Avengers & X-Men : AXIS #1

Avengers & X-Men : AXIS #1

เรื่องโดย : Rick Remender | ภาพโดย : Adam Kubert

วางจำหน่าย : 8 ตุลาคม 2014

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

เปิดฉากอีเวนต์ใหญ่ของ Marvel ในบทแรก “จอมวายร้ายสีแดงผู้ทรงพลัง”!!

เมื่อ Red Onslaught ได้ปรากฎตัวออกมาบนโลก เหล่าฮีโร่จะต้องจับมือกันเพื่อโค่นล้มมัน แต่พวกเขาจะทำได้อย่างงั้นหรือ?

เหตุการณ์ก่อนหน้านี้

จากการถูกครอบงำโดยพลังคอสมิคอันทรงพลัง Phoenix ทำให้ผู้ที่เป็นสมาชิก X-Men มาอย่างยาวนาน Cyclops ได้พลาดพลั้งฆ่าอาจารย์ของเขาเอง Professor Charles Xavier ไป ส่งผลให้เขากลายเป็นวายร้ายในสายตาของมนุษย์และสหายเอ็กซ์เม็นของเขา

และจากการตายของ Xavier ตัว Captain America ได้รับเอา Havok น้องชายของ Cyclops มาเข้าร่วมทีมกับ Avengers เพื่อให้โลกรับรู้ว่า มนุษย์กับมิวแทนส์นั้นสามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้

และการรวมทีมพิเศษนี้ก็ต้องพบกับการทดสอบครั้งใหญ่ด้วยการกลับมาของ Red Skull… ผู้ที่ถือครองสมอง Xavier พร้อมกับได้รับพลังโทรจิตที่มาพร้อมกับมัน และมันได้เริ่มสงครามระหว่างมนุษย์และมิวแทนส์ เพื่อทำลายมนุษย์กลายพันธุ์ให้หายไปจากโลกใบนี้อย่างสิ้นเชิง

ในการปะทะกันครั้งแรก Avengers คิดว่าพวกเขาสามารถเอาชนะ Red Skull ได้แล้ว แต่มันก็ได้ถอยหนีไป ในหลายเดือนต่อมา Red Skull ได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมดำเนินแผนการของมัน มันได้ใช้แผนการเดียวกับนาซีที่คุ้นเคย ลักพาตัวเหล่ามิวแทนส์มากักขังไว้ยังเกาะโดดเดี่ยวที่ห่างไกล Genosha

หลังจากนั้นสมาชิก Avengers คือ Havok, Rogue และ Scarlet Witch ได้ถูกจับตัวไป แต่ก็สามารถที่จะหาทางหนีออกมาได้ ที่นั่นพวกเขาได้พบกับ Magneto มิวแทนส์จอมวายร้าย ซึ่งถูกจับตัวมาเช่นกัน เนื่องจากการฉายเดี่ยวเพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามมิวแทนส์ของเขา

และเพื่อทำให้ภารกิจของเขาบรรลุเป้าหมาย Magneto ได้รับชัยชนะโดยการสังหาร Red Skull โดยที่ Avengers ที่อยู่นั่นไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้น แต่แล้วมันก็เกิดระเบิดขึ้นพร้อมการระเบิดของพลังโทรจิต มันทำให้ Red Skull ได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งในแนวทางที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม : มันกลายเป็น Red Onslaught

ตัวละครในเล่มนี้

Los Angeles

กลุ่ม Avengers ที่นำโดย Tony ได้เคลื่อนพลมายังที่นี่และพบว่าเมืองนี้ได้ถูกปกคลุมด้วยพืชไม้นานาพรรณ โดย Vision ได้ตรวจพบความรู้สึกเกรี้ยวกราดและความโกรธแค้นจากพืชที่อยู่ที่นี่ได้ เขาจึงเตือน Avengers คนอื่นๆว่าให้ระวังพืชพวกนี้ไว้เพราะมันจะเป็นศัตรูของพวกเขา

จากนั้นพวกเขาก็พบต้นตอที่ทำให้พืชพรรณเหล่านี้เข้าปกคลุมทั้งเมือง มันเป็นฝีมือของ Plantman พวก Tony ได้เข้าต่อสู้กับมันในทันที ในระหว่างนี้ Sam ในฐานะ Cap คนใหม่ได้สั่งการ Thor ให้ทำการตามที่เขาบอก แต่ Thor ปฏิเสธพร้อมบอกให้เขาทำเอง แถมยังเรียก Sam ว่าลูกนก ทำให้ Sam ถึงกับโมโหจนด่า Thor ออกมาทันที

Sam : ฉันรู้ว่านั่นเป็นเพราะ ธอร์ ไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจยุทธวิธีของฉัน และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม ธอร์ ถึงไม่เคยได้นำอเวนเจอร์เลย

Sam : ธอร์ชอบที่จะอัดใส่เจ้าพวกที่ตัวใหญ่และทำตามที่เขาต้อง…

เมื่อพูดด่ากันตรงๆขนาดนี้ Thor เลยจัดปาขวานเข้าใส่หนึ่งดอก ทำให้ Sam ถึงกระเด็น และ Vision ก็เกิดโมโหในความโง่ของ Thor ขึ้นมาเลยพุ่งเข้าไปอัด Thor จนทะลุ Quinjet ในทันที พวก Avengers เริ่มตีกันเองโดยไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะเสียงที่ดังขึ้นมาในจิตใจของพวกเขา ในกลุ่มพวกเขามีเพียง Tony เท่านั้นที่คุมสติได้ และเข้าจัดการ Plantman ได้ในที่สุด แต่เขาก็พบว่าเขาทำพลาดไป จน Hulk ได้โดดเข้าใส่เขา

อยู่ๆ Hulk ก็ดึงเอาเรื่องในช่วง Original Sin ที่เคลียร์กันไปแล้วขึ้นมาพูดอีกครั้ง และคิดที่จะยำใหญ่ Tony อีกรอบ แต่มันก็ทำให้ Tony รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะ Plantman และจากฝันร้ายก่อนหน้านี้เขาได้ทำการติดตั้งเครื่องต่อต้านคลื่นพลังโทรจิตไว้ในเกราะ เมื่อรู้ว่ามันน่าจะเป็นสิ่งนี้ Tony ก็ทำการกดปุ่มเพื่อขยายเกราะพลังงานที่ต่อต้านพลังโทรจิตออกไปในทันที และมันได้ผล Hulk ได้สติกลับมาอีกครั้ง

Tony : โอเค เครื่องแปลงพลังงานโทรจิตของฉันดูจะใช้ได้ผลจริงๆ

Vision : การที่มันใช้การกับฉันได้ผล แสดงว่ามันจะต้องเป็นพลังจิตที่ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ

Steve : โทนี่ ได้ยินมั้ย?

Tony : ไง สตีฟ ฉันได้ยินแล้ว และจะบอกอะไรให้นะ นายพลาดอะไรๆสนุกๆไปแล้ว

Tony : ตอนแรกฉันก็กลัวอยู่หรอกนะที่เห็นนายกลายเป็นผู้สูงอายุแบบนั้น แต่รู้อะไรมั้ย มันก็มีข้อดีนะ… นายจะได้ขึ้นรถบัสราคาถูกลงไง

Steve : เลิกเล่นตลกก่อน โทนี่ ฟังฉัน! ตอนนี้พวกเรากำลังเผชิญหน้าอยู่กับ….

Tony : การแพร่กระจายคลื่นพลังโทรจิต ฉันรู้แล้ว ตอนนี้ฉันติดตั้งเครื่องต่อต้านลงไปแล้วที่บริเวณนี้ ซึ่งน่าจะช่วยกันมันไว้ได้จนกระทั่งพวกเราตามหาต้นทาง…

Steve : มันไม่ใช่แค่ที่ ลอส แองเจลิส… แต่มันเกิดขึ้นทั่วโลกเลย โทนี่ มันเกิดขึ้นทุกที่

Tony : อะไรนะ?

Steve : เมื่อไม่กี่นาทีก่อน จู่ๆทุกเมืองบนโลกก็ตกสู่ภาวะแห่งความเกลียดชังจนเกิดความโกลาหลไปทั่ว ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นพลังโทรจิตที่ทรงพลังกระจายไปทั่วแบบนี้คือ…

Steve : พระเจ้าช่วย…

Tony : อะไร? เจ้าบุรุษปริศนาคนนี้เป็นใครกัน สตีฟ?

Steve : มันมีเพียงคนเดียวที่มีความเกลียดชังและพลังที่จะสามารถกระจายมันออกไปได้… กลับมาที่นี่ให้เร็วที่สุดเลย โทนี่

อีกด้านหนึ่ง Alex ได้นอนอยู่ในความฝันอันสวยงาม ก่อนที่ Professor X จะเข้ามาปลุกเข้าเพื่อให้เข้าหยุดยั้ง Red Skull และอย่าปล่อยให้มรดกของเขาต้องกลายเป็นความเกลียดชัง และเขาก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งที่ Genosha

“มันเปลี่ยนมิวแทนส์ให้กลายเป็นกองทัพของมัน ลบล้างจิตใจของพวกเขา และให้เข้าต่อสู้กับศัตรูที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องต่อสู้”

“ฉันปล่อยให้มันใช้ประโยชน์จากฉันมามากแล้ว แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้ว… ว่ามันมีทางเดียวที่จะผ่านเรื่องนี้ไปได้”

“ปล่อยให้ความเกลียดชังเป็นอิสระ”

“ฉันล้มเหลวในการป้องกันไม่ให้ เรดสกรัลล์ ได้รับพลังแห่งพรสวรรค์ของเซเวียร์ไป”

“และล้มเหลวที่จะรวมอเวนเจอร์กับเอ็กซ์เม็นได้ทันเวลาเพื่อที่จะจัดการกับมัน”

“ยิ่งกว่านั้นฉันล้มเหลวในการหยุดยั้งแม็กนีโต้ไม่ให้ฆ่ามัน”

“ดังนั้นตอนนี้มันจึงเป็นหน้าที่ของฉัน…”

“ที่จะฆ่าพวกมันทั้งคู่”

Red Onslaught : จงดูไว้ แม็กนีโต้ นี่คือผลลัพธ์จากความกระหายเลือดของแก! การฆ่าฉันมันทำให้แกได้ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ภายในตัวฉันออกมา… ช่างเป็นการปลดปล่อยแห่งความรุ่งโรจน์เสียนี่กระไร!

Red Onslaught : ในที่สุดฉันก็สามารถที่จะทำให้โลกในอุดมคติของฉันเป็นจริงได้แล้ว เผ่าพันธุ์ใหม่จะทำลายล้างโลกใบนี้ และมันจะนำไปสู่ความรุ่งโรจน์ตลอดกาลของจักรวรรดิ์ไรช์!

Magneto : ตอนนี้แหละ! โจมตีมันด้วยทุกอย่างที่พวกเธอมี! ฉันรู้จักเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้ดี และหากเราไม่ฆ่ามันเสียตอนนี้…

*จักรวรรดิ์ไรช์ – จักรวรรดิ์ของเยอรมัน

พวกเราทั้งหมดจะต้องตายลงในวันพรุ่งนี้

Avengers & X-Men : AXIS

Red Supremacy Chapter 1

จอมวายร้ายสีแดงผู้ทรงพลัง ตอนที่ 1

Wanda กับ Rogue พยายามที่จะจัดการกับ Red Onslaught ลงให้ได้ แต่สุดท้ายพวกเธอก็โดนพลังโทรจิตของมันควบคุมไว้

แต่ Magneto ก็สามารถขัดขวางมันได้ก่อน และเขาก็ตั้งใจที่จะฆ่า Red Onslaught อีกหน แต่แล้ว Havok ที่คลั่งไปแล้วก็โผล่มายิงพลังเข้าใส่ Magneto จนกระเด็นตกลงมาในตึกข้างๆ

และที่นั่นเขาพบกับ Quentin, Genesis และ Cyclops ที่โดนจับตัวมาที่นี่ Magneto จึงทำการปลดพันธการของทั้ง 3 ทันที

Cyclops : เอริค มันเกิดอะไรขึ้น? พวกเราอยู่ที่ไหน?

Magneto : พวกเราอยู่ในแคมป์กักขังมิวแทนส์ของเรดครัลล์ เอ็กซ์เม็น ตอนนี้สิ่งที่เซเวียร์หวาดกลัวที่สุดเป็นจริงแล้ว แต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุด…

Magneto : เจ้าพวกนักขุดศพมันได้ขโมยศพของชาร์ลออกมา… แล้วพวกมันก็ใช้เขา…เอาพลังของเขาไป

Magneto : ตอนนี้พวกเขารวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ไซคลอปส์ และบัดนี้พวกเขาได้ให้กำเนิด เรดออนสลอท

Cyclops : มันอยู่ที่ไหน?

Magneto : พวกเรายังสามารถที่จะหาทางโต้กลับได้ หลังจากที่พวกเราสามารถหนีออกไปจากที่….

Cyclops : ฉันถามว่า เรดสกรัลล์ อยู่ที่ไหน?!

Havok : มันตายไปแล้ว

Havok : นี่แม็กนีโต้ไม่ได้บอกนายเหรอ? ว่าหมอนั่นเป็นคนฆ่ามันเอง…

Havok : เหมือนกับที่แกฆ่าเซเวียร์!

Havok ที่วิ่งเข้ามาเปลี่ยนเป้าหมายเป็น Cyclops และวิ่งเข้าใส่เขาอย่างแรง

Havok : มันเป็นความผิดของแกทั้งหมด สก๊อตต์! แกนี่แหละที่เป็นผู้สือทอดที่แท้จริงของแม็กนีโต้!

Havok : แกทำให้เกิดความเกลียดชังขึ้นมา แกไม่สนใจเลยว่ามันจะต้องแลกด้วยค่าตอบแทนเท่าไร… อั๊กกกก!

เป็น Genesis ที่เขามาขวางทั้งคู่ไว้

Genesis : ถ้าพวกคุณรักเซเวียร์จริงๆ ถ้าพวกคุณต่อสู้เพื่อระลึกถึงเขา…

Genesis : …ทำไมพวกคุณถึงไม่ทำในสิ่งที่เขาเคยสอนพวกคุณล่ะ?

Genesis : พวกคุณสมควรจะต้องนำศึกนี้ด้วยกันเพื่อให้เกิดความปรองดอง แต่จากที่ผมเห็น นับตั้งแต่เซเวียร์จากไป ทุกอย่างมันดิ่งลงเหวจนหมด พวกคุณแต่ละคนต่างกรีดร้องเข้าใส่กันโดยไม่ทำให้เกิดอะไรขึ้นมาเลย

Genesis : นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเลย โดยเฉพาะจากพวกคุณทั้งสองคน…

แต่แล้วก่อนที่ Genesis จะพูดดึงเอาจิตใจของ Cyclops กับ Havok กลับมาได้ Ahab หนึ่งในวายร้าย S-Man ก็เข้ามาขัดจังหวะด้วยการปาหอกพลังงานใส่ Genesis จนทะลุอก และมันจะจัดการพวกเขาทุกคน


Avengers Tower

Steve เรียก Avengers ทีมหลักกลับมาเพื่อประชุมอีกครั้ง

Steve : ฉันได้ส่ง สไปเดอร์แมน และทีมอื่นๆไปหยุดยั้งการจราจลในมิดทาวแล้ว…

Steve : ส่วนเหล่าฮีโร่ที่อยู่ในแต่ละประเทศก็กำลังพยายามหยุดยั้งเหตุร้ายในที่ต่างๆ บัดนี้โลกของเรากำลังระส่ำระสาย

Sam : สตีฟ ตอนนี้หัวรบนิวเคลียร์ทุกแห่งบนโลกสามารถที่จะถูกยิงออกมาได้ทุกเมื่อ พวกเราต้องทำอะไรสักอย่าง

Tony : ฉันทำการปิดกั้นการแพร่กระจายของคลื่นความเกลียดชังในบริเวณนี้แล้ว แต่มันต้องใช้เวลาอีกหลายวันเพื่อที่จะส่งผลมันไปยังทั่วทั้งโลก

Sam : มันอาจจะไม่เหลือโลกให้ช่วยแล้วในเวลาที่ว่านะ โทนี่

Tony : ก็อย่าคิดว่ามันทำง่ายนักสิ กัปตัน แล้วหัดมองโลกในแง่ดีบ้างเถอะ ตอนนี้ฉันได้ทำการตรวจสอบไปทั่วทุกมุมโลกแล้ว เมื่อพวกเราสามารถจับสัญญาณขนาดใหญ่ที่สุดได้เมื่อไหร่ พวกเราก็จะได้ที่อยู่ของเจ้าสกรัลล์

Tony : และเมื่อถึงตอนนั้นพวกเราจะส่งทุกคนที่พวกเรามีไปที่นั่น เพื่อจบเรื่องนี้ลง ดังนั้นตอนนี้พวกเราต้องรออยู่ที่ก่อน จนกว่าพวกเราจะหาต้นทางที่ว่านั่นพบ

จากนั้น Tony ก็เข้าไปดูอาการของ Janet ที่ตอนนี้เธอกำลังหวาดกลัวที่ Havok ไม่พบ เนื่องจากเขาหายไปหลายวันแล้ว

Tony จึงบอกว่าเขาเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งเขาไม่มีทางตายง่ายๆหรอก Jenet จึงถามขึ้นว่าทำไมพวกเขาถึงต้องต่อสู้แบบนี้ไปเรื่อยๆ มันเป็นโชคชะตาหรืออย่างไร ที่พวกเขาจะต้องต่อสู้ไปเรื่อยๆและทำลายชีวิตของพวกเขาเองลง Tony จึงบอกว่าพวกเขาต่อสู้เพื่อปกป้องโลก ซึ่งเป็นที่อยู่ของเขา ได้ยินดังนั้น Janet จึงบอกเรื่องหนึ่งกับ Tony เรื่องที่เธอกับ Havok ไม่เคยบอกใคร เรื่องที่พวกเขามีลูกด้วยกัน (ในช่วง Planet X) และถูก Kang ลบล้างไป ซึ่งนั่นทำให้พวกเธอสามารถช่วยเหลือเด็กคนอื่นๆได้ แต่นั่นคือสิ่งที่ต้องแลกมาสำหรับเธอ เธอจึงต้องถามตัวเองว่าทำไมพวกเธอจึงต้องต่อสู้โดยยอมแลกกับทุกๆอย่างของพวกเธอแบบนี้ต่อไปด้วย

Genosha

Wanda โดน Red Skull ควบคุมอีกครั้ง และเริ่มใช้พลังของเธอเพื่อเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงทำให้โลกนี้กลายเป็นของจักรวรรดิ์ไรช์

Rogue ที่เห็นดังนั้นจึงพยายามเข้าไปหยุดยั้งมันไว้ ด้วยหมัดของเธอที่อัดเข้าใส่หน้ามัน ทำให้เธอสามารถเชื่อมต่อกับจิตใจของ Charles ภายในตัวมันได้ และเธอพบว่าเศษเสี้ยวเล็กๆที่เหลืออยู่ของเขายังคงต่อสู้กับมันอยู่เช่นกัน

Xavier : มันหลงเหลือตัวตนของฉันอยู่ไม่มากแล้ว

“ เขาคือชายคนเดียวที่จุดประกายให้กับฉัน คนที่ทำให้ฉันมีความหวัง”

Xavier : ฉันจะปล่อยให้มันกลายเป็นมรดกของฉันไม่ได้

Rogue : ศาสตราจารย์ สิ่งที่หนูต้องการทั้งหมดก็คือการทำให้คุณได้เห็นโลกที่คุณใฝ่ฝัน… แต่หนูเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน…

Xavier : และตอนนี้เธอคนเดียวจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่อันตรายที่สุดเท่าที่มนุษย์ชาติเคยพบเจอ

Xavier : ออนสลอทมันไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตธรรมดา แต่มันคือร่างที่เป็นศูนย์รวมแห่งความเกลียดชัง

Xavier : ฝันร้ายจะต้องจบลง ฉันขอโทษที่ทำให้เธอต้องผิดหวังนะ โร๊ก ขอโทษด้วยที่ฉันหยุดมันไว้ไม่ได้

Xavier : นี่อาจจะเป็นภาระอันหนักอึ้งที่ดูแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ฉันเชื่อมั่นในตัวนักเรียนของฉัน…

Xavier : …และฉันก็มองไม่เห็นที่พึ่งอื่นอีกแล้ว

“ความชั่วร้ายของมันกำลังแผ่ขยายออกไป…”

“ไม่เอาน่า โร๊ก ชาร์ลได้มอบชิ้นส่วนเล็กๆของเขาไว้กับเธอ… ใช้มันสิ…”

“ใช้มันปิดกั้นจิตใจของ วานด้า…”

“…และพาตัวเธอออกไปจากมัน”

และ Rogue ก็ทำได้ทันเวลา เธอบินมาโฉบ Wanda ลงไปด้านล่างก่อนที่เธอจะใช้พลังของตัวเองเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงอีกครั้ง

ทางพวก Magneto พวกเขาเข้าต่อสู้กับ Ahab แต่ด้วยพลังของมันคนเดียวกลับทำให้พวกเขาถึงกับตกที่นั่งลำบาก และ Ahab ก็หยิบเรื่องของลูกสาวของ Havok ขึ้นมาพูด ทำให้ Havok ถึงกับไขว้เขวเปิดโอกาสให้ Ahab เผด็จศึกฆ่าเขา แต่แล้วในช่วงเวลาสำคัญ Cyclops ก็ฮึดโดดเข้ามารับฉมวกของ Ahab แทน Havok ไว้

ส่วนทาง Rogue ก็พา Wanda มาซ่อนตัวก่อนและปรับความเข้าใจกัน

Rogue : ตั้งสติหน่อย พวกเราต้องไปแล้วนะ พวกเราต้องหยุดมันให้ได้…

Wanda : แต่ฉันทำไม่ได้ ที่ฉันต้องการก็เพียงแค่เลี้ยงดูลูกของฉันขึ้นมาบนโลกที่สงบสุขและเต็มไปด้วยความหวัง

Wanda : แต่ตอนนี้ฉันไม่มีมันทั้งคู่ ครอบครัวของฉันแตกแยก… ฉันทำได้แค่สร้างความวุ่นวายขึ้นมาเท่านั้น

Rogue : หยุดคิดแบบนั้นได้แล้ว เรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย วานด้า เธอเป็นคนที่ต้องแบกรับความเกลียชังมากกว่าใคร เท่าที่ฉันเคยรู้จักมา แต่เรื่องนี้มันก็ไม่เคยทำให้เธอยอมแพ้ไม่ใช่หรือไง

Rogue : เธอผลักดันตัวเองให้ก้าวผ่านมันไป และทำให้ผู้คนมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ และฉันได้มองเห็นแล้ว

Rogue : ฉันรู้ว่าถ้ามีเธออยู่เคียงข้าง… พวกเราจะสามารถจัดการเจ้าปีศาจนั่นได้

Wanda : จริงเหรอ?

Red Onslaught : งั้นมาลองกันดูมั้ย เจ้าพวกขยะ

แต่ก่อนที่ Red Onslaught จะเล่นงานพวกเธอได้มันก็ถูกเล่นงานเข้าเสียก่อน

Tony : โทษที แต่พวกนั้นเขาลืมแสดงบัตรอเวนเจอร์ให้แกเห็นหรือไง?

Tony : พวกนั้นคือคนของกองกำลังฮีโร่ที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลก โดยเฉพาะในช่วงเวลาอันน่าหวาดกลัวแบบนี้

Tony และ Avengers ได้มาถึงแล้ว และพวกเขาได้เข้าโจมตี Red Onslaught ในทันที

Ahab : พวกแกรู้มั้ย ว่าจากงานของฉัน ฉันเข่นฆ่ามิวแทนส์ไปมากมาย และมันก็เริ่มที่จะดูซ้ำซาก

Ahab : แต่ขอบอกเลยว่าฉันไม่เคยคิดที่ว่าจะได้ฆ่าพวกซัมเมอร์สแบบพวกแกเลย

??? : นั่นมันฟังดูเหมือนคำสบประมาทกลุ่มซัมเมอร์สของพวกเราเลยนะ…

Nightcrawler : นั่นชัดเจนเลยว่าแกไม่เคยเห็นช่วงเวลาแห่งครอบครัวของพวกนั้น อะฮาบ และขอบอกเลยว่ามันอบอุ่นมากๆ

Storm : เคเบิ้ลชอบเล่นละครใบ้เป็นประจำ ส่วนราเชลก็ชอบวาดภาพเหมือน

Colossus : พวกสลัดอวกาศของคอร์แซร์ก็เต้นระบำกันอย่างสวยงาม จนเหมือนเทพนิยายเลยล่ะ

ด้วยการร่วมมือกันของทั้งสามคน Ahab ก็โดนยำจนร่วงในที่สุด

Cyclops: พวกเขามา

Nightcrawler : แน่นอนว่าพวกเราต้องมาสิ พวกนายเป็นเอ็กซ์เม็นไม่ใช่หรือไง

Nightcrawler : นี่ไม่ใช่เรื่องของงาน แต่มันคือครอบครัว

Cyclops: พวกเราจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในฐานะเอ็กซ์เม็นได้มั้ย เพื่อชาร์ล?

Havok : สก๊อตต์…?

Cyclops : พวกเราอาจจะแตกแยกกันไปคนละทาง…

Cyclops : …แต่เอ็กซ์เม็นจะกลับมารวมตัวกันได้อีกครั้งในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยวิกฤตแบบนี้ไม่ใช่หรือไง

Cyclops : ฉันอยู่ตรงนี้นะ อเล็กซ์ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

Havok : และนั่นก็คือ “อะไร” ที่นายว่า ถึงพวกเราจะร่วมมือกัน… ก็ไม่แน่ว่ามันจะเพียงพอที่จะหยุดยั้งมันได้

จากนั้น Storm ก็ทำลายผนังข้างๆทิ้ง

Storm : นั่นมันเป็นปัญหาของนายเสมอเลยนะ อเล็กซ์….

Storm : เพราะนายไม่เคยเชื่อว่าจะมีความช่วยเหลือใดๆมา

และบัดนี้ Avenger, Inhuman และ X-Men ได้กลับมาร่วมกันสู้ในศึกนี้อีกครั้ง

Beast : เอ็กซ์เม็นและอเวนเจอร์ ฉันก็อยากจะบอกให้พวกนายมารวมพลกันอยู่หรอกนะ แต่ฉันคิดว่าคำนั่นมันดูไม่เหมาะกับสถานการณ์นี้ ดังนั้นเอาเป็น ไประเบิดกระโหลกมันกัน!

แล้ว Iron Fist ที่โผล่มานานๆทีก็อัด Ahab ไปดอกนึงโดยมี Luck Cage เห็นดีเห็นงามด้วย

Iceman : ไหงมันดูเหมือนฉันจะไม่ค่อยได้รับความสนใจตอนเปิดตัวเลยเนี่ย

Storm : นายก็ดูดีไม่ใช่หรือไง บ็อบบี้

Iceman : แหม่ ดูสิ นี่คือคำพูดของผู้หญิงที่เข้ามาช่วยพี่น้องซัมเมอร์ที่กำลังตกที่นั่งลำบากไว้

Cyclops : ฉันก็ดีใจที่เจอนายเหมือนกันนะ ไอซ์แมน

Red Onslaught : หึ พวกฮีโร่ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกร่วมทางมากับพวกกลายพันธุ์ที่แสนจะสกปรก…

Sam : ให้ตายสิ มันฟังดูเป็นประโยคคลาสสิคของพวกนาซีที่เหยียดเผ่าพันธุ์จริงๆนะเนี่ย จริงๆแล้วฉันก็ยังไม่เคยจะได้จัดการพวกนาซีมาก่อนเลย…

Tony : ที่จริงกัปตันอเมริกาทุกคนต้องจัดการบ้างสักคนเป็นอย่างต่ำนะ

Tony : ว่าแต่กำลังมีปัญหาที่จะเข้าไปแทรกแทรงจิตใจคนอื่นใช่มั้ยล่ะ ชมิท? คุณลุงสตาร์กได้ใช้ระเบิดสีฟ้าทำให้หน้าแกต้องหม่นหมองเสียแล้ว

Sam : หน้ามันดูเหมือนจะเศร้าสุดๆไปเลยล่ะ

Tony : พลังโทรจิตอาจจะเป็นพลังที่ไม่สามารถตรวจจับถ้าใช้มันดีๆ แต่ยังไงมันก็ยังเป็นแค่คลื่นความถี่ ดังนั้นเมื่อเราแพร่คลื่นที่ส่งผลตรงข้าม…

Tony : มันก็จะทำให้พลังโทรจิตพวกนั้นหายไป เห็นมั้ยว่าเทคโนโลยีมีทางออกสำหรับทุกอย่าง

Red Onslaught : ตามนั้น คุณสตาร์ก

Red Onslaught : แต่ตัวแกเองเคยคิดบ้างมั้ยว่าทำไมแกถึงได้สร้างมันขึ้นมา?

Red Onslaught : นั่นเพราะบางส่วนในตัวแกกำลังหวาดกลัวสิ่งที่แกเคยทำลงไป ถูกมั้ย?

Red Onslaught : จะบอกอะไรให้นะ ไฟล์ข้อมูลในช่วง สงครามกลางเมือง (Civil War) แกได้รวบรวมข้อมูลที่ล้ำค่าไว้หลายอย่าง… พลังทั้งหมดที่พวกมันมี, จุดอ่อนของพวกมัน

Red Onslaught : ตอนนี้พวกแกก็เหมือนคนที่ตัวเปลือยเปล่าต่อหน้าฉัน

Red Onslaught : มันมีการเปลี่ยนแปลงของความทรงจำ… แกลบพวกมันออกไปจากจิตใจของแก แต่มันน่าสนใจจริงๆ ที่บางส่วนในตัวของแกตัดสินใจที่จะเก็บข้อมูลบางส่วนไว้ให้อยู่ลึกลงไป

Tony : แกโกหก ข้อมูลพวกนั้น…

*Herr คือคำที่แสดงถึงคำว่า คุณ (Mr.) ในภาษาเยอรมัน

Red Onslaught : ถูกนำมาให้ฉัน! มันช่างน่าสงสารที่พวกนั้นไม่รู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของแกเลย พวกมันไม่รู้เลยว่าแกจะทำอะไรกับพวกมันได้บ้าง หากแกต้องการ…

Red Onslaught : …หรือหากพวกมันหลงลืมจุดยืนของพวกมันไป

ในระหว่างที่ Red Onslaught พูดที่พื้นข้างๆมันก็เปิดออก พร้อมบางสิ่งที่กำลังปรากฎออกมา

Red Onslaught : โทนี่ ผู้น่าสงสาร แกถูกมองว่าอยู่ในระดับเดียวกับพวกนั้น แต่ที่จริงแล้วแกกระหายความรู้มากกว่าใครๆ…

Red Onslaught : และทั้งหมดนั่นก็เพื่อการจารึกชื่อลงไปบนโลกใบนี้

Red Onslaught : แกทำงานหามรุ่งหามค่ำทุกคื่น ที่ฉันทำก็แค่ใช้พลังโทรจิตอ่อนๆโน้มน้าวให้แกสร้างเครื่องจักรให้กับฉัน… มันเป็นเพราะความทะเยอทะยานที่อยากจะแสดงอัจฉริยะภาพของแกออกมา

Red Onslaught : อะไรแกจำไม่ได้งั้นเหรอ? แกออกจะมีความสุขที่ได้สร้างอาวุธลับอันแสนจะสกปรกให้กับฉัน

Tony : ไม่นะ…!

Red Onslaught : ตอนนี้โลกจะได้รับรู้ถึงผลลัพธ์แห่งความพยายามที่เต็มไปด้วยความหยิ่งยะโสของแก!

Red Onslaught : จงมองดูให้ดี นี่แหละคือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของความเกลียดชังที่แกแสดงมันออกมา…

Red Onslaught: สตาร์กเซ็นติเนลที่สร้างด้วยอดาแมนเทียมทั้งสองตัวนี้ มันได้ถูกโปรแกรมโดยเพื่อนของแกเอง…

Red Onslaught : ให้ฆ่าพวกแกทุกคน!

สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เมื่อ Sentinel ที่ออกแบบโดย Tony 2 ตัวซึ่งสร้างขึ้นจากอดาแมนเทียมได้ปรากฎตัวออกมา แล้วพวกเขาจะรอดไปได้อย่างไร?

โปรดติดตามตอนต่อไป…ในอาทิตย์หน้า!

รายละเอียดตัวละคร

Onslaught – นั้นเริ่มแรกคือการรวมตัวกันของจิตใจด้านมืดของ Xavier และ Magneto โดยในตอนนั้น Magneto ได้ทำการเล่นงาน Wolverine อย่างรุนแรง รวมไปถึงเข่นฆ่าผู้คนหลายร้อยคน ทำให้ Xavier หมดความอดทนใช้พลังโทรจิตของเขาปิดกั้นจิตใจของ Magneto แต่มันทำให้ความโกรธแค้นและอารมณ์ด้านมืดของ Magneto ไหลไปยังจิตใจของ Xavier ด้วย เมื่อรวมกับความเครียดที่เก็บกดมากว่า 30 ปีของเขา มันก็ทำให้เกิดเป็นตัวตนด้านมืดของเขาเอง Onslaught ขึ้นมา และเมื่อมันมีพลังเพิ่มมากขึ้นมันก็สามารถที่จะแยกตัวออกมาจาก Xaveir เป็นอีกตัวตนหนึ่งได้

Onslaught นั้นเป็นตัวตนที่เสมือนการรวมพลังของ Xavier, Magneto, Franklin Richard และ Nate Gray เขามีพลังโทรจิตในระดับที่สูงมากและสามารถปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบต่างๆได้ ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งคงทนจากการโจมตีต่างๆ สามารถสัมผันถึงตัวตนของมิวแทนส์, สร้างสนามพลังแม่เหล็ก และเปลี่ยนแปลงความจริงได้ตามต้องการ หรือแม้กระทั่งทำให้ตัวเองแข็งแกร่งจนสยบได้แม้กระทั่ง Hulk

ในอดีตการจะสู้กับ Onslaught ก็ต้องเอาฮีโร่ทั้งจักรวาลมาเวลมารุมถึงจะสามารถเอาลงได้

5 thoughts on “Avengers & X-Men : AXIS #1

  1. Tatoo

    เฮียวูฟหายไปไหนอ่ะครับ ไม่เห็นมาช่วยเลย

  2. NetNN

    เรดสกัลมางวดนี้ขึ้นชั้นเป็นลาสบอสกันเลยทีเดียว

    ปล.นับว่า Rick Remender แน่มากที่เอา Onslaught ที่ใครๆใน Marvels ต่างก็พยายามไม่พูดถึง (เพราะเอามาเล่นกับเนื้อเรื่องในปัจจุบันได้ยาก) มาปรับโฉมใหม่ได้ถึงขนาดนี้

  3. ชายผู้หลงยุค

    มีใครสงสัยบ้าง ทำไมแวนด้า ไม่ใช้พลังเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงทำให้เรดสกัลออนสลัคหายไปซะเรยก็สิ้นเรื่อง ว่าป่ะ?

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *