เปิดจักรวาล VALIANT!

Robert Venditti | Cary Nord | Stefano Gaudiano | Moose Baumann

Valiant Entertainment | April 25th, 2012

..

..

ขอต้อนรับสู่

X-O

MANOWAR

เมื่อปีคริสตศักราช 402

*เกร็ดประวัติศาสตร์

                คริสตศักราช 376: อาริค แห่ง ดาเซีย ถือกำเนิด

                คริสตศักราช 376: เผ่าฮั่นเข้ารุกรานดาเซีย ชาววิสิก็อธอพยพลงใต้

                คริสตศักราช 395: อาลาริค ขึ้นครองตำแหน่งกษัตริย์แห่งวิสิก็อธ

(ปัจจุบัน)

คริสตศักราช 402– สงครามทุ่งโพเล็นเทีย:

                วิสิก็อธ ปะทะ โรมัน

                กษัตริย์อาลาริคที่1 ปะทะ ฟลาเวียส สติลิโค

 

เกร็ดความรู้ – วิสิก็อธ

ชาวนอแม็ดพื้นเมือง, เป็นเผ่าเร่ร่อนที่อยู่อาศัยด้วยการกสิกรรม มักตั้งรกรากอยู่บริเวณลำน้ำสายหลักติดชายแดนโรมัน

ระดับความมั่งคั่ง

วัดจากจำนวนวัวที่ได้ครอบครอง

คติประจำใจ

“ความสุขประหนึ่งยอดอาชา” – ม้าเป็นสัตว์ที่ทรงค่ายิ่งในขนบของชาววิสิก็อธ ศพของนักรบชาววิสิก็อธมักถูกฝังร่วมกับม้าคู่ใจของพวกเขา

ยุทโธปกรณ์

ซาห์ส (มีด)

อักจา (ดาบสั้น)

ไกซิส (หอกไม้)

สกิลดัส (โล่ห์กลม)

เกร็ดความรู้ – โรมัน

อารยธรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งกินอาณาเขตตั้งแต่ยุโรปตะวันตกจนถึงเอเชียกลาง แหล่งพลังเหนือธรรมชาติแห่งโลกบรรพกาล

ระดับความมั่งคั่ง

บรรดาเศรษฐีจะปกครองทาสราว 500 คน ขณะที่จักรพรรดิมีทาสในปกครองไม่น้อยกว่า 20,000 คน

ช่วงมรณกรรมที่คาดหวัง

ตัวเลขอายุขัยที่คนวัยเด็กคาดหวังไว้เฉลี่ยแล้วเท่ากับ: 28 ปี

ตัวเลขอายุขัยที่คนวัย 15 ปีคาดหวังไว้เฉลี่ยแล้วเท่ากับ: 52 ปี

ยุทโธปกรณ์

พักจิโอ้ (กริช)

สปาธ่า (ดาบยาว)

ฮาสทา (ทวนเหล็ก)

พลัมบาตา (หลาวขว้าง)

 

..

ทหารวิสิก็อธ1: พวกโรมัน แฮ่ก แฮ่ก ช่างเหิมเกริมเป็นบ้า – –

ทหารวิสิก็อธ2: แฮ่ก แฮ่ก

ทหารวิสิก็อธ1: แต่ข้าไม่คิดเลยว่าพวกมันจะกล้าถึงขนาดนี้ วันอีสเตอร์น่ะเป็นวันสักการะ ไม่ควรมาก่อสงคราม

ทหารวิสิก็อธ2: กลัวอะไร เรามันทหารของพระเจ้า – –

ทหารวิสิก็อธ2: พระองค์จะช่วยเราลงทัณฑ์พวกโรมันใจบาปเหล่านั้นเอง

ทหารวิสิก็อธ1: ข้าก็หวังเช่นนั้น… เพราะตอนนี้ดูเหมือนเราต้องพึ่งพาทุกความช่วยเหลือที่ยื่นเข้ามาแล้ว

ทหารวิสิก็อธ2: โอย พระเจ้าช่วย – –

“พวกมันเล่นยกมาหมดทั้งจักรวรรดิตะวันตกเลยนี่หว่า!”

ทุ่งโพเล็นเทีย, ทางตอนเหนือของอิตาลี่

VALIANT ENTERTAINMENT

ภูมิใจนำเสนอ

X-O MANOWAR #1

: ตำนานแห่งดาบและสมรภูมิ

..

แม่ทัพโรมัน: เตรียมศิลาเพลิง สั่งสอนให้พวกคนป่าสำนึกในบารมีแห่งจักรวรรดิโรมันเสียบ้าง

“วิสิก็อธตั้งขบวน!”

 

 

สติลิโค: ยิงศิลาเพลิง!

 

อ๊ากกกกกก!!

ทหารเอก: กษัตริย์อาลาริค! กระสุนเพลิงของพวกโรมันร้ายกาจเกินไป! ขบวนทัพเราแตกแล้วพะยะค่ะ!

อาลาริค: ข้าขอสาปแช่งแม่ทัพสติลิโคเจ็ดชั่วโคตร! มันสั่งยิงกระสุนเพลิงเพราะกลัวเผชิญหน้าเรากลางสมรภูมิ! เก็บแรงไว้เถอะ รอโอกาสโต้กลับในแบบเรา!

ทหารเอก: พะยะค่า ฝ่าบาท!

อาลาริค: ส่วนเจ้า อาริค พาคนของเจ้าถอยกลับไปเถิด! กาลข้างหน้าเรายังมีโอกาสได้ประดาบกับสติลิโคอีก!

 

กัฟติ: อาริค ทำตามที่‘เด็จลุงของเจ้าว่าเถอะ พวกเราแพ้แล้ว

อาริค: ไม่มีทาง เรายังมีโอกาส กัฟติ เราต้องเข้าโรมรัน ต้องทำให้พวกมันเป็นฝ่ายตั้งรับ

กัฟติ: เกลี้ยกล่อมเขาหน่อยสิ รอล์ฟ เขาคือบุตรท่านนะ

รอล์ฟ: เวลามันขึ้นแบบนี้ทีไร ข้าพูดยังไงก็เอาไม่ลง

 

อาริค: นี่ไม่ใช่เวลาจะมาขึ้นๆ ลงๆ อะไรทั้งนั้น ตอนนี้คือเวลาประจัญบาน!

 

 

อาริค: จงสงบไว้ เหล่าวิสิก็อธ! เราต้องแสดงธาตุแท้ของเราให้ไอ้พวกโรมันเห็น!

ทหารเลว: ไอ้ที่นอนแอ้งแม้งอยู่นั่นไงเล่าธาตุแท้ของเรา! ท่านยังจะให้เรายืนเป็นเป้านิ่งอยู่ตรงนี้อีกรึไง!

 

“พี่น้องข้า”

“นานเท่าไหร่แล้วที่เราต้องร่อนเร่ในดินแดนแห่งนี้”

“นานเท่าไหร่แล้วที่พวกโรมันใช้เราอย่างทาสในยามสงคราม และล้างบางเราทั้งหมดเมื่อเสร็จศึก”

“แล้วเราต้องรอถึงเมื่อไหร่ เมื่อบุตรหลานของเราตาย หรือชู้รักของเรากลายเป็นทาส”

..

“ไม่อีกแล้ว”

“วันนี้ ในยามที่ครอบครัวเราเฝ้ารออยู่เบื้องหลัง”

“เราจะปกป้องทุ่งแห่งนี้เฉกเช่นมันเป็นของเรา เราจะชูดาบแล้วบอกศัตรูเราว่า ‘ตายซะเถอะ’”

“เพื่อบิดามารดร ท่านจงสู้”

“เพื่อลูกเพื่อหลาน ท่านจงสู้”

“และเพื่อแผ่นดินที่เรียกว่าบ้าน– -”

 

“ท่านจงสู้!”

 

รอล์ฟ: เจ้านี่หล่อเหมือนข้าไม่มีผิด แต่เรื่องเจ้าอารมณ์นี่สงสัยคงได้แม่มาเต็ม

ย๊ากกกกกกกกก!!!

ฉึบ ฉับ ฉึบ ฉับ

รอล์ฟ: พวกมันมีเยอะเกินไป!

อาริค: ใจเย็นๆ ฆ่าไปทีละคน

ทหารชั้นประทวน: ฝ่าบาท! พวกโรมันส่วนหนึ่งมุ่งไปที่ค่ายของเราแล้ว!

อาลาริค: กลับค่าย! ครอบครัวของเรากำลังมีภัย!

รอล์ฟ: บ้าฉิบ! เราโดนตลบหลัง!

รอล์ฟ: อาริ- – อั่ก!

อาริค: ไม่นะ!

อาริครีบแบกร่างของบิดาขึ้นหลังม้า

อาริค: ทนไว้นะ ท่านพ่อ!

ทหารโรมัน: อย่าหนีนะโว้ยไอ้ป๊อด

แต่อาริคจำใจต้องไป ด้วยห่วงในชีวิตบิดา

ทหารโรมัน: ไอ้ป๊อด! ไอ้ป๊อด!

ค่ายวิสิก็อธ

บริเวณตอนเหนือของอิตาลี่

ภายหลังจากการยึดคืน

อาริค: พวกโรมันเลิกไล่ล่าเราแล้ว… และตอนนี้เราได้ค่ายของเราคืน

รอล์ฟ: แล้ว… อิงก้า แม่ของเจ้าล่ะ

อาริค: ก่อนที่เราจะยึดค่ายคืนได้ พวกโรมันพาตัวนักโทษจำนวนหนึ่งออกไปก่อน แม่เป็นหนึ่งในนั้น ลุงอาลาริคกำลังเจรจาเพื่อขอตัวพวกนางคืน… ตอนนี้พวกท่านกำลังมุ่งสู่โรม

รอล์ฟ: งั้นปล่อยข้าเท่งทึงเถอะ ตอนนี้ยังมีโอกาส เจ้าไปอยู่กับเมียเจ้าเถอะ

อาริค: เดเดรถูกนำตัวไปด้วยเหมือนกัน แต่เราจะไล่ตามไป และเราจะฆ่าพวกโรมันทุกตัวที่ขวางทางเรา

อาริค: และนี่ดาบของพ่อ ข้าเก็บมาจากสมรภูมิด้วย ท่านจะได้กวัดแกว่งมันอีกครั้ง

รอล์ฟ: ทิ้งมันไปเถอะ มันเป็นดาบที่ไร้ประโยชน์เหลือเกิน

อาริค: ข้าเห็นท่านตีมันขึ้นมาด้วยตัวเอง! มันคือดาบที่คนทั้งกองทัพล้วนแต่ริษยา!

รอล์ฟ: เฮอะ เช่นนั้นพวกทหารก็คงมีแต่พวกโง่งม ดาบเล่มนี้ไม่อาจหยุดพวกฮั่นที่ไล่เราออกจากดาเซียได้… ซ้ำมันยังไม่สามารถช่วยเรายึดครองดินแดนใหม่ได้อีกต่างหาก

รอล์ฟ: พวกโรมันมีทั้งเครื่องยินฉมวกและศิลาเพลิง กำแพงพวกมันก็ยังสูงและแกร่ง พวกเรามีเพียงดาบและสมรภูมิ มันไม่เพียงพอหรอก

อาริค: แต่ – –

รอล์ฟ: มันไม่เคยเพียงพอ

พูดไม่ทันขาดคำ เฒ่ารอล์ฟก็สิ้นใจตายไปในที่สุด

อาริค: พวกโรมันอยู่ไกลออกไปทางปราการตะวันตก ทหารทุกนายเตรียมอาวุธ! ท่านพ่อเอ๋ย ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าดาบของท่านไม่ได้ไร้ค่า ข้าสาบาน!

กัฟติ: ดูเหมือนวันนี้ท่านจะไม่ยอมยุติง่ายๆ สินะ

อาริค: ก็ถ้าไอ้พวกขี้ข้าของสติลิโค่คิดจะมาเก็บซากทหารฝ่ายเรา – –

อาริค: ข้าก็จะเอาเลือดพวกมันเซ่นสังเวยเสียเลย!

กัฟติ: ท่านเห็นพาหนะลำมหึมานั่นมั้ย อาริค?

กัฟติ: ถ้าลูกเมียของเราถูกขังไว้ในนั้นจริงๆ ข้าว่าเราควรเรียกกองหนุน

อาริค: เดเดร…

ทหารชั้นผู้น้อย: ท่านกัฟติพูดถูก เราไม่รู้ว่าพวกมันหลบอยู่ในยานลำยักษ์นั้นกี่มากน้อย เราควรส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

แก๊งงงงงง!

ประจัญบานเลยสิโว้ย!

(ทหารชั้นผู้น้อย: ท่านว่าไง ไอ้กระผมก็ว่าตามล่ะครับ)

อาริค: ยึดพื้นที่ได้แล้ว เตรียมรุกเข้ายานช่วยตัวประกัน

กัฟติ: ทหารพวกนี้มันแต่งตัวอะไรของมัน… แล้วนี่คืออาวุธประเภทไหนกันแน่

กัฟติ: โห พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!

ทันทีที่ถอดหน้ากากออก พวกเขาก็ได้เห็นโฉมหน้าราวปิศาจร้ายของฝ่ายตรงข้าม เฮ้ย! นี่มันตัวอะไรกันแน่?

อาริค: สติลิโคมันเป็นพวกชอบจ้างทหารจากทุกสารทิศ มันคงไม่เลือกหรอกมั้งว่าทหารที่ว่าจะเป็นมนุษย์ – – หรือว่าสัตว์ – – ขอแค่พวกมันพร้อมรับใช้ก็พอ

แล้วทันใด ประตูยานก็เปิดออก!

กัฟติ: ท่านว่าไงนะ?

ค่ายวิสิก็อธ

คนลึกลับกลุ่มหนึ่งแอบลอบเข้ามาในค่าย พวกเขาพาอะไรบางอย่างมาด้วย และเมื่อพวกเขาพบจุดหมายของแต่ละคน พวกเขาก็แยกย้ายกับปฏิบัติการ…

คนลึกลับคนหนึ่งดึงเส้นผมของเด็กทารกออกมาแล้วใส่เข้าไปในหลอดฉีด

จากนั้นก็ฉีดสู่ร่างของทารกน้อยอีกคนที่พามาด้วย

แต่ทว่า… ทารกนั้นไม่ใช่มนุษย์!

ทารกกีกี้: กรี๊กรี๊กรีกรี่กรี้กรี๊

แล้วจู่ๆ ทารกกี้ก็ค่อยๆ กลายร่าง เป็นทารกมนุษย์ไปด้วยฤทธิ์ยา!

คนลึกลับแอบสับเปลี่ยนร่างทารกมนุษย์กับทารกกี้และหนีออกไปก่อนที่แม่เด็กจะพบ

แม่เด็ก: เอวาจิส

แม่เด็ก: เอวาจิสลูกแม่

ทารกกีกี้: กรี๊กรี๊ – – อุแว้

แม่เด็ก: พวกนักรบจะปกป้องเรานะลูกรัก…

ทารกกีกี้: แอร๊ย

“บุก!!!”

 

กระชับพื้นที่!

 

ปลิดชีพพวกมันให้สิ้นซาก!

 

เพล้ง!!

..

(ดาบหักจ้ะ)

อาริค: ง่ะ

ระหว่างอึ้งอยู่นั้น เจ้าหุ่นยักษ์ก็ซัดเข้าด้วยหลังมือ

ขณะที่กัฟติก็ถูกต่อยเข้าเต็มหน้า

ทันทีที่เสร็จศึก มนุษย์กี้ผ้าคลุมม่วงก็กลับมาถึงพอดี

มนุษย์กี้: การแทรกซึมสำเร็จแล้ว ผู้บัญชาการทริลล์

ผู้บัญชาการทริลล์: เยี่ยมมาก ฅนอื่นๆ ก็กลับมากันแล้ว พวกเจ้าพาพวกที่รอดชีวิตขึ้นยานมาเถอะ

ผู้บัญชาการทริลล์: ถึงเวลาออกเดินทางกันสักที

แล้วยานลำใหญ่ก็มุ่งหน้าไปพลัน

ออกไปยังนอกโลก

ออกไปรวมกลุ่มกับยานลำอื่นๆ ทั้งกองทัพ

..

ในอวกาศอันไกลโพ้น

บนยานแม่ของจักรวรรดิไวน์

“ตั้งแถว พวกมดปลวก!”

กัฟติ: นี่มันบ้านไหนเมืองไหนวะเนี่ย?

กัฟติที่ถูกจับมาด้วยกันเดิมตามอาริคไป แต่ทันใดก็เห็นเพื่อนรักทรุดหมอบลง

กัฟติ: อาริค!

ที่แท้อาริคมีแผนอยู่แล้ว

ทันทีที่ไอ้ทหารแมลงเข้าใกล้ อาริคก็ใช้อาวุธที่ซ่อนไว้สังหารมันซะ!

“รีบเข้า ก่อนที่พวกมันจะรู้ว่าเราหนี” 

กัฟติ: พวกมันมาทางนี้! หลบก่อน!

อาริค: ข้าคิดผิดไปเสียถนัด – – ไอ้พวกนี้ไม่ใช่ทหารรับจ้างของพวกโรมัน มันเป็นอะไร… อีกอย่างหนึ่ง

อาริค: เราคงไม่เจอลูกเมียของเราที่นี่แล้วล่ะกัฟติ ถ้าเราคิดจะช่วยเดเดร ก่อนอื่นเราต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อน

กัฟติ: แล้วเราจะหนียังไงล่ะ อาริค?

 

“แด่ชุดเกราะแห่งชานฮาร่า – -”

 

“เราหวังว่าพวกท่านจะเห็นแก่ศรัทธาแห่งเหล่าเรา”

“เราขอท่านสำแดงเดชของท่านในวันนี้”

 

มหาปราชญ์: ผู้บัญชาการพิธ เห็นแกที่ท่านมีผลงานอันดี ท่านจึงถูกเลือกให้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่

มหาปราชญ์: ขอให้ชาฮาร่าประทานพรแด่ท่าน

ผู้บัญชาการพิธ: ตูก็หวังงั้นเหมือนกันล่ะฟะ

แสงเปล่งประกายจากลูกทรงกลมสีน้ำเงิน ชิ้นส่วนต่างๆ แยกจากกัน แล้วประกอบใหม่บนร่างผู้บัญชาการ

กัฟติ: เหล็กกล้า… เคลื่อนไหวเองได้ ท่านเคยได้ยินเรื่องแบบนี้รึเปล่า?

อาริค: ในนิทานยังไม่มีแบบนี้เลย

กัฟติ: นั่นคือกษัตริย์ของพวกมันรึ?

อาริค: ข้าก็ไม่แน่ใจ ว่าที่ทุกคนก้มหัวให้นั้นคือไอ้… ไอ้ตัวนี้ หรือว่าชุดเกราะ?

ระหว่างที่พวกเขาไม่ทันระวัง ศัตรูก็พบเขาแล้ว

กีกี้ชั้นผู้น้อย: จะให้ฆ่าเลยมั้ยครับ ผ.บ.ทริลล์

อาริค: ไอ้พวกกี้ ถ้าพวกแกไม่ใช้อาวุธนะ พวกแกฉะกับข้าไม่ไหวหรอกโว้ย

ผู้บัญชาการทริลล์: พูดไรอ่ะ ฟังไม่รู้เรื่อง

ผู้บัญชาการทริลล์: ปล่อยมันไว้ก่อน ดูซิว่ามันจะทรยศเราอีกมั้ย

อาริค: สักวันเถอะเอ็ง

ผู้บัญชาการทริลล์: เอามันเข้าตะรางเหมือนคนอื่นๆ

“ข้าสัมผัสได้… ชานฮาร่ากล่าววาจากับข้า…”

“พลัง… พลังมหาศาลทีเดียว”

“อั่กกก!”

“กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊กรี๊”

 

เผละ

 

“พวกเราล้มเหลวอีกแล้ว!”

“แม้กระทั่งผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่ได้ผล!”

 

มหาปราชญ์: เกราะศักดิ์สิทธิ์แห่งชานฮาร่าไม่ประทานพรแด่ผู้บัญชาการพิธ… ท่านจะยอมศิโรราบก็แต่เฉพาะผู้ที่สมควร

มหาปราชญ์: ขอให้ทุกฅนจงอย่าสูญศรัทธาเช่นที่มหาปราชญ์อย่างข้าศรัทธา

มหาปราชญ์: แล้ววันหนึ่งปริศนาจะคลี่คลายเอง

“จงรอจนวันนั้นมาถึง”

 

กัฟติ: มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อาริค?  สิ่งที่เราเห็นในห้องคืออะไรกันแน่?

อาริค: ข้าก็ไม่รู้ กัฟติ เท่าที่ข้ารู้คือ พวกมันไม่ค่อยให้ความสำคัญกับพิธีปล่อยยานรบสักเท่าไหร่

 

อาริค: พวกโหงพรายเหล่านี้… มันครองอาวุธมหาประลัย ที่ทำให้ดาบของเรามีค่าไม่ต่างจากเศษไม้

อาริค: และถ้าคิดจะฆ่าพวกมัน เราต้องครอบครองอาวุธที่เทียบเทียม เราต้องเข้าไปในห้องนั้น แล้วเอาอาวุธของพวกมันมาใช้

 

อาริค: จากนั้นเราจะหนี

อาริค: เราจะบุกตีโรมันให้สิ้น ตั้งแต่หน้าเมืองยันท้ายเมือง ให้มันได้รู้ความรู้สึกของผู้ถูกกระทำบ้าง

อาริค: ยิ่งไอ้ฉิบหายที่ล่ามโซ่เมียข้า ไอ้นั่นมันต้องโดนก่อนเพื่อนเลย

..

โปรดติดตามตอนต่อไป!

😉

____________________________________________________

เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย*

VALIANT คืออะไร?

 

วาเลียนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาจเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูผู้อ่านคอมิคชาวไทยสักเท่าไหร่ แต่สำหรับนักอ่านอเมริกันชนที่เติบโตขึ้นมาในยุค ’90 เชื่อว่าพวกเขาต้องคุ้นหูกับชื่อนี้แน่ๆ ครับ เพราะวาเลียนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ หรือที่เมื่อก่อนมีชื่อว่า วาเลียนท์ คอมิค นั้นเคยเป็นหนึ่งในสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ระดับเอคลาส ที่ผุดขึ้นมาแก่งแย่งลูกค้ากับมาร์เวลและดีซีได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

วาเลียนท์ คอมิคส์ถูกก่อตั้งขึ้นโดยจิม ชู้ตเตอร์และบ๊อบ เลย์ตั้น ในปี 1989 เชื่อว่าแฟนมาร์เวลคงคุ้นหูกับชื่อทั้งสอง เพราะนี่คือหัวหอกผู้อยู่เบื้องหลังตัวละครหลายๆ ตัวของมาร์เวล วาเลียนท์คอมิคใช้เวลาเพียงห้าปีในการสร้างจักรวาลที่มีตัวละครมากกว่า 1,500 ตัวและสร้างนักอ่านที่สนับสนุนให้สำนักพิมพ์กลายเป็นสำนักพิมพ์คอมิคยักษ์ใหญ่อันดับสามแห่งอเมริกาในยุคนั้น

ทว่าต่อมาเมื่อผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่อุปถัมภ์มาตลอดถอนตัวเมื่อปี 1994 วาเลียนท์ คอมิคก็จำต้องขายตัวเองให้กับใครก็ได้ที่มีเงินซื้อ และผลมาออกที่ แอคเคลม คอมิค (Acclaim Comics) บริษัทพัฒนาเกมและการ์ตูนรายใหญ่ ทีแรกทางแอคเคลม คอมิคยังคงตีพิมพ์การ์ตูนของวาเลียนท์อยู่ แต่แล้วในปี 2003 แอคเคลมก็ประสบปัญหาเดียวกันกับที่วาเลียนท์เคยประสบ นั่นคือปัญหาทางการเงิน

แอคเคลม คอมิคประสบภาวะล้มละลาย จักรวาลวาเลียนท์ที่เคยยิ่งใหญ่คล้ายว่าจะจบสิ้นไปนับแต่นั้น

 

กำเนิดใหม่ สู่ VALIANT ENTERTAINMENT!

แต่แล้วในปี 2005 ก็มีชายสองคนปรากฏตัวขึ้นมาและกว้านซื้อลิขสิทธิ์ตัวละครดั้งเดิมของวาเลียนท์ทั้งหมดกลับคืน คนหนึ่งคือดิเนช ชัมดาสานี และอีกคนหนึ่งคือ เจสัน โคธารี ไม่มีใครรู้จักทั้งสองคน พวกเขาปรากฏตัวขึ้นมาในวงการคอมิคอย่างลึกลับ และจากนั้นพวกเขาก็ก่อตั้งสำนักพิมพ์วาเลียนท์ใหม่ขึ้น ในชื่อ วาเลียนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์

แล้วดิเนช กับ เจสันเป็นใคร?

ทั้งสองคนไม่เคยมีผลงานใดๆ ในโลกการ์ตูน และไม่ใช่ทั้งผู้บริหาร, นักเขียน, ศิลปิน ฯลฯ ของค่ายใดๆ ทั้งนั้น พวกเขาทั้งสองคนเป็นเพียงแฟนคลับชาวต่างชาติของค่ายวาเลียนท์ที่ไม่อยากให้ชื่อของสำนักพิมพ์ซึ่งตัวเองหลงใหลในวัยเยาว์หายสาบสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์เท่านั้น! ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามอย่างยิ่งยวดในการรวบรวมตัวละครที่กระจัดกระจายไปแล้วให้กลับมารวมกัน แม้นั่นจะทำให้พวกเขากลายเป็นศัตรูกับยักษ์ใหญ่อย่างมาร์เวลและดีซีที่คิดแย่งตัวละครเหล่านั้นไปประดับจักรวาลตนเองด้วยก็ตาม

และในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ ชายหนุ่มสองคนกับความหลงใหลในวัยเยาว์ ได้ทำให้สำนักพิมพ์ซึ่งเคยเป็นดั่งตำนาน ถือกำเนิดอีกครั้งในนาม วาเลียนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์

ไม่ใช่นักแสดงจากซีรี่ย์ Big Bang Theory แต่อย่างใด แต่ทั้งคู่คือ เจสัน (ซ้าย) กับ ดิเนช (ขวา) นั่นเอง

 

ขอต้อนรับสู่ VALIANT UNIVERSE

ดิเนชและเจสันวางแผนอยู่หลายปี จนกระทั่งปีที่แล้วนี่เอง พวกเขาตัดสินใจจุดบิ๊กแบงเปิดจักรวาลใหม่ให้กับวาเลียนท์ โดยการออก ซีรี่ย์เรื่องยาว 5 หัวเรื่อง ได้แก่

• X-O Manowar
• Harbinger
• Bloodshot
• Archer & Armstrong
• Shadowman

ซึ่งทั้งห้าหัวล้วนแต่เป็นตัวละครที่โด่งดังจากวาเลียนท์เดิม ทว่าทางสำนักพิมพ์ไม่ได้ดำเนินเรื่องต่อจากที่เคยหยุดไว้ พวกเขาเริ่มต้นใหม่ ใช้ตัวละครเดิม ต้นกำเนิดเดิม นำมาปรับเปลี่ยนประยุกต์ให้เข้ากับเรื่องราวใหม่ๆ ผู้อ่านที่ไม่เคยรู้จักวาเลียนท์มาก่อนก็ไม่มีปัญหาที่จะติดตาม จักรวาลวาเลียนท์ถูกรีบู๊ตแล้ว

จากซ้ายไปขวา อาร์เชอร์ และ อาร์มสตรอง | บลัดช็อท | กลุ่มฮาร์บิงเกอร์กบฏของปีเตอร์ สแตนเช็ก | 

อาริคผู้สวมเกราะชานฮาร่า | ไร | เอเทอร์นัล วอร์ริเออร์

ทั้งหมดคือตัวละครหลักและรับเชิญในห้าซีรี่ย์ใหม่ของวาเลียนท์

ออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่เคยอ่านคอมิคของวาเลียนท์เดิมเลย เพิ่งมาเริ่มตอนวาเลียนท์ใหม่เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ถ้าใครที่ติดตามข่าวสารวงการอยู่บ้างคงรู้ว่าวาเลียนท์ใหม่เป็นลูกรักของนักวิจารณ์และเป็นม้ามืดที่ขึ้นมาครองใจหมู่นักอ่านในปีที่แล้ว เพราะชื่อเสียงในด้านบวกมหาศาลนี่แหละครับ ทำให้ผมตัดสินใจหาคอมิคของค่ายนี้มาอ่าน และพบว่า มันสนุกมาก

เมื่อไม่นานมานี้ ผมเจอบทสัมภาษณ์ของบ๊อบ เลย์ตั้น หนึ่งในสองผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์เก่าซึ่งให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อครั้งสร้างวาเลียนท์ คอมิคในช่วง ’90

“เดี๋ยวนี้พวกคอมิคหัวดังๆ ในกระแสน่ะ ขับเคลื่อนไปด้วยงานภาพอย่างเดียว แต่เราอยากให้สิ่งที่คอมิคในตอนนี้ขาดหายไป นั่นคือปูมตัวละครที่จะขับดันเรื่องราวด้วยบทชั้นยอด”

และเสน่ห์ตรงนี้เองครับที่ยังคงอยู่แม้ในวาเลียนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ใหม่ซึ่งเพิ่งคลอด ฮีโร่ของวาเลียนท์ไม่ใช่ยอดมนุษย์สูตรสำเร็จที่เป็นคนดีมีพลังวิเศษและคอยปราบวายร้ายซึ่งชอบสลอนหน้าออกมาให้พระเอกต่อยอยู่ทุกๆ ตอน หากแต่เป็นผู้มีพลังพิเศษซึ่งถูกโยนเข้าสู่สถานการณ์หนึ่งๆ และไอ้สถานการณ์ที่ว่านี้แหละครับที่ทำให้ตัวละครพัฒนา และต้องตัดสินใจอันนำพาเรื่องราวของเราไปยังเล่มต่อๆ ไป ดังนั้นจึงไม่มีการอ่านเฉพาะตอนใดตอนหนึ่งแบบอ่านมาร์เวลและดีซี แต่ต้องอ่านไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจบ

และอีกอย่างหนึ่งก็คือ วาเลียนท์ เอ็นท์เตอร์เทนเมนท์มีการวางแผนอย่างดี พวกเขาออกซีรี่ย์มาเพียงห้าเรื่อง แต่ก็มีการปูเรื่องให้กับตัวละครหลักเก่าๆ ของค่ายเผื่ออนาคตไว้ด้วย ซึ่งถือเป็นการสร้างแฟนคลับหน้าใหม่ให้กับตัวละครที่ยังไม่มีหัวเรื่องของตัวเองไปในตัว เช่นนำ Ninjak มารับเชิญใน X-O Manowar พา Archer และ Armstrong ไปกัดกับ Eternal Warrior หรืออย่างล่าสุด H.A.R.D. Corps หน่วยปราบปรามเหล่า Harbinger อีกหนึ่งทีมฮีโร่ยอดฮิตเมื่อครั้งอดีตของค่ายก็กำลังจะเปิดตัวในเหตุการณ์ Harbinger Wars เล่มที่ 3 ในไม่ช้าเราคงจะได้เห็นซีรี่ย์หัวใหม่ๆ ของค่ายนี้ออกมามากขึ้นแน่ๆ

เมื่อ นินแจ๊ก ปะทะ แมนโอวอร์ ใน X-O Manowar #6

มหากาพย์ครอสโอเวอร์ยกพวกตีกันเหตุการณ์แรกของค่าย

Harbinger Wars

ช่วงนี้กำลังติดคอมิคค่ายนี้แบบหนึบหนับครับ ติดมากกว่ามาร์เวลหรือดีซีเสียอีก (ช่วยไม่ได้ Age of Ultron ก็มาแบบงงๆ ส่วน Trinity War ก็บิ๊วกันน้านนานจนขี้เกียจรอ) เลยหยิบเอา X-O Manowar ซึ่งถือเป็นซีรี่ย์แรกที่ออกมานับจากเปิดค่ายใหม่มาสปอยล์ให้ทุกท่านได้อ่าน ในเล่มแรกเรายังไม่เห็นอะไรมาก อาริคยังไม่ใส่ชุดเกราะ แต่ในเล่มต่อไปเขาจะกลายเป็นฮีโร่เต็มตัวแล้วล่ะครับ และผมคงนำมาสปอยล์ต่อไปในไม่ช้า

นอกจากนี้ผมกำลังคิดจะสปอยล์ Harbinger อีกสักซีรี่ย์ แต่ด้วยความที่มันจะครอสโอเวอร์กับ Bloodshot ก็เลยต้องคิดสักหน่อยว่าจะทำไหวมั้ย (แต่ถ้ามีแฟนคลับค่ายอินดี้มาช่วยทำ Bloodshot จะดีใจมากเลย ฮ่า :D)

หวังว่าทุกท่านจะชอบ X-O Manowar นะครับ และขอฝากค่าย Valiant ไว้ในอ้อมใจนักอ่านชาวไทยทุกท่านด้วยครับ