New Avengers #04

New Avengers #4

เรื่อง : Jonathan Hickman

ภาพ : Steve Epting

วางจำหน่าย : 20 มีนาคม 2013

สำนักพิมพ์ : Marvel Comics

   

เมื่อโลกคือต้นตอแห่งหายนะของจักรวาล ถึงเวลาที่ผู้กลืนกินโลกออกโรงบ้าง

บทที่ 4: World Eater

   

 

Necropolis

ประเทศ Wakanda

  

หลังจากเหล่า Illuminati เฉดหัวแถมล้างความทรงจำ Captain America ให้ไปอยู่ Avengers แล้ว

Tony Stark เหลือบดูนาฬิกาตัวเอง แล้วมองดูผลงานพิเศษของ Reed Richards กับ Black Panther

   

Tony:  ไอ้นี่เองสินะที่น้องนางเธอใช้น่ะ

 

Reed:  ใช่ เจ้านี่คืออัดฉีดให้ระบบเริ่มทำงาน (Injection Sequence)

 

Tony:  เพื่อให้ระเบิด?

 

Black Panther:  ไม่ใช่แค่ระเบิดหรอกนะ

Black Panther:  ที่ชั้นกับ Reed ทำอย่างแรกเลยก็วิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering)

Black Panther:  การค้นหาโครงสร้าง ฟังก์ชันการทำงานของระบบกลไกการจุดชนวน

Black Panther:  ตอนนี้ค่อนข้างชัดแล้วว่า Black Swan ใช้ Antiproton sling (สายพานอนุภาคที่มีประจุลบ)

Black Panther:  ทำลายโลกที่เธอเพิ่งจากมา

   

   

Tony เหลือดูนาฬิกาอีกครั้ง ก่อนจะพูดว่า

   

Tony:  ก็นะ ก็ต้องยอมรับหล่ะว่า

Tony:  การจะใช้ระเบิดปฏิสสาร (antimatter) เพื่อล้างโลก

Tony:  มันก็ต้องมีลูกเล่นอะไรกันบ้าง

 

Tony:  แล้วของพวกนายล่ะเสร็จรึยัง

 

Reed:  ยังไม่เสร็จเลย

Reed:  ต้องใช้เวลาอีกวันหรือมากกว่าในการออกแบบ

Reed:  แล้วก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกวันในการลองจำลองประสิทธิภาพในคอม

 

Tony:  โหยนานแหะ สงสัยจังว่าอะไรทำให้พวกนานทำงานกันนานจัง

Tony:  มีอะไรไม่เข้าที่เข้าทางเหรอ?

   

  

Reed:  พวกเราคิดต่างกันนิดหน่อยน่ะ

Reed:  Panther?

 

Black Panther:  ตัวต้นแบบน่ะ…..ออกแบบมาไม่ถูกต้อง

 

Reed:  พวกเราบางคนอยากเปลี่ยนจากมีดผ่าตัดรักษาคนให้เป็นดาบยักษ์ฆ่าคน

Black Panther:  แล้วพวกเราบางคนก็ใช้ดาบไม่เป็นเอาซะเลย!

 

Tony:  เออๆ ช่างมันเถอะ มาใส่เจ้าหมวกนี่กันดีกว่า

 

Tony ยื่นหมวกรูปทรงแปลกๆให้ทั้งสอง

   

  

Reed:  หมวกนี่รูปร่างอย่างกับ เครื่อง Omnicaster (เครื่องสำรวจดวงดาว?) ของ Shiar เลย

Reed:  แล้วถ้าชั้นดูไม่ผิดนะ นี่มันเทคโนโลยีระดับที่ใช้ในกองทัพเลยนะ

Reed:  อะไรเนี่ย Tony?

 

Black Panther:  แล้วอีกเรื่องนึง

Black Panther:  ทำไมแกต้องเอาแต่จ้องนาฬิกาแบบนั้นด้วยฟระ?

   

  

Tony:  เอาไว้เลี่ยงพวกสอดรู้สอดเห็นทั้งหลายน่ะ แปลว่า

Tony:  หมวกน้อยที่อยู่ในมือพวกนายตอนนี้เป็นหมือนประตูบานที่เล็กๆ

Tony:  ที่จะส่งสัญญาณพาไปยังอีกฟากของดวงอาทิตย์

 

Tony:  ตอนนี้เปิดประตูได้แล้ว ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย

 

Tony:  ออกไปเดินเล่นกันหน่อยดีกว่า

 

ว่าแล้ว Tony ก็สวมหมวกแล้วจากนั้นบางอย่างก็เกิดขึ้น…

   

     

ทั้งสามต่างวาร์ปมาอยู่อีกฟากหนึ่งของดวงอาทิตย์ น่าจะเป็นเครื่องจำลองภาพเสมือนจริง

ทำให้เหมือนทั้งสามอยู่ตรงนั้นจริงๆ มากกว่านะครับ

 

Tony:  ชั้นอยากจะโชว์ผลงานการแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆของชั้น

 

Reed:  ไม่น่าเชื่อเลย

 

Reed:  นี่นายกำลังสร้าง ดาวฤกษ์ไดสัน (Dyson sphere) เรอะ?

  

 ——————————————————————-

NOTE   
Dyson sphere 
เป็นความคิดเชิงทฤษฎีเกี่ยวกับการสร้างโครงสร้างขนาดยักษ์ในอวกาศ โดย Freeman Dyson
สรุปง่ายๆคือ เป็นการสร้างดาวฤกษ์จำลอง โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้พลังงานเหล่านั้นในเชิงอุตสาหกรรม

โดยคุณซามาโนสุเกะ แห่ง PANTIP ได้อธิบายไว้คร่าวๆ ว่า 

"Dyson sphere เป็นมหาสิ่งก่อสร้างที่  Freeman Dyson ตั้งทฤษฎีเอาไว้
คือแกตั้งทฤษฎีไว้ว่า ตราบใดที่ยังอยู่บนโลก มนุษย์ไม่มีวันเก็บเอาพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ทั้งหมด โลกเป็นแค่จุดๆเล็กๆจุดเดียวเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ 
ซึ่งหมายความว่ารับพลังงานแสงอาทิตย์ได้แค่นิดเดียวภิมหาสิ่งก่อสร้างที่ล้อมกรอบดวงอาทิตย์ทั้งดวงไว้
ตะแกเลยตั้งทฤษฎีว่า ถ้างั้นทำไมไม่สร้างโคตรอภิมหาสิ่งก่อสร้างที่ล้อมกรอบดวงอาทิตย์มิดชิดทุกด้านเลยล่ะ 
แบบนี้จะสามารถรับพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 100% ไม่มีวันที่แสงอาทิตย์จะหลุดรอดออกจากระบบสุริยะไปโดยเปล่าประโยชน์
 
ตามทฤษฎีที่ตานี่ตั้งไว้ สิ่งก่อสร้างที่ว่านี่จะเป็นวงแหวนล้อมรอบระบบสุริยะ(หรือล้อมรอบดวง อาทิตย์)
คอยรับพลังงานแสงอาทิตย์จากทุกด้าน 360 องศา และใช้ทรัพยากรของดาวเคราะห์ทั้งดวงในการสร้างมัน 
นั่นคือดาวเคราะห์ดงนึงจะหายไปเพื่อเอาเหล็กมาสร้างเจ้านี่
 
แต่แน่นอนว่ามันยังเป็นแค่ทฤษฎีที่ทำได้จริงยากมาก 
ตารี๊ด ริชาร์ดเลยตกใจโคตรๆที่เฮียโทนี่แอบสร้างไว้โดยไม่ใครรู้

   

  

Tony:  ชั้นว่าเรียกมันว่า Stark Sphere (ดาวฤกษ์สตาร์ค) ดีกว่า

Tony:  แต่ก็อย่างที่เห็นบริษัทกำลังใช้มันเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ชั้นต้องหาคนที่เซียนวิชาการตลาดมากกว่านี้

 

Tony:  ถ้างานนี้เสร็จระยะแรกไปแล้ว

Tony:  มันจะช่วยให้เราสามารถจับ ควบคุมพลังของดวงทิตย์ของเราได้

 

Black Panther:  นี่นายกะจะเปลี่ยนมันเป็นอาวุธสินะ

 

Tony:  ชั้นกำลังคิดว่าถ้าสถานการณ์

Tony:  มันบีบให้ชั้นต้องกลับไปธุรกิจสร้างอาวุธอีกล่ะก็

Tony:  ….ทำไมไม่ใช้ของนอกไฮโซไปเลยล่ะ

   

 

Tony:  พอดีว่าชั้นพอจะมีเส้นสายดีๆอยู่ใน Shi’ar บ้าง

Tony:  ช่วยให้ชั้นหาเหล็กแจ่มๆ มาซื้อได้

(เส้นสายที่ว่านี้ อาจจะเป็น Smasher จาก Avengers ก็ได้นะครับ)

  

Tony:  คิดว่าโครงการนี้อีกเดือนเดียวก็เสร็จ

 

Black Panther:  น่าประทับใจมาก Anthony

 

Tony:  ก็น่าประทับใจพอตัวอ่ะนะ

Tony:  เราต้องรอให้งานมันเสร็จไปได้ราวสองเปอร์เซ็นก่อนแล้วจากนั้นค่อย…

Tony:  ….ก็นะจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีละกัน เอาเป็นว่าตอนนี้มาคิดชื่อให้มันก่อนดีกว่า

 

ไม่ทันไร Reed ก็นึกชื่อนึงออกมาได้ทันที

 

Reed:  Sol’s Hammer

 

Tony:  ว่าไงนะ

      

     

“เรียกมันว่า Sol’s Hammer”



 

Sanctum sanctorum

(ห้องทำพิธีกรรมลึกลับ)

ของ Dr. Strange

  

หมอแปลกได้อ่านตำราเล่มหนึ่ง ที่แสดงรูปสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายปลาหมึก

และกำลังกลืนกอนโลก

 

  

   

Wong คนรับใช้ของ Dr. Strange ได้นำชามาให้เจ้านายเขา

   

Wong:  ผมนำชามาให้ขอรับ ดอกเตอร์

 

Dr. Strange:  ขอบใจมาก Wong

Dr. Strange:  วางไว้ที่โต๊ะเลย

 

Wong:  น้ำชาค่อนข้างร้อนนะขอรับ ท่านต้อง…

Wong:  เหวอออออออออออออออออ!!

 

Wong เห็นตำราที่หมอแปลกได้เปิดอ่านทิ้งไว้ก็อุทานด้วยความต๊กกระจาย!!

น้ำชงน้ำชาหกกระจุยกระจาย

 

Wong:  ผีเปรตซาตานตนไหนบันดาลใจให้ท่านอ่านสิ่งนี้ขอรับ?

Wong:  ดอกเตอร์ครับไม่มีเวทย์ใดของ Blu’Dakorr ที่ไม่นำความวินาศมาสู้ผู้ร่ายนะขอรับ

Wong:  เพียงแค่ยุ่งเกี่ยวกับมันแม้เพียงน้อยนิดก็ทำให้วิญญาณแปดเปื้อนแล้วนะขอรับ

 

Wong:  ตำนานกล่าวไว้ว่ามันต้องใช้วิญญาณของผู้วายชนสี่สิบดวงในการร่ายนะขอรับ!!


  

Dr. Strange:  ใช่แล้ว Wong  ชีวิตผู้วายชนสี่สิบคน

Dr. Strange:  แต่ยังต้องใช้ชีวิตผู้ชอบธรรมอีกหนึ่งคนด้วย

 

Dr. Strange:  โอ้ อีกหนึ่งคนนั้นเราคนหาได้ไม่ยากหรอก

 

Dr. Strange:  ผมไม่เกรงกลัวว่าต่อผลที่จะเกิดขึ้น สหายของผม

Dr. Strange:  ผมกลัวแต่ ผมจะมีเหตุให้ต้องใช้มัน

 

Dr. Strange:  ผมกลัวแต่ผมจะรีบใช้มันโดนไม่ทันคิด….

 

Wong:  ดอกเตอร์ครับ มือของท่าน….

 

Wong เห็นเครื่องมือสารพัดประโยชน์ของหมดแปลกเข้าให้

และดูเหมือนสัญญาณเรียกรวมตัวจะดังซะแล้ว

   

 

   

Dr. Strange:  แต่ที่ผมกลัวยิ่งกว่าสิ่งใดคือ

Dr. Strange:  เวลาที่กำลังเดินผ่านไปเรื่อยๆ

 

Dr. Strange:  ผมได้ทำให้การดูแลสินทรัพย์ของผม

Dr. Strange:  ทำได้….ง่ายขึ้นนะ Wong

Dr. Strange:  คุณไปที่โต๊ะของผม คุณจะเจอเอกสารของผมที่ห้องเรียนชั้นล่าง

 

Dr. Strange:  ผมจะมอบสินทรัพย์ทุกอย่างให้คุณเป็นผู้ดูแลนะ

 

Wong:  อะไรกัน นี่คุณทำให้ผมชักจะกลัวๆ แล้วนะ Stephen

 

Dr. Strange:  สหายผม โปรดจำไว้ว่า

Dr. Strange:  ตั้งแต่นี้ไปผมขอให้คุณทำทุกอย่างในทุกวันของคุณ

Dr. Strange:  ให้ดีที่สุดเสมือนทุกวันสุดท้ายในชีวิตนะ

   

 

 

Wong:  นี่ผมจะได้พบคุณอีกรึเปล่า

   

Dr. Strange:  ผมถือพระคุมภีรย์แห่งความตายไว้ในอ้อมอกนะ Wong

Dr. Strange:  ผมเกรงว่าเราคงไม่พบกันอีก

   

   

  

เกาะเอลลิส (Ellis Island)

นครนิวยอร์ก (New York)

  

ปรากฎการณ์ Incursion (การจู่โจม/การลุกล้ำ) ได้เกิดขึ้น

ปรากฎการณ์นี้ทำให้เหล่าผู้อยู่อาศัยจากทั้ง 2 โลกสามารถเดินทางไปมาหากันได้!!

(ผมขออนุญาตแปลทับศัพท์ไปนะครับ เพื่อความไม่งงของคนสปอยเอง ฮ่าๆๆ)

   

Tony:  โอเค แบบนี้แน่ๆเลย

Tony:  เอาโลกที่แสนอ่อนแอ แสนอนาถา แสนสั้น และใกล้แตกของแกมาให้เรา

 

Tony:  ไม่รุ้ทำไมถึงคิดว่าไปคนที่นั่นเขาคงจะคิดแบบนั้นกับเราแน่ๆ..

 

Reed:  แน่นอนว่า ตอนนี้คนคงพูดเรื่องนี้กันไปทั่วแล้วล่ะ

Reed:  ถ้าสถานการณ์ของพวกเรายังไม่ได้คลายความตึงเครียดลงล่ะก็

 

Reed:  ผู้คนคงพากันเครียดและกังวลกันหมด…..

 

Namor:  คุณพระช่วย…..สรุปคือ ไอ้งั่งอย่างพวกแกนึกวิธีแก้อะไรไม่ออกกันเลยใช่มะ!?

   

   

Reed:  ชั้นกับ T’challa หาทางจูนเครื่อง Ultimate Nullifier ให้ยิงผ่านกำแพงไวบราเรียม (Vibrarium) ได้

Reed:  ผลที่ได้ก็คือพลังของมันจะล้างพื้นที่บริเวณส่วนที่โลกเกิด Incursion จนไม่เหลือ

Reed:  รวมถึงพื้นที่บริเวณรอบข้างอีกหนึ่งร้อยตารางไมล์

 

Black Panther:  มีหลักฐานบางอย่างยืนยันว่ากระบวนการนี้อาจช่วยระงับเหตุการณ์นี้ได้

Black Panther:  แต่ทว่ากระบวนการนี้จะ……ฆ่าผู้ใช้เครื่องด้วย

Black Panther:  ยังไงก็เถอะ ถึงต้นทุนมันจะสูงมากแต่มันก็คุ้มค่าที่จะทำ

 

Black Panther:  เพราะยังไงมันก็ดีกว่าตัวเลือกอื่นที่เรานึกออกตอนนี้..

 

Tony:  เราเองก็ไม่มีเวลาพอน่ะ

Tony:  แล้วชั้นก็รู้สึกว่าตัวเองโคตรฉลาดบัดซบมากๆ เลยวันนี้

   

 

Beast:  อันที่จริง….ชั้นมีอีกความคิดนึงที่น่าสนใจนะ

Beast:  โลกและจักรวาลฝั่งนั้น น่าจะมีพวก Infinity Gems ของตัวเองนะ

Beast:  บางทีเราน่าจะใช้ Gem พวกนั้นและเอามาช่วยยืดชีวิตพวกเราไปได้หน่อยนะ

 

Reed:  นายจะทำแบบนั้นได้ก็ต้องอยู่ภายใต้ข้อสมมติที่ว่า

Reed:  เราจะต้องหาพวกมันให้เจอและต้องได้มันมาครอบครองทันเวลานะ

Reed:  ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่อง Gem พวกนั้นใช้ได้แค่ในตัวจักรวาลของมันเองเท่านั้น

Reed:  ฉะนั้นคนใช้ก็ต้องใช้ที่ฟากนั้น

 

Black Panther:  นั่นหมายความว่า ใครซักคนจะต้องถูกทิ้งให้อยู่ที่นั่น

   

 

Dr. Strange:  ถ้าถึงขั้นนั้นเราก็น่าจะลองแหล่ะนะ

Dr. Strange:  ส่วนในกรณีที่แผนทั้งหมดของพวกเราล้มเหลว

 

Dr. Strange:  ผมยังมีอีกแผนไว้แล้ว แต่ในแผนนั้นจะต้องให้ผมอยู่ในโลกฝั่งนั้น

Dr. Strange:  เพื่อจะเรียกสิ่งที่เลวร้ายออกมา ซึ่งก็ให้ผลอย่างเดียวกัน

 

Tony:  ไอ้สิ่งเลวร้ายที่ว่าคือ?

 

Dr. Strange:  คือสิ่งที่ไม่อาจพูดถึงได้และจะไม่ถูกพูดถึงต่อไป

 

สรุปคือ นอกจากหน้าหม้อแล้ว คนอื่นๆในกลุ่มนี้มีพลังหรืออาวุธที่จะล้างโลกกันครบทุกคนเลยครัฟ!!!

อ้อ Black Bolt นี่เจอท้องผูกทีเดียวก็ร้องจนโลกก็แตกแล้วมั้ง ฮ่าๆๆ

   

   

 

  

Beast:  สรุปก็คือ ไม่ว่าจะเลือกทางไหน

Beast:  หนึ่งในพวกเราก็จะไม่รอดกลับมาสินะ

 

ทุกคนต่างนิ่งเงียบกับข้อเท็จจริงนี้……


 

 

 

จากนั้นไม่นาน หน้าหม้อไอ้ตัวไร้ประโยชน์หมายเลขหนึ่ง ก็หัวเราะกร๊ากกกกกกก ออกมา

 

Namor:  กร๊ากกกกกกกกกกก

  

Namor:  ขอให้พวกเอ็งได้ตายกันจริงๆเหอะว่ะ ไอ้ฟายเอ๊ย

Namor:  รีบๆ ไปฟัดกับความชิบหายเหอะว่ะ!

 

Namor:  เพราะไม่ว่ายังไงพวกเราก็ตายกันอยู่แล้ว!!

   

จากนั้น หน้าหม้อก็นำทีม Illuminati บินขึ้นฟ้าไปยังโลกอีกฟากนึง

   

   

ทั้งหมดลงมาในจุดเดียวกับที่เป็นที่ตั้งของเทพีเสรีภาพ

แต่ทว่าตรงนั้น ในโลกใบนี้ มันกลายเป็น เทพีแมกนีโต้ ไปซะอย่างงั้น!!

   

Beast:  คุณพระ…

 

Tony:  ก็นะ มีโลกตั้งหลายใบ

Tony:  จะให้ทุกใบมันเป็นแบบเราก็กะไรอยู่

   

 

Namor:  เออแฮะ

Namor:  ยอมรับเหอะว่ะ Henry……

Namor:  ในใจแกก็แอบคิดว่าอีแบบนี้เนี่ยมันก็น่าสนอยู่นิดๆใช่มะ?

 

Reed:  เรามีเวลาเหลืออีกหกชั่วโมงนิดๆ เอาเป็นสี่ชั่วโมงดีกว่า

Reed:  ถ้าอยากจะให้เวลา Stephen ทำอะไรที่อยากจะทำอ่ะนะ

 

Black Panther:  ถ้าเรื่องการเคลื่อนย้ายพลล่ะก็

Black Panther:  ทั้ง Reed และ ชั้น พอจะมีไอเดียกับสถานที่ที่เราจะเริ่มงานของเราอยู่บ้าง

 

Tony:  แจ๋วเลย เพราะเอาจริงๆเลยนะ ชั้นไม่….


 

**!เป๊าะ!**

 อยู่ Blackbolt ก็ดีดนิ้วเรียกทั้งสาม!!


 

   

Reed:  Blackbolt นายมีอะไร…..โอ้

Tony:  เอิ่ม แจ๋ว ทำไมจะไม่มีละเนอะ….

   

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ใช่ใครอื่นครับ…..

 

 

เขาก็คือ

ท่านพ่อตา

(ผู้เป็นเหมือนหมอนรองหมัด)

สุดรักของผมนั่นเอง!!

 

 

ขอแก้ข่าวนะครับ มีหลายคนแอบอ้างว่าเป็นเป็นสามีของน้อง Galacta

แต่ความจริงแล้ว พวกนั้นเป็นแค่ กิ๊ก คร้าบบบบ โห่ว

ผมนี่แหละตัวจริง!! ตัวจริง จริงๆ นะตัวเธอว์

ไม่เชื่อเดี่ยวโชว์แหวนแต่ง….เอ่อ ชักเลอะเทอะ!!! พอดีกว่า ฮ่าๆๆๆ

   

   

Reed:  เดี๋ยวชั้นขอไปดูใกล้ๆหน่อย…

Reed:  แต่ดูเหมือนว่าหมอนี่ได้ปรับปรุงเครื่องของตัวเอง

Reed:  ช่วยทำให้โลกระเบิดเร็วขึ้น

 

Reed:  ถ้าเครื่องนั่นเป็นเหมือนเครื่องที่ชั้นเห็น Galactus เคยสร้างเมื่อก่อนละก็นะ

Reed:  หากเครื่องถูกกดให้ทำงาน มันจะถึงจุดมวลวิกฤต (Critical Mass) แล้วระเบิดภายในอีกไม่กี่นาที

 

Reed:  เราต้องไปเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเรายังอยากจะ….

 

Reed:  ….ช่วยคนเหล่านี้….โอ้….

   

อยู่ๆ เลือดฮีโร่ของ Reed ก็ตื่นขึ้นมา

ทั้งๆที่เมื่อกี้พวกเอ็งกำลังพูดถึงเรื่องทำลายโลกกันอยู่แหม่บๆ

   

 

Reed:  เราจะปล่อยให้คนพวกนี้….

Reed:  อย่างน้อยเราน่าจะลองพยายามกันก่อน

 

Black Panther:  นั่นมันแหงอยู่แล้ว

Black Panther:  ทำไมพวกเราจะไม่ช่วยล่ะ?

 

แล้วอยู่ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากข้างหลังของทั้งคู่

 

??????:  ง่ายกว่า

??????:  และดีกว่าสำหรับทุกอย่าง

   

  

   

อย่างไรเสีย ปรากฎการณ์ Incursion นั้น”

“ไม่มีที่ว่างสำหรับเรื่องมโนธรรมผิดชอบชั่วดีอยู่แล้ว….”

 

อย่างน้อยข้าก็ได้ยินมาเช่นนั้น”

  

แต่อย่างไรก็ตาม…”

   

     

  

  

 ??????:  พวกท่านช้าไปเสียแล้ว

??????:  ท่าน Galaktus กำลังหิว!

 

Tony:  เดี๋ยวนะคุณรู้เรื่องปรากฎการณ์ Incursion ได้ยังไง?

Tony:  แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าต้องมาที่นี่…

Tony:  หรือหามันเจอได้ยังไง?



  

  

??????:  จักรวาลนั้นกว้างใหญ่นัก มนุษย์เอ๋ย

??????:  ข้ามีนามว่า Terrax the truly enlightened (ผู้ชี้ทางสว่างที่แท้จริง)

 

Terrax:  มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมากมาย

Terrax:  และข่าวลือก็ถูกแพร่สะพัดจากเหล่าผู้อพยพ

 

Terrax:  ข้ารู้อะไรหลายอย่าง หลายสิ่งมากมาย..

Terrax:  และเห็นได้ชัดว่า รู้มากกว่าพวกเจ้า

   

   

  

  

 

โครมมมมมมมมมมมมมมม!!!

 

 

   

พื้นโลกกำลังสั่นสะเทือน!!

Galaktus ฝาแฝดต่างจักรวาลของ Galactus กำลังดูดกลืนโลก

   

Terrax:  เจ้าน่าจะรีบหนีไปได้แล้ว

Terrax:  สิ่งที่งดงามและทรงพลังกำลังจะเกิดขึ้นที่นี่

   

   

Reed:  ไม่ มันต้องไม่เกิดขึ้น

Reed:  ไม่ใช่ตอนนี้

 

Reed:  พวกเราเหลือเวลาอีกเท่าไร Henry?

 

Beast:  อีกห้าชั่วโมง

   

ว่าแล้ว Reed ก็เอาเครื่อง Ultimate Nullifier เครื่องเมพที่มีพลังทำลายมหาศาล

ขนาด Galactus พ่อตาผมในจักรวาลหลัก เห็นแล้วยังกลัวขาสั่นแหง่กๆๆ

(แต่เอาจริงๆ คนที่โดนเจ้าเครื่องนี้ยิงจนตายนี่มีแทบจะนับคนได้ เพราะไม่ค่อยมีคนเอามาใช้เท่าไร)

 

จากนั้น Namor ก็หันหน้ามาคุยกับ Terrax

 

Namor:  เดาว่า ยังไงแกก็จะหยุดพวกเราใช่มะ?

   

 

Terrax:  พวกเจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยใช่มั๊ย?

Terrax:  พวกเจ้ามันเป็นแค่มนุษย์

 

Terrax:  ข้าบอกได้เลยว่าพวกเจ้ารู้จักข้า

Terrax:  และแน่นอนว่าพวกเจ้ารู้จักนายของข้า

 

Terrax:  แต่นอกเหนือจาก Eye Of Agamotto (ดวงตาแห่ง Agamotto) แล้ว….

Terrax:  ข้าไม่รุ้เลยว่าพวกเจ้าคือใคร

   

   

Terrax:  ท่าน Galaktus คือความจิรังแห่งจักรวาล

Terrax:  ท่านต้องเป็นผู้ปลิดชีพจักรวาลทุกจักวาล

Terrax:  แต่เป็นเพราะโลกใบนี้

Terrax:  ทำให้จักรวาลจะสิ้นชีพเร็วเกินกว่าที่มันควรจะเป็น

 

Terrax:  ฉะนั้นพวกเราจึงเยื้อชีวิตจักรวาลของเรา

Terrax:  ด้วยการปลิดชีพโลกใบนี้ซะ

 

Terrax:  เฉกเช่นเดียวกับจักรวาลของพวกเจ้า

Terrax:  สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับโลกของพวกเจ้าเช่นกัน

 

Terrax:  และนอกเหนือจากนายของข้าแล้ว ยังมีผู้อยากจะปลิดชีพโลกพวกนี้อีกมากนัก

 

Terrax:  ฉะนั้นโปรดกลับบ้านของพวกท่านเถิด

 

Terrax:  ยอมรับในสิ่งที่ดีกว่า

Terrax:  ยอมรับในโชคอันแสนจะดีของพวกเจ้า

Terrax:  และปล่อยให้โลกใบนี้ให้ตายลงเสีย

   

   

Terrax:  หรือไม่พวกเราจะได้เล่นเกมทหารออกศึกด้วยกัน

Terrax:  ขณะที่โลกใบนี้พังทลายลงรอบตัวเราทั้งหมด

 

Terrax:  แสร้งทำเป็นคิดว่าพวกเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรกับเรื่องนี้ได้

Terrax:  ด้วยกำปั้นน้อยๆของพวกเจ้า

 

Terrax:  ว่าไง?

Terrax:  พวกเจ้าคิดจะทำอะไรล่ะ?

   

 

   

 

   

เหล่า Illuminati ยำ………

 

 

บรึ้ม!



………เอ่อ………โดนยำต่างหาก!!!!

  

  

   

เล่มหน้า

 สร้างสมดุลให้แก่โลก!

 

จบแล้วคร้าบบบบบบบบบบ

ตั้งแต่เล่มนี้เป็นต้นไป ผมจะรับช่วงสปอยต่อจากคุณ genesis นะครับ

แต่ผมพยายามจัดโครงสร้างให้คล้ายๆกับที่คุณ genesisได้ทำไว้นะครับ หวังว่าจะชอบกันนะครับ

  

6 thoughts on “New Avengers #04

  1. jame

    เห็นมานานแล้ว ตกลง Galacta มีตัวตนในโลก 616 ไหมครับเพราะนอกจากหัวเล่มของเธอแล้วก็ไม่เจออีกเลยนอกจาก ท่านพ่อตา

  2. ThailandMarvelFigureReview

    มันส์จริงๆ Namorนี่เกรียนไม่เลิก อยากรู้จังว่าถ้าBlackBoltไปตะโกนใส่Galaktus จะสามารถล้มGalaktusได้รึเปล่า

  3. DOL Post author

    @jame เอาแบบสาระเลยนะครับ ผมคิดว่าไม่มีครับ
    Galacta โผล่ครั้งแรกในหัวหนังสือ Marvel Assistant-Sized Spectacular 02 ครับ
    ในเรื่อง เจ๊แกเป็นแค่ เรื่องสั้นที่กลุ่มนักเขียนคนนึงเล่าให้ฟังแค่นั้นเองนะ
    ฉะนั้นหลังจากจบ หนังสือของน้องแกเรื่อง Galacta ไปแล้ว
    น้องแกจึงตกงานแล้วมาอยู่กินกับผมที่บ้านหลังน้อยแต่อบอุ่นแทน คริกๆๆๆๆๆๆ
    (แหน่ะ ไหนว่าสาระ! 😀 )

  4. seventoon

    กาแล็คต้า น่าจะเป็นตัวคอมเมดี้มากกว่า
    ปรากฎตัวแค่ไมีกี่ครั้ง จะว่าไม่มีก็ได้ครับ

    ขอบคุณครับ ที่ปสอย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *