามารถพาพวกเขากลับขึ้นไปบนพื้นดินได้ แล้วจากนั้นล่ะ? ถ้าสิ่งที่คุณฉินว่าไว้มันถูกต้อง พวกสัตว์ประหลาดนั่นขึ้นไปบนบกเพราะว่าแหล่งอาหารของพวกมันหมดลงแล้ว และพวกมันก็ได้ลิ้มรสชาติของเนื้อสิ่งมีชีวิตบนโลกเบื้องบนแล้วด้วย

Mera : เราต้องปิดกั้นหุบเหวนี่เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันกลับขึ้นไปอีก

Arthur : ถ้าเราทำแบบนั้นก็เท่ากับเราฆ่าพวกมันทั้งเผ่าพันธ์นะ

Mera : พวกมันเป็นสัตว์ที่ไร้หัวคิดนะ พวกมันมีแต่จะทำความเสียหายให้กับโลกเท่านั้นแหละ

Arthur : แอตแลนติสก็พูดถึงมนุษย์บนโลกเบื้องบนแบบนั้นเหมือนกัน

Mera : เจ้าพวกนี้มันกินมนุษย์นะ แถมพวกมันยังกินเป็นจำนวนมากด้วย

Arthur : แต่ทำไมพวกมันถึงเอา “อาหาร” กลับมาที่นี่กันล่ะ? ทำไมพวกมันถึงไม่อยู่หาเหยื่อที่ข้างบนนั้นไปเลย?

ทันใดนั้นในมุมมืดข้างหน้า มีแสงเรืองเป็นรูปดวงตาและปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวสว่างขึ้น

Mera : นั่นมันปลาหรือเปล่าน่ะ?

Arthur : ไม่ใช่

แล้วสิ่งนั้นก็ว่ายน้ำผ่านหน้าทั้งสอง เป็นสัตว์รูปร่างประหลาดที่ขนาดประมาณแมวตัวเขื่องๆ

Mera : ตัวอ่อนของพวกมันนี่นา

Arthur : เป็นตัวลูก

แล้วทันใดนั้นมันก็หยุดว่ายแล้วก็แน่นิ่งไป

Arthur : มัน…มันตายแล้วนี่นา

Mera : มันดูแคระแกรนนะ พิกลพิการด้วย

Arthur : น่าจะเกิดจากการสืบพันธ์ในสายเลือดเดียวกัน

(Inbred : ในหลักทางชีววิทยา การที่สิ่งมีชีวิตที่มีสายเลือดใกล้ชิดกันอย่างเครือญาติมาผสมพันธ์กันอาจทำให้ลักษณะด้อยทางพันธุกรรมปรากฎออกมาได้ง่าย และจะทำให้ลูกหลานที่ออกมามีอาการผ่าเหล่าและพิกลพิการได้ แต่ก็มีตัวอย่างการใช้ประโยชน์จากวิธีนี้เช่นกัน อย่างการผสมพันธ์สุนัข เพื่อให้ได้พันธ์ใหม่ๆขึ้นมาก็จะมีการเอาสายเลือดเดียวกันมาผสมพันธ์กันเพื่อให้ลักษณะที่ต้องการเด่นชัดขึ้นมาในรุ่นลูกหลาน ซึ่งนั่นก็ทำให้สุนัขในปัจจุบันมีขนาดและลักษณะที่หลากหลาย)

เมื่อพวกเขาผ่านไปตามทางที่มันมา พวกเขาก็เห็นซากศพของตัวอ่อนนับสิบตัวลอยตายเต็มไปหมด

Mera : ดูพวกมันสิ คุณเห็นไหมอาเธอร์ พวกมันแทบจะสูญสิ้นสายพันธ์อยู่แล้ว

Arthur : เงียบก่อนนะเมร่า ที่ข้างหน้านั่น…

พวกเขาออกมาที่สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

มีพวกสัตว์ประหลาดที่พวกเขาตามรอยมาเต็มไปหมด และที่กลางห้อง มีตัวที่ใหญ่กว่าตัวอื่นถึง 10 เท่าอยู่

และพวกเขาก็เห็นเจ้าตัวจ่าฝูงเหมือนกำลังพูดคุยกับเจ้าตัวใหญ่ตรงกลางอยู่

Arthur : นี่มันอะไรกันเนี่ย?

Mera : คุณดู “ราชา” และ “ราชินี” ไม่ออกงั้นหรือ?

Mera : ที่นี่คือ “ท้องพระโรง” ของพวกมัน และยังเป็นสถานที่สืบพันธ์ของมันด้วย ถึงมันจะฟังดูน่าเศร้ายังไงก็ไม่รู้ก็เถอะ

พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าโดย Mera สร้างกระแสน้ำป้องกันไม่ให้พวกมันเข้ามาใกล้ได้

Arthur : ที่แพดานด้านบนมี “ดักแด้” ที่พวกมันใช้ขังผู้คนอยู่

Arthur : เราไม่มีทางรู้ได้ว่าพวกเขาจะรอดอยู่ในนั้นได้นานแต่ไหน และเราก็เปิดให้พวกเขาออกมาใต้ทะเลนี้ก็ไม่ได้ด้วย เราต้องเอามันไปทั้งยวงพร้อมกับผนังนี้ด้วยแล้วล่ะเมร่า

ว่าแล้ว Arthur ก็ออกแรงดันสุดแรง

ที่ด้านนอกยาน ผนังเริ่มแตกออกจากแรงดันอันมหาศาล

เมื่อพวกสัตว์ประหลาดรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรก็เริ่มลงมือทันที

{อาหารของพวกเรา}

แล้วเขาก็ดันจนผนังส่วนนั้นหลุดออกมาจนได้ แล้วก็มุ่งหน้าขึ้นสู่เบื้องบน

Arthur : เราต้องเอาพวกเขาขึ้นไปอย่างช้าๆ ไม่งั้นพวกเขาจะตายเพราะปรับตัวไม่ทัน

Mera : เราไม่มีเวลามากนักหรอกนะ

Arthur : ผมจะถ่วงเวลาให้คุณเอง

ว่าแล้ว Arthur ก็มุ่งลงไปหาพวกสัตว์ประหลาดที่ตามขึ้นมา

Mera : อาเธอร์?!

Arthur : ไปเร็วเมร่า! ว่ายต่อไปเรื่อยๆ!!

Arthur : ฉันก็หวังไว้อยู่น่ะนะว่าเราจะคุยกันได้ ฉันหวังว่าเราจะทำให้แกเข้าใจได้ว่าฉันไม่สามารถยอมให้แกใช้เราเป็นอาหารได้

{เราต้องการอาหาร}

{นางต้องการอาหาร}

{เพื่อเด็กๆของเรา}

ทันใดนั้นก็มีรยางค์มารัดตัวของ Arthur ไว้?!

เป็นเจ้าตัวนางพญานั่นเอง!

{เจ้าจะต้องถูกดูดกลืนเข้าไปในตัวข้า}

{เพื่อเด็กๆของเรา}

ขณะที่สถานการณ์คับขัน Arthur ก็สังเกตุถึงสิ่งที่อยู่ข้างๆตัวเขา

Arthur : ปากปล่องภูเขาไฟ…มีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

แล้วเขาก็เงื้อตรีศูรขึ้น

Arthur : ฉันต้องขอโทษพวกแกด้วย

แล้วเขาก็ขว้างตรีศูรเข้าใส่ปากปล่องภูเขาไฟใต้ทะเล ทำให้ลาวาทะลักออกมาใส่เจ้าตัวนางพญา!!

ที่อีกด้านหนึ่ง Mera ที่กำลังใช้พลังน้ำช่วยดันพวกคนที่โดนจับมาขึ้นไป ก็ได้ยินเสียงดังกระหึ่มมาจากเบื้องล่าง

และเมื่อเธอมองไปข้างล่าง เธอก็เห็นบางอย่างกำลังพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

Mera : อาเธอร์?

ทันใดนั้น Arthur ก็ว่ายน้ำผ่านเธอไปยังชะง่อนผาที่อยู่เหนือหุบเหวใต้ทะเล

Mera : อาเธอร์! นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ?

Arthur : ผมได้กระตุ้นภูเขาไฟใต้ทะเลให้ระเบิดขึ้นมาแล้ว หุบเหวใต้ทะเลแห่งนี้กำลังจะถล่ม

ที่เบื้องล่าง เจ้าตัวจ่าฝูงได้นำลูกน้องของมันตามขึ้นมา

{นางพญาของเราตายแล้ว}

Mera : อาเธอร์! พวกมันตามมาแล้ว!

เมื่อรู้ว่าเวลาไม่คอยท่า Arthur ก็รีบเค้นแรงทั้งหมดที่มีผลักดันชะง่อนผา!!

{แกต้องตายไปกับพวกเรา}

และด้วยการดันอย่างสุดแรงครั้งสุดท้าย…!!

ชะง่อนผาก็ถล่มลงไปทับพวกสัตว์ประหลาด และกลบฝังหุบเหวใต้ทะเลอยู่ภายใต้กองหินและดินโคลน

Mera : อาเธอร์?

Arthur : หุบเหวถูกฝังลงไปแล้ว ลาวาจะไหลท่วมมันจนเต็มในไม่ช้า…

แล้วเขาก็ไปช่วย Mera ดันผนังที่มีพวกคนที่โดนจับมาขึ้นไปเบื้องบน

Arthur : เรารีบพาคนพวกนี้กลับบ้านกันเถอะ

หลังจากนั้น

เหล่าผู้คนที่ถูกช่วยมาได้ก็ถูกปลดปล่อยจาก “ดักแด้”

ซึ่ง Arthur กับ Mera ก็ยืนดูภาพครอบครัวได้กลับมาพบกันอีกอย่างซาบซึ้งใจ
ตอนนั้นเองเจ้าหน้าที่ทหารก็มาหาเขา

นายทหาร : มันเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์จริงๆ

ทหาร : ในบรรดาคนที่ถูกช่วยมา มีตายไปแค่สองคน อีกหลายสิบคนรอดมาได้ คุณทำได้ดีมากๆเลยล่ะนะ

Mera : อย่าทำท่าแปลกใจเกินเหตุแบบนั้นจะได้ไหม

นายทหาร : เราอยากได้รายงานอย่างละเอียดสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นข้างล่างนั่น คุณถ่ายรูปมาไว้บ้างหรือเปล่าน่ะ?

Arthur : นี่คุณกำลังพูดเล่นใช่ไหม?

นายทหาร : ผมขอเดาว่าคุณคงดูออกว่าผมล้อเล่นอยู่หรือเปล่าน่ะนะอควอแมน

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น

??? : อควอแมน!

เจ้าของเสียงเป็นเด็กชาย 1 ในบรรดาคนที่เขาช่วยมาได้นั่นเอง

Arthur : มีอะไรรึ?

เด็กน้อยยิ้มกว้างแล้วบอกเขาว่า

เด็กชาย : คุณเป็นฮีโร่ที่ผมชอบที่สุดเลย

ทั้ง Arthur และ Mera ยิ้มรับคำขอบคุณของเด็กน้อย ก่อนที่จะกระโดดลอยตัวจากไป

ซึ่งนายทหารที่โดนเมินก็อดจะบ่นอุบอิบไม่ได้

นายทหาร : ฉันก็ยังไม่ชอบหมอนั่นอยู่ดี

รุ่งเช้า ที่ประภาคารบนชะง่อนผาที่ Amnesty Bay

Mera กำลังทำแผลให้กับ Arthur

Mera : คุณแค่ทำสิ่งที่คุณต้องทำเท่านั้นแหละอาเธอร์ อย่าคิดถึงมันให้มากนักเลย

Arthur : ผมไม่เป็นไรหรอก ผมแค่อยากให้ผมมีทางเลือกอื่นตอนที่อยู่ข้างล่างนั่นเท่านั้นแหละ

Mera : คุณอยากจะหาทางที่จะไม่ต้องเสียสละชีวิตของใคร ทั้งของพวกมัน แล้วก็พวกเราด้วย ฉันรู้จักคุณดีน่าอาเธอร์ คุณอย่าให้เรื่องนี้มาตามหลอกหลอนคุณเลยนะ

Arthur : ผมไม่เป็นไรหรอก

Mera : คุณก็พูดแบบนั้นทุกทีนั่นแหละ

Arthur : เพราะผมไม่เป็นไรแน่นอน

ขณะที่ทั้งสองกำลังจุมพิตกันอย่างรักใคร่ ก็มีเสียงเรียกมาจากหน้าประตูบ้าน

??? : สวัสดีครับ? อควอแมนคุณอยู่หรือเปล่า?

แล้วเจ้าบ้านทั้งสองก็ไปเปิดประตูบ้านแล้วพบว่าคนที่มาคือผู้ช่วยนายอำเภอ Wilson คนที่มาขอความช่วยเหลือจากพวกเขาก่อนหน้านี้นั่นเอง

Arthur : เจ้าหน้าที่วิลสัน?

แล้ว Arthur ก็สังเกตุเห็นหมาที่ Wilson พามาด้วย มันเป็น 1 ในผู้ที่เขาช่วยมาได้เมื่อคืนที่ผ่านมา

Arthur : แล้วก็แก เป็นไงบ้างหรือเจ้าหนู?

Wilson : ใช่ มันสบายดี เอ่อ คืองี้นะครับ ผมขอโทษสำหรับกริยาท่าทางที่คนอื่นๆทำต่อคุณตอนที่อยู่ในเมืองบีชร็อคด้วยนะครับ แต่พวกคนที่คุณช่วยชีวิตมาได้นั้นก็ซาบซึ้งกับความช่วยเหลือของคุณมากเลยล่ะครับ รวมถึงตัวผมเองด้วย

Wilson : และเจ้าหมาตัวนี้ก็ด้วยเหมือนกัน

Wilson : เจ้าของของมันคือเจเน็ต รีด เป็นเจ้าของร้านหนังสือในเมืองนั้น เจ้านี้ก็ชอบนอนเล่นอยู่ในร้านนั้น แล้วก็ต้อนรับลูกค้าอย่างเป็นมิตรสุดๆเลยล่ะครับ

Wilson : คุณรีดเสียชีวิตไปแล้วจากเหตุการณ์เมื่อคืน มันก็เลยไม่มีที่ไป แล้วคุณก็ดูจะชอบมันด้วย ผมก็เลยคิดว่า…

Mera : แล้วมันชื่ออะไรรึ?

Wilson : ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เอาเป็น “อควอด็อค” เป็นไงครับ?

Mera : อควอด็อคงั้นรึ?

ขณะที่ Wilson กำลังจะกลับไปขึ้นรถ เขาก็หันมาบอกเรื่องสุดท้ายกับ Arthur กับ Mera

Wilson : อ้อ แล้วก็มีอีกเรื่องที่ผมอยากบอกนะครับ…เจ้าหมาตัวนี้มันว่ายน้ำไม่เป็นน่ะครับ

Mera : งั้นเราก็ต้องสอนมันแล้วสิเนี่ย

ทั้ง Arthur และ Mera ยิ้มต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้านของพวกเขาอย่างยินดียิ่ง

Teaser เรื่องราวของ Aquaman ในปีนี้

“Atlantis เคยเป็นชาติที่ทรงอำนาจที่สุดบนโลกนี้”

“แต่ในคืนวันหนึ่ง”

“มันก็ถูกทำลายพินาศลง”

“ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป Aqaman จะเริ่มการเดินทางเพื่อหาคำตอบให้กับสิ่งที่ไม่มีเคยมีใครตั้งคำถามมาก่อน”

“ว่าใครกันที่ทำให้ Atlantis จมลงสู่ท้องทะเล?”

โปรดติดตามได้ใน Aquaman ในปี 2012 นี้นะครับ

สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ!!

16 thoughts on “Aquaman #04

  1. dark_shochan

    รอลุ้นกับตอนต่อไปค่ะ ตอนนี้จบได้ดีทีเดียว
    ชอบที่อควาแมนหาทางที่อยากจะยุติด้วยทางออกที่เสียสิ่งต่างๆให้น้อยที่สุด

    น้องหมาน่ารัก
    ฮา ชอบชื่อ อควาด๊อกแต่ดันว่ายน้ำไม่เป็นซะงั้น

  2. doc holliday

    สนุก! ดูเหมือนจะจบ arc แรกแล้วสินะ

    ปล. เห็นคุณ NetNN เขียน(พิมพ์) “ศตวรรษ” ผิดหลายทีแล้ว “ศต” (สะตะ) แปลว่า หนึ่งร้อย “วรรษ” แปลว่า ปี
    อีกคำนึง ระยาง ต้องเป็น “รยางค์” (ส่วนที่ยื่นออกจากส่วนหลักของอวัยวะของสิ่งมีชีวิต เช่น หนวดของแมลง ครีบปลา แขน ขา) ครับ 😉

  3. NetNN Post author

    @doc holliday:

    ขออภัย แบบว่าเขียนแบบนี้มาตั้งแต่เด็กเลยใส่ไปแบบไม่คิด แก้แล้วนะครับ

  4. genesis

    หัวนี้ ภาพสวย เนื้อเรื่องดีตามเคย จบช่วงแรกแล้วสินะเนี่ย แต่ทำไมรู้สึกว่ามันเร็วๆไปหน่อย ไม่ค่อยอธิบายเรื่องของพวกสัตว์เหล่านี้เลย

    หอกของอควอแมนนี่ทำจากอะไรเนี่ย ทนทานดีจริง แล้วปาไปแบบนี้ต้องไปดึงกลับมาใช่มั้ยเนี่ย

    ส่วน ปีหน้านี่เข้าเรื่องราวที่ควรจะต่อกับ brightest day แล้วสินะเนี่ย

  5. seventoon

    ครับ ปีศาจใต้น้ำ โดนปราบหมดเลยแฮะ

    รอติดตาม ต่อไป ว่าจะครอสใครไหม ในหัวนี้

  6. BaaMzS

    น่าสนุกแฮะ ใครจมแอตแลนติส?

    ในจักรวาลเก่าเคยมีบอกมั้ยครับว่าใครจมแอตแลนติส หรือจะมาบอกในจักรวาลใหม่นี้เลย?

  7. sslyby

    เลี้ยงหมาด้วย

    มาดพระเอกสุดๆไปเลย

    ดันกันเต็มที่เลย ^ ^

  8. wat

    เดินเรื่องเรียบง่ายดีครับ ไม่น่าเบื่อ ตื่นเต้น น่าติดตาม สี่เล่มจบและ

  9. NetNN Post author

    @BaaMzS:

    ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ในจักรวาลเก่าจะไม่เคยกล่าวถึงมาก่อนครับ

  10. Tatoo

    รู้สึกว่าตัวเองพึ่งสังเกตว่า Mera หุ่น เอ็กซ์ ๆๆ มากก o_O

  11. BoatmasterZZZ

    วาดสวยๆ แถมยังทิ้งปมให้อีก ว่าพวกแมงพวกนั้นคืออะไร มันคือสัตว์ประหลาดหรือเผ่าพันธ์ที่มีความคิดเหมือนมนุษย์ น่าสนใจจรืงๆ

  12. DOL

    Aqua อันนี้นี่ดูดีมากๆเลย ทั้งภาพสวย เนื้อเรื่องงาม แล้วตอนจบก็กินใจด้วย

    ชักจะชอบพี่ Aqua คนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ แอร๊ยยยยยยย!!!

  13. oatslomo

    Aquadog เห็นแล้วคิดถึงหมาของพี่ซุปเลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *