Rise of The Third Army : Red Lantern 16

DC Comic: Rise of The Third Army : Red Lantern 16 : มิตรและศัตรู

เรื่อง : Peter Milligan

ภาพ : Miguel Sepulveda

วางจำหน่าย: 30 มกราคม 2013

สำนักพิมพ์ : DC Comics

Atrocitus ได้ปลุกกองทัพหุ่นสังหาร Manhunter ขึ้นมาเพื่อใช้ต่อต้านพวก Third Army แต่ก่อนที่เขาจะส่งพวกมันเข้าสู่สมรภูมิ เขาจะต้องหาทางควบคุมพวกมันให้ได้เสียก่อน

อีกด้านหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่าง Rankorr และ Bleez กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก!


.
.
.
เปิดฉากมาบนดาวเคราะห์ Ryutt

“ข้าคืออโตรซิตัส ผู้นำแห่งเรดแลนเทิร์น”
“ข้ามายังดาวเคราะห์แห่งความตายอันเป็นที่กลบฝังเผ่าพันธ์ที่ถูกสังหารของข้าเพื่อปลุกพวกแมนฮันเตอร์ที่ข้าฝังพวกมันไว้ที่นี่”
“ถึงแม้พวกมันพยายามจะฆ่าข้า พวกมันก็เป็นหนทางเดียวที่ข้ามีอยู่”
“เพราะตอนนี้มีภัยร้ายใหม่กำลังคุกคามจักรวาล”
“สิ่งประดิษฐ์จากความบ้าคลั่งของพวกการ์เดี้ยนชิ้นล่าสุด…”กองทัพที่สาม”…ที่มีความสามารถในการแปรสภาพเหยื่อของพวกมันได้”
“เมื่อนานมาแล้วข้าพยายามจะปกป้องครอบครัวของข้าจากพวกแมนฮันเตอร์”
“ข้าทำไม่สำเร็จ”

“ครั้งนี้ข้าจะต้องไม่ล้มเหลวอีก”

เมื่อ Atrocitus สังเกตุพวก Manhunter ที่อยู่รอบตัว เขาก็เห็นว่ามี Manhunter ตัวหนึ่งที่ทำตัวแตกต่างจากตัวอื่นๆ…มันกำลังวิเคราะห์สถานการณ์และออกคำสั่ง Manhunter ตัวอื่นๆให้โจมตีเขา!

Atrocitus : อัลฟ่า…แมนฮันเตอร์…

Atrocitus : ถ้าข้าจัดการมันได้…อึก…พวกที่เหลือทั้งหมด…ก็จะขาดผู้นำ…

ว่าแล้ว Atrocitus ก็กระโจนเข้าโจมตีและฉีก Alpha Manhunter จนแหลกเป็นเสี่ยงๆ!!

Atrocitus : แมนฮันเตอร์ทั้งหลาย…ตอนนี้พวกเจ้ากำลังสับสน ขาดผู้นำ

Atrocitus : มันเป็นความจริงที่ว่าในใจข้านั่นมีความต้องการที่จะฉีกพวกเจ้าเป็นชิ้นๆ…และเผาผลาญพวกฆาตกรอย่างเจ้าไม่ให้เหลือซาก…

Atrocitus : แต่เราจะต้องเรียนรู้ที่จะร่วมมือกัน

ตัดมาที่โลก

Rankorr (Jack Moore) กำลังจะฆ่า Baxter คนร้ายที่เป็นต้นเหตุให้ปู่ของเขาตาย แต่ตอนนั้นเอง Bleeze กลับมาขัดขวางเขาไว้?!

Bleeze : ช้าก่อนแรนคอร์

Rankorr : มันคือคนที่ฆ่าปู่ของข้านะบลีซ! มันคือต้นกำเนิดของความโกรธแค้นของข้า

Rankorr : จนกว่าข้าจะฆ่ามันได้ ข้าก็จะไม่ใช่เรดแลนเทิร์นอย่างเต็มตัว…ท่านอโตรซิตัสบอกไว้ว่าอย่างนั้นไม่ใช่รึ?

Bleeze : ถูกแล้ว แต่มันมีวิธีการแก้แค้นที่ละมุนละม่อมกว่าการฆ่ามันอย่างรวดเร็ว

Baxter : นุ่มนวล? ธ…เธอหมายความว่ายังไงที่ว่านุ่มนวลน่ะ?

ตอนนั้นเอง Bleeze ก็แทงนิ้วเข้าไปที่ท้องของ Baxter!

Bleeze : จงดูแผลเล็กๆที่สะอาดปราศจากเชื้อนี้ให้ดีๆ

Bleeze : แล้วจากนั้นก็ใส่เลือดเพลิงของเราเข้าไปในช่องท้องของเจ้าคนชั่วนี่

Bleeze : เลือดเพลิงนั้นมันไม่มากพอที่จะเปลี่ยนมันเป็นเรดแลนเทิร์นหรือฆ่ามัน…แต่จะทำให้มันทุกข์ทรมาณไปอีกนานนับปีจากความร้อนที่แผดเผาอยู่ภายใน

ตอนนั้นเอง Baxter ก็เริ่มออกอาการทรมาณแสนสาหัส ราวกับจะยืนยันคำพูดของ Bleez

Bleeze : สนุกกับความทุกข์ทรมาณของคนที่ทำลายชีวิตของเจ้าซะสิแรนคอร์ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะมีได้แล้วล่ะนะ

Rankorr : นี่มันไม่เกี่ยวกับความสนุกของข้า

Rankorr : ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเกือบจะไปเข้าร่วมกับพวกสตาร์แซฟไฟร์มาแล้ว แล้วนี่เจ้ากำลังจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้ายังคงเลวร้ายเหมือนเดิมอยู่หรือไง?

Rankorr : ข้าขอจบมันตรงนี้ล่ะ

ว่าแล้ว Rankorr ก็สร้างมีดขึ้นมาแล้วขว้างเข้าเสียบที่หัวใจของ Baxter!!

แต่ตอนนั้นเองมีดที่เขาพุ่งไปเสียบหัวใจของ Baxter กลับแปรสภาพเป็นรูปร่างของปู่ของเขาที่ตายไปแล้ว ซึ่งมันได้กล่าวโทษเขาที่ใจอ่อนจนไม่ยอมปล่อยให้เจ้าคนชั่วนี่ทุกข์ทรมาณต่อไปนานๆ

ตัดมาที่ Ryutt

Atrocitus กำลังใช้เวทย์โลหิตประกอบพิธีกรรม

Atrocitus : ไรอัทนั้นไม่ได้ไร้ซึ่งชีวิตเสียทีเดียว แม้มันจะดูเป็นเช่นนั้นก็ตาม

Atrocitus : ยังมีสัตว์ดุร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นดินของมันอีกมาก

Atrocitus : ข้าจะใช้เลือดของพวกมันในการร่ายเวทย์โลหิต เลือดของพวกมันจะเป็น…การสาบานตนของเรา

Atrocitus : การสื่อสารของเรา

Atrocitus : การเชื่อมโยงของเรา

เมื่อการเชื่อมโยงด้วยเวทย์โลหิตพร้อมแล้ว Atrocitus ก็สั่งการพวก Manhunter

Atrocitus : ทีนี้ข้าขอสั่งให้พวกเจ้าจงเกินทางไปยังโออาร์ บ้านของเจ้าพวกการ์เดี้ยนที่น่าชิงชัง

Atrocitus : ภารกิจของพวกเจ้าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของข้า แผนที่ผ่านการคิดมาอย่างเยือกเย็น, มีเหตุผล และรอบคอบ

ตอนนั้นเอง Manhunter ตัวหนึ่งก็พูดขึ้น

Manhunter : เยือกเย็น? มีเหตุผล?

Manhunter : นายท่าน ท่านทราบใช่ไหมว่าสิ่งที่ว่ามานั้นมันขัดต่อสิ่งที่ท่านเชื่อมาตลอด?

Atrocitus : เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือไง? ว่าสิ่งที่ข้าทำอยู่น่ะ…มันเหมือนเป็นการตอกหน้าทุกสิ่งที่ข้าทำมาจนถึงทุกวันนี้

Atrocitus : มันขัดกับหลักการของความโกรธแค้น

ตอนนั้นเองแหวนพลังของเขาก็แจ้งเตือนขึ้น

[จากการใช้เวทย์โลหิตทำให้พลังงานลดลง ขอแนะนำให้ชาร์จพลัง]

Atrocitus : ขอบใจ…ที่เตือนนะแหวน ข…ข้าหวังว่าข้าจะมีพลังพอที่จะทำภารกิจนี้ให้ลุล่วง แต่ทำไมแบตเตอรี่ศูนย์กลางถึงยังคงอ่อนพลังอยู่? นี่แร็ตเช็ตมัวทำอะไรอยู่ที่ดาวหลักของเรากันแน่?

ตัดมาที่ Ysmault ดาวหลักของ Red Lantern Corps

Red Lantern Ratchet ผู้ที่รับหน้าที่ดูแล Central Power Battery ได้ทำการวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ Central Power Battery ของพวกเขาถึงยังอ่อนพลังลงเรื่อยๆทั้งที่ก็มีการเติมเลือดของคนบาปเข้าไปอยู่ตลอดเวลา?

ซึ่งข้อสรุปที่ Ratchet คิดขึ้นมาได้ก็คือสาเหตุมันจะต้องอยู่ที่ใต้พื้นดินของ Ysmault นั่นเอง มันต้องมีอะไรบางอย่างที่สูบพลังจาก Central Power Battery อยู่แน่ ดังนั้นเขาจึงทำการขุดลึกลงไปเรื่อยๆ…จนกระทั่งไปพบกับโพรงใต้ดินจนเขาตกลงไป!!

และในที่สุดเขาก็ได้พบกับต้นตอของปัญหาจนได้

Roixaeume : อ้า สวัสดีเรดแลนเทิร์นแร็ตเช็ต ข้าคือโรเซียม

Roixaeume : พวกเราคือเหล่าอินเวอร์ชั่น เจ้าอาจเคยได้ยินเรื่องของพวกเรา เราสู้กับพวกการ์เดี้ยนร่วมกับอโตรซิตัสเมื่อนานแสนนานมาแล้ว เราเป็นทั้งเพื่อนและสหายร่วมรบของเขา

Ratchet : ล…แล้วจากนั้นก็กลายมาเป็นศัตรูของเขา จากการที่เขาทุบสมองเจ้าจนแหลกในทะเลเลือดนั่น

Roixaeume : ถูกแล้ว เขาหักหลังความรักที่ข้ามีให้เขา เขาฆ่าข้า

Roixaeume : แต่ก็เหมือนกับที่เพื่อนสามารถกลายเป็นศัตรูได้ และศัตรูสามารถกลายเป็นเพื่อนได้…สิ่งที่ตายไปแล้ว…ก็สามารถฟื้นกลับคืนมามีชีวิตได้เช่นกัน

ตัดมาที่โลก

Bleez ได้ช่วยเหลือ Rankorr จากภาพเงาของปู่ของเขา

Rankorr : ทำไมเขาถึงทำร้ายข้า? ไม่ว่าเขาจะเป็น “สิ่งก่อนสร้าง” หรือไม่ก็ตาม ทำไมเขาถึงต้องการจะทำร้ายข้า?

Bleez : ฟังข้าให้ดีๆนะ นั่นมันไม่ใช่ปู่ของเจ้า

Rankorr : ต…แต่ว่า…

Bleez : มันเป็นแค่ความรู้สึกผิดในใจของเจ้าที่ก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นเท่านั้น

Rankorr : ข…ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ข้า…ข้าทำสิ่งที่ถูกต้อง ข้าทำให้เจ้าฆาตกรนั่นพ้นทุกข์พ้นร้อนไปเท่านั้น

Bleez : หรือเจ้าควรจะเข้มแข็งพอที่จะปล่อยให้เจ้าคนชั่วนั่นทุกข์ทรมาณต่อไปหรือเปล่าใช่ไหมล่ะ?

Bleez : แรนคอร์ผู้น่าสงสาร ยังคงมีความเป็นมนุษย์มากเกินกว่าจะเป็นเรดแลนเทิร์น แต่ก็เป็นเรดแลนเทิร์นมากเกินกว่าจะกลับไปเป็นมนุษย์ได้แล้ว

Bleez : เจ้าพูดถูกแล้วล่ะนะ สตาร์แซฟไฟร์ฟาธาลิตี้ได้ช่วยเปิดตาของข้าจริงๆ ลึกๆแล้วบางส่วนของข้าก็โหยหาชีวิตที่ต่างไปจากนี้

Bleez : แต่สัตว์ร้ายอย่างพวกเรานั้นไม่อาจมีชีวิตเช่นนั้นได้ สิ่งที่เราทำได้มีเพียงอาบร่างของเราด้วยเลือดและการแก้แค้น…และหวังว่าความเจ็บปวดมันจะหายไป

Bleez : เอาละทีนี้…ข้าดีต่อเจ้ามากใช่ไหมล่ะ?

Rankorr : ด…ดีหรือ? ก็คงใช่แต่ว่า…

Bleez : ดีแล้ว…

Bleez : ทีนี้เจ้าก็ต้องดีกับข้าบ้างล่ะ…

ทันใดนั้น Bleez ก็ใช้เล็บกรีดแผลเล็กๆขึ้นบนคอของ Rankorr?!

Rankorr : อุ๊บ!

Bleez : เลือดไงล่ะ แค่ไม่กี่หยดเท่านั้นแหละ แค่ให้เพียงพอจะมอบพลังที่เจ้ามีอยู่ให้กับข้า

Rankorr : เจ้าหมายถึงพลังในการใช้ “สิ่งก่อสร้าง” ของข้างั้นรึ?

Bleez : มันเป็นของขวัญที่ดีสำหรับสุภาพสตรีนี่นะ

Bleez : แล้วข้าก็จะตอบแทนเจ้าอย่างงาม ข้าสามารถนำเจ้าไปยังที่ซึ่งเกินกว่าจินตนาการของเจ้าจะนึกภาพออกด้วยซ้ำ ดูข้าสิแรนคอร์…เจ้าไม่ชอบสิ่งที่เจ้าเห็นอยู่หรอกหรือ?

Rankorr : ข้า…ข้า…

ตอนนั้นเอง Bleez ก็คว้าคอของ Rankorr เอาไว้!

Bleez : ข้าจะต้องได้ทั้งหมดของเจ้า

Rankorr : ไม่!

Rankorr : ถอยไปซะ!

ว่าแล้ว Rankorr ก็ใช้พลังฟาดใส่ Bleez จนผงะถอยไป

Rankorr : ข้าไว้ใจให้เจ้าครอบครอง…พลังที่จะใช้ “สิ่งก่อสร้าง” ได้หรอก

Bleez : เจ้าไม่รู้หรอก…ว่ามีคนที่ทั้งร่ำรวยและหล่อเหลามากมายขนาดไหนมาอ้อนวอนขอความรักจากข้าน่ะ? เราสามารถเป็นเพื่อนกันได้ หรือบางทีอาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ

Bleez : แต่ในตอนนี้…เจ้าได้สร้างศัตรูที่น่ากลัวขึ้นมาแล้ว

ตัดมาที่ Maltus ดาวเคราะห์ที่เคยเป็นบ้านเกิดของพวก Guardians

Atrocitus และ Manhunter จำนวนหนึ่งกำลังเดินลงไปตามทางใต้ดิน

Manhunter : นายท่าน ข้ารู้สึกถึงบางอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อท่านอยู่ข้างหน้านั่น

Atrocitus : อโตรซิตัสเคยห่วงเรื่องอันตรายเมื่อไหร่กัน? ไปต่อซะแมนฮันเตอร์ของข้าเอ๋ย

Atrocitus : พวกการ์เดี้ยนฝังสิ่งที่เรากำลังค้นหาลึกลงไปใต้ดาวเคราะห์มาลตัสนี้ ที่ซึ่งพวกมันคิดว่าพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นจะไม่อาจทำร้ายพวกมันได้ พวกมันหวาดกลัวสิ่งนั้น

Atrocitus : และถ้าเรื่องเล่าโบราณที่ข้ารู้มามันถูกต้องล่ะก็ พวกมันก็คิดถูกแล้วที่จะกลัว

แล้วพวกเขาก็มาถึงสิ่งที่เป็นเหมือนประตูที่มีแสงส่องออกมาจากภายใน!!

Atrocitus : น่าทึ่งจริงๆ ขนาดผ่านไปหลายพันล้านปี…มันก็ยังคงส่องแสงอยู่เลย

Manhunter : พวกการ์เดี้ยนมีความสามารถในการสร้างสรรค์สูงมากจริงๆ

ทันใดนั้น Atrocitus ก็ฟาดหลังหมัดใส่ Manhunter ตัวนั้นจนล้มลงกับพื้น?!

Atrocitus : และพวกมันยังทำลายได้เก่งอีกด้วย ทีหลังก็ระวังปากของเจ้าเอาไว้ซะด้วยนะเจ้าหุ่นยนต์

ตอนนั้นเองก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับกำแพงนั้น!!

Manhunter : ท่านอโตรซิตัส!

มีลูกแสงสว่างรูปหน้าคนจำนวนมากลอยออกมาจากประตู?!

Manhunter : พวกมันมีชีวิต!

Atrocitus : ไม่หรอก พวกมันคือภาพใบหน้าของคนตาย ตั้งแต่ก่อนที่พวกการ์เดี้ยนจะละทิ้งมาลตัสนี่ไปยังโออาร์ ที่นี่คือดาวเคราะห์ของคนตาย

แต่ทันใดนั้นภาพเงาใบหน้าอันหนึ่งก็หันมาพูดกับ Atrocitus ซึ่งเสียงของมันนั้นคุ้นหูอย่างมาก?!

Krona : อโตรซิตัส? เจ้าจำข้าไม่ได้หรือ…อโตรซิตัส?

Krona : นี่ข้าเอง ศัตรูแต่ครั้งโบราณของเจ้า ข้าผู้ที่โปรแกรมพวกแมนฮันเตอร์ให้ฆ่าล้างเขตอวกาศของเจ้า ข้ารอมานานแสนนานแล้วเพื่อจะได้พูดคุยกับเจ้า ศัตรูเก่าเอ๋ย

Atrocitus : โครน่างั้นเรอะ?

“เช่นเดียวกับไรอัท ดูเหมือนว่ามาลตัสก็ยังไม่ตายสนิทดีนัก…”

โปรดติดตามภารกิจของพวก Manhunter และตอนจบของ Rise of The Third Army ได้ใน Green Lantern Corps Annual #1
และจากนั้นก็จะเข้าสู่ Event ใหม่ “Wrath of The First Lanter”

6 thoughts on “Rise of The Third Army : Red Lantern 16

  1. genesis

    เป็นคอร์ปที่ปัญหาเยอะไม่เปลี่ยนจริงๆ จบไป 1 ก็มาเพิ่มเรื่อยๆ

    รอดูว่าโครน่าจะมาบอกอะไรกับ Atrocitus

  2. Tatoo

    Bleez เจ๊เเกโคตรซาดิสต์
    เเอบฮา เหมือนโดน Rankorr ปฏิเสธรักเลย 555

  3. seventoon

    สุดยอดมากเลยยยย ครับบบบบบบ

    สนุกแน่ สงครามครั้งนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *