Wrath of The First Lantern : Red Lantern 20 : Epilogue 1

DC Comic: Wrath of The First Lantern : Red Lantern 20 : Epilogue 1

เรื่อง : Peter Milligan

ภาพ : Will Conrad

วางจำหน่าย: 22 พฤษภาคม 2013

สำนักพิมพ์ : DC Comics

นี่คือบทส่งท้่ายของ Event Wrath of The First Lantern และจะเป็นเล่มสุดท้ายที่ Peter Milligan นักเขียนที่แต่งเนื้องเรื่องของหัวนี้มาตั้งแต่เล่มแรกก่อนจะให้นักเขียนคน ใหม่มารับหน้าที่ต่อด้วย
.
.
.
เปิดฉากมาที่ Oa ดาวหลักของ Green Lantern Corps
Arocitus ได้รับการบอกเล่าจาก Arkillo ว่า Sinestro ได้เหลือ Guardian ไว้ให้เขาคนหนึ่ง…

“ดี ซิเนสโตรไว้ชีวิตมันไว้คนหนึ่ง”
“การ์เดี้ยนคนสุดท้าย…”

แล้วเขาก็หันไปบอกต่อเหล่า Red Lantern ของเขา

Atrocitus : เรดแลนเทิร์นทั้งหลาย…พวกเจ้าจงไปทำสิ่งที่เจ้าต้องทำได้ตามต้องการ

“เจ้าตัวที่ต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่พวกมันทำลงไป”
“เจ้าตัวที่ต้องรับความโกรธแค้นที่สะสมมานับล้านปี…”

“เจ้าตัวที่จะต้องตายด้วยมือของอโตรซิตัสผู้นี้”

หลังจากนั้นที่ Ysmault
เหล่า Inversions ที่ฟื้นสภาพขึ้นมาได้ฉวยโอกาสที่พวก Red Lantern ไม่อยู่นำพลพรรคที่พวกมันสร้างขึ้นมาเพื่อหวังครอบครองพลังของ Central Power Battery

Qull : พยายามเข้าอินเวอร์ชั่นทั้งหลาย ร่ายเวทย์มนต์อสูรของพวกเรา รวมมันไว้ที่แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางนั่น…ทีนี่คือที่ซึ่งอโตรซิตัสสังหารโรเซียมและข้า…

Qull : และได้ดับเพลิงชีวิตของอสูรอย่างพวกเรามานาน เจ้าพวกเรดแลนเทิร์นมันเป็นการดูหมิ่นเกียรติ์ของเรา…มันเป็นสิ่งย้ำเตือน…

Qull : …ของการทรยศหักหลังอันโหดเหี้ยมที่อโตรซิตัสทำต่อเรา…

แต่ตอนนั้นเอง Roixeaume กลับหยุดร่ายเวทย์

Qull : โรเซียม? เจ้าหยุดร่ายเวทย์แล้วนะ

Roixeaume : เปิดตาของเจ้าให้ดีๆก่อนสิคัล แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางมันไม่ตอบสนองต่อเวทย์มนต์ของเรา เรากำลังทำเรื่องเสียเวลาเปล่าอยู่นะ

Qull : พวกเราเป็นอมตะ เวลา…เป็นสิ่งที่เรา…จะใช้มากมายเท่าไหร่ก็ได้

ตอนนั้นเอง…

??? : อมตะงั้นเรอะ?

Bleez : แต่พวกเจ้าก็ยังฆ่าตายได้ใช่ไหมล่ะ?

Roixeaume : ถึงแม้แบตเตอร์รี่ศูนย์กลางจะไม่ตอบสนองต่อเวทย์มนต์ของพวกเราก็ตาม แต่เรดแลนเทิร์นอย่างพวกเจ้า…มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

Qull : เจ้านายของพวกเจ้ามันหมกหมุ้นกับการล้างแค้น คราวนี้เป็นตาพวกเราบ้างล่ะ

เหล่า Red Lanterns โดนพลังเวทย์ของ Inversions เล่นงานจนล้มลงไปทีละคน

แต่ Bleez ยังไม่ยอมล้มลงไป!

Bleez : เวทย์มนต์ของพวกมันเป็นของเก่าโบราณแล้ว มันเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของความตาย…ข้าคิดว่า…พวกอินเวอร์ชั่น…มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

Roixeaume : พวกเจ้าทุกคน…เล็งไปที่นังนี่ซะ!

Bleez : เราสามารถรับมือมันได้น่ะ พี่น้องทั้งหลาย เราคือเรดแลนเทิร์น ชีวิตทั้งชีวิตของเรามันก็เป็นเหมือนต้องคำสาปอยู่แล้ว

Bleez : อย่างของพรรคนี้น่ะรึ? มันก็แค่กระจอกๆของนังอัปลักษณ์นี่เท่านั้นแหละ

Bleez : มันก็เป็นเหมือนเป็นแค่ลมปากไร้ค่า

ในที่สุด Bleez ก็เดินฝ่าฟันมาจนถึงตรงหน้าของ Roixeaume

Bleez : มองเข้าไปในดวงตาของข้าสิพี่สาวเอ๋ย มันดูเหมือนดวงตาของผู้ที่ยอมสยบต่อคาถาขึ้นสนิมของเจ้าหรือเปล่า?

ทั้ง Bleez และ Roixeuame จ้องหน้ากันอยู่ชั่วอึดใจจนกระทั่ง Roixeuame เป็นฝ่ายยอมถอยก่อน

Roixeaume : อืม…ดูเหมือนว่าเวทย์มนต์ของพวกเรามันจะไม่เหมือนกับเมื่อก่อนนี้ อย่างน้อย…เราก็ยังไม่ทันได้ทำความคุ้นเคยกับมันมากพอ

Roixeaume : ครั้งหน้ามันจะต้องไม่เป็นแบบนี้แน่เหล่าเด็กๆของอโตรซิตัสเอ๋ย เมื่อเราขัดสนิมที่จับเรามานับศตวรรตได้เราจะกลับมาอีก

เมื่อสิ้นคำพูดของ Roixeuame พวก Inversion ทั้งหมดก็หายวับไป

Bleez : ข้าว่าผลมันก็ออกมาใช้ได้ล่ะนะ

(จริงๆแล้วที่ Roixeuame ว่ามาก็มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน เพราะพลังเวทย์ของพวก Inversion สมัยก่อนที่จะโดน Atrocitus ฆ่าตายนั้นออกมาในรูปของแสงสีแดง แต่หลังจากคืนชีพจากความตายขึ้นมาแล้วนั้นพลังเวทย์ของพวกนี้กลับเป็นสีเทา/ดำ บางทีอาจเพราะแหล่งที่มาของพลังเวทย์ของพวกนั้นแตกต่างไปจากเดิมก็ได้ ทำให้พวกนั้นใช้พลังได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควรเพราะยังไม่ชิน)

Skallox : อโตรซิตัสอาจจะไม่ได้เป็นผู้ชี้นำพวกเราอีกต่อไปแล้ว

Skallox : เรดแลนเทิร์นบลีซ ท่านได้แสดงให้เห็นว่าท่านคู่ควรกับการขึ้นมาแทนที่เขา จงขึ้นรับตำแหน่งที่ผู้สร้างเราละทิ้งมันไปเถอะ

Zillius Zox : จะเอาไงล่ะ? นี่มันเป็นสิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดจริงไหม? และข้าหมายถึงมันตั้งแต่ตอนที่หัวใจของเจ้าหยุดเต้นลงแล้วแหวนพลังสีแดงเข้ามาแทนที่เลยน่ะ

Bleez : ข้ายอมรับว่ามันล่อใจพอดู แต่ข้าก็ไม่ใช่ผู้เดียวที่เหมาะสม แรนคอร์ก็ได้แสดงให้เห็นว่าเขามีความร้ายกาจที่พวกชาวโลกมีอยู่ในตัวอย่างพร้อมมูล

Bleez : เจ้าจะว่ายังไงล่ะแรนคอร์? เจ้าต้องการจะสวมมงกุฎขึ้นเป็นผู้นำของเราไหม?

Rankorr : ข้าไม่ต้องการมันเลยแม้แต่น้อย ข้าคิดว่า…ข้าอยากจะไปที่โลกอีกครั้ง

Bleez : โลกงั้นรึ? เจ้าควรจะตัดสินใจได้แล้วนะแรนคอร์ ว่าเจ้าจะเป็นเรดแลนเทิร์นหรือเป็นแค่มนุษย์โลกครึ่งๆกลางๆน่ะ?

Rankorr : นั่นแหละคือประเด็นล่ะ ข้า…ก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้ายังไม่รู้ว่าข้าเป็นอะไรกันแน่

ตัดไปที่ Oa
Atrocitus ตามล่า Guardian คนสุดท้ายไปจนทันและโจมตีจนร่วงลงไปที่พื้น

Atrocitus : ยังไม่ตายรึ ดีมาก

Guardian : อ็อค!

Atrocitus : สิ่งที่รอมานานแสนนาน…มันไม่ควรจะจบลงรวดเร็วเกินไปอยู่แล้ว

Guardian : จ…เจ้ามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะเกลียดชังข้า ความผิดของพวกเรามันร้ายแรงจนเกินจะให้อภัย ข้า…เสียใจจริงๆ

Atrocitus : เจ้าเสียใจงั้นเรอะ?

Atrocitus : นั่นมันควรจะทำให้ทุกเรื่องมันจบลงหรือไง?

ว่าแล้ว Atrocitus ก็หลังมือใส่ Guardian จนกระเด็นไป

Guardian : จ…จริงๆนะ ถ้าหากว่าข..ข้าสามารถย้อนกลับไปได้…และแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น…ข้าก็คงทำมันแน่นอน

Atrocitus : เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าควรจะทำตัวยังไงในสถานการณ์แบบนี้ด้วยซ้ำ

Atrocitus : แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม หากข้าจะมีชีวิตต่อไปได้…เจ้าจะต้องตาย

Guardian : เจ้าพูดถูกแล้ว ฆ่าข้าซะเถอะ ข้าสมควรได้รับมันแล้ว

แต่ตอนนั้นเอง Atrocitus กลับนิ่งเงียบ

Guardian : เจ้าจะมัวรีรออะไรอยู่อีกล่ะ?

Atrocitus : ข้า…ข้ารู้สึกได้ ข้ารู้สึกถึง…สิ่งที่ออกมาจากตัวเจ้า

แล้วเขาก็เหวี่ยง Guardian ลงกับพื้น

Guardian : ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดเรื่องอะไรอยู่ ข้าเกลียดตัวเองเหลือเกินกับสิ่งที่พวกเราทำลงไป ทั้งความตายของผู้คน ทั้งดวงดาวที่ถูกทำลายไป…

Guardian : อุ๊บ!

Atrocitus : ให้ตายเถอะ เจ้ากำลังสนุกกับมันอยู่!

Guardian : ม…ไม่…ไม่จริง…

Atrocitus : ข้ารู้สึกถึงสิ่งที่เจ้ารู้สึกนะการ์เดี้ยน จากการที่ต้องใช้ชีวิตที่ปราศจากอารมณ์ความรู้สึดมานานแสนนาน…แต่ตอนนี้…เจ้ากำลังดื่มด่ำกับความอับอายของเจ้า…เจ้าเกลือกลั้วอยู่ในความสำนึกผิดของเจ้า

Atrocitus : เจ้าทำให้ข้ารู้สึกขยะแขยงเหลือเกิน!

Atrocitus : ข้าไม่นึกเลย…ว่ามันจะเป็นไปได้ที่ข้าจะเกลียดเจ้ายิ่งกว่าที่ข้าเป็นอยู่…ข้าน่าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อไป

Atrocitus : ใช่ ข้าน่าจะให้เจ้าจ่อมจมอยู่ในความเหลวแหลกของเจ้าเอง อโตรซิตัสคนก่อนคงจะทำเช่นนั้น…แต่ข้าได้เปลี่ยนไปแล้ว

Atrocitus : และข้าก็จะทำให้มันจบลง…

“ข้าเห็นใบหน้าของภรรยาของข้า”
“เสียงหัวเราะของครอบครัวของข้าที่ตายไปเมื่อนานมาแล้ว”
“กลิ่นอันหอมสดชื่นของเด็กแรกเกิด”
“ฤดูใบไม้ผลิบนไรอัทที่เต็มไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง จิตใจที่ไม่ได้ถูกบดบังด้วยความโกรธแค้น”
“วิญญาณนับล้านที่สูญเสียไปกับกาลเวลา…”
“ข้าจำได้แล้ว…”

“ข้าจดจำทุกอย่างได้แล้ว”

Atrocitus : ด้วยการฆ่าเจ้า…ข้าจะปลดปล่อยพวกเราทั้งคู่

Guardian : อ๊าคคคค!!

เพียงการลงมืออย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียว ศัตรูที่เขาเกลียดชังมาชั่วชีวิตอันยาวนานของเขาก็จบชีวิตลง

Atrocitus : ในที่สุดมันก็จบลง มันสิ้นสุดลงแล้ว

ตัดมาที่โลก

Rankorr มาที่บ้านของ Kim เพื่อนหญิงที่เขาคบหาด้วยเป็นระยะสั้นๆ แต่เขาก็พบว่าเธอถูกทำร้ายซึ่งคนที่ทำก็คือแฟนเก่าของเธอเอง…
เขาจึงพาตัวเธอออกไปตามล่าเจ้าคนชั่วนั่น!

และเมื่อพบเจ้าคนชั่วนั่นเขาก็ลงมือทันที!

Rankorr : สิ่งที่แหวนพลังของผมสร้างขึ้นจะทำให้มันได้รับรู้รสชาติของความกลัวที่คุณได้รับตอนที่มันทำร้ายคุณ…ในอีกไม่กี่อึดใจหัวใจของมันจะหยุดเต้น ม้นจะตายด้วยความหวาดกลัว

Kim : ท…ทำไมคุณถึงทำแบบนี้?

Rankorr : ทำไมงั้นรึ? คุณได้ดูหน้าตัวเองบ้างหรือเปล่า? นี่มันคือสิ่งที่อโตรซิตัสทำพลาดไป

Kim : อ…อโตรซิตัส? ใครกัน?

Rankorr : ความโกรธของเขามันเป็นการทำเพื่อตัวเขาเอง แต่มันอาจเป็นอำนาจที่ใช้เพื่อความถูกต้องได้ ถ้าหากใช้เพื่อผู้อื่น บอกผมมาสิว่าคุณอยากให้ผมฆ่ามันยังไง

แต่ทันใดนั้นเอง Kim ก็ตบหน้าเขาฉาดใหญ่?!

Kim : พอได้แล้ว

Rankorr : แต่ว่า…

Kim : นี่มันไม่ใช่ตัวคุณนะแจ็ค หรือจะแรนคอร์ ไม่ว่าคุณจะชื่ออะไรก็ตาม นี่ไม่ใช่คนใจดีที่ฉันเริ่มจะหลงรักคนนั้น

Kim : สตีเฟนเป็นคนชั่ว เขาโง่ ชอบใช้ความรุนแรง และสมควรที่จะถูกจับขังคุก และก็คงจะเป็นอย่างนั้นแน่ แต่คุณ

Kim : ตัวคุณในตอนนี้ไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ

Rankorr : ความโกรธไงคิม คุณไม่รู้สึกโกรธกับสิ่งที่มันทำกับคุณบ้างหรือ?

Kim : ความโกรธหรือ? ให้ตายเถอะ! ความโกรธมันสำหรับเด็กเล็กๆกับพวกผู้ใหญ่ที่ไม่มีสมองพอจะคิดได้เท่านั้นแหละ

Kim : กลับไปหาพวกพ้องของคุณซะเถอะ “แรนคอร์” คุณจะมีความสุขมากกว่าในที่นั่น

Kim : และฉันจะดีใจมากด้วยถ้าไม่ต้องพบกับคุณอีก

หลังจากที่ Kim จากไปแล้ว Rankorr ก็หันไปมองเจ้าคนชั่วที่นอนอยู่แทบเท้าเขา

Rankorr : นางจะไม่ต้องเห็นหน้าพวกเราอีกตลอดกาล

แล้วเสียงร้องโหยหวลก็ดังก้องไปในยามค่ำคืน…

ตัดไปที่ Ysmault
มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นเช่นกัน

Atrocitus : เจ้าจะร้องโวยวายไปทำไมกันหาสกัลล็อก? ข้ายังไม่ทันได้แตะตัวเจ้าด้วยซ้ำ

Skallox : ข้า…อ่า…ข้า…เสนอให้บลีซเป็น…เป็น…

Atrocitus : อะไรล่ะ?

Skallox : เป็น…ผู้นำของเรา…ข้าไม่นึกว่าท่าน…ท่านจะกลับมา…ข้าคิดไว้แบบนั้น…

ว่าแล้ว Atrocitus ก็หันไปทาง Bleez

Atrocitus : เรดแลนเทิร์นบลีซ เจ้าตัดสินใจว่ายังไงล่ะ? เจ้าต้องการตำแหน่งของข้าหรือเปล่า?

Bleez : ข้ายินดีที่จะรับใช้ท่าน อโตรซิตัส เช่นที่เป็นเสมอมา

ตอนนั้นเองก็มีใครอีกคนกลับมา

Atrocitus : แรนคอร์ ข้านึกว่าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกแล้วเสียอีกนะ

Rankorr : ข้าจะไปจากยาซมาลต์อันแสนงดงามนี้ได้อย่างไรกัน?

Atrocitus : ก่อนหน้านี้ข้าได้อธิบายให้เหล่าเรดแลนเทิร์นของข้า…ว่าข้าติดกับอยู่ในความโกรธแค้นของข้าเอง

Atrocitus : มันหยุดข้าไม่ให้รู้สึกถึงความโกรธของเรดแลนเทิร์นของข้า บางทีมันอาจหยุดข้าไม่ให้ใช้พลังที่ข้ามี…ในวิถีทางที่สร้างสรรค์กว่านี้

Atrocitus : ข้าคิดว่าเจ้าได้รู้สึกถึงปัญหานั้นของข้ามานานแล้วสินะมนุษย์โลกเอ๋ย

Rankorr : มนุษย์รึ?

หลังจากหยุดคิดไปชั่วอึดใจ Rankorr ก็หันมาพูดด้วยใบหน้าสงบนิ่ง

Rankorr : ที่นี่ไม่มีมนุษย์อยู่แม้แต่คนเดียว

NEVER THE END

4 thoughts on “Wrath of The First Lantern : Red Lantern 20 : Epilogue 1

  1. jojomoofy

    ถ้านายไม่ยอมรับว่าเป็นมนุษย์นายอาจโดนตัดบทเลยนะแรนคอร์ 5555

  2. hometown03

    Guardianตัวนี้นมาฟัง Atrocitusบ่นกับโดนฆ่าแท้ๆ 555+(อ้าว ไม่ใช่การ์ธาร์ท กับSaydตัวเดียวรึที่รอด)

  3. seventoon

    จะเป็นไงต่อนี่ หัวนี้ บางทีก็วนอย่างเดียวเลยนะเนื้อหาน่ะ

  4. pc3310

    บางทีแรนคอร์ก็หว่าเว้เหมือนกัน โดนหญิงชิ่ง 555

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *