Ultimate Comics X #1 His Father’s Son
เรื่อง: Jeph Loeb
ภาพ: Arthur Adams
วางจำหน่าย: 3 กุมภาพันธ์ 2010
สำนักพิมพ์: Marvel Comics

Ultimatum สิ้นสุดลงแล้ว
โลกเกือบจะพินาศ
ฮีโร่มากมายต้องตาย
สี่กายสิทธิ์สลายตัว
เอ็กซ์-เมนจากไปแล้ว
มิวแทนท์ถูกตามล่าดั่งว่าเป็นอาชญากร
แต่ยังมีความหวัง
และนั่นคือเรื่องราวนั้น

หลังจากเกือบจะล้างจักรวาลอัลติเมทไปแล้ว
เจป โลบก็กลับมา”ชุบ”จักรวาลนี้ใหม่ด้วย อัลติเมท เอ็กซ์
ที่เป็นเหมือนรุ่นต่อไปของอัลติเมทเอ็กซ์-เมน
โดยจับมือกับ อาร์เธอร์ “อาร์ท” อดัมส์
ที่เคยมีผลงานสำคัญในจักรวาลหลักกับเอ็กซ์-เมน
ด้วยการสร้างตัวละครอย่าง “Longshot” และมีชื่อเสียงในการวาดเหล่าสัตว์ประหลาดครับ

หนังสือเล่าเรื่องผ่านเสียงบรรยายของเจมส์ ฮัดสัน
อดีตทหารผ่านศึกสงครามอิรัก ”ครั้งแรก” (ที่สหรัฐไปปลดปล่อยคูเวตนั่นไง)
เขาเล่าถึงเพื่อนรักของเขาที่มีชื่อต้นว่า”เจมส”เหมือนเขา
หนุ่มร้ายกาจที่ชายไม่กล้าแหยม แต่สาวๆ กลับเห็นเสน่ห์ในตัวเขา
เพื่อนรักที่แนะนำภรรยาของเขา ”ฮีทเธอร์” ให้กับเขา –หญิงที่เขาบอกกับเจมส์ว่า
เป็น”หญิงที่ดี – อันหมายความว่าเขาไม่เคยแตะต้องเธอ
เพื่อนรักที่ช่วยชีวิตเขาหลายต่อหลายครั้งในสงคราม

ขณะที่ภาพเป็นเรื่องของการแข่งรถซิ่งในยามค่ำคืนของหนุ่มหน้าสวยผมทอง
”จิมมี่ ฮัดสัน” ที่จะจบลงด้วยอุบัติเหตุร้ายแรง

รถคว่ำ ไฟลุกท่วม

เจ้าหนุ่มตะกายออกมาจากซากรถไฟลุกท่วม
ในขณะที่เสียงบรรยายของเจมส์ ฮัดสันเล่าว่า

เพื่อนรักของเขาที่ไม่เตยได้เจอกันตั้งแต่สงครามอิรัก
กลับมาหาเขาในคืนมืดมิดฝนตกหนัก
อุ้มทารกที่ร้องเสียงดังขนาดได้ยินไปข้ามประเทศมาด้วย
เขาบอกว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา และฝากให้เจมส์เลี้ยงดู
“เพราะคนอย่างเขาไม่เหมาะที่จะเลี้ยงดูเด็ก”
แม้จะได้กลิ่นถึงความยุ่งยาก แต่จากสิ่งที่เพื่อนรักเคยทำให้เขา
เจมส์ก็ไม่อาจปฏิเสธ อีกทั้งฮีทเธอร์เองก็อยากมีลูก ทั้งคู่จึงเลี้ยงดูเด็กคนนั้นมา
และให้ชื่อเขาว่า”เจมส์” เหมือนพ่อของเขา
เด็กหนุ่มเจมส์ ฮัดสันก็คือเด็กหนุ่มที่รถคว่ำนั่นเอง

ท่ามกลางส่ายตาหวาดกลัวของแฟนสาว จากสภาพน่าสยดสยองของเขา
และกลางแสงไฟของคอปเตอร์ของทางการที่เข้ามายังที่เกิดเหตุ

เด็กหนุ่มที่กำลังเจ็บปวด กลับค่อยๆ หายดี
โชคเขายิ่งดีเมื่อคนที่มาในคอปเตอร์คือพ่อของเขานั่นเอง

ปัจจุบันเจมส์เป็นนายอำเภอ
เพราะชาวบ้านเห็นว่าน่าจะมีใครที่ใช้ปืนเป็นเป็นผู้รักษากฏหมายหากเกิดเรื่อง

นั่นทำให้เขาได้ฉายาจากฮีทเธอร์ว่า  “The Guardian” (เดอะการ์เดี้ยน)
ภรรยาของเขาที่ทำงานเป็น ดี.เจ.วิทยุ
ทั้งคู่ถกเถียงกันว่าควรจะบอกความจริงกับเจ้าหนุ่มดีไหม ว่าเขาเป็นใคร
เพราะเจ้าหนุ่มเริ่มตั้งคำถามมากขึ้นทุกวัน แต่ชีวิตทุกวันนี้มันยุ่งยาก
เจ้าหนุ่มคงติดคุกไปหลายครั้งแล้ว ถ้าไม่ได้เจมส์เป็นพ่อ เพราะในขณะนั้นรัฐบาลสั่งให้จับตัวหรือสังหารมิวแทนท์ทุกคนที่เจอ ก่อนที่จะจบลงด้วยเสียงเล่าของเจมส์ว่า

“จากประสบการณ์ในอาชีพผู้รักษากฏหมายของผม
ยิ่งเราพยายามเก็บงำความจริงมากเท่าไหร่”

“ …ไม่ช้าก็เร็วความจริงก็จะหลุดออกมา”

ขณะที่เจ้าหนุ่มพักผ่อนอยู่บนหลังคาบ้านรถเทรลเลอร์ของพวกเขา
เด็กสาวคนหนึ่งก็ส่งเสียงเรียกถามเขาว่าสัตว์เลี้ยงของเขากัดไหม?

“กัดสิ ก็มันเป็นจระเข้นี่”

“งั้นเราต้องหาที่สงบๆ คุยกัน”

เธอบอกว่าเธอชื่อคิตตี้  ไพรด์ และมีของฝากจากพ่อแท้ๆ ของเขามาให้

มันเป็นกล่องเล็กๆ ในนั้นมีด็อกแท็กระบุว่าเป็นของชาวแคนาดาชื่อ “เจมส์ โฮวเล็ทท์”

หนังสือ TimesWeek เล่มที่ขึ้นปกเหล่าเอ็กซ์-เมน (ถ้าจำไม่ผิดอยู่ในรวมเล่มตอนWorldtour)
ปอยผมสีแดง  กับอุปกรณ์ที่ดูไม่ออกว่ามันคืออะไรเมื่อเขาถาม
คิตตี้ก็บอกให้เขาวางมันลงแล้วกดปุ่มดู

มันเป็นเครื่องฉายภาพโฮโลแกรมที่ฉายภาพของวูลฟ์เวอรีนขึ้นมา
ภาพนั้นเรียกชายหนุ่มว่า  “จิมมี่”
วูลฟ์เวอรีนบอกว่าถ้าจิมมี่ได้ดูสิ่งนี้ก็แสดงว่าคิตตี้ทำตามที่เขาขอร้อง
และโลกไม่ได้กลายเป็นนรก และ ”เขาไม่ได้ตายเปล่า”
และถึงมันจะไม่ใช่วิธีที่เหมาะที่จะบอกสิ่งนี้ แต่เขาต้องบอก

“เธอเป็นลูกของฉัน”

เขาไม่ได้บอกจิมมี่ถึงแม่ของเขา  เพราะมันเป็นอดีต
สิ่งที่จิมมี่ควรจะคิดถึงตอนนี้คืออนาคต วูลฟ์เวอรีนขอให้จิมมี่ถามคิตตี้ถึงแนวคิดของเขา
แต่ก็ขอให้ฟังความเห็นของพวกฮัดสันด้วย เพราะยังไงพวกเขาก็เป็นคนเลี้ยงดูจิมมี่จนเติบใหญ่ แต่ที่สุดจิมมี่คงต้องตัดสินใจเองเพราะนี่เป็นชีวิตของจิมมี่
และจิมมี่จะต้องอยู่กับมันต่อไป เขาลงท้ายว่า

“พ่อไม่เคยเสียใจแม้สักวินาทีเดียวที่มีลูก”

จิมมี่โวยใส่คิตตี้ว่าเธอรู้เรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้ว

คิตตี้เลยโต้กลับว่าสักพักแล้ว
และแถมด้วยว่าเธอเสี่ยงแค่ไหนที่มาหาเขา
ไม่รู้หรือไงว่าโลกภายนอกโหดร้ายสำหรับ ”พวกเรา” แค่ไหน
จิมมี่เลยย้อนถามว่า
หมายความว่าไงที่ว่า ”พวกเรา”
คิตตี้เลยสวนว่าเขารู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ว่าตัวเองเป็นมิวแทนท์

ถ้าเขาเป็นผู้สืบสายเลือดของวูลฟ์เวอรีน เขาก็น่าจะมีพลังรักษาตัว
แต่จิมมี่ถามถึงกรงเล็บ แล้วก็พยายามเกร็งเบ่งมันออกมา

และแล้ว…

กรงเล็บก็พุ่งออกมาจากหลังมือของเขา

แต่มันเป็นกระดูก  คิตตี้อธิบายว่าโลหะอะดาแมนเทียม เป็นสิ่งที่รัฐบาลฝังมันลงไปทีหลัง

ทันใดนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลง กรงเล็บที่งอกออกมาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นโลหะ

(โอ้ ไม่ให้เสียเวลาเลยแฮะ)
จิมมี่ถามคิตตี้ว่าเธอเคยเห็นอะไรแบบนี้ไหม
แล้วคิตตี้ก็บอกว่าเคยเห็นปีเตอร์ (โคลอสซัส) เปลี่ยนผิวหนังเป็นโลหะได้เหมือนกัน
แล้วเจ้าหนุ่มก็หลุดปากออกมาว่า

“ฉันเป็นลูกชายของวูลฟ์เวอรีน”

แล้วจิมมี่ก็ถามคิตตี้ว่าพ่อของเขาเป็นคนยังไง

“เขาอันตราย,และน่ารัก,แกร่ง,เหี้ยม,คาดเดาไม่ได้
แต่เป็นคนที่คุณอยากจะให้คอยระวังหลังให้”

แต่เมื่อจิมมี่ถามถึง”อนาคต”ที่วูลฟ์เวอรีนพูดถึง
เจมส์ ฮัดสันก็โผล่มาและสั่งให้เขาออกไปข้างนอก

เมื่อจิมมี่ออกไป ฮีทเธอร์ก็ตรงเข้ามาต่อว่าคิตตี้ว่าเธอทำอย่างนี้ได้ไง

คิตตี้อธิบายว่าเธอไม่ได้มาเพื่อทำให้ใครเจ็บปวด
เพราะตอนนี้ความเจ็บปวดก็มีมากเกินพอแล้ว
ทำอย่างนี้เธอเองก็ต้องเสี่ยง แต่ที่เธอทำก็เพื่อพ่อของจิมมี่
เขาคุมได้ยาก แต่เขาก็ช่วยเธอมาหลายครั้งและที่เธอทำก็เพื่อตอบแทนเขา
และเธอก็อยากรู้เหมือนฮีทเธอร์ว่าอนาคตของจิมมี่จะเป็นยังไงต่อไป

ภายนอกเจมส์นั่งคุยกับลูกชาย
เขาเล่าว่าในฐานะผู้รักษากฎหมายนั้นเขาต้องจับจิมมี่เข้าคุก  หรือไม่ก็ยิงเขาทิ้งซะ
ซึ่งแค่เขาถอดประกอบปืนในบ้านฮีทเธอร์ยังไม่ชอบเลย
เมื่อจิมมี่ถามว่าทำไมเจมส์ไม่บอกเขาก่อนหน้านี้
เขาก็เล่าว่าเขาเคยคิดเมื่อตอนเห็นปก ”ไทม์สวีค”
ว่านั่นอาจจะเป็นโอกาสเหมาะที่ได้คุยกับลูกชายเรื่องพ่อของเขา
แต่มันไม่เคยเกิดขึ้น  แต่ความจริงนั่นเป็นเพราะเขารักจิมมี่และไม่อาจทนที่จะเสียเขาไปได้
(อันนี้เป็นความคิดของเจมส์ที่ไม่ได้บอกออกมา) ก่อนที่จะปิดท้ายว่า

“ผมน่าจะรู้ว่าถ้าเรารักใครสักคน เราไม่จะอาจปิดบังความจริงที่เราเป็นจากเขาหรือเธอได้”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกของคุณ และไม่ว่าผมจะชอบมันหรือไม่…

จิมมี่ ฮัดสันเป็นลูกพ่อ”

จบตอน

เล่มหน้า

ใครคือคาเรน แกรนท์?

เกร็ดน่ารู้:  เจมส์ ฮัดสัน และฮีทเธอร์ ฮัดสัน ในจักรวาลหลักของมาร์เวล
คือ Guardian และ Vindicator หัวหน้าซูเปอร์ฮีโร่ทีมของแคนาดา “อัลฟ่าไฟลท์”
และเป็นผู้ชุบเลี้ยงและชักนำโลแกนมาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลแคนาดา
เพราะพวกเขาเป็นคนที่เจอโลแกนอยู่กับฝูงหมาป่าในป่า
โลแกนเคยออกปากว่า ทั้งคู่เป็นเหมือน ”พ่อ-แม่” ของเขา

เรียบเรียงโดย: