เปิดผนึก The Mavericks คอมมิคสัญชาติไทย

นานแค่ไหนแล้วหนอที่ผมไม่ได้เห็นการ์ตูนไทยที่เขียนในไสตล์คอมมิคอเมริกา ก็ต้องตอบว่านานพอตัวเลยครับ

เพราะส่วนใหญ่จะเจอผลงานที่ได้รับอิทธิพลไปทางแดนปลาดิบสียมากกว่านะ

(อย่าง Thai Super Heroes คลับโปรดของผม นี่ก็ได้รับอิทธิพลจากฮีโร่แดนปลาดิบมากมายหลายงานนะ ซึ่งผมชอบนะ อิอิอิ)

  

ดังนั้น ถ้าไม่นับการ์ตูนเก่าอย่าง อัศวินสายฟ้า (ที่ผมเคยอ่านผ่านๆ ในเน็ต) ผลงานของ อาจารย์ พ.บางพลี

หรือการ์ตูนอย่าง Joe the sea-cret agent  ผลงานขึ้นหิ้งของ คุณสุทธิชาติ ศราภัยวานิช

  

ก็คงจะมีแต่เรื่องสั้นของคุณ Pokkuti ชื่อ Salvation เท่านั้น (เรื่องสั้นที่เขียนให้กับ หนังสือรวมเรื่องสั้น Inkblot )

ที่เขียนในสไตล์คอมมิคอเมริกาอย่างเห็นได้ชัดสุดๆ ชัดโพดๆ ชัดจุงเบย ช๊าดชัด (ก็คนวาดเขาจงใจให้เป็นแบบนั้นนิ)

(ส่วนเรื่อง  Romeo & Juliet: The War ผลงานวาดของคุณ สกาล ศรีสุวรรณ ผมยังไม่มีโอกาสได้อ่านเลยครับ ฉะนั้น ไม่นับนะๆๆ อิอิอิ ) 

    

รูปภาพซ้าย หน้าปกอัศวินสายฟ้า (ภาพจากเว็บบอร์ดกาโม่แมนภาพขวา เนื้อหาส่วนหนึ่งจากเรื่อง Salvation

   

ดังนั้นพอผมได้ข่าวว่า ทาง คุณแดน ดนัย สมุทรโคจร แฟนพันธุ์แท้ซูเปอร์ฮีโร่

ได้เริ่มโครงการหนังสือการ์ตูนแนวฮีโร่อเมริกาสัญชาติไทย (?) ชื่อ The Mavericks มาเวอริคส์

ผมถึงกับอุทานในใจเลยว่า เฮ้ย! จะไหวเรอะพี่!! (อ้าว! ซะงั้น ฮ่า)

  

เมื่อ The Mavericks ออกวางจำหน่าย เมื่อวาน (21 มีนาคม 2556)

ผมจึงลงทุนเดินทางไปร้านขายหนังสือการ์ตูนที่สยามเพื่อไปสอยหนังสือเล่มนี้มาอ่านทันที!!

  

ตัวหนังสือราคา 55 บาท มีความหนา 24 หน้า

หน้าสีล้วน และมีการพิมพ์บนกระดาษ EPO ช่วยถนอมสายตา (เขาว่ามาแบบนั้น)

บางคนอาจจะรู้สึกว่าจำนวนหน้ากับราคาไม่คุ้มกันนะครับ (ตอนผมไปซื้อ ไปแอบได้ยินเขาบ่นเรื่องนี้เข้าน่ะครับ)

แต่สำหรับผม ผมว่าเป็นที่ยอมรับได้ครับ

แหม่ ก็นะ เวลาผมจ่ายเงินซื้อ Comic Online จำนวนหน้ากับราคามันก็ประมาณนี้แหละ

  

  

**หมายเหตุ เนื้อหาต่อไปนี้เปิดเผยเรื่องราวบางส่วนของเรื่องนะครับ**

  

เรามาดูเนื้อหาข้างในกันมั่งนะครับ

เรื่อง The Mavericks นั้น เกิดขึ้นในโลกคู่ขนานกับโลกของเราครับ

เรื่องมาแนวๆ เดียวกับ Watchmen เล็กน้อย คือในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

ประเทศญี่ปุ่นยกพลเข้ามาเหยียบในดินแดนไทย

   

จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ก่อตั้งกลุ่มซูเปอร์ฮีโร่ขึ้นเพื่อขับไล่ทหารญี่ปุ่น (บทบาทคล้ายเสรีไทย)

ทำให้ภายหลังได้เกิดกลุ่มฮีโร่มากมายตามหลังรุ่นแรก จนภายหลังรัฐบาลไทยได้ออกกฎหมาย Anti-Power

เป็นกฎหมายห้ามไม่ให้พลเรือนใช้พลังพิทักษสันติราษฎร์ (ห้ามใช้พลังพิเศษนั่นแหล่ะ)

แต่ในทางกลับกันรัฐบาลเองกลับก่อตั้งกลุ่มฮีโร่ในสังกัดของตนเองขึ้น ชื่อ

  

League of Protectors 

  

ส่งผลให้รัฐบาลมีอำนาจควบคุมบ้านเมืองอย่างเบ็ดเสร็จในที่สุด

  

รูป: โฉมหน้า  League of Protectors เหล่าฮีโร่ผู้ฉ้อฉล

  

นั่นแค่เกริ่นนำ หนึ่งหน้าครับ ฮ๋าๆ

เนื้อเรื่องในหนังสือ The Mavericks ดำเนินต่อจากนี้ครับว่า

ได้มีฮีโร่สามคนได้รวมตัวกันสร้างทีมของตนเองขึ้นมาเพื่อปกป้องประเทศไทยของเขา

ฮีโร่ทั้งสามคนนี้ได้

  

Stalker ผู้ใช้โล่เป็นอาวุธและมีฝีมือในการต่อสู้

Mech  ผู้มีไอคิวสูง เก่งเทคโนโลยี เป็นเหมือนศูนย์กลางที่มอบข้อมูลต่างๆ ให้กับทีม

Madcap ขานี้ไม่บอกก็รู้ครับว่า เล่นลูกบ้า ลูกอึก ใจร้อน

  

บอกตามตรงว่าเห็นฮีโร่ทั้งสามแล้วอดไม่ได้ที่จะนึกถึงฮีโร่ค่ายดังไม่ได้

  

Stalk นี่คล้ายๆ กับ Captain America ผสม The Patriot ยังไงอย่างนัน

Mech นี่ความสามารถก็คล้าย Iron Man เลยนะครับ ถึงชุดจะไม่เหมือนเลยก็ตามที

ส่วน Madcap นี่มันคล้ายกับ Hulk ผสม The Thing จริงๆ ครับ

  

แต่ผมว่า ทีมงานก็สามารถสร้างจุดเด่นให้กับตัวละครทั้งสามได้ดีน่าจดจำพอตัวครับ

เข้าใจแอบแทรกความเป็นไทยเข้ามาอย่างเนียนๆได้ดี อย่าง Madcap ใส่บ๊อกเซอร์มวยไทยด้วย  อั้ยย่ะ

   

ส่วนตัวผมชอบ ชุดของ Mech  กับ นิสัยของ Madcap เป็นพิเศษ ฮ่าๆ

   

รูป: เหล่าฮีโร่อินดี้ทั้งสาม

  

ด้วยเนื้อหาเพียง 24 หน้า ผมต้องยอมรับว่าเรื่องนี้วางโครงได้โอเคในระดับนึงเลยครับ

ในเรื่องนั้น นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงการทำงานเป็นทีม

(ที่ดูจะไม่ค่อยจะเป็นทีมเท่าไร ด้วยนิสัยเสียของตัวละคร)

  

คนแต่งเรื่องยังทิ้งปมต่างๆ เอาไว้ให้เราอยากจะติดตามได้อีก

ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังตัวละครฮีโร่ทั้งสามหน่อ โดยเฉพาะภูมิหลังของ Madcap

กลุ่มฮีโร่ League of Protectors มีใครบ้าง

ความสัมพันธ์ระหว่างโรงพยาบาลเซนต์กับโลกของ The Mavericks

และเรื่องที่ แมลทัส พูดเป็นเรื่องจริงรึเปล่า!? หรือพี่แกเป็นแค่คนบ้า (ไปอ่านในเล่มเองนะจ๊ะ ฮ่าๆ)

  

รวมถึงยังแสดงความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสามออกมาได้อย่างดีเลยทีเดียว

ส่วนภาษาที่ใช้ในเรื่อง ก็ชาวบ้านดีครับ แต่ก็ไม้ได้หยาบคายมากมายเท่าไร

  

ในช่วงท้ายของเรื่องก็ทำออกมาได้น่าสนใจพอสมควรครับ

ทำเอาอยากอ่านเล่มต่อไปแล้วนะเนี่ย อิอิอิ

  

รูป: ฮีโร่ทั้งสาม ตอนถอดชุดกันหมดแล้ว ทายสิว่าใครเป็นใครบ้าง อิอิอิ

  

ในเรื่องของงานภาพผมต้องยอมรับว่ากระดาษของเขาช่วยทำให้ภาพออกมาคมสวยดีครับ

การลงสีก็ลงได้ดีเลยครับ ผมชอบการเล่นสีในบางฉากมากๆ ใช้แม่สีได้เข้ากั๊นเข้ากันมากๆ!!

ลายเส้นงดงามครับ คนวาดมีความกล้าจะเขียน มุมมองต่างๆ ของตัวละคร ทำให้ไม่น่าเบื่อ

การวาดตึกรามบ้านช่องก็สวยงาม เด็ดดวงจริงๆ

  

แต่ ในความคิดส่วนตัวผมนะครับ ผมว่าหน้าตาตัวละครที่เป็นคนน่ะครับ มันดูแข็งๆ จั๊กกะจี้แปลกๆ นิดหน่อย ฮ่าๆ

การออกแบบตัวละครบางตัวผมผมว่ามีทั้งโอเคและไม่ค่อยจะโดนเทาไร อย่าง ฮีโร่ทั้งสามตัว นี่ผมชอบนะ ให้ผ่าน

แต่ตัวละครบางตัวยังดูไม่ทรงพลังหรือดูน่าเกรงขามเท่าที่ควร อย่าง ฮีโร่คนที่สี่ (อ่านเองนะจ๊ะ) หรือ หุ่นของพี่แมลทัสงี้

  

ส่วนฉากต่อสู้นี่เกือบแล้ววววครับ อีกนิดนึงเองอ่าาาา

บางฉากมันยังไม่สุด อาจจะเป็นการตัดช่องให้มันพอดีกับจำนวนหน้าด้วยนะครับ

  

และอันนี้่ก็ความส่วนตัวผมอีกแหล่ะ คือผมว่าน่าจะมีการใช้เส้นเคลื่อนบ้างนิดหน่อยก็ดีนะครับ

อย่าฉากตอนที่ตัวละครโดนฟาดกระเด็นติดกำเแพง ใส่เส้นคลื่นไหวบ้าง มันจะทำให้ภาพดูแรง ดูเจ็บกว่านี้ครับ

หรือฉากฉีกทำลายเครื่องจักรนี่ ลองเขียนออกมาให้โหดดุดันแบบฉาก Hulk ฉีกหุ่นของ Mad Thinker ใน Indestructible hulk ไปเลยยิ่งดีครับ

(ผมชอบความซาดิสต์!)

  

แต่นี่คือเล่มแรกครับ

ลายเส้นยังสามารถพัฒนาไปได้อีกเยอะมากๆๆๆๆๆ ครับ

เอาใจช่วยนะครับ

  

รูป: ฉากต่อสู้บางส่วนจากในเรื่องครับ

  

สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีเล่มนึงครับ

ด้วยจำนวนหน้าที่จำกัดสามารถนำเสนอประเด็นต่างๆออกมาได้ขนาดนี้ถือว่าทำได้ไม่เลวเลย

  

แม้จะไม่ใช่หนังสือที่เลิศเลอเพอร์เฟคต์ไปทุกด้าน (มันมีหนังสือแบบนั้นอยู่ในโลกด้วยเรอะ)

แต่ผมขอชื่นชมคุณแดน ดนัย และทีมงาน (Saeeow, Nidhiprabha) ว่ามีความกล้าที่จะทำในสิ่งนี้ครับ

(เครดิตในเล่มเป็นภาษาอังกฤษ และมีแต่นามสกุล เลยเดาไม่ถูก พิมพ์ภาษาอังกฤษไปตรงๆ ละกัน)

นี่อาจจะเป็นก้าวแรกที่สำคัญของวงการคอมมิคในประเทศไทยก็ได้นะครับ

   

รูป: โปสเตอร์ Stalker ของแถมในเล่มครับ

  

สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้เห็นในเล่มต่อๆไป

  

1. เนื้อเรื่องที่หักเหลี่ยมเฉือนคม มีการหักมุมจนคนอ่านตาตั้งเข้าโรงพยาบาลไปเลย!!

2. ฉากต่อสู้มันส์ๆ สนุกๆ แจ่มๆ เอาแบบอ่านไป เข่าสั่นไปเลยทีเดียว!!

3. ขอฮีโร่ตัวดีหรือตัวร้ายก็ได้ เอาดีไซด์จี๊ดๆ ความสามารถบ้าๆ แรงๆ ซักคน

เอาแบบไม่ต้องกั๊กเลยครับ ปล่อยออกมาให้เต็มที่เลย เพื่อสร้างสีสันฮ่าๆ  

4. ชื่อ ผู้แต่ง ผู้วาด ผู้ลงสี  ขอเป็นชื่อจริงก็ดีนะครับ

เพราะในเล่มนี้นี่ผมรู้แค่นามสกุลของทีมงานน่ะครับ จึงอยากรู้ว่าแต่ละคนชื่ออะไร ทำส่วนไหนบ้าง แหะๆ

  

สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกๆคนที่ทำหนังสือเล่มนี้ออกมานะครับ

เล่มต่อไปผมไม่พลาดแน่นอนครับ

DOL

——————————————————————————————-

ออกมาแล้วครับสำหรับการ์ตูนแนว Comics สัญชาติไทยจากการเขียนเรื่องของคุณ แดน ดนัย สมุทรโคจร สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ซูเปอร์ฮีโร่ และจากลายเส้นของคุณ กัมพล แซ่เอียว

หลังๆ นี้เริ่มมีผลงานของคนไทยที่ออกแนว Comics ให้เห็นเรื่อยๆ ปีก่อนมีงานของคุณ สกาล ศรีสุวรรณ ร่วมงานกับ Stan Lee ในค่าย 1821 Comics ออกนิยายภาพเล่มโตเรื่อง Romeo and Juliet : The Wars ปีนี้ก็เป็น The Mavericks

รูปเล่ม

ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรื่องแพ็คเกจของเรื่องนี้ดูออกแปลกไปซักนิดเป็นการห่อพลาสติกแล้วมี Label ติดอยู่ด้านบน ผมซื้อมาแล้วรุ่นพี่ที่ทำงานไม่นึก่าเป็นการ์ตูนนึกว่าเป็นของเล่น ฮา

ปกเป็นกระดาษแบบมันซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไรครับ เพราะจับแป๊ปเดียวยับแล้ว แล้วมันก็งออย่างรวดเร็ว

เนื้อหา

พูดถึงเนื้อหาในเล่มบ้าง เมื่อเปิดมาหน้าแรกพบว่ามีการใส่รายละเอียดช่วงเวลา และปูมหลังประวัติศาสตร์ซูเปอร์ฮีโร่ ในโลกของ The Mavericks ความรู้สึกแรกเลยคิดว่าเนื้อเรื่องมันต้องเป็นอะไรที่จริงจังเป็นแน่แท้ มีการอ้างถึงสงครามโลกครั้งที่สองที่เป็นผลพวงให้ประเทศไทยมีซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มแรก มีการใส่เรื่องลงทะเบียนฮีโร่ และการจัดตั้งกลุ่มฮีโร่รัฐบาล

จากนั้นถึงเป็นฉากเปิดฮีโร่ของเรื่อง Stalker , Mech , Mad Cap สามฮีโร่สายพันธุ์ไทย มีการสั่งงานเป็นทีม ดูเข้าขากันดี จะมีลักษณะโวยวายใส่กันบ้างตามประสาทำงานเป็นกลุ่ม

ฉากต่อสู้แทรกด้วยเอฟเฟคต์ตูมตาม ได้กลิ่นอายแบบอเมริกันคอมมิค แต่ที่ขัดใจผมคงเป็นเรื่อง สำนวนคำพูดที่ดูแปร่งๆ ครับ ผมเข้าใจว่าคุณแดนน่าจะแต่งเป็นภาษาอังกฤษก่อนแล้วค่อยแปลเป็นไทยอีกครั้ง ดูจาก เครดิตจะเห็นว่ามีตำแหน่งคนแปลอีกทีด้วย

คำพูดในเรื่องยังเป็นการใช้ไทยสลับภาษาอังกฤษ แบบหน้าที่แล้วใช้ไทยมาอีกหน้า กลายเป็นอังกฤษ เช่น

“ไหนดูสิว่าแกจะทนโล่ คาร์ลิเทียม แอลลอย ของข้าได้มั้ย”

พอมาอีกหน้า

“มันจะอ่อนกว่าโล่ carlithium ของนาย”

ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะใช้คำไทยทั้งหมดเราจะได้รู้ด้วยว่าศัพท์บางอันออกเสียงว่าอะไร โดยเฉพาะหากมีศัพท์เฉพาะขึ้นมาครับและอีกเรื่องคือในเรื่องมีการใช้ ฉัน และ ชั้น สลับกัน เดี๋ยวใช้ ฉัน เดี๋ยวใช้ ชั้น

พออ่านฉากเปิดตัวไปผมรู้สึกว่า The Mavericks มีโจทย์สำคัญที่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้หนึ่งอย่างครับ อันนี้พูดกันตรงๆ เลยนะ ใครที่เห็นหน้าปกคงจะคิดเหมือนๆกันนะครับว่ามันคล้ายๆ กับตัวละครจากค่าย Marvel เช่น Captain America , Iron Man , Hulk หรือ The Thing

ก่อนอ่านผมพยายามเอาเรื่องพวกนี้ออกแล้วเปิดใจโดยไม่คิดมากนักครับ แต่ดูเหมือน เนื้อหาจะไม่เลี่ยงความคล้ายกับสามตัวที่ว่าเท่าไรนักแต่เป็นการ “จงใจ” ใส่ความคล้ายเข้ามา อย่างเช่น โล่ของ Stalker มีการพูดถึงแร่ธาตุของโล่แบบเดียวกับ Captain America หรือจะเป็นฉาก User Interface ของ Mech ที่คล้ายกับ Iron Man มาก ผมกลัวว่าการที่คล้ายอย่างตั้งใจแบบนี้จะเป็นสิ่งที่ทำร้าย The Mavericks ซะเอง

อีกอย่างที่รู้สึกคือ อารมณ์ ของตัวละครครับมันโดดไปโดดมาจนรู้สึกเราตามไม่ค่อยทันอย่าง สู้ๆ อยู่อ้าวเต้นล่ะ อ้าวอยู่ดีๆ ร้องไห้ มันไม่มีการไล่ลำดับอารมณ์ขึ้นมา

ด้านภาพ

ผมต้องขอชมเรื่องภาพครับน่าจะเป็นจุดเด่นสำคัญของเล่มแรกนี้ ผมรู้สึกการวางช่องอะไรต่างๆ ดูดีมาก การลงสีถือว่าไม่แพ้ Comics ต่างชาติเลย บางหน้ากล้าใส่ฉากโหดเข้ามาจนผมต้องกลับไปดูที่ปกว่าเอ๋ หนังสือนี่ได้เรทอะไรนะ (ฮา)

สรุป

พออ่านจบโดยรวมผมคิดว่านี่เป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญของการนำเสนอการ์ตูนแบบ Comics ในบ้านเราครับ เป็นการกล้าลองกล้าเสี่ยงของสำนักพิมพ์ Nation แต่อาจจะมีข้อบกพร่องบ้าง แต่ก็ยังอ่านเพลิน ภาพสวย  คิดว่าพอผ่านไปสักระยะก็จะเห็นพัฒนาการขึ้นมาเองตามธรรมชาติของงานประเภทนี้ครับ 🙂

 voeten

 

 

26 thoughts on “เปิดผนึก The Mavericks คอมมิคสัญชาติไทย

  1. genesis

    เนื้อเรื่องผมก็ว่าน่าติดตามอยู่ แต่จะติดปัญหาตรงตัวฮีโร่ไปบ้าง ที่มันดูคล้ายกันเกินไป

    ที่คล้ายก็ตามที่คุณ Voeten บอกนั่นแหละครับ โดยเฉพาะ Mech เห็นรูปแบบจอกับบุคลิกครั้งแรก มันชวนให้คิดถึง Iron Man สุดๆ
    ที่เป็นตัวยิงมุก ลักษณะจอก็มาแบบ Iron Man ชัดๆ ลักษณะการยิงเลเซอร์ด้วย (ปรับเปลี่ยนเป็นยิงจากบนแขนน่าจะดีกว่า) ยิงออกทางมือมันจะโดนเหมือนเกินไป

    แต่โดยรวมผมให้ผ่านเลยครับ เนื้อเรื่องมีเงี่อนงำซ่อนไว้อีกมากมาย และฉากแอ๊คชั่นต่างๆก็โอเคเลย แต่อาจจะไม่สุดไปนิด แต่ยังไงก็ยังน่าติดตามครับ ไม่พลาดเล่มหน้าแน่ๆ

  2. doc holliday

    ผมว่า Mech ไม่ได้เหมือน Iron Man หรอก (ยกเว้น UI มุมมองคนในชุดเกราะ) จริงๆ ชุดมันไปคล้าย Mach-V ที่อยู่ทีม Thunderbolts มากกว่า 😛

  3. genesis

    ครับผมก็ติดใจอยู่ประมาณนั้น ที่เหลือโอเคเลย

    ตอนนี้ผมเลยมาสนใจ Romeo & Juliet เลย ว่าจะไปสอยมาอ่านดู เว็บนอกบอกกันว่ามันอลังการ สร้างหนังได้เลยทีเดียว

  4. Danai Smuthkochorn

    Thank you both DOL and Voeten for reading and reviewing my comic. I will take your comments and adjust it on the upcoming issues of Mavericks. thanks again and hope u guys keep on reading and reviewing the Mavericks

  5. Aone

    ดีใจครับที่มีคอมมิกไทยให้ได้อ่าน เป็นกำลังใจให้นะครับถึงบางส่วนจะยังดูไม่เข้ารูปเข้ารอยอยู่บ้างแต่ก็เปนกำลังใจให้คอมมิคไทยดีๆต่อไปครับ

    สู้ครับ

  6. 13Hatesong

    เรื่องอื่นผมไม่ซีเรียสเท่าเรื่อง ตัวละครอ่ะครับ มันคล้ายฮีโณ่ตัวดังๆเกินไป ทำให้ไม่ค่อยมีเสน่ห์

  7. Natzume

    อ่านแล้วเหมือน พวกการ์ตูนจีนยังไงก็ไม่รู้ครับ (การ์ตูนจีน จำพวก war lord,solar lord)

  8. Kakman

    เป็นกำลังใจให้ครับ อยากให้มีค่ายคอมมิค แบบ DC Mavel มานานแล้วที่เอาตัวละครมาจอยกันได้
    แต่สำหรับเรื่องนี้ เหมือนอย่างที่ทุกท่านว่า ทำไมตัวละครต้อง(เหมือนจงใจ) ให้คล้ายฮีโร่ Mavel ด้วย (ชื่อหัวหนังสือยังคล้ายๆเลย)
    ผมว่ามันทำให้เป็นอุปสรรคในการผลักดันให้โด่งดังนะครับ เพราะคนจะแอนตี้ว่าลอกเค้ามาแล้วก็จะ เอวัง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับการ์ตูนไทยหลายๆเรื่อง ที่ออกแบบตัวละครและเนื้อเรื่องเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นบางเรื่อง ซึ่งการ์ตูนไทยที่อยู่ได้ตอนนี้ผมคิดว่าเป็นแนวของตัวเองและเนื้อเรื่องสนุก (อย่างผมชอบ executional นะ)
    ฝากกำลังใจไปให้ทีมงานครับ เพื่อวงการคอมมิคเมืองไทยครับ

  9. D is me.

    ผมซื้อมาอ่านแล้วครับ ผมว่าก็สนุกใช้ได้เลยทีเดียว ได้อารมณ์แบบอเมริกันพอสมควร ตัวละครเห็นได้ชัดว่าคล้ายมากกับตัวละครของค่าย Marvel ตัวดังๆทั้งหลาย คิดว่าพอผ่านไปสักระยะก็อาจจะมีตัวละครบางตัวที่ได้ไอเดียใหม่ๆที่ไม่คล้ายมากเช่นนี้ออกมา เพื่อคนอ่านจะได้ไม่รู้สึกจำเจกับคาแรกเตอร์ตัวละครที่คล้ายคลึงกับmarvel
    ทั้งนี้ ขอให้กำลังใจกับทีมงานทุกคนด้วยครับ เพราะหลังจากที่ซื้อมาอ่านเองแล้วก็รู้สึกชอบเนื้อเรื่องในระดับนึงอยู่เหมือนกัน และจะขอติดตามในเล่มต่อๆไปแน่นอนครับ
    ส่วนเรื่องการวาดภาพ ก็คิดว่าน่าจะพัฒนาได้มากขึ้นเรื่อยๆในอนาคตตามประสบการณ์ที่มากขึ้นของผุู้วาดภาพนะครับ

  10. ThailandMarvelFigureReview

    เพิ่งอ่านเมื่อตะกี้เลยครับ สนุดี เสียดายตรงมีหน้าน้อยไปหน่อย ตัวMadcabผมว่าเหมือนTheThingเลยแหละ ไม่ค่อยเหมือนHulk ส่วนstalkerนี่ก็คล้ายPatriot
    อีกตัวก็คล้ายIronManแต่ชุดจะดูหมือนกันดั้มย่อส่วน และตัวที่มาตอนท้ายนี่มันคล้ายกับGladiatorแต่ไม่มีผม

  11. NetNN

    คอนเซปต์น่าสนใจดีครับ

    สงสัยต้องไปหามาอ่านบ้างเสียแล้ว

  12. ยิปซี ด็อก

    ผมเลิกอ่านการ์ตูนคอมมิคแบบจริงๆจังๆมานานนับปีได้..แม้ว่าบางเรื่องจะเป็นเรื่องต่อภาคออกมาจากเรื่องเดิมที่เคยอ่าน..ผมก็ไม่คิดจะอ่านอีก..จนวันนี้ได้รับรู้ว่ามีการ์ตูนคอมมิคแนวอเมริกาสัญชาติไทยเกิดขึ้น..มันทำให้ผมรู้สึกคึกคักกระตือรือร้นที่จะหามาอ่านซะให้ได้..

  13. St.Valentinus

    ยังไม่ได้อ่าน แต่จะไปหามา เป็นกำลังใจให้ครับ

    ปล. หน้าตาฮีโร่มันคล้ายไปจริงๆแหละ ระวังตรงนี้ด้วยนะครับ

  14. phongpisit

    ถ้าคนที่ชอบเล่นเกมส์ในเว็บจะสังเกตุเห็นว่าตัวละครจะคล้ายๆแอปในเว็บmarvelที่ให้เราออกแบบฮีโร่เองเลยแต่โดยรวมก้อน่าพอใจดีครับ

  15. privatepassion

    เคยรู้สึกมั้ยว่าว่าเรื่องตัวละครไปเหมือน, ไม่เหมือนคนอื่น ท่าทางไปเหมือน,ไม่เหมือนคนอื่น เราเอาอะไรมาวัดอ่ะครับ อย่างเช่น

    Hawkeye กับ Green Arrow
    ท่าฮาโดเคนของริว กับ พลังคลื่นเต่าของโกคู
    Batman กับ Black Panther

  16. alcashel

    เนื้อเรื่องน่าสนใจครับ แต่ก็น่าสนใจในระดับการ์ตูนฮีโร่ทั่วไป แต่ก็เข้าใจว่าทางทีมงานคงต้องการให้เป็นคอมมิคฮีโร่แท้ ๆ ที่ไม่กลายพันธุ์แบบยุคใหม่ ๆ มากกว่า แต่ความเห็นผมตัวฮีโร่ต้องมีการออกแบบใหม่น่ะครับ โดยเฉพาะ Stalker กับ Madcap นี่บอกตรง ๆ ว่าออกแบบไม่โดนน่ะครับ Mech ยังพอว่า แต่ไม่เป็นไรครับกว่าฮีโร่ตัวหนึ่งจะครองใจคนได้ต้องผ่านการปรับปรุงมากมาย ฮีโณ่เท่ ๆ แบบ แบทแมนก็แก้กันมาหลายยุคหลายสมัยกว่าจะเป็นอย่างทุกวันนี้ได้

    เรื่องอื่นก็อย่างที่เจ้าของบทความว่าไว้ หน้าคาแรกเตอร์ตอนแบบคนธรรมดาก็ทำไม่ค่อยดี คิดว่าควรใส่ใจกับตรงนี้หน่อยนะครับ

    โดยรวมแล้วการ์ตูนเรื่องนี้มีความเป็นไปได้มากครับ ก็ขอให้กำลังใจว่าคงไม่ถอดใจไปซะก่อน อย่างน้อยก็ขอให้ขายได้จนจบเนื้อเรื่องของทีมนี้ จริง ๆ แล้วน่าจะเขียนเป็นขาวดำซะก่อน แล้วทำแบบเล่มสีเป็นแบบ Limited แต่เมื่อออกมาแล้วก็ขอให้ทำให้ได้ดีที่สุดนะครับ ผมซื้อทุกเล่มแน่นอนครับ

  17. maikleangelo

    ซื้อที่ร้านไหนครับ จะไปสอยมั่ง

  18. กัมพล

    ก่อนอื่นเลย ผมขอขอบคุณทุกความเห็นทั้งชม และติ ครับ
    ผมเพิ่งจะได้กลับมาดูต้นฉบับเล่มแรกเหมือนกัน และเห็นได้ว่า จุดที่ทุกท่านได้วิจารณ์และชี้แนะมา
    ถูกต้องทุกประการครับ 5 5 5 หน้าตัวละครหน้าตายังวาดไม่ดีจริงๆด้วย
    เพราะด้วยตอนแรกๆนั้นยังไม่ถนัดวาดภาพแนวแบบนี้มาก่อน เลยรู้สึกขาดๆเกินๆไปเยอะ
    ด้วยเนื้อการ์ตูนเล่มนี้ ได้วาดมาตั้งแต่ปี 2010 และพักโปรเจคไปยาวเลยเพราะมัวแต่หา สนพอยู่ ลายเส้นเลยแกว่งมากๆ
    แต่ตอนนี้ วาดมาถึงเล่ม4แล้ว และผมว่า น่าจะดีขึ้นแล้วครับ

    ส่วนตัวละครต่างๆนั้น ทุกตัวได้มีการออกแบบ เพื่อซัพพอร์ทกับเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตครับ
    แน่นอนว่า มันจะมีบอกชี้ชัดแน่นอนว่า ทำไมถึงต้องโล่ห์…. ทำไมแมดแคปเป็นหิน
    ทุกอย่างมีที่มาที่ไปแน่นอนครับผม

    แล้วก็รู้สึกขอบคุณมากๆครับ จากใจของนักวาดรูปคนนึงที่ได้มีโอกาส
    ความฝันของคนที่ชอบวาดรูปคือ การได้ผลิตการ์ตูนแล้วมีคนซื้ออ่าน
    อยากให้ทุกท่าน ติดตามการพัฒนาของการ์ตูนเรื่องนี้ไปเรื่อยๆนะครับ

    เพราะผมมั่นใจว่า เล่มต่อๆ ต่อๆ ต่อๆไป ลายเส้นและเนื้อเรื่องจะเข้มข้น และดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอนครับ

    ปล. ตอนนี้วาดไปถึงเล่ม 4 แล้ว
    แต่เมื่อขึ้นเล่ม 5 ผมจะนำความเห็นของทุกคนมาใช้ ทุ่มกำลังและฝีมือให้ไม่เสียแรงที่ให้กำลังใจนะครับ
    ขอบคุณครับผม

  19. cmhoanwda

    โอ้ววววววววววว น่าสนๆๆๆๆๆ (y)

    สู้ต่อไปครับ

  20. Ban1134

    ว่าแต่ หนังสือ inkblot เป็นของสำนักพิมพ์อะไรครับ

  21. seventoon

    ทุกท่าน ซื้อ ผมก็ซื้อน่ะครับ เพิ่งสอบเสร็จพอดีเลย

  22. JackAss

    เนื้อเรื่องน่าสนเเต่ตัวละครมันก๊อบMarvelมามากไปใส่ความเป็นตัวเองน้อยไปเลยทำให้ความน่าสจใจมันหมดไปในตรงนี้= =

  23. ชายผู้หลงยุค

    โดยรวมผมว่าก็ดีหมดนะ แต่การคิดที่จะสร้างการ์ตูนไทยเชื้อสายอเมริกัน ผมว่า มันต้องคิดนอกกรอบมากกว่านี้ มีความคิดเป็นของตัวเอง ดูตัวอย่าง ชื่อหนังสือก็เกือบจะเลียนค่ายดังบางค่ายซะแระ มาดูส่วนของตัวละคร ผมว่า แค่นี้ก็เหมือนจะก้อปเค้ามาอีกแระ ผมว่า การ์ตูนฮีโร่
    ไทยยังคงต้องไปให้ไกลยิ่งกว่านี้อีก ผมขอดันอีกแรง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *