JLA : Secret Origins

JLA : Secret Origins
เรื่อง: Paul Dini
ภาพ: Alex Ross
ตีพิมพ์: 1 ธันวาคม 2002

แล้วเราก็มาถึงงานเกือบล่าสุดของดีนี่และรอสส์ (แต่คงจะไม่ใช่เล่มสุดท้ายตลอดไป)
ในชุดหนังสือไซส์แท็บลอยด์ของดีซีคอมิคส์ คราวนี้เป็นงานรวมดาวฮีโร่ของดีซีเลยทีเดียว
นั่นก็คือ JLA หรือ Justice League of America

JLA เป็นงานรวมดาวของดีซีที่ออกมาในช่วงยุค ซิลเวอร์เอจ (Silver Age)
ที่รวบรวมดาราดังๆ ของทางบริษัทไว้ และมีการสืบเนื่องเปลี่ยนตัวสมาชิกมาหลายต่อหลายรุ่น
ดังบ้างไม่ดังบ้าง เรียกได้ว่าฮีโร่ส่วนใหญ่ของดีซีเคยผ่านการเป็นสมาชิกของ JLA มาเกือบหมดแล้ว
คล้ายๆ กับ Avengers ของมาร์เวล

จวบจนปัจจุบันก็ยังมีหนังสือการ์ตูนชุด JLA อยู่
และได้รับความนิยมอย่างสูง โดยการใช้สมาชิกชุดคลาสสิครวมตัวดังๆ ของดีซี
ตั้งแต่ ซูเปอร์แมน, แบทแมน, วันเดอร์ วูแมน, แฟลช, กรีน แลนเทอร์น,
มาร์เชี่ยน แมนฮันเตอร์ (ผู้เป็นสมาชิกของ JLA ทุกชุด), พลาสติคแมน
และยังมีการ์ตูนชุดทางทีวีในชื่อ จัสติซ ลีก อีกด้วย

งานเล่มนี้ของดีนี่/รอสส์ อาจเรียกได้ว่าเป็นลูกต่อเนื่อง
เพราะสี่เล่มเดิมตามโครงการประสบความสำเร็จอย่างมาก
ทางกองบรรณาธิการของดีซีก็เลยถามทั้งคู่ว่าอยากทำเรื่องอะไรอีกไหม
ซึ่งคำตอบของทั้งคู่ก็คือ JLA เพราะถ้าทำเรื่องนี้
พวกเขาอยากเขียนถึงตัวละครตัวไหนก็เขียนได้สบายเพราะคลุมตัวละครเกือบหมดแล้ว
โดยที่พวกเขาขอจัดตัวสมาชิกเอง เพื่อจะได้เขียนถึงตัวละครที่อยากเขียน
โดยไม่ต้องคำนึงถึงความต่อเนื่องของช่วงเวลาตามประวัติศาสตร์ของดีซี
ซึ่งแสดงออกมาในการที่แฟลช (แบร์รี่ อัลเลน) ได้มาร่วมทีมกับวันเดอร์ วูแมน (ไดอาน่า)
เพราะตามตารางเวลาที่จัดระเบียบขึ้นใหม่ เขาตายก่อนที่ไดอาน่าจะมาสู่โลกของมนุษย์

รอสส์กับดีนี่เลือกใช้ฮีโร่ชั้นแนวหน้าของดีซีเกือบครบทุกตัว
ตั้งแต่ซูเปอร์แมน, แบทแมน, วันเดอร์ วูแมน, แฟลช,กรีน แลนเทอร์น, มาร์เชี่ยน แมนฮันเตอร์,
อะควอแมน, ฮอว์คแมน, กรีน แอร์โร่ว์, อะตอม, พลาสติคแมน, กัปตันมาร์เวล
และยังมีระดับรองๆ อย่าง แบล็ค คานารี่, ฮอว์คเกิร์ล, เมตามอร์โฟ, ซาตาน่า,
เรด ทอร์นาโด, อีลองเกทแมนอีกด้วย
พูดง่ายๆ ก็คืองานนี้รอสส์ได้วาดตัวดังๆ เกือบหมดบริษัทเลยทีเดียว

ตามลำดับ จากซ้ายไปขวา
The Atom, Hawkman, Aquaman, The Flash, Wonder Woman,
Superman,Batman, Martian Manhunter, Green Lantern, Green Arrow, Black Canary

เพราะธรรมเนียมของหนังสือชุดนี้ที่ต้องมีการเล่าถึงกำเนิดของตัวละครยาวสองหน้า
และมีกำเนิดของตัวละครหลักเยอะขนาดนี้ ทำให้งานนี้ต้องขยายจากหนึ่งเล่ม
เป็นสองเล่มอย่างช่วยไม่ได้ งานนี้รอสส์เอากำเนิดของ 4 ตัวละคร
ที่เขาเคยเขียนแยกเล่มก่อนหน้านี้แล้ว มารวบรวมกับตัวละครหลักอีก 8 ตัว
และเขียนเปิดเกริ่นนำและปิดท้ายเสริม รวมกันเป็นหนังสือฉบับรวมกำเนิดของตัวละคร
ในชื่อว่า Secret Origin โดยเอามาผสมกับบทสัมภาษณ์ เบื้องหลัง
และไอเดียในการทำงานของรอสส์กับดีนี่ และยืดเวลาในการทำงานให้รอสส์ไปอีกหนึ่งปี

เป็นที่น่าสังเกตว่าการเล่าจุดกำเนิดของตัวละครแต่ละตัว รอสส์กับดีนี่
เลือกใช้มุมมองที่แตกต่างกันไปในแต่ละตัว และเลือกเอาเวอร์ชั่นที่ทางดีซีปรับปรุงแล้ว
เช่น ฮอว์คแมน ที่ดั้งเดิมเป็นเทพโบราณของอียิปต์ แต่ตอนหลังถูกเปลี่ยนเป็นนักสู้จากต่างดาวแทน

การเลือกตัวละครมาร่วมทีม รอสส์กับดีนี่ก็จงใจเลือกที่จะใช้ตัวละครในเวอร์ชั่นซิลเวอร์เอจ
ของตัวละครนั้นๆ เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ฮาล จอร์แดน (กรีน แลนเทอร์น)
หรือ แบร์รี่ อัลเลน (แฟลช) เพื่อเป็นการยกย่องจูเลียต ชวาร์ทซ์
และการ์ดเนอร์ ฟ็อกซ์ คู่หูบรรณาธิการและนักเขียนที่ก่อร่างจักรวาลดีซีในยุคซิลเวอร์เอจ

สรุปว่าเล่มนี้เป็นเพียงการแนะนำประวัติตัวละครหลัก เนื่องจากมีหลายคน
ก่อนจะเข้าเนื้อเรื่องในเล่มต่อไปคือ JLA : Liberty and Justice

โดย:

One thought on “JLA : Secret Origins

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *