Batgirl #3

BATGIRL #3
เรื่อง : GAIL SIMONE
ภาพ : ARDIAN SYAF และ VICENTE CIFUENTES
วางจำหน่าย: 9 พฤศจิกายน 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics

เผชิญกิ๊กเก่า!

..

เมื่อกี้ฉันยังหลั่นล้าอยู่เลย

ฉันกำลังตามรอยนายมิเรอร์ ฆาตกรใจทมิฬหินชาติ ฉันรู้สึกว่าตัวเองนี่นอกจากสวยแล้วยังเก่งอีกต่างหาก

 

แต่ไหงมันพลิกล็อคถล่มทลายแบบนี้ได้นะ?

 

มิเรอร์: เร่งหน่อยแบทเกิร์ล ผมอยากให้คุณได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของโลกใบนี้

บาร์บ: พูดไปเถอะ

 

ไม่กี่เดือนก่อน ชายคนหนึ่งมีอาการโรคเก่ากำเริบบนทางรถไฟฟ้าก็อทแธม ชายใจดีอีกคนช่วยชีวิตเขาเอาไว้ โดยดึงเขาขึ้นมาจากทางรถไฟในเวลาฉิวเฉียด

 

มิเรอร์อยากให้ผู้ชายคนนั้นตาย หมอนั่นบอกว่าวางระเบิดเอาไว้แล้ว

เขาทิ้งหูฟังไว้ให้ฉันใส่ด้วย ดูท่าเขาอยากพล่ามความวิปริตให้ฉันฟังล่ะมั้ง

 

มิเรอร์: ถ้าคุณติดต่อใคร… ผมจะกดระเบิด แบทเกิร์ล

 

หมอนี่มัน… มันเกินกว่าจะใช้คำว่าใจทมิฬแล้ว มันไม่มีหัวใจเลยต่างหาก

แรงจูงใจของเขาคือต้องการให้คนทั่วไปเชื่อในปาฏิหารย์ เขาบอกว่าปาฏิหารย์นั้นหลอกลวง… เป็นการล้อเล่นที่แสนเจ็บปวด

 

แต่ฉันรู้ว่าเขาคิดผิด

 

 

ฉันรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ? เพราะปาฏิหารย์ช่วยชีวิตฉันไว้ไงล่ะ

 

 

และฉันไม่ยอมให้พี่บึ้กคนนี้มาเปลี่ยนทัศนคติฉันแน่

บาร์บ: หยุดรถไฟหน่อยค่า!

นายรถไฟ: ไม่ได้ครับ! ระบบมันผิดพลาด!

บาร์บ: เปิดประตูก็ไม่ได้เหรอ?

ช่ายยยยยยยยย เขาไม่มีทางเปลี่ยนฉันได้ ช่าย เพราะฉันคือแบทเกิร์ล สาวน้อยผู้เก๋กู้ด คงต้องหวังให้รางรถไฟ… มั่นคงแข็งแรงดี โอเค เอาตามนี้แหละ

 

 

นี่ล่ะแผนของฉัน

บาร์บใช้สูตรเดิมนั่นคือเกี่ยวตะขอแล้วเหวี่ยงตัวพุ่งใส่หน้าต่าง

เพล้งงงงงง!!!

..

“คุณบ้าไปแล้ว แบทเกิร์ล”

 

มิเรอร์: คุณหาระเบิดไม่ทันหรอก เพราะพระเจ้ามักเย้ยหยันด้วยการให้คนตายดิ้นรนสูญเปล่า

งั้นเหรอ? เอาเถอะยังไงตอนนี้ก็ไม่มีกลยุทธ์อะไรให้ใช้แล้ว

 

บาร์บ: คุณรูเพิร์ท แอนเซลอยู่ที่นี่รึเปล่าค้า?

มิเรอร์: ยอมรับเถอะแบทเกิร์ล ระเบิดอาจอยู่ตรงไหนก็ได้

บาร์บ: คุณรูเพิร์ท แอนเซลอยู่รึเปล่า? มีเหตุฉุกเฉินค่า!

รูเพิร์ท: ผ… ผมเองครับ

มิเรอร์: เข้าใจรึยังครับแบทเกิร์ล? เมื่อรูเพิร์ท แอนเซลรอดชีวิตอยู่นานเท่าไหร่… คนนับร้อยนับพันก็ต้องมาตายแทนอย่างไร้ความหมายมากขึ้น ๆ นับพัน ๆ คนเลยเชียวนะ

 

มิเรอร์: แล้วทำไมต้องให้นับพันครอบครัวเศร้าเสียใจ ในขณะที่ครอบครัวของเขาเลี้ยงฉลองอย่างสุขสันต์ด้วยล่ะ

บาร์บ: ทุกคน! อพยพจากรถคันนี้ด่วยเลย!

รูเพิร์ท: เกิด… เกิดอะไรขึ้น? คุณเป็นใคร?

 

ครอบครัวของมิเรอร์เสียชีวิตเพราะเหตุรถยนต์ระเบิด… แต่ตัวเขากลับรอดออกมาได้อย่างไร้รอยขีดข่วน เขารับไม่ได้จึงคิดจะสังหารทุกชีวิตที่ถูกพระเจ้าช่วยให้รอด

 

 

เขาพูดถูก ฉันหาระเบิดได้ไม่ทันเวลาแน่ ๆ ฉะนั้นฉันต้องลองวัดดวงกับวิธีอื่น

 

บาร์บ: คุณแอนเซล คุณเชื่อใจฉันรึเปล่าคะ?

รูเพิร์ท: ไม่ค่อยอ่ะครับ

บาร์บ: ก็ยังดี อย่าเข้าใจฉันผิดนะ

จู่ ๆ บาร์บก็สวมกอดคุณแอนเซลอย่างเหนียวแน่น

บาร์บ: มิเรอร์! ฉันไม่ได้ถูกกำหนดให้ตายด้วยระเบิดใช่มั้ย? นายอ่านข่าวเรื่องฆาตกรบริสบี้แล้วใช่มั้ยล่ะ? นายพลาดตรงนี้แหละ

รูเพิร์ท: คุณครับ! ผมแต่งงานแล้วนะคุณ!

 

“คืนนั้นฉันเกือบจะตกลงไปแล้ว แต่ปาฏิหารย์ช่วยฉันเอาไว้ จริงมั้ย? นั่นแหละเหตุผลที่นายพยายามดึงฉันให้พลัดจากขอบตึกในคืนวันก่อน… นายต้องการให้ฉันตายด้วยการตกจากตึก!”

 

บาร์บ: ฉันอยู่ในบัญชีของนาย แต่ถ้าฉันจับกอดชายคนนี้เอาไว้นายก็ฆ่าฉันไม่ได้ ไม่งั้นมันจะผิดต่อปณิธานที่นายให้ไว้กับครอบครัว ปิดเกมได้แล้วเพื่อน

มิเรอร์: ฉลาดมากแบทเกิร์ล แต่แผนของคุณยังขาดไปอีกหนึ่งอย่าง

 

“คือคุณลืมชายใจดีไปเสียสนิท”

“เขาโดยสารมากับรถไฟอีกขบวนหนึ่งทุก ๆ เช้า”

 

บึ้มมมมมมมม!!!

 

2 ชั่วโมงให้หลัง…

กอร์ดอนกำลังคุยโทรศัพท์กับนักสืบแม็คเคนน่า

เมล: แต่สารวัตรคะ ฉันรู้ว่าคุณงานล้นมือ แถมตอนนี้ยังมีการก่อการร้ายเกิดขึ้นอีก… ฉันไปช่วยที่สถานีได้นะคะ

กอร์ดอน: ไม่ได้หรอกนักสืบแม็คเคนน่า ผมต้องย้ำคุณอีกทีรึเปล่าว่าระเบียบว่าไว้ว่ายังไงเวลาที่คู่หูนักสืบถูกยิง?

เมล: ไม่ต้องหรอกค่ะ แต่…

กอร์ดอน: ต้องให้แผนกจิตเวชลงความเห็นเสร็จเสียก่อนคุณถึงจะกลับมาลุยได้อีกครั้ง เมโลดี้ตอนนี้ช่วยรอเฉย ๆ ก่อนเถอะ นี่คือคำสั่ง

ตอนนั้นบาร์บก็มาถึงพอดี กอร์ดอนก็เลยตัดสาย

 

 

เมล: ก็ได้ค่ะ ฉันรับ “คำสั่ง”

เมล: ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดี จิม กอร์ดอน เป็นตำรวจที่ดี

 

เมล: แต่พอเป็นเรื่องไอ้พวกค้างคาวล่ะก็ คุณจะปิดหูปิดตาทุกทีเลยนะสารวัตร

ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเมลกำลังแสดงข้อความว่า…

 

เกิดอะไรขึ้นกับสาวน้อยค้างคาว?

กอร์ดอน: จะเอาอะไรเหรอลูกรัก?

บาร์บ: เปล่า เปล่าค่ะ หนูแค่คิดจะมาชวนคุณพ่อไปกินข้าวด้วยกัน

กอร์ดอน: หืมม เกิดอะไรไม่ดีขึ้นรึเปล่า?

บาร์บ: หนูแค่อยากเจอพ่อ

กอร์ดอน: บาร์บาร่า?

บาร์บ: หนูคงคิดถึงพ่อน่ะค่ะ

กอร์ดอน: บาร์บ พ่อกลัวว่าลูกจะฝืนเกินไป หมอบอกว่า…

บาร์บ: หนูรู้ว่าเขาบอกยังไง

 

บาร์บ: เขาบอกว่าอาการของหนูอาจทรุดกลับมาเป็นอีกได้ พวกเขาบอกให้หนูระวังไว้

 

บาร์บ: แต่หนูมัวกลัวนั่นกลัวนี่ไม่ได้หรอกค่ะพ่อ หนูกลับมาเป็นคนที่หนูเคยเป็นแล้ว หนูไม่ยอมกลับไปนั่งรถเข็นอีกแน่

กอร์ดอน: พ่อไม่ได้บอกให้หนูกลับไปนั่งรถเข็นสักหน่อย พ่อแค่อยากให้หนูระวังตัว

บาร์บ: หนูจะพยายามค่ะพ่อ

กอร์ดอน: พ่อต้องไปแล้ว มีพลเมืองดีแจ้งที่อยู่ผู้ก่อการร้ายเข้ามา

พ่อคงไม่รู้ว่าพลเมืองดีที่ว่าคือฉันเอง

กอร์ดอน: ไว้เป็นมื้อเที่ยงแล้วกัน เดี๋ยวพ่อพาไปกินหมี่เกี๊ยว

ฉันรู้ว่าท่านพยายามจะช่วย ฉันรู้ว่าท่านกำลังแสดงความห่วงใยออกมา แต่ฉันเปราะบางขนาดนั้นเลยเหรอ?

 

 

คืนนั้น

ฉันกำลังตามรอยมิเรอร์ ในเมืองนี้มีปิศาจร้ายที่กำลังเลียนเยี่ยงพระเจ้า ฉันต้องหาเขาให้พบ และฉันจะจัดการเขาเอง

 

 

ฉันอยู่ในที่เก็บรถของกลางของกรมตำรวจก็อทแธม… มันน่าอายชะมัดเลย ฉันอาจเป็นคนแรกในตระกูลค้างคาวเลยล่ะมั้งเนี่ย แต่ตอนนั้นฉันจำเป็นจะต้องทิ้งรถเอาไว้ที่โรงพยาบาลจริง ๆ ไม่อย่างนั้นฉันคงไล่ตามไอ้โรคจิตนั่นไปไม่ทัน

 

 

บาร์บ: อ๊ะ อยู่นี่เองลูกรัก หม่าม้าไม่ได้คิดจะทิ้งหนูไว้ที่นี่หรอกนะจ๊ะ

ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งที่รออยู่ก่อนแล้วก็ส่งเสียงขึ้นมา

“นี่เรากำลังจะขโมยของกลางของกรมตำรวจใช่มั้ยเนี่ย?”

 

ดิ๊ก: แล้วไม่รู้สึกแปลกบ้างรึไงที่พูดกับมอเตอร์ไซค์รู้เรื่องน่ะ?

ไนท์วิงปรากฏกายขึ้นบนหลังคาของโรงเก็บรถ! แต่เหมือนบาร์บจะไม่แปลกใจเท่าไหร่

บาร์บ: ก็แล้วแต่นายจะคิด บางทีฉันอาจจะไม่ได้พูดกับมอเตอร์ไซค์ก็ได้

ดิ๊ก: เรอะ? งั้นไว้ฉันจะสืบดูอีกที ว่าแต่เธอรู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าฉันสะกดรอยเธออยู่

บาร์บ: ก็ตั้งแต่แรกแหละย่ะไนท์วิง

ดิ๊ก: สงบศึกกันดีกว่า เรารู้ดีว่าเธอเจ้าปัญญา

บาร์บ: อยากไปลองเครื่องกับฉันรึเปล่า?

ดิ๊ก: ไม่… แต่ก็ดี

บาร์บ: งั้นทีหลังก็พูดตรง ๆ ฉันไม่ชอบพวกพูดอ้อมค้อม

ดิ๊ก: รับแซ่บ ว่าแต่นี่เธอไม่กลัวกล้องวงจรปิดบ้างรึไงเนี่ย?

บาร์บ: พวกตำรวจที่เฝ้ากล้องอยู่แอบแว่บไปจิบกาแฟทุกต้นชั่วโมง พวกเขาคิดว่าไม่มีใครรู้… แล้วฉันก็ปิดวงจรของกล้องทุกตัวเรียบร้อยแล้ว

ดิ๊ก: เข้าใจละ ทีนี้เธอจะพาเราออกไปจากที่นี่ด้วยวิธีไหนไม่ทราบ แม่อัจฉริยะ?

 

บาร์บ: ใปทางลัดไงล่ะยะ

ตอนนี้มีคนซ้อนท้ายฉันอยู่และมันช่างรู้สึกดีจนอดยิ้มไม่ได้ ลมเย็นพัดผมปลิวสยาย อดีตเจ้าหนูมหัศจรรย์กำลังโอบเอวฉัน มันวาบหวามอย่างแปลบปลาบ แต่ก็ช่วยทำให้สามารถสลัดเรื่องรถไฟระเบิดออกไปจากหัวได้สักพัก

 

บาร์บ: โอเครึเปล่า?

ดิ๊ก: ฉันรู้สึกเหมือนถูกมัดติดกับจรวด แต่มันก็โอเคล่ะนะ

 

ดิ๊ก: หรือบางทีฉันอาจกำลังรู้สึกดีเกินกว่าจะใช้คำว่าโอเคอยู่สักหน่อย

ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นแหละ แต่ฉันยังไม่คิดจะบอกเขาหรอก

บาร์บ: ได้ข่าวว่านายมาป้วนเปี้ยนในเขตโอลด์ ก็อทแธม?

ดิ๊ก: มีปัญหานิดหน่อย… คณะละครสัตว์ของแฮลี่กลับมาที่เมืองนี้… ฟังดูแปลก ๆ สินะ?

ฉันไม่ชอบเขาเลยตอนที่เราพบกันครั้งแรก ไม่เลยสักนิด นึกดูแล้วก็ไม่อยากเชื่อ

บาร์บ: เอาล่ะ นายมาทำอะไร ริชาร์ด?

ดิ๊ก: คือว่าพวกเรา… เปล่า ฉันหมายถึงฉันนี่แหละ… ฟังนะบาร์บ เธอน่ะเพิ่งหายดี

บาร์บ: จะเป็นนายคนเดียวหรือพวกนายที่ไหนก็ช่าง… แต่นายจะกังวลเรื่องนั้นทำไม?

 

สีหน้าแบบนั้นแหละที่ทำให้ฉันละลายทุกครั้งตั้งแต่สมัยที่เรายังเป็นผู้ช่วยแบทแมน

 

ดิ๊ก: ฉันเห็นผลการตรวจแล้วบาร์บาร่า เธอทำแบบนี้ทำไม? อยากกลับไปนั่งรถเข็นอีกงั้นเหรอ?

 

บาร์บ: ความเห็นของนายฟังดูงี่เง่านะ ริชาร์ด จอห์น เกรย์สัน

ดิ๊ก: โอเค ฉันอาจพูดไม่ชัดเจน ไม่เกี่ยวกับแบทแมนก็ได้ บอกฉันมาคนเดียวพอ ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง…

ดิ๊ก: เธอคิดว่าจะรับมือผู้ก่อการร้ายรายที่ชื่อมิเรอร์ด้วยตัวคนเดียวไหวงั้นเหรอ?

บาร์บ: อืมมม ถามได้ดี งั้นดูนี่นะ… โป้ง!!!

ทันใดนั้นบาร์บก็กวาดขาดิ๊กล้มลงไปโดยไม่ทันตั้งตัว!

 

บาร์บ: ตานายเป็นแล้วพ่อนกน้อย

ดิ๊ก: เฮ้ย ยัยผมแดง เธอทำอะไรเนี่ย?

 

เราเคยเล่นไล่จับกันแบบนี้

เด็กน้อยสองคนเล่นซนด้วยวิธีที่น้อยคนบนโลกจะทำได้ เขาใช้ทักษะทางกายกรรม ส่วนฉันใช้บัลเล่ต์

 

 

เขาเป็นคนโอหังแบบที่ใครอยู่ใกล้ก็พาลจะไม่ชอบเอาง่าย ๆ

แต่เขาก็เป็นคนใจดี และความใจดีนั่นแหละที่ชดเชยความรู้สึกได้

 

 

เขาทั้งใจดี… และเศร้าโศก ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม

 

บาร์บนึกย้อนไปวัยเด็กที่เคยเล่นกับดิ๊กอยู่บนหลังคาของคฤหาสน์เวย์น

บาร์บ: พ่อฉันไม่ชอบงานการกุศลเท่าไหร่แต่ก็ขอบคุณนะที่ชวนเรา เธอรู้สึกยังไงบ้างที่เกิดมารวย… แบบนี้?

ดิ๊ก: ไม่รู้สิ แล้วเธอรู้สึกยังไงล่ะที่เกิดมาพร้อมผมสีแดงแบบนี้?

บาร์บ: ฉันไม่หลงกลหรอกย่ะ

ดิ๊ก: ฉันก็เป็นแค่คนอาศัยน่ะ… ที่นี่ไม่มีอะไรเป็นของฉันสักอย่าง… แต่มันก็สวยดีนะ

บาร์บ: นั่นสิ ตึกพวกนี้…

ดิ๊ก: ฉันหมายถึงผมสีแดงของเธอต่างหาก

 

ตอนนั้นเราทั้งคู่ยังเด็ก และเขาก็เป็นรักแรกของฉัน… ทุกอย่างดูแตกต่างไปหมด

 

เพราะอย่างนั้นฉันถึงโกรธตัวเอง

เด็กสาวทั่วกรุงก็อทแธมต่างกรี๊ดกร๊าดอยากไล่จับเขา ฉันจะไม่ยอมเป็นแบบนั้นเด็ดขาด

 

บาร์บ: เชื่อก็บ้าแล้ว หุบปากเถอะ

ดิ๊ก: เข้าใจล่ะ เธอไม่เชื่อใจฉัน ฉันไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้ว… ลาก่อนนะหญิงร้าย!

แล้วดิ๊กก็แกล้งหยอกบาร์บเล่นด้วยการกระโดดจากหลังคาหนึ่งสู่หลังคาข้าง ๆ…

 

แต่ฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

และความสัมพันธ์ที่เรามีมันควรค่ามากเกินกว่าการเป็นเด็กแรกรัก

ดิ๊ก: เอาไงดีล่ะทีนี้ บาร์บจ๋า?

บาร์บ: ฉันคิดอยู่

ทันใดนั้นบาร์บก็ถอดรองเท้าแล้วเตรียมกระโดดตามมา!

ดิ๊ก: บาร์บาร่าไม่นะ! มันไกลเกินไป!

 

เราเป็นเพื่อนกัน

ดิ๊ก: อย่าทำ… อย่าทำแบบนี้อีกนะ!

บาร์บ: ฉันต้องทำย่ะ ยังไงก็ต้องทำให้ได้

 

คุณคิดออกมั้ยว่าการมีรักแรกมันรู้สึกยังไง? ใช่ล่ะ ฉันรู้สึกอย่างนั้น อย่าไปบอกใครเชียว

ว่าแต่นี่ฉันสลัดเขาพ้นแล้วรึยัง?

บาร์บเหลียวหลังมาดูว่าดิ๊กไล่ตามเธอมารึเปล่า…

บาร์บ: ไนท์วิง?

 

ทันใดนั้นดิ๊กก็โผล่มาจากอีกทางหนึ่ง!

ดิ๊ก: อะแฮ่ม… โป้ง

บาร์บ: อ๊า!

ดิ๊ก: ฉันชนะแล้วสินะ ฉันคิดว่าฉันชนะแล้ว

บาร์บ: ฉันจะ “อะแฮ่ม” นายบ้างล่ะ

 

กรี๊ดดด อยากจะกรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด

ทำไมทั้งชีวิตฉันถึงมีผู้ชายดี ๆ มาปกป้อง ทั้งที่ฉันไม่ได้ต้องการสักกะนิดแบบนี้เสมอเลย

 

 

บาร์บจึงขว้างแบ็ททาแรงใส่ดิ๊กเต็มแรง!

พอกันทีกับผู้ชายดี ๆ

อยากดูแลฉันนักใช่มั้ย? งั้นฉันจะให้ดูจนตาเขียวเลย

แล้วเมื่อกี้ฉันพูดถึง “รักแรก” ใช่มั้ย?

 

ทำเป็นไม่เคยได้ยินก็แล้วกัน

 

ดิ๊ก: จะเอา โอ๊ย! … จะเอางี้ใช่มั้ย?

ดิ๊ก: โอเค ขอมาก็จัดให้

เราเคยเล่นไล่จับกันแบบนี้

เด็กน้อยสองคนเล่นซนด้วยวิธีที่น้อยคนบนโลกจะทำได้

 

เขาใช้ทักษะทางกายกรรม… ส่วนฉันใช้บัลเล่ต์

 

ดิ๊ก: เอาล่ะ หยุด! จับตัวได้แล้ว!

บาร์บ: ไม่มั้ง ฉันไม่คิดแบบนั้นเลย!

บาร์บเอาหัวโขกกลับหลัง เล่นเอาดิ๊กมึนไปพักใหญ่!

ดิ๊ก: แบทเกิร์ลหยุด บาร์บหยุด หยุด! เธอเดาถูก ฉันกับแบทแมนเป็นห่วงเธอ แต่ไม่ใช่เพราะเราสงสัยเธอหรอกนะ

ดิ๊ก: แต่เพราะเรารักเธอต่างหาก เธอไม่เข้าใจจริง ๆ เหรอเนี่ย?

 

บ้าเอ๊ย เพราะเข้าใจต่างหากล่ะ

 

 

 

ที่ฉันทำร้ายคนที่รักฉันแบบนี้เพราะฉันต้องการความเข้าใจมากกว่าความสงสาร ฉันต้องการความเคารพมากกว่าความอบอุ่น

 

บาร์บ: นายยับเยินเลย รู้ตัวมั้ย?

ดิ๊ก: ก็ฉันเพิ่งฟัดกับสาวสวยผมแดงมาน่ะสิ ยัยนั่นเล่นฉันซะเละเลย

บาร์บ: ฟังเหมือนเธอจะน่ารักน่าดู

บาร์บ: ไนท์วิง ฉันอยากให้นายเข้าใจ แต่ฉันคิดจะทำงานนี้คนเดียว ทำคนเดียว

 

เธอตัดปอยผมตัวเองมาหนึ่งกำมือเพื่อมอบให้เขา…

บาร์บ: ฉันไม่รู้ว่าเราจะเป็น… เป็นเพื่อนกันต่อไปได้ยังไงถ้านายไม่ปล่อยให้ฉันทำ

บาร์บ: นี่ไม่ได้แปลว่าฉันไม่รั… เอ้ย ไม่สนใจนายนะ

 

ขอโทษนะริชาร์ด หวังว่าสักวันนายจะเข้าใจ

 

ดิ๊ก:

ดิ๊ก: ก็ดี เชิญเธอลุยเดี่ยวเลย แบทเกิร์ล

“ฉันไม่ยุ่งกับเธอแล้ว”

..

ศึกตัดสินระหว่างแบทเกิร์ลและมิเรอร์กำลังใกล้เข้ามา

ตอนต่อไป:

FINAL SHOWDOWN

11 thoughts on “Batgirl #3

  1. BaaMzS

    รูปที่ 43 ไนท์วิงแอบจับอะไรของบาบาร่า?! 😀

  2. NetNN

    บางครั้งในการดึงความเชื่อมั่นกลับมาก็จำเป็นต้องเข้าเผชิญหน้ากับอันตรายตามลำพังสินะ

  3. DOL

    Batgirl นี่ คงต้องปรับตัวพักใหญ่เลย เพราะพลาดไปหลายอย่างจริงๆ

    รู้สึก เล่มนี้จะไปโยงกับ Nighwing เล่ม 4 รึเปล่า?
    แสดงว่าเราจะได้เห็น Nighwing โดนกิ๊กเก่าซัด จนหน้าหงอ ในเล่ม 4 ด้วยสินะๆ

  4. Tatoo

    เล่มนี้เหมือนละครน้ำเน่าบ้านเราเลย ฝ่ายนางเอกตบตีพระเอก มีการงอนง้อ 555

  5. BoatmasterZZZ

    โอ่ว ดราม่าอ่ะ กลับมารักกันเหอะ T^T

    ปล. ทำไมผมมีความรู้สึกว่า ถ้าใช้บาร์บ จนหมดกระแสนิยมแล้ว DC จะใช้มุกเดิมแบบนี้ ทำให้เธอกลับไปนั่งรถเข็นและกลายเป็นออราเคิลตามบทเดิม

    ไม่งั้น แบทเกิร์ลคนอื่นที่รอคิวออกล่ะ จะไปอยู่ที่ไหน หรือจะโดนย้ายไป Earth-1 Earth-2 ??

  6. MISTER-Y Post author

    เห็นด้วยครับ ดีซียังแทงกั๊กว่าบาร์บไม่ได้หายดีและอาจพิการได้อีกทุกเมื่อ คงกะจะรอดูความนิยมก่อนแหละครับ

  7. seventoon

    บาร์บใจร้อนมาก

    ที่ชอบมาก มาก เนี่ยเพราะเป็นสาวผมแดงเนี่ยล่ะ

  8. nanonat

    สาวผมแดงน่ารัก>< อยากอ่านตอนต่อไปแล้ววว

  9. Stephan

    ไนท์วิงเอาเปรียบผู้หญิงน่ะครับ เล่นใช้กระบอง แบทเกิลใช้แค่มือเปล่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *