Avengers #12

Avengers #12

ผ้าขาวกลางดงสัตว์ร้าย

เรื่อง : Jonathan Hickman

ภาพ : Mike Deodato

วางจำหน่าย : 22 พฤษภาคม 2013

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

   

 

เดินทางกลับสู่ Savage Land

เพื่อดัดนิสัยเด็กซน!

  

 

  

Avengers ตอนที่แล้ว

 

Ex Nihilo:   ผมน่ะ มันเป็นศิลปิน

Ex Nihilo:   ระเบิดแต่ละลูกล้วนแต่ก่อให้เกิดพลังเฉพาะอย่าง

Ex Nihilo:   สร้างความสามารถอย่างใดอย่างนึงให้แก่เผ่านั้นๆ

 

Ex Nihilo:   การรับรู้ตัวตน

Ex Nihilo:   การเจริญพันธุ์

 

 

The Fallen Heights แห่ง Savage Land

 

 

Ex Nihilo:   การรู้จักดำรงชีพ

 

เด็กน้อย:   पिता (Daddy)

 

Hyperion:    นั่นสินะ




Hyperion:    เราน่าจะลองสักตั้ง



   

  

 

  

ตำนานการสร้างสรรพสิ่ง

ได้เป็นที่ประจักพร้อมเสียงหัวเราะ

   

จักรวาลกำลังแตกเป็นเสี่ยงต่อหน้าพวกเรา

   

 

พระบิดาโปรดช่วยพวกเขาด้วย…

 

 

   

 

 

 

Thor:   พวกเขาเป็นเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น

Iron Man:   นี่ Thor ขอเวลาซักเดี๋ยวสิ..

Iron Man:  มีอะไรอยากให้นายดูซักหน่อย

   

   

 

  

Iron Man:   ช่วงนี้ชั้นกำลังง่วนกับการวิเคราะห์ข้อมูล

Iron Man:   ของบรรดาลูกไก่ที่เพิ่งจะฟักออกมาจากไข่ของพวก Garden

Iron Man:   บริเวณ Savage Land อยู่

 

Iron Man:   ชั้นว่านายน่าจะประ…..

 

อยู่ๆ คำพูดของ Satrk ก็เกิด ขาดช่วงไป

 

Iron Man:   …..ทับใจกับสิ่งที่เห็นแน่ๆ

Iron Man:   นายลองดูสิ

 

Iron Man:   ชั้นใช้ระบบแบบ เนบิวลาเกลียว (Helix Nebula)

Iron Man:   บันทึกข้อมูลภาพนิ่งเจ็ดร้อยภาพต่อหนึ่งวิเอาไว้

Iron Man:   เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ตอนหลัง

 

Thor:   Stark?

 

Iron Man:   โอ้ โททีลืมบอกไป

 

Tony เปิดหมวกออกมาแล้วพบว่า….ข้างใน..ไม่มี Tony อยู่!

 

Iron Man:   ชั้นอยู่ที่นี่แต่ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ในเวลาเดียวกัน

Iron Man:   ที่เป็นผลจากงานที่รัดตัวข้ามดวงข้ามดาวของคุณ Stark ผสมกับซอฟต์แวร์ขั้นเทพ

Iron Man:   แปลว่าในขณะที่ชั้นกำลังสนทนาภาษาใจกับนายอยู่ตอนนี้

Iron Man:   ตัวชั้นจริงๆ ก็กำลังดูพวก Celestial กำลังเล่นพลุห่างจากนี่ไปอีกเจ็ดร้อยปีแสงอยู่

 

Iron Man:   ….พร้อมกับ แรคคูน พูดได้ตัวนึงด้วย….

   

แสดงว่าเหตุการณ์ในตอนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Tony ได้เข้าอยู่ในทีม Guardian of the Galaxy แล้วนั่นเองครับ

   

 

Iron Man:   ก็นะอยู่ในจักรวาลน่ะ เข้าใจป่ะ

 

Thor:   แน่นอนว่าข้าต้องเข้าใจอยู่แล้ว Anthony

Thor:  Mjolnir ก็ตีขึ้นมาจากหทัยดารา (Heart of Star)

(อันที่จริงต้องเป็น heart of dying star คือเป็นดาวที่ใกล้ดับครับ ทำให้ Mjolnir นั้นหนักมากๆ)

 

Iron Man:   อ่าก็จริงนะ

 

Iron Man:   อะไรก็เถอะ ประเด็นของชั้นก็คือ

Iron Man:   เด็กพวกนี้ หลังจากที่ได้วิวัฒนาการฟักออกจากไข่แล้ว

Iron Man:   ได้แสดงความสามารถบางที่น่าสนใจมากออกมา

 

Thor:   อย่างเช่น?

 

Iron Man:   อ่ะนี่….

Iron Man:   ลองดูสิ

   

 

 

 

 

ด้านซ้ายคือภาพตอนที่เจ้าหนูพวกนั้นเพิ่งเกิดใหม่ๆ

แล้วอย่างที่นายเห็นว่าถ้าเทียบกับมนุษย์แล้ว

เด็กพวกนั้นยังอยู่ในช่วงทารกอยู่

   

ส่วนด้านขวาคือภาพที่เด็กพวกนั้นเป็นอยู่ตอนนี้

ภายในระยะเวลาแค่สองสัปดาห์ เด็กพวกนี้เติบโตเทียบเท่ากับเด็กอายุเจ็ดขวบ

กำลังแตกเนื้อหนุ่มเข้าสู่ช่วงก่อนวัยรุ่น แล้วต่อจากนี้แหล่ะที่ชวนสะพรึงนิดนึง


 

ในช่วงเวลาสองสัปดาห์มานี้ ไม่มีเด็กคนไหนเลยที่นอน

ครึ่งหนึ่งในกลุ่มนี้ยังนั่งไม่เป็นด้วยซ้ำ ไม่เชื่อลองถามทีมดูแลเด็กดูก็ได้


หมายถึงคนที่ยังไม่ลาออกไปแล้วอ่ะนะ

(ก็นะ เด็กซนไม่หลับไม่นั่ง ไม่นิ่งตลอด 24 ชม. 365 วัน เป็นผม ผมกอยู่ไม่ได้นะ ฮ่าๆๆ)

 

 


 

 

 

คราวนี้มาถึงเรื่องของกินหรือของไม่มีกินกันบ้าง


เด็กพวกนั้นไม่ทานข้าว ไม่ดื่มน้ำ แล้วรูปร่างร่างกายก็ยังสมบูรณ์ดี

ไม่มีหลักฐานการเผาผลาญพลังงานหรือดึงพลังงานเข้าร่างกายให้เห็นเลย

ชั้นเพิ่งจะมานึกได้เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วว่าอาจจะอยู่ด้วยการสังเคราะห์แสงก็ได้


 

แต่ว่าลองดูภาพนี้สิ…..

 

ว่ายน้ำอีท่าไหนเหงือกก็ไม่มี ที่เอวังกว่าคือไม่มีการหายใจด้วย

ไม่มีการระบบการเปลี่ยนอะไรให้เป็นออกซิเจนด้วย

เด็กพวกนี้ไม่หายใจ

 

ดูอย่างเจ้าหนูนี่อยู่ในน้ำมาได้สี่ชั่วโมงแล้ว

ถึงแม้ว่า การว่ายน้ำแบบนี้ใช้เวลาทั้งชาติยังไงก็จับปลาไม่ได้ก็เถอะ

…..แต่ดูเหมือนน้องแกจะไม่หยุดง่ายๆ ซะด้วย


นายรู้แล้วใช่มัยว่าชั้นจะโยงไปเรื่องอะไร?



 

 

Iron Man:   เด็กพวกนี้เป็นอะไรที่เกินระดับมนุษย์ไปแล้ว

Iron Man:   บางทีอาจจะเป็นอะไรที่เหมือนกับนายก็ได้

 

Hyperion:   หรืออาจจะเป็นอะไรที่เหนือกว่านั้นอีกนะครับ

 

Hyperion เดินเข้ามา และพูดแทรกบทสนทนาของทั้งสอง

 

Hyperion:   บางทีอาจจะเป็นวิวัฒนาการใหม่ของโลก

Hyperion:   เด็กพวกนี้อาจจะเป็นบางอย่างที่วิเศษกว่ามาก

 

Thor:   ก็จริงนะ Hyperion เด็กพวกนั้นอาจจะเป็นอะไรที่วิเศษกว่า

Thor:   ….แต่พระบิดาแห่งทุกสรรพชีพมักจะตรัสกับเราเสมอว่า

Thor:   เด็กทุกคนต้องขัดเกลา

 

Iron Man:   ใช่เลย บางทีถึงเวลาที่ใครซักคนช่วยบ่มเพาะเด็กพวกนี้ให้พร้อมผจญกับโลกกว้างซะบ้าง

Iron Man:   แล้วเราจะเริ่มตอนไหนล่ะ?

Iron Man:   ความอดอยาก ความต้องการ ความปรารถนา

Iron Man:   ถึงจะฟังดูไม่ค่อยดีก็เถอะ

Iron Man:   แต่สิ่งพวกนี้เป็นหมือนอิฐก้อนแรก อิฐที่เป็นพื้นฐานนำไปสู่สังคมทุกประเภทเลยนะ

 

Iron Man:   ถ้าไม่มีอะไรจะเสีย ก็ไม่มีการเสียสละอะไร

Iron Man:   แล้วเมื่อคนเราไม่มีความต้องการอะไร แล้วคนเราจะไฝ่ฝันที่จะทำอะไรรึเปล่าล่ะ?

Iron Man:   จากการดิ้นรนไปสู่ความดีงามและศีลธรรม

Iron Man:   มันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติมนุษย์

 

Iron Man:   แต่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเด็กพวกนั้น…

   

 

Hyperion:   ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะสอนเด็กพวกนี้เอง

Hyperion:   เด็กพวกนี้จะได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้

 

Hyperion:   และบางทีพวกเราอาจได้เรียนรู้อะไรจากเด็กเหล่านี้ด้วยก็ได้

 

Thor:   แน่อนว่ามันเป็นเรื่องที่คุ้มที่จะทำ

 

Thor:   แต่มันเป็นเรื่องที่เจ้าไม่ควรจะแบกรับมาทำแต่เพียงผู้เดียว

Thor:   แล้วเจ้าจะต้องไม่ทำมันคนเดียวด้วย

   

 

ว่ากันว่า พวกเขาคือกลุ่มฮีโร่ที่กร่างที่สุดในโลก




DOL

ภูมิใจเสนอ

 


Avengers

Earth’s Mightiest Heroes



ให้เสียงภาษาไทยผิดๆ ถูกๆ ชวนสะเทือนใจโดย DOL คนเดิมจ้า

   

  

Hyperion:   ความทรงจำของผมถูกเก็บไว้ในรูปแบบของแสง

   

Hyperion:   จิตใจของผม ไม่ได้มีกระบวนการทำงานแบบเป็นเส้นตรง

Hyperion:   จิตใจของผมมีการฉายความทรงจำในลักษณะแบบโฟตอนิกส์

Hyperion:   ควบคู่กับกระบวนการระลึกแบบเสมือนจริงที่ระลึกได้แบบทันทีทันใด

 

Hyperion:   ซึ่งนั่นแปลว่า มันเสมือนจริงมาก จนแทบแยกเรื่องราวในอดีตกับปัจจุบันแทบไม่ออก

 

Hyperion:   ส่วนความทรงจำของผม

Hyperion:   มักจะเก็บเหตุการณ์ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตผมมากที่สุด ไว้

 

Hyperion:   เมื่อวานผมเห็นโลกของผมชนเข้ากับอีกโลกจนพังทลายลง

Hyperion:   ตอนนี้ผมก็ยังเห็น และพรุ่งนี้ชั้นก็คงจะเห็นมันอีก

 

Hyperion:   ฉะนั้นผมจึงพยายามสร้างความทรงจำที่ดีกว่าเอาไว้

Hyperion:   ผมพยายามจะทำให้โลกใบนี้ดีกว่าเดิม

 

Hyperion:   ผมพยายามจะรักษาโลกใบนี้เอาไว้



ณ. Savage Land



Hyperion:   เราแยกเด็กพวกนี้ออกเป็นกลุ่มย่อยๆ

Hyperion:   เพื่อให้เรียนรู้แบบตัว-ตัวกับคุณครูเฉพาะกิจแต่ละคน

 

Hyperion:   โดยมุ่งหวังว่าพวกเราอาจจะช่วย

Hyperion:   ให้เด็กพวกนี้ค้นพบบางอย่างที่ช่วยสร้างอัตลักษณ์เฉพาะตัว

Hyperion:   แล้วเด็กพวกนี้ก็จะแบ่งปันความรู้เหล่านี้กับเด็กคนอื่นๆ ที่อยู่นอกกลุ่ม

   

 

Iron Man:   สอนให้เด็กได้รู้ถึงความหมายที่แท้จริงของคุณค่าที่มีในตัวเอง

Iron Man:   นี่มันดีมากเลยนะ Hyperion ชั้นชอบแฮะ

 

Hyperion:   อืม ผมเลยพยายามจัดวางบทสอนต่างๆ ให้เหมาะกับคนของพวกเราเท่าที่จะทำได้

Hyperion:   แต่ประสบการณ์ของผมยังมีไม่มากพอ….

 

Hyperion:   ผมจึงขอน้อมรับข้อเสนอแนะที่คุณจะให้กับตัวเลือกที่ผมเลือกเหล่านี้

 

Iron Man:   นั่นยิ่งดีเลย แล้ว Spider-Man ของเรา

Iron Man:   กำลังสอนเรื่องอะไรอยู่ล่ะนั่น

   

ลองทายดูสิครับ

  

 

Spider-Man:   …..แล้วพอเจ้านี่เผลอตกหลุมความใจดีมีเมตตาของเธอแล้ว

Spider-Man:   เธอก็ได้โอกาสที่จะจู่โจม!!


 

 

Spider-Man:   แล้วจากนั้นเธอจะทำอะไรกับศัตรูของเธอก็ได้

   

โอ้ว กำลังสอนพื้นฐานการรบอยู่สินะ พ่อ Superior Spider-Doc



Hyperion:   การเชื่อใจน่ะ



ห๊ะ!!! เชื่อใจ??? เชื่อใจแบบไหนของม๊านนน!!!

   

 

 

 

Hyperion:   อะแห่ม

   

Spider-Man:   อะไร!?

Spider-Man:   ก็โลกทุกวันนี้มันอันตรายจะตาย

Spider-Man:   เราก็ต้องสอนให้เจ้าหนูพวกนี้ให้เรียนรู้การอยู่รอดดิ!?

 

Hyperion:   อันนั้นก็เห็นด้วยนะ

Hyperion:   แต่ว่า ไอ้ที่สอนอยู่นี่มันเกี่ยวกับเรื่อง การเชื่อใจยังไง ไม่ทราบ?


 

 

 

Spider-Man:   ก็เห็นชัดๆ นี่

Spider-Man:   สอนให้ไม่ให้น้องแกเชื่อใจใครสุ่มสี่สุ่มห้าไง!

 

เด็กน้อยมองลุง Spider-Octo ด้วยสายจาแบบ….อ่าาาา…เอางี้ จิงดิลุง!!!

   

Iron Man:   (โอ๊ย ตรูละเครียด)

Iron Man:   ชั้นว่ากลุ่มของ Thor น่าจะไปอะไรได้รุ่งกว่านี้อ่ะนะ

   

 

ทางด้านของ Thor พี่แกกำลังเล่านิทานให้เด็กฟังอยู่

(แล้วหนูๆ ตราม้าลายของเรา แกเข้าใจได้ไงฟระ)

   

Thor:   …..แล้วเมื่ออาทิตย์ฉายแสง

Thor:   เสียงคำรามโพยพุ่งออกมาจากเหล่าทหารหาญแห่งแอสการ์ด

Thor:   ในยามที่พวกเขาได้เห็น เหล่า Warriors Three ที่กลับมาจากเส้นขอบฟ้านั้น

Thor:   ทั้งสามมาพร้อมกับหัวของสัตว์ยักษ์


Thor:   การเฉลิมฉลองเริ่มขึ้นเต็มห้องโถงของแอสการ์ด

Thor:   อุดมไปด้วยไวน์มากมาย และมี…อ่า…มี..

    

 

Thor:   มีอะไรต่างๆ อีกมากมาย

Thor:  ไว้ข้าจะบอกพวกเจ้าอีกที เมื่อพวกเจ้าโตกว่านี้อีกซักหน่อยนะ

(อ้าว Thor แอบติดเรท ฮ่า)

   

Thor:   แต่ทำไมพวกเราจึงต้องร่ำร้องบทเพลง

Thor:   ทำไมเรื่องราวการเอาตัวรอดเหล่านี้ถึงสลักสำคัญ

 

Thor:   ทำไมเหล่าทหารหาญเหล่านั้นจึงยืนขึ้นและรอให้ถึงวันนั้น

Thor:   ทำไมพวกเขาจึงต้องเสี่ยงทุกอย่างในชีวิตเพื่อไปยังถ้ำของอสูรร้าย?

Thor:   มันไม่ใช่เพราะทรัพย์สมบัติ…

 

Thor:   …แต่เพื่อชื่อเสียง เพื่อแอสการ์ด

Thor:   เพื่อทุกคนที่เขารัก

 

Thor:   ยังมีบางภารกิจที่คุ้มค่าที่จะแบกรับ

Thor:   แล้วบัดนี้ พวกเจ้าก็จะได้ทำในสิ่งเดียวกันนี้เช่นกัน

   

ว่าแล้ว Thor ก็เอานิ้ววาดวงกลมที่ก้อนหิน

จากนั้นเขาก็โยนก้อนหินนั้นไปบนยอดเขา

   

 

Thor:   พวกเจ้าสามคน, พวกเจ้าอีกสามคน แล้วก็พวกเจ้าอีกสาม

Thor:   ก้อนหินที่เราเพิ่งโยนไปหาได้ใช่ก้อนหินธรรมดาไม่

Thor:   แต่ก้อนนี้มันเป็น…เอ…ก้อนหินสลักเวทย์มนตร์แห่งพลังนิรันดร์เอาไว้!

 

Thor:   หินก้อนนั้นจะเป็นภารกิจแรกของพวกเจ้า

Thor:   ทีมของพวกเจ้าจะต้องช่วยกันนำหินนั้นมาจากยอดเขาให้ได้

Thor:   ของรางวัลของเราจะมอบให้แต่ผู้ที่คู่ควรเท่านั้น

 

Thor:   แล้ว? พวกเจ้ามัวรออะไรอยู่ล่ะ?


 

 

Thor:   จงไป ไปเสียบัดเดี๋ยวนี้!

Thor:   แล้วจงวิ่ง วิ่งให้เหมือนยักษ์น้ำแข็งที่ถูกจี้ด้วยเปลวไฟ!

 

เมื่อมอบการบ้านให้เด็กๆ ไปทำแล้ว ทั้ง Hyperion กับ Tony ก็เดินมาพบกับ Thor พอดี

 

Iron Man:   เห็นมั๊ย?

Iron Man:   เด็กกำลังบึ่งไปปีนเขาแย่งหินเทพมาครอง

Iron Man:   เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะ

 

Thor:   อ้า พี่น้องของข้า แนวคิดนี้ไม่เลวเลย

Thor:   นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้เห็นรอยยิ้มแห่งความสนุกสนานของเด็กๆ แบบนี้

Thor:   ข้าว่าพวกเราน่าจะมาดื่มกันให้หัวราน้ำได้ซักพักแล้ว


 

   

 

Thor:   ดื่มให้กับงานดีๆ ที่พวกเราได้ทำกัน

 

 

ขณะที่ Thor ทำงานได้ดี แต่กับ Hawkeye และ Spider-Woman

มานอนอาบแดดอะไรกันตรงนี้ฟระ!! ออกไปสอนเด็กสิเฮ้ย!!

เด็กมันแย่งกันปีนเขาแล้ว!!

   

Hawkeye:   อู้ย เด็กพวกนั้นไม่เป็นไรหรอกน่า Jess…

 

Spider-Woman:   ชั้นกำลังคิดว่า เด็กพวกนี้น่าจะเรียนรู้เรื่องอะไรซักอย่าง

Spider-Woman:   ที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบอะไรแบบนั้นไม่ใช่เหรอ!?

 

โหวววว! ความรับผิดชอบบบ!!

 

Hawkeye:   อุแหม ผมแน่ใจได้เลยว่า

Hawkeye:   วินาทีที่เด็กพวกนั้นได้เห็นคุณทาครีมกันแดดตรงหลังกับด้านหน้าของผม

Hawkeye:   เด็กๆ พวกนั้นได้เรียนรู้ไปแบร้ว

 

Hawkeye:   เชื่อผมเห้อออ

Hawkeye:   ผมรู้ดีน่าว่าผมพูดอะไรอยู่ คืองี้ผมน่ะก็เคยเป็นบักฉมวกน้อยบ่มีพ่อบ่มีแม่เหมือนกัล

Hawkeye:   แล้วดูสิ ดูผมโตขึ้นมาเป็นพี่เทพแค่ไหน

 

Spider-Woman:   อืมม ชัดเลย

 

Hawkeye:   โอ้ว แม่จอร์ช

Hawkeye:   ดูชายหาดนี่ดิ

 

เอ่อ พี่ Clint ครับ คือว่าต้นไม้ตรงยอดเขานั่น มันกำลัง…พัน..อ่า

 

Hawkeye:   ดูตัวผมสิ ดูตัวคุณจิ

Hawkeye:   โอ้ว ที่ชุดที่เราใส่กันนี่!

   

 

 

Hawkeye:   ไหนบอกมาสิ

Hawkeye:   มันผิดตรงไหน มีอะไรผิดตรงไหนมิทราบ!?

 

ผิดตรงที่ เด็กกำลังโดนต้นไม้รัดคอตายแล้วเฟร้ยยยยยย!!

 

Spider-Woman:   หืมมมม….

 

Spider-Woman:   ตอนโดนพี่บึ้กจากอีกโลกคู่ขนานมาหักขาทิ้ง

Spider-Woman:   ก็อย่ามาอ้อนเค้าล่ะกัน



 

  

   

อีกด้านหนึ่ง

จากหลุมศพของอมตะชน ภายในหุบเขาที่โดดเดี่ยว

Garokk ผู้มีกายเป็นหิน ได้เห็น ได้รู้สึก ทุกย่างก้าวของสรรพชีวิต

บนผืนพิภพแห่ง Savage Land นี้

   

เขาคือบุคคลที่จำเป็นต่อผืนพิภพนี้

เขาคือ ผู้พิทักษ์ผู้ไม่มีวันดับ เป็นผู้ระวังภัย (Watcher)

   

ที่นี่ได้ถูกแปรปลี่ยนไปเพราะ Origin Bomb (ระเบิดแห่งชีวิต)

จากความโกลาหลแทรกเข้ามาอยู่ในสถานที่ที่ครั้งหนึ่ง เคยสงบสมบูรณ์

แต่การที่เด็กเหล่านี้หัวเราะแล้วละเล่นกัน ทำให้เขารู้สึกถึงบางสิ่ง

บางสิ่งที่เขาเคยคิดว่าเขาเคยสูญเสียไปแล้ว



นั่นคือความหวัง



เขาอยากจะเพลิดเพลิน อยากจะสนุกสนาน

กับรุ่งอรุณดวงใหม่และอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นตามมา

   

แต่แล้วเขานึกถึงยานลำนั้น….

   

จากนั้นความหวังของเขาพลันแปรเปลี่ยนด้วยบางสิ่ง

บางสิ่งที่เขาคุ้นเคยมากกว่ามาก….




ความหวาดกลัว



  

อสูรนับสิบออกมาจากยานดังกล่าว!

นี่มันเกิดอะไรขึ้น!

   

 

กลับมาที่ Thor ที่กำลังสวีทกับ Hyperion อยู่

   

Thor:   บอกข้าทีสิ Hyperion…

Thor:   ในโลกของเจ้า เจ้ามีลูกรึเปล่า?

 

Hyperion:   ไม่มีครับ

Hyperion:   ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากมีนะครับ

Hyperion:   แต่ลองคิดดูสิ ผมแค่…

Hyperion:   ผมถูกเลี้ยงมาโดยมีแต่แนวคิดว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผม

Hyperion:   มีแต่เรื่องของหน้าที่ที่ผมต้องทำเท่านั้น

Hyperion:   ผมมัวแต่ม่วนอยู่กับสิ่งที่สำคัญกว่านั้นน่ะครับ

   

  

 

ในที่สุดเหล่าเด็กน้อยตราหัวม้าลายก็เห็นก้อนหิน

 

Thor:   แล้วตอนนี้ล่ะ?

Hyperion:   ผมไม่ใช่คนๆ นั้นอีกต่อไปแล้ว

  

เหล่าผู้นำต่างปีนขึ้นไปยังก้อนหินท่านกลางเสียงเชียร์ของลูกทีมที่เหลือ

ตอนนนี้สีเขียวนำอยู่ ตามมาด้วยสีแดงและสีน้ำตาลอ่อน

   

   

 

ตอนนี้สีเขียวยังนำอยู่ แต่สีน้ำตาลอ่อนเริ่มตีตื้นขึ้นมา

   

Thor:   คนเรากลัวการเปลี่ยนแปลงก็จริง

Thor:   แต่สิ่งที่พวกเราได้พบเมื่อไม่นานมานี้ สิ่งที่พวกเราต่อสู้ด้วย

Thor:   ถ้ายังพอมีเวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ซักอย่างล่ะ ก็คงดี…

   

Hyperion:   คุณกำลังกลุ้มใจอะไรอยู่รึ?

   

ว่าแล้วสีทองที่รีบกระโจนขึ้นไป ก็เผลอเอาเท้าไปเตะโดนสีแดง จนจะตกจากเขา

   

Thor:  ถูกต้อง Fimbulvinter ดึงความหดหู่สิ้นหวังในใจข้าออกมา

(Fimbulvinter คือเหล้าที่ Thor ให้ Hyperion ในเล่มที่ 4)

 

Thor:  ข้าได้ผ่านศึก Ragnarok กับเหตุการณ์ Cataclysm

Thor:  ข้าสามารถควบคุมสายฟ้าได้

Thor:  แต่สิ่งที่ข้าได้เผชิญ สิ่งที่ข้ารู้สึกว่ากำลังคืบคลานเข้ามา

Thor:  มันเป็นสิ่งที่ ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่มีทางจะพร้อมรับมือกับมันได้

   

เด็กผ้าเตี่ยวสีแดงเกาะหินอีกก้อนได้ เด็กผ้าเตี่ยวสีเขียวตกใจ

และเด็กผ้าเตี่ยวสี่นำตาลกำลังรีบปีนขึ้นไป

   

 

เด็กผ้าเตี่ยวสีเขียวเห็นเพื่อนกำลังมีภัย

   

Thor:  ทั้ง Captain และ Stark ต่างก็เป็นคนที่กล้าหาญ

Thor:  เป็นคนที่มีอุดมการณ์ที่สูงส่ง

 

Thor:  แต่ชีวิตของมนุษย์นั้นยังไงก็สั้นเพียงแค่ชั่วพริบตา


เด็กผ้าเตี่ยวสีเขียวตัดสินใจลงไปช่วยเพื่อน

ทำให้เด็กผ้าเตี่ยวสีน้ำตาลขึ้นนำ

 

Thor:  แล้วข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจสถานการณ์ถ่องแท้จริงรึเปล่า

 

Hyperion:   เพราะขนาดพวกเรายังไม่เข้าใจเลย คุณหมายถึงแบบนั้นใช่มั๊ย

 

ผ้าเตี่ยวสีน้ำตาลคือผู้ชนะ

   

 

Thor:  เจ้าได้เห็นการดับสูญของโลกของเจ้า

Thor:  แล้วรู้สึกว่าทุกๆ วันที่ตื่นขึ้นมา ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วใช่มั๊ย

 

Thor:  แต่ข้าเกรงว่ายังจะมีอะไรหลายอย่างรอเจ้าอยู่ภายภาคหน้านั่น

Thor:  มีอีกมากมายเลยล่ะ

 

Hyperion:   กระนั้น นี่ก็คือโลกที่เด็กๆ ของพวกเราอยู่

 

Hyperion:   พวกเราจะต้องเลือกระหว่างการกลัวจนทำอะไรไม่ถูก

Hyperion:   หรือเลือกที่จะเลี้ยงดูผ้าขาวเหล่านี้ให้กลายเป็นผ้าที่เด็ดเดี่ยว

Hyperion:   สอนเด็กเหล่านั้นให้รู้จักความหวัง…

 

Hyperion:   แล้วเชื่อมั่นว่าแค่สิ่งนั้นก็เพียงพอแล้ว

 

จากนั้นก็มีมือหนึ่ง จับที่ผ้าคลุมของ Thor

 

Thor:  เอ๋?

   

 

เด็กๆ ทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว

   

Thor:  อะ ฮา!

Thor:  ก้อนหินถูกค้นพบแล้วสินะ

 

Thor:  คราวนี้เจ้าพร้อมจะรับของรางวัลรึยัง

Thor:  เจ้าตัวน้อย

 

เตี่ยวน้ำตาล:  मैं विजय है (I Have Triumphed\ ผมชนะแล้ว)

 

ขณะที่ Thor กำลังจะให้รางวัล เขาวิเคราะห์เห็นผ้าเตี่ยวเขียวที่กำลังเซ็งนิดๆ ที่แพ้

   

Thor:  หืมมมม

   

 

Thor:  นี่ต่างหากผู้คู่ควร

   

Thor ยกชัยชนะให้แก่เตี่ยวเขียว ทำเอาเตี่ยวน้ำตาลมึนงง!

   

เตี่ยวน้ำตาล:  लेकिन कैसे (But How!? \ไหงงั้นอ่ะ)

เตี่ยวน้ำตาล:  मैं इसे अर्जित किया है (I have Earned it\ผมได้หินมานะ)

 

Thor:  เจ้าอยากรู้ว่าทำไม ใช่มั๊ย?

 

??????:   โอ้ อันนี้ชั้นรู้ ชั้นรู้อันนี้!

 

เสียงปริศนาดังขึ้นแทรกคำอธิบายของ Thor

   

 

และแล้วไอ้คนที่ไม่น่าจะเป็นคุณครูสอนที่สุด

เพราะนอกจากตรรกะเพี้ยนแล้ว ยังพูดจามึนงงสุดๆ (ฮ่า) ได้ฤกษ์โผล่ออกแบ้ว

เจ้าแม่จักรวาลนั่นเอง!

 

Tamara:   ชั้นสอนเด็กพวกนี้ได้เหมือนกันนะคะ

Tamara:   ชั้นช่วยได้นะ ชั้นทำตัวเป็นประโยชน์ได้

 

Hyperion:   เอ่อ ผมไม่แน่ใจว่า แบบนั้น….

 

Iron Man:   เอาแบบปลอดภัยนะเจ๊

 

ว่าแล้ว เจ้าแม่ Tamara ก็เข้าทรง กลายเป็น เจ้าแม่จักรวาล Captain Universe


Captain Universe:  สวัสดี ลูกของเราเอ๋ย

   

Captain Universe:  วันนี้เธอได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างใช่หรือไม่?

Captain Universe:  ทั้งสิ่งที่น่าตื่นเต้น สิ่งที่ท้าทาย

Captain Universe:  วิถีที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกที่ต่างจากพวกเธอ

 

Captain Universe:  สิ่งมีชีวิตเหล่านี้

Captain Universe:  จำเป็นต้องหายใจด้วยอากาศ อาศัยแผ่นดินที่เหยียบยืน หรืออาศัยชีวิตอื่นรอบตัว

Captain Universe:  เพื่อการยังชีพ

Captain Universe:  แต่พวกเธอไม่มีความจำเป็นเหล่านั้น

Captain Universe:  และนั่นคือ พรสวรรค์ของพวกเธอ

 

Captain Universe:  แต่หากเป็นเช่นนั้น แล้วบทบาทของพวกเธอในระบบของที่นี่ล่ะ?

Captain Universe:  หากพวกเจ้าอยากยืนเคียงข้างสิ่งมีชีวิตเหล่านี้

Captain Universe:  เป้าหมายที่เจ้าพึงกระทำคืออะไร?

 

Hyperion:   การให้

 

Hyperion ตอบแทนบรรดาเด็กน้อยตราม้าลายทั้งหลาย

   

 

Hyperion:   ชายคนนึงได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้

Hyperion:   หากไม่มีความต้องการก็จะไม่มีความฝันที่จะทำอะไร

 

Hyperion:   ผมคิดว่าเขาพูดถูก

 

Hyperion:   โลกที่ไม่มีความต้องการใดๆ

 

Hyperion:   การได้รับบางสิ่งก็เพื่อจะได้รู้ว่าการให้บางสิ่งเป็นอย่างไร

Hyperion:   พวกเรารู้จักกับคุณธรรม ก็เพราะว่า แม้พวกเราจะไม่ทุกข์ทรมานจากสิ่งใด

Hyperion:   แต่ยังได้ยินเสียงคนอื่นทุกข์ทรมานอยู่ข้างนอกรอบตัวเรา

 

Hyperion:   และหน้าที่ของพวกเราคือการหยุดความทรมานเหล่านั้นให้หมดไป

   

 

Hyperion:   ไปด้วยกัน

 

ขณะที่ Hyperion พูดสอนเด็กได้กินใจ เหลือเกิน อิ Spider-Octo ก็โผ่งออกไปว่า

 

Spider-Man:   แหย่ะ! คำพูดมันกินใจแต่แนวคิดมันโลกสวยเกินเหตุนะ ชั้นว่า

Spider-Man:   เด็กพวกนี้อาจจะไม่หายใจเอาอากาศเข้าปอดก็จริง

Spider-Man:   แต่ถ้าพวกนั้นโดนบาด เลือดก็ไหลนะเออ

 

Spider-Man:   นายสอนให้เด็กกลายเป็นพระผู้ให้ล่ะก็

Spider-Man:   ก็ระวังเด็กพวกนั้นจะตายเพราะมัวแต่ให้นะเหวย

 

Spider-Man:   เจ้าเด็กเปรตทั้งหลาย

Spider-Man:   จำคำที่ลุง Spider-Man พูดไว้ให้ดีนะจ๊ะ

Spider-Man:   การอยู่เหนือห่วงโซ่อาหารน่ะเป็นเรื่องที่ดี…..

   

   

  

Spider-Man:   ……..แต่ถ้าไปเจอะกับนักล่าตัวจริงเข้าเมื่อไร ก็งานงอกเมื่อนั้น

   

ว่าแล้ว นักล่าก็พุ่งตัวออกมาหวังโซ้ยเจ้าหนูตราม้าลายเต็มที่!

แต่เคราะห์ดีที่ โดนธนูปักซะก่อน!

   

Hawkeye:   อะแฮ่ม!

Hawkeye:   ความรับผิดชอบ

Hawkeye:   รับผิดไปมิดศรเลยเห็นป่ะ

 

Spider-Woman:   พี่แกเพิ่งจะไฟลุกอยากทำงานก็ตอนนี้นะเนี่ย

   

 

Thor:  นี่มันสัตว์ร้ายประเภทไหนกัน!?

 

Iron Man:   ก็นะที่นี่มัน Savage Land

Iron Man:   ชั้นเองก็มีฐานข้อมูลพันธุกรรมของสัตว์ที่นี่ไม่มากพอ

Iron Man:   ที่จะแยกประเภทสัตว์พื้นเมืองที่นี่ออกให้หมดได้ซะด้วย

 

Iron Man:   คำถามจึงเกิดขึ้นว่า….

Iron Man:   ไอ้ตัวนี้มันเป็นสัตว์เร่ร่อน หรือเป็นส่วนหนึ่งของฝูงใหญ่กว่านี้กันแน่?

Iron Man:   เป็นพวกล่าเก็บอาหาร? หรือว่าล่าเพื่อปกป้องอาณาเขต?

 

Spider-Man:   ไม่ใช่ทั้งหมดแหล่ะ เจ้าพวกงั่งเอ๊ย!!

 

 

 

Spider-Man:   มันเป็นตัวล่อต่างหากเฟร้ย!

   

ว่าแล้ว สัตว์พิศดารอีกสองตัว บินโฉบไปจับเด็กตราม้าลายสี่คนแล้วชิ่งหนีไป

 

Iron Man:   เจ้าหนู

Iron Man:   ใครก็ได้บอกชั้นทีสิว่าเจอแบบนี้

Iron Man:   พวก Fantastic Four จะทำยังไง!



 

 

สัตว์พิศดารทั้งสอง บินพาบรรดาเจ้าหนูตราม้าลายมาส่งที่หน้ายานลำหนึ่ง

 

    

???? ????????????:   อ้า ขอต้อนรับ ยินดีต้อนรับเจ้าหนูน้อยทั้งหลาย

???? ????????????:   ชั้นได้ยินมาว่าพวกเธอนี่เด็ดดวงมากเลยนี่

 

???? ????????????:   สิ่งที่เยี่ยมที่สุดที่ธรรมชาติได้คัดสรรค์มา


 

 

เขาผู้นั้นไม่ใช้ใครอื่นไกล

เป็นศัตรูคู่บุญกับเหล่า Fantastic Four และ Avengers มานาน (แต่หลายคนไม่รู้จัก)

ชื่อของเขา….



ช่างโชคดีเสียนี่กระไร”

“ที่บังเอิญมันไปเข้าตาของ High Evolutionary ผู้นี้เข้า”


“ชั้นล่ะ กระสันอยากจะสร้างอะไรใหม่ๆ จนเนื้อเต้นแล้วสิ!”



โอ้ว แม่จอร์ช เหล่าเด็กที่มีพัฒนาการที่สมบูรณ์แบบ

ต้องมาเจอะกับ ตัวร้ายที่บ้าการวิวัฒนาการ!

แบบนี้ เหล่า Avengers จะทำอย่างไร!!

   

 

Avengers #13

  


   

ได้เวลาที่งานจะงอกกลางพงไพร!

     

     


 

จบแล้วจ้าาาาาาา

10 thoughts on “Avengers #12

  1. RedRaven

    เสียว จริงๆเลย ถ้า เกิดโทนี่ งานเข้ามีงานลุยขึ้นขึ้นมา การเชื่อมต่อขาดไปนี่วุ่นแหง

  2. mr robot

    ใครก็ได้มาตบเกรียน สไปเดอร์ ออค ที…….

  3. panupong

    เล่มนี้จะสนุกมากว่านี้ ถ้าสไปเดอร์-แมนคือไสปเดอร์แมน(จริงๆ)

  4. ezkore

    อ่านงง ๆแต่คำพูดหลายคนให้ข้อคิดดี ๆครับ
    แม้ว่าจะยังไม่เคยทำได้ก็ตาม – -*

  5. St.Valentinus

    งานนี้ท่าจะมีอีโวกันยาวยิ่งกว่าแมลงสาป

  6. seventoon

    จับคู่ได้เลวร้ายมาก จอมเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตให้วิวัฒ ขึ้นกับสิ่งมีชีวิตที่เกือบจะสมบูรณ์ – -*

  7. ThailandMarvelFigureReview

    เริ่มชอบHyperionมากกว่าSentryแล้วนะเนี่ย คนนี้มีสมองมีหลักการ ไอ้นั้นมีแต่คำโม้และจิตอ่อน เหลือแค่ว่า เมื่อไหร่จะได้เหนHyperionโชว์ความเมพแบบสุดๆซักที เอาให้เกรียนซุป,เซนทรี่ เงิบไปเลย
    ชอบSpider-Ockจริงๆ เกรียนได้ใจ อย่ากลับมาเลยนะPeter

  8. The cap.

    เอ่อ ใครตอบผมได้บ้างว่านอกจากเลี้ยงเด็กแล้ว พี่ฮายทำอะไรอีกบ้าง

  9. @bankkung

    ครึ่งหนึ่งในกล่มนี้ > ครึ่งหนึ่งในกลุ่มนี้
    และพูดแทรกบทสนธนา > และพูดแทรกบทสนทนา
    อิฐก้อนแรกอิฐที่เป็นพื้นฐาน > อิฐก้อนแรก อิฐที่เป็นพื้นฐาน
    อุดมไปด้วยไวท์มากมาย > อุดมไปด้วยไวน์มากมาย
    ของรางวัญของเรา > ของรางวัลของเรา
    ข้าว่าวพกเรา > ข้าว่าพวกเรา
    อะไรแบบนั้นไม่ใช้เหรอ > อะไรแบบนั้นไม่ใช่เหรอ
    คืองี้ผมน่ะก้เคยเป็น > คืองี้ผมน่ะก็เคยเป็น
    เจ้ามีลูกเป็นของตัวเองรึเปล่า? > เจ้ามีลูกหรือเปล่า?
    และเด็กผ้าเตี่ยวสี่นำตาย > และเด็กผ้าเตี่ยวสี่นำตาล
    สวัดสดี > สวัสดี
    จำเป็นต้องอาศัยอากาศ อาศัยโลกที่หยิบ > จำเป็นต้องหายใจด้วยอากาศ แผ่นดินที่เหยียบยืน
    แต่ถ้าพวกนั้นโดนตัด > แต่ถ้าพวกนั้นโดนบาด เลือดก็ไหลนะเออ

    ปล. เว้นวรรคแปลกๆ ตรึมเลยครับ ถ้าแปะตรงนี้คาดว่าจะยาวกว่าสปอยล์ -___-)

  10. DOL Post author

    @bankkung:
    ขอบคุณมากจ้า
    แก้เรียบร้อยแล้วเด้อ ตรงไหนเว้นวรรคแปลกๆ ก็บอกได้เต็มที่เลยนะครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *