Animal Man #1

Animal Man #1
เรื่อง : JEFF LEMIRE
ภาพ : TRAVEL FOREMAN และ DAN GREEN
วางจำหน่าย:7 กันยายน 2554
สำนักพิมพ์ : DC Comics

ชีวิตครอบครัวกุ๊กกิ๊กน่ารักของแอนิม่อล แมน!


บทสัมภาษณ์บัดดี้ เบเคอร์

[ซุปเปอร์ฮีโร่/นักแสดง/นักรณรงค์]

“ผมเชื่อว่าผมสามารถทำให้คนจำนวนมากขึ้นตระหนักถึงสิทธิสัตว์*โดยการออกไปฉะกับพวกจอมวายร้าย เห็นภาพมั้ยครับ? มันเป็นกระบวนการที่พัฒนาตามธรรมชาติ มันคือวิวัฒนาการ”

(* สิทธิสัตว์ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างอิสระปราศจากการหารประโยชน์ของมนุษย์หรือถูกมนุษย์ทารุณหรือกักขัง)

..

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา หนุ่มรักครอบครัวชาวซาน ดิเอโก้อาจเป็นที่รู้จักกันในนามของซุปเปอร์ฮีโร่ผู้ซ่อนใบหน้าอยู่หลังแว่นกันลม “แอนิมอลแมน” แต่ปัจจุบันนี้งานปราบอาชญากรรมในชุดเครื่องแบบที่เขาทำเป็นพัก ๆ กลับเป็นใบเบิกทางสู่บทบาทหน้าที่ใหม่ในฐานะของนักรณรงค์เพื่อสิทธิสัตว์และนักกล่าวสุทรพจน์ ภาพลักษณ์ของเบเคอร์มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมวัยรุ่น การรณรงค์และวีรกรรมที่ผ่านมาของเขาทำให้เขาเปรียบเสมือนซุปเปอร์สตาร์ของเด็กรุ่นใหม่ที่ฝักใฝ่ลัทธิฝั่งซ้าย และที่น่าตกตะลึงที่สุดคือการที่เบเคอร์ได้เปลี่ยนมายืนอยู่หน้ากล้อง กับการร่วมแสดงในหนังดราม่าของผู้กำกับที่โด่งดังในวงการหนังนอกกระแส ไรอัน ดาแรนอฟสกี้เรื่อง “ใต้หน้ากาก” ในบทบาทของซุปเปอร์ฮีโร่ผู้ล้มเหลวที่ตั้งใจจะต่อสู้จนตัวตาย ทางนิตยสารเดอะ บีลีฟเวอร์จึงได้มาพบกับบัดดี้ในร้านอาหารมังสวิรัติเจ้าประจำของเขา ย่านใจกลางกรุงในแอลเอ

-เจฟ เลอมายร์

เดอะ บีลีฟเวอร์: ดูคุณจะเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่เฉย ๆ นะ คุณเริ่มต้นด้วยการเป็นนักแสดงแทนในฮอลลิวู้ด จากนั้นคุณก็ปรากฏตัวในฐานะซุปเปอร์ฮีโร่ จนตอนนี้คุณเป็นนักแสดง สิบปีที่ผ่านมาคุณมีชีวิตสมรสที่มีความสุข ไม่ทราบว่าคุณแบ่งเวลาอย่างไรถึงสามารถใช้ชีวิตแบบไม่ติดที่ไปพร้อมกับการรักษาเสถียรภาพของชีวิตครอบครัว?

บัดดี้ เบเคอร์: ผมไม่แน่ใจนะว่าผมเป็นพวกอยู่ไม่ติด ผมว่าผมแค่เป็นพวกรักความท้าทายมากกว่า ผมคว้าทุกโอกาสที่มาหาผมถึงที่ ตอนที่ผมได้รับพลังพิเศษ การเป็นวีรบุรุษเหมือนเป็นหน้าที่ที่ควรทำ มันทำให้ผมได้รับประสบการณ์ใหม่และทำให้ผมตระหนักถึงความอยุติธรรมที่มีต่อหมู่สัตว์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ ผมเชื่อว่าผมสามารถทำให้คนจำนวนมากขึ้นตระหนักถึงสิทธิสัตว์โดยการออกไปฉะกับพวกจอมวายร้าย เห็นภาพมั้ยครับ? มันเป็นกระบวนการที่พัฒนาตามธรรมชาติ มันคือวิวัฒนาการ

เดอะ บีลีฟเวอร์: ครับ แล้วอะไรที่ทำให้คุณหันกลับมาสู่โลกภาพยนตร์หลังจากที่ทิ้งไปนานหลายปี? และทำไมถึงเลือกกลับมาในฐานะนักแสดงไม่ใช่สตันท์แมนเหมือนก่อน มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

บัดดี้ เบเคอร์: ก็เหมือนเดิม โอกาสมาหาผมถึงที่ “งาน”ซุปเปอร์ฮีโร่ของผมไม่ก้าวหน้าไปไหนเลยในช่วงสองปีมานี้ ผมพูดไปแล้วว่าผมมีคุณสมบัติที่เหมาะจะเป็นยอดนักพูดมากกว่าเป็นยอดมนุษย์ การบินโฉบไปมาในเครื่องแบบสุดโปกเพื่อไล่ล่าพวกโรคจิตไม่เหมาะกับผมจริง ๆ แต่ผมก็ทำแบบนั้นบ่อยพอควรนะ (หัวเราะ) จากนั้นไรอัน [ดาแรนอฟสกี้] ก็ติดต่อผู้จัดการของผมโดยกระทันหันและถามผมว่าสนใจจะแสดงหนังให้เขามั้ย ผมได้ยินเรื่องโครงการนี้และรู้สึกว่ามันเยี่ยมยอดเอามาก ๆ สำหรับผม ผมไม่สามารถปฏิเสธมันได้ ผมคิดว่าต้องสนุกแน่ ๆ

เดอะ บีลีฟเวอร์: คุณจะรับเล่นแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวรึเปล่า? หรือคุณคิดจะหันสู่เส้นทางการแสดงเต็มตัว? คุณควรจะรู้ไว้ ตอนนี้คนลือกันหนาหูว่าคุณจะได้ชิงออสการ์เป็นที่เรียบร้อย

บัดดี้ เบเคอร์: แย่ชะมัด ผมก็บอกไม่ได้จริง ๆ มีคนเสนองานอื่นให้ผมแต่ไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลยจริง ๆ มันสนุก เป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมยอด แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเป็นยังไงต่อไป?

เดอะ บีลีฟเวอร์: เปลี่ยนหัวเรื่องกันสักนิด มาว่ากันถึงภาพลักษณ์ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุดเครื่องแบบรัดรูปประจำตัวคุณที่ปักอักษรเท่ ๆ รูปตัว “A” อักษรตัวแรกในคำว่า “ANIMAL MAN” กลายเป็นธงชาติของวัยรุ่สมัยนี้ไปแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้างที่รูปของคุณได้ประดับอยู่บนผนังห้องและบนเสื้อเชิร์ตของเด็ก ๆ ทั่วประเทศในตอนนี้

บัดดี้ เบเคอร์: รู้สึกพิลึก (หัวเราะ) ภรรยาผมล้อผมทุกครั้งที่เธอเห็นเด็กใส่เสื้อยืดแอนิมอลแมน “สู่พัฒนาการหรือความตาย” เอาจริง ๆ ผมว่ามันเยี่ยมมาก ๆ เลยนะ คุณรู้มั้ย ถ้าช่วงเวลาที่ผมเป็นแอนิมอลแมนทำให้ผู้คนเห็นความจริงที่ว่าเราอาศัยอยู่ในโลกใบนี้ร่วมกันกับสิ่งมีชีวิตอื่นและเราทุกสิ่งต่างเชื่อมโยงกัน … ผมไม่เสียใจเลย

เดอะ บีลีฟเวอร์: ขอผมถามสักนิด คุณได้รายได้จากเสื้อพวกนั้นด้วยรึเปล่า?

บัดดี้ เบเคอร์: เฮ้อ… ไม่เลยสักแดงเดียว (หัวเราะ) ผมว่าเรื่องนี้แหละที่ทำให้ เอลเลน (ภรรยาผม) โมโห (หัวเราะ) แต่ไม่เอาน่า… ผมเป็นแค่โจ๋จน ๆ อยู่เลยตอนวัยแค่นั้น ของทำมือและพวกของเถื่อนจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม ผมไม่แย่งรายได้จากพวกเขาหรอกนะ

เดอะ บีลีฟเวอร์: สุดท้ายนี้ คุณพูดถึงชีวิตการเป็นแอนิมอลแมนเหมือนเป็นอดีต และคุณก็ออกปฏิบัติการไม่บ่อย หรือถึงเวลาที่คุณจะปลดระวางจากการเป็นซุปเปอร์ฮีโร่แล้วครับ?

บัดดี้ เบเคอร์: ไม่ ไม่เลย แอนิมอลแมนเป็นส่วนสำคัญของชีวิตผมเสมอ ผมอาจไม่ได้ออกไปปฏิบัติการณ์สม่ำเสมอเหมือนที่เคย แต่ผมก็ไม่ได้วางมือ ตราบใดที่โลกยังต้องการแอนิมอลแมน เขาจะคงอยู่ตลอดไป

ที่บ้านของบัดดี้ เขากำลังอ่านนิตยสารฉบับที่ลงบทสัมภาษณ์ของเขาไว้อยู่

..

บัดดี้: … ไม่รู้สิ ผมรู้สึกเหมือนผมดูหยิ่งหรืออะไรประมาณนั้น แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้พวกเขาเข้าใจแบบนั้นนะ

บัดดี้: เอลเลนคุณฟังผมอยู่รึเปล่า?

เอล: หืมม? อ่อ แน่สิ บัดดี้ ฉันแค่อยากทำไอ้นี่ให้เสร็จก่อนที่พวกเด็กจะเริ่มวุ่นวาย คุณพูดว่าไงนะ

บัดดี้: ไม่มีอะไรหรอก … ผมแค่หวังว่าผมจะได้เสียงตอบรับที่ดีน่ะ ผมเกลียดการให้สัมภาษณ์มากเลย แต่ผู้จัดการของผมคิดว่าต้องมีสักครั้งตอนที่หนังเริ่มออกฉาย

เอล: อ่าฮะ แล้วเมื่อไหร่ ผู้จัดการของคุณจะคิดได้บ้างว่าควรจ่ายค่าตัวในหนังเรื่องนี้ให้คุณได้แล้ว

บัดดี้: ผมบอกคุณแล้วไงว่าผมจะได้รับทีหลังจากที่มันทำรายได้ นี่หนังนอกกระแสนะคุณ

แม็กซีน ลูกสาวของเขาเดินเข้ามาในครัวพร้อมกับคุณวูฟเฟอร์สฺตุ๊กตาหมาของเธอ

แม็ก: พ่อคะ คุณวูฟเฟอร์สฺกับหนูมีเรื่องที่จำเป็นต้องบอกพ่อ มันสำคัญมาก!

 

แม็ก: พ่อคะ

บัดดี้: เดี๋ยวนะลูกรัก … แต่ไม่แน่นะคุณ ใครจะรู้บางทีมันอาจจะได้เข้าชิงรางวัลอะไรสักอย่างก็ได้

แม็กซีน: พ่อ!

บัดดี้: ว่าไงจ๊ะ แม็กซีน

เอล: แม็กซีน อย่าขึ้นเสียง

แม็กซีน: ขอโทษค่ะ พ่อคะ คุณวูฟเฟอร์สฺกับหนูมีความคิดดี ๆ พวกเราคิดว่าพ่อน่าจะซื้อหมามาเป็นเพื่อนเล่นกับพวกหนูสักตัว หมาที่เป็นหมาจริง ๆ น่ะ

บัดดี้: แม็กซีน พออธิบายแล้วว่าทำไมเราถึงมีสัตว์เลี้ยงอีกไม่ได้ ถ้าพ่อใช้ชีวิตใกล้ชิดกับสัตว์ตัวไหนสักตัว พ่อจะผูกพันกับมันแล้วจะทำให้การเชื่อมต่อกับสัตว์อื่น ๆ ปั่นป่วน พลังของพ่อก็จะใช้การไม่ได้อย่างที่ควร

เอล: แต่ดูคุณก็ไม่ได้ใช้มันแล้วนี่

บัดดี้: หมายความว่าไง?

เอล: เปล่าหรอกจ้ะ พ่อหูไว แค่ช่วงหลังมานี้ฉันไม่เห็นคุณทำอะไรในฐานะแอนิมอลแมนเลยก็เท่านั้นเอง

บัดดี้: ผมยังจำได้ว่าคุณขอให้ผมเลิกเป็นซุปเปอร์ฮีโร่เองนี่

เอล: ฉันรู้ แต่ตอนนั้นดูคุณจะมีความสุขมากกว่านี้

แม็ก: นะคะพ่อ นะคะ นะคะ นะคะ นะคะ…

บัดดี้: ไม่ได้ แม็กซีน! พ่อบอกเป็นล้านหนตั้งแต่ตอนที่สกิ๊ปเปอร์กับที.ซี.ตายแล้วนะว่า ไม่ เอา สัตว์เลี้ยง!

 

คลิฟ ลูกชายของเขาวิ่งตามเข้ามา

 

คลิฟ: หลบไปยัยจิ๋ว

แม็ก: ไม่ยุติธรรมเลย

คลิฟ: พ่อ! มีคนยึดโรง’บาลครับ มันจับตัวประกันไว้ด้วย

บัดดี้: อะไร? ใครนะ?

คลิฟ: ไม่รู้ครับ ผมเห็นข่าวในทีวี คิดว่าคงเป็นใครสักคนที่มีปืน

บัดดี้: พ่อควรไปเช็คสักหน่อย

 

เอล: บัดดี้ ถึงมื้อเย็นแล้ว! ให้ตำรวจจัดการไปซะสิ!

บัดดี้: นึกว่าคุณอยากให้ผมเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ซะอีก

คลิฟ: ผมไปด้วยดิ ผมจะถ่ายภาพพ่อไว้แล้วส่งไปออดิชั่นเข้าจัสติซ ลีก!

บัดดี้: ไม่ได้หรอก คู่หู พ่อพาลูกไปไม่ได้ … ลูกก็รู้กฏ มันอันตรายมากนะ

คลิฟ: โธ่ ไม่เอาน่า

 

บัดดี้: นี่คุณ มีชุดเครื่องแบบที่ยังสะอาดบ้างรึเปล่า

เอล: คิดว่ามีอยู่ตัวนึงในห้องซักรีด อย่าลืมถอดบู๊ทไว้ข้างนอกก่อนเข้าบ้านด้วยล่ะ … ฉันไม่อยากเห็นรอยโคลนเปื้อนไปทั่วบ้าน

… ขอบคุณที่รัก

… ระวังตัวด้วยล่ะ

… ผมจะมาให้ทันคุณเข้านอน

ผมไม่เคยรู้สึกแย่กับการทำแบบนี้ ไม่ว่าผมจะดิ่งเข้าสู่สนามพลังรูปพรรณสัณฐานกี่ครั้งต่อกี่ครั้งผมก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเพิ่งได้ใช้พลังเป็นครั้งแรก

ความจริงคือที่ผมยังไม่เลิกเป็นแอนิมอลแมนก็เพราะ… มันโคตรสนุกเลย!

ผมรู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่ทิ้งเอลเลนและเด็ก ๆ ไว้ แต่เธอพูดถูก ผมควรออกลุยให้มากขึ้น

ถ่ายหนังมันก็สนุกนะ แต่การให้สัมภาษณ์มันทำให้รู้สึก… ไม่รู้สิ เหมือนการเป็นแอนิมอลแมนคืออดีตชาติ ไม่ก็เหมือนผมอายที่ต้องเป็นแอนิมอลแมน

ให้ตาย ผมคงคิดมากไปมั้ง…

… บางทีผมอาจต้องตั๊นหน้าใครสักคนสักที

 

เครนชอว์: เอ-แมน! เฮ้ ไม่เจอนานเลย

บัดดี้: เฮ้ เครนชอว์ มีคนพูดประโยคนั้นจนผมเอียนแล้วคืนนี้ มันเรียกร้องอะไร?

 

บัดดี้: เดี๋ยวนะ มันอยู่ในแผนกเด็กเหรอ?

เครนชอว์: แม่นแล้ว นี่แหละที่แย่ สืบดูแล้วหมอนี่เป็นพ่อครัวชื่อไลล์ เอ็ดวิน

เครนชอว์: ลูกสาวตัวน้อยของเขา เข้า ๆ ออก ๆ แผนกนี้ตลอดสองปีที่ผ่านมา มะเร็งน่ะ… น่าสงสารจริง ๆ เธอตายเมื่อสามอาทิตย์ก่อน เอ็ดวินสติแตก เขาจึงขึ้นไปบนนั้น ร้องให้หมอเอาลูกสาวมาคืนให้เขา

บัดดี้: พระเจ้า… นั่น… แย่ชะมัด

บัดดี้: ให้ผมจัดการเอง
เครนชอว์: ไม่รู้สิ เอ-แมน เด็กพวกนั้น…

เชื่อใจผม…

.”..ให้ผมคุยกับหมอนี่ก่อน”

เอ็ดวิน: ถอยไป ฉันแค่จะเอาลูกสาวคืน เราจะไปจากนี่ แล้วทุกคนก็แยกย้ายไปได้

แอนิมอลแมนออกโรง!

เอ็ดวิน: แกเป็นใครวะ?

บัดดี้: ใจเย็น วางปืนก่อนสิ เราจะได้หาทางออกร่วมกัน…

เอ็ดวิน: ไม่มีทาง! ถอยไปซะ

เอ็ดวิน: มันขังเธอไว้ที่นี่ ฉันจะเอาเธอคืนมา!

บัดดี้: คุณเอ็ดวิน … ไลล์ ได้โปรดเถอะ … คุณรู้ว่านั่นไม่จริง ผมเข้าใจว่ามันยากที่จะรับ

 

บัดดี้: แต่การทำให้เด็กพวกนี้ตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่วิธีที่จะนำเธอกลับม…

เอ็ดวิน: บอกให้ถอยไปไงโว้ย!

 

พูดไม่ฟัง ยิงซะเลย !!

โดยสัญชาตญาณ ผมเรียกใช้พลังของผมในการเชื่อมต่อกับสัตว์ต่างชนิดเพื่อหาชนิดที่สามารถปกป้องผมจากกระสุนได้

สัมปชัญญะของผมเชื่อมต่อกับสายใยแห่งชีวิต มันพุ่งผ่านเครือข่ายอย่างบ้าระห่ำ… เพื่อค้นหา…

 

หนู … ไม่ , หมา… ไม่, ปลา… ไม่

 

แรด… แรด !

หมอนี่กำลังเจ็บปวด เขาเผชิญกับความสูญเสียที่ผมยังพอสัมผัสได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถสร้างอันตรายให้เด็กบริสุทธิ์พวกนี้ … ผมไม่สามารถยอมให้มันเกิดขึ้น

ผมใช้สูตร “ยอดนักบู๊” ที่รวมเอาความสามารถเฉพาะของสัตว์เอาไว้…

ความแกร่งของช้าง, ความเฉียบไวของแมลงวัน, ความรวดเร็วของเสือชีตาร์… และเสียงเห่าของสุนัขที่ใช้ขู่ได้ชะงัดนัก

ความจริงผมเกลียดความรุนแรง ผมหวังว่าจะสามารถช่วยชายคนนี้ได้ ลองผมต้องสูญเสียคลิฟหรือแม็กซีน … ผมคง …

พอที เลิกคิดเรื่องนั้น ผมช่วยเขาไม่ได้ ไม่ใช่ตอนนี้ ฉะนั้นผมต้องหยุดเขา

หลังจากโดนต่อยไปหนึ่งหมัด เหมือนเอ็ดวินจะเริ่มพูดรู้เรื่อง

เอ็ดวิน: ผมเสียใจ … ผมเสียใจ … ผมแค่อยากได้เธอคืนมา
บัดดี้: ผมเข้าใจ… ผมเข้าใจ ทุกอย่างจะดีขึ้น

เครนชอว์: นั่นเอ-แมน เขาเป็น…

บัดดี้: ทุกคนปลอดภัย ผู้ชายคนนี้ต้องการความช่วยเหลือน่ะ ผมหวังว่าคุณจะช่วย… นักสืบเครนชอว์ มีอะไรแปลกเหรอ?

เครนชอว์: แอนิมอลแมน … ตานาย!

เลือดไหลออกจากสองตาของเขาเป็นทาง…

..
เครนชอว์: เอ-แมน? นายโอเคนะ?

บัดดี้: ผมไม่รู้…

ตามหมอเร็ว!

 

หมอ: เหมือนไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ ผมไม่รู้ว่าเลือดมาจากไหน ไม่มีแผลหรืออะไรเลย เท่าที่บอกได้คือคุณแข็งแรงอย่างกับม้า

บัดดี้: ผมบอกแล้วหมอ ผมไม่เป็นไร ที่จริงผมรู้สึกดีกว่าเมื่อกี้นี่อีก แข็งแรง … เฉียบขึ้น

บัดดี้: ที่แปลกคือผมกลับไม่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งนั้นผ่านเครือข่ายชีวิตที่เชื่อมต่ออยู่เป็นพักใหญ่

หมอ: ผมยอมรับว่าผมไม่ค่อยมีประสบการณ์รักษาอาการของพวกเหนือมนุษย์ แต่ผมอยากจะตรวจสอบดูอีกหน่อย

บัดดี้: ถ้าคุณจะเอาอย่างนั้น เดี๋ยวผมมาใหม่พรุ่งนี้…

 

ตอนนี้ผมอยากกลับบ้าน …

ต้องซ่อมพื้นกระดานบ้านี่เสียแล้ว ตอนนี้ผมมีน้ำหนักพอ ๆ กับผึ้ง ผมต้องไม่ทำให้เด็ก ๆ ตื่น

ลูก ๆ

พระเจ้า ผมรักพวกเขา ไม่รู้ผมจะลงมือทำอะไรบ้างถ้าเกิดเรื่องร้าย ๆ กับพวกเขา ผมคงพังทลาย

ผมหวังจะให้สิ่งที่แม็กซีนต้องการ… ลูกหมา เหมือนกับที่เด็กทั่วไปมี แต่ผมทำไม่ได้

พอเธอโตขึ้นอีกนิด เธอจะเข้าใจ

คนสัมภาษณ์ถามผมว่าผมรักษาชีวิตแต่งงานได้ยาวนานได้ยังไงในเมื่อชีวิตผมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด

ผมตอบไปเลี่ยง ๆ … ในความเป็นจริงแล้ว เอลเลนต่างหากที่ทำให้ผมเป็นผม

ผมเป็นดาราได้, เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ได้, เป็นสตั๊นท์แมนได้, เป็นนักรณรงค์ได้ มันไม่เป็นปัญหาตราบนานเท่าที่เอลเลนยังอยู่กับผม เธอคอยดึงรั้งผมให้ผมยังคงเป็นผม

 

เรื่องที่โรงพยาบาลทำให้ผมตาค้าง ผมพยายามจะไม่คิดถึง ไลล์ เอ็ดวินที่น่าสงสาร …พยายามจะไม่คิดว่าผมเป็นเขา

ผมจึงเชื่อมต่อกับพลังแล้วนำความสามารถในการงีบหลับของแมวมาใช้ แค่อึดใจเดียว…

ผมก็ค่อยลอยห่างออกไป…

 

พ่อ!!!

 

คลิฟ : ตื่นเร็วเราต้องไปกันแล้ว

บัดดี้: คลิฟ? เรา… เราอยู่ที่ไหน?

คลิฟ: แม็กซีนครับพ่อ เธอกำลังมา เราต้องรีบแล้วก่อนที่เธอจะเจอเรา!

บัดดี้: แม็กซีน? คลิฟ ทำไมเราต้องหลบแม็กซีนล่ะ? แล้วแม่ไปไหน?

คลิฟ: อย่าถามเรื่องแม่… มันเลวร้ายสุด ๆ … พ่อคงไม่อยากรู้ว่าเธอทำอะไรกับแม่!

บัดดี้: คลิฟ ลูกกำลังไม่มีเหตุผลนะ แม็กซีนไม่ทำอะไรแย่ ๆ กับแม่หรอก

คลิฟ: พ่อผิดแล้ว… ดูที่เธอทำกับผมสิ

บัดดี้: คลิฟ!

บัดดี้: คลิฟ พระเจ้า ไม่นะ… ต้องไม่ใช่กับลูก…

ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

แม็กซีน: ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ คุณวูฟเฟอร์สฺบอกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย อย่าร้องไห้เลยค่ะ

แม็กซีนปรากฏตัวขึ้นพร้อมคุณวูฟเฟอร์สฺร่างยักษ์

แม็กซีน: มาเถอะพ่อ ถึงเวลาไปแล้ว!

บัดดี้: แม็กซีน ไปไหนกัน?

แม็กซีน: เดี๋ยวพ่อจะรู้เอง แต่เราต้องรีบ ก่อนที่พวกมันจะตามเรามาอีก

บัดดี้:ใคร? ใครตามเรา?

แม็กซีน: สิ่งชั่วร้ายที่ทำตัวเลียนแบบมนุษย์ เหล่านักล่า

 

บัดดี้: เดี๋ยวสิ ลูกรัก ช้าลงหน่อย… เราจะได้หาทางออกกัน

แม็กซีน: ไม่มีเวลาแล้วค่ะพ่อ พ่อต้องเลิกใช้สมองและกลายเป็นสัตว์เหมือนหนูกับคุณวูฟเฟอร์สฺ มันเป็นทางเดียวที่จะรอดชีวิตที่นี่

 

บัดดี้: พระเจ้า อย่าลงไป แม็กซีน…

บัดดี้: นั่นเลือดนี่

 

แม็กซีน: ใช่สิคะ แล้วจะให้เราไปซ่อนที่ไหนกันล่ะ? ไม่ต้องห่วงหรอก เราแค่ต้องตามต้นไม้ไป แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย ดูนั่น

 

บัดดี้: เกิดอะไรขึ้นกับพ่อ?

แม็กซีน: นั่นพวกมัน สายไปแล้ว ตอนนี้พวกเราจะตายกันหมด

บัดดี้: แต่… แต่… พวกมันคืออะไร?

“เราคือซากเน่าแห่งแดนเลือด”

“เราคือหนั่นเนื้อสร้างโรคภัย”

“เราคือบิดาที่แท้จริงของบุตรเจ้า… เราคือสามนักล่า”

 

ไม่!

บัดดี้ตื่นขึ้นจากความฝัน

บัดดี้: พระเจ้า!
บัดดี้: เอลเลน?

เขาพบว่าเมียของเขาไม่อยู่เสียแล้ว

เอล: บัดดี้! มานี่เร็ว!
บัดดี้: ผมกำลังไป!

บัดดี้: เกิด.. เกิดอะไรขึ้…

เอล: นั่น… แม็กซีน…

“หนู-หนูขอโทษค่ะพ่อ”

..

“หนูแค่อยากได้สัตว์เลี้ยงของหนูเอง”

 

..

ตอนต่อไป:

เส้นทางสู่เดอะ เรด

คุยกันท้ายเล่ม

แอนิมอลแมนอาจไม่ใช่ตัวละครที่ทุกท่านรู้จักกันดีในจักรวาลดีซีเหมือน Sup, Bat, WW, GL ฯลฯ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นตัวประกอบของจักรวาล เพราะถูกสร้างมาตั้งแต่ยุค ’60 แต่ก็ไม่ดังสักทีจนกระทั่งตาแกรนท์ มอร์ริสันหยิบมาเขียนในยุค ’80 นี่เองถึงจะดัง (แถมในยุคนั้น บัดดี้เองก็อยู่ในทีม Forgotten Heroes – ทีมของฮีโร่ชั้นสองในจักรวาล ซึ่งเป็นเครื่องการันตีความไม่ดังของแกได้ดีทีเดียว //ฮ่าฮ่าฮ่า)

 

หลังจากแกรนท์แล้ว ซีรี่ย์แอนิมอลแมนก็เริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ถูกโยนไปให้ค่ายเวอร์ติโก้ซึ่งเป็นค่ายลูกของดีซีเขียนต่อ จนช่วงประมาณ Infinite Crisis ตัวละครตัวนี้ก็กลับสู่จักรวาลหลักมาเป็นตัวประกอบอดทนต่อไป จึงแอบแปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมดีซีถึงเลือกเขามาออกซีรี่ย์ก่อนทั้งที่ไม่ใช่ตัวละครที่ดังซักเท่าไหร่ พอสอบถามจากคุณ NetNN ก็พบว่าไม่มีใครทำเล่มนี้ เลยอยากขอนำมาสปอล์ยให้ทุกท่านได้ชมกัน

 

โดยส่วนตัวแล้วชอบเล่มนี้มากครับ ภาพดิบได้ใจจริง ๆ โดยเฉพาะตอนเปิดตัว Hunters Three – สามนักล่า ซึ่งผมว่างานภาพเข้ากับเนื้อเรื่องสุด ๆ การใช้บทสัมภาษณ์เปิดเรื่องก็เป็นอะไรที่แปลกดี ส่วนเนื้อเรื่องยังไม่ได้บอกอะไรมากคงต้องรออ่านเล่มหน้าครับ อย่างหนึ่งที่ยังไม่ชินตาคือเครื่องแบบใหม่ของบัดดี้ ที่เปลี่ยนจากสีส้มดั้งเดิมมาเป็นสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งก็ดีครับ เวลาออกมาพร้อมบูสเตอร์ผมจะได้ไม่สับสน //ฮ่าฮ่าฮ่า {อ่านเหตุการณ์ 52 ครั้งแรกแบบลวก ๆ (ดูแต่ภาพ) แล้วนึกว่าแกคือบูสเตอร์จริง ๆ นะ คล้ายกันมาก อ่าน ๆ ไปก็สับสนว่าไหงโผล่มาสองที่}

 

ชอบไม่ชอบยังไง พูดคุยกันได้ครับ

 

ขอบคุณที่รับชมครับ

20 thoughts on “Animal Man #1

  1. NetNN

    ขอต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าร่วมเว็ปของเราครับ ^_^

  2. doc holliday

    ขอต้อนรับครับ ติดตามผลงานในพันทิปมานาน ยินดีที่มาร่วมกันทำกับเราครับ

    A-Man นี่ผมผ่านตาตอนใส่ชุดส้มอยู่แว๊บๆ ตอน The Last Days of Animal Man
    แต่ก็ไม่ได้ติดตามเท่าไหร่ (ชุดเค้าก็คล้าย Booster Gold จริงๆ) 😀

  3. โยชูวาแห่งอัสซีซี

    ผมว่าชุดสีส้ม เหมือนMr. Muscleนะ^^”

  4. natzume

    เอ่อ แบบว่า สำหรับผม เรื่องนี้มัน ไม่สนุกอย่างแรงครับ

    อธิบายง่ายๆคือ ผมไม่ถูกใจกับอบิลิตี้ของ ฮีโร่คนนี้เท่าไนัก

    คือแบบว่า แรด แรดแล้วยังไงเหรอครับ ถ้าจะอธิบายว่าเอาพลังความสามารถต่างๆของสัตว์มาใช้

    เช่น แรดมีหนังที่หนา ผมก็ไม่เห็น กายภาพของ ฮีโร่คนนี้เปลี่ยนไปสักนิด

    แล้วที่บินได้ เอิ่มแบบว่า มีตัวอะไรในดลกเหรอครับที่บินได้โดยไม่ต้องใช้ปีก

    ถ้าเอาเป้น ลอยตัว การลอยตัวมันก้กำหนดทิศทางไม่ได้นี่ครับ

    ยิ่งอันที่ว่าเห่าอย่างหมานี่ ผมว่ามันดูเสียสติมากกว่าน่ากลัวนะครับ (ถ้าบอกว่าเห่าออกมาเป้นพลังอะไรสักอย่างมันจะเข้าเค้ากว่าครับ ผมว่า)

    ขอบคุณมากๆครับ สำหรับการสปอยล์ แม้ผมจะไม่ชอบเรื่องนี้แต่ผมชอบสำนวนของผู้แปลครับ

  5. komsunwrite

    แต่ผมกลับชอบนะ ดูดิบๆดี ไส้ทะลักด้วย ขอบคุณที่สปอยครับ จะรอคอยตอนหน้าด้วยใจระทึก

  6. wat

    ถ้า animal man แปลเป็นชื่อไทย คงหยาบคายได้น่าดู

    Animal-man ไอ้สัตว์

  7. Tenor

    ภาษาที่แปลดีมากเลยครับอ่านแล้วเพลินเลย เรื่องนี้ภาพดิบได้ใจจริงๆ

  8. BoatmasterZZZ

    ต้อนรับนักเขียนใหม่ครับ เขียนได้ดีจริงๆ

    ขอลองติดตามซัก 2-3 เล่มล่ะกัน จะได้รู้ว่า เอามาทำใหม่จะเข็นขึ้นหรือเปล่า

    ปล. มีรูปชุดเก่าของ Animal man ให้ดูไหมครับ?

  9. oatslomo

    ลึกลับดีแหะ ชอบแนวนี้จังเลย

    อยากอ่านเล่มต่อไปซะเล้วสิ

  10. seventoon

    ดูแต่ละคน รู้สึกแปลก แปลก กับ แอนนิมอล แมนจังเลยอ่ะ

    ทั้งที่ ผม ดีใจสุดโต่งที่มีคนสปอยหมอนี่ ^_^

    อย่างที่เข้าใจอ่านะครับ ตามที่คุณ Misterry-Y คุยกันท้ายเล่มนั่นละ หมอนี่เป็นฮีโร่ส์ รุ่นเก่าพอสมควร ประมาณปี 1965

    พลังของเขาน่าจะมาจาก เขาพบเหตุการ์ณ ยานเอเลี่ยนตกที่ภูเขาแห่งหนึ่ง ใกล้ใกล้กับที่เขาทำงานเป็นสตันท์อยู่

    ทำให้เขาดูดซึมพลังพิเศามาล่ะครับ

    ทีมที่เขาเคยร่วมก็มี จัสติส ลีก ยุโรป(ช่วงที่DCแบ่งทีม จัสติสลีก) The Old World Team 1989-1993

    ซึ่งมี กัปตันอะตอม

    อีลองเกทแมน

    พาวเวอร์ เกริ์ล

    ร็อคเก็ตเรด

    เมตาโมโฟ

    แฟลช(วอลลี่ เวสต์)

    ซู ดิบนี่ ซึ่งที่เหลือ ผมไม่รู้จัก เลยไม่กล่าวถึง อย่างที่กล่าวไว้ท้ายเล่ม เขาได้ร่วมในเหตุการ์ณ อินฟินิท ไครซิสเช่นกัน

    ชอบลายเส้นมากเลยครับ แปลได้ดีมาก ไม่มีสะดุด

    ตอนแรกนึกว่า ขาประจำในนี้แปลซักอีก ก้แปลกใจอยู่ว่า มีคนว่างด้วยหรอ? แค่ซีรี่ย์หลักผมว่า แต่ละคนคงยุ่งพอสมควร

    ดีใจมากครับที่ได้อ่าน จะรออ่านต่อไปนะครับ

    ขอบคุณมากครับที่ปสอย

  11. comic

    อีก1ท่านที่สละเวลามาแปลThank U
    เนื้อเรื่องสนุกอ่ะ
    อยากแปลดูเหมือนกันเเต่อ่านอังกฤษไม่ออก*o*
    จะเริ่มไปเรียนEเเละ

  12. korokros

    ชอบๆๆอย่างแรงเลยครับ น่าสนใจดีที่หยิบฮีโร่ตัวประกอบมาเขียน(ส่วนตัวชอบยุแล้ว)

    ชอบที่เนื้อเรื่องออกแนวดราม่า แต่คงต้องรอดูต่อไปนะครับว่าจะเป็นยังไงต่อ

  13. 13Hatesong

    ผมอยากให้เค้าตาแดงตลอดอ่ะครับ ดูเท่ดี 55+

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *